/ รักโบราณ / เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ / บทที่ 9 ไม่มีทางปล่อย

공유

บทที่ 9 ไม่มีทางปล่อย

last update 최신 업데이트: 2025-04-21 20:18:05

บทที่ 9 ไม่มีทางปล่อย

พื้นไม้แข็งเย็นยะเยือกแต่ไม่เยือกเย็นเท่ากับสวรรค์ที่ไม่มีความเมตตาต่อความต้องการของนางสักนิด ร่างบางลืมตาขึ้นมาอีกครั้งนี่มิใช่ศาลารับลมหรือแม้แต่ในแม่น้ำแต่เป็นห้องที่นางอาศัยอยู่ทุกวัน ครานี้ทุกสิ่งอย่างที่นางกวาดตามองมืดสลัวนางนอนไปนานเท่าไหร่กัน นางพยายามนึกคิดว่าตนเองขึ้นจากแม่น้ำมาได้อย่างไร เพียงตอนนั้นสมองยังอื้ออึงได้ยินเพียงเสียงแว่ว ๆ ที่ประโคมต่อว่าปะทะฝีปากต่อเถียงกันเรื่องของนาง

“ฟื้นแล้วหรือ” น้ำเสียงที่ดังขึ้นอยู่มุมห้องทำให้ร่างบางถึงกับสะดุ้งรีบร้อนลุกขึ้น

“ท่านเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร นี่มันห้องนอนของสาวใช้มิใช่หรือ ? ”

“ไม่ว่าจะที่ใดที่อยู่ในจวนของข้า ข้าย่อมไปได้ทุกที่” ร่างใหญ่เดินเข้ามาใกล้นางมากกว่า แสงโคมไฟด้านนอกสะท้อนเข้ามาเห็นเงาและแววตาของเขาเพียงชั่วขณะแต่นางสามารถรับรู้สึกรังสีอำมหิตที่ส่งผ่านมายังนาง เขานั่งลงคว้าแขนของนางบีบเต็มแรงจนร่างบางสะดุ้งด้วยความเจ็บปวดจนส่งเสียงร้องออกมา

“โอ้ย !!”

“เจ้าเจ็บหรือ ? ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากตายหรือไงกัน... เจ้าว่ายน้ำเป็นแท้ ๆ แต่กลับไม่ว่ายขึ้นมาข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าไม่ให้เจ้าตายง่าย ๆ จนกว่าข้าจะอนุญาต หรือว่าเจ้าเสแสร้งมารยาให้เหลียงอวี้เห็นอกเห็นใจ ฮึ ร้ายกาจดีนี่!! และดูเหมือนว่าเขาจะเห็นใจเจ้าจนกระโดดลงไปช่วยเจ้าทันทีแถมยังทะเลาะกับข้าด้วยเรื่องของเจ้า เจ้ามันแพศยา”

“ไม่!! ข้าไม่เคยคิดต้องการทำเช่นนั้น ข้ามิได้ต้องการความเห็นใจอันน่าเวทนานั่น ข้าแค่ทนความอัปยศในชีวิตไม่ไหวและต้องการไปพ้นจากการจับกุมของท่านต่างหาก แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วไม่ว่าข้าจะทำอย่างไรท่านก็คงไม่ยอมปล่อยข้า แม้แต่วิญญาณของข้าท่านคงไปตามลากคอมาจากยมโลกเป็นแน่ ”

“หึ ! รู้ดีนี่ไม่ว่าจะทำยังไงเจ้าต้องอยู่ที่นี่เป็นเชลยแค้นของข้าจนกว่าข้าจะพึงพอใจเมื่อนั้นข้าถึงจะให้เจ้าตายได้ ตอนนี้คงยามห้าแล้ว ในเมื่อครั้งนี้เจ้าไม่สามารถนำดอกบัวมาให้ข้าได้และทำให้ข้าไม่ได้ไปเคารพป้ายชื่อท่านแม่ ข้าจะลงโทษไม่ให้เจ้ากินน้ำกินอาหารและต้องคุกเข่าอยู่ที่หน้าห้องของข้า แต่ถ้าเจ้าสำนึกตนและยอมรับปากข้าว่าจะไม่คิดหนีข้าอีก ข้าจะยอมลดโทษให้”

“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมข้าต้องอ้อนวอนเพื่อให้ท่านให้อภัยด้วย เพราะข้าว่ายน้ำไม่เป็นร่างของข้าถึงดิ่งลงนั่นคือความผิดของข้าด้วยหรือ”

“ฮ่า ฮ่า เจ้านะหรือว่ายน้ำไม่เป็นปากแข็งเสียจริง ได้ในเมื่อเจ้ารักศักดิ์ศรีของเจ้าก็อย่าหาว่าข้าใจร้าย หลวนฮวานนำตัวนางไปคุกเข่าที่หน้าห้องของข้าห้ามให้น้ำและอาหารจนกว่านางจะยอมรับว่านางตั้งใจที่ไม่ว่ายน้ำขึ้นมา ไป๋หนิงซินเจ้าเองก็อย่าแม้จะคิดนำน้ำไปหยดใส่ปากให้นางเด็ดขาดหากไม่ฟังคำพูดของข้า ข้าจะเฆี่ยนเจ้าให้หลังลาย” ไป๋หนิงซินอยู่หน้าห้องกำมือแน่น นางทั้งสงสารอวิ๋นหลิงที่ถูกนายท่านลงโทษไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งนางพึ่งผ่านความเป็นความตายมาเขายังมาตามตัวนางไปลงโทษไม่ให้นางได้พักแม้ยามราตรี ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ดูเหมือนท่านแม่ทัพเป็นห่วงนางแต่ก็โหดร้ายกับนางไม่ต่างกัน

ไท่หยางเอ่ยจบสะบัดมือออกจากแขนเล็กๆ ของอวิ๋นหลิงจนร่างบางเซอย่างไร้เรี่ยวแรง คำพูดของเขาทิ่มแทงความรู้สึกของนางครั้งแล้วครั้งเล่า ตอกย้ำให้นางได้เห็นความโหดร้ายในกายของเขาเหมือนอสูรร้ายนี่หรือคนที่เคยมีใจให้แก่กัน หลวนฮวานเดินเข้ามาประคองตัวนางให้ลุกขึ้นและเดินตามหลังไท่หยางไปที่ หน้าห้องของเขา ไป๋หนิงซินจ้องมองนางด้วยสายตาเศร้าหมองที่มิอาจจะช่วยอะไรได้และไม่ได้ตามนางไปที่ห้องของไท่หยางตามคำสั่งไม่กล้าขัดขืน

“มิต้องจับข้า ข้าเดินเองได้” อวิ๋นหลิงตอบหลวนฮวานเบา ๆ นางกล้ำกลืนก้าวท้าวตามหลังไท่หยางไปอย่างเงียบ ๆ จ้องมองแผ่นหลังของเขาในใจเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

‘ไม่ว่าข้าทำอย่างไรหรือไม่ทำอะไรเขาก็คงทุกข์ทรมานข้าต่อไปเช่นนี้เรื่อย ๆ สินะ ขนาดยามนี้เขายังไม่ปล่อยให้ข้าได้พักผ่อนเลยด้วยซ้ำคงเป็นเคราะห์กรรมที่ข้าต้องผ่านมันไปให้ได้ หากการที่ข้าต้องการตายจากท่านมันยากนักต่อจากนี้ข้าจะทนทุกข์เพื่อรองรับอารมณ์และความแค้นจนกว่าท่านจะสาแก่ใจเมื่อนั้นหวังว่าท่านจะปล่อยข้าไปทั้งร่างกายและวิญญาณ’ อวิ๋นหลิงครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนในเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยนางเองก็จะพยายามมีชีวิตอยู่ต่อ

เมื่อมาถึงหน้าห้องของนางร่างบางนั่งลงคุกเข่าตามที่เขาสั่งโดยไม่ได้ปริปากแม้แต่น้อย เขาเพียงหันมองมาก่อนจะแสยะยิ้มและเดินเข้าไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนและสั่งให้ทหารเฝ้านางเอาไว้

“หลวนฮวานเจ้าไปพักเถิด หน้าที่เฝ้านางข้าจะให้ทหารที่เฝ้ายามอยู่ที่นี่เฝ้าเอาไว้เพียงสตรีไร้เรี่ยวแรงนางเดียวคงไม่เหนือบ่ากว่าแรง”

“ข้ารับท่านแม่ทัพ” เขาโน้มตัวรับคำสั่งหันมามองอวิ๋นหลิงชั่วครู่และเดินจากไป

ยามห้าท้องฟ้ายามนี้มืดครึ้มเพราะยังไม่ใกล้สว่างอวิ๋นหลิงนั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นจนเวลาล่วงเลยท้องฟ้าสว่างจากแสงดวงอาทิตย์ สาวใช้ในจวนเริ่มออกมาทำหน้าที่ของตนเองเดินผ่านหน้าห้องของแม่ทัพไท่หยางต่างพากันซุบซิบนินทา จนไป๋หนิงซินที่เดินมาหาอวิ๋นหลิงได้ขับไล่พวกนางไปทำหน้าที่ของตนเอง

“อวิ๋นหลิงเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ? ร่างกายเจ้าจะทนได้สักเท่าไหร่กัน ข้าว่าเจ้าไปอ้อนวอนท่านแม่ทัพเถิดนะข้าเชื่อว่าท่านแม่ทัพเพียงได้ยินคำอ้อนวอนของเจ้าต้องสั่งล้มเลิกโทษครั้งนี้ ข้าล่ะเป็นห่วงกลัวร่างกายของเจ้าจะรับไม่ไหว ”

“ไม่ล่ะ เจ้าก็รู้นี่น่าหากทำเช่นนั้นเขาจะกลั่นแกล้งข้าทางอื่นอยู่ดี ชายผู้นั้นยากนักที่จะเดาใจได้ ตอนนี้ข้ายังไหวเจ้าไปทำงานของจ้าเถิดข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาถูกตำหนิอีกคน”

“เฮ้อ ! เช่นนั้นข้าขอให้เจ้าผ่านพ้นวันนี้ไปให้ได้ อย่างไรท่านแม่ทัพคงไม่อยากให้เจ้าตายหรอกหากเจ้าเกิดเป็นลมหมดสติเขาคงรีบพาเจ้าเข้าร่มแน่ ๆ จริงสิเจ้าแสร้งทำดีหรือไม่”

“ไม่ล่ะ เพราะหากทำเช่นนั้นข้าจะเป็นสตรีมารยาอย่างที่เขากล่าวหา ข้าขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงข้า” ไป๋หนิงซินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป อวิ๋นหลิงเงยหน้าจ้องมองไปหน้าห้องของไท่หยางด้วยสายตาที่แน่วแน่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแดดแรงหรือแม้จะมีหิมะตกนางจะไม่เอ่ยอ้อนวอนเขาแม้แต่คำเดียว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 28 ปล่อยวาง(ตอนจบ)

    บทที่ 28 ปล่อยวางอวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นมองไปด้านอื่นน้ำตาไหลรินไม่ต่างกัน ความเจ็บปวดที่นางพบเจอล้วนแต่เป็นเขาที่เป็นคนทำมัน ความปวดร้าวเรื่องราวที่ผ่านมาจะให้นางให้อภัยได้อย่างไร เขายังคงกอดขานางแน่น อวิ๋นหลิงไตร่ตรองเป็นอย่างดีก่อนจะเอ่ยมาทำลายความเงียบภายในห้อง“แต่มีทางหนึ่งที่ท่านสามารถทำให้ข้าให้อภัยท่านได้ ” ไท่หยางเงยหน้าขึ้นจ้องมองนาง รีบลุกขึ้นไม่ว่านางจะให้เขาทำอะไรข้ายอมทั้งนั้นหากมันจะทำให้นางให้อภัยเขาได้ และเขาจะได้ไถ่โทษกับตระกูลของนาง“ไม่ว่าเจ้าจะให้ข้าทำอะไร ข้าทำให้เจ้าได้ทั้งนั้นหากเจ้ายอมให้อภัยข้าในสิ่งที่ผ่านมา”“ปล่อย.. ปล่อยข้าไปอย่าได้รั้งกันไว้อีกเลย เพียงเท่านี้เราทั้งสองก็เจ็บปวดมามากพอแล้ว ข้าไม่อาจทนเห็นใบหน้าของท่านได้อีกความเกลียดความแค้นมันมากมายเหลือเกิน เพียงเห็นใบหน้าของท่าน ข้าก็อดที่จะคิดถึงเรื่องราวที่ท่านเคยทำไว้ไม่ได้ ได้โปรดปล่อยข้าไปเสีย ข้าจะอภัยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเราหมดวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้เถิด ข้าเหน็ดเหนื่อยไม่อยากจะพบเจอเรื่องเช่นนี้อีกต่อไป ...” ไท่หยางหมดเรี่ยวแรงปล่อยมือออกจากกายของนาง ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ตนเองก่อขึ้นมา“ข้ารู้ว

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่27 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    บทที่27 ความจริงที่แสนเจ็บปวดครั้นสองเท้าย่างกรายออกมาด้านนอกบัดนี้กองกำลังของเขาถูกล้อมไปด้วยทหารของแคว้นหยางอันจนหมดสิ้น โดยมีแม่ทัพหลิวไท่หยางยืนรอเขาอยู่ด้านหน้าจวน“เจ้าช้ากว่าข้าไปหนึ่งก้าว ยอมแพ้แต่โดยดีเพราะตอนนี้แคว้นของเจ้าถูกคนของข้าล้อมรอบไว้หมดแล้ว” ไท่หยางป่าวประกาศน้ำเสียงเข้มขรึมน่าเกรงขาม อีกฝ่ายกลับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน นี่เขาพลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ฮ่า ฮ่า เจ้าคิดว่าเพียงแค่นี้ข้าจะยอมแพ้หรือ แคว้นฉู่ของข้า ยอมตายแต่ไม่ยอมลดศักดิ์ศรีเด็ดขาด พวกเราลุกขึ้นสู้เพื่อแคว้นของเรา” ชางถิงพูดปลุกใจของเหล่าทหารชั่วพริบตาเดียวกองทัพทหารของแคว้นฉู่ได้วิ่งกรู่ออกมาอีกจำนวนมาก เริ่มปะทะสู้กันอย่างดุเดือด ยามนี้แคว้นฉู่นองเลือดจนกลิ่นคละคลุ้งผู้คนเริ่มล้มตายจากการต่อสู้ และแล้วเขาก็ตกอยู่ใต้ดาบของหลิวไท่หยาง กายเต็มไปด้วยเลือดของศัตรูอาบใบหน้า ถือดาบจ่อที่คอของชางถิง“ฮ่า ฮ่า ในที่สุดเจ้าก็ชนะข้า เอาสิบั่นคอข้าไปเลยเจ้าจะได้นำชัยชนะกลับไป เอ๊ะเดี๋ยวสิ! ข้าจะบอกแก่เจ้าก่อนแล้วกัน ข้าได้ยินมาว่าจับตัวบุตรสาวของจางชิงหลงแคว้นหนานไฮ้ไปเพื่อแก้แค้นนางใช่หรือไม่ อีกอย่างเจ้าเองก็ลงมื

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 26 รับไว้เพียงไมตรีมิอาจจะรับความรักของท่านได้

    บทที่ 26 รับไว้เพียงไมตรีมิอาจจะรับความรักของท่านได้ฝั่งด้านอวิ๋นหลิงตั้งแต่หลังจากกลับมาจากวันนั้น นางไม่ได้พบเจอหน้าไท่หยางอีกเลย ได้ยินผ่านจากไป๋หนิงซินว่าเขาปลอดภัยดีนางเองก็สบายใจทำงานเหมือนอย่างเคย แม้จะอยู่ห้องใกล้ ๆ กันกับเขาแต่ทว่านางไม่เคยคิดจะก้าวเข้าไปหาเขาเลยด้วยซ้ำ“เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ ? ” ไป๋หนิงซินยื่นหมั่นโถวให้นางพลางย่อนกายนั่งลงข้าง ๆ ช่วงนี้เหมือนหิมะจะหยุดตกแล้วทว่ายังมีความเยือกเย็นหลงเหลืออยู่ในอากาศ หมั่นโถวร้อน ๆ พอทำให้คลายหนาวได้บ้าง“ขอบใจนะ ข้าเพียงแค่คิดว่าหากข้าไม่กลับมาเจ้าจะเป็นอย่างไร คิดถึงข้าบ้างหรือไม่?”“ถามมาได้ขนาดเจ้าหายไปเพียงหนึ่งคืนข้าแทบนอนไม่หลับ กระวนกระวายไปหมดไม่เห็นหรือไงว่าข้าดีใจแค่ไหนที่เจ้ากลับมา ” ไป๋หนิงซินเอ่ยพลางกินหมั่นโถวเข้าปากคำใหญ่“นั่นสินะ ... ถ้าตอนนั้นข้าเลือกที่จะทิ้งไท่หยางและหนีไปตอนนี้ชีวิตของข้าจะเป็นอย่างไรนะ”“อย่าบอกนะว่าเจ้ามีโอกาสหนียามที่ท่านแม่ทัพได้รับบาดเจ็บนะ”“อื้ม ...แม่ทัพของเจ้าบอกให้ข้าหนีไปยามมีโอกาสแต่ไม่รู้ทำไมข้าถึงไม่หนีกันนะ อาจจะเป็นเพราะว่าข้าเกรงว่าเจ้าจะร่ำไห้เพราะเป็นห่วงข้านะสิ ฮึ ฮึ”

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 25 แม่ทัพถูกโจมตี

    บทที่ 25 แม่ทัพถูกโจมตีจวนแม่ทัพหลิวไท่หยางไป๋หนิงซินเฝ้ามองไปที่ประตูจิตใจกระวนกระวายเป็นห่วงอวิ๋นหลิง นี่ก็ยามซวี (19.00) แล้วทั้งสองคนยังไม่กลับเข้าจวนอีกทั้งหิมะก็ตกแรงมากกว่าเดิม นางมิอาจจะเก็บความเป็นห่วงเอาไว้ได้รีบย่างกรายไปหาหลวนฮวานที่ยืนอยู่หน้าห้องของแม่ทัพไท่หยาง“หลวนฮวานทำไมท่านถึงใจเย็นได้ ไม่ร้อนใจเลยหรือ?เมื่อไหร่ท่านแม่ทัพจะพาอวิ๋นหลิงกลับจวน ข้าชักเป็นห่วงจริง ๆ หวังว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับท่านแม่ทัพหรอกใช่มั้ย”“เจ้าอย่าเป็นกังวลไปเลย ท่านแม่ทัพมีฝีมืออีกไม่นานก็คงกลับมา” แม้ปากจะเอ่ยเช่นนั้นแต่ใจของหลวนฮวานก็เป็นห่วงท่านแม่ทัพเช่นเดียวกัน ทว่ายามนั้นมีทหารใบหน้าแตกตื่นวิ่งเข้ามาแจ้งให้หลวนฮวานได้รับรู้“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“เรื่องอะไรกันทำไมเจ้าถึงได้รีบร้อนวิ่งมาถึงเพียงนี้”“ข้าออกไปดื่มสุราที่โรงเตี๊ยมมาเมื่อครู่ได้ยินเรื่องของท่านแม่ทัพ มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หุบเขามาพูดคุยกันเรื่องของแม่ทัพไท่หยางเขาขึ้นไปเก็บสมุนไพรและเห็นว่าท่านแม่ทัพกำลังถูกคนของแคว้นฉู่ไล่ล่า คนของพวกนั้นมากันมาเหลือเกินไม่รู้ว่าป่านนี้ท่านแม่ทัพจะเป็น

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 24 หนีไปสิตอนที่เจ้ามีโอกาส

    บทที่ 24 หนีไปสิตอนที่เจ้ามีโอกาสสีหน้าของเขาเริ่มซีดเซียวขาวเผือกไร้เลือดฝาด นางพยุงเขาเข้ามาด้านในพร้อมจับเขานั่งลงพิงผนังหิน กลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มอากาศยังคงไหลไม่หยุด อวิ๋นหลิงจ้องมองฝ่ายตรงข้ามพร้อมครุ่นคิดหากนางจะใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีคงไม่ยากเพราะเขาคงไม่มีเรี่ยวแรงจะตามนางได้ทันแน่ ๆ นางต้องการหลุดพ้นจากเขาจึงช่างใจคิดครู่ใหญ่ และเหมือนว่าไท่หยางจะรู้ถึงความคิดของนาง“เจ้าคงคิดอยากจะทิ้งข้าไว้และหนีข้าไปสินะ เอาสิยามนี้เป็นเวลาที่เจ้าจะได้หลุดพ้นจากเนื้อมือของข้าแล้ว โอกาสที่เจ้าจะหนีจากข้ามาถึงแล้วปล่อยให้ข้ารอความตายอยู่ที่นี่โดยมิต้องใส่ใจข้า แต่ถ้าหากว่าข้ารอดไปได้ข้าจะตามหาเจ้าต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินทั่วใต้หล้าข้าก็จะตามหาเจ้าให้เจอ เมื่อนั้นอย่าหวังว่าจะหนีข้าไปได้เพราะข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอีก” น้ำเสียงแหบพร่าคล้ายคนกำลังหมดแรงเอ่ยออกมาโดยใช้กำลังทั้งหมด อวิ๋นหลิงเริ่มลังเล หากนางจะหนีเขาไปนางจะไม่มีทางให้เขาหานางได้พบเลย นางหันไปมองหน้าถ้ำก่อนจะหันกลับมามองไท่หยางอีกครา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ลุกขึ้นยืนและวิ่งออกไปจากถ้ำทันที ปล่อยให้เขาอยู่ในถ้ำรอความตายและทนความเจ็บปวดที่กำ

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 23 จำไม่ได้

    บทที่ 23 จำไม่ได้‘คำพูดของนางทำให้จิตใจของข้าสั่นคลอนได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ ?’ “เฮ้อ ! เจ้าคิดว่าเจ้าพบเจอเพียงเท่านี้แล้วข้าจะหายโกรธแค้นหรืออย่างไรกัน เพียงเท่านี้ยังน้อยไปกับที่ท่านแม่ข้าพบเจอ เลิกทำสายตาสีหน้าเบื่อโลกเสียข้าบอกแล้วอย่างไรว่าข้าไม่มีทางให้เจ้าตายจากข้าไปง่าย ๆ ที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะอยากตอกย้ำความเจ็บปวดเจ้าเท่านั้น เจ้าจำที่นี่ไม่ได้เลยหรือ” อวิ๋นหลิงหมดสิ้นความหวังที่เขาจะผลักนางลงเหว เขาก็ยังคงเป็นเช่นนี้เสมอเป็นชายที่ไร้ใจอำมหิตไม่ยอมปล่อยให้นางได้ทำตามความปรารถนานางกวาดสายตามองไปด้านหน้า เทือกเขาสูงชันแม้ท้องฟ้าจะไร้แสงอาทิตย์แต่นางยังคงมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างได้อย่างชัดเจน แต่ทว่าความทรงจำของอวิ๋นหลิงกลับจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าที่นี่มีความหมายต่อนางอย่างไร แล้วทำไมนางต้องเจ็บปวดด้วยเล่า“ข้าไม่เห็นอันใดแม้แต่น้อยเห็นแต่หุบเขา ท่านต้องการสิ่งใดกับข้ากันแน่ หากไม่ต้องการผลักข้าตกเหวแล้วสิ่งใดกันในที่นี่จะทำให้ข้าเจ็บปวด ” น้ำเสียงนิ่งเรียบตอบกลับอย่างไร้ความรู้สึก ทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นทันตา เพราะสถานที่นี้คือที่ที่เขาเคยพานางเมื่อยามที่รักกันปานจะกลืนกินก่อนที

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status