เจียงหว่านหนิงถูกป้าเถาดุไปไม่น้อย ด้วยเพราะนางไม่ค่อยเป็นสตรีที่อยู่ในกฎระเบียบเท่าใดนัก เดิมทียามอยู่ที่แคว้นฉางอัน บิดาของนางมักจะสอนให้นางขี่ม้า ยิงธนู ฟันดาบ สอนทุกอย่างที่สามารถป้องกันตนเองได้ เรื่องอาหารนางก็เรียนรู้มาจากท่านแม่ไม่น้อย แต่เรื่องงานในจวนที่แสนจะยิบย่อยเช่นนี้ นางไม่ถนัดเลยแม้แต่น้อย แม้ป้าเถาจะดุนาง แต่ทว่าก็ยังเอ็นดูนางอยู่มาก กว่าจะผ่านมาถึงช่วงยามเย็น เจียงหว่านหนิงก็แทบจะหมดเรี่ยวแรง
"หว่านหนิง มาดื่มยาเถิด ยานี้คุณหนูสั่งให้ข้านำมาให้เจ้า ได้ยินว่าเจ้าป่วยมิใช่หรือ ต้องดื่มยาให้ครบสามวัน อาการจึงจะดีขึ้น"
"ขอบคุณเจ้าค่ะป้าเถา"
เจียงหว่านหนิงรับถ้วยยามาดื่ม รสชาติขมฝาดของมันไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อนางเลยแม้แต่น้อย
ป้าเถาจ้องมองสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง เมื่อจับนางมาแต่งตัวแล้ว ช่างดูงดงามเป็นอย่างมาก ผิวพรรณขาวนวลเนียนราวกับเป็นบุตรสาวของขุนนางชนชั้นสูงก็ไม่ปาน ไม่เหมือนกับสตรีชนบทเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีท่าทางที่เข้มแข็ง แม้จะดูอ้อนแอ้นบอบบางแต่กลับมีน้ำอดน้ำทนและสู้งานเป็นอย่างดี ทำให้ป้าเถาชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก
เมื่อดื่มยาเสร็จแล้ว ป้าเถาจึงหันมาเอ่ยกับนาง
"เอาละ อีกเดี๋ยวคุณชายใหญ่ก็จะกลับมาแล้ว เจ้าไปคอยรับใช้ให้ดีเล่า"
"เอ่อ ต้องอยู่เฝ้าทั้งคืนเลยหรือเจ้าคะ?"
ป้าเถาที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยายามเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยตอบเจียงหว่านหนิง
"ที่จวนเราน่ะต้องมีสาวใช้คอยปรนนิบัติตลอดทั้งคืน เจ้ารีบไปเถิด หากเป็นที่โปรดปรานของคุณชายใหญ่ได้ วันหน้าเจ้าจะได้สุขสบาย"
"สบายอันใดกันเจ้าคะป้าเถา ป้าเถาก็รู้ถ้าหากว่าข้าหาบิดามารดาพบ ก็จะไปแล้ว"
ป้าเถาพลันนึกถึงเรื่องที่เจียงหว่านหนิงเล่าให้ตนฟังเมื่อตอนกลางวันก็พลันนึกขึ้นมาได้ นางรับรู้เรื่องของเจียงหว่านหนิงมาไม่น้อย
แต่จะเป็นไรไปเล่า หากทำให้คุณชายใหญ่กลับมาเป็นปกติได้ มีหรือฮูหยินใหญ่จะไม่ยอมรับ
นางน่ะรู้สิ่งที่ฮูหยินใหญ่ต้องการที่สุดแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่ตกปากรับคำรับสตรีงดงามเช่นนี้เข้าจวนมาเป็นแน่
"เอาเถิดน่า รีบไปเร็วเข้า อย่าลืมที่ข้าสอนล่ะ"
"เจ้าค่ะ"
เจียงหว่านหนิงเดินผ่านเรือนหลังนั้นที่มีเหล่าสตรีผัดแป้งแต่งหน้าหนาราวกับนางเอกงิ้ว ก็พบว่ายามนี้พวกนางกำลังจ้องมองตนอย่างไม่เป็นมิตร เจียงหว่านหนิงเองไม่ได้ใส่ใจ นางรู้ดีว่าตนเองมาที่นี่เพราะสิ่งใด เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว นางก็จะจากไป
แม้ไม่อาจรู้ได้ว่า บิดามารดา 'ใหม่' จะยินดีรับนางเป็นบุตรหรือไม่ก็ตาม
ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เจียงหว่านหนิงที่เดินผ่านเรือนของไป๋ซู่ฮวาก็พบว่ายามนี้มีแสงไฟส่องสว่างแล้ว
นางเดินมาเรื่อยจนถึงเรือนของไป๋จื่อเซียน นางขมวดคิ้วมุ่นคราหนึ่งเมื่อพบว่าในเรือนมีเพียงเหล่าคนใช้ที่เป็นบุรุษ เมื่อพวกเขาเห็นนางเดินเข้ามา ก็เอ่ยถามทันที
"แม่นางมาทำอันใด"
เจียงหว่านหนิงจำได้ว่าบ่าวชายผู้นี้เป็นคนที่มารับพวกนางกลับจวน คล้ายว่าจะชื่อเหรินห่าว
"อ้อ ป้าเถาให้ข้ามาปรนนิบัติคุณชายใหญ่น่ะ"
"อ้อ เช่นนั้นแม่นางเชิญตามข้ามาเถิด"
"เจ้าค่ะ"
เจียงหว่านหนิงเดินตามเหรินห่าวเข้าไปด้านใน เหรินห่าวหันมามองนางคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
"แม่นาง อีกเดี๋ยวนายน้อยก็จะกลับมาแล้ว เจ้าจงเตรียมน้ำให้เขาอาบ ช่วยหาเสื้อผ้าอาภรณ์ผลัดเปลี่ยนให้เขา ดูแลเรื่องอาหาร เข้าใจหรือไม่?"
"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ"
เจียงหว่านหนิงลอบพ่นลมหายใจออกมาคราหนึ่ง เดิมทีนางก็คิดว่าจะเป็นงานที่ยากเย็น แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเพียงงานที่ง่ายดายถึงเพียงนี้
ไม่นานนักเหรินห่าวก็ช่วยนางยกน้ำร้อนเข้ามาให้นาง ก่อนจะเดินจากไป เจียงหว่านหนิงเทน้ำลงไปในอ่าง แล้วจึงใช้มือสัมผัสผิวย้ำดูว่าน้ำอุ่นพอดีหรือไม่ โชคดีที่นางดื่มยาถอนพิษไปสองถ้วยแล้ว อาการจึงดีไม่น้อย เริ่มกลับมาแข็งแรงเฉกเช่นปกติแล้ว จึงสามารถเดินเหินทำสิ่งใดได้รวดเร็วขึ้น
"โอะ กำลังอุ่นพอดีเลย"
เจียงหว่านหนิงยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะรีบหันไปมองที่หน้าประตู ก็พบว่ายามนี้ไป๋จื่อเซียนที่เพิ่งกลับมากำลังยืนมองนางอยู่ที่หน้าประตู
"คารวะคุณชายใหญ่"
นางทำตามที่ป้าเถาบอกทุกอย่างอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ไป๋จื่อเซียนหรี่ตามองนางคราหนึ่ง มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นคนส่งนางมา
แต่ทว่าเมื่อมองนางให้ดี เขากลับไม่พบแววตายั่วยวนของนางเหมือนสตรีนางอื่นๆ ที่มองเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นเช่นนั้น ไป๋จื่อเซียนจึงพยักหน้าให้นางคราหนึ่ง
"อืม เจ้าออกไปเถิด ข้าจะอาบน้ำเอง"
"เอ่อ ป้าเถาสั่งเอาไว้ว่าให้ข้าปรนนิบัติท่านให้ดี มิเช่นนั้นจะหักเงินเดือนข้า คุณชายใหญ่ ให้ข้าช่วยท่านนะเจ้าคะ"
"เอ่อ อืม"
ไป๋จื่อเซียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็นึกสงสารนางไม่น้อย เอาเถิด หากนางกล้าลวนลามเขา เขาก็จำต้องถีบนางออกไปจากห้องเหมือนสาวใช้คนอื่นๆ ที่ผ่านมา
เจียงหว่านหนิงไม่รอช้า แววตาของนางเรียบเฉยเป็นอย่างมาก นางเดินตรงไปหาไป๋จื่อเซียน ก่อนจะก้มลงไปช่วยเขาถอดรองเท้าออก จากนั้นก็ช่วยเขาถอดเสื้อตัวนอก จนมาถึงเสื้อตัวใน นางก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น
เหตุใดจึงถอดไม่ออกเล่า มันแน่นอะไรเช่นนี้!!!
นางดึงจนตัวเขาเริ่มโงนเงน ท้ายที่สุดเขาจึงเอ่ยกับนาง
"เอ่อ ข้าถอดเองได้ เจ้าพอเถิด"
"เอ่อ จะดีหรือเจ้าคะ?"
"ข้าถอดเองได้"
ไป๋จื่อเซียนค่อยๆ ถอยห่างออกมาจากนาง ก่อนจะถอดเสื้อตัวในออกมา เจียงหว่านหนิงที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รีบเบี่ยงหน้ามองไปทางอื่นทันที แม้ยามที่ยังอยู่กับท่านพ่อบุญธรรม เขาจะพานางไปเที่ยวเล่นในค่ายทหารบ่อยๆ ทำให้นางพบเจอบุรุษมากหน้าหลายตา แต่ทว่าการที่ต้องมายืนเฝ้าบุรุษถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเช่นนี้ มันก็รู็สึกไม่ชินสายตาเท่าใดนัก
ไป๋จื่อเซียนถอดชุดออกจนเผยให้เห็นแผงอกล่ำสัน ผิวพรรณของเขาขาวสะอาด เจียงหว่านหนิงที่เห็นว่าเขายังเหลือกางเกงด้านในเอาไว้ไม่ได้ถอดออกจนหมดก็โล่งใจไม่น้อย
คิดว่าจะถอดหมดเสียอีก!!!
"ผสมน้ำอุ่นแล้วใช่หรือไม่"
ไป๋จื่อเซียนเอ่ยถามนางอีกครา เจียงหว่านหนิงหันหน้ากลับมาเอ่ยตอบเขาทันที
"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ น้ำกำลังอุ่นพอดีเลย"
"อืม"
ไป๋จื่อเซียนไม่รอช้า เขารีบก้าวเท้าลงไปในอ่างทันที ก่อนจะต้องสะดุ้งตัวโยน พลางหันมามองนาง
"นี่อุ่นแล้วหรือ?"
เจียงหว่านหนิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก
"อุ่นแล้วนะเจ้าคะ หรือว่าคุณชายใหญ่อยากเติมน้ำร้อนเพิ่มหรือเจ้าคะ"
"เจียงหว่านหนิง น้ำมันร้อนมาก!"
"เอ ไม่ร้อนนะเจ้าคะ ข้าว่ากำลังพอดี ท่านลองลงไปอีกสักรอบ"
"เอ่อ อย่า โอวววว ร้อนน"
เจียงหว่านหนิงมือหนักไปหน่อย นางดันกายของไป๋จื่อเซียนไปที่อ่าง เขาไม่ทันระวังจึงหงายหลังลงไปแช่ในอ่างน้ำร้อนทันที ไป๋จื่อเซียนตาเหลือกลาน ก่อนจะรีบเด้งกายลุกขึ้นมาจากอ่างน้ำ เจียงหว่านหนิงมองผิวกายสีขาวของเขาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก็ตกใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก
"เจียงหว่านหนิง เจ้าจะต้มข้าหรือ?!!!"
"เอ่อ..."
"เจียง..."
เพราะกระโดดขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำอย่างไม่ทันระวัง ทำให้เขาโผเข้าหานางทันที กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าเขาอยู่ใกล้นางมาก อีกทั้งมือของตนยังโอบรัดรอบเอวบางของนางเอาไว้ ในขณะเดียวกันมือของนางก็จับไปที่หว่างขาของเขาอย่างเต็มไม้เต็มมือไม่ต่างกัน
ต่างคนต่างจ้องมองกันอย่างตกตะลึง จนในที่สุด
โครมมม...
"นายน้อยยยย!!! เจียงหว่านหนิงเจ้าถีบนายน้อยทำไมกัน!!!"
"ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าเป็นโรคบ้าจี้ บุรุษใดมาโอบเอวข้า เข้าใกล้ข้า ข้าไม่ตบก็ต้องถีบเขา นายน้อย ฮืออ ข้าขออภัยเจ้าค่ะ"
ไป๋จื่อเซียนหลับตาลงช้าๆ ยามนี้ร่างกายเขาแทบจะระบมไปหมดทุกส่วนแล้ว นางจะต้มเขายังไม่พอ นางยังออกแรงผลักเขาออกจากกายตนอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังยกเท้าถีบเขาจนสุดแรง จนเขากระเด็นกระแทกประตูออกมานอกห้อง นอนแผ่หลาต่อหน้าบ่าวในเรือน
ให้ตายเถอะ ถ้านางตั้งใจกระดูกข้าไม่หักเลยหรือ!!!
เหรินห่าวมองดูเจ้านายของตนก่อนจะครุ่นคิดในใจ
เวรกรรมตามสนองนายน้อยยแล้วเป็นแน่ แต่ก่อนมักถีบสตรีออกมานอกห้อง แต่ครานี้กลับถูกสตรีนางนี้ถีบจนกระเด็นออกมาเสียเอง
ห้าปีต่อมา "ท่านแม่ พวกเราจะไปอยู่ที่จวนท่านลุงนานหรือไม่ขอรับ?" ฟางหว่านหนิงที่กำลังเตรียมจัดข้าวของเพื่อออกเดินทางไปยังแคว้นฉางอัน หันมามอง ไป๋หยวน บุตรชายเพียงคนเดียวของนางที่ยามนี้มีอายุสี่ขวบแล้ว นางยิ้มให้บุตรชายก่อนจะเอ่ย"คงจะร่วมหลายเดือนเลยแหละ แม่จะพาหยวนเอ๋อร์ไปไหว้หลุมศพท่านตาท่านยายบุญธรรม ที่แคว้นฉางอันยามนี้สงครามสงบแล้ว ย่อมงดงามไม่ต่างจากแคว้นต้าโจว หยวนเอ๋อร์ของแม่อยากเห็นหรือไม่?""อยากขอรับ""เช่นนั้นก็มาช่วยแม่จัดของเร็วเข้า"ไป๋หยวนพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบมาช่วยมารดาตนจัดของอย่างมีความสุข ฟางหว่านหนิงมองบุตรชายตนอย่างรักใคร่ ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่นานมานี้ท่านลุงเจียงจือหยวนส่งจดหมายมาบอกนางว่า ได้จัดการทำป้ายสุสานบรรพบุรุษเป็นชื่อของท่านพ่อและท่านแม่ นำมาไว้ที่จวนตระกูลเจียงแล้ว มีการทำพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณทุกปี เดิมทีฟางหว่านหนิงตั้งใจจะไปกราบไหว้ แต่ก็ติดที่ไป๋หยวนบุตรชายของนางยังเล็กนัก การเดินทางค่อนข้างลำบาก แต่ยามนี้บุุตรของนางเติบโตมากแล้ว ย่อมเดินทางได้ง่ายขึ้น ไป๋จื่อเซียนที่กลับมาจากค่ายทหาร เมื่อเห็นว่าภรรยาและลูกชายของเขากำลังจัดเต
ฟางหว่านหนิงจ้องมองร่างของโจวชิงเหยาที่ยามนี้ถูกไฟไหม้ไม่เหลือซากก่อนจะหลับตาลง แล้วซุกกายเข้าไปในอ้อมกอดของไป๋จื่อเซียน ไป๋จื่อเซียนกอดนางเอาไว้ อีกทั้งยังปลอบประโลมนางด้วยความรักใคร่ "อาหนิง""ไป๋จื่อเซียน เดิมทีตอนที่จับตัวข้าไป เขาไม่ได้ล่วงเกินข้า เขาเพียงหวังจะฆ่าข้าให้ตายตามเขา เขาไม่ยอมให้ข้าแต่งงานกับท่าน ข้า...""ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเชื่อใจเจ้า คนเช่นเจ้า หากต้องตกเป็นของโจวชิงเหยา ข้ารู้ว่าเจ้าคงยอมปลิดชีพตนเองเสียยังดีกว่า""ฮึก ไป๋จื่อเซียน""ไม่ต้องร้องแล้ว เรากลับจวนกันเถิด""อืม"ไป๋จื่อเซียนเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน นางซบกายลงไปอิงแอบเขาอย่างรักใคร่ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าใด ยามที่ได้อยู่ใกล้เขานางก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเสมอมาเมื่อกลับมาถึงจวน ฟางฮูหยินก็วิ่งเข้ามากอดบุตรสาวในทันทีด้วยความห่วงใย ฟางไฉหรงที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยกับไป๋จื่อเซียนอย่างซาบซึ้ง"อาจื่อ ขอบใจเจ้ามาก ข้าเป็นพี่ชายที่แย่ยิ่งนัก ทั้งที่นางเป็นน้องสาวของข้า แต่ว่าข้ากลับไม่ได้ตามไปช่วยนาง""เจ้าอย่าคิดมาก ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เก่งวรยุทธ์เท่าใดนัก พวกมันเป็นนักฆ่าที่ถูกฝึกฝนมา ข้าเกรงว่าเจ้าจะเกิด
ไป๋จื่อเซียนมุ่งหน้าตรงมาที่จวนตระกูลฟางด้วยความร้อนใจ เมื่อมาถึงก็พบกับฟางฮูหยินที่ตกใจจนเป็นลม ด้านเสนาบดีฟางก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าใดนัก เมื่อสอบถามจากสาวใช้คนสนิท จึงได้ความว่า เดิมทีฟางหว่านหนิงกำลังปักผ้าคุลมหน้าเจ้าสาว แต่เพราะว่านางรู้สึกเมื่อยล้าแล้ว จึงอยากออกไปเดินเล่นรับลมที่ด้านนอกเสียหน่อย แต่ทว่านางเห็นว่าคุณหนูออกไปนานแล้ว จึงออกมาตาม แต่กลับพบว่ายามนี้คุณหนูได้หายตัวไปแล้ว มีเพียงผ้าเช็ดหน้าที่ทำตกเอาไว้เพียงเท่านั้น จึงมาแจ้งให้นายท่านและฮูหยินทราบ เหล่าบ่าวไพร่ต่างช่วยกันออกตามหาแต่ก็ไร้ร่องรอยของฟางหว่านหนิง"อาจื่อ จะทำเช่นไรดี?"ไป๋จื่อเซียนหันไปมองฟางไฉหรงคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจยามนี้โจวชิงเหยาหายตัวไป ประจวบเหมาะกับที่ฟางหว่านหนิงก็หายตัวไปอีกเมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็มีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันมาเอ่ยกับฟางไฉหรงด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา"อาไฉ ข้าเกรงว่าเรื่องที่อาหนิงหายตัวไปจะเกี่ยวข้องกับท่านอ๋อง""เอ?"ฟางไฉหรงที่ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีตกใจไม่ต่างกัน หลังจากกำชับบ่าวไพร่ให้ดูแลมารดาให้ดีแล้ว เขาจึงออกมาพร้อมกับไป๋จื่อเซียน "อาจื่อ เจ้าแน่ใจ
ตระกูลไป๋ถูกกักบริเวณร่วมหลายสิบวัน เมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจวชิงเหยา จึงถูกปล่อยตัวออกมา ยามนี้ไป๋จื่อเซียนและแม่ทัพใหญ่ไป๋กำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ ฮ่องเต้โจวฉินอวี้มองพวกเขาสองคนพ่อลูกคราหนึ่ง "ลำบากพวกเจ้าสองพ่อลูกและคนตระกูลไป๋แล้ว แต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั่นถือเป็นเรื่องดี"แม่ทัพใหญ่ไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะเอ่ย "ตระกูลไป๋ซื่อสัตย์ภักดีต่อฝ่าบาทเท่านั้น ไม่เคยคิดเป็นอื่น ขอฝ่าบาทโปรดเมตตาด้วย" "เอาเถิด เรารู้แล้ว แต่เรามีอีกเรื่องที่ต้องการให้พวกเจ้าไปทำ""เชิญรับสั่งเถิดพ่ะย่ะค่ะ" ฮ่องเต้โจงฉินอวี้ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย "ตามจับตัวอาชิงกลับมาให้ได้ เราอยากให้จับเป็น น้องชายผู้นี้จะดีจะร้ายก็มีสายเลือดเดียวกับเรา บางคราเขาอาจจะทำไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ"ไป๋จื่อเซียนและแม่ทัพใหญ่ไป๋รับคำคราหนึ่ง ฮ่องเต้โจวฉินอวี้จึงให้พวกเขาสองพ่อลูกกลับจวนไปเสีย เมื่อพวกเขาออกจากตำหนักไปแล้ว ฮ่องเต้โจวฉินอวี้ก็ทรุดตัวนั่งลงบนบัลลังก์ ขอบตาของเขาแดงก่ำ พยายามฝืนความเสียใจเอาไว้ ตอนที่ได้รู้เรื่องที่โจวชิงเหยาคิ
"นังสารเลวเจียงหว่านหนิง ข้าจะฆ่าเจ้า!!!""ถิงเอ๋อร์!! อย่านะ!!!"ไป๋จื่อเซียนหันไปมองฟางถิงถิงที่ยามนี้กำลังเอ่ยปากด่าทอเจียงหว่านหนิง และกำลังพุ่งทะยานเข้ามาหวังจะตบตีพี่สาวตน แต่ทว่าฟางอวี้เฉวียนกลับรั้งตัวน้องสาวของเขาเอาไว้ ก่อนจะจ้องมองฟางหว่านหนิงอย่างหวาดกลัว จะไม่ให้เขาหวาดกลัวได้เช่นไรกัน สามวันก่อนเขากับฟางถิงถิงวางแผนกันว่าจะลอบทำร้ายฟางหว่านหนิง แต่ผู้ใดจะรู้พี่สาวต่างมารดาผู้นี้กลับมีวรยุทธ์ นางหักนิ้วเขาอีกทั้งยังถีบเขาจนล้มหงายท้องไม่เป็นท่า ไม่พอเท่านั้นนางยังเตะเสยปลายคางเขาจนฟันหน้าหักไปซี่หนึ่ง จากนั้นนางก็ลงมือตบตีฟางถิงถิงอย่างไร้ความปรานี จนพวกเขาสองพี่น้องสะบักสะบอมบาดเจ็บไปไม่น้อย ตั้งแต่ท่านแม่ออกจากจวนไป ท่านพ่อก็ไม่เคยสนใจไยดีพวกเขาสองพี่น้องอีกเลย เมื่อท่านพ่อรู้ว่าเขาคิดทำร้ายฟางหว่านหนิง ก็สั่งขังพวกเขาเอาไว้แต่ในเรือนไม่ให้ออกไปก่อเรื่องได้อีก ฟางหว่านหนิงจ้องมองสองพี่น้องด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเห็นฟางอวี้เฉวียนทุบต้นคอของฟางถิงถิงจนสลบ แล้วแบกน้องสาวตนหนีกลับเรือนไปด้วยความหวาดกลัว "เหตุใดพวกเขาจึงดูหวาดกลัวเจ้าเช่นนี้?"ไป๋จื่อเซียนหันมามองที่ฟางห
ผ่านไปร่วมหลายวัน ในที่สุดเจียงหว่านหนิงก็ได้สติและฟื้นขึ้นมา แต่เพราะนางยังบาดเจ็บอยู่จึงยังไม่อาจขยับกายได้มากนัก นางมองดูไป๋จื่อเซียนที่ยามนี้กำลังส่งยิ้มให้นาง พลางส่งถ้วยชามาให้นางดื่มดับกระหาย นางยิ้มตอบเขาเล็กน้อย"ข้าคิดว่าจะไม่ได้พบกับท่านแล้วไป๋จื่อเซียน"ไป๋จื่อเซียนยื่นมือมาลูบผมนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ย"ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าต้องตายเป็นแน่"เจียงหว่านหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ไป๋จื่อเซียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยปรามนางทันที"อย่าเพิ่งขยับมาก เจ้าบาดเจ็บหนัก!!!""อืม"เจียงหว่านหนิงจึงทิ้งกายลงนอนเช่นเดิม"เมื่อครู่ท่านแม่ของข้ากับซู่เอ๋อร์มาเยี่ยมเจ้า แต่ว่าเจ้ายังหลับอยู่ พวกนางจึงกลับไปก่อน""ลำบากพวกท่านยิ่งนัก""ลำบากอันใดกัน อีกไม่นานเราสองตระกูลก็จะเกี่ยวดองกันแล้ว"ไป๋จื่อเซียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เจียงหว่านหนิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงยื่นมือของตนไปจับมือของเขาเอาไว้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของนาง มันทำให้นางรู้สึกปลอดภัยยามที่ได้เห็นหน้าของไป๋จื่อเซียนเขาเป็นทุกอย่างในชีวิตของนางจริงๆไป๋จื่อเซียนสั่งให้เหรินห่าวไปแจ้งที่ตระก