LOGIN
“สวยมากเลยแพรว รับรองว่าเจ้าบ่าวเห็นแล้วต้องอึ้งแน่ๆ เลย”
แซมมี่หรือสุริยนสาวประเภทสองช่างแต่งหน้ามืออาชีพเอ่ยชื่นชมความงดงามของแพรวพรรณราย เจ้าสาวผู้โชคดีแห่งปีที่ได้วิวาห์กับกรกวินทร์ รัตนบดี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงขวัญใจสาวๆ ครึ่งค่อนเมือง แต่สำหรับเจ้าสาว เธอคิดว่าตัวเองโชคร้ายเสียมากกว่า
“ขอบคุณค่ะ”ใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายกับคำชมของเจ้าสาวตอบกลับแล้วสีหน้าของแพรวพรรณรายก็ทำให้ใครอีกคนหนึ่งที่นั่งไม่ห่างรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“นังแพรว แกทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย แกแต่งงานนะไม่ได้ไปตาย” พริ้งเพราแหวใส่บุตรสาวคนโต
“ถ้าแม่แต่งงานกับคนที่แม่ไม่ได้รัก แม่จะอยากตายหรืออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อล่ะคะ”
แพรวพรรณรายย้อนถามมารดา หน้าบูดบึ้ง ยิ่งนึกถึงหน้าเจ้าบ่าว เธอก็แทบจะอยากตายวันละหลายๆ รอบถ้าไม่ติดที่ว่ามารดาบังคับแกมข่มขู่ให้แต่งงาน อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอมง่ายๆ
แซมมี่มองแพรวพรรณราย หญิงสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนด้วยความรู้สึกสงสาร เพราะเธอรู่ดีว่า น้องสาวคนนี้ไม่มรความปรารถนาจะวิวาห์สุดอลังการกับกรกวินทร์ แต่ที่ยอมแต่งเพราะถูกมารดาบังคับ ทว่าแซมมี่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้มากไปกว่า ส่งกำลังใจให้
“ถ้าฉันได้แต่งงานกับคนรวยๆ หล่อๆ แบบคุณทัชล่ะก็ ฉันไม่อยากตายหรอก อยากมีชีวิตต่อมากกว่า” พริ้งเพราตอบกลับทันควัน "แล้วแกก็ไม่ต้องแสดงออกมากนักนะว่าไม่อยากแต่งงาน เห็นแก่หน้าฉันบ้างถ้าคิดว่าฉันเป็นแม่"
“ก็ที่แพรวยอมแต่งงานกับไอ้หมอนั่นก็เพราะเห็นว่าแม่เป็นแม่ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าแพรวจะยอม”
เจ้าสาวโต้กลับมารดา เพราะความเป็นแม่ลูกกันนี่แหละที่ทำให้เธอต้องสวมชุดวิวาห์ราคาแพง ต้องมานั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผม ต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มทั้งที่อยากจะร้องไห้ ต้องกล่ำกลืนฝืนทนทุกอย่างเพื่อใครล่ะ ถ้าไม่ใช่คนจอมบงการตรงหน้า
“งั้นแกก็จำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่า อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”พริ้งเพรากำชับเสียงแข็ง “ถ้าแกทำให้ฉันผิดหวัง อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ จำใส่หัวเอาไว้”
ระหว่างที่สถานการณ์ของพริ้งเพราและแพรวพรรณรายกำลังตึงเครียด หญิงสาวนางหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว ความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเจ้าสาวเลย
“แม่ขา ได้เวลาแล้วค่ะ ไปกันเถอะคะ”
เจ้าของเสียงคือ เดือนดาราลูกสาวคนเล็กของพริ้งเพรา และเป็นน้องสาวต่างบิดาของเจ้าสาวเอ่ยบอกมารดาด้วยรอยิ้มอ่อนหวาน
“จ้ะลูก เดี๋ยวแม่ออกไป” น้ำเสียงของพริ้งเพราที่พูดกับเดือนดารา ต่างกับพูดกับแพรวพรรณรายมากเหลือเกิน ราวกับหนังคนละม้วน
“แม่คะ เมื่อกี้พี่หวานบอกว่า คุณหญิงป่านถามถึงแม่ค่ะ” เดือนดาราพูดต่อ
“คุณหญิงป่านมาแล้วเหรอลูก ถ้าอย่างนั้นออกไปข้างนอกกันเลยนะ ในห้องนี้มลพิษมันเยอะ แม่หายใจหายคอไม่สะดวก”
พริ้งเพราไม่วายเหน็บแนมแพรวพรรณราย ที่มองมารดากับน้องสาวผ่านกระจกบานใหญ่ ผู้เป็นแม่พูดจบก็เดินกุมมือลูกสาวคนเล็กออกไปจากห้องแต่งตัวทันที
คำพูดและการกระทำของพริ้มเพรา สร้างความเสียใจและเจ็บช้ำซ้ำๆ ให้กับแพรวพรรณราย เธอไม่เคยได้ยินคำพูดจาหวานหูจากมารดาเลย มีแต่แข็งกระด้าง ตวาดใส่อยู่ร่ำไป และไม่มีสักครั้งที่พริ้งเพราะจะกอดหรือแม้แต่กุมมือเธอ ไม่เลยไม่เคยปรากฏ จนบางครั้งเธอก็ยังแอบคิดว่า ตนเองไม่ใช่ลูกของนาง น้ำตาเม็ดใสเออคลอดวงตาคู่หวานปนเศร้า จนเธอต้องหยิบทิชชู่มาซับความอ่อนแอที่กำลังไหล
“ใจเย็นๆ นะแพรว วันนี้เป็นวันดีของแพรว พี่ไม่อยากเห็นแพรวร้องไห้”
แซมมี่พูดปลอบใจ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เหตุใดพริ้งเพราถึงได้ไม่รักแพรวพรรณราย ต่างกับเดือนดาราที่รักและเอาใจสารพัด ทั้งที่แพรวพรรณรายก็เป็นลูกของนางเช่นกัน
“แพรวไม่อยากร้องไห้ แพรวอยากตายมากกว่า”
นี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ มารดาไม่รักว่าแย่แล้ว นี่ยังต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักอีก ความรู้สึกของเธอเวลานี้ย่ำแย่มากเหลือเกิน
“ไม่เอาค่ะไม่พูดอย่างนั้นนะ” แซมมี่รีบห้าม “ชีวิตคนไม่ได้เกิดมาง่ายๆ นะแพรว มีหลายคนที่แย่กว่าแพรวแต่เขาก็ไม่คิดอยากจะตาย เขามีแต่จะสู้กับสู้ ดูอย่างพี่สิ พี่ถูกพ่อกับแม่รังเกียจและถูกไล่ออกจากบ้านเรื่องที่พี่ผิดเพศ แต่พี่ก็พิสูจน์ให้ท่านรู้ว่า การเป็นกระเทยไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ได้ผิดศีลธรรม สามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติ จนตอนนี้พ่อกับแม่พี่ภูมิใจในตัวพี่มาก ชีวิตของคนเรามันไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่องนะแพรว มันต้องมีเรื่องดีๆ เข้ามาบ้าง”
แซมมี่ให้ข้อคิดกับแพรวพรรณราย กว่าที่เธอจะเป็นที่ยอมรับและเป็นที่ภาคภูมิใจของบิดามารดาและคนรอบข้างได้ แซมมี่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองร่วมห้าปี จนกระทั่งตอนนี้เธอเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ แต่หน้าทำผมให้กับคนดังมานับไม่ถ้วน รวมทั้งดารานางแบบและเหล่าเซเลบทั้งหลาย
“ขอบคุณพี่แซมมี่มากค่ะที่ปลอบใจแพรว แพรวจะเข้มแข็งค่ะ”
ในชีวิตของแพรวพรรณราย นอกจากทักษอรกับเพทาย สองเพื่อนสนิท เธอก็ยังมีแซมมี่ เพื่อนบ้านคนสนิทที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา แซมมี่จึงเปรียบเสมือนพี่สาวคนหนึ่งของเธอ
“ดีมากแพรว” แซมมี่พูดด้วยรอยยิ้ม “จำไว้นะแพรว น้ำตาไม่ช่วยอะไร สติเท่านั้นที่จะช่วยเราได้”
แซมมี่พูดทิ้งท้าย ก่อนจะลงมือแต่งแต้มใบหน้า ปกปิดคราบน้ำตาของเจ้าสาว
จริงอย่างที่แซมมี่พูด น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไร เธอจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด งานแต่งงานก็ยังคงดำเนินตามกำหนดการ ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงงานวิวาห์นี้ได้ เพราะชีวิตของเธอถูกลิขิตด้วยมือของพริ้งเพราะมาตั้งแต่เธอลืมตาดูโลก
Chapter 112กรกวินทร์ก็ช้อนอุ้มร่างสวยไปวางบนเตียง มือใหญ่ลูบเบาๆ ตรงท้องของภรรยาที่นูนขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเลื่อนใบหน้าไปยังจุดที่ฝ่ามือวางอยู่“พ่อรักลูกนะครับ รักแม่ของลูกด้วย” พูดจบกรกวินทร์ก็จูบเบาๆ ตรงกลางท้อง บอกรักลูกน้อยในครรภ์ ก่อนจะขยับริมฝีปากพรมจูบไปทั่วเรือนร่างของแพรวพรรณราย เริ่มต้นบทรักที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทะนุถนอมเพราะยังมีอีกชีวิตหนึ่งฝังตัวอยู่ในร่างกายของเธอ แต่ไม่ละทิ้งความเร่าร้อนชีวิตคู่ของกรกวินทร์กับแพรวพรรณรายเริ่มต้นไม่ดีนัก เริ่มต้นด้วยความเกลียดชัง แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความรักความเข้าใจกัน ความรักที่จะเคียงคู่ยืนยาวและมั่นคงไปตลอดชีวิตของเขาและเธอห้าเดือนต่อมา“คุณแม่คะ คุณแม่เบ่งค่ะ เบ่งอีกค่ะ อีกนิดเดียวค่ะคุณแม่”เสียงแพทย์หญิงอรทัย แพทย์ทำคลอดเอ่ยบอกแพรวพรรณรายที่นอนขึ้นขาหยั่งอยู่บนเตียงคลอด ซึ่งคนถูกสั่งก็ทำตามแต่โดยดี“อึ๊บบบบบบบบบ”แพรวพรรณรายออกแรงเบ่งมากขึ้นจนหน้าดำหน้าแดง ข้างเตียงมีสามีหนุ่มที่ขออนุญาตทางโรงพยาบาล ขอเข้ามาให้กำลังใจภรรยาและถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกภาพนาทีแห่งชีวิตของลูกน้อย เขายืนลุ้น ยืนให้กำลังใจภรรยาสาวไม่ห่าง บางครั้งก
Chapter 111น้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะพยักหน้าและเอ่ยตอบกลับไป “ค่ะ แต่งค่ะ”“เฮ้...” สิ้นเสียงตอบรับของแพรวพรรณราย เสียงโห่ร้องของคนที่อยู่ในงานก็ดังขึ้น กรกวินทร์ถอดแหวนวงเก่าที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอออก ก่อนจะสวมแหวนวงใหม่ที่เขาตั้งใจมอบให้เป็นแหวนแทนใจเข้าไปแทนที่ จุมพิตหลังมือของภรรยาสาวตามธรรมเนียมพิธีแต่งงานระหว่างกรกวินทร์กับแพรวพรรณรายดำเนินไปอย่างราบรื่น มีการแห่ขันหมากสู่ขอตามประเพณี นิมนต์พระสงฆ์เก้ารูปมาสวดพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล และที่ขาดไม่ได้คือการรดน้ำสังข์ ให้ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมากล่าวแสดงความยินดี รวมทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ ที่นับถือและบุคคลที่รู้จักชอบพอมาร่วมงาน จากนั้นก็เป็นงานเลี้ยงฉลองแบบเป็นกันเอง กรกวินทร์ไม่เพียงแค่จัดงานช่วงเช้าเท่านั้น ยังมีงานเลี้ยงฉลองสมรสในตอนค่ำที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ เชิญแขกเหรื่อมานับพันคนอีกด้วยงานในช่วงเช้าว่าน่าปลื้มแล้ว งานในช่วงค่ำยิ่งเพิ่มความรู้สึกนั้นเป็นทวีคูณ เมื่อเขาลงทุนร้องเพลงให้เธอกับแขกที่มาร่วมงานฟัง ทั้งที่เขาไม่ถนัดเรื่องนี้เอาเสียเลย แล้วแพรวพรรณรายก็เพิ่งมารู้ว่าเขาลงทุนไปเรียนร้องเพลงเพื่องานค่ำนี้โดยเฉพาะ
Chapter 110สี่เดือนต่อมาหลังจากเสร็จสิ้นงานฌาปนกิจศพของภวินทร์ แก่นกล้าหรือที่รู้จักกันในสังคมว่า กวินทร์ รัตนบดี มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป เรื่องคดีการเสียชีวิตของภวินทร์ ธาริณีและลูกทั้งสองคนไม่ติดใจ คิดว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้เป็นการฆาตกรรมหรือว่าอื่นใด ทำให้ตำรวจปิดสำนวนได้อย่างรวดเร็วยังมีอีกเรื่องที่ธาริณีตัดสินใจบอกกรกวินทร์กับกวินภพ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องปิดบัง เรื่องนั้นก็คือ เรื่องที่ทั้งคู่มีน้องสาว เป็นน้องสาวที่เกิดจากภวินทร์กับพริ้งเพรา ซึ่งทั้งคู่ก็ตกใจในคราแรกที่รู้ว่า บิดานอกใจมารดาแอบไปมีภรรยาน้อย แล้วภรรยาน้อยก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นมารดาของแพรวพรรณราย กรกวินทร์กับกวินภพไม่ถามเรื่องความหลังและความเป็นมาเป็นไป เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะรื้อฟื้นในเมื่อบิดาก็เสียชีวิตไปแล้ว และทั้งคู่ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีน้องสาวหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทเรียบร้อยร้านอาหารคุณแพรวกิจการไปได้สวย มีลูกค้ามากหน้าหลายตา ทั้งขาประจำและขาจรมาใช้บริการอุ่นหนาฝาคั่ง ช่วงกลางวันลูกค้าจะแน่นเป็นพิเศษ เนื่องจากอาหารที่จัดเป็นชุด ไอเดียบรรเจิดของดิตถพงศ์เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก อาหารก
Chapter 109“พี่อิฐขา...อา”เสียงเธอแหบพร่า ความรัญจวนเร่งเร้าในจิตใจ ลมหายใจของเธอขาดห้วง เมื่อเขาซุกใบหน้าลงบนสามเหลี่ยมผืนน้อยที่เร้นลับอยู่ในซอกขา ดิตถพงศ์ไม่รอช้า ชิมรสหวานที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงเร็วยิ่งกว่ามีคนมาตีกลองชุดในหัวใจเสียอีก ยอมรับว่าตื่นเต้นและรู้สึกดีทุกครั้งที่ลิ้นได้ไล้เลียกลีบดอกไม้งาม และพรมจูบไม่เลือกที่ปลายลิ้นสากใหญ่ตวัดไปตามกลีบดอกไม้ช่องามที่ฉ่ำไปด้วยรสหวานของหยาดน้ำทิพย์ เขากวาดไล้น้ำทิพย์เหล่านั้นเข้าไปในปาก ก่อนจะประโลมเลียกลางกลีบดอก จากบนสู่ล่างแล้วหดลิ้นสอดเข้าไปในช่องทางสวรรค์เร้นลับ“พี่อิฐ พี่อิฐ อืม...พี่อิฐ”ทันทีที่เขาสอดลิ้นเข้าไปอยู่ด้านใน ดิตถพงศ์ก็เริ่มโบกสะบัดลิ้น ไม่ต่างกับปลาที่กำลังแหวกว่ายในหนองน้ำ เป็นหนองน้ำที่เขาโปรดปรานและต้องการจะแหวกว่ายทุกเมื่อเชื่อวัน อยากจะกระโจนตัวพุ่งใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่ได้เพียงโบกลิ้นเท่านั้น บางครั้งก็กระดกลิ้นระรัวเร็วจนเธอแอ่นสะโพกรับปากหนา ส่วนมือของเขาก็ไม่ได้ห่างหายไปไหน นวดคลึงอกอวบสลับกับใช้ปลายนิ้วบดบี้เกสรน้อยไปด้วย เธอส่งเสียงซี้ดซ้าด ครวญครางไม่เป็นส่ำ ความเสียวซ่านแทรกซึมไปทุกผิวกาย ความ
Chapter 107“มีอะไรทัช เคาะประตู เรียกแม่ซะดังเชียว” นางเอ่ยถามหลังจากที่เปิดประตูแต่ทว่าสีหน้าของลูกชายไม่สู้ดีนัก ทำให้นางเกิดความสงสัย “ทำไมหน้าตาทัชเป็นอย่างนี้ล่ะลูก มีเรื่องอะไร”“คุณพ่อครับคุณแม่ รถของคุณพ่อเกิดอุบัติเหตุครับ”คำตอบของกรกวินทร์เรียกความตกใจให้กับธาริณี นางเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรง ตกใจกับข่าวที่ได้รับรู้“จริงเหรอลูก แล้วคุณพ่อเป็นอะไรมากไหม” ธาริณีถามลิ้นรัว ใจสั่น “ตำรวจบอกว่ายังไม่แน่ใจว่า ศพที่อยู่ในรถจะใช่คุณพ่อหรือเปล่า ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อนครับ แต่ที่แน่ๆ รถน่ะใช่ครับ”“ศพเหรอ” นางทวนเสียงสั่น “หมายความว่ายังไงทัชที่ว่าศพน่ะ”“เพื่อนผมที่เป็นตำรวจอยู่ที่ชลบุรีโทรมาบอกครับ พอดีว่ามีรถบรรทุกชนกับรถยนต์คันหนึ่งจนเกิดระเบิด พอตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบว่าคนขับรถบรรทุกหนีไป ส่วนคนที่อยู่ในรถเก๋งเสียชีวิตคาที่เพราะออกมาจากรถไม่ทัน ไฟคลอกตายครับ แต่ที่ตำรวจรู้ว่าเจ้าของรถเก๋งเป็นใครเพราะทะเบียนรถที่ไม่ได้ไหม้ไปด้วยก็เลยเอาไปตรวจสอบจนรู้ว่าเป็นรถของใครครับ แต่ศพที่อยู่ในรถต้องรอผลพิสูจน์ก่อนครับ ตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นคุณพ่อ”กรกวินทร์ตอบมารดาบังเอิญว่าเพื่
Chapter 106รถกระบะคันนั้นแล่นห่างจากรถของภวินทร์ราวสองร้อยเมตร พริ้งเพรามองดูรถบรรทุกที่วิ่งด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งชนรถของภวินทร์เต็มแรงจนรถของชายชั่วครูดไปตามผิวถนนยาวถึงหนึ่งร้อยเมตร แรงชนบวกกับการครูดไปตามผิวถนน ทำให้เกิดประกายไฟตามน้ำมันที่รั่วลงบนพื้น ชั่วอึดใจต่อมา รถหรูก็เกิดไฟลุกท่วมภายในรถยนต์คันนั้นเต็มไปด้วยความร้อน ไฟลุกลามไปถึงห้องโดยสารส่วนหน้า ร่างของภวินทร์ถูกเปลวไฟลามเลียร่างกาย แม้ว่าเขาจะเกิดอาการชาแต่ทว่าเปลวไฟที่มีอานุภาพรุนแรงก็ทำให้เขารู้สึกร้อนไปทั้งตัว ความร้อนแทรกเข้าสู่อวัยวะภายใน ลึกล้ำถึงอณูเนื้อ ผิวกายของเขาเริ่มพุพองจากไฟคลอก ผิวเนื้อค่อยๆ หลุดออกจนมองเห็นผิวหนังชั้นใน เขาเจ็บปวดร้อนรุ่มทุรนทุราย แต่เขาก็ไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่จะขยับมือเปิดประตูรถแล้วนำพาตัวเองออกไปจากรถนี้ได้ เพราะอาการชายังคงมีอยู่ ได้แต่หลุบตามองดูเนื้อตัวของเขาที่แดงขึ้นเรื่อยๆ กลอกตามองรถที่กำลังถูกไฟไหม้ ส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอ น้ำตาของคนชั่วหยดไหลเป็นทาง ทันใดนั้นภาพต่างๆ ในอดีตผุดขึ้นมาเป็นระลอกในอนุสติของเขา ทุกการกระทำที่เขาเคยก่อกรรมทำไว้กับผู้อื







