LOGINอะไรรูม ๆ วะ
“รูมไร ฉันหิวข้าวไม่ได้หิวรูม ๆ ไรนั่น”
“ยัยเอ๋อเอ๊ย! นี่อย่าบอกนะว่ามึงนั่งรอกูตื่น?”
“ใช่นะสิ กว่าจะตื่นได้ไม่รู้หลับหรือตาย!”
“แล้วไมมึงไม่เข้ามาปลุกกูวะ ยัยบ๊อง!”
เขาเดินมาพร้อมกับเขกหัวฉัน
“เจ็บนะ!”
“ทีหลังเข้าไปปลุกกูเลย อย่ามารอแบบนี้อีก”
อยู่ดี เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ เหมือนคนเป็นห่วง เหอะแต่ฉันคงหูฝาดเพราะหิวซะมากว่า
“ก็เห็นว่าเพลียเลยไม่อยากกวน ฉันก็มีมารยาทพอนะยะ”
“ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงกูเหรอ หืมม?”
ไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาให้ฉันอีก กรี๊ด! หัวใจนี่ก็เต้นจัง!
“อะ...ออกไปไกล ๆ เลย ไอ้โรคจิต!”
“ หึ ๆ รีบไปแต่งตัวสิวะ ไม่หิวแล้วไง”
“รู้แล้ว!”
ฉันรีบวิ่งแจ๋นเข้าห้องตัวเองทันที
ตึกตัก
“ทำไมใจเต้นแรงจังวะ”
ฉันพูดพร้อมกับมือที่กำลังจับตรงหน้าอกตัวเอง
ช่าง ๆ รีบไปแต่งตัวดีกว่า
“ช้า!”
ก้าวขาออกมาได้ไม่นานเสียงบ่นก็ลอยมาทันที
“ปะ ๆๆ หิววว”
ฉันแกล้งไม่สนใจ
ระหว่างเดินไปที่ลิฟต์ฉันก็หันไปพูดคุยกับเขาด้วยความเคยชิน
“นาย เอ๊ย พี่เคียร์ ว่าปะเจ้าของที่นี่แม่งต้องรวยฉิบหายแน่เลย”
“ทำไม?”
“ก็ดูดิ การตกแต่งแล้วดูตึกที่สูงวิวก็ดี ทำเลก็ดี โอ้โหค่าห้องต้องแพงแน่ ๆ เจ้าของที่นี่เก่งชะมัดที่หาทำเลดี ๆ แบบนี้ได้”
ฉันพูดไปก็มองรอบ ๆ ไปด้วย
“ขอบใจที่ชม”
อะไรของเขาปัญญาอ่อนปะวะ
“มาขอบใจไร ฉันชมเจ้าของไม่ได้ชมพี่”
ฉันพูดได้ไม่นานก็มีเสียงแทรกทางด้านหลังของฉัน
“ท่านประธานสวัสดีครับ”
เดี๋ยวนะ! ไม่ ๆ มันต้องไม่ใช่! เขาอาจจะกำลังสวัสดีคนอื่นอยู่แต่เสียงมันใกล้มาก
“อืม ไปทำงานต่อเถอะ”
ฉันมองเขาพูดด้วยอาการตกใจ นี่เขาเป็นเจ้าของเองหรอกเหรอ แล้วที่ฉันชมไปเมื่อกี้ล่ะ โอ้ยปล่อยไก่ไปอีก!
“ฉันขอถอนคำพูด! เจ้าของที่นี่มันน่าจะโรคจิตซะมากกว่า!”
พูดจบฉันก็สะบัดหน้าหนีเดินออกไปจากตรงที่เขายืนทันที ฉันเห็นเขายิ้มเยาะฉันด้วย -*-
“มานี่ เดินนำกูอย่างกับรู้ทาง”
เขาจับที่มือฉันก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามเข้าไป ส่วนเหล่าพนักงานก็มองมาที่ฉันกันเป็นตาเดียวเลย
ตอนนี้เขาพาฉันมาที่ห้องอาหารในคอนโดมั้ง มันมีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ยสะดวกชะมัด
“โห มีร้านอาหารในคอนโดด้วยอ่อ”
“ที่ไหน ๆ เขาก็มีอย่ามาเอ๋อ”
ปากเหรอนั่น!
“ใครมันจะไปรู้ล่ะ”
“จะกินอะไรก็ไปตักเอา เดี๋ยวกูมา”
“เค ๆ”
เขาจะไปไหนก็เรื่องของเขาเถอะ ตอนนี้ฉันหิวมากจนไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว
“หูยยย มีแต่ของน่ากิน”
ฉันเดินไปเดินมาตักนู้นนั้นเต็มไปหมดประหนึ่งว่าอดยากมาแล้วหลายวัน ฮ่า ๆ
เอ๋ ว่าแต่ควรตักเพื่อเขาด้วยดีไหมนะ ระหว่างที่ฉันกำลังยืนคิดอยู่ จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นด้านหลังฉัน
“ทานหมดเหรอครับนั่น^^”
ฉันหันไปมองตามเสียงก็เห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาดีมาก กรี๊ด! ขอบคุณความสวยของตัวเองเจ้าค่ะที่ทำให้มีหนุ่มหล่อ ๆ แบบนี้เข้ามาทัก
“อ๋อ ไม่ได้กินเองหรอกค่ะ พอดีตักเพื่อเพื่อนด้วยค่ะ”
ใครมันจะไปกล้าบอกว่าตักมากินเองละ เสียหน้าหมด หุหุ
“อ๊ะ อ๊า จะ..จุกไป ๆ” เธอใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคอเขาไว้มากุมท้องตัวเองที่จุกจากการกระแทกลึกของเขา “ยืนแป๊บ” เคียร์เอ่ยบอกหญิงสาวที่ทำหน้างงก่อนจะวางเธอลงในท่ายืน เขาจับเธอหันหลังดันเธอให้ติดกับกระจกหน้าต่าง เขาดึงก้นเธอเข้ามาแนบชินก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรเปียกชุ่มเข้าจากทางด้านหลัง “อ๊า อื้ออออ ไม่..เอาท่านี้สิ อื้อออ” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อท่านี้มันทำให้แก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมอีก ไหนจะหน้าอกหน้าใจของเธอที่กำลังเบียดเสียดรูดขึ้นลงกับกระจกที่แนบชิดอยู่ สร้างความเสียวราคะทุกโซนประสาทจริง ๆ “ตอดขนาดนี้จะแตกแล้วเหรอหืมม ซี้ดด” เมื่อรับรู้ถึงการตอดถี่ของหญิงสาวว่าใกล้จะแตะขอบสวรรค์แล้วเขาก็เร่งเครื่องติดจรวดทันที กระแทกเข้าออกไม่ยั้ง “อ๊ามะไหวว/อื้อออซี้ดด” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นประสานกันเมื่อทั้งคู่แตะที่จุดสุดยอดในที่สุด ชายหนุ่มกระแทกสองสามทีรีดน้ำรักเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะชักออกมา ส่งผลให้หญิงสาวที่มีขาอ่อนจากความเสียวในตอนแรกนั่งพับ
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สถานที่ ประเทศ USAตอนเช้า... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่นานก้าวขาลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพียงสองคน วันนี้เธอและเขามาฮันนีมูนกันนั่นเอง โดยได้คุณแม่ของเธอและคุณแม่ของเคียร์ที่กำลังเห่อน้อง กำไล รับไปดูแล จนทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสเที่ยวกันสองคน “อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม?” มือใหญ่วางทาบลงบนหัวคนตัวเล็กที่กำลังยืนชั่งใจคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี เนื่องจากก่อนมาพวกเขาไม่ได้ทำการวางแพลนใด ๆ เลย “อืม...อยากไปดูที่เขาแปะมือกับดาราอะ แบบมีการประทับมือดาราดัง ๆ ลงแผ่นไรสักอย่างอะ” เคียร์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ก่อนจะยกมือถือโทรหาคนขับรถของประเทศนี้ เพียงไม่นานรถหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้า พร้อมกับมีพนักงานลงมาเปิดประตูต้อนรับแขกคนพิเศษ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ สร้อยเองก็ทำหน้าไม่ค่อยจะเข้าใจมากเท่าไหร่ “รู้งี้ตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า” ภรรยาตัวแสบนั่งบ่นให้เขาฟัง ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ “อยากเรียนไหมล่ะ”
ตอนพิเศษ ๒ ใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังคลอดได้ไม่นานก็ถึงเวลาเตรียมการจัดงานแต่งงานที่เคยสัญญาไว้แล้ว “ฝากเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะแม่ สร้อยจะรีบกลับมาค่ะ” เสียงหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นแม่ คุณยายของเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด เธอจะต้องออกไปลองชุดและซื้อของต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังใกล้จะถึงกับว่าที่สามีของเธอ “ไปเถอะลูก เจ้าตัวเล็กนี่แม่จะดูแลเอง เนอะหลานยาย” หญิงสาวมีอายุหันไปหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูหลายชั่วโมงผ่านไป... ใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเตรียมของจนเสร็จ นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนเซอร์ เนื่องจากว่าที่สามีของเธอได้จ้างวานมาเอง “เหนื่อยไหมวันนี้” เคียร์เอ่ยถามเจ้าตัวแสบของเขา พลางวางมือหนาไว้บนหัวของว่าที่ภรรยาสาวไปด้วย “นิดหน่อย บอกแล้วไม่ต้องจัดก็ได้” เธอเพียงมุ่ยหน้าเล็กน้อย สร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้าได้มากทีเดียว “ได้ไง คนดังอย่างกูแต่งงานทั้งทีเลยนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาได้ไม่อายปาก หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมาแท
ตอนพิเศษ ๑8 เดือนผ่านไป...เวลา 04.35 น. ภายในห้องกว้างมีเพียงสองร่างชายหญิงกำลังนอนหลับใหล ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานส่งผลให้ทั้งคู่หลับอย่างสบาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาจากความเงียบสงบแปรเปลี่ยนเป็น.... “อะ โอ้ยยยย” หญิงสาวท้องโตสะดุ้งตื่นพร้อมกับส่งเสียงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่เธอร้องออกมาดังจนปลุกให้ชายร่างกำยำมีลายสักที่คอสะดุ้งตื่น “สร้อยเป็นอะไร!” เขาถามเธอออกไปด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกุมท้องใหญ่ “ละ..ลูก จะคลอด! โอ๊ยยยยยเจ็บบบ” หญิงสาวท้องโตพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด เตียงที่เคยแห้งกลับกลายเป็นเปียกโชก บ่งบอกได้ดีว่าเด็กน้อยในท้องพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว “เวรเอ๊ย! อดทนก่อนกูจะรีบพามึงไปโรงพยาบาล” ชายร่างกำยำรีบจัดการเสื้อผ้าบนตัวก่อนจะวิ่งอ้อมมาหาหญิงสาวด้วยความรีบร้อน “หนักฉิบหายเลยโว๊ยยยยย” ปากหนาบ่นอุบอิบ หญิงสาวไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากต้องทนกับอาการเจ็บปวดที่ได้รับ ฝ่ายชายรีบอุ้มหญิงสาววิ่งไปที่รถ
“ไหวไหมนั่น” ฉันทำท่าทางจะลุกเดินไปหา แต่เขาห้ามไว้ซะก่อน “อย่าแกล้งพ่อเขาหนักสิลูก” ฉันนอนลูบท้องเปล่งเสียงเบาบอกลูกของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินขึ้นมานอนข้าง ๆ “ดีแล้วที่กูแพ้แทนมึง เพราะถ้ามึงแพ้เองกูคงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่” แหนะ ยังจะมาปากหวานอีก “พูดถูกใจตลอดด” ฉันแอบแซวเขาพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองไปมา “กูพูดตามความรู้สึก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันที่กำลังหยิกเขา แล้วหอมมือฉันอย่างแผ่วเบา “รู้ไหมว่ารักมาก?” “อือรู้ ฉันก็รักพี่มากเหมือนกัน” “แล้วรู้ไหมว่ากู หวง ห่วง มึงมาก?” “รู้สิ สร้อยก็ หวง ห่วง พี่เหมือนกันนะ” “งั้นก็รู้ไว้ซะ ว่ามึงคือผู้หญิงของกูคนเดียวและเป็นแม่ของลูกกูด้วย” “>////พี่ก็เหมือนกันเป็นพ่อของลูกสร้อย” ความร้อนรุ่มแทรกผ่านเข้ามาที่ใบหน้าของฉัน เครื่องปรับอาการที่ว่าเย็นมากแล้วยังต้องยอมแพ้กลับความร้อนที่เผาผลาญอยู่บนหน้าของฉัน เขานี่มันพูดได้ไม่อายเลยจริง
บทที่ 31 END “ทำงี้กะจะให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอวะ” บ้าที่สุดดด ชอบพูดคำน่าอายอยู่นั่น “รีบไปได้แล้ว >///” ฉันออกแรงผลักไล่ให้เขาขยับตัวออก แล้วไล่ดุนหลังเขาจนไปถึงหน้าห้อง “เดี๋ยวรีบกลับนะ จุ๊บ” ว่าจับเขาก็จุ๊บลงบนปากของฉันอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป กว่าจะได้ออกไปทำงานฉันก็เปลืองตัวไปกับเขามากโขแล้ว หุหุหัวค่ำ...Rrrr Rrr เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันละสายตาออกจากทีวี พลางก้มลงไปมองสายที่โทรเข้ามา ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครโทรเข้ามา “จะกลับแล้วเหรอ” ฉันกดรับก่อนจะเอ่ยถามคนปลายสาย “อืม ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ “ใกล้ถึงแล้วจะโทรมาให้เปลืองเงินทำไมเล่า” “คิดถึง เพิ่งมีเวลาจับมือถือเอง” เสียงออดอ้อนของปลายสายสร้างความรู้สึกดีให้ฉันไม่น้อย “คิดถึงเหมือนกัน วางสายก่อนขับรถอยู่อันตราย” “ครับ” เขาตอบรับด้วยคำสุภาพทำเอาฉันรู้สึกกระดากหูที่ได้ยิน ไม่







