“พวกแกสองคนอย่าเข้าไปใกล้เค้าเชียวนะ ฉันได้ข่าวมาจากพวกรุ่นพี่ว่าเค้าเกลียดพยาบาลอย่างพวกเรามาก ใครเข้าใกล้เป็นได้หาเรื่องไล่ออก!”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ?” น้ำพราวไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมเค้าถึงได้เกลียด...พยาบาล?”
“นั่นสิ” ปาลิดาเองก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะเธอเองก็ได้ยินมา “เค้ามีปมอะไรเหรอ?”
“ฉันสืบมาเรียบร้อยแล้ว” สุกัญญากระดิกนิ้วเรียกให้เพื่อนทั้งสองขยับหูเข้ามาใกล้อีกนิด “ที่เขาเกลียดพยาบาลก็เพราะท่านประธานแอบมีเมียน้อยเป็นพยาบาลน่ะสิ ตอนนั้นท่านประธานหลงพยาบาลคนนั้นมากถึงกับจะฟ้องหย่าเมียเลยนะ แต่เมียของเขาดันกระโดนตึกตายซะก่อนน่ะสิ!”
“หา!” สองสาวอุทานพร้อมกัน ก่อนจะถอนหายใจพร้อมกันอีกครั้ง “เฮ่อ!”
“ข่าวจริงเหรอ” ปาลิดาถามด้วยใจสั่นเทา แอบภาวนาให้มันเป็นแค่ข่าวลือ
“จริง!” สุกัญญายืนยันเสียงหนักแน่น “แต่เค้าปิดข่าว เมื่อสิบสามปีก่อนนี่เอง มีคนกระโดดตึกโรงพยาบาลลงไปตาย!”
“หา!” น้ำพราวอุทานลั่นด้วยความตกใจ “กระโดดที่ตึกนี้เลยเหรอ!”
“เออ! แต่ไม่ใช่จากดาดฟ้านะ จากชั้นที่สิบสาม หล่นลงมาตรงที่เค้าปลูกต้นแก้วไว้น่ะ ต้นแก้วอายุสิบกว่าปีที่หน้าคาเฟ่ใต้ตึกไง ต้นไม้ต้องห้ามที่ใครก็ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด เค้าว่ากันว่า ช่วงฤดูหนาวจะสวยที่สุด เพราะดอกสีขาวจะบานสะพรั่งไปทั้งต้นเลย มันจะส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั้งโรงพยาบาล ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่คุณช่อแก้วเสียชีวิตพอดี!”
“โอยขนลุก” น้ำพราวลูบขนแขนที่ตั้งชันขึ้นมาเป็นแนวให้สงบลง “ถึงว่าเคยได้กลิ่น”
“ใช่” ปาลิดาหวนนึกถึงภาพของชายหนุ่มที่กำลังนั่งมองสายฝนเมื่อวันก่อน...มันคือความจริงที่ว่าเขาไม่ได้มองสายฝนอย่างที่เธอเข้าใจ แต่เขากำลังมองต้นไม้ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแม่เขาต่างหาก “ต้นแก้วต้นนั้นเอง”
“คุณวินเป็นคนปลูกต้นไม้ต้นนั้นเหรอ” น้ำพราวถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ไม่รู้ว่ะ ก็อาจจะใช่มั้ง”
“แล้วพยาบาลคนนั้นเป็นใครเหรอ?” น้ำพราวถามไม่เลิก แต่ก็เป็นคำถามที่ปาลิดาอยากรู้เช่นกัน แม้จะกลัวคำตอบ และรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก
“เรื่องนี้ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เดี๋ยวค่อยสืบต่อ”
แม้คำตอบจะไม่ชัดเจน แต่ปาลิดาก็แอบกังวลใจ เมื่อคิดว่าเมียน้อยของท่านประธานคนนั้น อาจเป็นคนใกล้ตัวของเธอเองก็ได้
“ไม่จริงหรอก...ไม่จริง...ต้องไม่ใช่!”
“ฝันร้ายหรือคะ ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะคะ ไม่มีใครมาทำอะไรหนูได้ พี่สัญญา”ปาลิดาจับมือเด็กน้อยวัยหกขวบที่น่าสงสารคนนั้นแล้วลูบหลังมือเบา ๆ อย่างอ่อนโยน เด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมาหนึ่งปีแล้ว เธอกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็ง แม้หัวใจจะอ่อนแอลงทุกวัน“หนูคิดถึงเพื่อน ๆ หนูอยากไปโรงเรียนจัง”“อีกไม่นานหนูก็จะได้ไปโรงเรียนแล้ว หนูจะหายป่วยและกลับมาเล่นกับเพื่อน ๆ ได้” ปาลิดาพยายามเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ เผยรอยยิ้มอบอุ่นปลอบประโลม เธอยอมถอดสร้อยคอที่เปรียบเสมือนเครื่องรางของชีวิตออกมา สร้อยคอเงินที่มีจี้ทองคำเป็นรูปเครื่องดักฝันแบบชาวอินเดียนแดง “พี่ได้เครื่องรางนี้มาจากนางฟ้า เธอจะปกป้องเด็ก ๆ ทุกคน ถ้าหนูใส่เครื่องรางนี้ไว้ หนูจะไม่ร้องไห้และไม่ฝันร้ายอีกเลย”ปาลิดาสวมสร้อยคอให้เด็กหญิงข้าวฟ่างแล้วกล่อมเกลาจนสาวน้อยหลับไป...“ฝันดีนะคะ”สวยจัง...ชายหนุ่มสุดเซอร์ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องมองพยาบาลสาวด้วยความชื่นชม ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยของรูปร่างหน้าตาเท่านั้นที่ทำให้เขาประทับใจ แต่ความใจดีมีเมตตาของเธอนั้นต่างหากที่กระแทกใจเขาอย่างแรง ความจริงเขาเจอเธอมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกา
“พวกแกสองคนอย่าเข้าไปใกล้เค้าเชียวนะ ฉันได้ข่าวมาจากพวกรุ่นพี่ว่าเค้าเกลียดพยาบาลอย่างพวกเรามาก ใครเข้าใกล้เป็นได้หาเรื่องไล่ออก!”“ขนาดนั้นเลยเหรอ?” น้ำพราวไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมเค้าถึงได้เกลียด...พยาบาล?”“นั่นสิ” ปาลิดาเองก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะเธอเองก็ได้ยินมา “เค้ามีปมอะไรเหรอ?”“ฉันสืบมาเรียบร้อยแล้ว” สุกัญญากระดิกนิ้วเรียกให้เพื่อนทั้งสองขยับหูเข้ามาใกล้อีกนิด “ที่เขาเกลียดพยาบาลก็เพราะท่านประธานแอบมีเมียน้อยเป็นพยาบาลน่ะสิ ตอนนั้นท่านประธานหลงพยาบาลคนนั้นมากถึงกับจะฟ้องหย่าเมียเลยนะ แต่เมียของเขาดันกระโดนตึกตายซะก่อนน่ะสิ!”“หา!” สองสาวอุทานพร้อมกัน ก่อนจะถอนหายใจพร้อมกันอีกครั้ง “เฮ่อ!”“ข่าวจริงเหรอ” ปาลิดาถามด้วยใจสั่นเทา แอบภาวนาให้มันเป็นแค่ข่าวลือ“จริง!” สุกัญญายืนยันเสียงหนักแน่น “แต่เค้าปิดข่าว เมื่อสิบสามปีก่อนนี่เอง มีคนกระโดดตึกโรงพยาบาลลงไปตาย!”“หา!” น้ำพราวอุทานลั่นด้วยความตกใจ “กระโดดที่ตึกนี้เลยเหรอ!”“เออ! แต่ไม่ใช่จากดาดฟ้านะ จากชั้นที่สิบสาม หล่นลงมาตรงที่เค้าปลูกต้นแก้วไว้น่ะ ต้นแก้วอายุสิบกว่าปีที่หน้าคาเฟ่ใต้ตึกไง ต้นไม้ต้องห้ามที่ใครก็ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด
เมื่อเธอกลับมาทำงานอีกครั้ง สองพยาบาลเพื่อนซี๊ของเธอกำลังเม้าท์มอยด์ถึงหมอภูมินทร์อยู่พอดี เธอแทบจะหันหลังแล้วเดินหนีไปเลย หากไม่โดนน้ำพราวฉุดมือให้นั่งลงเสียก่อน“อบอุ่นชะมัดเลยแก อย่างกับโอปป้าแน่ะ!”เธอหันไปมองตามสายตาหื่น ๆ ของสองสาวที่เอาแต่จ้องผู้ชายตาเป็นมัน เห็นภูมินทร์ยืนคุยอยู่กับญาติคนไข้ตรงหน้าห้องพักฟื้นในท่วงท่าเป็นกันเอง แต่ก็ให้เกียรติ และใส่ใจ เธอยอมรับว่าเขาทั้งหล่อ สมาร์ท และดูอบอุ่นใจดี แต่ก็นั่นแหละ เธอเคยเห็นด้านมืดเขามาแล้ว จะให้เธอมองเขาดีร้อยเปอร์เซ็นเหมือนทุกคนในโรงพยาบาลนี้คงไม่ได้หรอก“หมอมินทร์หล่อที่สุดเลยเนาะ” สุกัญญาเป็นสาวห้าวออกแนวทอมบอย แต่กลับเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหมอมินทร์มาตลอด “เห็นแล้วใจบาง อยากเกิดเป็นกางเกงในของเขาจัง คงจะมีความสุข”“ใครบอกว่าหล่อสุด รองประธานต่างหากเล่า” น้ำพราวเถียงคอเป็นเอ็น พร้อมกับทำตาเพ้อฝัน ยามนึกถึงใบหน้าของชัชวิน วรรธนันท์ ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาล “คนอะไรหล่ออย่างกับพระเอกเกาหลีแน่ะ เห็นเค้าแล้วทำให้นึกถึงคิมวูบินทุกทีเลยอ่ะ”“สองคนนี้น่าจะได้กันนะ” ปาลิดาชักหมั่นไส้ “หมอมินทร์กับอีตารองประธานเนี่ย!”“ต๊า
ปาลิดาสั่งคาปูชิโน่ร้อนจาก ‘ต้นรักคาเฟ่’ ร้านกาแฟสุดโรแมนติกใต้ตึกโรงพยาบาลมาหนึ่งแก้วใหญ่ แล้วโดยสารลิฟต์ขึ้นมายังชั้นดาดฟ้า ซึ่งถูกจัดเป็นสวนสวยเพื่อการพักผ่อนสำหรับคนที่ชอบชมวิวเมืองใหญ่เมื่อไหร่ที่ว่างหรือมีเวลาพักจากงาน เธอมักจะขึ้นมานั่งเล่นบนนี้เสมอ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวง“เฮ่อ...คืนนี้จะมีดาวตกมั้ยนะ” เธอเลือกนั่งตรงม้านั่งตัวเดิม ติดริมตึก ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้สวยที่สุด “อากาศหนาวจัง...อืม...ได้กลิ่นดอกแก้วขึ้นมาถึงบนนี้เลย”“แก้ว!” น้ำเสียงเอ็นดูปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มเมตตาปราณีสร้างความอุ่นใจให้เธอเสมอมา ท่านนั่งลงใกล้กับเธอ แล้วจับมือเธอไว้แน่น เหมือนทุกครั้ง“แม่ปู”“ทำงานเป็นไงบ้าง”“สนุกมากค่ะ และก็มีความสุขมาก ๆ ด้วย”“เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้มั้ย”“ได้สิคะ ทุกคนใจดีมากเลยค่ะ” เธอพูดความจริง แม้จะมีคนช่างนินทาอยู่บ้างก็เถอะ แต่เธอมีเพื่อนรักถึงสองคนเป็นเกราะคุ้มใจ นั่นก็คือสุกัญญาและน้ำพราว เพื่อนสมัยมัธยมที่ได้มาทำงานเป็นพยาบาลอยู่ในแผนกเด็กด้วยกันโดยบ
หลังทำงานหนักที่วอร์ดติดต่อกันมาหลายชั่วโมง ปาลิดาตั้งใจจะไปหากาแฟดื่มที่คาเฟ่ใต้ตึกและจะขึ้นไปนั่งพักผ่อนชมวิวที่สวนลอยฟ้าบนชั้นดาดฟ้าของตึกโรงพยาบาล ตึกสูงยี่สิบห้าชั้นนามว่า ‘ช่อแก้ว’ ซึ่งตั้งตามชื่อของลูกสาวผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้ ตึกสีขาวที่หอมอบอวลไปด้วยดอกแก้วขาวละมุนในทุกฤดู“อืมม หอมจัง” ปาลิดาดมดอกแก้วที่อยู่กลางฝ่ามือตัวเองแล้วยิ้มเอ็นดูในความน่ารักน่าชังของดอกไม้ดอกจิ๋ว ขณะนั่งทำธุระอยู่บนโถชักโครกอย่างมีความสุข ก่อนที่ความทุกข์จะมาเยือนในนาทีต่อมา เมื่อหูของเธอดันได้ยินเสียงสบถขัดอกขัดใจจากคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ เธอจำได้ทันทีว่าเป็นพยาบาลร่วมแผนกที่เข้ามาทำงานในเวลาไล่เลี่ยกัน“คุณปวีณาหัวหน้าพยาบาลดุฉิบเป๋งเลย วันนี้ฉันโดนด่าตั้งหลายครั้งแน่ะ ดุอย่างกับล็อตไวเลอร์ ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของโรงพยาบาล!!”โอ้วววว....พวกเธอกำลังคุยเรื่องแม่ปูของเธอนั่นเอง...แม่ปูหรือคุณปวีณา หัวหน้าพยาบาลที่กุมอำนาจงานในส่วนของพยาบาลเอาไว้ในมือแทบทั้งหมด หญิงวัยกลางคนที่งดงามทั้งภายนอกและภายใน สวยสง่าสมวัย แต่กลับโสดสนิท ไร้คู่ครองเคียงกาย“แกได้ยินข่าวลือมั้ย ที่ว่าหัวหน้าพยาบาลเป็นเม
หนึ่งเดือนมาแล้ว...ที่เธอได้สวมแบบฟอร์มสีขาวอันงดงามของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ‘MHD medical center’ ได้เป็นพยาบาลตามที่ฝันใฝ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างที่ใจปรารถนา และได้เป็น ‘นางฟ้า’ ของเด็กน้อยมากมายนับไม่ถ้วนปาลิดาในวัย 23 ปี กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่สวยสะพรั่งดั่งดอกไม้งามกลางแสงอรุณ มีหัวใจที่อบอุ่นอ่อนโยนราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาสุกสกาวสดใสคู่นั้นมีความกล้าหาญซ่อนอยู่ แต่หากมองให้ลึกลงไปในส่วนเสี้ยวของแววตา ก็จะพบว่า มันเจือจางด้วยความเศร้าอย่างแผ่วบาง...“พอใส่ชุดนี้แล้วสวยขึ้นนะเนี่ย” เธอมองตัวเองในกระจกด้วยความภาคภูมิใจ ชุดพยาบาลทำให้เธอดูสวยกว่าเดิมหลายเท่า ริมฝีปากอิ่มสีพีชส่งให้ใบหน้ารูปไข่ไร้เครื่องสำอางดูเซ็กซี่แบบไม่ได้ตั้งใจ ผมดำยาวสลวยถูกรวบเก็บอย่างดีภายใต้หมวกพยาบาล เผยให้เห็นต้นคอระหงขาวสะอาด ดูสง่า ดุจนางพญา“เรานี่สวยจัง แต่...ใครจะรู้ล่ะ” ว่าเธอไม่ได้เพอร์เฟคอย่างที่ทุกคนคิด ความงามของเธอนั้นมีตำหนิ มีบาดแผลที่ลบไม่ออกซ่อนอยู่ บาดแผลที่สร้างความเจ็บปวดให้เธอทุกครั้งเมื่อนึกถึง...ย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อน ตอนที่เธออายุได้ 7 ขวบ มารดาได้พาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านของพ่อเ