Share

บทนำ 2 ศึกใต้แสงจันทรา

last update Last Updated: 2025-05-11 20:36:46

เยว์ซินได้จัดการปีศาจแมงป่องจนสิ้นซากเป็นที่เรียบร้อย ค่ำคืนนี้ทั้งสองยังคงพักอยู่ที่นี่ ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงรายงานจากซือเหยาดังขึ้นหลังจากไปสำรวจรอบๆ กระท่อม

“ธิดาเทพเพคะ ข้างหลังกระท่อมมีโครงกระดูกมนุษย์มากมายเต็มไปหมด คาดว่าผู้คนคงถูกหลอกล่อให้มายังหุบเขานี้เพื่อดูดกลืนพลังวิญญาณบริสุทธิ์ กะโหลกส่วนใหญ่เป็นกะโหลกของเด็กๆ ทั้งนั้น”

เยว์ซินโกรธแค้นยิ่งนักเมื่อได้ยินรายงานนี้ ปีศาจชั่วร้ายเช่นนี้ไม่ควรปล่อยไว้

“เรื่องนี้ข้าไม่อาจนิ่งเฉยได้! รุ่งสางข้าจะต้องเข้าไปในถ้ำของหุบเขานี้ให้ได้ คืนนี้เจ้าพักผ่อนเสียเถอะ เหนื่อยมามากแล้ว โลกมนุษย์ไม่เหมือนสวรรค์ ทุกการกระทำต้องใช้พลังจากร่างกาย ทำให้เราเหนื่อยล้าได้”

รุ่งสางทั้งสองเดินทางเข้าไปในหุบเขาผีเสื้อดำ เส้นทางแคบ ๆ เต็มไปด้วยกลิ่นดอกลมหายใจปีศาจที่ลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ ทั้งสองใช้ผ้าปิดจมูกแน่นหนา เพราะหากสูดดมกลิ่นเข้าไปเพียงแค่ครู่เดียว ร่างกายจะค่อยๆ แข็งทื่อ หัวใจเต้นช้าลง จนกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ

“ดอกไม้ที่นี่ล้วนมีพิษทั้งนั้น ระวังตัวด้วยนะ ซือเหยา” 

เยว์ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่กังวล

ซือเหยาพยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองจะเดินลึกเข้าไปในหุบเขา เสียงดาบกระทบกันระหว่างหมู่มารกับบุรุษชุดดำผู้หนึ่งดังมาแต่ไกล ชายผู้นั้นรูปร่างสง่า สายตาเฉียบคม ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับเงา เขากำลังต่อสู้กับมารในพื้นที่แห่งนี้

เยว์ซินเห็นเช่นนั้นจึงเข้าไปช่วยปราบมารเหล่านั้นทันที แต่ทว่าเหล่ามารมีมากสู้ต่อไปเกรงว่าจะพากันตาย นางจึงสบตากับบุรุษผู้นั้น

“พวกมันมีมากเกินไป”

เยว์ซินพูดขึ้นขณะกระชับดาบในมือแน่น

“เรา 3 คนสู้พวกมันไม่ได้หรอก ท่านจอมยุทธข้าว่าเราถอยกันก่อนเถอะ!”

เยว์ซินพยักหน้าให้ซือเหยา

ซือเหยารีบจับแขนของบุรุษชุดดำและออกเวทพาพวกเขาหายตัวไปยังกระท่อม เมื่อมาถึงกระท่อมที่พัก เยว์ซินทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เสียง 'ฟุ่บ' ดังก้องในความเงียบ

“เจ้าถูกพิษผีเสื้อที่อก จำเป็นต้องดูดเอาพิษออกทันที”

จิ่นหลิงกล่าวอย่างรุนแรง พร้อมกับมองเยว์ซินที่เริ่มหมดสติ

“ข้าชื่อจิ่นหลิง มาที่นี่เพื่อปราบมารเจ้าไว้ใจข้าได้ ข้าไม่ทำร้ายพวกเจ้าแน่”

เขาพูดพร้อมกับเตรียมตัวจะดูดพิษจากร่างของนาง

“ท่านบังอาจ! ท่านจะทำอะไร...”

ซือเหยาตะโกนห้าม แต่เยว์ซินกลับหยุดเขาไว้ทันที

“ไม่เป็นไร หากเป็นการรักษาชีวิต ให้เขาทำเถอะ”

เยว์ซินพูดเสียงแผ่ว

“แต่ว่า...”

ซือเหยาพยายามคัดค้าน

“คำสั่งข้า”

เยว์ซินพูดเสียงเข้ม พยายามบังคับตัวเองให้ไม่ให้หมดสติ

จิ่นหลิงไม่รอช้า เขาค่อยๆ เปิดเสื้อที่อกด้านขวาลงอย่างช้าๆ เพื่อให้เห็นจุดที่พิษแทรกซึมเข้าไป เขารู้สึกถึงความร้อนและการต่อสู้ของพลังที่ดุดันจากในตัวเยว์ซิน

ขณะที่เขาดูดพิษออกจากร่างของนาง ร่างกายของนางค่อยๆ มีแสงเปล่งประกายจากร่างของนาง

เขารู้สึกว่านางไม่ใช่คนธรรมดา เพราะถ้าหากเป็นคนธรรมดาแล้ว คงจะสลบไปตั้งแต่ตอนแรกที่ถูกพิษ คงไม่อาจทนพิษที่แผ่ซ่านไปในร่างกายเช่นนี้ได้

เขายังคงใช้ลมปราณขับพิษอย่างไม่ลดละ

เยว์ซินนั่งขัดสมาธิ รวบรวมลมหายใจอย่างมั่นคง

กำลังภายในหลั่งไหลทั่วร่าง ราวกับสายน้ำใสซัดผ่านเส้นชีพจร

ลมปราณเคลื่อนไปตามเส้นเอ็น ชะล้างพิษร้ายออกตามรูขุมขน

ไอสีดำบางเบาค่อย ๆ ลอยออกจากปลายนิ้ว ก่อนจะสลายหายไปในอากาศ

เมื่อเห็นว่าสำเร็จ เขาค่อย ๆ ถอนฝ่ามือออกจากนางอย่างระมัดระวัง

ร่างบางของเยว์ซินค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

เขาปล่อยให้นางได้พักฟื้นภายใต้แสงจันทร์อ่อนจางในยามค่ำคืน

ซือเหยารู้สึกกังวลลึกๆ เพราะกลัวว่าจิ่นหลิงจะรู้ความจริงเกี่ยวกับนาง จึงรีบไล่เขาไปนอนในห้องอื่นทันที โดยนางจะเป็นผู้ดูแลนางเองในคืนนี้

ในห้องที่เงียบสงบ จิ่นหลิงยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ รู้สึกได้ว่าเขามีบางอย่างที่ยากจะเข้าใจเกี่ยวกับสตรีผู้กล้าหาญที่เขาพึ่งช่วยเหลือ

ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงระหว่างพวกเขา แม้ว่าทั้งสองจะเพิ่งพบกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเริ่มรู้สึกคล้ายความคุ้นเคยที่มาจากอดีตที่ลึกซึ้ง

รุ่งสาง นางตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ของเช้าวันใหม่ ลมหายใจสดชื่นพัดผ่านใบหน้าในขณะที่นางมองไปยังจิ่นหลิงที่นั่งอยู่บนต้นไม้สูง พลางมองไปยังท้องฟ้าใส

“ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่คนเดียว ท่านไม่กลัวหรือ?”

นางถามด้วยความสงสัย

จิ่นหลิงหันมามองนางด้วยสายตาที่จริงจัง แต่ก็ยังคงรักษาระยะห่าง

“ภารกิจของข้าตอนนี้คือการปลดปล่อยเด็กที่ถูกมารผีเสื้อดำจับไป พวกมันจะดูดวิญญาณบริสุทธิ์ไปทำพิธี หากพวกมันทำสำเร็จ ยากที่จะหยุดมันได้”

นางฟังแล้วรู้สึกกังวลทันที แต่ก็ยังสงบ

“แล้วแม่นางเล่ามาที่นี่ด้วยเหตุใด? ดูจากพลังของแม่นาง น่าจะเป็นเซียนที่เกือบจะบรรลุแล้วกระมัง”

'หึหึ' ซือเหยาหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะตักเตือนเขา แต่เยว์ซินห้ามไว้ นางหันไปมองซือเหยาแล้วพูดเสียงต่ำ

“ซือเหยา...”

“ข้าพูดสิ่งใดผิด?”

จิ่นหลิงถามด้วยความสงสัย

“ท่านเข้าใจถูกแล้ว ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้า หากไม่เช่นนั้นข้าคงตายไปแล้ว”

นางยกมือประสาน โค้งคำนับ กล่าวอย่างจริงใจ น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยความขอบคุณที่ลึกซึ้ง

จิ่นหลิงยิ้มบางๆ ก่อนพูดขึ้น

“ต่อให้ข้าไม่ช่วยแม่นาง แม่นางก็คงไม่ตาย เพราะพลังของแม่นางไม่เหมือนกับเซียนที่ข้าเคยพบ”

เยว์ซินยิ้มหวานละไมให้เขา ก่อนจะล้วงหยิบปิ่นมุขจันทราออกจากแขนเสื้อ ส่งมอบให้เขา ปิ่นปักผมที่มีมุขสีขาวประดับด้วยสะเก็ดดาวรายล้อมขึ้นจากผมของนางและยื่นให้เขา

“นี่คือปิ่นปักผมของข้าที่ข้ารักมาก ข้าให้เจ้าเก็บเป็นที่ระลึก แทนคำขอบคุณ”

ซือเหยามองดูธิดาเทพประทานของล้ำค่าที่รักที่สุดให้กับจิ่นหลิงด้วยความรู้สึกแปลก ที่ธิดาเทพเหมือนมีใจให้กับหนุ่มคนนี้ไม่น้อย

“ขอบใจแม่นางมาก ข้าจะเก็บมันไว้เป็นอย่างดี” จิ่นหลิงกล่าวขอบคุณ

"ต่อจากนี้ ท่านเรียกข้าว่า 'เยว์ซิน' ก็ได้ ข้าไม่ถือสา ดูไม่ห่างเหิน"

นางยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ทั้งสองต่างรู้ดีว่าหัวใจของพวกเขาตอนนี้มีกันและกัน แม้จะยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของกันและกันก็ตาม

“เรื่องชิงตัวเหล่าเด็กๆ ที่อยู่ในหุบเขา ข้าจะช่วยท่าน เราจะพาพวกเด็กๆ ออกมาอย่างปลอดภัย ขอเวลาข้ารักษาตัวสักสองสามวัน แล้วเราจะไปลุยกัน”

เยว์ซินพูดเสียงมั่นใจ

ระหว่างที่นางรักษาตัว จิ่นหลิงจะเป็นคนดูแลเรื่องอาหาร พานางไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ เขาปกป้องและดูแลนางเป็นอย่างดี

ซือเหยารู้ดีว่าทั้งสองมีใจให้แก่กันแล้ว และรู้สึกว่าอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอาจจะยากยิ่งกว่าทุกสิ่งที่ทั้งคู่กำลังเผชิญ

ดวงจันทร์เต็มดวงเปล่งแสงเย็นเยียบ กระทบพื้นหินหยาบกร้านหน้าปากถ้ำแห่งความมืด จิ่นหลิง และเยว์ซิน ยืนตระหง่านอยู่หน้าทางเข้า ด้านในคือรังของพญามารผีเสื้อดำ ศัตรูที่โหดเหี้ยม และเหล่ามารสมุนมากมาย

"ถึงเวลาแล้ว…"

เยว์ซินเอ่ยเสียงเบาแต่หนักแน่น นางเลือกค่ำคืนนี้เพื่อแสงแห่งจันทราจะส่งให้พลังลมปราณของนางแข็งแกร่งที่สุด

พวกเขาก้าวเข้าสู่ถ้ำ กลิ่นอับชื้นคละคลุ้ง สายลมหนาวยะเยือกพัดผ่านประหนึ่งเสียงกรีดร้องของวิญญาณต้องสาป ไม่ทันไร เสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังก้องทั่วทั้งถ้ำ

"หึหึหึ... มนุษย์โง่เง่า กล้าดีอย่างไรถึงบุกเข้ามาถึงที่นี่!"

ร่างอันมหึมาของพญามารผีเสื้อดำปรากฏขึ้นกลางโถงถ้ำ ปีกดำสนิทกระพือส่งพายุหมุนหอบฝุ่นคลุ้ง เงาร่างสมุนอสูรนับร้อยค่อยๆ ปรากฏขึ้น รายล้อมพวกเขาทั้งสาม

"ปล่อยเด็กๆ ออกมาเดี๋ยวนี้!"

จิ่นหลิงตวาดลั่น ดวงตาเต็มไปด้วยโทสะ

"หึ! อยากได้ก็เข้ามา!"

พญามารผีเสื้อดำแสยะยิ้มเย้ยหยัน

"แต่ข้าจะดูดพลังของพวกเจ้าให้หมดก่อน!"

ไม่ทันที่มันจะพูดจบ เยว์ซินก็กำมือแน่น ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วร่าง นางออกเวทด้วยพลังแห่งจันทราในทันที วงเวทย์จันทราส่องแสงเรืองรองขึ้นกลางอากาศ แสงสีเงินไหลเวียนดั่งแม่น้ำรัตติกาล ก่อนจะแตกกระจายเป็นพันสายโจมตีเหล่ามารที่เข้าประชิด

"อ๊ากกก!" เสียงกรีดร้องของเหล่ามารดังก้องไปทั่ว สมุนอสูรที่สัมผัสแสงแห่งจันทราร่วงลงกับพื้น ร่างแหลกสลายเป็นเถ้าธุลี

จิ่นหลิงสบโอกาส เขากระโจนเข้าไปกลางวงล้อมของศัตรู หอกเทพในมือเปล่งประกายเรืองรอง ก่อนฟาดลงอย่างรุนแรง พลังสายฟ้าฟาดกระแทกพื้นดิน แตกกระจายเป็นพญามังกรเพลิงที่คำรามลั่นก่อนพุ่งเข้าเผาผลาญเหล่ามาร

"ไม่นะ!" พญามารผีเสื้อดำคำรามก้อง เห็นเหล่าบริวารของมันถูกกำจัดจนแทบไม่เหลือ แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว

เยว์ซินเรียกพลังจากแสงจันทราที่สาดส่องลงมาผ่านปล่องถ้ำ วงเวทย์ขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็นทวีคูณ

"จันทรามหาภิภพ!"

วงเวทย์ระเบิดพลังมหาศาล พุ่งเข้าโจมตีพญามารผีเสื้อดำโดยตรง

"อ๊ากกกกก!"

ร่างมหึมาของมันถูกพลังจันทราผลักกระเด็น กระแทกกับผนังถ้ำอย่างแรง ก่อนจะอ่อนกำลังลง

"ข้าจะแก้แค้น! จำไว้!"

เสียงสุดท้ายจากพญาผีเสื้อดำดังขึ้น มันกรีดร้องก่อนที่ร่างของมันจะสลายหายไป

"เด็กๆ ปลอดภัยแล้ว!" ซือเหยาร้องบอก

เด็กนับร้อยที่ถูกจับตัวมา ค่อยๆ เดินออกจากมุมมืด ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ก็เต็มไปด้วยความหวังเมื่อเห็นทางออก

ไม่นานนัก พวกเขาก็พาเด็กๆ กลับลงจากภูเขา สู่หมู่บ้านที่รอคอยพวกเขาด้วยหัวใจเปี่ยมสุข

รุ่งสางมาเยือน แสงอาทิตย์แรกของวันทอดผ่านเส้นขอบฟ้า ถึงเวลาที่พวกเขาต้องจากกัน

"สุดท้าย... เราก็ต้องแยกทาง"

เยว์ซินเอ่ยเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความอาลัย

จิ่นหลิงมองนาง ดวงตาสะท้อนความรู้สึกบางอย่างที่เอ่ยออกมาไม่ได้

"หากโชคชะตานำพา ข้าหวังว่าเราจะได้พบกันอีก" เยว์ซินกล่าว ยิ้มเศร้าๆ

"ข้าดีใจที่ได้พบเจ้า...เยว์ซิน"

จิ่นหลิงตอบกลับ น้ำเสียงมั่นคง

"ข้าจะรอวันที่เราได้พบกันอีกครั้ง"

เยว์ซินตอบมองดูเขาอย่างอาลัย

ทั้งสองกอดลากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เส้นทางของทั้งคู่จะต้องแยกจากกัน

ณ ตอนนี้ ต่างคนต่างมีภารกิจที่ต้องทำ แต่ในหัวใจของพวกเขา หวังว่าโชคชะตาจะพาให้พบกันอีกครั้งในสักวันหนึ่ง…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 6 แก้แค้น...

    จวนไป๋เซียง...เสียงในจวนแตกตื่นเมื่อไป๋เทียนหลงลงมาจากฟ้า แสงสีดำอำมหิตจากร่างของเขาปกคลุมไปทั่ว เขามองดูทุกคนที่ยืนนิ่งด้วยความหวาดกลัว คนรับใช้ในจวนตกใจและตะโกนออกไป“ไปตามท่านแม่ทัพมาเร็ว จอมมารบุกจวนแล้ว!”ชายคนหนึ่งวิ่งไปตามหาท่านแม่ทัพไป๋เฉิงหลงผู้เป็นบิดาของไป๋เทียนหลงทันทีไป๋เฉิงหลงยืนนิ่งเมื่อได้ยินคำรายงานจากลูกน้อง กำปั้นของเขากำแน่น“เจ้าหายออกไปจากจวนข้า คิดว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร? ที่แท้เจ้าก็ไปเป็นมารอย่างนั้นหรือ? หึ...ช่างน่าเวทนาเสียจริง”“หุบปาก! คนใจร้ายอย่างท่านก็ไม่ได้ดีกว่าข้านักหรอก! เป็นสามีที่แย่ ปล่อยให้ภรรยาตัวเองถูกรังแกจนต้องตาย! วันนี้ข้าจะล้างแค้นให้กับท่านแม่ของข้า!”ไป๋เทียนหลงพูดด้วยเสียงกร้าวไป๋เฉิงหลงยิ้มเยาะ“หากเจ้าคิดว่าข้าเป็นเช่นนั้น...ก็มาฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งเลย! ลูกชู้อย่างเจ้าก็ไม่ควรอยู่!”คำว่าลูกชู้นั้นทำให้ไป๋เทียนหลงเจ็บปวดในใจ ดวงตาของเขาร้อนระอุแดงก่ำ มองไปยังบิดาทันที พร้อมใช้วิชามารพลังสีดำพุ่งเข้าใส่ไป๋เฉิงหลงโดยตรง“อ๊าก...เจ้า...”ไป๋เฉิงหลงร้องลั่น ลงไปกองกับพื้นกระอักเลือดทันที“คุณชายใหญ่อย่าทำอย่างนี้เลยนะเจ้าค่ะ...เห็

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 5 สตรีนางนี้ไม่ธรรมดา

    “เซียวหาน ท่านเห็นศิษย์น้องหรือไม่? นี่ก็นานแล้วที่นางขอไปเดินตลาดคนเดียว ข้าเป็นห่วงนางจริงๆ”ซิวเหยาถามด้วยความกังวล ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความห่วงใย“เจ้าอย่าห่วงนางเลย นางมีวรยุทธและของวิเศษมากมาย ไม่มีใครสามารถทำอะไรนางได้หรอก”เซียวหานกล่าวเสียงเบา แล้วหันมามองนางอย่างอ่อนโยน“ว่าแต่...เจ้าอยากไปที่ใด ข้าจะพาเจ้าไปเอง”ซิวเหยายิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ ที่เขาทำให้รู้สึกอบอุ่นในใจ ทั้งคำพูดและการกระทำของเขากลับทำให้นางรู้สึกเหมือนมีคนที่พร้อมจะดูแลเสมอ“ท่านนี่ก็น่ารักดีนะ ดูใส่ใจข้าดี”ซิวเหยาพึมพำเบาๆ อย่างรู้สึกดี“เจ้าว่าอะไรนะ?”เซียวหานถามกลับด้วยท่าทีแปลกใจ แม้จะพยายามเก็บความรู้สึกไว้ แต่ในใจเขากลับเต็มไปด้วยความสงสัย“ข้าไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”นางรีบยิ้มแล้วหันไปมองร้านผลไม้ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า "เอาไม้หนึ่ง"นางสั่งพ่อค้าเสียงดังอย่างร่าเริงเซียวหานไม่ลังเล เขาหยิบเงินจากถุงของตัวเองแล้วยื่นให้พ่อค้าทันที ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนที่ซิวเหยาจะหันกลับไปหามองเขาอย่างดีใจ"ขอบคุณ!"นางยิ้มหวาน ตาเป็นประกาย พร้อมถือไม้ผลไม้ชุบน้ำตาลในมือไปด้วยอย่างอารมณ์ดีเซียวหานมองนางด้วยความพึงพอใจ

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 4 รักหรือลวง

    เมืองหย่งกง...ชาวเมืองได้จัดเทศกาลหมื่นโคมวิญญาณซึ่งตรงกับคืนจันทร์เต็มดวงของเดือนสิบ ในค่ำคืนนี้ โคมไฟนับพันลอยล่องเหนือแม่น้ำ เปล่งประกายแสงระยิบระยับ ส่องทางให้วิญญาณที่จากไปได้สู่ภพภูมิที่ดีขึ้น ผู้คนต่างมารวมตัวกันเพื่อร่วมพิธีอุทิศดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้วแต่ไม่ใช่แค่เพียงมนุษย์ที่มาร่วมเทศกาลนี้ มารบางตนก็แฝงตัวมาเพื่อแสวงหาพลังจากดวงวิญญาณที่ถูกอัญเชิญ พวกมันดูดกลืนวิญญาณเพื่อเสริมพลังให้ตนเองข่าวลือกระจายไปทั่วเมืองว่าคืนนี้จะมีหญิงสาวที่มีมุกพลังจันทราเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ และแน่นอน ไป๋เทียนหลง บุตรจ้าวแห่งจอมมาร ก็จะมาที่นี่เช่นกัน เขามาที่นี่เพื่อแสวงหามุกพลังจันทราไปให้ท่านจ้าวแห่งจอมมาร ผู้เป็นบิดาของเขาไป๋เทียนหลงปลอมตัวมาในชุดสีน้ำเงินลายครามสง่างาม เขายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ถือโคมไฟที่ส่องแสงระยิบระยับในมือเพื่อลอยไปตามแม่น้ำแต่แล้วเขาก็พบกับหญิงสตรีผู้หนึ่ง นางเดินตรงเข้ามาหาเขา ความงามของนางสะกดทุกๆ สายตา นางงดงามราวกับดวงจันทรา ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนนางคือ มู่หลิน ผู้ที่เขาเคยพบในป่าครั้งนั้น“นี่ท่านคือคนที่ข้าช่วยชีวิตท่านไว้ในป่าใช่หรือไม่?”มู่หลินเอ่ยถามด้ว

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 3 ภารกิจปราบมาร

    เขาไท่ซวน …"มู่หลิน เหตุใดเจ้าถึงไปนอนหมดสติอยู่กลางป่าลึกขนาดนั้น มันเกิดอะไรขึ้น?"ซิวเหยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ขณะที่สายตาของนางจ้องไปยังมู่หลินด้วยความสงสัย"ข้าจำได้ว่าข้าช่วยชายคนหนึ่ง แล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนมีอะไรสักอย่างทำให้ข้าสลบไป"มู่หลินตอบเสียงเบา สายตาหลบเล็กน้อย ขณะที่ระลึกถึงเหตุการณ์ในป่านั้น"แล้วตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"เซียวหานถามอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลที่ไม่สามารถปกปิดได้"ข้าดีขึ้นแล้ว ศิษย์พี่ทั้งสองไม่ต้องกังวล"มู่หลินยิ้มบาง ๆ ตอบรับคำถามนั้น เธอรู้ดีว่าทั้งสองคนห่วงใยเธอมากแค่ไหนเซียวหานและซิวเหยาเป็นศิษย์ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจากนักพรตอี้เซียน ผู้มีวิชา และวรยุทธเก่งกล้า ทั้งสองต่างเป็นผู้ที่มีทักษะในการปราบมารอย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะเซียวหานที่มีอาวุธคู่กายเป็นกระบี่ปราบมาร "ทยาลกันต์" ซึ่งกระบี่เล่มนี้มีพลังอันแข็งแกร่ง เพราะถูกหลอมด้วยเหล็กกล้าสวรรค์และไฟอเวจี ใช้โลหิตของเซียนทั้งแปดขณะที่ซิวเหยาก็มีอาวุธเป็นพัดเพลงแห่งลม พัดที่มีพลังจากเสียงเพลงของลม เมื่อกางออกเสียงเพลงจากพัดนี้จะสะท้อนคลื่นเสียงที่มีพลังคมดังมีดกรีด

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 2 กำเนิดดอกโบตั๋น

    ณ เขาไท่ซวน ภายใต้เงาจันทร์ที่ส่องแสงเย็นตา ลมภูเขาพัดเอื่อยไล้ใบไม้ให้เอนไหวเป็นจังหวะเงียบสงบท่ามกลางสวนดอกโบตั๋นที่ผลิบานในยามราตรีนักพรต"อี้เซียน"ยืนสงบนิ่งอยู่กลางสวนเบื้องหน้าดอกโบตั๋นศักดิ์สิทธิ์ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าผ่าลงกลางดอกโบตั๋นดอกโตเป็นพิเศษ เรือนแสงสว่างจ้ากลีบดอกโบตั๋นสีเงินเรืองรองก็พลิ้วไหว สายลมพัดวนรอบดอกไม้ ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติปรากฏขึ้น ร่างของสตรีผู้หนึ่งปรากฏขึ้นทันใดนั้น นางปรากฏกายขึ้นด้วยใบหน้างดงาม ร่างระหง ผมยาวสลวยไหลลงอาบแผ่นหลัง ดวงตากลมดำใสดั่งดวงดาวบนฟากฟ้าในคืนมืด ผิวพรรณขาวผ่องละมุนราวหิมะ ร่างระหงดูประหนึ่งนางฟ้าจากสรวงสวรรค์นางสวมใส่อาภรณ์สีขาวเงินอ่อน นุ่มพลิ้วไหวไปตามลม ราวกับปุยเมฆที่ล่องลอยในท้องฟ้า"เจ้าคือ...มู่หลิน" นักพรตอี้เซียนเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความเมตตาหญิงสาวกะพริบตา มองเขาด้วยความสงสัยก่อนจะเผยรอยยิ้มสดใสออกมา"ท่านอาจารย์? ข้า...มู่หลินหรือ?""ใช่แล้ว เจ้าถือกำเนิดจากโบตั๋นศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ที่ถูกลิขิตให้เกิดมา"นักพรตเฒ่ายิ้มบาง ๆ สายตาอ่านผ่านโชคชะตาของนางได้เพียงเล็กน้อย รู้แต่ว่านางมิใช่ผู้ธรรมดานางถือกำเนิดมาพ

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 1 เงาแห่งอดีต

    จวนไป๋เซียง...แม่ทัพไป๋เฉิงหลง แม่ทัพผู้เกรียงไกรแห่งเมืองหย่งกง มีฮูหยินสองคน ซูเหม่ยหลานเป็นฮูหยินใหญ่ นางได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อไป๋เทียนหลง ทั้งสองแม่ลูกใช้ชีวิตในจวนอย่างโดดเดี่ยว เพราะคำใส่ร้ายของจ้าวหงหลิง ฮูหยินรองแห่งจวนไป๋เซียงเมื่อครั้งที่แม่ทัพไป๋เฉิงหลงมีความรักในตัวซูเหม่ยหลาน แต่ทว่า นางกลับมีใจให้แก่ชายอื่นอยู่แล้ว ทว่า ด้วยคุณงามความดีจากการชนะศึกมาได้ จึงขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้ เพื่อให้ซูเหม่ยหลานเข้ามาเป็นฮูหยินแห่งจวนไป๋เซียงการแต่งงานจึงเป็นไปตามพระราชโองการโดยมิอาจขัดขืนได้ นางจึงต้องแต่งงานอยู่กินกับแม่ทัพไป๋เฉิงหลงแต่ด้วยการที่แม่ทัพต้องออกไปทำสงครามบ่อยครั้ง จึงมีคนสร้างเรื่องขึ้นมาโดยอ้างว่า บุตรชายของซูเหม่ยหลานไม่ใช่บุตรแท้ของแม่ทัพแต่เป็นบุตรของคนรักเก่าของนาง ซึ่งทำให้แม่ทัพไป๋เฉิงหลงเกิดความไม่พอใจ ทุกครั้งที่มองเห็นบุตรของตน ก็รู้สึกเคียดแค้นในใจ ทำให้ไป๋เทียนหลงต้องกลายเป็นเด็กที่ไม่ได้รับความรักจากพ่อแท้ ๆ สองแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่ในจวนอย่างขมขื่นบรรยากาศยามเช้าในจวนไป๋เซียงเต็มไปด้วยความเงียบสงบและความเยือกเย็นที่แผ่กระจายไปทั่ว เสียงนกร้องดังแว่ว

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทนำ 3 รักต้องห้ามคำสาปสวรรค์

    ห้องบรรทมเยว์ซิน เทพแห่งจันทรา“เร็วซือเหยามาช่วยข้า ท่านพ่อ ท่านแม่เรียกหาข้าแล้ว”“เพคะธิดาเทพ”ซือเหยาช่วยเยว์ซินแต่งองค์ให้สง่างามสมกับที่เป็นเทพธิดาแห่งจันทราของสวรรค์ แม้นางจะเป็นหญิงตัวเล็ก ๆ แสนซน แต่หน้าที่ของนางนั้นยิ่งใหญ่นัก คำสั่งของสวรรค์นั้นไม่อาจละเลยได้“ธิดาเทพแห่งจันทราเจ้าไปที่ใดมา ทำไมหมู่นี้ข้าไม่เจอเจ้ามาที่ท้องพระโรงเลย”เสียงท่านเฮ่าเทียนตี้จุนผู้เป็นบิดาดังขึ้นในห้อง ท่าทางตื่นตระหนกเล็กน้อย“ท่านพ่อเพคะ ข้าเป็นเทพธิดาตัวเล็ก ๆ จะไปไหนได้เพคะ อยู่ได้แค่สวนในสรวงสวรรค์เท่านั้นเพคะ”เยว์ซินพูดพลางยิ้ม ตอบคำถามของบิดา“ท่านพี่ก็อย่าว่าลูกเลย นางก็มีกิจของนาง”ตี้หย่งเหอกล่าวปกป้องธิดาของตนทันที เยว์ซินมองตามารดาแล้วยิ้มอบอุ่นที่เห็นมารดาปกป้องนางจนถึงขนาดนี้“ท่านแม่เข้าใจลูกที่สุด”เยว์ซินเข้าไปกอดมารดาของนางอย่างออดอ้อน“ถ้าท่านพ่อไม่มีอะไรจะตรัสกับข้าแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะเพคะ”เยว์ซินยกมือประสานคารวะผู้เป็นบิดาและมารดาอย่างนอบน้อม จากนั้นนางหมุนตัวเพื่อเดินจากไปจนถึงประตูแต่ทันใดนั้นก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคนที่เดินตรงเข้ามาผู้นั้นคือ จิ่นหลิง“ท่านมาที่นี่ได้อย

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทนำ 2 ศึกใต้แสงจันทรา

    เยว์ซินได้จัดการปีศาจแมงป่องจนสิ้นซากเป็นที่เรียบร้อย ค่ำคืนนี้ทั้งสองยังคงพักอยู่ที่นี่ ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงรายงานจากซือเหยาดังขึ้นหลังจากไปสำรวจรอบๆ กระท่อม“ธิดาเทพเพคะ ข้างหลังกระท่อมมีโครงกระดูกมนุษย์มากมายเต็มไปหมด คาดว่าผู้คนคงถูกหลอกล่อให้มายังหุบเขานี้เพื่อดูดกลืนพลังวิญญาณบริสุทธิ์ กะโหลกส่วนใหญ่เป็นกะโหลกของเด็กๆ ทั้งนั้น”เยว์ซินโกรธแค้นยิ่งนักเมื่อได้ยินรายงานนี้ ปีศาจชั่วร้ายเช่นนี้ไม่ควรปล่อยไว้“เรื่องนี้ข้าไม่อาจนิ่งเฉยได้! รุ่งสางข้าจะต้องเข้าไปในถ้ำของหุบเขานี้ให้ได้ คืนนี้เจ้าพักผ่อนเสียเถอะ เหนื่อยมามากแล้ว โลกมนุษย์ไม่เหมือนสวรรค์ ทุกการกระทำต้องใช้พลังจากร่างกาย ทำให้เราเหนื่อยล้าได้”รุ่งสางทั้งสองเดินทางเข้าไปในหุบเขาผีเสื้อดำ เส้นทางแคบ ๆ เต็มไปด้วยกลิ่นดอกลมหายใจปีศาจที่ลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ ทั้งสองใช้ผ้าปิดจมูกแน่นหนา เพราะหากสูดดมกลิ่นเข้าไปเพียงแค่ครู่เดียว ร่างกายจะค่อยๆ แข็งทื่อ หัวใจเต้นช้าลง จนกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ“ดอกไม้ที่นี่ล้วนมีพิษทั้งนั้น ระวังตัวด้วยนะ ซือเหยา” เยว์ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่กังวลซือเหยาพยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองจะเดินลึกเข้าไป

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทนำ 1 สวรรค์จันทรา

    บรรยากาศบนสรวงสวรรค์เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม เหล่าเทพเซียนจากทั่วทุกชั้นฟ้าได้รวมตัวกัน ณ ท้องพระโรงแห่งสวรรค์ เพื่อหารือถึงวิกฤตที่กำลังคุกคามทั้งโลกมนุษย์และแดนสวรรค์เหนือบัลลังก์ทองคำ เฮ่าเทียนตี้จุน จักรพรรดิผู้ครองสวรรค์ ทรงเปล่งสุรเสียงหนักแน่น สะท้อนก้องไปทั่วท้องพระโรง“บัดนี้ หมู่มารได้บังอาจบุกรุก ทำลายและครอบครองโลกมนุษย์ มิหนำซ้ำ ยังลามปามขึ้นมาก่อกวนยังสรวงสวรรค์! พวกเราจะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้! จะต้องหาทางกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก!”เฮ่าเทียนตี้จุนผู้ปกครองสวรรค์กล่าวเสียงสนทนาอื้ออึงของเหล่าเทพเซียนดังกระหึ่มด้วยความกังวล เทพแห่งสงครามผู้ทรงพลังที่สุดในบรรดาเทพนักรบลุกขึ้น ประสานมือคารวะจักรพรรดิอย่างเคร่งขรึม“องค์จักรพรรดิ ข้าได้ส่งบุตรชายของข้าลงไปสำรวจโลกมนุษย์แล้ว” เสียนเทียนกล่าว“เขาเป็นเทพแห่งสงครามที่เก่งกาจยิ่งนัก ข้ายินดีจะให้เขาเป็นผู้บัญชาการกองทัพสวรรค์ในการศึกครั้งนี้”เฮ่าเทียนตี้จุนพยักหน้าช้า ๆ ดวงเนตรเปล่งประกายทรงอำนาจ“ดีมาก อย่างไรก็ดี พวกเจ้าจะต้องช่วยกันเฝ้าระวังปกป้องทั้งโลกมนุษย์และสวรรค์ ข้าจะไม่ยอมให้หมู่มารเหิมเกริมไปมากกว่านี้”ขณะที่เหล่าเทพสนทนา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status