LOGIN“เห้ย ๆ ทำไรของมึงวะ!”
เขาที่เห็นฉันกำลังถอดรองเท้าก็ร้องขึ้นมา
“เอามาอุดหมาในปากที่ร่วงลงมาไง!”
“ก็ลองดูสิ กูจะยืนจูบมึงต่อตรงนี้แหละ มา! ยัดเข้ามา!”
ไม่พูดเปล่าแถมทำท่าจะมาจูบฉันอีก โอ้ยย!!
“ทุเรศ!”
เขาทำหน้าเหมือนผู้ชนะก่อนจะฉุดมือฉันเดินตามเข้าไปในคอนโด
“โหนี่นายอยู่ชั้นบนสุดเลยเหรอออ”
ฉันทำหน้าตาตื่นเต้นกับวิวที่สวยมากก
“เรียกกูว่าไรนะ?”
“โทษทีลืมตัว”
คนมันยังไม่ชินนี่น่า
“อย่าลืมให้มันบ่อยเพราะถ้ามึงลืมบ่อยกูอาจจะลืมตัวจนทำอะไรแม่มึงก็ได้”
“เออ!”
ไอสารเลวเอ๊ย!
“เอาของไปเก็บซะ นั่นห้องของมึง”
ฉันทำเพียงพยักหน้าก่อนจะเดินไปห้องที่เขาชี้
“สวยจังงง กว้างมาก”
ฉันเดินไปมาดูตามห้อง มันกว้างและสวยสุด ๆ กว้างกว่าที่พักพนักงานของฉันหลายเท่าเลย แถมวิวห้องฉันก็ดีอีก ว่าแล้วรีบจัดของดีกว่า
เวลา 12.30 น.
กว่าจะจัดของเสร็จเล่นเอาซะเหนื่อยเลย แล้วนี่เขาหายไปไหนเนี่ย เห็นเงียบหายไม่มากวนประสาทเลยแฮะ
“เอ้า! มานอนไรตรงนี้เนี่ย”
ฉันบ่นออกมาเมื่อเห็นว่าเขานอนอยู่บนโซฟา ทำไมเขาไม่ไปนอนในห้องละวะ
“ นาย! เอ๊ยไม่ใช่สิ พี่เคียร์! ไปนอนในห้องดี ๆ ไป”
ฉันเขย่าตัวเขาไปมา เขาดูสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา
“เงียบ ๆ ดิกูจะนอน”
“มานอนบ้าอะไรตรงนี้ละ ไปนอนในห้องนู่น”
“พูดมากจังวะ มานี่!”
“เอ๊ะ!”
เขากระตุกฉันให้ลงไปนอน แล้วกอดฉันจากทางด้านหลัง ไอ้ลามก!
“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ลามกทุเรศ!”
“หุบปาก กูจะนอน”
“จะนอนก็ปล่อยสิวะ มากอดทำไม!”
“มึงพูดมาก!”
“โอเค ๆ ไม่พูดละ ปล่อยก่อน อึดอัด!”
ฉันขอยอมแพ้ อยู่ในท่าที่เขากอดละมันแปลก ๆ หัวใจก็เสือกมาเต้นแรงอีก เป็นไรของมึงอีสร้อย! เกิดมายังไม่เคยโดนผู้ชายกอดเลยเว้ย
เขายอมปล่อยฉันตามที่ขอ ก่อนจะลุกเดินเข้าห้องของเขา คงไปนอนต่อละมั้งเขาดูเพลียจังแฮะ
ฉันละความสนใจก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว หิวง่ะ หาไรกินดีกว่า
“ตู้เย็นหรือห่าไรนี่!”
ฉันเปิดตู้เย็นดูก็ต้องร้องออกมาดัง ๆ ในตู้เย็นว่างเปล่าเหมือนไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน ไอ้บ้านั่นไม่คิดจะทำไรแดกเองหรือไงวะ
“หิวก็หิวT^T”
ฉันเดินลูบท้องออกมาจากห้องครัว ก่อนจะเปิดทีวีดูข่าวไปพลาง ๆ
“สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้ดิฉันจะพาทุกคนมาพูดคุยกับประธานหนุ่มสุดฮอตเจ้าของฉายาในวงการธุรกิจว่าเป็นมือทองกันค่ะ ไม่ว่าเขาจะหยิบจับธุรกิจอะไรก็ดังเป็นพลุแตกทำรายได้เป็นแสนล้านเลยค่ะ...”
ฉันรู้ละว่าทำไมเขาถึงได้เพลียขนาดนั้น น่าจะบอกกันปะว่าเพิ่งกลับมาจากสัมภาษณ์ ฉันจะได้นั่งรถมาเอง คิดแล้วเหมือนฉันเป็นคนผิดเลยแฮะ สงสารจุง
ตอนแรกมีความคิดจะไปปลุกเขานะ แต่เจอแบบนี้ปล่อยให้เขานอนไปก่อนละกัน ฉันก็ทนหิวไปเดี๋ยวเขาก็คงตื่นแหละ
ตกเย็น...
คงตื่นห่าไรเนี่ย ล่อไปตอนเย็นละเขายังไม่ตื่นอีก ฉันหิววว T^T
“ทำหน้าตาไรของมึงวะ”
เอ๊ะ เขาตื่นละนิ
“หิวข้าวววว”
ฉันหันไปทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะเถียงอะไรแล้ว
“ไม่สั่งรูมเซอร์วิสล่ะ”
“อ๊ะ อ๊า จะ..จุกไป ๆ” เธอใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคอเขาไว้มากุมท้องตัวเองที่จุกจากการกระแทกลึกของเขา “ยืนแป๊บ” เคียร์เอ่ยบอกหญิงสาวที่ทำหน้างงก่อนจะวางเธอลงในท่ายืน เขาจับเธอหันหลังดันเธอให้ติดกับกระจกหน้าต่าง เขาดึงก้นเธอเข้ามาแนบชินก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรเปียกชุ่มเข้าจากทางด้านหลัง “อ๊า อื้ออออ ไม่..เอาท่านี้สิ อื้อออ” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อท่านี้มันทำให้แก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมอีก ไหนจะหน้าอกหน้าใจของเธอที่กำลังเบียดเสียดรูดขึ้นลงกับกระจกที่แนบชิดอยู่ สร้างความเสียวราคะทุกโซนประสาทจริง ๆ “ตอดขนาดนี้จะแตกแล้วเหรอหืมม ซี้ดด” เมื่อรับรู้ถึงการตอดถี่ของหญิงสาวว่าใกล้จะแตะขอบสวรรค์แล้วเขาก็เร่งเครื่องติดจรวดทันที กระแทกเข้าออกไม่ยั้ง “อ๊ามะไหวว/อื้อออซี้ดด” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นประสานกันเมื่อทั้งคู่แตะที่จุดสุดยอดในที่สุด ชายหนุ่มกระแทกสองสามทีรีดน้ำรักเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะชักออกมา ส่งผลให้หญิงสาวที่มีขาอ่อนจากความเสียวในตอนแรกนั่งพับ
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สถานที่ ประเทศ USAตอนเช้า... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่นานก้าวขาลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพียงสองคน วันนี้เธอและเขามาฮันนีมูนกันนั่นเอง โดยได้คุณแม่ของเธอและคุณแม่ของเคียร์ที่กำลังเห่อน้อง กำไล รับไปดูแล จนทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสเที่ยวกันสองคน “อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม?” มือใหญ่วางทาบลงบนหัวคนตัวเล็กที่กำลังยืนชั่งใจคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี เนื่องจากก่อนมาพวกเขาไม่ได้ทำการวางแพลนใด ๆ เลย “อืม...อยากไปดูที่เขาแปะมือกับดาราอะ แบบมีการประทับมือดาราดัง ๆ ลงแผ่นไรสักอย่างอะ” เคียร์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ก่อนจะยกมือถือโทรหาคนขับรถของประเทศนี้ เพียงไม่นานรถหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้า พร้อมกับมีพนักงานลงมาเปิดประตูต้อนรับแขกคนพิเศษ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ สร้อยเองก็ทำหน้าไม่ค่อยจะเข้าใจมากเท่าไหร่ “รู้งี้ตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า” ภรรยาตัวแสบนั่งบ่นให้เขาฟัง ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ “อยากเรียนไหมล่ะ”
ตอนพิเศษ ๒ ใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังคลอดได้ไม่นานก็ถึงเวลาเตรียมการจัดงานแต่งงานที่เคยสัญญาไว้แล้ว “ฝากเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะแม่ สร้อยจะรีบกลับมาค่ะ” เสียงหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นแม่ คุณยายของเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด เธอจะต้องออกไปลองชุดและซื้อของต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังใกล้จะถึงกับว่าที่สามีของเธอ “ไปเถอะลูก เจ้าตัวเล็กนี่แม่จะดูแลเอง เนอะหลานยาย” หญิงสาวมีอายุหันไปหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูหลายชั่วโมงผ่านไป... ใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเตรียมของจนเสร็จ นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนเซอร์ เนื่องจากว่าที่สามีของเธอได้จ้างวานมาเอง “เหนื่อยไหมวันนี้” เคียร์เอ่ยถามเจ้าตัวแสบของเขา พลางวางมือหนาไว้บนหัวของว่าที่ภรรยาสาวไปด้วย “นิดหน่อย บอกแล้วไม่ต้องจัดก็ได้” เธอเพียงมุ่ยหน้าเล็กน้อย สร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้าได้มากทีเดียว “ได้ไง คนดังอย่างกูแต่งงานทั้งทีเลยนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาได้ไม่อายปาก หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมาแท
ตอนพิเศษ ๑8 เดือนผ่านไป...เวลา 04.35 น. ภายในห้องกว้างมีเพียงสองร่างชายหญิงกำลังนอนหลับใหล ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานส่งผลให้ทั้งคู่หลับอย่างสบาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาจากความเงียบสงบแปรเปลี่ยนเป็น.... “อะ โอ้ยยยย” หญิงสาวท้องโตสะดุ้งตื่นพร้อมกับส่งเสียงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่เธอร้องออกมาดังจนปลุกให้ชายร่างกำยำมีลายสักที่คอสะดุ้งตื่น “สร้อยเป็นอะไร!” เขาถามเธอออกไปด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกุมท้องใหญ่ “ละ..ลูก จะคลอด! โอ๊ยยยยยเจ็บบบ” หญิงสาวท้องโตพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด เตียงที่เคยแห้งกลับกลายเป็นเปียกโชก บ่งบอกได้ดีว่าเด็กน้อยในท้องพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว “เวรเอ๊ย! อดทนก่อนกูจะรีบพามึงไปโรงพยาบาล” ชายร่างกำยำรีบจัดการเสื้อผ้าบนตัวก่อนจะวิ่งอ้อมมาหาหญิงสาวด้วยความรีบร้อน “หนักฉิบหายเลยโว๊ยยยยย” ปากหนาบ่นอุบอิบ หญิงสาวไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากต้องทนกับอาการเจ็บปวดที่ได้รับ ฝ่ายชายรีบอุ้มหญิงสาววิ่งไปที่รถ
“ไหวไหมนั่น” ฉันทำท่าทางจะลุกเดินไปหา แต่เขาห้ามไว้ซะก่อน “อย่าแกล้งพ่อเขาหนักสิลูก” ฉันนอนลูบท้องเปล่งเสียงเบาบอกลูกของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินขึ้นมานอนข้าง ๆ “ดีแล้วที่กูแพ้แทนมึง เพราะถ้ามึงแพ้เองกูคงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่” แหนะ ยังจะมาปากหวานอีก “พูดถูกใจตลอดด” ฉันแอบแซวเขาพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองไปมา “กูพูดตามความรู้สึก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันที่กำลังหยิกเขา แล้วหอมมือฉันอย่างแผ่วเบา “รู้ไหมว่ารักมาก?” “อือรู้ ฉันก็รักพี่มากเหมือนกัน” “แล้วรู้ไหมว่ากู หวง ห่วง มึงมาก?” “รู้สิ สร้อยก็ หวง ห่วง พี่เหมือนกันนะ” “งั้นก็รู้ไว้ซะ ว่ามึงคือผู้หญิงของกูคนเดียวและเป็นแม่ของลูกกูด้วย” “>////พี่ก็เหมือนกันเป็นพ่อของลูกสร้อย” ความร้อนรุ่มแทรกผ่านเข้ามาที่ใบหน้าของฉัน เครื่องปรับอาการที่ว่าเย็นมากแล้วยังต้องยอมแพ้กลับความร้อนที่เผาผลาญอยู่บนหน้าของฉัน เขานี่มันพูดได้ไม่อายเลยจริง
บทที่ 31 END “ทำงี้กะจะให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอวะ” บ้าที่สุดดด ชอบพูดคำน่าอายอยู่นั่น “รีบไปได้แล้ว >///” ฉันออกแรงผลักไล่ให้เขาขยับตัวออก แล้วไล่ดุนหลังเขาจนไปถึงหน้าห้อง “เดี๋ยวรีบกลับนะ จุ๊บ” ว่าจับเขาก็จุ๊บลงบนปากของฉันอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป กว่าจะได้ออกไปทำงานฉันก็เปลืองตัวไปกับเขามากโขแล้ว หุหุหัวค่ำ...Rrrr Rrr เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันละสายตาออกจากทีวี พลางก้มลงไปมองสายที่โทรเข้ามา ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครโทรเข้ามา “จะกลับแล้วเหรอ” ฉันกดรับก่อนจะเอ่ยถามคนปลายสาย “อืม ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ “ใกล้ถึงแล้วจะโทรมาให้เปลืองเงินทำไมเล่า” “คิดถึง เพิ่งมีเวลาจับมือถือเอง” เสียงออดอ้อนของปลายสายสร้างความรู้สึกดีให้ฉันไม่น้อย “คิดถึงเหมือนกัน วางสายก่อนขับรถอยู่อันตราย” “ครับ” เขาตอบรับด้วยคำสุภาพทำเอาฉันรู้สึกกระดากหูที่ได้ยิน ไม่







