Share

ทุบตีสวะเซี่ยจิ่งเฉิง

Author: zuey
last update Huling Na-update: 2025-09-21 03:06:54

เพราะการแต่งกายที่ดูซอมซ่อของทั้งสาม ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าหอกุ้ยเซียงก็ถูกไล่ตะเพิดออกมา เซี่ยชิงหลีแอบสบถในใจ วันหน้านางสัญญาว่าจะทำให้ที่นี่เจ๊งไม่เป็นท่า

หลังจากออกจากหอกุ้ยเซียงทั้งสามก็ตรงไปเหลาอาหารและสุราที่ชื่อหว่านหรง ซึ่งชาวอำเภอหลิงหนานต่างรู้ดีว่าสองร้านนี้เป็นคู่แข่งกันมาช้านาน ทว่าหอกุ้ยเซียงนั้นมีทั้งหญิงสาวงดงามที่คอยให้บริการและยังมีกวีนักเล่าเรื่องมาคอยเล่านิทานให้เหล่าลูกค้าได้เพลิดเพลิน ทำให้หอหว่านหรงต้องตกเป็นรอง

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”

ยังไม่ทันจากไปหญิงสาวก็ถูกขวางทางโดยคนที่เกลียดขี้หน้าที่สุด เซี่ยจิ่งเฉิง ที่พึงออกจากหอกุ้ยเซียงเดินโซเซตรงมายังนาง เมื่อได้พบคนที่ไม่ชอบหน้าหญิงสาวมีหรือจะยอมพูดดีด้วย

“เกี่ยวอันใดกับเจ้า”

“ก็เพราะ...ขะ...ข้าคือพี่ชายของเจ้า! เอ๊ะ!เหตุใดเจ้าพูดได้!...แล้วช่างเถอะ...เหตุใดจะไม่เกี่ยวกับข้า บอกมาว่าเจ้ามาทำอะไรที่อำเภอหลิงหนาน”

เซี่ยจิ่งเฉิงคิดคว้าแขนหญิงสาวมาซักถามให้รู้เรื่อง ทว่านางกลับหมุนตัวหลบทำให้เขาเสียจังหวะล้มคว่ำไป

“เจ้า!..”

เมื่อถูกนางทำให้ต้องได้รับความอับอายบวกกับฤทธิ์สุราทำให้เขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าหญิงสาวเคยทำอะไรเอาไว้ ร่างสูงตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนคิดสั่งสอนน้องสาวให้รู้สำนึก ทว่าเซี่ยชิงหลีกลับเตะสวนออกไป ทำให้เขาล้มลงไปกองอีกครั้ง

“โอ๊ย!! เซี่ยชิงหลี!! เจ้ากล้าทำร้ายข้า”

“ไสหัวไปซะไอ้สวะเซี่ยจิ่งเฉิง สุนัขดีไม่ขวางทาง”

หญิงสาวจ้องชายหนุ่มด้วยสีหน้าเย็นชา

“เจ้า!! เจ้ากล้าด่าข้าเป็นหมา”

“เจ้าเป็นหมาหรือไม่ ตัวเจ้ารู้ดีมิใช่หรือ เมาแอ๋กลางวันแสกๆ ยังคิดว่าตนเองเป็นบัณฑิตผู้มีความรู้อยู่อีก หนังสือที่อ่านมาทั้งหมดคงอยู่ในท้องสุนัขหมดแล้วกระมัง เจ้าเศษสวะน่าตายการกระทำของเจ้ามันช่างน่าขันนัก”

“เจ้า!!”

ถูกตีและถูกด่าว่าเป็นหมาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอับอายยิ่งกว่าเดิม เหล่าสหายที่ติดตามมาเห็นสาวงามกำลังพูดคุยกับเซี่ยจิ่งเฉิง จึงคิดว่าเป็นคนที่พวกตนก็สามารถเกี้ยวพาได้ ชายหนุ่มทั้งสี่ต่างรุมล้อมเข้าหานาง

เซี่ยชิงหลีมองคนโง่เหล่านั้นด้วยหางตา ลุงทั้งสองคิดเข้าร่วมทว่าถูกหญิงสาวห้ามเอาไว้ ไม่นานหน้าหอกุ้ยเซียงก็มีชายหนุ่มห้าคนถูกทุบตีจนหน้าบวม

“ขะ..ข้าจะแจ้งต่อทางการ เจ้ากล้าทำร้ายนักเรียนของสำนักศึกษาเต๋อชุน”

หนึ่งในนั้นชี้หน้าหญิงสาวด้วยความโมโห

“หุบปากไปเสีย!...พวกเจ้าห้าคนถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเต๋อชุนเมื่อครึ่งปีก่อน อย่าได้คิดทำให้ชื่อเสียงสำนักศึกษาของข้าแปดเปื้อน”

“ท่านอาจารย์ใหญ่จ้าว!!”

สองชายชราผมขาวก้าวช้าๆ ตรงมายังกลุ่มคนทั้งห้า ก่อนหน้าทั้งสองดื่มชาอยู่ที่หอหว่านหรง มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น ไม่คิดว่าหญิงสาวร่างบางจะลงมือตีคนไม่กะพริบตาเช่นนี้ ช่างน่าสนใจนัก

“แม่นางน้อย เจ้าต้องการแจ้งต่อทางการเอาผิดพวกเขาหรือไม่ ข้าจะเป็นพยานให้เอง”

บุรุษทั้งห้าเบิกตาโตทันที ไม่คิดว่าอาจารย์ใหญ่จ้าวจะยอมออกหน้าให้หญิงสาวชาวบ้านผู้หนึ่ง หากพวกตนถูกทางการจับไปเรื่องถูกไล่ออกต้องแดงขึ้นแน่ และหากให้พ่อแม่รู้ว่าไม่ได้เรียนที่สำนักศึกษาเงินกินเที่ยวเหล่านี้จะยังมีอยู่อีกหรือ

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เวลาของข้ามีค่ามากกว่าต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเศษสวะเหล่านั้น”

“แปะ แปะ แปะ พูดได้ดี!! พวกเจ้าห้าคนเอาเงินออกมาคนละห้าตำลึง จ่ายค่าเสียเวลาของนาง ไม่อย่างนั้นข้าจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของพวกเจ้าที่จวน”

อาจารย์ใหญ่จ้าวตบมือให้กับคำพูดหญิงสาว ทั้งยังไม่ลืมเอ่ยข่มขู่บุรุษทั้งห้า

“ข้าว่าไม่เป็นไรดีกว่าเจ้าค่ะ อย่างไรข้าก็ทุบตีพวกเขาจนพอใจแล้ว”

“ไม่ได้!! ไม่ได้!! เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าเวลาของเจ้ามีค่า เช่นนั้นก็ให้พวกเขาจ่ายเงินให้เจ้าเป็นค่าเสียเวลา”

เซี่ยชิงหลีไม่คิดว่าการเข้าเมืองครั้งนี้จะได้กำไรใหญ่ หยวนเป่ายี่สิบห้าตำลึงถูกส่งมอบให้หญิงสาว ร่างบางคำนับขอบคุณชายชราสองก่อนเอ่ยลา

“นางช่างเป็นหญิงสาวที่น่าสนใจ”

สายตาชื่นชมของอาจารย์ใหญ่จ้าวถูกส่งไปยังหญิงสาวร่างบางที่กำลังก้าวเข้าหอหว่านหรง

“อายุปูนนี้แล้ว เจ้าคงไม่คิดรับนางเป็นอนุภรรยาหรอกนะ เด็กสาวคนนั้นเป็นเหลนของเจ้าได้เลย”

“พูดจาเหลวไหลอันใด ข้าเพียงชื่นชมความกล้าหาญของนางเท่านั้น”

อาจารย์ใหญ่จ้าวเอ่ยจบ ชายชราผู้เป็นสหายก็หัวเราะชอบใจ

“เจ้ามัวแต่วุ่นวายอยู่ที่นี่ ได้เบาะแสเกี่ยวกับองค์รัชทายาทบ้างหรือไม่”

ชายชราหุบพัดลง ในดวงตามีแววเศร้าหมอง เกือบสามเดือนแล้วที่หลานชายหายตัวไป

ความจริงชายชราผมขาวที่ยืนอยู่ข้างอาจารย์ใหญ่จ้าวคือไท่ซ่างหวง อดีตฮ่องเต้รัชกาลก่อนผู้เกษียณตนเองออกมาอยู่ชนบทหลายปีแล้ว

ส่วนอาจารย์ใหญ่จ้าวคือไท่ฟู่ผู้เป็นอาจารย์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ทั้งยังเป็นสหายในวัยเด็กของไท่ซ่างหวงที่ช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองด้วยกันมาหลายสิบปี

เมื่อยามที่ไท่ซ่างหวงมอบราชบัลลังก์แก่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน อาจารย์ใหญ่จ้าวเองก็ออกจากราชการเดินทางมายังบ้านเดิม เปิดสำนักศึกษาสอนสั่งคนเก่งเพื่อช่วยให้แคว้นฉินเจริญรุ่งเรือง

“เขาจะต้องไม่เป็นอะไร ในบรรดาหลานชายทั้งหมด องค์รัชทายาทเป็นคนที่เหมือนเจ้าเมื่อวัยหนุ่ม คนเก่งเช่นเขาไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน”

อาจารย์ใหญ่จ้าวเอ่ยปลอบใจสหายวัยเด็กของตน

ทางด้านเซี่ยชิงหลี เมื่อก้าวเข้าหอหว่านหรงครั้งแรกก็รู้สึกว่าเหลาสุราทั้งสองช่างมีความแตกต่าง ที่หอกุ้ยเซียงเมื่อก้าวเข้าไปหากคนไม่รู้ต้องคิดว่าเป็นหอนางโลม แต่ที่นี่ให้ความรู้สึกสงบและเรียบง่าย

“แม่นาง...เจ้าต้องการให้ข้าแนะนำสิ่งใดหรือไม่ ต้องการดื่มชาหรือทานอาหาร”

เพียงแค่การต้อนรับก็แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะหอกุ้ยเซียงต้อนรับเฉพาะลูกค้าที่มีเงินจึงดูแคลนชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกตน ส่วนที่นี่เสี่ยวเอ้อถูกฝึกมาอย่างดี ในดวงตาของเขาไม่มีแววดูถูกแม้พวกตนจะแต่งกายซอมซ่อก็ตามที

หญิงสาววางตะกร้าลงพร้อมส่งยิ้มหวานให้เสี่ยวเอ้อหนุ่ม

“นี่...พี่ชายที่นี่รับซื้อของป่าหรือไม่”

“รับ รับแน่นอน แต่ต้องให้ผู้ดูแลดูก่อนว่าเจ้านำอะไรมาขาย รอสักครู่ข้าจะไปตามผู้ดูแลมาพบเจ้า”

เสี่ยวเอ้อหนุ่มวิ่งหายไปเพียงครู่เดียว ไม่นานก็กลับมาพร้อมชายหนุ่มรูปงาม ทว่าในสายตาของเซี่ยชิงหลีเขายังด้อยกว่าอาเหิงของนางนัก

“สวัสดีแม่นาง เจ้าบอกว่ามีของป่ามาขายหรือ”

ชายหนุ่มรูปงามเอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“เจ้าค่ะ ข้ามีเนื้อกวางและเห็ดป่า”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ช่วยชีวิตคน

    ชายชุดดำกระชากสาบเสื้อของหมอวัยกลางคนจนหลุดลุ่ย เวลานั้นเองเซี่ยชิงหลีได้เอ่ยแทรกขึ้น“นี่!...ให้ข้าลองดูได้หรือไม่”“เจ้าเป็นใคร!”ชายชุดดำหันขวับมาที่นางทันที สายตาที่จับจ้องมานั้นราวกับจะสังหารคนเสียให้ได้“ข้าคือคนที่ผ่านทางมาและพอรู้วิชาแพทย์อยู่บ้าง”หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“แม่นาง...เจ้าอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลย ไม่เห็นหรือว่าเขาตายไปแล้ว ถ้าหากเจ้าช่วยคนผู้นี้ไม่ได้เจ้าอาจต้องตาย เห็นหรือไม่เขามีอาวุธ”ชาวบ้านที่เข้ามามุงดูช่วยเอ่ยทัดทานหญิงสาว“ข้ารู้...”แม้จะรู้เช่นนั้น เซี่ยชิงหลีก็ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา ช่างผิดวิสัยของคนปกตินักหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าของคนผู้นั้น นางพลันจดจำได้ทันที เขาคือชายชราที่อยู่กับอาจารย์ใหญ่จ้าว เหตุใดถึงได้มาอยู่ที่นี่ ชายชุดดำเห็นสายตาของหญิงสาวดูเปลี่ยนไปเหมือนกับนางเคยรู้จักนายท่านของตนมาก่อน เขาทำท่าชักกระบี่ทว่าคนที่มาด้วยห้ามเอาไว้“เจ้าคนหนึ่งมานี่ ทำตามที่ข้าบอก”เซี่ยชิงหลีจัดท่าให้ชายชรานอนหงายแล้วเปิดทางหายใจให้โล่ง ด้วยการกดหน้าผากและยกขากรรไกรล่างขึ้น จากนั้นสั่งให้ชายชุดดำผายปอดให้ชายชราตามวิธีการของนางผู

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ขายเห็ดสน

    “เนื้อกวางหรือ หอหว่านหรงของเรารับซื้อทว่าเห็ดป่านั้น...เจ้าให้ข้าดูก่อนได้หรือไม่”ชายหนุ่มมีท่าทีลังเล เซี่ยชิงหลีพอเข้าใจเพราะก่อนหน้านี้คนบ้านหลี่ก็แสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ไม่ใช่เห็ดทุกชนิดที่จะสามารถกินได้“ได้แน่นอนเจ้าค่ะ”หญิงสาวเปิดผ้าคลุมตะกร้าออก เห็ดสนที่ถูกล้างอย่างดีวางเรียงภายในตะกร้าอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดมพบว่ามันส่งกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงป่าเขียวชื้นในยามเช้า มันไม่ใช่กลิ่นหอมหวานฉุนหรือสดใสเหมือนดอกไม้ หากแต่เป็นกลิ่นหอมที่อบอุ่น ลุ่มลึก และเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว“นี่คือเห็ดอะไรหรือ”“สิ่งนี้คือเห็ดสนเจ้าค่ะ ชาวบ้านอย่างเราใช้ปรุงอาหารสามารถทำได้หลายอย่าง หากผู้ดูแลวางใจข้าจะลองทำให้ทานสักสองสามอย่าง”ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้าอนุญาต“ได้...เช่นนั้นเจ้าตามเขาเข้าไปในครัว”เซี่ยชิงหลีเดินตามเสี่ยวเอ้อเข้าไปด้านหลังร้าน ที่นั่นมีพ่อครัวอยู่สี่ห้าคนกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร เพียงหญิงสาวก้าวเข้าไปทุกอย่างก็หยุดชะงักลง“ต่อเลยเจ้าค่ะ ต่อเลย ไม่ต้องสนใจข้า ข้าเพียงแวะมาชั่วคราวเท่านั้น”หญิงสาวคำนับให้เหล่าพ่อครัว จากนั้นเริ่มทำอาหารของตนเมื่อ

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ทุบตีสวะเซี่ยจิ่งเฉิง

    เพราะการแต่งกายที่ดูซอมซ่อของทั้งสาม ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าหอกุ้ยเซียงก็ถูกไล่ตะเพิดออกมา เซี่ยชิงหลีแอบสบถในใจ วันหน้านางสัญญาว่าจะทำให้ที่นี่เจ๊งไม่เป็นท่าหลังจากออกจากหอกุ้ยเซียงทั้งสามก็ตรงไปเหลาอาหารและสุราที่ชื่อหว่านหรง ซึ่งชาวอำเภอหลิงหนานต่างรู้ดีว่าสองร้านนี้เป็นคู่แข่งกันมาช้านาน ทว่าหอกุ้ยเซียงนั้นมีทั้งหญิงสาวงดงามที่คอยให้บริการและยังมีกวีนักเล่าเรื่องมาคอยเล่านิทานให้เหล่าลูกค้าได้เพลิดเพลิน ทำให้หอหว่านหรงต้องตกเป็นรอง“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”ยังไม่ทันจากไปหญิงสาวก็ถูกขวางทางโดยคนที่เกลียดขี้หน้าที่สุด เซี่ยจิ่งเฉิง ที่พึงออกจากหอกุ้ยเซียงเดินโซเซตรงมายังนาง เมื่อได้พบคนที่ไม่ชอบหน้าหญิงสาวมีหรือจะยอมพูดดีด้วย“เกี่ยวอันใดกับเจ้า”“ก็เพราะ...ขะ...ข้าคือพี่ชายของเจ้า! เอ๊ะ!เหตุใดเจ้าพูดได้!...แล้วช่างเถอะ...เหตุใดจะไม่เกี่ยวกับข้า บอกมาว่าเจ้ามาทำอะไรที่อำเภอหลิงหนาน”เซี่ยจิ่งเฉิงคิดคว้าแขนหญิงสาวมาซักถามให้รู้เรื่อง ทว่านางกลับหมุนตัวหลบทำให้เขาเสียจังหวะล้มคว่ำไป“เจ้า!..”เมื่อถูกนางทำให้ต้องได้รับความอับอายบวกกับฤทธิ์สุราทำให้เขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าหญิงสาวเคยทำอะไรเอ

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   รักษาอาการป่วยของท่านยาย

    ชายหนุ่มก้มตัวลงแตะริมฝีปากลงบนแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มกว้างและหัวเราะด้วยความดีใจ“เย้! อาเหิงได้รับรางวัลแล้ว”ทุกคนที่ยืนอยู่ในที่นั้นต่างมองการกระทำของเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง อาเหิงแม้จะดูใสซื่อและบริสุทธิ์ทว่ากลับทำให้คนกำหมัดอยากจะชกหน้าสักครั้งร่างบางถูกฉวยโอกาสโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตางามเบิกโพลงเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีราวกับเลือดทั้งหมดพุ่งตรงขึ้นมาที่พวงแก้มในเสี้ยวอึดใจ หัวใจของนางเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา“อ๊ะ…!”เซี่ยชิงหลีหันขวับไปมองร่างสูง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจปนเขินอาย ริมฝีปากบางขยับเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างทว่าไม่มีคำใดหลุดออกเลยนอกจากเสียงพึมพำในลำคอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะแก้มของตนแผ่วเบา ราวกับยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง… หรือฝันไป“ภรรยา เจ้าเป็นอะไรหรือ”ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยดวงตาใสซื่อ“ขะ...ข้า พวกเรากลับกันได้แล้ว”ร่างบางรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาล้อเลียนของทุกคนภายหลังเมื่อคนตระกูลหลี่กลับมายังหมู่บ้าน ข่าวที่บ้านหลี่ล่ากวางตัวใหญ่ได้ก็ถูกลือกระฉ่อนในชั่วพริบตา เซี่ยชิงหลีคือเพชฌฆาตคนนั้น ทุกคนจึงรอฟั

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ล่ากวางป่า

    “หลีเอ๋อ เจ้าจะบอกว่าตนเองรู้เรื่องสมุนไพรหรือ”“ใช่สิเจ้าคะ ก่อนหน้านี้ข้าได้ไหว้หมอพเนจรท่านหนึ่งเป็นอาจารย์ กระทั่งตอนนี้ที่พูดได้ก็ไม่ใช่ฝีมือของอาจารย์ข้าหรือ”ชายชราหันมายิ้มกับหลานสาวผู้โชคดีของตน“ดี! ดีจริงๆ ไม่คิดว่าในความโชคร้ายของพวกเจ้าจะยังมีเรื่องดีๆ อยู่ด้วย นี่ท่านแม่ของเจ้ารู้เรื่องนี้หรือยัง”“อืม...ท่านแม่ของข้าจะรู้หรือไม่นั้น...บาดแผลของนางข้าก็เป็นคนรักษา อีกอย่างข้ายังคิดว่าจะใช้ความรู้ของตนพัฒนาเป็นอาชีพ ต่อไปครอบครัวของเราจะต้องร่ำรวยไปด้วยกัน”สองตาหลานเดินพูดคุยอย่างเพลิดเพลิน หูที่ได้รับการฝึกฝนของเซี่ยชิงหลีพลันได้ยินความเคลื่อนบางอย่างที่อยู่ห่างออกไป“ท่านตา!...รอสักครู่”หญิงสาวเปลี่ยนจากท่าทางที่ดูขี้เล่นเป็นจริงจังในทันที ร่างบางย่องตามเสียงนั้นไปเมื่อพ้นเขตป่าสมุนไพรกลายเป็นลานทุ่งกว้าง ที่นั่นมีสัตว์ป่ามากมายกำลังเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลินทันใดนั้นกวางหนุ่มตัวเขื่องค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากแนวพุ่มไม้มันเดินทอดน่องอย่างเชื่องช้า ด้วยจังหวะที่สงบและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ จมูกของมันก้มลงเล็มยอดหญ้าอ่อนสีเขียวสดอย่างละเมียดละไม ทว่าทุกอิริยาบถเต็มไปด้วยความร

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   เริ่มหางานเพื่อทำเงิน

    หลี่หมิงเจ๋อบุตรชายคนเล็กของลุงรองที่กำลังจะแต่งงานในปีหน้าถามหญิงสาวด้วยท่าทางสงสัย อาหารขึ้นโต๊ะวันนี้มีมากกว่าอาหารที่กินในวันปีใหม่เสียอีก แต่ส่วนใหญ่ทำจากเห็ดที่นางเก็บมาวันนี้“ทานได้แน่นอน ข้าจะทานให้ท่านดู...”หญิงสาวใช้ตะเกียบคีบเห็ดเข้าปาก“เห็ดเหล่านี้ล้วนเป็นเห็ดที่ขึ้นเฉพาะที่ที่มีต้นสนขึ้น มันเรียกว่าเห็ดสน นี่คือเห็ดสนผัดน้ำมัน ส่วนนี่เห็ดสนผัดไข่ นี่คือเห็ดสนผัดรวมมิตรเนื้อหมูป่า เห็ดสนคั่วพริกเกลือและเห็ดสนย่างราดน้ำจิ้มที่ข้าทำเอง และรายการอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าคิดขึ้นมา”วันนี้เก็บเห็ดสนได้สองตะกร้าใหญ่ โชคดีที่ชาวบ้านสนใจหมูป่าจึงไม่มีใครตามมาดูว่าในตะกร้าของพวกเขามีอะไรบ้างแม้หญิงสาวจะเอ่ยเช่นนั้นทว่าคนบ้านหลี่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือทาน มีเพียง อาเหิง เซี่ยจื่ออี้ และเซี่ยชิงเป่าที่ทานอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งยังชมฝีมือการทำอาหารของหญิงสาวไม่หยุดปาก“น่าจะทานได้ไม่มีพิษกระมัง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องมีอาการแล้ว”ตู้เฟิงอิงหันไปเอ่ยกับสามี“ข้าจะเป็นคนเสียสละทดลองเอง”หลี่เยว่หยางน้องชายของหลี่เยว่สิงลูกชายคนเล็กของบ้านใหญ่ ปีนี้อายุสิบหกอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกับเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status