“แม่ฟังชมพู่นะคะ....” แม้จะคุยโทรศัพท์ลำพังแต่น้องชมพู่ก็พยายามลดเสียงลง เริ่มต้นด้วยประโยคท่าทำให้เฉิดไฉไลขนลุกเป็นอันมาก
“ยัยเดือนเหมือนเรา...และยัยเดือนนี่ละค่ะที่เป็นคนที่โค้ชวิภาเคยปั้น และจะส่งมาให้แม่ได้เล่นสนุกด้วยนะคะ”
เธอขนลุก ขยับนั่งตัวตรง เรื่องราวความลับสุดยอดตามมา
“หากโค้ชวิภาไม่ตายเสียก่อน...แม่รู้ไหมคะว่ายัยเดือนประกายคงจะเป็นเด็กในสังกัดแม่”
“พูดถึงพี่วิภา” เฉิดไฉไลน้ำตาคลอ “แม่ยังรักอาลัยไม่หาย...เป็นอีกคนนอกจากพ่อของชมพู่เลยนะ ที่แม่ไม่เคยลืม”
“แม่คิดออกหรือยังว่าจะเอาตัวยัยเดือนมาใช้งานได้ยังไง”
“ตอนแรกโค้ชนิวเขาแสดงท่าทีก่อนว่าเขาจะเอาตัวยัยเดือนมาเป็นผู้ช่วยเขา แต่แม่อยากได้ตัวชมพู่มากกว่า ท่าทางเขาผิดหวัง”
“เขาเป็นแฟนกันมาพักใหญ่ แต่เค้าจะได้ฟันยัยเดือนหรือยัง เพราะเท่าที่ชมพู่รู้มายัยนี่ยังไม่เคยโดนใครจิ้มเลยนะคะ แม่ขา”
“ชมพู่จ๋า ยิ่งพูดแม่ยิ่งขนลุก”
“แม่ของชมพู่เป็นคนเก่ง ชมพู่มีเบอร์ติดต่อยัยเดือนและชมพู่มีเด็ดกว่านั้น”
เฉิดไฉไลก็คิดออก
////////////////////////////////////////////
วัดชานเมืองแห่งหนึ่ง ลานพระอุโบสถด้านใน และตรงเสาไฟ...ที่มีช่องสี่เหลี่ยมสี่ด้าน และแต่ละด้านมีแผ่นหินอ่อน...เสาไฟต้นหนึ่งตรงด้านหน้าขวาของอุโบสถ แผ่นหินอ่อนสลักป้ายชื่อพร้อมรูป
วิภา รักน้ำนที
ชาตะ ...
มรณะ..
ภาพที่ปรากฏคือสาวผมสั้น...หน้าดุ ปากเม้มสนิท ดวงตามุ่งมั่น...
วันนี้ 31 กรกฎาคม ครบรอบสี่ปีของการจากไป เฉิดไฉไล ในชุดสีขาวทั้งเสื้อและกางเกง...เสื้อแขนยาวเข้ารูปคลุมสะโพกบน และกางเกงรัดรูป...ไม่มีรอยตะเข็บกางเกงในเพราะเธอไม่ได้สวมกางเกงใน...เธอสวมถุงน่องแนบกระชับตัว และเป็นถุงน่องสีดำ...
เธอสวมแว่นตาดำใหญ่ครึ่งหน้า สวมรองเท้าสีแดง...และกระเป๋าปราด้าสีแดงตอกหมุดดำ....รองเท้าสีแดงก็ของ
ปราด้าเช่นกัน...เข้าชุดกันเหมาะเจาะ เสื้อเชิ้ตเข้ารูปไม่ได้ติดกระดุมเม็ดบน เห็นร่องอกอวบเบียดชิด...แต่ไม่ได้กระเพื่อมไหวเพราะมันถูกประคองด้วยบราติดลูกไม้อย่างดี...บราดำติดลูกไม้สีแดง..เซกซี่ยั่วยวนอย่างน้อยเมื่อมันแค่วับแวมเท่านั้นก้อนเนื้อขาวๆ สองก้อนทะลักขึ้นมาล่อตาผู้คนที่ได้เห็น...
คนขับรถเปิดประตูให้เธอแล้วปิดประตูนุ่มนวล
“ไม่ต้องตามฉันมานะ”
เธอบอก...ในมือเธอมีพวงมาลัยมะลิหอมกรุ่น มาลัยกลม มะลิล้วน...ร้อยอย่างดี ฝีมือช่างระดับชาววัง ให้คนขับรถไปซื้อมาจากปากคลองตลาด...มีธูปหอม และเทียน...รวมทั้งไฟแช็กสีทองสวย
เธอตรงไปที่จุดหมาย...และแน่นอน...เธอยิ้มมุมปาก...เธอเห็นแผ่นหลังของร่างสูงโปร่ง..แข็งแรง...สาววัยเดียวกันกับน้องชมพู่...กระโปรงสั้นเหนือเข่าเห็นช่วงขาแข็งแรง...เธอรู้ว่านั่นคือเดือน หรือเดือนประกาย
เธอเดินเข้าไป...กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเธอคงจะทำให้เดือนประกายเอะใจ....แน่ละว่าหยดละหลายร้อยบาท....น้ำหอมแท้ๆ กลิ่นเร้าอารมณ์รัญจวนใจ...หอมแรง หวาน...และเปรี้ยวชวนค้นหา...มันมีส่วนผสมของบ๊วย คาราเมลและข้าวโพด...รวมกับดอกไม้หอมอื่นๆ....
เดือนประกายหันมา...และเฉิดไฉไลก็ถอดแว่นตาดำออก
“ท่าน...”
เดือนประกายคราง...รู้ทันที....
นี่คือ ท่านผอออ เฉิดไฉไลแห่งวิทยาลัยนทีวิทย์
เดือนประกายกุมมือแน่น...และทำไมหล่อนร้อนวาบที่หน้าขา...หล่อนรู้ทันทีว่าหล่อนปรารถนา
เคยอยากไปพบ...ไปมอบตัวเอง...แต่ไม่กล้า ได้แต่เก็บซ่อน...หล่อนยังจดจำได้ว่าโค้ชวิภาผู้ล่วงลับเคยสั่งความอย่างไร
...ฉันฝึกเธออย่างหนักเพื่อส่งเธอไปบำเรอให้กับคุณเฉิดไฉไล ยอดดวงใจที่ฉันบูชา เธอจะต้องไปที่นั่น ไปอยู่ปรนเปรอยอดดวงใจของฉันตามกระบวนท่าที่ฉันได้ฝึกเธอมาเข้าใจไหม...
สั่งความได้ไม่นาน โค้ชวิภาก็เสียชีวิตกะทันหันเพราะหัวใจล้มเหลว และนั่นเป็นวันที่เดือนประกายบอกตัวเองว่าจะเลิกแข่งว่ายน้ำ เหตุการณ์ผ่านมาสี่ปีได้แล้ว...หล่อนค่อยๆ ถอนตัว จนถอนตัวได้เด็
หล่อนจะต้องเป็นเดือนประกาย ผู้รับใช้ให้เสนอสนองกับเฉิดไฉไล
และหล่อนไม่เคยกล้าตามหา ไม่กล้าไปพบกับเฉิดไฉไล ทั้งที่รู้ว่าเฉิดไฉไลอยู่ที่ไหน
วันนี้เหมือนมีอะไรดลใจ....ที่หล่อนมาแต่เช้า ทุกทีหล่อนจะมาค่ำๆ
“ฉันมาทุกปี ไม่เคยเจอเธอเลย...เดือน...เดือนประกายใช่ไหมจ๊ะ”
เสียงถามอ่อนโยนจากริมฝีปากจิ้มลิ้มสีแดง วันนี้เธอเจตนาจะใช้สีแดงกับสีดำ...เพื่อสยบให้เดือนไปไหนไม่รอด
“เอ้อ หนูก็มาทุกปีนะคะ มาระลึกถึงโค้ชวิภา”
“น่าเสียดาย คนดีอายุสั้นเสมอ” เสียงทอดอ่อนโยน เศร้าสร้อย...เธอมองไปยังแผ่นหินอ่อน “ฉันไม่เคยลืมพี่วิภาเลย...พี่วิภาดีกับฉันมาก”
เหมือนน้องน้อยจะโดนทะลวง...สองนิ้วที่ทิ่มแทงเข้าไปกางถ่างออกเป็นรูปตัววี....เฉิดไฉไลยกตัวเองขึ้นวางทาบหน้าขาอันแข็งแรง เอาจิ๊มิเปียกๆ ของเธอกดลงไปบนขานั้น...เธอขยับนิ้วนางเข้าไปอีกนิ้วเป็นสามนิ้ว....เดือนก็ตาเหลือก...สามนิ้วอัดลงไปในรูสวาทของหล่อน กางนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อยออกจากกัน ทิ่มแทงเข้าไป ชักเข้าชักออก จิ๊มิเปียกๆของเฉิดไฉไลก็ถูไถบนหน้าขาของหล่อน...ดวงหน้างามที่เห็นมีความสุขที่เปี่ยมล้น....เดือนประกายมองดวงหน้านั้น อารมณ์พลันทะลักทลาย....นิ้วของเฉิดไฉไลกำลังหน้าทำหน้าที่ไม่ต่างจากแท่งร้อนผ่าวเข้าครอบครองแก่นกายของหล่อน"ซี้ดส์...คุณเฉิด เสียว อูย...อย่างนั้นค่ะ กระแทกใส่เลยค่ะ"ดาวสะบัดหน้าไปมา นิ้วก้อยเพิ่มเข้าไปโดยหล่อนไม่รู้ตัว...ก้นของหล่อนแอ่นขึ้น...บัดนี้น้องน้อยของหล่อนกำลังถูกแซะด้วยนิ้วสี่นิ้ว...ชักเข้าชักออก มันคับแน่น....เจ็บเล็กน้อย แต่เสียวรุนแรง...ราวกับจะทะลวงเอาจิตวิญญาณของหล่อนออกมาทั้งหมดเดือนประกายกำลังรอคอยด้วยใจอันระทึก เสียวซ่าน เหมือนที่โค้ชวิภาเคยฝึกหล่อนเอาไว้หล่อนรู้ว่าอีกประเดี๋ยวเดียวหล่อนจะเจออะไรไม่เคยมีเลสคนไหนทำให้หล่อนได้ขนาดนี้ พวกนั้นอย
เฉิดไฉไลเอามือกดที่ท้ายทอยหล่อน ให้ได้กดจมูกและปากลงไป เดือนเม้มเม็ดที่แข็งชัน คาบออกมาขบกัดเบาๆ ได้ยินเสียงครางครวญแผ่วเบาเล็ดลอดออกมา เดือนพยายามเหลือบตาขึ้น หล่อนได้เห็นดวงหน้าคนสวยที่กำลังบอกว่าเสียวสะท้าน...หล่อนคลายเม็ดออก แลบลิ้นยาวลากผ่านร่องหลืบที่แง้มออกเล็กน้อย...ยังเป็นเนื้อเนียน ขาวสะอาดตามสีผิว แต่คงจะผ่านการทะลุลวงทั้งด้วยชิวหาและแท่งเนื้ออวบอ้วนใหญ่น้อยมาพอสมควร แต่รอยที่แยกจากกันไม่ปิดสนิท เห็นชิ้นเนื้อเรียวยาวด้านในโผล่แพลมออกมากลับทำให้เดือนยิ่งกระสันรุนแรง...หล่อนลากลิ้นลงตามแนวร่อง ห่อลิ้นไชชอนเข้าไป เสียงครางยิ่งดังขึ้น...มือที่กดท้ายทอยหล่อนลงน้ำหนักมากกว่าเดิมราวกับไม่ให้หล่อนถอนหน้าไปได้พ้นหล่อนแยงลิ้นเข้าไป กวาดเข้าไปในโพรง...กลิ่นหอมนัก และหล่อนก็รู้สึกถึงน้ำหวานที่กลั่นออกจากมา...อา...น้ำหอยออกมาแล้วน้ำที่อาบเกสรหอยจนชุ่มเหมือนพอกด้วยเมือกครีมสเนลกระนั้นหอยตัวนี้ไม่ได้ดำคล้ำตามแรงที่คงเคยผ่านสมรภูมิศึก หากแต่มือที่กดท้ายทอยหล่อนผ่อนคลายออก แต่ทว่าเดือนประกายสะดุ้ง นิ้วเท้าของเฉิดไฉไลกำลังสัมผัสกับน้องเดือนโหนกของหล่อน...หัวแม่เท้ากดดุนๆ ตรงเม็ดอูมๆ
แล้วเธอก็วางพวงมาลัยหอมกรุ่น กำลังจะจุดเทียนและธูปโดยที่เดือนประกายไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงย่อตัวลงคุกเข่า และค่อยๆ ดึงของในมือเธอไปจัดการเสียเอง...ท่าทีของเดือนประกายนอบน้อมมาก..เหมือนข้าทาสพึงกระทำให้เจ้านาย...เฉิดไฉไลยืนรอจนกระทั่งธูปถูกส่งมาคืนมาให้ แล้วเดือนประกายถือแท่งเทียนที่ติดไฟแล้ว เธอจ่อปลายธูปดอกเดียวไปที่ไฟที่เอนไปมาในสายลมนั้นแล้วพอธูปลุกติด ก็สะบัดให้ดับ ก่อนจะเอามาถือระหว่างสองมือ เธอเอ่ยเสียงดังฟังชัดและเดือนประกายก็ขนลุก“พี่วิภา ฉันคิดถึงพี่นัก วันนี้วิลัยของฉันกำลังเข้าสู่ศึกอีกแล้ว พี่คงไม่รู้สินะว่าฉันลำบากแค่ไหนเรื่องแข่งว่ายน้ำกับอีตากนก”เดือนประกายเอียงหู ตั้งใจฟัง...“ฉันไม่อยากแพ้อีก พี่รู้ไหมการแพ้สองครั้งที่ผ่านมาทำให้ฉันบอบช้ำ เจ็บในใจสาหัสแค่ไหน”...ช่างน่าสงสาร...เดือนประกายคิด และการอยู่ใกล้ ในระดับต่ำแค่เอวของเฉิดไฉไล ทำให้ได้สัมผัสกลิ่นไอบางอย่าง...มันลอยเข้ากระทบจมูก...รวมทั้งคำฝากของโค้ชวิภาดังเข้าหู ว่าแต่หล่อนจะทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดได้อย่างไร กลิ่นกายของเฉิดไฉไลรบกวนใจของหญิงสาววัยเยาว์เป็นอันมาก...หรือจะลอง...สัมผัส...ลองยั่วเย้า...
“แม่ฟังชมพู่นะคะ....” แม้จะคุยโทรศัพท์ลำพังแต่น้องชมพู่ก็พยายามลดเสียงลง เริ่มต้นด้วยประโยคท่าทำให้เฉิดไฉไลขนลุกเป็นอันมาก“ยัยเดือนเหมือนเรา...และยัยเดือนนี่ละค่ะที่เป็นคนที่โค้ชวิภาเคยปั้น และจะส่งมาให้แม่ได้เล่นสนุกด้วยนะคะ”เธอขนลุก ขยับนั่งตัวตรง เรื่องราวความลับสุดยอดตามมา“หากโค้ชวิภาไม่ตายเสียก่อน...แม่รู้ไหมคะว่ายัยเดือนประกายคงจะเป็นเด็กในสังกัดแม่”“พูดถึงพี่วิภา” เฉิดไฉไลน้ำตาคลอ “แม่ยังรักอาลัยไม่หาย...เป็นอีกคนนอกจากพ่อของชมพู่เลยนะ ที่แม่ไม่เคยลืม”“แม่คิดออกหรือยังว่าจะเอาตัวยัยเดือนมาใช้งานได้ยังไง”“ตอนแรกโค้ชนิวเขาแสดงท่าทีก่อนว่าเขาจะเอาตัวยัยเดือนมาเป็นผู้ช่วยเขา แต่แม่อยากได้ตัวชมพู่มากกว่า ท่าทางเขาผิดหวัง”“เขาเป็นแฟนกันมาพักใหญ่ แต่เค้าจะได้ฟันยัยเดือนหรือยัง เพราะเท่าที่ชมพู่รู้มายัยนี่ยังไม่เคยโดนใครจิ้มเลยนะคะ แม่ขา”“ชมพู่จ๋า ยิ่งพูดแม่ยิ่งขนลุก”“แม่ของชมพู่เป็นคนเก่ง ชมพู่มีเบอร์ติดต่อยัยเดือนและชมพู่มีเด็ดกว่านั้น”เฉิดไฉไลก็คิดออก////////////////////////////////////////////วัดชานเมืองแห่งหนึ่ง ลานพระอุโบสถด้านใน และตรงเสาไฟ...ที่มีช่องสี่เหลี่
เฉิดไฉไลมาแล้วเฉิดไฉไลเอนตัวลงบนเก้าอี้หนังแท้ตัวใหญ่ ราคาแพง แต่นั่งสบาย พนักพิงนั้นเกินศีรษะของเธอ และขนาดของเก้าอี้ก็โอบร่างบอบบางของเธอเอาไว้...เธอหลับตาลง...อย่างแรกเธอต้องพยายามลืมเรื่องของโค้ชนิวไปก่อนลืมอะไรน่ะหรือ...ก็ไอ้เป้ากางเกงว่ายน้ำของโค้ชหนุ่มที่พุ่งออกมาชัดเจนซะขนาดนั้นมันตุงเต็มที่ทีเดียวแต่เอาไว้ก่อน อย่างไรโค้ชนิวก็ทำงานกับเธอ...ไม่ได้ไปไหน...เหมือนลูกไก่ในกำมือ"ไม่ใช่จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอดเอาเป็นว่าภาษิตใหม่ “ลูกไก่ในกำมือ บีบก็ตาย คลายก็ตายเพราะโดนบีบไปแล้วเธอจะเอาเขามาบีบเล่นสักครั้ง...ให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นน่าพิศวาสไม่ต่างจากสาวๆ ที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่รุมล้อมเขาอยู่นังพวกนั้น...คิดแล้วหมั่นไส้ เธอรู้ว่าพวกสาวๆ ร่านระริกระรี้ อยากโดนจับเสียบ อยากจะเอาจิ๊มิประเคนให้เขาเสียบกันทั้งนั้นพวกนั้นร่านอยากโดนแท่งอันร้อนเสียบกดติดดิ้นกระแด่วๆเธอต้องพักเรื่องโค้ชนิวไว้ก่อน คิดๆๆที่จะทวงชัยชนะคืนพร้อมกับล้างแค้นล้างอายตุงจนเมื่อรวมกับสรีระร่างกายที่งดงามของเขาแล้วเธอก็อดที่จะนึกเสียดายที่คงไม่ได้แตะต้องลิ้มชิมสวาทได้จะกี่คนก็ไม่แคร์คนแรก อดีตสามี กนกอ