Chapter 2
[2/2] หลังจากพักผ่อนไปหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว วันต่อมาใยบัวก็ขอลาป่วยจากที่ทำงานอีกวัน เพราะเธออยากจะรู้ให้ชัดว่าสิ่งที่เธอคิดมันเป็นจริงหรือไม่ ใยบัวเดินทางมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างไกลตัวชุมชนหลังตลาด สาเหตุที่เธอเลือกโรงพยาบาลเอกชนก็เพราะว่า ถ้าหากเธอเลือกไปโรงพยาบาลรัฐฯ ที่อยู่แถวบ้านคงจะมีคนรู้จักมากมายอยู่ที่นั่น และเธอก็ไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด “รอผลตรวจสักครู่นะคะ เดี๋ยวคุณหมอเรียกค่ะ” ระหว่างนั่งรถผลตรวจอยู่ หญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาไปก่อนจะถึงคิว ปกติใยบัวไม่ได้เป็นคนติดโซเชี่ยลเลยแม้แต่น้อย มีบ้างที่เข้าไปสอดส่องความเคลื่อนไหวข่าวสาร นิ้วเรียวสวยกดเลื่อนผ่านๆ โพสมากมายของเพื่อนในแอปพลิเคชันสีฟ้า เพื่อนสมัยเรียนบางคนก็อัพเดทเรื่องไปเที่ยว เรื่องความเป็นอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นมีโพสของมาร์วินที่ลงรูปงานแต่งเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยก มาร์วินเป็นเพื่อนอีกคนที่เธอและปิ่นหยกสนิทด้วย เมื่อตอนที่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย หยกเป็นคนน่ารักกับทุกคนยิ้มแย้ม คุยสนุกและเข้ากับคนอื่นง่าย ไม่เหมือนกับเธอที่ค่อนข้างเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร ไม่อย่างนั้นสมัยเรียนมาร์วินจะชอบปิ่นหยกหรือ เป็นเพราะเพื่อนสาวคนสนิทมีเสน่ห์ล้นเหลือขนาดนั้น ใครเห็นเป็นต้องอยากเข้าหา “นางสาว ใยบัว แก้วรักษา เชิญด้านในค่ะ” สักพักก็มีนางพยาบาลประจำแผนก เดินเข้ามาเรียกชื่อหญิงสาวเข้าไปพบหมอเฉพาะทาง “สวัสดีค่ะคุณหมอ” ร่างบางเดินเข้าไปนั่งโต๊ะตรงข้ามกับคุณหมอผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมทั้งยกมือไหว้ทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณใยบัว หมอจะบอกว่าขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์แล้วค่ะ” “อะไรนะคะ!? 0_0!” ตอนนี้ร่างบางทำตัวไม่ถูกแล้ว เมื่อรู้ผลตรวจจากปากหมอ “คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์แล้วนะคะ ....ฟังหมออยู่ไหมเอ่ย?” “ละ... แล้วต้องทำยังไงบ้างคะหมอ?” ต่อจากนี้เธอจะทำอย่างไรยังไม่รู้เลย ถ้าหากครอบครัวของเธอรู้โดยเฉพาะแม่ของเธอจะรู้สึกอย่างไร เมื่ออยู่ดีๆ ลูกสาวที่ไม่เคยยุ่งเรื่องผู้ชายมาก่อน ต้องมาท้องโดยไม่มีพ่อแบบนี้ “ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ไปจนถึง สัปดาห์ที่ 14 ถ้าหากคุณใยบัวจะฝากครรภ์ที่นี่เลย คุณหมอก็จะนัดให้มาตรวจทุกๆ เดือนค่ะ มีการตรวจเช็คความผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย ตรวจอัลตราซาวด์เพื่อกำหนดอายุครรภ์ วางแผนดูแลครรภ์ให้ในแต่ละเดือน และอื่นๆ อีกค่ะ” “ค่ะ” เพราะไม่รู้ว่าจะตอบ หรือตั้งคำถามกับคุณหมอคนสวยอย่างไรดี ใยบัวจึงได้แต่นั่งฟังคำแนะนำของคุณหมอ ทั้งที่ในหัวตอนนี้กลับไม่ได้จดจ่อกับสิ่งที่หมอพูดเลย “ช่วงนี้คุณแม่ต้องอยู่แลเรื่องอาหารและปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเด็กด้วยค่ะ ระวังหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ด้วยนะคะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นอาจเกิดภาวะตกเลือดได้ค่ะ” “อ่อ ค่ะ” “ดูคุณแม่จะตื่นเต้นอยู่นะคะ แล้วสรุปจะฝากครรภ์ที่เลยไหมคะ? หรือจะรอถามคุณพ่อก่อนดี?” คุณหมอคนสวยเมื่อเห็นว่าคนไข้เหมือนกำลังเหม่อลอยคิดอะไรอยู่ จึงพูดดึงสติให้ใยบัวหันกลับมาโฟกัสกับสิ่งที่เธอพูด “ยังดีกว่าค่ะ ขอกลับไปคิดก่อน” “ได้เลยค่ะไม่มีปัญหา เอาไว้คุณแม่พร้อมค่อยมานะคะ แต่อย่าปล่อยให้นาน เพราะควรจะรีบเลือกโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อผลดีต่อเด็กในท้องค่ะ” “ขอบคุณนะคะคุณหมอ” ใยบัวกล่าวลาคุณหมอคนสวยแล้วก็เดินออกมาจากห้องนั้นเลย เธอรู้สึกถึงความน่ารักของคุณหมอคนนี้มาก ที่อุตส่าห์ให้คำแนะนำที่ดีมากมาย ทั้งยิ้มแย้มและท่าทางดูเป็นกันเองมากๆ ของคุณหมอ เธอเองก็อยากจะฝากครรภ์ที่นี่เลยด้วยซ้ำไป ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องกลับไปคิดก่อนว่าจะบอกผู้เป็นแม่อย่างไรดี อีกด้านหนึ่งของทางฝั่งของชลกันต์ หลังจากงานแต่งงานของเขาผ่านพ้นไปเป็นเดือนได้แล้ว เขาได้พาปิ่นหยกกลับไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน เพราะก็ยังคงต้องทำงานช่วยคุณหญิงวิมลรัตน์แม่ของเขาที่โรงพยาบาล แต่วันนี้หมอหนุ่มเดินทางมาถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่มีเพื่อนเป็นสูตินรีแพทย์ที่นี่ เพื่อจะขอย้ายการฝากครรภ์ของปิ่นหยกไปที่โรงพยาบาลของเขาในกรุงเทพฯ เพราะสะดวกในเรื่องการเดินทางที่ง่ายกว่าต้องขับรถมาจันทบุรีทุกเดือน เดิมทีภรรยาของเขาฝากครรภ์กับหมอพริมแพทย์สูติฯ ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ ที่จริงการได้ฝากครรภ์กับคุณหมอเพื่อนสนิทอย่างหมอพริม ชลกันต์ก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรเพราะเพื่อนหมอคนนี้ก็เป็นคนเก่ง ในเมื่อเขาต้องเลือกความสะดวกไว้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางลง เพราะภรรยาของเขานับวันก็ยิ่งท้องโตเรื่อยๆ อยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ชลกันต์จึงมาเพื่อย้ายสิทธิ์การรักษา ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในแผนกสูตินรีเวช ร่างสูงก็ดันสายตาดี มองไปเห็นร่างบางของใครอีกคน กำลังยื่นอยู่จุดชำระเงินของโรงพยาบาลอยู่ เขาไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่ และก็ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธอมาทำอะไร ก่อนจะมุ่งหน้าไปหาเพื่อนหมอคนสนิท “พริม” “อ้าว มาถูกจังหวะฉันว่างพอดี” คุณหมอคนสวยรู้แล้วว่าชลกันต์จะมาเรื่องอะไร เพราะมีการโทรคุยกันก่อนล่วงหน้านานแล้วหลายวัน ร่างสูงเดินเข้ามา หลังจากที่พยาบาลหน้าห้องบอกว่าคุณหมอด้านในไม่มีเคสคนไข้แล้ว หมอหนุ่มจึงไม่รอช้าเข้ามาหาเพื่อน “เอกสารล่ะ ได้ยัง?” “ใจเย็นๆ ก่อนจ้ะ คุณพ่อมือใหม่ เพิ่งจะเข้ามา ทักทายเราหน่อยไม่ได้หรือไง? วัยรุ่นใจร้อนนะเรา” หมอพริมพูดหยอกชลกันต์ตามประสาเพื่อนที่รู้จักกันมานาน เพิ่งจะมาถึงแท้ๆ รีบถามหาเอกสารที่เขาจัดเตรียมไว้ให้แล้ว “เรามีเคสผ่าตัดต่อช่วงเย็น ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เลย” เพราะเหตุนี้ร่างสูงที่เพิ่งเข้ามาถึงได้เร่งรีบ กับชีวิตการเป็นศัลยแพทย์ไม่ได้ว่างอะไรมากมายขนาดนั้น ทุกเวลาทุกนาทีของชลกันต์จึงดูมีค่า “เอ้า! อุตส่าห์จะชวนหาอะไรทานมื้อเย็นด้วยกันซักหน่อย กลับเร็วจัง” “แล้วเรื่องอาหารของหยก ก็ทำตามแผนของเธอเลยใช่ไหม?” หมอหนุ่มไม่ตอบ ทั้งยังถามเพื่อนกลับด้วยความเร่งรีบ ถึงขนาดที่ว่านั่งไม่ติดเก้าอี้เลยตอนนี้ “ใช่ เราเขียนไว้ให้หมดแล้ว” “ไหนบอกว่าว่างแล้วไง แล้วนี่เขียนอะไรอยู่” ชลกันต์มองหมอพริมที่กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองเขา ที่อุตส่าห์ทำตัวเร่งรีบขนาดนี้ “เขียนสรุปเคสคนไข้เมื่อกี้” หมอพริมยังก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อไป โดยตอบคำถามอีกคนไปด้วย “ไหนมาดูซิ เดี๋ยวช่วยทำ” “เฮ้ยๆๆ ไม่ได้! นี่มันเป็นข้อมูลของคนไข้เรา นายอย่ามายุ่งหน่า เดี๋ยวความลับของคนไข้เรารั่วไหล จรรยาบรรณนะหมอกันต์” หมอพริมรีบเงยหน้าขึ้นห้ามร่างสูงเอาไว้ก่อนจะหยิบเคสคนไข้ของเธอไป ชลกันต์กำลังจะเอื้อมมือหยิบใบเอกสารแผ่นบางของเพื่อนขึ้นมาช่วยดู กลับต้องยั้งมือตนเองเอาไว้ก่อน ถึงเขาจะไม่ใช่หมอเฉพาะทางด้านนี้ แต่เขาก็เคยราวด์วอร์ดในสมัยเรียนแพทย์มา ทว่าพอคิดได้มือหนาก็ชักกลับไปแนบลำตัวเหมือนเดิม เพราะมันก็จริงอย่างที่หมอพริมบอก ว่าเคสแต่ละอย่างของคนไข้ค่อนข้างเป็นความลับเฉพาะ “เหอะ! ไม่ก็ไม่สิ บ่นซะยาวเลย เอกสารเราเอามาได้แล้ว” ตอนนี้ร่างสูงจึงได้แต่เอามือขึ้นมากอดอกตนเองแทน “อ่ะๆ เอาไปๆ รีบขนาดนั้นเลยหรือไง” หมอพริมตัดความรำคาญ ทั้งยังเห็นว่าอีกฝ่ายรีบจริงๆ จึงเดินไปหยิบเอกสารย้ายโรงบาลของภรรยาหมอหนุ่มมาให้ “ขอบคุณนะ เรากลับแล้ว” พอได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ชลกันต์ก็รีบลุกจากเก้าอี้ เตรียมกลับกรุงเทพฯ เลย “โอเค ขับรถดีๆล่ะ” หมอพริมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ให้กับเพื่อนของเธอเมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะหันมาสนใจกับงานของตัวเองต่อSpecial X[ปกป้อง x ใยไหม]บอสตัน เป็นเมืองที่มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่าร้อยแห่ง มีนักเรียนต่างชาติมากกว่าหลักแสนคน เมืองนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีการศึกษาดีที่สุดของโลก และยังเป็นเมืองที่สร้างโอกาสในการทำงานให้แก่เหล่านักเรียนอีกมากมายแน่นอนว่าในบรรดานักธุรกิจในเมืองไทยหลายต่อหลายคน ล้วนอยากส่งเสริมให้ลูกของตนเองนั้นได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และหนึ่งในตัวเลือกหลักของคนกลุ่มนี้ก็มักจะส่งลูกตนเองมาเรียนกันที่นี่" ปก ดูสิ ตอนนี้ชุดของเพชรเปื้อนไปหมดแล้วเนี่ย เพราะยัยบ้านนอกนั่นคนเดียวเลย เจอกันในคลาสก็ทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ นี่ยังจะมาเจอกันข้างนอกอีก หึ่ยย!"สาวสวยร่างระหงรีบกอดแขนออเซาะเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่ตัวเองโดนผู้หญิงอีกคนซุ่มซ่ามทำน้ำกาแฟหกเลอะใส่ตัวน้ำเพชรเป็นหญิงสาวชาวไทยที่เติบโตในต่างแดน หล่อนย้ายมาอยู่กับครอบครัวตั้งแต่สมัยยังเด็กแล้ว ทั้งชีวิตของหล่อนได้รับการศึกษาที่ดีจากเมืองนี้มาโดยตลอดจนกระทั่งหล่อนโต ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บอสตันอีกเช่นเคย เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หล่อนก็แยกย้ายจากเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมาด้วยกันสมัยไฮสคูล จะเหลือก็แต่ ‘ปกป
Special IXpart 2“เข้ามาก่อนก็ได้ครับ” ชลกันต์บอกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งเข้าทรงอยู่หน้าประตู ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงและเริ่มขยับตัวตาม“ขอโทษค่ะ รักไม่รู้ว่าอาจารย์หมอมีแขก”ใยบัวมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกันกับผ้าเช็ดหน้าที่เธอคนนี้ถืออยู่ ผ้าผืนนั้นมันคือผืนที่เธอเป็นคนซื้อให้สามีเอง แล้วที่เธอบอกว่าหมอกันต์ลืมเอาไว้ในกระเป๋าของเด็กผู้หญิงตรงหน้า มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน นี่สามีเธอกลายเป็นคนขี้ลืมของไว้ในกระเป๋าคนอื่นได้ด้วยงั้นเหรอ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณ...?”“รักค่ะ คุณคงจะเป็นภรรยาของอาจารย์หมอใช่ไหมคะ? ตัวจริงสวยกว่าในรูปในกระเป๋าตังค์ของอาจารย์อีกนะคะเนี่ย”“กระเป๋าตังค์?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนี้ยังยืนพูดอยู่ กลิ่นน้ำหอมของเธอถูกพัดโชยเข้ามาเตะปลายจมูก กลิ่นนี้ที่ใยบัวเคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันคือกลิ่นเดียวกันกับที่เคยติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตที่เคยซักให้สามี และเมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนี้ยังบอกอีกว่าเคยเห็นรูปของเธอในกระเป๋าเงินของสามีเธออย่างนั้นเหรอเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?ใยบัวเปลี่ยนอิริยาบถการนั่ง ก่อนจะเดินเข้าหาสามี เธอแตะไหล่หนาเอาไว้มั่นมือ จากนั
Special IXpart 1“สวัสดีค่ะคุณบัว …แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ ดึกแล้วแท้ๆ” นางพยาบาลสาวสวยที่รับหน้ามี่ประจำหน้าห้อทักทายขึ้น เมื่อเห็นว่ามีแขกคนสำคัญของเจ้าของห้องนี้มา“ขอบคุณค่ะ คุณฝน พอดีบัวคิดว่าคุณหมออยู่เวรดึกน่าจะหิว บัวก็เลยทำกับข้าวมื้อดึกแล้วก็รีบเอามาให้ค่ะ”เธอถือปิ่นโตใบเล็กยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่คุยอยู่กับพยาบาลหน้าห้องของสามี อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ตนเองไม่ทำมา อย่างไรซะสามีของเธอก็ออกไปหาอาหารทานข้างนอกได้อย่างสบายอยู่แล้ว แต่ที่อุตส่าห์ทำมื้อดึกมาให้เขาตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากมาให้เห็นกับตาตัวเองมากกว่า ว่าเรื่องที่เธอสงสัยอยู่มันเป็นมาอย่างไรกันแน่“แหม…. ช่างเป็นภรรยาที่เอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่คุณบัวคงมาช้าไปแล้วมั้งคะ”“?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเครื่องหมายคำถาม ขณะที่พยาบาลสาวพูดให้เธอได้เกิดความสงสัย“ก็คุณหมอน่ะ เพิ่งจะเอาไปกินก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งกับน้องรัก เมื่อตะกี้นี้เองค่ะ”“รัก?” เธอไม่คุ้นหูกับชื่อนี้มาก่อนเลย“อ๋อ ก็น้องต้องรัก ที่เป็นเด็กเอ็กเทิร์นของแผนกเราน่ะค่ะคุณบัว คนนี้เก่งใช้ได้เลยนะคะ…. ถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่ได้คำชื่นชมจากปากคุณหมอกันต์ง่ายๆ หรอกค่ะ ค
Special VIIIหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงกลางวันไปแล้ว ก็ถึงเวลาส่งลูกเข้านอนที่ห้องพักของพี่เลี้ยงที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ เด็กๆ ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้นอนกับนภา เพราะที่ผ่านมานภาจะมาทำงานที่บ้านของเจ้านายเฉพาะช่วงตอนกลางวันเท่านั้น เธอทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นโอกาสที่จะได้นอนกับพี่เลี้ยงในค่ำคืนนี้จึงเป็นคืนพิเศษสำหรับเด็กน้อยทั้งสอง“ป้าภาขา~ วันนี้น้องไหมจะนอนฝั่งนี้นะคะ” พอเข้ามาห้องของพี่เลี้ยงแล้ว เด็กหญิงก็รีบอุ้มตุ๊กตากระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงทางฝั่งที่ตัวเองได้เลือกเอาไว้เลย“แอร๊~ อี่ๆ” ส่วนเจ้าหนูใยแก้วก็ไม่น้อยหน้าพี่สาวเลย แม้จะยังไม่ประสีประสาอะไร ทว่าก็ยังอยากจะสื่อสารออกมาเหมือนคนอื่นๆ และเมื่อเห็นพี่สาวขึ้นไปนอนบนเตียงบ้าง ใยแก้วก็อยากจะทำเหมือนอย่างพี่สาว โดยที่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปทางอีกฟากมุมของเตียง เป็นการสื่อว่าเจ้าหนูตัวน้อยอยากจะได้พื้นที่ตรงนั้นคนมาส่งเด็กทั้งสองอย่างใยบัวถึงกับอดขำเจ้าตัวแสบไม่ได้ ใยแก้วกำลังมีพฤติกรรมเลียนแบบพี่สาวของตัวเอง ไม่ว่าใยไหมจะทำอะไรหรือพูดอะไรน้องสาวของเธอก็มักจะทำตามเสมอ“บัวฝากด้วยนะคะพี่ภา”“ได้เลยค่ะ คุณบัวไม่
Special VIIชลกันต์ทำตามที่ตนเองรับปากกับลูกเมียเอาไว้ได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้เดินทางไปเที่ยวจริงๆ แล้ว เด็กหญิงใยไหมดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษเพราะนานๆ ทีจะได้ไปเปิดหูเปิดตาไกลบ้านตัวเองคราวนี้ชลกันต์ถึงขั้นให้โบนัสพี่เลี้ยงเด็กอย่างนภาเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมทั้งที่พักแบบฟรีๆ ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากกลัวว่าภรรยาของเขาจะเหนื่อยหากทั้งเที่ยวและยังต้องดูแลลูกน้อยทั้งสองอีก ดังนั้นการพาพี่เลี้ยงเด็กไปด้วยอาจจะเป็นผลดีมากกว่าส่วนเด็กหญิงใยแก้วที่ยังไม่ประสีประสาอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่จะพาตนเองไปไหน เพียงแต่เห็นพี่สาวมีท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เห็นดังนั้นแล้วก็อดตื่นเต้นตามพี่สาวไม่ได้“คิกกๆ คูมแม่ขา~ ทำไมเยาต้องขึ้นเครื่องบินไปคะ? ทำไมเยาไม่ยั่งยดไปอ่า” เด็กหญิงใยไหมหยุดสนใจไอศกรีมในมือของตัวเองก่อนจะตั้งคำถามที่ยังสงสัยมานานแล้ว“เรานั่งรถไปไม่ได้หรอกนะคะ มันไกลมากกก”“ใช่แล้วจ้ะใยไหม” พี่เลี้ยงเด็กพูดเสริมคุณแม่ของเด็กตัวน้อย“ใช่ครับลูก ที่ที่เราไปมีแต่ทะเลภูเขาล้อมรอบ พ่อขับรถไปเองไม่ไหวหรอกนะครับ”“อ๋อออ อย่างงั้นเองหยอ”“ครับ”ชลกันต์นึกขำก
Special VIหลายวันถัดมาหลังจากที่ชลกันต์กลับบ้านดึกวันนั้น ใยบัวก็เริ่มตงิดในใจมากขึ้นแล้ว วันนี้โชคดีที่ใยไหมไปโรงเรียนและเจ้าตัวเล็กก็ไปนอนกับคุณยายที่จันทบุรีแล้ว กว่าจะกลับกรุงเทพฯ ก็น่าจะตอนเย็นเลยคุณแม่ลูกสองจึงถือโอกาสเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงพยาบาลของสามี อันที่จริงในวันแต่งงานนอกจากสินสอดทองมั่นที่เธอควรจะได้แล้ว คุณหญิงและท่านผู้ว่าฯยังมีเมตตากรุณายกหุ้นส่วนในเครือโรงพยาบาลในเธอได้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมอีก ซึ่งเธอเองก็ซาบซึ้งน้ำใจของพ่อกับแม่สามีเป็นอย่างมากวันนี้ร่างบางแต่งตัวด้วยชุดออกแนวเป็นทางการสักหน่อย เพราะมีคุยธุระกับคุณหญิงวิมลรัตน์และคุณหมอตุลา เรื่องสาขาในเครือที่ต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะเห็นว่าจะลงทุนซื้อเครื่องมือการแพทย์แบบใหม่เพิ่มอีกทุกสาขาดังนั้นในฐานะหุ้นส่วนสำคัญที่เจ้าของโรงพยาบาลให้เกียรติคนอย่างเธอก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อีกทั้งถ้าหากเด็กน้อยที่บ้านโตขึ้นจนดูแลตัวเองกันได้แล้ว เธอก็อยากจะเข้ามาทำงานช่วยกิจการครอบครัวบ้าง“หนูบัวจ้ะ แม่คิดว่าเครื่องมือแพทย์ของบริษัทที่ตาตุลย์เสนอมาให้มันก็ราคาค่อนข้างสูงมากเลยนะ หรือหนูคิดว่าไง?” แม่สามีทั