 LOGIN
LOGIN“ไอส้นตีน!!! จะรีบไปตายไหนของมันวะ!”
ฉันตะโกนด่าตามหลังรถตู้ใหญ่หรูสีดำทองลักษณะคล้ายพวกรถตู้ของดาราประมาณนั้นด้วยความหัวเสีย เพราะตอนที่ฉันกำลังรีบวิ่งเข้าข้างทางไอ้รถนี่ก็ขับมาอย่างไว มันไม่เห็นหรือไงว่ามีคนกำลังวิ่งอยู่ พูดแล้วก็โมโห!
“อย่าให้กูเจอหน้านะ! แม่จะตบให้! ตาบอดหรือไงวะเสือกไม่เห็นคนสวยออร่าพุ่งแบบกูวิ่งอยู่”
ฉันพูดจบก็รีบเดินตรงกลับบ้านทันที ดีนะที่วันนี้อารมณ์ดีไม่อย่างนั้นได้มีวิ่งตามไปด่าแน่
“ขายดีฉิบหายเลย วันนี้กู”
ฉันพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม นาน ๆ ทีจะเจอกับลุงขายกับข้าวที่ชอบเหมาพวงมาลัยฉัน ไม่อย่างนั้นคงได้ยืนขายต่อยันเย็น
ว่าแล้วก็ลืมแนะนำตัวเลยแฮะ สวัสดีเจ้าค่าฉันชื่อว่า สร้อยนะ หรือจะเรียกฉันว่าอีสร้อยก็ได้ ฉันไม่ถือ ฮ่า ๆ ฉันอาศัยอยู่แถวในซอยเล็ก ๆ ฉันอยู่กับแม่เพียงสองคน ฉันมันเป็นพวกเสียงดังซึ่งมันต่างกับแม่ฉันมาก
แม่ฉันมีนิสัยที่นุ่มนวลพูดเพราะ แต่ฉันมันเสียงดังชอบทำตัวเป็นม้าดีดกะโหลก แถมยังห้าวไม่สมกับการเป็นหญิงเลยล่ะค่ะ
ฉันเองก็แอบคิดนะว่าแม่เก็บฉันมาเลี้ยงหรือเปล่าถึงได้แตกต่างขนาดนี้ ฉันเรียนจบแค่ ม.3 เท่านั้น
บ้านของฉันไม่ได้ร่ำรวยมากนักทำให้เรียนได้ถึงแค่นั้น แต่ฉันไม่เคยโกรธแม่หรอก ฉันก็ไปหาซื้อหนังสือมาอ่านเองบ้างเวลาที่ว่างจากการขายพวงมาลัย
แล้วก็มาถึงเรื่องพ่อกันบ้าง พ่อของฉันท่านเสียตั้งแต่ฉันยังเด็ก แล้วฉันจำหน้าพ่อไม่ได้หรอก แต่ก็อาศัยดูรูปที่แม่มี ไม่อยากจะบอกว่าพ่อแม่ฉันหน้าตาดีมาก ถึงว่าทำไมฉันเกิดมาถึงได้สวยขนาดนี้ ฮ่ะ ๆ
เอาเป็นว่าขอแนะนำตัวเท่านี้แล้วกัน เดี๋ยวฉันขอไปหาแม่ฉันก่อน^^
“แม่ทำไรอยู่จ๊ะ?”
ฉันมาถึงบ้านก็เห็นแม่กำลังนั่งทำอะไรสักอย่างอยู่ ฉันเห็นไม่ค่อยถนัดจึงถามออกไป
“กลับมาแล้วเหรอลูก แม่กำลังทำกับข้าวรอหนูอยู่เลย”
แม่ฉันตอบกลับมาด้วยใบหน้าอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง
“โหแม่ ~ สร้อยบอกแล้วว่าให้แม่นั่งเฉย ๆ พอ เดี๋ยวสร้อยทำเองมา”
พูดจบฉันก็เดินเข้าไปแย่งแม่ทำทันที
“ลูกคนนี้หนิ แล้วนี่หนูเหนื่อยไหมไปยืนขายพวงมาลัยวันนี้ แม่เคยบอกกี่รอบแล้วว่าให้ไปหางานในห้องแอร์ทำก็ไม่เชื่อ”
แม่ฉันพูดออกมาด้วยท่าทางเป็นห่วง ฉันเข้าใจว่าท่านห่วงฉัน ก็ฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กน่ารักนี่นา แต่ฉันเป็นพวกสู้งานนะ
ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปทำงานตามห้างตากแอร์ ก็อาจจะเพราะว่ามันไกลจากบ้านฉัน ฉันไม่อยากให้แม่ต้องมาอยู่คนเดียวมันอันตราย
ซอยบ้านฉันมันมีแต่พวกขี้เหล้าเมายากินแต่เหล้า ฉันเลยอดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ ต้องหาอะไรทำที่มันใกล้บ้าน อย่างเช่นการขายพวงมาลัยนี่แหละ
แม่ฉันร้อยมาลัยเก่งมาก ฉันมีหน้าที่เอาไปขายอย่างเดียว ฉันอยากช่วยแม่ร้อยนะแต่ฉันมันใจร้อน พอทำออกมามันเลยไม่สวยเท่าไหร่ฉันเลยขอบายดีกว่า
“ไม่เหนื่อยหรอกจ้ะแม่ ไม่อยากจะบอกว่าวันนี้ฉันขายดีด้วยล่ะจ้ะ ลุงเจ้าเก่าเจ้าเดิมมาเหมาอีกแล้ว อะนี่จ้ะแม่ฉันให้”
ฉันพูดพร้อมกับชูเงินที่ได้จากขายพวงมาลัยวันนี้ให้แม่ดู ก่อนจะนำเงินยัดใส่ไปที่มือของแม่
“เก็บไว้เถอะลูก แม่ไม่ได้ใช้อะไร วัน ๆ ก็อยู่แต่บ้านพวกกับคงกับข้าวหนูก็เป็นคนซื้อมาอีก”
แม่ฉันก็แบบนี้แหละค่ะ แต่มีเหรอคนอย่างอีสร้อยคนนี้จะยอม
“สร้อยเก็บส่วนของสร้อยไว้แล้วแม่เอาไปเถอะจ้ะ ไม่งั้นถ้าแม่ไม่รับสร้อยคงเสียใจแน่ ๆ ฮือ ๆ ~ ”
ฉันแกล้งทำท่าทางเป็นร้องไห้
“ยัยลูกคนนี้หนิ อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะว่าแกล้งร้อง!”
แม่ก็คือแม่ รู้ทันฉันตลอด
“อิอิ อะนี่เอาไปจ้ะแม่”
ฉันทำท่าหัวเราะก่อนจะยัดเงินลงไปที่มือของแม่ จากนั้นเราสองคนก็พากันทำอาหารจนเสร็จ
เย็นวันต่อมา...
“วันนี้ขายไม่ดีเลยแฮะ”
ฉันบ่นออกมาขณะที่กำลังนั่งนับเงินอยู่แถว ๆ ปากซอยบ้าน วันนี้ขายไม่ดีเลยขนาดมาขายตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ได้มาแค่นิดเดียวเอง
“น้องจ๊ะ”
ฉันหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นเป็นพี่ผู้ชายที่มีลักษณะภายนอกเหมือนผู้หญิงสะกิดเอ่ยเสียงเรียกฉันอยู่
“คะพี่?”
“พอดีพี่เห็นน้องบ่นเรื่องเงิน อย่าว่างั้นงี้เลยนะ พอดีบริษัทที่พี่รู้จักเขากำลังรับสมัครยามอยู่ น้องสนใจไหมล่ะ ได้เงินเป็นรายวันมากกว่าน้องมาขายพวงมาลัยอีกนะ”
พี่เขาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉัน จะเชื่อได้เหรอวะ แม่งมาหลอกฉันหรือเปล่าวะ
“ทำหน้างี้ไม่เชื่อละสิ อะเอานี่ไปอ่านดูถ้าสนใจน้องก็ติดต่อตามเบอร์นั้นไปนะ พี่ไปละ”
พี่เขาพูดจบก็ยัดกระดาษเล็ก ๆ มาให้ก่อนจะขอตัวออกไป ฉันหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด
เนื้อหามันมีประมาณว่ารับสมัครงานยามผู้หญิงประจำห้างที่เปิดใหม่แถวนี้ โดยการให้เงินเป็นรายวันพร้อมมีที่พักให้กับพนักงานฟรี หากสนใจติดต่อเบอร์ 085-xxx-xxxx
ฉันสนใจอยู่นะแถมยังได้ที่พักฟรีอีก แต่พี่เขาจะหลอกฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้
เอาวะอีสร้อยลองโทรไปถามก่อนแล้วกัน ฉันยกมือถือรุ่นเก่าขึ้นมาก่อนจะกดโทรไปตามเบอร์
“สวัสดีค่ะ พอดีจะโทรมาเรื่องสมัครงานค่ะพี่”
“อ๋อจ้า”
“ไม่ทราบว่ายังรับสมัครอยู่ไหมเหรอคะ? แล้วมันเป็นงานยามเฉย ๆ ใช่ไหมคะ”
“ยังรับอยู่จ้า เป็นงานยามจริงจ้า ว่าแต่ทำไมน้องถามแบบนี้คะ”
“อ๋อพอดีมีพี่ผู้ชายคนหนึ่งเขายื่นเอกสารนี้มาให้สร้อยค่ะเลยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ค่ะพี่ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ฮ่ะ ๆ ถึงว่าล่ะ เอางี้น้องมาห้างxxxนะแล้วเดี๋ยวพี่บอกรายละเอียดให้ฟัง สะดวกวันพรุ่งนี้ไหมจ๊ะ”
“สะดวกค่ะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้สร้อยเข้าไปแต่เช้านะคะ สวัสดีค่ะ”
ฉันพูดจบก็วางสายไปก่อนจะลุกขึ้นปัดฝุ่นตามตัวนิดหน่อย แล้วหมุนตัวเดินกลับไปที่บ้าน
“แม่จ๊ะ แม่จะโอเคไหมถ้าเราจะย้ายบ้านกัน”
ฉันต้องถามแม่ก่อน ถ้าแม่ไม่โอเคฉันก็ค่อยโทรไปบอกพี่เขาเอา
“หนูพูดอะไรลูก แม่ไม่เข้าใจ”
“คืองี้จ้ะแม่ สร้อยไปเห็นใบสมัครงานเขากำลังหายามผู้หญิงไปดูแลห้างที่เปิดใหม่แถมยังได้เงินเป็นรายวันไม่ต้องรอเป็นเดือน ๆ เขามีที่พักให้ฟรีด้วย สร้อยเลยอยากจะมาถามแม่น่ะจ้ะว่าแม่โอเคไหม”
ฉันอธิบายออกไปให้แม่เข้าใจ
“จริงเหรอลูก เอาสิ แต่เขาไม่ได้หลอกเราใช่ไหม ช่วงนี้ข่าวก็ออกกันโครม ๆ เลย”
“เนี่ยสร้อยเลยว่าจะลองไปฟังรายละเอียดดูพรุ่งนี้จ้ะแม่ เขานัดที่ห้างxxxที่เปิดใหม่ สร้อยว่าคุ้น ๆ ชื่ออยู่นะแต่เดี๋ยวสร้อยลองไปฟังดูก่อนจ้ะ เลยมาถามแม่ไว้ก่อนถ้าเราต้องย้ายไปอยู่แถวนั้นแม่จะโอเคไหม”
“แม่ยังไงก็ได้ตามใจหนูเลย แม่ก็อยากให้หนูทำงานในที่ที่ไม่ร้อนเหมือนกัน แม่เป็นห่วงหนูกลัวจะเป็นลมเป็นแล้งไป”
“จ้ะแม่”
ฉันตอบแม่ไปยิ้ม ๆ ก่อนจะขอตัวเข้าห้องตัวเองไปนอนวันนี้เหนื่อยมากเลย

“อ๊ะ อ๊า จะ..จุกไป ๆ” เธอใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคอเขาไว้มากุมท้องตัวเองที่จุกจากการกระแทกลึกของเขา “ยืนแป๊บ” เคียร์เอ่ยบอกหญิงสาวที่ทำหน้างงก่อนจะวางเธอลงในท่ายืน เขาจับเธอหันหลังดันเธอให้ติดกับกระจกหน้าต่าง เขาดึงก้นเธอเข้ามาแนบชินก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรเปียกชุ่มเข้าจากทางด้านหลัง “อ๊า อื้ออออ ไม่..เอาท่านี้สิ อื้อออ” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อท่านี้มันทำให้แก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมอีก ไหนจะหน้าอกหน้าใจของเธอที่กำลังเบียดเสียดรูดขึ้นลงกับกระจกที่แนบชิดอยู่ สร้างความเสียวราคะทุกโซนประสาทจริง ๆ “ตอดขนาดนี้จะแตกแล้วเหรอหืมม ซี้ดด” เมื่อรับรู้ถึงการตอดถี่ของหญิงสาวว่าใกล้จะแตะขอบสวรรค์แล้วเขาก็เร่งเครื่องติดจรวดทันที กระแทกเข้าออกไม่ยั้ง “อ๊ามะไหวว/อื้อออซี้ดด” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นประสานกันเมื่อทั้งคู่แตะที่จุดสุดยอดในที่สุด ชายหนุ่มกระแทกสองสามทีรีดน้ำรักเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะชักออกมา ส่งผลให้หญิงสาวที่มีขาอ่อนจากความเสียวในตอนแรกนั่งพับ
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สถานที่ ประเทศ USAตอนเช้า... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่นานก้าวขาลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพียงสองคน วันนี้เธอและเขามาฮันนีมูนกันนั่นเอง โดยได้คุณแม่ของเธอและคุณแม่ของเคียร์ที่กำลังเห่อน้อง กำไล รับไปดูแล จนทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสเที่ยวกันสองคน “อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม?” มือใหญ่วางทาบลงบนหัวคนตัวเล็กที่กำลังยืนชั่งใจคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี เนื่องจากก่อนมาพวกเขาไม่ได้ทำการวางแพลนใด ๆ เลย “อืม...อยากไปดูที่เขาแปะมือกับดาราอะ แบบมีการประทับมือดาราดัง ๆ ลงแผ่นไรสักอย่างอะ” เคียร์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ก่อนจะยกมือถือโทรหาคนขับรถของประเทศนี้ เพียงไม่นานรถหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้า พร้อมกับมีพนักงานลงมาเปิดประตูต้อนรับแขกคนพิเศษ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ สร้อยเองก็ทำหน้าไม่ค่อยจะเข้าใจมากเท่าไหร่ “รู้งี้ตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า” ภรรยาตัวแสบนั่งบ่นให้เขาฟัง ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ “อยากเรียนไหมล่ะ”
ตอนพิเศษ ๒ ใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังคลอดได้ไม่นานก็ถึงเวลาเตรียมการจัดงานแต่งงานที่เคยสัญญาไว้แล้ว “ฝากเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะแม่ สร้อยจะรีบกลับมาค่ะ” เสียงหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นแม่ คุณยายของเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด เธอจะต้องออกไปลองชุดและซื้อของต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังใกล้จะถึงกับว่าที่สามีของเธอ “ไปเถอะลูก เจ้าตัวเล็กนี่แม่จะดูแลเอง เนอะหลานยาย” หญิงสาวมีอายุหันไปหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูหลายชั่วโมงผ่านไป... ใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเตรียมของจนเสร็จ นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนเซอร์ เนื่องจากว่าที่สามีของเธอได้จ้างวานมาเอง “เหนื่อยไหมวันนี้” เคียร์เอ่ยถามเจ้าตัวแสบของเขา พลางวางมือหนาไว้บนหัวของว่าที่ภรรยาสาวไปด้วย “นิดหน่อย บอกแล้วไม่ต้องจัดก็ได้” เธอเพียงมุ่ยหน้าเล็กน้อย สร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้าได้มากทีเดียว “ได้ไง คนดังอย่างกูแต่งงานทั้งทีเลยนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาได้ไม่อายปาก หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมาแท
ตอนพิเศษ ๑8 เดือนผ่านไป...เวลา 04.35 น. ภายในห้องกว้างมีเพียงสองร่างชายหญิงกำลังนอนหลับใหล ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานส่งผลให้ทั้งคู่หลับอย่างสบาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาจากความเงียบสงบแปรเปลี่ยนเป็น.... “อะ โอ้ยยยย” หญิงสาวท้องโตสะดุ้งตื่นพร้อมกับส่งเสียงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่เธอร้องออกมาดังจนปลุกให้ชายร่างกำยำมีลายสักที่คอสะดุ้งตื่น “สร้อยเป็นอะไร!” เขาถามเธอออกไปด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกุมท้องใหญ่ “ละ..ลูก จะคลอด! โอ๊ยยยยยเจ็บบบ” หญิงสาวท้องโตพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด เตียงที่เคยแห้งกลับกลายเป็นเปียกโชก บ่งบอกได้ดีว่าเด็กน้อยในท้องพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว “เวรเอ๊ย! อดทนก่อนกูจะรีบพามึงไปโรงพยาบาล” ชายร่างกำยำรีบจัดการเสื้อผ้าบนตัวก่อนจะวิ่งอ้อมมาหาหญิงสาวด้วยความรีบร้อน “หนักฉิบหายเลยโว๊ยยยยย” ปากหนาบ่นอุบอิบ หญิงสาวไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากต้องทนกับอาการเจ็บปวดที่ได้รับ ฝ่ายชายรีบอุ้มหญิงสาววิ่งไปที่รถ
“ไหวไหมนั่น” ฉันทำท่าทางจะลุกเดินไปหา แต่เขาห้ามไว้ซะก่อน “อย่าแกล้งพ่อเขาหนักสิลูก” ฉันนอนลูบท้องเปล่งเสียงเบาบอกลูกของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินขึ้นมานอนข้าง ๆ “ดีแล้วที่กูแพ้แทนมึง เพราะถ้ามึงแพ้เองกูคงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่” แหนะ ยังจะมาปากหวานอีก “พูดถูกใจตลอดด” ฉันแอบแซวเขาพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองไปมา “กูพูดตามความรู้สึก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันที่กำลังหยิกเขา แล้วหอมมือฉันอย่างแผ่วเบา “รู้ไหมว่ารักมาก?” “อือรู้ ฉันก็รักพี่มากเหมือนกัน” “แล้วรู้ไหมว่ากู หวง ห่วง มึงมาก?” “รู้สิ สร้อยก็ หวง ห่วง พี่เหมือนกันนะ” “งั้นก็รู้ไว้ซะ ว่ามึงคือผู้หญิงของกูคนเดียวและเป็นแม่ของลูกกูด้วย” “>////พี่ก็เหมือนกันเป็นพ่อของลูกสร้อย” ความร้อนรุ่มแทรกผ่านเข้ามาที่ใบหน้าของฉัน เครื่องปรับอาการที่ว่าเย็นมากแล้วยังต้องยอมแพ้กลับความร้อนที่เผาผลาญอยู่บนหน้าของฉัน เขานี่มันพูดได้ไม่อายเลยจริง
บทที่ 31 END “ทำงี้กะจะให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอวะ” บ้าที่สุดดด ชอบพูดคำน่าอายอยู่นั่น “รีบไปได้แล้ว >///” ฉันออกแรงผลักไล่ให้เขาขยับตัวออก แล้วไล่ดุนหลังเขาจนไปถึงหน้าห้อง “เดี๋ยวรีบกลับนะ จุ๊บ” ว่าจับเขาก็จุ๊บลงบนปากของฉันอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป กว่าจะได้ออกไปทำงานฉันก็เปลืองตัวไปกับเขามากโขแล้ว หุหุหัวค่ำ...Rrrr Rrr เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันละสายตาออกจากทีวี พลางก้มลงไปมองสายที่โทรเข้ามา ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครโทรเข้ามา “จะกลับแล้วเหรอ” ฉันกดรับก่อนจะเอ่ยถามคนปลายสาย “อืม ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ “ใกล้ถึงแล้วจะโทรมาให้เปลืองเงินทำไมเล่า” “คิดถึง เพิ่งมีเวลาจับมือถือเอง” เสียงออดอ้อนของปลายสายสร้างความรู้สึกดีให้ฉันไม่น้อย “คิดถึงเหมือนกัน วางสายก่อนขับรถอยู่อันตราย” “ครับ” เขาตอบรับด้วยคำสุภาพทำเอาฉันรู้สึกกระดากหูที่ได้ยิน ไม่








