มีแต่ความคิดถึง
“ชอบห้องนี้ไหมเอิง” อารียาถามขึ้นเมื่อเธอถูกพามายังห้องพักส่วนตัว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องอารียานั้นเอง เป็นโซนห้องพักที่จัดรับรองสำหรับเครือญาติ
“ชอบสิ ห้องสวยขนาดนี้” อรองค์มองรอบห้อง แต่เพราะการมาอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย แถมจิตใจก็ยังอาวรณ์กับที่ที่จากมา เจ้าตัวก็เลยไม่มีแก่ใจยินดีกับอะไรทั้งนั้น
“ดีแล้วที่ชอบ จริงๆ เพราะห้องข้างๆ ห้องนี้คือห้องของอาวิณ”
“เขาคงไม่มามาที่นี่อีกแล้วมั้ง” อรองค์พูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“ว่าไปนั่น บ้านนี้เป็นบ้านของอาวิณเหมือนกันนะ ยังไงเขาก็ต้องกลับมาสิ”
บิดาของเธอเป็นเพียงอาจารย์ในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ตอนนี้ก็เสียไปแล้ว ไม่ได้มีเงินมากมายจะซื้อบ้านหลังใหญ่
ภูวิณกับคุณย่าพิศมัยจึงเข้ามาดูแลเธอกับมารดา รวมทั้งซื้อบ้านหลังนี้ให้อยู่ด้วย โดยเฉพาะย่าพิสมัยก่อนที่ท่านจะเสียนั้นได้เดินทางมาหามารดาของเธอ เพื่อจะให้ดูแลอรองค์เสมือนผู้ปกครองคนหนึ่ง แถมยังให้เงินมารดาเธอไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร สำหรับค่ากินอยู่ขณะที่อรองค์อยู่ที่บ้านส่วนค่าเล่าเรียนนั้นภูวิณจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะมรดกที่อรองค์จะได้รับนั้นต้องรออายุยี่สิบเสียก่อนถึงจะได้สิทธิ์ครอบครอง ตอนนี้ทรัพย์สินทุกอย่างของอรองค์ยังอยู่ในความดูแลของภูวิณตามคำสั่งของคุณย่าพิศมัย
คุณย่าพิสมัยก็ให้เครื่องประดับกับเธอและมารดา ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านเช่นกัน เพราะฉะนั้นเธอกับมารดาจึงอยากดูแลอรองค์ให้ดีที่สุดตามที่คุณย่าพิศมัยสั่งไว้
แต่ถึงท่านไม่สั่ง อารียาก็ต้องดูแลยัยขี้แยคนนี้อยู่แล้ว เพราะตอนนี้นั่งเหม่อน้ำตาซึม
“ไปเดินเล่นรอบบ้านกันเถอะ” อารียาดึงแขนอีกฝ่ายลุกจากโซฟาในมุมนั่งเล่นของห้องพักที่แบ่งเป็นโซนไว้อย่างลงตัว ที่เตียงนอน โต๊ะทำการบ้าน มุมนั่งเล่นดูทีวี หรือมุมแต่งตัว
“ไว้วันหลังได้ไหม ฉันไม่มีอารมณ์อยากเดินเล่น”
“ไม่ได้ ต้องวันนี้แหละ” เพราะขืนปล่อยไว้แบบนี้ ได้ปล่อยโฮ คิดถึงไร่ภูวิณ และเจ้าของไร่แน่นอน
โอ๊ย อายุแค่สิบห้า อยากมีความรัก แถมรักใครไม่รัก รักผู้ชายที่เป็นผู้ปกครองตนเอง แถมอายุมากกว่าตั้งสิบห้าปี
ในเมื่อทนแรงฉุดของอารียาไม่ไหว อรองค์จึงเดินลงบันไดบ้านมาอย่างจำยอม ก่อนที่อารียาจะลากตัวออกไปนอกบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ บริเวณบ้านก็กว้างขวาง มีต้นไม้ร่มรื่น มีสวนดอกไม้ด้วย แต่อย่างไรก็ไม่อาจเทียบกับไร่ภูวิณ โดยเฉพาะ...
“ที่นี่ไม่สวนครัว”
“สวนครัวนี่นะ!”
“ใช่ แบบปลูกพืชผักสวนครัวไว้ทำอาหารไง”
“ไม่มีอะ อยากกินอะไรก็ซื้อตลาดเอาสิ”
“งั้น ฉันขอทำสวนผัก ตรงนู้นได้ไหม” เธอชี้ออกไปห่างจากสวนดอกไม้รอบบ้าน ซึ่งเป็นที่โล่งกว้าง มีต้นไม้ใหญ่และสนามหญ้าเท่านั้น
“ได้เลย” อารียาคิดว่า การให้เพื่อนได้ทำอะไรอย่างที่ชอบ ก็ดีกว่าปล่อยให้เอาแต่คิดถึงสถานที่จากมา รวมทั้งคนที่นั่นด้วย
“ขอบใจนะอิ้ง” อรองค์ดีใจจนกระโดดกอดเพื่อน แต่สักพักก็นึกขึ้นได้
“ป้าอินจะไม่ว่าอะไรเหรอ”
“ไม่ว่าหรอก ไม่เชื่อก็ไปถามได้เลย”
“โอเค ฉันจะขออนุญาตป้าอินก่อนดีกว่า”
และเมื่ออรองค์ไปถามอินทุอร ซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากครัว ก็ได้รับคำตอบว่า
“โอ๊ย ดีมากเลยเอิง ป้าเองก็อยากกินผักฝีมือการปลูกของเอิงเหมือนกัน และมันคงสะดวก ถ้าเราจะทำเมนูอะไรก็เดินไปเก็บผักหลังบ้านเลย”
“ขอบคุณป้าอินมากๆ นะคะ” อรองค์ยกมือไหว้คนสูงวัยด้วยสีหน้าแช่มชื่น ซึ่งทำให้อินทุอรกับอารียาลอบยิ้มให้กัน
เพราะยอมรับก่อนไปรับอรองค์กลุ้มใจพอสมควร เพราะไม่รู้จะทำให้อรองค์หายเศร้าที่ต้องจากบ้านเกิดมา หรือจะทำให้อรองค์ใช้ชีวิตที่บ้านอย่างมีความสุขได้หรือเปล่า
แต่ตอนนี้พอเห็นหนทางแล้ว และจะสนับสนุนให้อรองค์ปลูกทุกอย่างที่อยากปลูก เพราะพื้นที่หลังสวนออกไปนั้น มีมากพอที่
อรองค์จะทำเป็นสวนหลังบ้านได้อย่างสบายเฮ้อ โล่งใจ เพราะไม่ชอบเสียงร้องไห้ของยัยเอิงเอาเสียเลย
มันยากจริงๆ ที่จะข่มตาให้หลับลงได้ ในค่ำคืนแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ ห้องส่วนตัวก็สวย สะอาด ตกแต่งได้น่าอยู่ เตียงนอนก็นุ่ม สบาย เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ ทว่าอรองค์ก็นอนไม่หลับ แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนมาแล้ว
จะสวดมนต์ นั่ง นอนสมาธิ นับแกะไปเป็นพันตัว แต่ก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้
ในใจมันโหวงเหวง คิดถึงห้องนอนแคบๆ บนเรือนหลังเล็ก ได้ยินเสียงแมลงกลางคืนร้องดังระงม เสียงใบไม้ส่ายตามแรงลม ขับกล่อมให้หลับสบาย
ยิ่งคิดน้ำตาเธอก็ไหลพราก พร้อมสะอื้นฮัก
อาวิณใจร้าย
ใจร้ายที่สุด!
ป่านนี้คงมีความสุขกับมะลิจนลืมหลานนอกไส้อย่างเธอไปแล้ว
ขอให้สำลักความสุขจนจุกอกไปเลย!
จริงๆ ก็ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว แต่คืนนี้มันยากเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงที่เพิ่งจากบ้านที่เคยอยู่มานาน เพียงลำพัง
คิดถึงพ่อ คิดถึงปู่กำนัน คิดถึงย่าพิศมัย ที่ใจดีกับเธอที่สุด
และยังต้องคิดถึงคนที่ใจร้ายกับเธอที่สุดด้วย
มันทั้งเสียใจและเจ็บใจจริงๆ
เขาคงจะรักมะลิมากสินะ เพราะที่ผ่านมาเธอก็แกล้งผู้หญิงคนอื่น เขาก็ไม่ได้โกรธมากขนาดนี้ แถมยังปลอบใจมะลิด้วยการพาไปเที่ยวเมืองนอกอีก
ไม่แน่ว่าอาวิณอาจแต่งงานกับมะลิ
แต่คุณย่าพิศบอกกับเธอว่า เธอต่างหากที่จะได้เป็นเจ้าสาวของอาวิณ
คุณย่าไม่โกหกเธออยู่แล้ว
วันหนึ่งที่เธอโตขึ้น อาวิณก็ต้องแต่งงานกับเธอ
อาวิณไม่รักมะลิ
อาวิณแค่หลงมะลิชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น
อีกหน่อยอาวิณก็เบื่อมะลิ
มะลิไม่สวย
มะลิไม่น่ารัก
มะลิกลัวผี
มะลิตกบันไดไปเอง
เอิงไม่ได้ผลัก
มะลิซุ่มซ่ามเอง
ครอกฟี่
พอลูกสาวหลับไปแล้ว ภูวิณก็เก็บหนังสือนิทานไว้บนโต๊ะ ห่มผ้านวมให้ หอมแก้มเบาๆ ไม่ลืมที่จะปิดโคมไฟหัวเตียง เหลือเพียงโคมไฟหน้าห้องน้ำ จากนั้นก็กลับห้องนอนของเขากับภรรยาที่อยู่ห้องถัดไป คั่นกลางด้วยห้องแต่งตัวที่ประตูทั้งสองห้องเชื่อมต่อกันได้ภูวิณยิ้มกริ่มเมื่อเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาก็เห็นภรรยากำลังสวมชุดนอนสีดำสายเดี่ยว ยิ่งขับผิวขาวนวลลออตา ชุดสั้นเหนือเข่ามาเกือบคืบ โชว์เรียวขาสวยที่เขามองไม่เคยเบื่อ ผมยาวดำขลับทิ้งสยายเต็มกลางหลังใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มกลับเห็นผิวขาวใสไร้รอยด่างดำ แม้จะออกไปช่วยงานในไร่บ่อยครั้ง สลับกลับไปทำงานในรีสอร์ต แต่อรองค์ก็ดูแลตัวเองอย่างดีอรองค์ในวัยสามสิบต้นๆ เหมือนเจ้าตัวเพิ่งเป็นสาวเต็มตัว มีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเด็กสาวในวันวานทั้งรูปร่างที่ผอมเพรียว แต่ก็เฟิร์มไปทั้งเนื้อตัว ช่วงอกอวบอิ่มขึ้น ดวงตากว้างเป็นประกายรู้ทันเมื่อเห็นสายตาโลมเลียของเขา“เซ็กซี่จัง” ภูวิณเดินมาโอบกอดภรรยาจากด้านหลัง ซุกจมูกที่ลำคอระหง ก่อนย้ายไปยังซอกหู มือใหญ่นั้นเริ่มไล้เบาๆ ตั้งแต่โค้งสะโพก ผ่านชุดนอนเนื้อบางเบา ทำให้อรองค์วูบไหวจนร่างสะท้าน พร้อมครางเสียงแผ่วริมฝีปากอุ่น
ตอนพิเศษ “คุณแม่ขาหนูอยากปั่นจักรยานเล่นที่ไร่ค่ะ” เด็กหญิงอิงจันทร์ วัยสี่ขวบเอ่ยขึ้นในเวลาบ่ายวันหยุด กำลังกินของว่างกับแม่ในสวนข้างบ้านเด็กหญิงอิงจันทร์มีหน้าตาคล้ายแม่ค่อนข้างมาก ทั้งใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาโตกว้างเป็นประกายสดใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มได้รูป ผมสั้นเคลียหูและมีหน้าม้า ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นเหมือนตุ๊กตาเดินได้“งั้นกินนมให้หมดก่อนค่ะ เดี๋ยวแม่พาไป” เมื่อได้ยินแบบนั้นเด็กหญิงก็ยกแก้วนมที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วดื่มจนหมด“หมดแล้วค่ะ”“งั้นเราไปเปลี่ยนรองเท้าและใส่หมวกกันค่ะ” อรองค์ที่ตอนนี้อยู่ในวัยสามสิบต้นๆ บอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลูกสาวตัวน้อยก็รีบลงจากเก้าอี้ แล้วเดินลิ่วเข้าไปในบ้านทันทีไม่กี่นาทีต่อมาสองแม่ลูกก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับการปั่นจักรยาน รองเท้าผ้าใบและหมวกกันน็อค“น้องเอิงคะ ป้าศรีถาม ค่ำนี้กินอะไรดี”“อ๋อ เอิงลืมบอก ตอนค่ำเอิงจะพาน้องอิงไปกินข้าวที่ รีสอร์ตกับพ่อเขาน่ะ”อรองค์หันมาบอกคำแพง ที่ตอนนี้รับหน้าที่หลักเป็นพี่เลี้ยงเด็กหญิงอิงจันทร์ ช่วยงานบ้านอื่นๆ ยามว่างเว้นจากการดูแลเด็กหญิง เช่นวันหยุดที่อรองค์ไม่ได้ทำงาน เธอก็จะดูแลลูกสาวเอง
บทส่งท้าย หกปีต่อมาที่ไร่ภูวิณในเวลาเช้าตรู่ อรอรงค์กำลังแต่งหน้าทำผมเสร็จ สวมใส่ชุดไทยประยุกต์สีครีม ส่งผลให้รูปร่างสูงเพรียวนั้นยิ่งหน้ามองเครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ใบหน้าสวยที่แต่งแบบเรียบๆ กลับยิ่งโดดเด่นนัยน์ตาเรียวกว้างและคมหวานเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากยิ้มแย้มอิ่มเต็มและเย้ายวนอยู่ในที“แกสวยมาก” มะเหมี่ยวเอ่ยปากชม“เหมือนนางฟ้าเลยแก” มัทนาชมบ้าง“ฉันเห็นเอิงใส่ชุดแต่งงานครั้งที่สองแล้วนะ ครั้งแรกแต่งแทนคนอื่น ตอนนั้นเอิงยังเด็กอยู่ก็สวยน่ารัก ตอนนี้ดูเป็นสาวเต็มตัว เฉิดฉายมากเลย ออร่าแบบพุ่งสุดๆ” อารียาเอ่ยชมด้วยสีหน้าสุดปลื้มปริ่มกับเพื่อนรัก ที่ตอนนี้เพิ่มสถานะอาสะใภ้เข้าไปด้วย“ครั้งนี้ต้องพิเศษสิ เพราะงานแต่งของฉันจริงๆ ไม่ได้แต่งแทนคนอื่น” อรองค์เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกว้าง ปลื้มกับคำชมของเพื่อนๆ จนจะลอยได้อยู่แล้ว“สรุป แกเป็นเจ้าสาวสองครั้งในชีวิตของอาวิณ”“ฉันถือครั้งนี้ คืองานแต่งของฉันจริงๆ”“เด็กๆ ไปข้างล่างกันเถอะ ได้กฤกษ์ทำพิธีแล้ว” อินทุอรโผล่หน้ามาบอกทุกคนในห้องแต่งตัวเมื่อลงมาถึงชั้นล่างที่สวนข้างบ้าน ก็เห็นเจ้าบ่าวยืนอยู่กับมัชกร และกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อรอเ
“เราชอบอิ้งตั้งแต่ตอนมอต้น แต่เราไม่กล้าแม้จะคุยกับอิ้ง กลัวยัยน้อยหน่าแกล้งอิ้ง”“เราก็คิดว่าไม้ชอบเอิงเสียอีก”“ใครจะกล้าชอบ อิ้งบอกย้ำเราตลอดว่าเอิงจะเป็นเจ้าสาวของอาวิณของอิ้ง”“แฮะๆ ขอโทษนะ ตอนนั้นเรากลัวไม้ชอบเอิงน่ะ เลยบอกย้ำ” เธอสารภาพน้ำเสียงเขินๆ“ก็ตอนนั้นเราชอบอิ้งแล้ว จะชอบใครได้อีก”“แล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกตั้งแต่ตอนนั้นเราคงคบกันได้หลายปีแล้ว แล้วตอนนั้นไม้เหมือนสนใจเอิงด้วยนะ”“ก็สนใจ เพราะเอิงดูสู้คนไง”“เลยให้เอิงไปสู้กับยัยน้อยหน่าว่างั้นเถอะ”“อือ คิดว่าเอิงจัดการได้”“แต่เสียดาย น่าจะบอกกันบ้าง”“ถึงเราจะชอบอิ้ง แต่ก็ยังเด็ก และไม่แน่ใจว่าจะชอบต่อไปได้นานแค่ไหน”“งั้นตอนนี้ก็ยังชอบนะ”“ก็ชอบอยู่”“งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหม” เพราะอย่างไรก็คบในฐานะเพื่อนมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกันอะไรกันเพิ่มเติม“ได้ แต่อย่าเพิ่งบอกคนอื่นๆ ได้ไหม”“ทำไม อายเหรอที่จะเป็นแฟนกับเรา” น้ำเสียงมีแววน้อยเนื้อต่ำใจ“ถ้าอิ้งไม่กลัวพวกเขาแซวก็ตามใจอิ้งนะ”“งั้นปิดไว้ก่อนเหอะ แอบๆ คบกันก็น่าสนุกดีนะ” น้ำเสียงเธอร่าเริงขึ้นมาทันที“แต่อิ้งควรบอกผู้ใหญ่ของอิ้งก่อนนะ”“หมายถึงคุณแม่กับอาวิ
“จะไปไหน แต่งตัวซะสวยเชียว” อรองค์ถามขึ้นเมื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในโถงชั้นล่างพร้อมกินของว่างไปด้วย ก็เห็น อารียาใส่เดรสสีครีมดูอ่อนหวานนุ่มนวล แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ ให้ดูหวานละมุนเข้ากับชุดที่สวมใส่“ไปดูหนังกับไม้”“แกไปล่อลวงไม้ให้ไปดูหนังได้ด้วยเหรอ”“บ้า ล่อลวงอะไร ปกติไม้ก็ไปดูหนังกับฉันกับยัยเหมี่ยวบ่อยๆ” ส่วนอรองค์กับมัทนาไม่ชอบเข้าโรงหนัง รวมทั้งมัชกรด้วย แต่ทุกครั้งที่ชวนเขาก็ไม่เคยปฏิเสธ“ก็ไม้ไปเป็นเพื่อนแกกับยัยเหมี่ยวไง แต่ครั้งนี้เหมี่ยวไปด้วยหรือเปล่า”“ก็ชวนแล้ว แต่มันไม่ว่าง และฉันก็อยากดูหนังเรื่องนี้มาก” เจ้าตัวก็บอกชื่อภาพยนตร์ที่จะไปดู“มีแผนไรหรือเปล่าเนี่ย ชวนไม้ไปดูหนังผี แล้วตัวเองแต่งตัวเป็นนางฟ้า”“อุ๊ย ฉันสวยมากใช่ไหมแก” น้ำเสียงของอารียาร่าเริงขึ้นมาทันที“ไปถามป้าอินที่ร้านดูก่อนไหม”“บ้าสิ ขืนไปถาม แม่ก็ซักไซ้ว่าฉันแอบกิ๊กผู้ชายไม่บอกเขาน่ะสิ”“คิดว่าป้าอินจะไม่รู้เหรอ แกมองไม้ที โหหวานซึ้งตรึงใจไปถึงสามโลก”“เว่อร์น่า”“ไม่เชื่อก็ไปถามไอ้ไม้ดู”“แกว่าฉันควรถามตรงๆ เหรอ”“เออ จะอมพะนำไปทำไม ค้างๆ คาๆ”“งั้นฉันจะลองทำใจกล้าถามเขาดู”“แต่ก็ต้องเผื่อใจด้วยน
ชอบมาตั้งนาน อรองค์กับแก๊งเพื่อนสนิทนั่งอ่านข่าวเด่นข่าวดังด้วยความชื่นมื่นในร้านชาบู ซึ่งจองห้องวีไอพีเฉพาะพวกเขาเท่านั้นข่าวลูกชายนักการเมืองจัดปาร์ตี้ยาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างมาก ในคืนนั้นใครตรวจเจอฉี่ม่วงก็โดนกันไป เรียกว่าไม่มีใครรอดสักคน แต่คนที่หนักสุดคือดรีม เพราะเป็นถึงลูกชายนักการเมืองที่เป็นถึงระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี แถมตำรวจเจอคลิปลับในโทรศัพท์ของอีกฝ่ายอีกหลายสิบคลิปในโซเซียลฯ ก็ถูกประจานสันดานเลวๆ ของดรีม ส่วนใหญ่ผู้หญิงออกมาพูดว่าดรีมชอบเอาคลิปลับมาขู่ให้ยอมมีเซ็กซ์ในครั้งต่อๆ ไป บางคนก็ถูกล่อลวง แอบถ่ายต่างๆ นานา เรียกว่างานนี้เรียกโจทย์ทั้งเก่าและใหม่มาทัวร์ลงเท่านั้นยังไม่พอทำพ่อเสียชื่อไปด้วย ได้ยินข่าวมาว่า ประกันตัวออกมาแล้ว ดรีมถูกพ่อส่งไปเมืองนอก เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามประสาคนรวย พอมีเรื่องก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ เพราะกระแสจากสังคมตอนนี้แรงมากทางมหาวิทยาลัยก็สั่งพักการเรียนทุกคนในงานที่ตรวจเจอฉี่ม่วง รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ที่คืนนั้นแม้จะออกมาก่อนตำรวจจะมาถึง แต่อีกฝ่ายก็เป็นเจ้าของงานวันเกิด ถึงแม้คนที่เป็นเจ้าของปาร์ตี้ตัวจริงจะคือดร