แชร์

รักษาอาการป่วยของท่านยาย

ผู้เขียน: zuey
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-21 03:05:57

ชายหนุ่มก้มตัวลงแตะริมฝีปากลงบนแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มกว้างและหัวเราะด้วยความดีใจ

“เย้! อาเหิงได้รับรางวัลแล้ว”

ทุกคนที่ยืนอยู่ในที่นั้นต่างมองการกระทำของเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง อาเหิงแม้จะดูใสซื่อและบริสุทธิ์ทว่ากลับทำให้คนกำหมัดอยากจะชกหน้าสักครั้ง

ร่างบางถูกฉวยโอกาสโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตางามเบิกโพลงเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีราวกับเลือดทั้งหมดพุ่งตรงขึ้นมาที่พวงแก้มในเสี้ยวอึดใจ หัวใจของนางเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา

“อ๊ะ…!”

เซี่ยชิงหลีหันขวับไปมองร่างสูง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจปนเขินอาย ริมฝีปากบางขยับเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างทว่าไม่มีคำใดหลุดออกเลยนอกจากเสียงพึมพำในลำคอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะแก้มของตนแผ่วเบา ราวกับยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง… หรือฝันไป

“ภรรยา เจ้าเป็นอะไรหรือ”

ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยดวงตาใสซื่อ

“ขะ...ข้า พวกเรากลับกันได้แล้ว”

ร่างบางรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาล้อเลียนของทุกคน

ภายหลังเมื่อคนตระกูลหลี่กลับมายังหมู่บ้าน ข่าวที่บ้านหลี่ล่ากวางตัวใหญ่ได้ก็ถูกลือกระฉ่อนในชั่วพริบตา เซี่ยชิงหลีคือเพชฌฆาตคนนั้น ทุกคนจึงรอฟังว่านางจะตัดสินใจอย่างไรกับเนื้อกวางเหล่านี้

เป็นอีกครั้งที่หน้าเรือนตระกูลหลี่ถูกชาวบ้านรวมตัวชุมนุม ทุกคนต่างหวังว่าพวกตนจะมีส่วนในเนื้อเหล่านั้น ทว่าครั้งนี้เซี่ยชิงมิได้คิดแจกจ่ายเนื้อกวางอย่างที่ผ่านมา

นางให้ท่านลุงไปเชิญหัวหน้าหมู่บ้านมาที่เรือน พวกเขาพูดคุยกันอยู่สักพัก ไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมาพบกับชาวบ้านทั้งหลาย

“พวกเจ้ามารวมตัวกันที่นี่หมายความว่าอย่างไร....หากให้ข้าเดาคงจะมากดดันให้บ้านหลี่แบ่งเนื้อกวางให้ใช่หรือไม่”

คำพูดตรงไปตรงมาของหัวหน้าหมู่บ้านราวกับค้อนเหล็กที่ทุบลงกลางใจของใครหลายคน เป็นเรื่องจริงที่พวกเขาคิดทำเช่นนั้น ในเมื่อ..เมื่อวานเนื้อหมูป่ายังแบ่งให้ได้ เช่นนั้นแล้วเหตุใดเนื้อกวางจะแบ่งอีกไม่ได้เล่า

คำถามอยู่ในคำตอบ ไร้ซุ่มเสียงตอบกลับเช่นกัน

“เช่นนั้นข้าขอถามพวกเจ้า ตระกูลหลี่ติดหนี้พวกเจ้าคนใด...หรือตระกูลหลี่มีหน้าที่หาเลี้ยงพวกเจ้าที่ยังมีแขนขาครบ”

คำถามถูกถามอย่างตรงจุด เซี่ยชิงหลีกอดอกยืนมองการประชุมด้วยสีหน้าพอใจ ไม่ผิดหวังเลยที่เชิญหัวหน้าหมู่บ้านมาจัดการ คนที่เคยร่ำเรียนคำพูดมักจะมีอิทธิพลเสมอ

“แต่พวกเขาควรมีน้ำใจไม่ใช่หรือ”

คำถามถูกถามจากหญิงสาวชาวบ้านผู้หนึ่ง หน้าตาของนางค่อนข้างงดงามทีเดียว หลี่หมิงเจ๋อที่ยืนอยู่ไม่ไกลชักสีหน้าทันที เพราะคนที่เอ่ยคำถามนั้นขึ้นมาคือ จูเป่าเอ๋อ คู่หมั้นที่เขาตั้งใจจะแต่งงานด้วยในปีหน้า

“เด็กสาวบ้านจู เช่นนั้นข้าวในยุ้งของเจ้าเอามาแบ่งให้ชาวบ้านเพื่อเป็นน้ำใจดีหรือไม่ หลังจากนี้ข้าจะบอกพ่อแม่ของเจ้าด้วยตนเองว่าเจ้ามีน้ำใจต่อพวกเราเพียงใด”

คำพูดเดียวของหัวหน้าหมู่บ้านเฉาสามารถปิดปากคนทั้งหมู่บ้านได้สนิท หลี่หมิงเจ๋อโมโหจนอยากสังหารคน ไม่คิดว่าสตรีที่เขามั่นใจว่าเป็นคนดีกลับกลายเป็นคนโลภมาก อยากได้อยากมีคิดช่วงชิงสิ่งของคนอื่น

“อาเจ๋อ เจ้ากลับเข้าเรือนไปก่อน”

เมื่อได้รับคำสั่งของบิดา หลี่หมิงเจ๋อทำได้เพียงกระทืบเท้าเดินกลับเข้าเรือนไป

“ลุงรอง ท่านคิดให้พี่หมิงเจ๋อแต่งนางเข้ามาเป็นสะใภ้จริงหรือ นางช่างแตกต่างจากพี่เฟิงอิงยิ่งนัก ถ้าได้เข้ามาอยู่ในตระกูลหลี่ครอบครัวใหญ่ของพวกท่านต้องบันเทิงแน่”

เซี่ยชิงหลีเอ่ยติดตลก ทว่าครอบครัวรองกลับมีท่าทีเคร่งเครียด โดยเฉพาะป้าสะใภ้รองที่มีลูกชายเพียงคนเดียวอย่างหลี่หมิงเจ๋อ

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเฉาออกมาพูดสกัดการกระทำของเหล่าชาวบ้าน เซี่ยชิงหลีในฐานะที่มีส่วนร่วมมากที่สุดจึงเริ่มออกหน้า

“สวัสดีเจ้าค่ะ ลุงป้าน้าอาทั้งหลาย ข้าคือเซี่ยชิงหลีทุกท่านคงจะรู้จักกันหมดแล้ว วันนี้ที่ข้าต้องการพูดคือ...ใครก็ตามที่ต้องการเนื้อกวางข้าจะขายให้พวกท่าน...แน่นอนว่าถูกกว่าที่ขายในตำบลห้าเหวิน เนื้อกวางราคาสูงกว่าเนื้อหมูป่า ดังนั้นราคาสิบห้าเหวินต่อหนึ่งจินคือราคาขายที่เหมาะสม หากไม่มีใครในที่นี้สนใจ ท่านลุงใหญ่และท่านลุงรองของข้าจะบรรทุกกวางตัวนี้ไปขายในเมือง”

สิ้นคำพูดของหญิงสาว ชาวบ้านต่างร้องขอสั่งซื้อเนื้อกวางดังเซ็งแซ่ ต่อมากลายเป็นหน้าที่ของคนบ้านหลี่แล่เนื้อกวางขายกันสดๆ ที่หน้าเรือน

ภายหลังเมื่อชาวบ้านจากไปหมดแล้ว เซี่ยชิงหลีจึงไปที่เรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน นางมอบเนื้อกวางห้าจินส่งให้ภรรยาของเขา

แม้ทางนั้นจะแสดงออกว่าเกรงใจ ทว่าต่อไปนางยังต้องพึ่งพาที่นี่เพื่อตั้งหลัก จึงต้องนอบน้อมต่อพวกเขาสักหน่อย เนื้อกวางเพียงห้าจินบ้านนางไม่ขาดดังนั้นจึงไม่รู้สึกเสียดาย

“อาเหิง เป๋าเอ๋อ เหตุใดพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่”

ระหว่างทางไปยังเรือนของนายพรานที่หญิงสาวหยิบยืมธนู บังเอิญได้พบกับอาเหิงและเซี่ยชิงเป่าเข้าพอดี

“พี่รอง! ท่านยายอาการไม่ค่อยดีท่านแม่จึงให้ข้ามาตาม รีบกลับเรือนก่อนเถอะ”

“ได้ ได้”

สามคนรีบวิ่งกลับไปยังเรือนตระกูลหลี่ทันที

เมื่อกลับไปถึงที่นั่นแม่เฒ่าโจวได้หมดสติไปแล้ว เซี่ยชิงหลีสั่งทุกคนให้ออกไปคอยด้านนอก ภายในห้องจึงมีเพียงนาง ผู้เฒ่าหลี่ และแม่เฒ่าโจวที่หมดสติ

ภายหลังจากหลานสาวจับชีพจร ชายชราจึงถามถึงอาการของคู่ชีวิตด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ท่านยายของเจ้า...นางเป็นอย่างไรบ้าง”

ร่างบางตบหลังมือเหี่ยวย่นเบาๆ เพื่อให้ชายชราคลายกังวล

“ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ ท่านยายเพียงร่างกายอ่อนแอเกินไปเท่านั้น อาการป่วยเรื้อรังของนางไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงวันสองวัน อีกอย่างเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อยอากาศชื้นนางมีอาการปวดกระดูกร่วมด้วยใช่หรือไม่ มีอาการเจ็บคอไอแห้งและปวดหัวนอนไม่หลับเป็นบางครั้ง”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร”

“ท่านตา ความจริงท่านยายเพียงขาดสารอาหารเป็นเวลานาน รวมกับที่นางทำงานหนักมาตลอด ทำให้เมื่อเวลาป่วยไข้จึงหายได้ยาก พวกท่านคงไม่ได้ให้นางทานยาอย่างต่อเนื่องใช่หรือไม่”

ชายชราไม่คิดว่าหลานสาวจะเก่งกาจเพียงนี้ เพียงจับชีพจรไม่กี่ครั้งก็สามารถวินิจฉัยอาการของภรรยาตนได้อย่างละเอียด

“เรื่องนั้น...บ้านเราไม่ค่อยมีเงิน ท่านยายของเจ้าก็ดื้อรั้นไม่ยอมไปหาหมอ”

“วันนี้บ้านเราก็มีเงินแล้วมิใช่หรือ ข้าจะเขียนเทียบยาให้หนึ่งฉบับให้คนถือไปบ้านหมอหลิว บอกว่าเป็นข้าที่ส่งมา หมอหลิวต้องมีสมุนไพรเหล่านี้เก็บไว้แน่”

หลังจากออกจากห้องแม่เฒ่าโจว เซี่ยชิงหลีได้เขียนเทียบยาให้หลี่เยว่สิงและหลี่เยว่หยางนำไปยังหมู่บ้านสือซานเพื่อหาท่านหมอหลิว พอดีให้พวกเขานำรถลากและเงินสองตำลึงไปใช้หนี้ด้วย ยังมีเนื้อกวางห้า จินส่งให้ผู้เฒ่าและภรรยาเพื่อเป็นการตอบแทนความช่วยเหลือ

เมื่อสองพี่น้องกลับมา ร่างบางจึงลงมือต้มยาให้แม่เฒ่าโจวดื่ม ทั้งยังนำเตาถ่านมาวางในห้องเพื่อให้ความอบอุ่นแก่นาง ยุคนี้ยังไม่มีเตียงเตา หมายความว่าเมื่อเข้าฤดูหนาวตนเองต้องทนนอนหนาวใช่หรือไม่

ไม่มีทางแน่นอน

แม้ไม่รู้ถึงวิธีการทำแต่เคยเห็นด้วยตาก็สามารถทดลองดูได้ นี่เป็นอีกรายการหนึ่งที่ต้องบันทึกเอาไว้ในหัว ในยุคโบราณสิ่งที่ต้องทำมีมากมาย นั่นก็เพื่อความสะดวกสบายของตนในอนาคต

วันต่อมา

เซี่ยชิงหลีนั่งเกวียนวัวที่เช่าจากหัวหน้าหมู่บ้านเขาไปในอำเภอกับลุงทั้งสอง นางยังไม่ตัดสินใจว่าจะขายเห็ดสนให้ร้านอาหารร้านใด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ช่วยชีวิตคน

    ชายชุดดำกระชากสาบเสื้อของหมอวัยกลางคนจนหลุดลุ่ย เวลานั้นเองเซี่ยชิงหลีได้เอ่ยแทรกขึ้น“นี่!...ให้ข้าลองดูได้หรือไม่”“เจ้าเป็นใคร!”ชายชุดดำหันขวับมาที่นางทันที สายตาที่จับจ้องมานั้นราวกับจะสังหารคนเสียให้ได้“ข้าคือคนที่ผ่านทางมาและพอรู้วิชาแพทย์อยู่บ้าง”หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“แม่นาง...เจ้าอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลย ไม่เห็นหรือว่าเขาตายไปแล้ว ถ้าหากเจ้าช่วยคนผู้นี้ไม่ได้เจ้าอาจต้องตาย เห็นหรือไม่เขามีอาวุธ”ชาวบ้านที่เข้ามามุงดูช่วยเอ่ยทัดทานหญิงสาว“ข้ารู้...”แม้จะรู้เช่นนั้น เซี่ยชิงหลีก็ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา ช่างผิดวิสัยของคนปกตินักหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าของคนผู้นั้น นางพลันจดจำได้ทันที เขาคือชายชราที่อยู่กับอาจารย์ใหญ่จ้าว เหตุใดถึงได้มาอยู่ที่นี่ ชายชุดดำเห็นสายตาของหญิงสาวดูเปลี่ยนไปเหมือนกับนางเคยรู้จักนายท่านของตนมาก่อน เขาทำท่าชักกระบี่ทว่าคนที่มาด้วยห้ามเอาไว้“เจ้าคนหนึ่งมานี่ ทำตามที่ข้าบอก”เซี่ยชิงหลีจัดท่าให้ชายชรานอนหงายแล้วเปิดทางหายใจให้โล่ง ด้วยการกดหน้าผากและยกขากรรไกรล่างขึ้น จากนั้นสั่งให้ชายชุดดำผายปอดให้ชายชราตามวิธีการของนางผู

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ขายเห็ดสน

    “เนื้อกวางหรือ หอหว่านหรงของเรารับซื้อทว่าเห็ดป่านั้น...เจ้าให้ข้าดูก่อนได้หรือไม่”ชายหนุ่มมีท่าทีลังเล เซี่ยชิงหลีพอเข้าใจเพราะก่อนหน้านี้คนบ้านหลี่ก็แสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ไม่ใช่เห็ดทุกชนิดที่จะสามารถกินได้“ได้แน่นอนเจ้าค่ะ”หญิงสาวเปิดผ้าคลุมตะกร้าออก เห็ดสนที่ถูกล้างอย่างดีวางเรียงภายในตะกร้าอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดมพบว่ามันส่งกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงป่าเขียวชื้นในยามเช้า มันไม่ใช่กลิ่นหอมหวานฉุนหรือสดใสเหมือนดอกไม้ หากแต่เป็นกลิ่นหอมที่อบอุ่น ลุ่มลึก และเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว“นี่คือเห็ดอะไรหรือ”“สิ่งนี้คือเห็ดสนเจ้าค่ะ ชาวบ้านอย่างเราใช้ปรุงอาหารสามารถทำได้หลายอย่าง หากผู้ดูแลวางใจข้าจะลองทำให้ทานสักสองสามอย่าง”ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้าอนุญาต“ได้...เช่นนั้นเจ้าตามเขาเข้าไปในครัว”เซี่ยชิงหลีเดินตามเสี่ยวเอ้อเข้าไปด้านหลังร้าน ที่นั่นมีพ่อครัวอยู่สี่ห้าคนกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร เพียงหญิงสาวก้าวเข้าไปทุกอย่างก็หยุดชะงักลง“ต่อเลยเจ้าค่ะ ต่อเลย ไม่ต้องสนใจข้า ข้าเพียงแวะมาชั่วคราวเท่านั้น”หญิงสาวคำนับให้เหล่าพ่อครัว จากนั้นเริ่มทำอาหารของตนเมื่อ

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ทุบตีสวะเซี่ยจิ่งเฉิง

    เพราะการแต่งกายที่ดูซอมซ่อของทั้งสาม ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าหอกุ้ยเซียงก็ถูกไล่ตะเพิดออกมา เซี่ยชิงหลีแอบสบถในใจ วันหน้านางสัญญาว่าจะทำให้ที่นี่เจ๊งไม่เป็นท่าหลังจากออกจากหอกุ้ยเซียงทั้งสามก็ตรงไปเหลาอาหารและสุราที่ชื่อหว่านหรง ซึ่งชาวอำเภอหลิงหนานต่างรู้ดีว่าสองร้านนี้เป็นคู่แข่งกันมาช้านาน ทว่าหอกุ้ยเซียงนั้นมีทั้งหญิงสาวงดงามที่คอยให้บริการและยังมีกวีนักเล่าเรื่องมาคอยเล่านิทานให้เหล่าลูกค้าได้เพลิดเพลิน ทำให้หอหว่านหรงต้องตกเป็นรอง“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”ยังไม่ทันจากไปหญิงสาวก็ถูกขวางทางโดยคนที่เกลียดขี้หน้าที่สุด เซี่ยจิ่งเฉิง ที่พึงออกจากหอกุ้ยเซียงเดินโซเซตรงมายังนาง เมื่อได้พบคนที่ไม่ชอบหน้าหญิงสาวมีหรือจะยอมพูดดีด้วย“เกี่ยวอันใดกับเจ้า”“ก็เพราะ...ขะ...ข้าคือพี่ชายของเจ้า! เอ๊ะ!เหตุใดเจ้าพูดได้!...แล้วช่างเถอะ...เหตุใดจะไม่เกี่ยวกับข้า บอกมาว่าเจ้ามาทำอะไรที่อำเภอหลิงหนาน”เซี่ยจิ่งเฉิงคิดคว้าแขนหญิงสาวมาซักถามให้รู้เรื่อง ทว่านางกลับหมุนตัวหลบทำให้เขาเสียจังหวะล้มคว่ำไป“เจ้า!..”เมื่อถูกนางทำให้ต้องได้รับความอับอายบวกกับฤทธิ์สุราทำให้เขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าหญิงสาวเคยทำอะไรเอ

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   รักษาอาการป่วยของท่านยาย

    ชายหนุ่มก้มตัวลงแตะริมฝีปากลงบนแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มกว้างและหัวเราะด้วยความดีใจ“เย้! อาเหิงได้รับรางวัลแล้ว”ทุกคนที่ยืนอยู่ในที่นั้นต่างมองการกระทำของเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง อาเหิงแม้จะดูใสซื่อและบริสุทธิ์ทว่ากลับทำให้คนกำหมัดอยากจะชกหน้าสักครั้งร่างบางถูกฉวยโอกาสโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตางามเบิกโพลงเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีราวกับเลือดทั้งหมดพุ่งตรงขึ้นมาที่พวงแก้มในเสี้ยวอึดใจ หัวใจของนางเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา“อ๊ะ…!”เซี่ยชิงหลีหันขวับไปมองร่างสูง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจปนเขินอาย ริมฝีปากบางขยับเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างทว่าไม่มีคำใดหลุดออกเลยนอกจากเสียงพึมพำในลำคอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะแก้มของตนแผ่วเบา ราวกับยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง… หรือฝันไป“ภรรยา เจ้าเป็นอะไรหรือ”ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยดวงตาใสซื่อ“ขะ...ข้า พวกเรากลับกันได้แล้ว”ร่างบางรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาล้อเลียนของทุกคนภายหลังเมื่อคนตระกูลหลี่กลับมายังหมู่บ้าน ข่าวที่บ้านหลี่ล่ากวางตัวใหญ่ได้ก็ถูกลือกระฉ่อนในชั่วพริบตา เซี่ยชิงหลีคือเพชฌฆาตคนนั้น ทุกคนจึงรอฟั

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ล่ากวางป่า

    “หลีเอ๋อ เจ้าจะบอกว่าตนเองรู้เรื่องสมุนไพรหรือ”“ใช่สิเจ้าคะ ก่อนหน้านี้ข้าได้ไหว้หมอพเนจรท่านหนึ่งเป็นอาจารย์ กระทั่งตอนนี้ที่พูดได้ก็ไม่ใช่ฝีมือของอาจารย์ข้าหรือ”ชายชราหันมายิ้มกับหลานสาวผู้โชคดีของตน“ดี! ดีจริงๆ ไม่คิดว่าในความโชคร้ายของพวกเจ้าจะยังมีเรื่องดีๆ อยู่ด้วย นี่ท่านแม่ของเจ้ารู้เรื่องนี้หรือยัง”“อืม...ท่านแม่ของข้าจะรู้หรือไม่นั้น...บาดแผลของนางข้าก็เป็นคนรักษา อีกอย่างข้ายังคิดว่าจะใช้ความรู้ของตนพัฒนาเป็นอาชีพ ต่อไปครอบครัวของเราจะต้องร่ำรวยไปด้วยกัน”สองตาหลานเดินพูดคุยอย่างเพลิดเพลิน หูที่ได้รับการฝึกฝนของเซี่ยชิงหลีพลันได้ยินความเคลื่อนบางอย่างที่อยู่ห่างออกไป“ท่านตา!...รอสักครู่”หญิงสาวเปลี่ยนจากท่าทางที่ดูขี้เล่นเป็นจริงจังในทันที ร่างบางย่องตามเสียงนั้นไปเมื่อพ้นเขตป่าสมุนไพรกลายเป็นลานทุ่งกว้าง ที่นั่นมีสัตว์ป่ามากมายกำลังเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลินทันใดนั้นกวางหนุ่มตัวเขื่องค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากแนวพุ่มไม้มันเดินทอดน่องอย่างเชื่องช้า ด้วยจังหวะที่สงบและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ จมูกของมันก้มลงเล็มยอดหญ้าอ่อนสีเขียวสดอย่างละเมียดละไม ทว่าทุกอิริยาบถเต็มไปด้วยความร

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   เริ่มหางานเพื่อทำเงิน

    หลี่หมิงเจ๋อบุตรชายคนเล็กของลุงรองที่กำลังจะแต่งงานในปีหน้าถามหญิงสาวด้วยท่าทางสงสัย อาหารขึ้นโต๊ะวันนี้มีมากกว่าอาหารที่กินในวันปีใหม่เสียอีก แต่ส่วนใหญ่ทำจากเห็ดที่นางเก็บมาวันนี้“ทานได้แน่นอน ข้าจะทานให้ท่านดู...”หญิงสาวใช้ตะเกียบคีบเห็ดเข้าปาก“เห็ดเหล่านี้ล้วนเป็นเห็ดที่ขึ้นเฉพาะที่ที่มีต้นสนขึ้น มันเรียกว่าเห็ดสน นี่คือเห็ดสนผัดน้ำมัน ส่วนนี่เห็ดสนผัดไข่ นี่คือเห็ดสนผัดรวมมิตรเนื้อหมูป่า เห็ดสนคั่วพริกเกลือและเห็ดสนย่างราดน้ำจิ้มที่ข้าทำเอง และรายการอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าคิดขึ้นมา”วันนี้เก็บเห็ดสนได้สองตะกร้าใหญ่ โชคดีที่ชาวบ้านสนใจหมูป่าจึงไม่มีใครตามมาดูว่าในตะกร้าของพวกเขามีอะไรบ้างแม้หญิงสาวจะเอ่ยเช่นนั้นทว่าคนบ้านหลี่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือทาน มีเพียง อาเหิง เซี่ยจื่ออี้ และเซี่ยชิงเป่าที่ทานอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งยังชมฝีมือการทำอาหารของหญิงสาวไม่หยุดปาก“น่าจะทานได้ไม่มีพิษกระมัง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องมีอาการแล้ว”ตู้เฟิงอิงหันไปเอ่ยกับสามี“ข้าจะเป็นคนเสียสละทดลองเอง”หลี่เยว่หยางน้องชายของหลี่เยว่สิงลูกชายคนเล็กของบ้านใหญ่ ปีนี้อายุสิบหกอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกับเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status