ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้
ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี
หล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหน
นทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้ว
หญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่หล่อนยืนอยู่ แม้เขาจะยังคงมองไม่เห็น แต่กระนั้นอิทธิพลจากเขาก็ทำให้หล่อนสั่นสะท้านได้อย่างง่ายดาย
ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากแต่งงาน หล่อนป่วยเป็นไข้ทับระดูทำให้รัชชานนท์ไม่ทวงสิทธิ์กับร่างกายของหล่อนได้ แต่วันนี้ประจำเดือนก็ได้หมดลงแล้ว และไอ้อาการตัวร้อนจากพิษไข้ก็ทุเลาลงจนแทบจะเรียกได้ว่าหายสนิทแล้ว เนื้อตัวสาวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาทันที
คืนนี้รัชชานนท์จะใช้สิทธิ์นั้นกับเรือนร่างของหล่อนไหมนะ...
แล้วถ้าเขาคิดจะใช้สิทธิ์นั้นจริงๆ หล่อนควรจะทำยังไงดี... หล่อนจะทำใจได้แค่ไหนกันกับการที่ต้องปล่อยให้ผู้ชายที่เกลียดหล่อนเต็มหัวใจทำลายสิ่งล้ำค่าของชีวิตผู้หญิง...
แต่หล่อนมีทางเลือกอย่างนั้นหรือ...
เงินจำนวนสามแสนบาทที่หล่อนขอยืมไปจากเขา โดยใช้เรือนร่างของหล่อนและการผลิตลูกให้เขาเป็นเครื่องรับประกัน เขาคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้สิ่งที่หวัง แต่สำหรับหล่อนมันคือฝันร้ายที่คงจะเฝ้าหลอกหลอนไปตลอดชีวิต จนกระทั่งบัดนี้หญิงสาวยังคิดไม่ออกเลยว่าตัวเองจะทิ้งลูกน้อยไว้กับผู้ชายที่เห็นหล่อนเป็นเพียงขยะข้างทางที่ซื้อหาได้ด้วยเงินได้อย่างไร
หล่อนจะใจร้ายถึงขั้นนั้นเลยหรือ... จะทอดทิ้งสายเลือดของตัวได้จริงๆ หรือ...
ยาคุมกำเนิด...!
ทางออกเพียงทางเดียวที่พระเจ้าประทานใส่มือมาให้ ใช่... หากหล่อนไม่ต้องการที่จะเจ็บปวดในอนาคตด้วยการที่ต้องระเห็จไปอยู่ในฐานะแม่ใจร้ายที่ทอดทิ้งลูกน้อยไว้กับพ่อใจยักษ์ล่ะก็ หล่อนก็จะต้องคุมกำเนิด และก็จะให้เขาล่วงรู้ไม่ได้...
และในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน หล่อนก็จะต้องหางานทำ ต้องเก็บเงินมาใช้หนี้รัชชานนท์ให้ครบทั้งต้นและดอก เพื่อชีวิตของหล่อนจะได้หลุดพ้นจากเจ้าบ่าวอสูรอย่างเขาเสียที
“แม้มีนจะรักคุณ แต่มีนก็ยอมทำตามความต้องการของคุณไม่ได้ค่ะ คุณนนท์...”
เมื่อหลุดจากภวังค์สาวน้อยที่แสนจะอาภัพนักอย่างนทิชาก็พึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง หัวใจปวดร้าวราวกับถูกกลุ่มเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง
“มีนยอมทิ้งลูกไว้กับคุณไม่ได้ มีนรู้ดีว่าคุณไม่มีทางรักแก พอๆ กับที่คุณไม่เคยรักมีน...”
ยิ่งคิดความเจ็บปวดร้าวลึกก็ทะลวงเข้าไปในหัวใจ หยาดน้ำตาใสๆ เอ่อคลอดวงตากลมโตหวานฉ่ำของหล่อนจนแทบจะมองฝ่าอากาศไปไม่เห็น หญิงสาวพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอไปอย่างยากลำบาก ก่อนที่จะรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อพยุงกายที่อ่อนล้าให้ลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการที่จะต้องเผชิญหน้ากับอสูรร้ายอย่างรัชชานนท์
“คุณมีนไปไหน ส้มโอ...”
ร่างสูงสง่าในชุดสูทที่ผ่านการตัดเย็บอย่างดีจากช่างมืออาชีพเดินเข้ามาหยุดยืนตระหง่านอยู่กลางห้องโถงใหญ่ ขณะตวัดสายตาที่ซ่อนอยู่ภายในแว่นดำมองร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยของสาวใช้ที่ชื่อส้มโอ ที่กำลังยืนก้มหน้ารอรับคำสั่งจากเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดขั้ว โดยลืมไปว่าตัวเองนั้นยังอยู่ในบทบาทของคนตาบอดมองไม่เห็น
“คุณนนท์มองเห็นส้มโอด้วยหรือคะ...”
เสียงเหน่อแบบสุพรรณของส้มโอถามออกมาด้วยความสงสัย ก่อนจะก้มหน้านิ่ง เมื่อถูกรัชชานนท์ดุเสียงกร้าว
“แล้วคิดว่าฉันแกล้งตาบอดอย่างนั้นหรือ...”
ส้มโอหันไปมองหน้ามะนาวน้องสาวฝาแฝดที่มีน้ำหนักเกินร้อยไม่แพ้กันด้วยใบหน้ากังขา ก่อนจะรีบตอบชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายด้วยความหวาดเกรง
เมื่อก่อนรัชชานนท์ไม่เคยอารมณ์ร้ายแบบนี้ แต่พอรฎาพรเสียชีวิตไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชายหนุ่มก็โมโหร้าย ดุกร้าวจนน่ากลัว จนใครๆ ก็ไม่สามารถเข้าหน้าได้ติด ขนาดลำไยแม่ของหล่อนที่เลี้ยงรัชชานนท์มาตั้งแต่ยังแบเบาะยังไม่กล้าขัดใจเขาแม้แต่ครั้งเดียว
“คุณมีนอยู่ในห้องค่ะ เธอยังไม่สร่างไข้ดี...”
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเยาะด้วยความชิงชัง นัยน์ตาคมกร้าวกระด้างน่ากลัว “สำออยไม่ว่า เป็นมาเกือบอาทิตย์แล้วยังไม่คิดจะหายอีก...”
ทั้งส้มโอและมะนาวสาวใช้ต่างพากันอึ้งพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเจ้านายหนุ่มพูดถึงภรรยาสาวที่พึ่งแต่งงานกันมาได้เพียงอาทิตย์เดียวด้วยท่าทางรังเกียจอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ นี่ยังไม่รวมถึงการแยกห้องกันนอนระหว่างรัชชานนท์กับนทิชาตั้งแต่คืนแรกของการเข้าหออีกด้วยนะ
“คุณนนท์พูดเหมือน...”
“หุบปากได้แล้วส้มโอ แล้วไปตามคุณมีนมาพบฉันที่ห้องหนังสือ...”
พูดจบร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามของรัชชานนท์ก็หมุนตัวเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหนังสือที่อยู่ชั้นล่างปีกซ้ายของตัวคฤหาสน์ด้วยความคล่องแคล่ว โดยไม่ต้องให้ใครบอกทาง
ส้มโอทำหน้าทึ่ง ก่อนจะพึมพำออกมาด้วยความแปลกประหลาดใจ
“ฉันว่าคุณนนท์แกเหมือนคนมองเห็นทุกอย่างเลย ว่าไหมมะนาว... ไปห้องหนังสือได้โดยที่ไม่ต้องมีคนช่วยนำทาง... ” ส้มโอหันไปถามน้องสาวอย่างเคลือบแคลง
“ก็คุณนนท์เคยบอกพี่ตั้งหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนที่พี่ถามน่ะ ว่าเธอทำทุกอย่างได้ เพราะที่นี่คือบ้านของเธอ และเธอก็จำได้ทุกซอกทุกมุมของบ้าน แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม...” ผู้เป็นแฝดน้องเตือนความจำของพี่สาวด้วยเสียงรำคาญ
“แต่เมื่อก่อนตอนที่คุณนนท์ตาบอดใหม่ๆ ทำไมไม่คล่องแคล่วแบบนี้ล่ะ”
ส้มโอยังไม่เลิกสงสัย มะนาวจึงตัดบท เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัยของนทิชา หล่อนรู้ดีว่ารัชชานนท์เจ้านายของหล่อนนั้นเจ้าอารมณ์ขนาดไหน
“เราเลิกพูดเรื่องของเจ้านายดีกว่า รีบไปตามคุณมีนเถอะ ชักช้าเดี๋ยวคุณมีนจะเดือดร้อน”
“แล้วเรื่องคุณมีนอีก ไม่รู้ว่าโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน ฉันก็นึกว่ารักกันถึงได้แต่งงานกัน แต่ที่ไหนได้พอแต่งกันปุ๊บก็แยกห้องนอนกันทันที แถมคุณนนท์นะยังทำท่าทางราวกับขยะแขยงคุณมีนอีก...”
ไม่ใช่แค่ส้มโอคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้นแม้แต่มะนาวเองก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน เพราะท่าทีของรัชชานนท์นั้นแสดงออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบังแม้แต่น้อยว่ารังเกียจนทิชา จะมีก็แต่คุณมีนของหล่อนนั่นแหละที่แสดงท่าทีว่าหลงรักรัชชานนท์จนโงหัวไม่ขึ้น
“เรื่องของเจ้านายน่ะ ไปตามคุณมีนเถอะ ไปสิพี่ส้มโอ...”
ส้มโอพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังห้องหอที่นทิชาพักอยู่อย่างรวดเร็ว เพราะหากมัวชักช้าอยู่ บ้านทั้งหลังได้ระเบิดแน่
“เข้ามาได้...”
น้ำเสียงกระด้างที่ยังคงมีผลให้สันหลังของหล่อนเย็นเยือกได้ทุกครั้งที่ได้ฟังของรัชชานนท์เอ่ยขึ้นเมื่อหล่อนได้เคาะประตูไม้สักแกะสลักงดงามบานใหญ่สองครั้ง
หญิงสาวรู้สึกได้ว่าขาของตนเองสั่นเทาแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงในการก้าวเดินไปข้างหน้า ลมหายใจที่ถูกสูดเข้าไปเพื่อเรียกความมั่นใจหลายต่อหลายครั้งไม่ได้ทำให้ต่อมความกล้าหาญของหล่อนทำงานดีขึ้นเลย มันทั้งกลัว มันทั้งสั่น ยิ่งการเผชิญหน้ากันครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดวันด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งสั่นสะท้าน
สมองคิดไปต่างๆ นานาว่ารัชชานนท์กำลังคิดจะทำอะไรกับหล่อน กำลังจะทวงสิทธิ์ในร่างกายของหล่อนหรือเปล่า หรือว่าบางทีเขาอาจจะหาทางกลั่นแกล้งหล่อนอีกก็ได้
นทิชากระพริบตากลมโตหลายครั้งติดกันเพื่อขับไล่น้ำตาที่เอ่อล้นขอบตาให้เหือดแห้งหรือไม่ก็ให้มันไหลกลับลงไปในหัวอก คิดไม่ออกจริงๆ เลยว่ารัชชานนท์เกลียดชังอะไรตัวเองนักหนา ทำไมถึงได้ทำเหมือนกับว่าการแต่งงานในครั้งนี้คือบทหนึ่งของความแค้นยังไงยังงั้นแหละ
หรือว่าเขาต้องการเห็นหล่อน ผู้หญิงที่เขาซื้อได้ด้วยเงินเพียงสามแสนบาท ทรมาน เจ็บปวด และขาดใจตายไปอย่างทุกข์ทรมาน ผู้ชายอย่างเขาถึงจะพอใจ
ตอนที่ 3.กลีบปากที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากไข้ลดลงเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปจับลูกบิดทองเหลืองที่เย็นเฉียบพอๆ กับอุ้งมือของหล่อนแน่น และไม่ช้าประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจนกว้างและอสูรร้ายที่นั่งอยู่บนรถเข็นตรงกลางห้องก็ปรากฏขึ้นแก่สายตารัชชานนท์ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเสมอในสายตาของหล่อน หญิงสาวไล่สายตาบนใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมที่ดูคล้ายกับรูปปั้นไร้ชีวิตของบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมแม้ดวงตาคมกล้าที่หล่อนเคยได้พิศมองน้อยครั้งนักยังคงซ่อนอยู่ในเลนส์แว่นสีดำสนิท แต่แค่ปลายจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีสดที่หยักได้รูปก็ทำให้ใบหน้าของรัชชานนท์สมบูรณ์แบบ หรือบางทีอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าชายหนุ่มช่างดูหล่อเหลาราวกับไม่ใช่คนจริงๆ เป็นรูปปั้นที่จิตกรฝีมือเอกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาแต่เขามีเลือดเนื้อ... มีชีวิตจริงๆความปรารถนาในบางสิ่งบางอย่างระเบิดตูมครอบคลุมกายสาวในทันที และมันก็แผ่ซ่านมุ่งหน้าเข้าจู่โจมที่แก่นกลางลำตัวอย่างน่าละอายทำไมหล่อนถึงได้คิดอะไรบ้าบอ ไร้ยางอายแบบนี้ได้ทุกครั้ง ยามที่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้นะ...“คิดว่าต้องให้คนตาบอดอย่างฉันเดินไปเปิดประตู
ตอนที่ 4.“มีนคงไร้ค่ามากใช่ไหมคะในสายตาของคุณนนท์...”น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะก้มหน้ารับสภาพที่น่าสังเวชจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักหมดใจให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินเพราะยิ่งหล่อนอ่อนแอ ยอมเขามากเท่าไหร่ รัชชานนท์ก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่าของหล่อนด้วยวาจาเราะร้าย“ม่าย... อย่าคิดว่าเธอไร้ค่านักสิ อย่างน้อยก็ควรจะดีใจที่เนื้อตัวของเธอยังขายทอดตลาดได้ตั้งสามแสนบาท...”น้ำตาร่วงลงมาอาบแก้มนวล สาวน้อยกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลังแต่ก็ไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ได้ ความเจ็บปวดที่รัชชานนท์สาดซัดเข้าใส่ทำให้หัวใจของหล่อนเลือดโซก ร่างบางที่ยืนนิ่งให้ชายหนุ่มที่มีร่างกายเป็นเทพบุตรแต่จิตใจเป็นอสูรกอดรัดอยู่เมื่อครู่นี้เริ่มดิ้นรน“ปล่อยนะ... ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้ ถ้าเกลียดกันนักจะมากอดกันทำไม...”“ก็เพราะเกลียดยังไงล่ะ ถึงได้ทำอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอได้ นทิชา... เธอมันน่ารังเกียจ” ทุกคำพูดถูกบีบเค้นออกมาจากจิตวิญญาณ“แต่ฉันก็ยังต้องการเนื้อตัวของเธอ ยังต้องการจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ อยากจะรู้นักว่าไอ้อดิเทพหน้าจืดมันยังจะต้องการ
ตอนที่ 1.ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผากไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิตดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลกโหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้นรัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท
ตอนที่ 4.“มีนคงไร้ค่ามากใช่ไหมคะในสายตาของคุณนนท์...”น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะก้มหน้ารับสภาพที่น่าสังเวชจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักหมดใจให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินเพราะยิ่งหล่อนอ่อนแอ ยอมเขามากเท่าไหร่ รัชชานนท์ก็ยิ่งตอกย้ำความไร้ค่าของหล่อนด้วยวาจาเราะร้าย“ม่าย... อย่าคิดว่าเธอไร้ค่านักสิ อย่างน้อยก็ควรจะดีใจที่เนื้อตัวของเธอยังขายทอดตลาดได้ตั้งสามแสนบาท...”น้ำตาร่วงลงมาอาบแก้มนวล สาวน้อยกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลังแต่ก็ไม่อาจจะเก็บมันเอาไว้ได้ ความเจ็บปวดที่รัชชานนท์สาดซัดเข้าใส่ทำให้หัวใจของหล่อนเลือดโซก ร่างบางที่ยืนนิ่งให้ชายหนุ่มที่มีร่างกายเป็นเทพบุตรแต่จิตใจเป็นอสูรกอดรัดอยู่เมื่อครู่นี้เริ่มดิ้นรน“ปล่อยนะ... ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้ ถ้าเกลียดกันนักจะมากอดกันทำไม...”“ก็เพราะเกลียดยังไงล่ะ ถึงได้ทำอย่างนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอได้ นทิชา... เธอมันน่ารังเกียจ” ทุกคำพูดถูกบีบเค้นออกมาจากจิตวิญญาณ“แต่ฉันก็ยังต้องการเนื้อตัวของเธอ ยังต้องการจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ อยากจะรู้นักว่าไอ้อดิเทพหน้าจืดมันยังจะต้องการ
ตอนที่ 3.กลีบปากที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากไข้ลดลงเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปจับลูกบิดทองเหลืองที่เย็นเฉียบพอๆ กับอุ้งมือของหล่อนแน่น และไม่ช้าประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกจนกว้างและอสูรร้ายที่นั่งอยู่บนรถเข็นตรงกลางห้องก็ปรากฏขึ้นแก่สายตารัชชานนท์ยังหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเสมอในสายตาของหล่อน หญิงสาวไล่สายตาบนใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมที่ดูคล้ายกับรูปปั้นไร้ชีวิตของบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมแม้ดวงตาคมกล้าที่หล่อนเคยได้พิศมองน้อยครั้งนักยังคงซ่อนอยู่ในเลนส์แว่นสีดำสนิท แต่แค่ปลายจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีสดที่หยักได้รูปก็ทำให้ใบหน้าของรัชชานนท์สมบูรณ์แบบ หรือบางทีอาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าชายหนุ่มช่างดูหล่อเหลาราวกับไม่ใช่คนจริงๆ เป็นรูปปั้นที่จิตกรฝีมือเอกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาแต่เขามีเลือดเนื้อ... มีชีวิตจริงๆความปรารถนาในบางสิ่งบางอย่างระเบิดตูมครอบคลุมกายสาวในทันที และมันก็แผ่ซ่านมุ่งหน้าเข้าจู่โจมที่แก่นกลางลำตัวอย่างน่าละอายทำไมหล่อนถึงได้คิดอะไรบ้าบอ ไร้ยางอายแบบนี้ได้ทุกครั้ง ยามที่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้นะ...“คิดว่าต้องให้คนตาบอดอย่างฉันเดินไปเปิดประตู
ตอนที่ 2.ลำคอตีบตันรวดร้าวเพราะน้ำตาที่นทิชาพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าแค่หล่อนติดหนี้เขาเพียงแค่สามแสน ทำไมรัชชานนท์ถึงได้ใจร้ายกับหล่อนมากนัก ทำไมถึงต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีกันมากมายขนาดนี้ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่เขาเอ่ยปากบอกว่าจะจัดงานแต่งงานให้นั้น หล่อนคิดว่าเขาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผิดคาด เพราะนอกจากเขาจะตอกย้ำถึงจุดประสงค์ที่จัดงานแต่งแล้ว เขายังทำให้ความฝันของหล่อนที่มีเขาอยู่ในนั้นพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีหล่อนโง่เองที่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ปิดหูปิดตาไม่สนใจความจริงที่ชายหนุ่มแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังเวลาที่เผชิญหน้ากันว่ารังเกียจและขยะแขยงหล่อนเพียงไหนนทิชายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาจากดวงตากลมโตที่ตอนนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำใสๆ ที่มันจะไหลออกมาพร้อมๆ กับความเสียใจเสมอด้วยความรวดร้าว ถึงเวลาแล้วที่หล่อนควรจะต่อต้านเขาเสียที หล่อนจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายที่ทั้งตาบอดและหัวใจบอดคนนี้ทำราวกับว่าหล่อนไม่มีหัวใจอีกแล้วหญิงสาวตลบผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรับรู้ถึงกระแสสายตาคมกล้าที่ถูกปิดบังด้วยแว่นตาสีดำแหงนเงยขึ้นมายังตำแหน่งที่
ตอนที่ 1.ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วยืนสงบนิ่งอยู่หน้าเจดีย์ของน้องสาวเพียงคนเดียวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยสายตาอาลัยเศร้าหมอง ชุดสูทไร้ที่ติกลืนไปกับเส้นผมสีดำสนิทที่ถูกสายลมโชยพัดแผ่วๆ จนปรกหน้าผากไหล่กว้างซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวช่วยเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำแสดงถึงความแข็งแรงและมีพละกำลังอย่างน่าทึ่ง แสงตะวันกล้ายามสนธยาที่อาบไร้ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ช่วยเน้นรูปหน้าหล่อเข้มคมคายให้คล้ายกับหินสลักที่ไร้ชีวิตดวงตาสีนิลถูกห้อมล้อมด้วยขนตาดกดำเป็นประกายดุดันพร้อมจะฟาดฟันกับผู้ที่เป็นศัตรูให้ย่อยยับอย่างไม่ปรานี สันจมูกโด่งตรงช่วยเสริมให้ใบหน้าหล่อกระชากใจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับถูกปั้นแต่งโดยจิตรกรเอกของโลกโหนกแก้มสูงและกรามสี่เหลี่ยมมีไรเคราเขียวครึ้มที่ทำให้เขาดูแกร่งกระด้าง น่ากลัว และต่ำลงไปกว่านั้นคือริมฝีปากหยักสีสดบางได้รูปที่ปราศจากรอยยิ้มแห่งความสุขมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ด้วยการกระทำที่น่ารังเกียจของหญิงชายคู่นั้นรัชชานนท์ วนิชเจริญกุล ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโรงแรมหรูห้าดาวในเครือ วนิชกรุ๊ป ชายหนุ่มสูญเสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุบนท