แชร์

อุบัติเหตุ

ผู้เขียน: พ่รรณพสา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-19 08:00:52

พราวรัมภาออกเดินทางจากบ้านสวนไม่เท่าไหร่ ประมาณห้าสิบกิโลเมตร ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ ไม่ปลอดภัยสำหรับรถเล็กแบบของเธอ พราวเลือกที่จะแวะที่ปั้มน้ำมัน เพื่อคลุมผ้าใบกันฝนท้ายกระบะ เรียบร้อยแล้วฝนก็ยังไม่หยุดตกหญิงสาววิ่งเข้าไปที่ร้านกาแฟดังที่อยู่ภายในปั้ม เห็นทีว่าเธอคงต้องติดอยู่ที่ปั้มนี้นานซะแล้ว เสียงโทรศัพท์เตือนระหว่างที่นั่งรอกาแฟ

“คะพี่พลอย มีอะไรหรือเปล่า พราวยังไม่ถึงกรุงเทพฯเลยค่ะ ติดฝน”

“พราว พี่อยากให้พราวมาเที่ยว มาไหม มันสวยมากโรแมนติกสุดๆ พี่อยากให้พราวมาเดี๋ยวพี่ออกค่าตั๋วให้”

“พี่พลอย ถ้าแบบนั้นพราวต้องลางานเพิ่มนะคะ”

“ลาที่ไหนอย่ามาพูดโกหก เราก็รู้กันอยู่ว่ามีวันหยุดอีกสองวัน มาเถอะถึงกรุงเทพฯเมื่อไหร่บอกพี่ด้วย พี่จองตั๋วเครื่องบินให้แล้วพรุ่งนี้เช้าขึ้นที่สุวรรณภูมิ แค่นี้นะ เดี๋ยวรายละเอียดพี่ส่งให้คืนนี้ ไม่ต้องคิดมาก”

“พี่พลอย อะไรของเขาเนี้ย” พราวรัมภามิอาจปฏิเสธพี่สาวได้ เพราะหลังจากวางสาย พลอยไพลินก็ส่งสลิปการโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้เธอ "ไหนบอกว่าจะส่งให้คืนนี้" แสดงว่าพี่สาวเธอซื้อตั๋วแล้วถึงโทรบอกเธอทีหลัง ก็คงอยากจะให้เธอไปมากนั่นแหละ

พอดีกับที่พนักงานร้านกาแฟเรียกเมื่อถึงคิวของเธอแล้ว พราวรัมภารับกาแฟจ่ายเงินเดินกลับมาที่เดิม คิดว่าคงต้องนั่งต่อ เพราะข้างนอกฝนยังไม่หยุดตก หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆ ร้านกาแฟ คนเยอะแยะเพราะมาหลบฝน ไม่ค่อยพอใจนักกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ผู้ชายตัวสูงผิวสีแทนหุ่นเหมือนนักกีฬานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวที่เธอนั่ง และที่สำคัญกระเป๋าของเธอก็วางอยู่ตรงนั้นด้วย ถุงขนมนั่นอีก

“คุณคะขอโทษนะคะ ตรงนี้ที่นั่งของฉัน”

“อะไรบอกว่าเป็นที่นั่งของคุณ นี่ร้านกาแฟนะครับ” เสียงดังแม้พูดปกติออกแนวกวนๆ ถามกลับมา

“รู้ค่ะว่าที่นี่เป็นร้านกาแฟ คุณไม่เห็นเหรอคะว่ามีกระเป๋าวางอยู่” พราวรัมภาเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน

“ก็คุณนั่งมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ แบ่งให้คนอื่นนั่งบ้าง”

พราวรัมภาหยิบกระเป๋าและถุงขนมของตัวเองออกมาจากโต๊ะ คิดในใจอยากนั่งก็นั่งไปเถอะ ดีที่เธอจอดรถไว้หน้าร้านกาแฟพอดี ฝนเริ่มซาแล้ว หญิงสาวตัดสินใจออกเดินทางต่อ ถ้าเธอหันกลับมามองข้างหลังสักนิด จะเห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หุ่นเหมือนนักกีฬาหน้าตาไทยแท้ผิวเข้ม มองตามหลังเธอจนกระทั่งขึ้นรถและขับออกไปจากปั้มน้ำมัน ท่ามกลางฝนที่เริ่มตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง

พราวรัมภานึกโมโหผู้ชายในร้านกาแฟ เธอเป็นคนนิ่งๆ ไม่อยากมีเรื่องกับใคร และเขาเป็นผู้ชายด้วย คนในร้านกาแฟก็เยอะ ก็จริงอย่างที่เขาว่าเธอนั่งนานแล้ว ก็แบ่งคนอื่นนั่งบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก ร้านกาแฟก็ไม่ใช่ของเธอ จริงอย่างที่เขาว่า คิดได้แบบนี้ก็ทำให้เธอสบายใจ แต่แค่ติดใจกับท่าทางและคำพูดที่กวนของผู้ชายคนนั้นมากกว่า

พราวรัมภาค่อยๆ ขับรถของตัวเองเรียกว่าต้อง ต้องขับอย่างระมัดระวังอย่างมาก เพราะรถกะบะของเธอไม่เหมาะที่จะเดินทางไกล เบาะคนขับก็ปรับไม่ได้ เกียร์ก็ยังเป็นเกียร์ธรรมดา กระจกข้างยังต้องใช้มือปรับ สรุปว่ารถของเธอเหมาะที่จะวิ่งใกล้ๆ คนส่วนให้ใช้ทำเป็นรถกาแฟ รถส่งของ แต่เพราะความชอบของเธออะไรก็ดี เพราะซื้อมาแล้วนี่

“เฮ้ย.....” พราวรัมภาค่อยๆ แตะเบรก เธอตกใจรถสิบแปดล้อที่วิ่งมาข้างๆ วิ่งเร็วตกหลุมในช่วงที่มีน้ำขัง ทำให้น้ำกระเด็นมาใส่ด้านข้างรถของเธอและเป็นฝั่งคนขับ ทำให้รถของเธอไถลไปอยู่ข้างถนน ดีที่เธอค่อยๆ แตะเบรก ไม่งั้นรถของเธอกต้องลอยแน่ เพราะส่วนกะบะเบามาก ใจสั่นยังไม่หาย ต้องตกใจซ้ำสองรถของพราวเลื่อนไปต่อด้านหน้าด้วยแรกกระแทกจากด้านหลัง

พราวพยายามตั้งสติสำรวจตัวเอง แรงกระแทกมาจากด้านหลังเธอหันไปมองผ่านกระจกหลัง ต้องยกมือปิดปาก เพราะความตกใจ ด้านหลังรถของเธอ เห็นแค่ส่วนหัวของรถที่ทิ่มเข้ามาชนท้ายกระบะรถของเธอก็รู้ว่าเป็นรถราคาแพงมาก ตกใจซ้ำอีก เมื่อข้างกระจกฝั่งคนขับมีคนมาเคาะกระจกแรง แถมกระชากประตูให้เธอเปิด

“นี่เธอขับรถแบบไหนกัน เบรกกะทันหันได้ยังไง ไม่มองหรือไงว่ามีรถตามหลังมา”

พราวรัมภาพยายามตั้งสติ เพ่งมองคนที่พยายามเคาะและดึงประตูของรถของเธอให้เปิด ตาเธอไม่ฝาดหรอก อีตาคนที่เธอเจอเขาที่ร้านกาแฟเมื่อสักครู่ คิดดูเอาเถอะขนาดเธอนั่งอยู่ในรถ ฝนก็ตกแรงขนาดนี้เสียงของเขาดังขนาดไหน เธอได้ยินชัดเจน

“พอแล้วคุณไม่ต้องเคาะแล้ว” พราวเปิดประตูและตะโกนออกไปเสียงดัง

“นี่เธอเองเหรอ ขับรถยังไงเบรกกะทันหัน เห็นไหมว่ารถฉันพังหมดแล้วเนี้ย” ไม่ใช่เสียงดังอย่างเดียวท่าทางเขาน่ากลัวมาก ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำซ้ำลงมาอีกครั้ง

“นี่เธอจะเอายังไง เขาตะโกนท่านกลางสายฝน เมื่อเห็นว่าพราวรัมภาเดินวนไปรอบๆ รถตัวเองด้วยท่าทางที่นิ่งมาก

“แล้วแต่คุณเลยค่ะ จะเอายังไงก็เอา” พราวตะโกนกลับไป เธอกลับไปที่รถเปิดประตูขึ้นไปนั่งที่คนขับ แป๊ปเดียวประตูฝั่งข้างคนขับก็ถูกผู้ชายคนนั้นกระชากเปิดออก แต่เมื่อเขาเห็นว่าข้าวของต่างๆ วางกองเต็มไปหมดก็กระแทกประตูปิดเหมือนเดิม กลับไปเดินวนไปวนมาดูรถของตัวเอง

พราวนั่งนิ่งมองผ่านกระจกหลังรถไปที่ชายคนนั้นเขาเข้าไปนั่งฝั่งคนขับ หญิงสาวถอนหายใจเขาคงโทรหาประกัน ดูแล้วรถเธอไม่ได้เสียหายอะไรกระบะฉีกนิดหน่อย เอาจริงๆ รถรุ่นนี้แข็งดี แต่ของอีกฝ่ายแน่ล่ะเพราะรถเขาราคาแพง เท่าที่เห็นสีถลอกอย่างอื่นเธอไม่เห็นว่าจะมีร่องรอยอะไรเลย แต่เจ้าของรถโมโหมาก

ใจยังไม่หายเต้นดี ก็ต้องตกใจอีกรอบ ประตูฝั่งคนขับถูกเคาะอย่างแรงอีกครั้ง ดีที่เธอล็อค เขาโวยวายฟังไม่ออกหรอกว่าพูดอะไร ขยันพูดซะจริงทั้งที่รู้ว่าฝนตก จนเธอต้องปลดล็อคประตูออก แค่นั้นแหละแขนของเธอก็ถูกเขากระชากลากออกจากรถ

“อะไรของคุณเนี้ย บอกดีๆ ก็ได้ฉันก็ไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย ฉันเจ็บนะใจเย็นๆ หน่อยได้ไหม” ผู้ชายตัวใหญ่ผลักเธอให้เข้ามานั่งในรถของเขาฝั่งด้านข้างคนขับ ปิดประตูกระแทกเสียงดัง ส่วนตัวเขาเข้ามานั่งฝั่งคนขับ ทั้งสองตัวเปียกโชก

“นี่รถผมเสียหายนะ จะให้ใจเย็นได้ยังไง รถผมแพงนะไม่เหมือนรถคุณนี่”

“ใจเย็นๆ ค่ะตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้ ถ้าฉันผิดฉันยอมรับผิดทุกอย่าง ฉันไม่รู้หรอกว่ามันเสียหายเป็นเงินมากขนาดไหน แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งมาเถียงกันเลยค่ะ คุณเรียกประกันเถอะ หรือจะเอายังไงก็เอา มัวแต่มาเถียงกันมันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ” พราวรัมภาใช้แขนเสื้อยีนต์ของเธอเช็ดหน้าและลูบๆ ไปที่ผมเปียกไปหมดทั้งตัว

“ฉันขอใช้ทิชชู่คุณได้ไหมคะ” ถามเขาไปอย่างนั้นแหละรู้หรอกว่าเขาไม่อยากให้เธอยุ่งกับของในรถของเขา ไม่ทันขาดคำกล่องทิชชู่ก็ถูกโยนมาที่ตักของเธอ พราวถอนหายใจกับกิริยาของชายเจ้าของรถ เขากับเธอน่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกัน เพิ่งมีเรื่องกันที่ร้านกาแฟมาหยกๆ ต้องมาเจอกันอีกแรงกว่าแย่งที่กันในร้านกาแฟซะอีก

“เอายังไงคะ นี่คุณจะรอจนกว่าฝนหยุดหรือยังไงถึงจะตามประกัน ฉันเริ่มหนาวแล้วนะคะ จะได้แยกย้ายกัน”

เงียบไม่มีสัญญาณตอบรับ พราวใช้ทิชชูเช็ดตามเบาะรถของเราที่เปียก รวมถึงเช็ดตามหน้าตามลำคอตามแขนของตัวเอง

“เงียบๆ ไปเลย ผมต้องใช้ความคิด”

“ก็คุณคิดนานเกิน เนี้ยเบอร์ประกันก็มีก็โทรซิคะ เราจะได้ตกลงกัน”

“บอกให้เงียบไง”

“นี่คุณ จะคิดอะไรนานนัก ถ้าคุณไม่โทรฉันไม่รอแล้วนะ ขืนอยู่แบบนี้เป็นปอดบวมป่วยแน่ๆ” พราวมองหากระดาษและปากกาในรถของชายหนุ่ม แล้วเขียนชื่อและเบอร์โทรวางไว้ให้เขา เปิดประตูรถลงไปที่รถของตัวเองอย่างรวดเร็ว สตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากที่ตรงนั้นทันที โดยที่คนบนรถไม่ทันได้ตั้งตัว

“นั่งไปเถอะอยู่ในรถนั่นแหละตัดสินใจยากนัก”

พราวรัมภาขับรถถึงคอนโดอย่างปลอดภัย เกือบสี่โมงเย็น สรุปว่าเกือบทั้งวันเธอเจอเรื่องราวที่เรียกว่าทำให้ปวดหัวหนักมาก สำรวจรถของตัวเองแล้วไม่มีอะไรเสียหาย ท้ายกระบะบุบนิดหน่อย ช่างมันเถอะเดี๋ยวค่อยเอาไปซ่อม

พราวรีบเข้าห้องพัก เพิ่งสังเกตว่าตัวเองมีแผลที่หน้าผากแตกนิดหน่อย เธอรีบอาบน้ำสระผม รู้สึกเจ็บที่หน้าผากทำแผลเองง่ายใช้พลาสเตอร์ปิด อุ่นกับข้าวที่แม่เตรียมมาให้กิน เตรียมกระเป๋า พรุ่งนี้เช้าเธอต้องทางไปหาพี่สาว ไม่ลืมที่จะชาร์ตโทรศัทพ์และเปิดเครื่องไว้ เผื่อผู้ชายคนนั้นโทรมา เธอรอฟังข่าวว่าเขาจะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่ หรือเขาจะเคลมประกัน น่าจะอย่างแรกมากกว่า หน้าตาและท่าทางของเขาดูหน้าเลือดจริงๆ ท่าทางที่เอาแต่ใจไม่ยอมใครของเขาทำให้เธอไม่อยากมีเรื่องกับเขา

สามทุ่มป่านนี้เขาคงจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว รอดูว่าเขาจะเอายังไงต่อไป ไม่มีสายเข้าพราวเตรียมตัวเข้านอนและเธอก็หลับยาวจนเช้า ตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกของตัวเอง

“พราวตื่นหรือยัง เตรียมกระเป๋าหรือยัง” พลอยถามเร็วตามนิสัยที่เป็นคนเร็วคล่องแคล่ว เธอมองว่าน้องสาวเป็นคนช้าและไม่ค่อยทันคน นี่เป็นสาเหตุที่ไม่กล้าปล่อยน้องให้อยู่คอนโดคนเดียว ถ้าเป็นไปได้ พลอยมักพกน้องไปไหนมาไหนด้วยเสมอ

“กำลังจะออกไปที่สนามบินค่ะพลอย ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“แล้วนั่นเป็นอะไรที่หน้าผาก ทำไมปิดพลาสเตอร์”

“เรื่องยาวค่ะพี่พลอย เดี๋ยวถึงแล้วพราวเล่าให้ฟัง”

“ไม่เอาเล่าตอนนี้เลยเรียกแท็กซี่ไม่ใช่เหรอ”

“เมื่อวาน เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะฝนตกถูกรถชนท้าย”

“แล้วไงต่อเล่าเร็ว”

“พราวไม่ได้อยู่ค่ะเพราะฝนตกแรงมาก เขียนเบอร์โทรให้เขา ให้เรียกประกันก็ไม่เรียก ไม่ทำอะไรสักอย่างพราวเลยกลับมาคอนโดก่อนค่ะ นี่เขายังไม่โทรมาเลย”

“ช่างเขา ถ้าเขานึกได้เขาคงติดต่อกลับมา”

หลังจากนั้นเธอก็ชวนน้องสาวคุยตลอดทางกระทั่งพราวถึงสนามบิน

วันนี้พราวเลือกใส่ชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนสั้นคอวียาวถึงตาตุ่ม สะพายเป้แบบทางเหนือ ผ้าพันคอผ้าฝ้ายเผื่อบนเครื่องอากาศเย็น กระเป๋าเดินทางใบย่อมอีกหนึ่งใบ อีกสามสิบนาทีจะได้เวลาเดินทาง พราวเลือกที่จะหาข้าวกินเธอยังไม่ได้กินข้าวเช้า

เป็นเรื่องปกติเมื่อเวลาที่เธอเดินทางไปไหนมาไหน มักมีคนจ้องมอง หญิงสาวยอมรับว่าตัวเองไม่ได้ขี้เหร่ ความที่สูงถึงร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตร เรียกว่าเป็นคนหุ่นดีเลยทีเดียว อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ผมยาวกลางหลัง ตาโตคิ้วเข้มธรรมชาติ จมูกโด่งธรรมชาติ ฟันเรียงสวย เสียอย่างเดียวหน้าไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ และไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้าง เพราะเธอรู้ว่าเมื่อเธอกวาดสายตามองรอบข้าง จะต้องเจอกับสายตาของคนรอบข้างที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว

หญิงสาวขยับตัวเมื่อรู้สึกว่ามีคนวางจานอาหารลงตรงข้ามกับเธอ หญิงสาวไม่ได้สนใจอะไร ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปเรื่อยๆ เธอต้องรีบทำเวลา เหลือแค่อีกไม่กี่นาทีเครื่องก็จะออกแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เจ้าสาวจำเป็น   ความรู้สึกดีๆ

    หกโมงเช้าที่คอนโดของพราวรัมภา หญิงสาวตื่นสาย ปกติเธอจะต้องตื่นตีห้า หรือไม่ก็ตีห้าครึ่ง แต่เพราะเมื่อวานเป็นวันที่เธอรู้สึกว่าเหนื่อยที่สุดในโลก เมื่อคืนหลังจากเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเรียบร้อย เธอเห็นมินทดาหลับเธอไม่อยากปลุก เขาเองก็ไม่เหนื่อยไม่น้อยไปกว่าเธอ เลยยอมให้เขานอนพักด้านนอกแบ่งผ้าห่มไปให้ ส่วนตัวเองก็นอนหลับสนิทตื่นเช้าทีเดียว รู้สึกสมองปลอดโปร่งโล่งกว่าเมื่อวานนิดหน่อย รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาข้างนอก มินทดาตื่นแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า รู้สึกคุ้นเคยกับเขามากกว่า อาจเป็นเพราะว่าเธอกับเขาพบกันก่อนที่จะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นก็เป็นได้“สวัสดีค่ะ คุณเป็นยังไงบ้างคะ ตื่นนานหรือยัง เมื่อคืนฉันเห็นคุณหลับสนิทเลยไม่อยากปลุก”“ครับตื่นเมื่อสักครู่ ขอบคุณมากที่ไม่ปลุก แถมยังใจดีแบ่งผ้าห่มมาให้อีก”“เดี๋ยวฉันทำอาหารเช้าให้กินนะคะ แล้วค่อยขนของ ฉันยังต้องเก็บพวกอาหารสดใส่กล่องอีกนิดหน่อย รอสักครู่นะคะ หรือคุณจะกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”“ขอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกันครับ แล้วเดี๋

  • เจ้าสาวจำเป็น   ตกลงกันได้

    ระหว่างทางที่ทั้งสองคนเข้ากรุงเทพฯ มินทดาขับรถอย่างระมัดระวัง ฝนตกหนัก เขาไปส่งเจ้าสาวของเขาที่คอนโดของเธอ เหมือนความฝัน เมื่อเช้าเขาเข้าพิธีแต่งงานกับพราวรัมภา เขารู้มาตลอดว่าจะต้องเป็นพราวรัมภามินทดาส่งนักสืบติดตามพลอยไพลิน รู้ว่าเธอจะหนีการแต่งงาน ดีใจที่เป็นพราวรัมภา เอาจริงเขาภาวนาให้พลอยไพลินหนีไปให้ไกลๆ และให้เร็วที่สุด เขาเต็มใจแต่งงาน แต่ก็สงสารเจ้าสาวจำเป็น คงเป็นฝันร้ายของเธอไปอีกนาน เขาจะให้เวลา เสียงคนที่นั่งข้างๆ สะอื้น เห็นความพยายามระงับสติอารมณ์ และกลั้นสะอื้นแล้วก็สงสาร“ไม่น่าเชื่อนะว่าเราอยู่คอนโดเดียวกัน แต่ไม่เคยพบกันซะงั้น”“จริงเหรอคะ คุณก็พักอยู่ที่นี่เหรอ ฉันอยู่มาตั้งแต่เข้ามาเรียนแล้วก็ทำงาน คุณมาซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เห็นแม่บอกว่าคุณอยู่ต่างประเทศตลอดไม่ใช่เหรอคะ”“ผมซื้อไว้นานแล้วตั้งแต่อยู่เมืองไทย จนครอบครัวอพยพไปอยู่ต่างประเทศ นานๆ ผมกลับมาเมืองไทยก็มาพักที่นี่ ““ไม่น่าเชื่อนะคะ งั้นก็แสดงว่า วันที่คุณชนท้ายฉัน คุณก็กลับมาพักที่นี่เหรอคะ”“ครับ แต่ผ

  • เจ้าสาวจำเป็น   เจ้าสาวจำเป็น

    พราวรัมภาพยายามที่จะไม่ร้องไห้ หญิงสาวกลั้นสะอื้น แต่ก็อดไม่ได้น้ำตาไหลตลอดเวลา โชคดีที่ญาติของมินทดาเป็นช่างแต่งหน้า ไม่ยากเพราะเครื่องหน้าของเจ้าสาวสวยอยู่แล้ว ชุดของพลอยไพลินถึงจะเซ็กซี้ไปปน่อย แต่พราวรัมภาก็ใส่ได้พอดี สองพี่น้องหุ่นเท่าๆ กัน“ทำใจดีๆ หยุดร้องไห้ได้แล้ว ก็แค่แต่งให้เป็นพิธี หลังงานเราก็ต่างคนต่างก็แยกย้าย ผมสัญญา เราไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่มีการ์ดแต่งงาน ยกเลิกงานฉลองสมรสแค่นี้พอใจไหม” สงสารก็สงสารจากที่เคยหมั่นไส้แต่ตอนนี้หัวใจเขากลับอ่อนไหวเมื่อเห็นน้ำตาของเจ้าสาว ใจเขาเสียไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำถูกหรือผิด แต่เขาต้องการให้เป็นแบบนี้“จริงๆ นะคะ เสร็จงานวันนี้แล้วเราก็ต่างคนต่างแยกย้าย คุณสัญญาไหมคะ” พราวรัมภาจับแขนของมินทดาเขย่าเหมือนขอความมั่นใจจากเขา“จริงซิ ผมไม่โกหกหรอก แต่ตอนนี้เราออกไปข้างนอกกันได้แล้ว ทำหน้ายิ้มเข้าไว้อย่าให้ใครจับพิรุธได้”พราวรัมภาถอนหายใจ พยายามกลั้นสะอื้น“พร้อมหรือยัง มาเกาะแขนผมไว้จะได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัว แค่ผูกแขนเฉยๆ ไม่นานหรอก คนก็ไม่เยอะ

  • เจ้าสาวจำเป็น   เหตุการณ์ที่คิดว่าจะต้องเกิดขึ้น

    ในที่สุดวันสำคัญก็มาถึง ไม่มีการ์ดแต่งงานตามที่พลอยไพลินขอร้อง ไม่มีการจดทะเบียนสมรส เชิญเฉพาะญาติที่สนิท แต่งเช้ามีงานเลี้ยงฉลองที่โรงแรมในเมือง เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวไม่มีโอกาสพบหน้ากัน เห็นเพียงรูปสมัยเด็กๆ พลอยไพลินพยายามค้นหาอยากพบอยากพูดคุยกับเขา เพื่อที่ว่าสองคนตกลงกันได้ งานแต่งงานจะได้ไม่เกิดขึ้น แต่กลับติดต่อไม่ได้ และเธอไม่ว่างพอที่จะมาตามเรื่องพวกนี้ พลอยไพลินมีแผนในใจอยู่แล้วว่าจะทำยังไง ถ้าพ่อกับแม่ตัดเธอออกจากการเป็นลูกเธอก็จะยอม หลังจากที่ทำอะไรไม่ได้เธอก็ปล่อย ถึงเวลาที่เธอจะต้องเห็นแก่ตัว ชีวิตเป็นของเธอ จะไม่ยอมให้ใครมาบงการเด็ดขาด“แม่คะ เดี๋ยวให้ใครไปส่งพลอยกับพราวออกไปแต่งหน้าหน่อยนะคะ น่าจะกลับมาประมาณสองโมงเช้า ขากลับอย่าลืมให้รถไปรับพลอยกับน้องที่ร้านเสริมสวยนะคะแม่”“ได้ๆ ลูก แม่คุณคนดีของแม่ เสร็จแล้วโทรมาบอกแม่นะลูกจะได้ให้รถไปรับ” นางพจนีย์สาละวนกับเรื่องต่างๆ ขบวนขันหมากเริ่ม 09.30-10.30 พิธีหมั้นและสวมแหวน 10.30-11.30 นางเป็นคนจัดการจองโรงแรมให้กับครอบครัวของว่าที่เจ้าบ่าว ไม่ได้เรียกว่าจองเรียกว่าปิดโรงแรมเลยดีกว่า

  • เจ้าสาวจำเป็น   ข้อตกลงระหว่างครอบครัว

    หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากที่ที่พราวรัมภาและพลอยไพลินกลับไปเยี่ยมบ้าน ทั้งสองสาวกลับไปทำงานปกติ หลังจากนั้นเธอกับพี่สาวก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย พลอยไพลินย้ายไปอยู่กับกริชชัยที่คอนโดใช้ชีวิตร่วมกันพราวรัมภาไม่ได้รับข้อมูลหรือรายละเอียดจากผู้ชายคู่กรณีของเธอเลย เขาแอดไลน์มา แต่ไม่ส่งรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายมาให้ เธอคิดเอาเองว่า เขาคงนำรถเข้าศูนย์เอง รถเขาไม่ได้เสียหายอะไรมาก เลยตัดสินใจเปลี่ยนไอดีไลน์ใหม่เรื่องที่ทำให้ทั้งเธอและพี่สาวแปลกใจอีกเรื่องคือ ทำไมพ่อกับแม่เงียบมาก กับเรื่องของพี่พลอย ปกติจะโทรหาเธอหรือไม่ก็โทรหาพี่สาว แอบดีใจว่า พ่อกับแม่คงล้มเลิกความคิดแล้ว ดีเหมือนกัน เธอเองก็ไม่อยากให้ทุกฝ่ายเสียหายหรือเสียงชื่อเสียง บ้านเธอเป็นสังคมชนบท มีเรื่องมีราวไม่งามคนก็จะเล่าลือไปทั่ว ทำให้พ่อแม่รวมถึงญาติพี่น้องอับอายได้ ซึ่งพ่อกับแม่ของพวกเธอไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอนวันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ พราวรัมเร่งงานไม่อยากให้งานค้างไปถึงวันจันทร์ เธอตั้งใจเลิกงานสักประมาณสามทุ่มรอให้ถนนว่าง ตั้งใจแวะซื้อของใช้และอาหารสดที่ห้างนิดหน่อย แล้วกลับคอนโดเ

  • เจ้าสาวจำเป็น   ปัญหาที่รอคอยการแก้ไข

    พราวรัมภาตื่นมาด้วยอาการที่ยังปวดหัว เธอนอนคนเดียวที่ห้อง ส่วนพลอยไพลินอยู่ห้องเดียวกับพี่กริช หญิงสาวไม่แปลกใจนัก เธอพอที่จะรู้มาสักระยะแล้ว พี่พลอยไม่ค่อยอยู่คอนโด ส่วนมากจะพักที่โรงแรมที่ทำงาน เพราะเป็นระดับผู้บริหารจะมีห้องพักให้ หรือไม่พี่พลอยก็ไปอยู่บ้านของพี่กริช เธอไม่ยุ่งมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว กริชชัยเป็นผู้ใหญ่แล้วอายุ 33ปี พี่พลอย 27 เธอรู้ว่าพี่กริชพยายามจะไปพบพ่อกับแม่เธอเพื่อทำการสู่ขอ แต่พี่สาวของเธอเองที่ไม่อยากให้ไปหญิงสาวรีบลุก อาบน้ำอุ่นแต่งตัวเรียบร้อยแล้วลากกระเป๋าลงไปรอพี่สาวข้างล่าง แวะกินอาหารเช้าเพราะเธอต้องกินยา ไม่นานพลอยไพลินก็ลงมาพร้อมกับกริชชัย“เป็นยังไงพราว นอนหลับไหมดีขึ้นหรือเปล่า”“ดีขึ้นแล้วค่ะพี่พลอย ไม่ต้องห่วงนะคะ”พราวไม่อยากให้พี่สาวห่วง ทั้งที่ยังมีอาการไข้แต่ก็ต้องบอกว่าไม่เป็นไร หลังกินข้าวเช้าเสร็จกริชชัยและพลอยไปส่งหญิงสาวที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ“เดินทางปลอดภัยนะพราว พี่จะอยู่ช่วยงานพี่กริชอีกสักสองอาทิตย์แล้วจะตามไป”“ค่ะพี่พลอย พราวไปก่อนนะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status