FAZER LOGINเช้าวันต่อมา
“อื้อหาวว…” มินตรายืนบิดขี้เกียจพร้อมกับอ้าปากหาวกว้างออกมาโดยที่ไม่สนใจสายตาของใครเลย “เมื่อคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนรึไง” “นอนจ้ะยาย แต่มินรู้สึกง่วงยังไงก็ไม่รู้” “ขี้เซาล่ะสิไม่ว่า” เมื่อคืนเธอกลับมาถึงห้องตอนเที่ยงคืนและเธอก็หลับไปเลยไม่ได้ออกไปไหนต่อ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกง่วงขนาดนี้ “ยาย…มินถามอะไรหน่อยสิ” “ว่ามา” “คุณกรของยายนิสัยเขาเป็นแบบไหนหรอ เค้าดุหรือเปล่า หรือว่าเค้าเป็นคนแบบ…” “เอ็งจะอยากรู้ไปทำไม มันไม่ใช่เรื่องไม่ใช่กงการอะไรของเอ็งเลย” “ก็มะ….” “อะไรของเอ็ง ไปเลยไปทำงานของเอ็งได้แล้วเสียเวลา” “จ้ะยาย” มินตราหิ้วถุงขยะไปทิ้งที่หน้าบ้านตามปกติ และมันคงจะกลายเป็นหน้าที่ประจำของเธอไปแล้ว เพราะเธอไม่ค่อยมีฝีมือเรื่องการทำอาหารเท่าไหร่ ทำได้มากสุดก็แค่ต้มมาม่าใส่ไข่เหมือนที่เธอทำให้มาเฟียหนุ่มกินเมื่อคืน มันเป็นอาหารหลักในชีวิตของเธอในช่วงวัยเรียน เพราะพ่อแม่ต้องทำงานเลยปล่อยให้เธอดูแลตัวเอง มีพ่อแม่ก็จริงแต่เธอเหมือนอยู่คนเดียวมากกว่า เพราะพ่อแม่ไปทำงานไม่ค่อยกลับบ้านซึ่งเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่างานที่พ่อกับแม่ทำเป็นงานอะไร เงินก็ได้ใช้เพียงน้อยนิด เธอเลยต้องประหยัดเท่าที่จะประหยัดได้ “ทางนี้ครับคุณมังกร” “….” เด็กสาวหันไปมองตามเสียง ก่อนจะพบกับชายหนุ่มกำลังเดินมาพร้อมกับลูกน้องอีกสองคน เขาใส่ชุดสูทสีดำซึ่งน่าจะเป็นสีที่เขาชอบมากที่สุด ไม่ว่าวันไหนเธอก็เห็นเขาใส่ชุดสีดำอย่างเดียว มินตรายิ้มให้เล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่า เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอเลย “ชิ! หยิ่งให้ได้ตลอดก็แล้วกัน!” มินตรายืนมองรถเก๋งสปอร์ตคันสีดำขับผ่านหน้าเธอไป คนเมื่อคืนกับคนในตอนนี้คนละคนกันเลย ทำเอาเธอแปลกใจไม่น้อย “มินตรา!” “จ้ายาย” “มาเร็วๆ สิ ยืนทำอะไรอยู่ได้” “จ้ะๆ ยาย” เธอรีบวิ่งกลับเข้าไปช่วยยายทำงานต่อ จนกระทั่งเสร็จงานหมดทุกอย่างแล้วมินตราก็คว้าหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดของตัวเองไปนั่งอ่านอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ข้างๆ บ้านที่เธอพักอยู่ ในช่วงตอนกลางวันไม่มีงานอะไรให้ทำ และนิสัยอย่างเธอก็เป็นคนที่เบื่ออะไรง่ายๆ ไม่ชอบทำอะไรที่มันจำเจ เวลาว่างชอบนั่งอ่านหนังสือมากที่สุด “ยาย…” “อือ..” “พ่อกับแม่ติดต่อยายมาบ้างหรือเปล่า?” “ไม่อะ เอ็งจะทำอะไรกับพวกมันล่ะ?” “ยายรู้มั้ยว่าพ่อกับแม่ไปทำงานที่ไหน” “เอ็งจะรู้ไปทำไม เอ็งก็อยู่กับพ่อแม่ของเอ็งมาตั้งนาน ไม่รู้เลยรึเพราะพวกมันทำงานอะไร” “ไม่จ้ะยาย พ่อกับแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ได้แต่บอกว่ามีงานต้องทำ บางทีก็หายไปเป็นอาทิตย์เลยไม่กลับบ้าน” “เฮ้อ…พ่อกับแม่ของเอ็งมันก็แบบนี้แหละนะ แทนที่จะห่วงลูกบ้างแต่กลับไปทำงานที่ไหนก็ไม่รู้” “หนูอยากกลับบ้านจังเลยจ้ะยาย” “ทำไมล่ะ งานที่นี่มันหนักรึ?” “เปล่าจ้ะยาย หนูก็แค่รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับหนู” เธออยู่คนเดียวมาจนชินแล้วก็เลยไม่ชอบความวุ่นวายหรือสถานที่ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา “แล้วถ้ากลับไปเอ็งจะไปอยู่กับใคร เป็นสาวเป็นนางอยู่บ้านคนเดียวได้ที่ไหน ถ้ามีคนมาทำมิดีมิร้ายเอ็งขึ้นมาจะทำไง คนสมัยนี้ไว้ใจกันได้ที่ไหน” “….” มินตรานั่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรไป “พ่อแม่ของเอ็งไปทำงานที่ไหนยายก็ไม่รู้เหมือนกัน มันได้แต่บอกว่าต้องไปทำงานไกลแล้วเอาเอ็งไปด้วยไม่ได้” “เมื่อก่อนพวกเค้าก็ทิ้งให้หนูอยู่คนเดียวอยู่แล้วนี่นา ทำไมต้องพาหนูมาอยู่กับยายด้วยล่ะ” “บ๊ะ!! ไอ้เด็กคนนี้ถามมากจริงๆ แล้วยายจะรู้มั้ยล่ะ พ่อกับแม่ของเอ็งก็คงเป็นห่วงเอ็งนั่นแหละถึงไม่อยากให้เอ็งอยู่บ้านคนเดียว” “….” “อยู่นี่มันก็สบายดีไม่ต้องกลัวอะไร มีข้าวกินมีเงินเดือนให้ทุกเดือน แค่นี้แล้วเอ็งจะเอาอะไรอีกมินตรา” “ไม่เอาจ้ะยาย” “ไม่เอาอะไรก็หยุดถาม ยายเหนื่อยจะตอบ” “แถวนี้มีร้านสะดวกซื้อหรือร้านหนังสือหรือเปล่ายาย” “เอ็งจะทำไม?” “มินอยากออกไปซื้อหนังสือใหม่ เล่มเก่าที่มีอ่านครบหมดแล้ว” “ยายก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้เป็นคนออกไปซื้อของ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องไปถามลูกน้องของคุณมังกรโน่นออกไปข้างนอกกันบ่อยน่าจะรู้บ้าง” “เขาดุมั้ยยาย” “ไม่ดุหรอก” เพราะเคยอยู่คนเดียวเธอเลยเข้าหาคนไม่เก่ง โดยเฉพาะกับผู้ชายที่เธอไม่ค่อยถูกชะตาด้วยเลย เวลาต่อมา “พี่ๆ มินขอถามอะไรหน่อยสิ” มินตราเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่กลับมาพร้อมกับเจ้านาย แต่เธอรอให้เขาเข้าไปในบ้านก่อนแล้วถึงเดินเข้าไปถาม “ครับ” “แถวนี้มีร้านขายหนังสือมั้ยคะ พอดีว่าหนูจะออกไปซื้อหนังสือ” “มีครับ แต่ต้องขับรถไปในตัวเมืองนะ แถวนี้ไม่มีขายหรอก” “อ๋อ…” “ถ้าไม่อย่างนั้นก็นั่งรถแท็กซี่ไป ร้านหนังสือเป็นร้านใหญ่ๆ ทั้งนั้นสังเกตเห็นได้ง่ายอยู่แล้วล่ะ” “ขอบคุณค่ะ” ทางเดียวที่เธอจะไปได้ก็คือนั่งรถแท็กซี่ไปเหมือนกับพวกแม่บ้านที่ออกไปซื้อของตอนเช้า “จะออกไปซื้อหนังสือเรียนหรอ?” “เปล่าค่ะ มินชอบอ่านหนังสือแต่หนังสือที่มีมินอ่านหมดแล้ว ก็เลยจะไปซื้อมาใหม่เอาไว้นั่งอ่านเวลาว่างๆ” “ที่ห้องของพี่มีหนังสือเยอะแยะเลยนะ ถ้าเราสนใจเดี๋ยวพี่พาไปดู” “หือ??” “ก็บ้านหลังที่อยู่ท้ายบ้านพักของเราไง” “นั่นบ้านพี่เหรอ?” “อื้ม…เป็นบ้านของพวกการ์ดน่ะ” “หนูก็นึกว่าเป็นบ้านร้างเห็นเงียบกริบกันเลย” “ตอนกลางวันไม่มีใครอยู่หรอก ส่วนตอนกลางคืนก็พากันนอนหลับกันหมด” “เซน!” “ครับคุณมังกร” “รีบเอาเอกสารเข้ามา ฉันต้องรีบใช้เอกสารด่วน” “ครับๆ พี่ไปก่อนนะ” “ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะมองการ์ดหนุ่มหิ้วกระเป๋าหนังสีดำเดินเข้าไปในบ้าน ทั้งสองคนสบตากันเมื่อมินตราหันไปแต่มาเฟียหนุ่มกลับมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งแววตามีแต่ความว่างเปล่า จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้านในทันทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับเธอสักคำเดียว “เบื่อจริงๆ พวกคนรวยแล้วหยิ่ง เหอะ! อย่าให้รวยบ้างก็แล้วกัน” มินตราบ่นพึมพำแล้วเดินกลับไปบ้านของตัวเองทันทีหลายวันผ่านไป “พี่จันทร์” มินตราลุกเดินออกมาจากห้องหลังจากที่เธอนอนซมอยู่หลายวันเพราะพิษไข้ และวันนี้ก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเริ่มหายดีบ้างแล้ว “อ้าวคุณหนู เป็นยังไงบ้างคะยังเวียนหัวอยู่อีกหรือเปล่า?” “นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณพี่จันทร์มากนะคะที่คอยดูแล”“ไม่ใช่พี่หรอกค่ะ แต่เป็นนายต่างหากที่คอยดูแล”“นาย?”“ก็คุณมังกรนั่นแหละค่ะ”“อ๋อ” “เดี๋ยวพี่มานะ”“พี่จันทร์จะไปไหนคะ?”“นายสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณหนูพื้นแล้วให้พี่ไปบอกนาย” “ไม่ต้องไปบอกเค้าหรอกค่ะพี่จันทร์ มินอยากอยู่แบบนี้มากกว่า มินไม่อยากเห็นหน้าเขา พี่จันทร์เข้าใจใช่มั้ยคะ”“ค่ะคุณหนู ไม่บอกก็ไม่บอก” “…..”“พี่ขอนะคะคุณหนูอย่างหนีอีกเลย ที่นี่มันเป็นเกาะค่ะทางออกทางเดียวก็คือต้องนั่งเรือออกไปเท่านั้นค่ะ พี่ไม่อยากเห็นคุณหนูต้องเจ็บตัวอีก”“ต่อให้มินคิดหนีอีก มันก็คงไม่มีทางหนีออกไปได้หรอกค่ะ”“ยังดีนะคะที่คุณหนูรอดกลับมาได้ ตรงนั้นมันเป็นหน้าผาข้างล่างก็เต็มไปด้วยหินแหลมๆ มีคนเคยตกลงไปแล้วตายเพราะตกใส่หิน จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าไปตรงนั้นอีกเลย” “มินออกไปเดินเล่นแถวๆ นี้ได้มั้ยคะ”“คุณหนู…” “พี่จันทร์ไม่ต้องกลัวว่ามินจะหนีหรอกค่ะ ต่อให
เวลาผ่านไป “คุณหนูขา อย่าวิ่งค่ะคุณหนู” เสียงของศรีจันทร์ร้องลั่น เมื่อมินตรากระชากสายน้ำเกลือแล้ววิ่งหนีออกมาจากบ้าน มังกรรีบมาคว้าตัวของเธอเอาไว้ทันที “ปล่อย! ปล่อย! ปล่อย!” “มินตราตั้งสติก่อนนะ มินตรา!” “…..” มินตรายืนนิ่งพร้อมกับหันมองรอบๆ ตัวอย่างงงๆ เหมือนกับพยายามนึกว่าเธอมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ยังไงและมาตั้งแต่ตอนไหน และเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง “เธอเป็นอะไรไปมินตรา ฝันร้ายเหรอ?” “…..” เธอไม่ได้ตอบอะไร และผลักตัวของมาเฟียหนุ่มออกไปให้ห่างเธอทันที “ตัวเธอยังร้อนอยู่เลยนะ ยังมีไข้อยู่เลย”“ไม่ต้องยุ่ง!” “เอ่อคุณมินตราครับ ผมเป็นหมอนะครับ ขออนุญาตตรวจร่างกายของคุณมินตราหน่อยนะครับ เชิญด้านในครับ”“….” มินตราหันกลับไปมองที่มังกรก่อนจะเดินตามคุณหมอเข้าไปด้านใน ผ่านไปสักพัก หลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เท่าที่คุณมินตราเล่ามาน่าจะไม่มีอาการผิดปกติทางสมองนะครับ”“มินจำได้หมดทุกอย่างค่ะคุณหมอ เรื่องที่เกิดขึ้นมินไม่เคยลืม!” เธอพูดพร้อมกับหันไปมองที่หน้าของมาเฟียหนุ่ม เธอผ่านความเป็นความตายมาแล้วและตอนนี้เธอก็ไม่ได้กลัวมันอีกแล้ว ถ้าเธอจะตายจริงๆ เธอก็เต็ม
หลังจากที่รู้ข่าวจากคนในเกาะว่ามินตราหนีออกไปมังกรก็รีบมาที่เกาะทันทีเพราะกลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย “เป็นยังไงบ้าง เจอบ้างมั้ย”“ไม่เจอเลยครับคุณมังกร”“….” มาเฟียหนุ่มรีบวิ่งไปดูรอยเท้าที่วิ่งฝ่าเข้าไปในพงหญ้านั้น และเขาก็มั่นใจว่าจะต้องเป็นรอยของมินตราแน่ๆ “หรือว่าเธอจะวิ่งไปทางหลังเกาะครับ?” “ตามมา!” “ครับ” มังกรและชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อตามหาเด็กสาวและก็ได้รู้ว่าเธอวิ่งไปไกลพอสมควรจากตัวบ้านพักที่เธออยู่ จนกระทั่งมาเจอกับเธอจริงๆ แต่มินตรายืนอยู่ตรงหน้าผาพอดี “มินตรา!” มาเฟียหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อของเธอด้วยความร้อนใจ “คะ คุณ!” เด็กสาวหันไปมองด้วยความตกใจเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มกับชาวบ้านที่เป็นผู้ชายตามมาถึงที่นี่ “อยะ อย่าเข้ามานะ!” มินตราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมกับทำท่าถอยหนีไปทีละนิด “ถอยกลับมามินตราข้างล่างมันอันตราย ถ้าตกลงไปเธออาจจะตายได้เลยนะ” “ไม่….พวกคุณนั่นแหละที่ต้องถอยออกไป ไม่อย่างนั้นมินจะโดด!” “อย่านะ!” มังกรรีบห้าม “ถอยไป!”“กลับมาคุยกันดีๆ เถอะนะมินตรา เธอต้องการอะไรอยากได้อะไรเดี๋ยวฉันหามาให้เธอหมดเลย”“มินแค่อยากกลับบ้าน แต่คุ
หลายวันผ่านไป หลังจากที่หายดีกลับมาเป็นปกติแล้วทางเดียวที่มินตรากำลังคิดอยู่ในตอนนี้ก็คือหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ เพราะเธอคิดเสมอว่าถ้ามีทางเข้ามาได้ก็ต้องมีทางออกไปเช่นกัน แต่ไม่ว่าเธอจะมองไปทางไหนก็มีแต่ป่าและคลื่นทะเล และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน แต่มันก็ต้องมีทางออกจากที่นี่สิ! และที่สำคัญมังกรก็กลับออกไปแล้วด้วย มันเป็นโอกาสดีเลยที่เธอจะหนีออกจากที่นี่โดยที่ไม่ให้ใครรู้ และไม่ให้มังกรจับได้ ผู้ชายคนนั้นน่าไว้ใจได้มากแค่ไหนกัน อยู่ก็อาจจะตายได้เพราะมินตราไม่สามารถความคิดของมาเฟียหนุ่มได้เลย แต่ถ้าออกไปแล้วสามารถหนีรอดจากคนพวกนี้ได้เธอก็จะหนีไปอยู่ให้ไกลๆ จะได้ไม่ต้องมีคนตามหาเธอเจอ แต่คนที่นี่ก็ดีกับเธอมากเช่นกัน โดยเฉพาะศรีจันทร์ภรรยาของหัวหน้าชาวบ้านที่นี่ เธอมีจิตใจที่ดีและอ่อนโยนกับมินตราไม่ว่าเธอจะดื้อหรือใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับผู้ใหญ่แบบไหนศรีจันทร์ก็ไม่เคยโกรธหรือดุด่าเลย “มินขอโทษนะพี่ศรีจันทร์ แต่มินไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ สักวันเราคงมีโอกาสได้พบกันอีกนะ” พูดจบมินตราก็ย่องเดินออกไปจากบ้านทันทีเธอแอบหนีไปช่วงกลางดึก วิ่งเข้าไปในป่ามืดทึบโดยที่ยังไม่มีจุดหม
ณ ท่าเรือกลางดึกสงัด “คุณมังกรพาใครมาด้วยครับ” “อย่าเพิ่งถาม รีบออกเรือไปก่อน” “ครับๆ” มาเฟียหนุ่มรีบโดดลงเรือไป จากนั้นเรือที่ขับมาจอดรออยู่ที่ท่าก็ขับออกไปทันที และไม่นานก็ไปถึงเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก เป็นเกาะส่วนตัวของมังกรที่เขาซื้อต่อจากเจ้าของเก่า ซึ่งเคยมีปัญหากันมาก่อน และก็ได้ช่วยชีวิตชาวบ้านที่นี่เอาไว้ ชาวบ้านที่นี่ก็เลยรักและเคารพมังกรเหมือนกับเจ้านายคนนึง “คุณมังกรพาใครมาด้วยครับ”“มีปัญหานิดหน่อยครับ รบกวนช่วยดูแลเธอหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของเธอผมจะให้คนซื้อมาส่งให้” “ได้เลยครับ ว่าแต่เป็นแฟนของคุณมังกรหรอครับ” “….” มาเฟียหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรไป “อ่า…ผมขอโทษครับที่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณมังกร แต่เดี๋ยวผมให้ศรีจันทร์มันมาช่วยดูแลนะครับ ดูเหมือนเธอจะเป็นไข้ด้วยตัวร้อนเชียว”“ครับ รบกวนด้วยนะครับ” มินตราไม่มีทางตื่นง่ายๆ แน่เพราะเธอถูกมังกรฉีดยาสลบเข้าร่างกายของเธอกว่าจะฟื้นก็คงจะเป็นพรุ่งนี้ หรือไม่ก็ต้องรอดูอาการไข้ของเธอก่อน เช้าวันต่อมา “อือ…” ร่างบางกระพริบตาถี่ๆ เมื่อมีแสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาของเธอ เธอพยาย
ณ.ห้องประชุมลับองค์กรมาเฟีย “ผู้หญิงเมื่อวานเป็นใคร?” แดรงเอ่ยถามขึ้น ถึงตรงนั้นไม่มีไฟสว่างแต่ก็พอจะมองออกว่าลักษณะการวิ่งหนีออกไปมันเป็นของผู้หญิง “ไม่รู้” มังกรตอบเสียงเรียบ ถึงแม้ในใจจะมั่นใจก็ตามว่าคนที่เข้ามาแอบเห็นคือใคร “มึงต้องเอาคนในบ้านมาเค้นถามนะไอ้กร ถ้าปล่อยไปแบบนั้นธุรกิจของเราจะเสียหายแน่” ดีกอนเสนอขึ้นมา “และถ้ารู้ตัวว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ก็ควรกำจัดทิ้งซะ!” แดรงพูดขึ้น นิสัยของมังกรเป็นยังไงทุกคนก็รู้ดี แต่สำหรับเขาในตอนนี้คือกระทำเด็กสาวตาดำๆ ไม่ลงจริงๆ เขาไม่เคยปราณีใครไม่เคยไว้ชีวิตใครถ้าหากคนนั้นล่วงรู้ความลับที่ไม่สมควรรู้หรือหักหลังทรยศเขา “ไอ้กร!”“เดี๋ยวกูจัดการเอง พวกมึงไม่ต้องยุ่ง” มังกรพูดเสียงแข็ง “มึงจะฆ่าเธอ?” ดีกอนถาม “….” มังกรนั่งเงียบ “กูขอเตือนมึงเอาไว้เลยนะ ผู้หญิงมันไว้ใจไม่ได้ ปากบอกอีกอย่างแต่ใจทำอีกอย่าง รีบกำจัดเธอทิ้งซะก่อนที่เธอจะพาพวกเราซวยไปกันหมด” เพราะงานที่ทั้งสามคนกำลังทำกันอยู่ในตอนนี้เป็นงานผิดกฎหมาย และต้องใช้เงินในการลงทุนจำนวนมากซึ่งก็แน่นอนว่าจะพลาดไม่ได้เลย พลาดเท่ากับตาย! และก็ปล่อยให้คนนอกล่วงรู้เรื่องนี้ไม่ได้ด้







