แชร์

บทที่ 7 จวนตระกูลฟาง

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-18 12:16:03

จวนตระกูลฟาง

"เร็วๆ เข้าสิ เร่งมือหน่อย อีกไม่กี่วันที่จวนจะมีงาน ดี!!! ทำความสะอาดตรงนั้นให้ดี"

เสียงของหญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยกับสาวใช้ พลางส่ายหน้าไปมองที่เหล่าสาวใช้ตัวน้อยที่ทำงานได้ชักช้าไม่ทันใจ ก่อนจะหันไปมองสตรีวัยกลางคนตรงหน้าที่ยามนี้กำลังส่งเสียงไอออกมาเบาๆ 

"ฮูหยินใหญ่ ท่านไปพักเถิดเจ้าค่ะ ทางนี้บ่าวจะดูแลเอง"

สตรีวัยกลางคนผู้นั้นส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย 

"ข้าจะอยู่ดูตรงนี้แหละ อีกไม่กี่วันจะมีจวนขุนนางมากมายมาร่วมงานชมดอกเหมยในจวนของเรา จะให้ขาดตกบกพร่องไม่ได้เด็ดขาด"

"เจ้าค่ะฮูหยินใหญ่" 

สตรีวัยกลางคนผู้นี้ก็คือฟางฮูหยิน เป็นภรรยาเอกของเสนาบดีฟาง นางมีบุตรชายหนึ่งคนมีนามว่าฟางไฉหรง ส่วนบุตรสาวนั้นหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย นางตามหาเท่าใดก็ไม่พบ ทำได้เพียงเศร้าเสียใจจนป่วยเรื้อรังมาหลายสิบปี 

ในจวนตระกูลฟาง นอกจากมีนางเป็นฮูหยินใหญ่แล้ว ยังมีฮูหยินรองอีกนางหนึ่งนามว่า หยวนชิง นางมีลูกแฝดชายหญิงนามว่า ฟางเหมยลี่และฟางอวี้เฉวียน ปีนี้มีอายุสิบหกปีเต็มแล้ว 

"พี่หญิง ได้ยินว่าช่วงนี้ร่างกายของท่านไม่สู้ดี เหตุใดจึงไม่พักเล่าเจ้าคะ งานนี้ให้ข้าช่วยทำแทนก็ได้ ข้ายินดี"

เมื่อได้ยินเสียงแหลมเล็กที่แฝงไปด้วยความเสแสร้ง ทำให้ฮูหยินใหญ่ฟางถอนหายใจออกมาคราหนึ่งก่อนจะหันไปมองและยิ้มให้ผู้มาเยือน 

หยวนชิง

"ไม่รบกวนน้องสาวให้ต้องลำบากดีกว่า เดิมทีงานนี้ก็เป็นหน้าที่ของภรรยาเอกเช่นข้าอยู่แล้ว ภรรยารองเช่นเจ้าอย่าได้ลำบากเลย"

ฟางฮูหยินเน้นหนักตรงคำว่าภรรยาเอกและภรรยารอง ฮูหยินรองหยวนชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปในทันที นางลอบกำมือแน่น แต่ทว่าใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้ม

"พี่สาว น้องเพียงอยากช่วยแบ่งเบาภาระในจวนเพียงเท่านั้นเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้นเจ้าก็ไปดูในโรงครัวเถิด งานหยาบๆ เช่นนั้นเหมาะกับเจ้าที่สุด"

"ฮูหยินใหญ่!!!"

ฮูหยินรองหยวนชิงหมดความอดทนแล้ว จากใบหน้าที่เปื้อนยิ้มในคราแรก บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึงบึ้งตึงในทันที ฮูหยินใหญ่ฟางจ้องมองฮูหยินรองหยวนชิงด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย 

"เอาเวลาไปอบรมบุตรสาวของเจ้าเถิด อย่าให้อับอายขายหน้าตระกูลอื่นก็พอ"

ฮูหยินรองหยวนชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ 

"ข้าอบรมถิงเอ๋อร์เป็นอย่างดีอยู่แล้ว วันหน้านางต้องแต่งเข้าจวนแม่ทัพ พี่หญิงจะให้ข้าอบรมนางเพียงคนเดียวก็ไม่ถูก ยามนี้ท่านรับนางเป็นบุตรสาวภรรยาเอกแล้ว หากนางขายหน้า ท่านก็จะขายหน้าไปด้วยมิใช่หรือ?"

ฮูหยินใหญ่ฟางกัดฟันกรอด นางโมโหยิ่งนัก เพราะบุตรสาวของนางหายไป อีกทั้งนางก็ร่างกายไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงไม่อาจให้กำเนิดบุตรสาวได้อีก ทำให้คนที่ต้องแต่งเข้าจวนตระกูลไป๋ก็คือฟางถิงถิง บุตรสาวของหยวนชิง ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าก็คือสามีของนางเกรงว่าตระกูลไป๋จะรังเกียจที่ฟางถิงถิงเป็นบุตรสาวของภรรยารอง จึงให้นางรับเด็กผู้นั้นเป็นบุตรภรรยาเอกเสีย นางเองก็ไม่อยากทำให้มากเรื่อง เพราะอย่างไรเสียยามนี้สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว นางจำต้องตกปากรับคำให้สามีของตนสบายใจ ไหนจะต้องทนเห็นหน้าฟางอวี้เฉวียนบุตรชายของนังแพศยานั่นอีกคน นางต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่าหยวนชิงจะคิดไม่ซื่อหวังแย่งชิงตำแหน่งคุณชายผู้สืบทอดไปจากฟางไฉหรงบุตรชายของนาง เมื่อคิดได้เช่นนั้นไป๋ฮูหยินจึงเอ่ยกับฮูหยินรองหยวนชิงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

"ไสหัวไป"

"เจ้าค่ะพี่หญิง น้องจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้"

ฮูหยินรองหยวนชิงเอ่ยอย่างลอยหน้าลอยตา ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ฮูหยินใหญ่ฟางกักเก็บความโมโหเอาไว้ จนนางไอออกมาอย่างรุนแรง 

"ฮูหยินใหญ่ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ บ่าวบอกแล้ว ว่าท่านอย่าไปเถียงกับคนเช่นนางเลย สตรีเช่นนั้นหน้าด้านหน้าทนจะตายไป"

"ข้าเกลียดนางยิ่งนัก แม่นม"

"ใจเย็นๆ ก่อนนะเจ้าค่ะ"

แม่นมหลิวลูบแผ่นหลังของนางอย่างแผ่วเบา นางเป็นแม่นมและคนรับใช้เก่าแก่ที่ติดตามฮูหยินใหญ่ฟางมาจากบ้านเดิม 

"พาข้ากลับเรือน ข้าอยากพัก"

"เจ้าค่ะ"

ด้านฮูหยินรองหยวนชิงนั้น ยามนี้นางเดินมาหาฟางถิงถิงบุตรสาวของตนที่ยามนี้กำลังสั่งให้เหล่าสาวใช้เลือกชุดสวยๆ มาให้ตนได้ลองสวมใส่อยู่ เมื่อเห็นว่ามารดามาหา ก็รีบยิ้มแย้มเบิกบานพลางเอ่ยถาม

"ท่านแม่ มีแต่ชุดงามๆ ทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ ลูกเลือกสวมใส่ไม่ถูกเลย"

ฮูหยินรองหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยกับบุตรสาวด้วยความรักใคร่เอ็นดู

"งานชมดอกเหมย เจ้าก็สวมชุดสีชมพูที่ปักลวดลายดอกเหมยนั่นสิ ชุดนั้นน่ะ ท่านพ่อเจ้าสั่งให้คนมาตัดให้เจ้าใหม่มิใช่หรือ ชุดนั้นเหมาะกับเจ้าที่สุดแล้ว เจ้าจะต้องงดงามอ่อนหวานกว่าคุณหนูจวนอื่น ถิงเอ๋อร์ของแม่น่ะ งดงามที่สุดไม่อาจมีคุณหนูตระกูลใดเทียบได้เลยด้วยซ้ำ"

"ท่านแม่ ลูกอยากเจอพี่จื่อเซียนเร็วๆ ยิ่งนัก"

"หืม สำรวมกิริยาบ้างสิลูกแม่ แม่รับรอง หากไป๋จื่อเซียนได้พบเจ้าในวันงานชมดอกเหมยจะต้องตกตะลึงในความงามของเจ้าแน่นอน"

"ท่านแม่ ลูกไม่พูดกับท่านแล้ว"

ฮูหยินรองหยวนชิงมองบุตรสาวที่มีท่าทีเขินอายก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ 

นับตั้งแต่นางแต่งเข้ามาเสนาบดีฟางก็ดีต่อนางไม่น้อย อีกทั้งสวรรค์ยังเข้าข้างนาง ในปีนั้นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ฟางหายตัวไป ทำให้ฟางถิงถิงของนางตกเป็นบุตรสาวที่เสนาบดีฟางรักและทะนุถนอมที่สุด อีกทั้งยังจะได้แต่งข้าจวนตระกูลไป๋ จวนแม่ทัพที่มีหน้ามีตาไม่ต้องอับอายผู้คน

ขอบใจเจ้ามากนะฟางเหมยลี่ ที่หายตัวไป 

ในเมื่อไปแล้วก็ไปลับเถิด อย่าได้เสนอหน้ากลับมาเป็นมารขัดขวางความสุขสบายของพวกข้าสองแม่ลูกอีกเลย!!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ   บทส่งท้าย

    ห้าปีต่อมา "ท่านแม่ พวกเราจะไปอยู่ที่จวนท่านลุงนานหรือไม่ขอรับ?" ฟางหว่านหนิงที่กำลังเตรียมจัดข้าวของเพื่อออกเดินทางไปยังแคว้นฉางอัน หันมามอง ไป๋หยวน บุตรชายเพียงคนเดียวของนางที่ยามนี้มีอายุสี่ขวบแล้ว นางยิ้มให้บุตรชายก่อนจะเอ่ย"คงจะร่วมหลายเดือนเลยแหละ แม่จะพาหยวนเอ๋อร์ไปไหว้หลุมศพท่านตาท่านยายบุญธรรม ที่แคว้นฉางอันยามนี้สงครามสงบแล้ว ย่อมงดงามไม่ต่างจากแคว้นต้าโจว หยวนเอ๋อร์ของแม่อยากเห็นหรือไม่?""อยากขอรับ""เช่นนั้นก็มาช่วยแม่จัดของเร็วเข้า"ไป๋หยวนพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบมาช่วยมารดาตนจัดของอย่างมีความสุข ฟางหว่านหนิงมองบุตรชายตนอย่างรักใคร่ ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่นานมานี้ท่านลุงเจียงจือหยวนส่งจดหมายมาบอกนางว่า ได้จัดการทำป้ายสุสานบรรพบุรุษเป็นชื่อของท่านพ่อและท่านแม่ นำมาไว้ที่จวนตระกูลเจียงแล้ว มีการทำพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณทุกปี เดิมทีฟางหว่านหนิงตั้งใจจะไปกราบไหว้ แต่ก็ติดที่ไป๋หยวนบุตรชายของนางยังเล็กนัก การเดินทางค่อนข้างลำบาก แต่ยามนี้บุุตรของนางเติบโตมากแล้ว ย่อมเดินทางได้ง่ายขึ้น ไป๋จื่อเซียนที่กลับมาจากค่ายทหาร เมื่อเห็นว่าภรรยาและลูกชายของเขากำลังจัดเต

  • เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ   บทที่ 36 ความหวานล้ำ

    ฟางหว่านหนิงจ้องมองร่างของโจวชิงเหยาที่ยามนี้ถูกไฟไหม้ไม่เหลือซากก่อนจะหลับตาลง แล้วซุกกายเข้าไปในอ้อมกอดของไป๋จื่อเซียน ไป๋จื่อเซียนกอดนางเอาไว้ อีกทั้งยังปลอบประโลมนางด้วยความรักใคร่ "อาหนิง""ไป๋จื่อเซียน เดิมทีตอนที่จับตัวข้าไป เขาไม่ได้ล่วงเกินข้า เขาเพียงหวังจะฆ่าข้าให้ตายตามเขา เขาไม่ยอมให้ข้าแต่งงานกับท่าน ข้า...""ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเชื่อใจเจ้า คนเช่นเจ้า หากต้องตกเป็นของโจวชิงเหยา ข้ารู้ว่าเจ้าคงยอมปลิดชีพตนเองเสียยังดีกว่า""ฮึก ไป๋จื่อเซียน""ไม่ต้องร้องแล้ว เรากลับจวนกันเถิด""อืม"ไป๋จื่อเซียนเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน นางซบกายลงไปอิงแอบเขาอย่างรักใคร่ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าใด ยามที่ได้อยู่ใกล้เขานางก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเสมอมาเมื่อกลับมาถึงจวน ฟางฮูหยินก็วิ่งเข้ามากอดบุตรสาวในทันทีด้วยความห่วงใย ฟางไฉหรงที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยกับไป๋จื่อเซียนอย่างซาบซึ้ง"อาจื่อ ขอบใจเจ้ามาก ข้าเป็นพี่ชายที่แย่ยิ่งนัก ทั้งที่นางเป็นน้องสาวของข้า แต่ว่าข้ากลับไม่ได้ตามไปช่วยนาง""เจ้าอย่าคิดมาก ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เก่งวรยุทธ์เท่าใดนัก พวกมันเป็นนักฆ่าที่ถูกฝึกฝนมา ข้าเกรงว่าเจ้าจะเกิด

  • เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ   บทที่ 35 เพลิง

    ไป๋จื่อเซียนมุ่งหน้าตรงมาที่จวนตระกูลฟางด้วยความร้อนใจ เมื่อมาถึงก็พบกับฟางฮูหยินที่ตกใจจนเป็นลม ด้านเสนาบดีฟางก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าใดนัก เมื่อสอบถามจากสาวใช้คนสนิท จึงได้ความว่า เดิมทีฟางหว่านหนิงกำลังปักผ้าคุลมหน้าเจ้าสาว แต่เพราะว่านางรู้สึกเมื่อยล้าแล้ว จึงอยากออกไปเดินเล่นรับลมที่ด้านนอกเสียหน่อย แต่ทว่านางเห็นว่าคุณหนูออกไปนานแล้ว จึงออกมาตาม แต่กลับพบว่ายามนี้คุณหนูได้หายตัวไปแล้ว มีเพียงผ้าเช็ดหน้าที่ทำตกเอาไว้เพียงเท่านั้น จึงมาแจ้งให้นายท่านและฮูหยินทราบ เหล่าบ่าวไพร่ต่างช่วยกันออกตามหาแต่ก็ไร้ร่องรอยของฟางหว่านหนิง"อาจื่อ จะทำเช่นไรดี?"ไป๋จื่อเซียนหันไปมองฟางไฉหรงคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจยามนี้โจวชิงเหยาหายตัวไป ประจวบเหมาะกับที่ฟางหว่านหนิงก็หายตัวไปอีกเมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็มีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันมาเอ่ยกับฟางไฉหรงด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา"อาไฉ ข้าเกรงว่าเรื่องที่อาหนิงหายตัวไปจะเกี่ยวข้องกับท่านอ๋อง""เอ?"ฟางไฉหรงที่ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีตกใจไม่ต่างกัน หลังจากกำชับบ่าวไพร่ให้ดูแลมารดาให้ดีแล้ว เขาจึงออกมาพร้อมกับไป๋จื่อเซียน "อาจื่อ เจ้าแน่ใจ

  • เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ   บทที่ 34 จับตัว

    ตระกูลไป๋ถูกกักบริเวณร่วมหลายสิบวัน เมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจวชิงเหยา จึงถูกปล่อยตัวออกมา ยามนี้ไป๋จื่อเซียนและแม่ทัพใหญ่ไป๋กำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ ฮ่องเต้โจวฉินอวี้มองพวกเขาสองคนพ่อลูกคราหนึ่ง "ลำบากพวกเจ้าสองพ่อลูกและคนตระกูลไป๋แล้ว แต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั่นถือเป็นเรื่องดี"แม่ทัพใหญ่ไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะเอ่ย "ตระกูลไป๋ซื่อสัตย์ภักดีต่อฝ่าบาทเท่านั้น ไม่เคยคิดเป็นอื่น ขอฝ่าบาทโปรดเมตตาด้วย" "เอาเถิด เรารู้แล้ว แต่เรามีอีกเรื่องที่ต้องการให้พวกเจ้าไปทำ""เชิญรับสั่งเถิดพ่ะย่ะค่ะ" ฮ่องเต้โจงฉินอวี้ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย "ตามจับตัวอาชิงกลับมาให้ได้ เราอยากให้จับเป็น น้องชายผู้นี้จะดีจะร้ายก็มีสายเลือดเดียวกับเรา บางคราเขาอาจจะทำไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ"ไป๋จื่อเซียนและแม่ทัพใหญ่ไป๋รับคำคราหนึ่ง ฮ่องเต้โจวฉินอวี้จึงให้พวกเขาสองพ่อลูกกลับจวนไปเสีย เมื่อพวกเขาออกจากตำหนักไปแล้ว ฮ่องเต้โจวฉินอวี้ก็ทรุดตัวนั่งลงบนบัลลังก์ ขอบตาของเขาแดงก่ำ พยายามฝืนความเสียใจเอาไว้ ตอนที่ได้รู้เรื่องที่โจวชิงเหยาคิ

  • เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ   บทที่ 33 วางแผน

    "นังสารเลวเจียงหว่านหนิง ข้าจะฆ่าเจ้า!!!""ถิงเอ๋อร์!! อย่านะ!!!"ไป๋จื่อเซียนหันไปมองฟางถิงถิงที่ยามนี้กำลังเอ่ยปากด่าทอเจียงหว่านหนิง และกำลังพุ่งทะยานเข้ามาหวังจะตบตีพี่สาวตน แต่ทว่าฟางอวี้เฉวียนกลับรั้งตัวน้องสาวของเขาเอาไว้ ก่อนจะจ้องมองฟางหว่านหนิงอย่างหวาดกลัว จะไม่ให้เขาหวาดกลัวได้เช่นไรกัน สามวันก่อนเขากับฟางถิงถิงวางแผนกันว่าจะลอบทำร้ายฟางหว่านหนิง แต่ผู้ใดจะรู้พี่สาวต่างมารดาผู้นี้กลับมีวรยุทธ์ นางหักนิ้วเขาอีกทั้งยังถีบเขาจนล้มหงายท้องไม่เป็นท่า ไม่พอเท่านั้นนางยังเตะเสยปลายคางเขาจนฟันหน้าหักไปซี่หนึ่ง จากนั้นนางก็ลงมือตบตีฟางถิงถิงอย่างไร้ความปรานี จนพวกเขาสองพี่น้องสะบักสะบอมบาดเจ็บไปไม่น้อย ตั้งแต่ท่านแม่ออกจากจวนไป ท่านพ่อก็ไม่เคยสนใจไยดีพวกเขาสองพี่น้องอีกเลย เมื่อท่านพ่อรู้ว่าเขาคิดทำร้ายฟางหว่านหนิง ก็สั่งขังพวกเขาเอาไว้แต่ในเรือนไม่ให้ออกไปก่อเรื่องได้อีก ฟางหว่านหนิงจ้องมองสองพี่น้องด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเห็นฟางอวี้เฉวียนทุบต้นคอของฟางถิงถิงจนสลบ แล้วแบกน้องสาวตนหนีกลับเรือนไปด้วยความหวาดกลัว "เหตุใดพวกเขาจึงดูหวาดกลัวเจ้าเช่นนี้?"ไป๋จื่อเซียนหันมามองที่ฟางห

  • เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ   บทที่ 32 สู่ขอ

    ผ่านไปร่วมหลายวัน ในที่สุดเจียงหว่านหนิงก็ได้สติและฟื้นขึ้นมา แต่เพราะนางยังบาดเจ็บอยู่จึงยังไม่อาจขยับกายได้มากนัก นางมองดูไป๋จื่อเซียนที่ยามนี้กำลังส่งยิ้มให้นาง พลางส่งถ้วยชามาให้นางดื่มดับกระหาย นางยิ้มตอบเขาเล็กน้อย"ข้าคิดว่าจะไม่ได้พบกับท่านแล้วไป๋จื่อเซียน"ไป๋จื่อเซียนยื่นมือมาลูบผมนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าต้องตายเป็นแน่"เจียงหว่านหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ไป๋จื่อเซียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยปรามนางทันที"อย่าเพิ่งขยับมาก เจ้าบาดเจ็บหนัก!!!""อืม"เจียงหว่านหนิงจึงทิ้งกายลงนอนเช่นเดิม"เมื่อครู่ท่านแม่ของข้ากับซู่เอ๋อร์มาเยี่ยมเจ้า แต่ว่าเจ้ายังหลับอยู่ พวกนางจึงกลับไปก่อน""ลำบากพวกท่านยิ่งนัก""ลำบากอันใดกัน อีกไม่นานเราสองตระกูลก็จะเกี่ยวดองกันแล้ว"ไป๋จื่อเซียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เจียงหว่านหนิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงยื่นมือของตนไปจับมือของเขาเอาไว้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของนาง มันทำให้นางรู้สึกปลอดภัยยามที่ได้เห็นหน้าของไป๋จื่อเซียนเขาเป็นทุกอย่างในชีวิตของนางจริงๆไป๋จื่อเซียนสั่งให้เหรินห่าวไปแจ้งที่ตระก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status