Share

ตัดขาดความสัมพันธ์

Author: zuey
last update Huling Na-update: 2025-09-21 02:57:18

ชาวบ้านหลายคนที่เคยมีไมตรีต่อพวกนางต่างเห็นด้วยกับคำพูดของชายชรา หลายคนแสดงสีหน้าเป็นกังวล แม้จะกลับไปอยู่บ้านเดิมของนาง แต่ที่นั่นใครๆ ต่างก็รู้ว่าบ้านพวกเขายากจนเพียงใด

“ขอบคุณทุกท่าน วันนี้ข้าเซี่ยชิงหลีจดจำพระคุณของทุกท่านเอาไว้แล้ว วันหน้าหากข้าร่ำรวยจะไม่ลืมบุญคุณนี้อย่างแน่นอน”

“เหอะ!!ร่ำรวยอันใด พูดจาใหญ่โต ตัวขาดทุนอย่างพวกเจ้าจะทำอะไรได้”

หญิงชราเอ่ยเหน็บแนมอดีตหลานสาว หญิงสาวไม่ต้องการต่อปากกับนางจึงสั่งให้เซี่ยชิงเป่าและอาเหิงวิ่งไปเอารถลากจากบ้านหมอหลิวมา

คนทั้งห้าที่ไร้ที่พึ่งพิงเข็นรถลากออกจากหมู่บ้านสือซานไปอย่างเงียบๆ แผ่นหลังของพวกเขาที่เดินไปอย่างโดดเดี่ยวทำให้หลายคนอดที่จะหลังน้ำตามิได้

“นี่หยุดก่อน!! บ้านหลี่ซื่อ”

เป็นเหล่าแม่บ้านในหมู่บ้านสือซานนั่นเอง หลายคนขนไข่ไก่ผักป่าและข้าวกล้องมาส่งให้พวกนางแม่ลูก

เซี่ยชิงหลีรู้ว่าชาวบ้านเหล่านี้มีชีวิตไม่ต่างจากครอบครัวตน อาหารที่ถูกนำมาให้พวกนางแม่ลูกล้วนเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับครอบครัว ไหนเลยจะเอาออกมาง่ายดายเช่นนี้ได้ แม้คนตระกูลเซี่ยจะใจดำและชั่วร้าย ทว่าวันนี้นางได้เห็นแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเหมือนพวกเขา

“ท่านป้า ท่านน้า ท่านอาทั้งหลาย วันนี้หลีเอ๋อขอคำนับแทนท่านแม่ขอบคุณพวกท่านทุกคน ในอนาคตหลีเอ๋อจะกลับมาตอบแทนบุญคุณอย่างแน่นอน”

หญิงสาวคุกเข่าคำนับหน้าผากจรดพื้นให้สตรีที่มีน้ำใจเหล่านั้นอย่างจริงใจ การกระทำของเด็กสาวในวันนี้ทำให้ชาวบ้านสือซานจดจำเอาไว้ในใจ

“นี่เจ้าน่ะอาเหิง นี่เป็นไก่ป่าที่ข้าจับมาได้...ข้าให้เจ้า”

เด็กโข่งบ้านอู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังยื่นไก่ป่าสองตัวให้กับชายหนุ่ม อาเหิงมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตามึนงง

“ข้า....ข้าขอโทษที่เคยแกล้งเจ้า”

อาเหิงที่เงียบมาตลอดยกยิ้มก่อนจะตบๆ บนหัวของเด็กโข่งบ้านอู่

“อาเหิงไม่โกรธ ดีกันนะ”

เด็กหนุ่มถูกอาเหิงทำเช่นนั้นถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เซี่ยชิงหลีอดขำมิตรภาพของพวกเขาไม่ได้ ก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยมีเรื่องทะเลาะกัน ทว่ายามเมื่อต้องลาจากกลับรู้สึกอาลัยอาวรณ์

“เอาละเวลาก็ไม่เช้าแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

เซี่ยชิงหลีเข็นรถลากพาครอบครัวจากไป ชาวบ้านสือซานต่างยืนมองพวกเขาที่หน้าหมู่บ้านกระทั่งลับสายตา

ณ หมู่บ้านสือโถว

หมู่บ้านสือโถว เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสือซานออกไปเพียงเขาหนึ่งลูก ชาวบ้านสือซานที่นั่งเกวียนเทียมวัวเข้าไปในอำเภอ หลิงหนานจำต้องผ่านหมู่บ้านสือโถวก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้ข่าวคราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านสือซานรู้ถึงหมู่บ้านสือโถวอย่างรวดเร็ว

และสิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านรองตระกูลเซี่ยก็มาถึงหูของคนบ้านหลี่ด้วยเช่นกัน พี่ชายทั้งสองและบิดาของหลี่หลันฮวาเดิมทีเตรียมข้าวของเพื่อมาเยี่ยมบุตรสาวและหลานๆ ทว่านี่เป็นการตัดสินใจมาที่หมู่บ้านสือซานในรอบหลายปี

ก่อนหน้านี้พวกเขามาเยี่ยมนางหลายครั้ง แต่ถูกแม่เฒ่าหวังกีดกันและพูดจาดูถูกสิ่งของจากพวกเขาที่นำมาฝาก ผู้เฒ่าหลี่เกรงว่าแม่สามีของหลี่หลันฮวาจะไม่พอใจที่พวกตนมาวุ่นวายที่ตระกูลเซี่ยจึงไม่กล้ามาหานางอีก นับตั้งแต่ตั้งแต่วันที่เซี่ยชิงเป่าเกิดพวกเขาก็ไม่มาที่หมู่บ้านสือซานอีกเลย

ณ ปากทางเข้าหมู่บ้านสือโถว

“นั่น!! คนพวกนั้นดูคุ้นๆ ไม่ใช่หรือ พวกเขาคนตระกูลใด”

หลี่ต้าซาน บุตรชายคนโตของหลี่จิ้งจง ผู้เป็นบิดาของหลี่หลันฮวาชี้ให้บุรุษต่างวัยทั้งสองดูกลุ่มคนที่กำลังเดินเข็นรถลากตรงมายังพวกตน

“ท่านพ่อ!!”

หลี่หลันฮวาเมื่อได้พบครอบครัวของตนอีกครั้งก็มิอาจสะกดกลั้นความปีติเอาไว้ได้ หลายปีต้องทนทุกข์แม้แต่บิดามารดาก็ไม่สามารถพบหน้า ช่างเป็นเวรกรรมโดยแท้

ชายชราที่สายตาเริ่มฝ้าฟางเพ่งมองคนกลุ่มนั้น เมื่อได้ยินเสียงที่แสนคุ้นเคยของบุตรสาว ผู้เฒ่าหลี่ก็ตะโกนออกไปในทันที

“ฮวาเอ๋อ!! นั่นเจ้าหรือ”

คนทั้งสามทิ้งข้าวของในมือวิ่งตรงไปยังกลุ่มคนที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ เมื่อผู้เฒ่าหลี่เห็นบุตรสาวคนเล็กได้รับบาดเจ็บพันผ้าขาวทั้งตัวก็อดเจ็บปวดใจมิได้ น้ำตาของชายชราหลั่งออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ดวงตาขุ่นมัวใต้รอยเหี่ยวย่นมองใบหน้าผอมแห้งของบุตรสาวด้วยความเวทนา

หยดน้ำตาไหลรินจากหางตาอย่างเงียบงันโดยไร้เสียงสะอื้น ทุกคนรับรู้ถึงความรู้สึกที่ชายชราถ่ายทอดออกมาโดยไม่เอื้อนเอ่ย

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่นบอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกทั้งหมด น้ำตาของชายชรานั้นมิใช่เพียงแค่หยาดน้ำแห่งความเศร้า แต่มันคือความคิดถึงบุตรสาวที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

“ท่านพ่อ...ลูกอกตัญญูนัก หลายปีมานี้มิอาจตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดู ซ้ำยังทำให้พวกท่านต้องมาทุกข์ใจเพราะเรื่องของข้า”

“ฮวาเอ๋อ ไม่ต้องพูดแล้ว เป็นพ่อที่ผิดเอง ใจอ่อนยอมให้เจ้าแต่งเข้าไปในถ้ำเสือดงงูพิษ แค่เพียงจางซุนโหรวผู้เดียวก็ไม่ควรเข้าใกล้ ฮื่อ!!!เป็นพ่อผู้นี้ที่ผิดต่อเจ้าจริงๆ”

ผู้เฒ่าหลี่ร้องไห้เสียงดังเพราะรู้สึกผิดต่อบุตรสาวคนเล็กจากใจจริง คนกลุ่มนั้นปลอบประโลมหัวใจอันอ่อนแอของผู้เฒ่าอยู่นาน เมื่อชายชราสงบลงดวงตาขุ่นมัวจึงได้สังเกตเห็นเด็กๆ ที่ติดตามบุตรสาวมาด้วย

“พวกเจ้า....นี่คงจะเป็นอี้เอ๋อสินะ ส่วนเจ้าคือเสี่ยวเป่าหรือ ตาไม่ได้พบพวกเจ้านานหลายปี โตขึ้นขนาดนี้เชียว”

“คารวะท่านตา ท่านลุงใหญ่ ท่านลุงรอง ขอรับ/ เจ้าค่ะ”

สองคนคำนับผู้อาวุโสอย่างรู้ความ ทว่าเมื่อผู้เฒ่าหันมองเด็กสาวใบหน้าหมดจดที่คล้ายกับหลี่หลันฮวาเมื่อวัยแรกรุ่นและชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งทว่าใบหน้ากลับหล่อเหลาจนคนมิอาจทนมอง จึงได้แสดงท่าทีสสัย

“ส่วนเจ้า!....”

“ท่านตา ท่านลุงใหญ่ ท่านลุงรอง หลีเอ๋อคารวะพวกท่าน ส่วนเขาคืออาเหิงที่คนบ้านเรากำลังดูแลอยู่”

“อาเหิงไม่ใช่คนที่ภรรยาดูแล อาเหิงคือสามี ขอคารวะทุกท่าน”

เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งสอง ชายทั้งสามจากตระกูลหลี่ยิ่งมึนงงเข้าไปใหญ่ เซี่ยชิงหลีหลานสาวคนรองคือเด็กสาวที่ไม่สามารถพูดได้ไม่ใช่หรือ แล้วเจ้าหนุ่มรูปงามผู้นี้เหตุใดถึงแสดงท่าทีราวกับเด็กห้าขวบ

“ท่านพ่อ...เรากลับบ้านก่อนได้หรือไม่ เอาไว้ข้าจะเล่าทุกอย่างให้พวกท่านฟัง”

 

เรื่องที่บุตรสาวคนเล็กของตระกูลหลี่หอบลูกทั้งสามกลับบ้านเดิมถูกลือในหมู่บ้าน คนเหล่านี้มีเวลาว่างมากเกินไปจึงมารอดูความสนุกของผู้อื่น เซี่ยชิงหลีมองคนเหล่านั้นที่ยืนออหน้าประตูเรือนทว่าก็เข้าใจสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ได้

“ท่านแม่!!....ลูกอกตัญญูกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

หลี่หลันฮวาแทบพุ่งตัวลงจากรถลากเข้าหาอ้อมอกมารดา เซี่ยชิงหลีเห็นดังนั้นจึงรีบห้ามนางเอาไว้เพราะเกรงว่าแผลจะปริอีกรอบ เมื่อเห็นบุตรสาวที่เคยงามสะพรั่งดั่งดอกไห่ถั่ง ทว่ายามนี้บุตรสาวกลับไม่ต่างจากดอกไห่ถั่งที่กำลังร่วงโรย ทำให้นางรู้สึกเศร้าใจนัก

หญิงชราเดินตามการพยุงของสะใภ้ทั้งสองตรงมายังรถลากที่จอดอยู่หน้าเรือน

“แค่ก! แค่ก! ไม่เป็นไรนะฮวาเอ๋อ กลับมาแล้วก็ดี กลับมาแล้วก็ดี”

นางกอดบุตรสาวคนเล็กเอาไว้แนบอก แม้ในใจยามนี้จะเจ็บปวดแสนสาหัสนัก ทว่าแม่เฒ่าโจวกลับเป็นคนเข้มแข็งเสียยิ่งกว่าผู้เป็นสามี

“ท่านยาย/ท่านยาย/ท่านยาย”

หลานทั้งสามร้องเรียกแม่เฒ่าโจวขึ้นพร้อมกัน หญิงชราดวงตาอ่อนโยนเปล่งประกายด้วยแสงแห่งความอบอุ่น รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลา ริมฝีปากที่แต้มยิ้มสั่นนิดๆ ไม่ใช่เพราะความอ่อนแรงแต่เพราะหัวใจที่เอ่อล้นไปด้วยความปีติ เป็นความสุขที่ลึกซึ้งโดยมิต้องการคำอธิบายใด ๆ

“เด็กดี...”

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ช่วยชีวิตคน

    ชายชุดดำกระชากสาบเสื้อของหมอวัยกลางคนจนหลุดลุ่ย เวลานั้นเองเซี่ยชิงหลีได้เอ่ยแทรกขึ้น“นี่!...ให้ข้าลองดูได้หรือไม่”“เจ้าเป็นใคร!”ชายชุดดำหันขวับมาที่นางทันที สายตาที่จับจ้องมานั้นราวกับจะสังหารคนเสียให้ได้“ข้าคือคนที่ผ่านทางมาและพอรู้วิชาแพทย์อยู่บ้าง”หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“แม่นาง...เจ้าอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลย ไม่เห็นหรือว่าเขาตายไปแล้ว ถ้าหากเจ้าช่วยคนผู้นี้ไม่ได้เจ้าอาจต้องตาย เห็นหรือไม่เขามีอาวุธ”ชาวบ้านที่เข้ามามุงดูช่วยเอ่ยทัดทานหญิงสาว“ข้ารู้...”แม้จะรู้เช่นนั้น เซี่ยชิงหลีก็ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา ช่างผิดวิสัยของคนปกตินักหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าของคนผู้นั้น นางพลันจดจำได้ทันที เขาคือชายชราที่อยู่กับอาจารย์ใหญ่จ้าว เหตุใดถึงได้มาอยู่ที่นี่ ชายชุดดำเห็นสายตาของหญิงสาวดูเปลี่ยนไปเหมือนกับนางเคยรู้จักนายท่านของตนมาก่อน เขาทำท่าชักกระบี่ทว่าคนที่มาด้วยห้ามเอาไว้“เจ้าคนหนึ่งมานี่ ทำตามที่ข้าบอก”เซี่ยชิงหลีจัดท่าให้ชายชรานอนหงายแล้วเปิดทางหายใจให้โล่ง ด้วยการกดหน้าผากและยกขากรรไกรล่างขึ้น จากนั้นสั่งให้ชายชุดดำผายปอดให้ชายชราตามวิธีการของนางผู

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ขายเห็ดสน

    “เนื้อกวางหรือ หอหว่านหรงของเรารับซื้อทว่าเห็ดป่านั้น...เจ้าให้ข้าดูก่อนได้หรือไม่”ชายหนุ่มมีท่าทีลังเล เซี่ยชิงหลีพอเข้าใจเพราะก่อนหน้านี้คนบ้านหลี่ก็แสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ไม่ใช่เห็ดทุกชนิดที่จะสามารถกินได้“ได้แน่นอนเจ้าค่ะ”หญิงสาวเปิดผ้าคลุมตะกร้าออก เห็ดสนที่ถูกล้างอย่างดีวางเรียงภายในตะกร้าอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดมพบว่ามันส่งกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงป่าเขียวชื้นในยามเช้า มันไม่ใช่กลิ่นหอมหวานฉุนหรือสดใสเหมือนดอกไม้ หากแต่เป็นกลิ่นหอมที่อบอุ่น ลุ่มลึก และเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว“นี่คือเห็ดอะไรหรือ”“สิ่งนี้คือเห็ดสนเจ้าค่ะ ชาวบ้านอย่างเราใช้ปรุงอาหารสามารถทำได้หลายอย่าง หากผู้ดูแลวางใจข้าจะลองทำให้ทานสักสองสามอย่าง”ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้าอนุญาต“ได้...เช่นนั้นเจ้าตามเขาเข้าไปในครัว”เซี่ยชิงหลีเดินตามเสี่ยวเอ้อเข้าไปด้านหลังร้าน ที่นั่นมีพ่อครัวอยู่สี่ห้าคนกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร เพียงหญิงสาวก้าวเข้าไปทุกอย่างก็หยุดชะงักลง“ต่อเลยเจ้าค่ะ ต่อเลย ไม่ต้องสนใจข้า ข้าเพียงแวะมาชั่วคราวเท่านั้น”หญิงสาวคำนับให้เหล่าพ่อครัว จากนั้นเริ่มทำอาหารของตนเมื่อ

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ทุบตีสวะเซี่ยจิ่งเฉิง

    เพราะการแต่งกายที่ดูซอมซ่อของทั้งสาม ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าหอกุ้ยเซียงก็ถูกไล่ตะเพิดออกมา เซี่ยชิงหลีแอบสบถในใจ วันหน้านางสัญญาว่าจะทำให้ที่นี่เจ๊งไม่เป็นท่าหลังจากออกจากหอกุ้ยเซียงทั้งสามก็ตรงไปเหลาอาหารและสุราที่ชื่อหว่านหรง ซึ่งชาวอำเภอหลิงหนานต่างรู้ดีว่าสองร้านนี้เป็นคู่แข่งกันมาช้านาน ทว่าหอกุ้ยเซียงนั้นมีทั้งหญิงสาวงดงามที่คอยให้บริการและยังมีกวีนักเล่าเรื่องมาคอยเล่านิทานให้เหล่าลูกค้าได้เพลิดเพลิน ทำให้หอหว่านหรงต้องตกเป็นรอง“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”ยังไม่ทันจากไปหญิงสาวก็ถูกขวางทางโดยคนที่เกลียดขี้หน้าที่สุด เซี่ยจิ่งเฉิง ที่พึงออกจากหอกุ้ยเซียงเดินโซเซตรงมายังนาง เมื่อได้พบคนที่ไม่ชอบหน้าหญิงสาวมีหรือจะยอมพูดดีด้วย“เกี่ยวอันใดกับเจ้า”“ก็เพราะ...ขะ...ข้าคือพี่ชายของเจ้า! เอ๊ะ!เหตุใดเจ้าพูดได้!...แล้วช่างเถอะ...เหตุใดจะไม่เกี่ยวกับข้า บอกมาว่าเจ้ามาทำอะไรที่อำเภอหลิงหนาน”เซี่ยจิ่งเฉิงคิดคว้าแขนหญิงสาวมาซักถามให้รู้เรื่อง ทว่านางกลับหมุนตัวหลบทำให้เขาเสียจังหวะล้มคว่ำไป“เจ้า!..”เมื่อถูกนางทำให้ต้องได้รับความอับอายบวกกับฤทธิ์สุราทำให้เขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าหญิงสาวเคยทำอะไรเอ

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   รักษาอาการป่วยของท่านยาย

    ชายหนุ่มก้มตัวลงแตะริมฝีปากลงบนแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มกว้างและหัวเราะด้วยความดีใจ“เย้! อาเหิงได้รับรางวัลแล้ว”ทุกคนที่ยืนอยู่ในที่นั้นต่างมองการกระทำของเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง อาเหิงแม้จะดูใสซื่อและบริสุทธิ์ทว่ากลับทำให้คนกำหมัดอยากจะชกหน้าสักครั้งร่างบางถูกฉวยโอกาสโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตางามเบิกโพลงเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีราวกับเลือดทั้งหมดพุ่งตรงขึ้นมาที่พวงแก้มในเสี้ยวอึดใจ หัวใจของนางเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา“อ๊ะ…!”เซี่ยชิงหลีหันขวับไปมองร่างสูง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจปนเขินอาย ริมฝีปากบางขยับเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างทว่าไม่มีคำใดหลุดออกเลยนอกจากเสียงพึมพำในลำคอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะแก้มของตนแผ่วเบา ราวกับยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง… หรือฝันไป“ภรรยา เจ้าเป็นอะไรหรือ”ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยดวงตาใสซื่อ“ขะ...ข้า พวกเรากลับกันได้แล้ว”ร่างบางรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาล้อเลียนของทุกคนภายหลังเมื่อคนตระกูลหลี่กลับมายังหมู่บ้าน ข่าวที่บ้านหลี่ล่ากวางตัวใหญ่ได้ก็ถูกลือกระฉ่อนในชั่วพริบตา เซี่ยชิงหลีคือเพชฌฆาตคนนั้น ทุกคนจึงรอฟั

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ล่ากวางป่า

    “หลีเอ๋อ เจ้าจะบอกว่าตนเองรู้เรื่องสมุนไพรหรือ”“ใช่สิเจ้าคะ ก่อนหน้านี้ข้าได้ไหว้หมอพเนจรท่านหนึ่งเป็นอาจารย์ กระทั่งตอนนี้ที่พูดได้ก็ไม่ใช่ฝีมือของอาจารย์ข้าหรือ”ชายชราหันมายิ้มกับหลานสาวผู้โชคดีของตน“ดี! ดีจริงๆ ไม่คิดว่าในความโชคร้ายของพวกเจ้าจะยังมีเรื่องดีๆ อยู่ด้วย นี่ท่านแม่ของเจ้ารู้เรื่องนี้หรือยัง”“อืม...ท่านแม่ของข้าจะรู้หรือไม่นั้น...บาดแผลของนางข้าก็เป็นคนรักษา อีกอย่างข้ายังคิดว่าจะใช้ความรู้ของตนพัฒนาเป็นอาชีพ ต่อไปครอบครัวของเราจะต้องร่ำรวยไปด้วยกัน”สองตาหลานเดินพูดคุยอย่างเพลิดเพลิน หูที่ได้รับการฝึกฝนของเซี่ยชิงหลีพลันได้ยินความเคลื่อนบางอย่างที่อยู่ห่างออกไป“ท่านตา!...รอสักครู่”หญิงสาวเปลี่ยนจากท่าทางที่ดูขี้เล่นเป็นจริงจังในทันที ร่างบางย่องตามเสียงนั้นไปเมื่อพ้นเขตป่าสมุนไพรกลายเป็นลานทุ่งกว้าง ที่นั่นมีสัตว์ป่ามากมายกำลังเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลินทันใดนั้นกวางหนุ่มตัวเขื่องค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากแนวพุ่มไม้มันเดินทอดน่องอย่างเชื่องช้า ด้วยจังหวะที่สงบและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ จมูกของมันก้มลงเล็มยอดหญ้าอ่อนสีเขียวสดอย่างละเมียดละไม ทว่าทุกอิริยาบถเต็มไปด้วยความร

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   เริ่มหางานเพื่อทำเงิน

    หลี่หมิงเจ๋อบุตรชายคนเล็กของลุงรองที่กำลังจะแต่งงานในปีหน้าถามหญิงสาวด้วยท่าทางสงสัย อาหารขึ้นโต๊ะวันนี้มีมากกว่าอาหารที่กินในวันปีใหม่เสียอีก แต่ส่วนใหญ่ทำจากเห็ดที่นางเก็บมาวันนี้“ทานได้แน่นอน ข้าจะทานให้ท่านดู...”หญิงสาวใช้ตะเกียบคีบเห็ดเข้าปาก“เห็ดเหล่านี้ล้วนเป็นเห็ดที่ขึ้นเฉพาะที่ที่มีต้นสนขึ้น มันเรียกว่าเห็ดสน นี่คือเห็ดสนผัดน้ำมัน ส่วนนี่เห็ดสนผัดไข่ นี่คือเห็ดสนผัดรวมมิตรเนื้อหมูป่า เห็ดสนคั่วพริกเกลือและเห็ดสนย่างราดน้ำจิ้มที่ข้าทำเอง และรายการอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าคิดขึ้นมา”วันนี้เก็บเห็ดสนได้สองตะกร้าใหญ่ โชคดีที่ชาวบ้านสนใจหมูป่าจึงไม่มีใครตามมาดูว่าในตะกร้าของพวกเขามีอะไรบ้างแม้หญิงสาวจะเอ่ยเช่นนั้นทว่าคนบ้านหลี่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือทาน มีเพียง อาเหิง เซี่ยจื่ออี้ และเซี่ยชิงเป่าที่ทานอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งยังชมฝีมือการทำอาหารของหญิงสาวไม่หยุดปาก“น่าจะทานได้ไม่มีพิษกระมัง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องมีอาการแล้ว”ตู้เฟิงอิงหันไปเอ่ยกับสามี“ข้าจะเป็นคนเสียสละทดลองเอง”หลี่เยว่หยางน้องชายของหลี่เยว่สิงลูกชายคนเล็กของบ้านใหญ่ ปีนี้อายุสิบหกอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกับเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status