บทที่ 2
มือของผู้เป็นแม่ลูบหัวของลูกสาวตัวเล็กในอ้อมกอดของตัวเองเบาๆ เด็กสาวคนนี้หลังจากลืมตาดูโลกแล้วคงรู้สึกเคว้งคว้างเมื่อก่อนนี้ผ้าแพรอาจจะละเลยความรู้สึกของลูกแต่ก็ไม่เคยละทิ้งหรือเที่ยวเตร่ดั่งกับวัยรุ่นทั่วไปเธอตั้งใจที่จะทำงานและฝึกงานในบริษัทของคุณพ่อมีบางครั้งที่สังสรรค์กับเพื่อนบ้างในบางครั้งแต่คนที่ใกล้ชิดกับลูกสาวของเธอมากที่สุดคือสุวรรณยศพ่อของเธอ
"มามี๊ขอโทษนะต่อจากนี้ไปมามี๊จะดูแลหนูเองและมามี๊จะไม่มีวันให้ใครแย่งความรักของปะป๊าไปจากหนูเด็ดขาด" สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นในแววตาซ่อนความเจ็บปวด เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเขาบอกว่าได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าเราไม่ผิดก็คืออำนาจและเงินทองของพ่อเธอ ผ้าแพรยกทุกอย่างให้เขาได้แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้ พ่อของเธอตายไปได้แค่เดือนเดียวเขากลับพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในบ้านเหยียบย่ำหัวใจของพ่อเธอ
"ไม่ร้องไห้นะหนูอยู่ตรงนี้" มือน้อยเช็ดน้ำบนแก้มให้กับผู้เป็นแม่ทั้งยังยิ้มให้กำลังใจ ผ้าแพรรู้สึกดีขึ้นเมื่อมีเจ้าตัวเล็กอยู่ตรงนี้ เวลาผ่านไปสักพักหลังจากที่พาลูกนอนเล่นบนเตียงพะพายลูกสาวของเธอนั้นเผลอหลับ เธอจึงให้พี่เลี้ยงทั้งสองคนเฝ้าอยู่ในห้อง ก่อนที่จะเปิดประตูห้องออกมา
"คุณผู้หญิงจะไปไหนครับ คุณผู้ชายสั่งไว้ว่าห้ามให้คุณผู้หญิงออกจากห้อง" ซูโจลูกน้องคนสนิทขวางหน้าประตูเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอนั้นออกจากห้องทั้งยังเอ่ยบอกว่าเจ้านายสั่งไว้
มือทั้งสองข้างผลักหน้าอกของซูโจวออกจากตัวเอง เธอรีบเดินลงจากบันไดตรงลงไปด้านล่างเพื่อต้องการเจอหน้าของผู้หญิงแพศยาที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ
"คำว่าหน้าด้านมันคงน้อยเกินไปสำหรับผู้หญิงที่ร่านเข้ามาอยู่ในบ้านของเมียเขาสินะ หน้าตาก็ดีแต่งตัวก็ดูดีไม่มีปัญญาหาผัวเองหรือไง" ผ้าแพรพยายามที่จะใจเย็นแต่ด้วยสถานการณ์และอารมณ์ที่เกิดขึ้นเห็นผู้หญิงคนอื่นอยู่กับสามีตัวเอง เธอใช้ถ้อยคำด่าที่รุนแรงั้งยังพุ่งตัวเข้าหานับดาว
"หยุดเดี๋ยวนี้นะผ้าแพรขอโทษนับดาวเดี๋ยวนี้" สามีของเธอนั้นปกป้องผู้หญิงคนอื่นและยังพุ่งตัวเข้ามาหาภรรยาโดยการจับแขนกระชาก
"แล้วผ้าแพรพูดไม่ถูกหรือยังไง ถ้าไม่หน้าด้านจริงคงไม่เข้ามาอยู่ในบ้านของคนอื่น" นับดาวพยายามส่ายหน้าไปมาปฏิเสธด้วยมือทั้งสองข้างเหมือนดั่งว่าไม่ให้ผ้าแพรเข้าใจผิด แต่ในสายตาของผ้าแพรที่มองผู้หญิงด้วยกันนั้นดูออกว่าเธอไม่ได้มาดีและในสายตาที่ใสซื่อเต็มไปด้วยความร้ายเพราะหลังจากที่ขุนเพลิงเผลอเธอกลับยิ้มด้วยที่มุมปาก
"บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ผมจะลากคุณไปอยู่ในกรงหมา" ผ้าเเพรไม่ฟังในคำพูดของขุนเพลิงเธอสะบัดมือของเขาออกจากตัวเองตบหน้าของนับดาวที่ยืนนิ่งทำอย่างกับคนที่กลัวแสดงความเสแสร้งได้เก่งจนผ้าแพรไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ตัวเองได้
ใบหน้าสวยหันไปตามแรงตบทันทีมือหนาของสามีตนเองคว้าจับข้อมือของผ้าแพรเอาไว้
"บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้" ในสายตาของเขาที่ดูโกรธจนหูนั้นแดง จ้องมองหน้าของผ้าแพรทั้งยังตะคอกให้เป็นหยุด
"ฉันไม่หยุด ไม่มียางอายบ้างเหรอมาอยู่ในบ้านของเมียคนอื่นทั้งๆ ที่เขามีลูกมีเมียอยู่แล้วไม่มีปัญญาหาผัวเองหรือยังไง อีร่าน" ด้วยแรงเหวี่ยงของผ้าแพรและทำให้ขุนเพลิงจับแขนเอาไว้ไม่อยู่ เธอจึงพลาดท่าล้มลงไปกับพื้น ผ้าแพรคิดว่าขุนเพลิงปล่อยหรือผลักให้เธอล้มแต่จริงๆ แล้วขุนเพลิงไม่ได้ทำ
เมื่อผ้าแพรล้มลงไปกับพื้นนับดาวรีบเข้ามาจับแขนของขุนเพลิงทำท่าทีกลัวและร้องไห้ทั้งยังใช้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตามองหน้าของขุนเพลิง
"คุณไปส่งฉันที่คอนโดก็ได้ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วเขาไม่เต็มใจให้ฉันอยู่ด้วย" ผ้าแพรที่เธอหยุดชะงักทันทีเธอไม่คิดว่าสามีที่แสนดีของตัวเองนั้นจะกล้าผลักจนเธอเสียหลักล้มลงไปกับพื้น ใบหน้าที่เคยสดใสในตอนนี้เศร้าหมองเต็มไปด้วยน้ำตาที่เปรอะเปื้อนดั่งกับคนละคนที่เคยเป็นผ้าแพรในวันวาน
"ไม่ต้องนับดาวคุณต้องอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นเพราะว่าบ้านหลังนี้เป็นของผมคนที่จะต้องไปคือเธอต่างหาก" ไม่เพียงแต่คำพูดที่เอ่ยบอกให้ผู้หญิงคนอื่นอยู่ในบ้านและไล่ให้ภรรยาออกจากบ้าน เขายังชี้นิ้วและตะเบ็งเสียงใส่เธอจนสุดเสียง
"คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ฮื่อๆ ฉันเป็นภรรยาของคุณนะและบ้านหลังนี้ก็เป็นของฉันสมบัติทุกอย่างเป็นของฉัน ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้"
"คุณผู้หญิงครับของทุกอย่างที่คุณสุวรรณยศในตอนนี้มอบให้กับคุณผู้ชายทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่เงินบาทเดียว ในตอนนี้คุณผู้หญิงไม่มีอะไรเลย ผมว่าทำตามคำสั่งของนายเถอะนะครับดีกว่าคุณผู้หญิงจะต้องไปอยู่ที่อื่น"
ลูกน้องคนสนิทที่ใช้ถ้อยคำพ่นออกมาจากปากบอกว่าเขาได้ทุกอย่างไปจากพ่อของเธอซึ่งเรื่องนี้ผ้าแพรรู้ดีอยู่แล้วในวันนั้นที่พ่อของเธอเอ่ยถามเธอเต็มใจที่จะให้ขุนเพลิงรับทุกอย่างเอาไว้ เพื่อดูแลต่อเธอไม่คิดว่าสามีของตัวเองจะเลวและหักหลังได้ขนาดนี้
"เจ็บมากไหมเดี๋ยว ผมพาคุณไปทายานะนับดาว" มือนั้นที่เคยโอบกอดเธอในตอนที่เจ็บสัมผัสกลับไปจับใบหน้าผู้หญิงอื่นปล่อยให้เธอจมกับความทุกข์ทรมานอยู่กับพื้น
"กรี๊ด! ขุนเพลิงคุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ฉันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ ถ้าคุณเอาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านฉันจะฟ้องให้คุณไม่เหลืออะไรเลย อย่าลืมสิว่าฉันมีลูกฉันมีสิทธิ์เอาทุกอย่างคืน" ในขณะที่ขุนเพลิงหันหลังเตรียมที่จะพานับดาวไปทายา เขานั้นถูกภรรยาของเขาพูดขู่ต้องหยุดชะงักด้วยที่ผ้าแพรพูดถึงเรื่องฟ้อง
"นับดาวทำให้ครอบครัวของคุณไม่มีความสุข นับดาวขอตัวดีกว่าค่ะ" จริงๆ ควรที่จะออกไปจากบ้านของคนอื่นตั้งนานแล้ว แต่นับดาวก็ยังเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีทำท่าทีจะไปแต่ถูกขุนเพลิงนั้นจับแขนเอาไว้
"ไม่ต้อง...คุณไม่ต้องกลัวและไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น คนของผมก็คือคนของผม คนอื่นที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เข้าไปรอผมที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะ เดี๋ยวจะให้คนเอายาไปให้" นับดาวพยักหน้าให้กับขุนเพลิงและเดินเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย ส่วนเขาที่กวาดสายตามองมาด้วยความไม่พอใจนั่งยองๆ ลงทันทีส่งมอบมืออันรวดเร็วบีบคอของผ้าแพรภรรยาตนเองอย่างเลือดเย็นสายตาที่จ้องมองและฟันขบกันเสียงดัง
"ขอเตือนเอาไว้ตรงนี้ ถ้าทำอะไรนับดาวอีกเธอไม่ตายดีแน่ รีบตั้งสติเอาเงินหนึ่งล้านที่ฉันให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่จะดีกว่าหรือจะให้ฉันส่งร่างกายสกปรกนี้ไปขายที่ชายแดน" ใจคอของเขาจะโหดร้ายส่งเมียตัวเองไปขายชายแดนได้เลยเหรอ คุณพ่อคิดผิดที่ให้ผู้ชายสารเลวคนนี้มาเป็นลูกเขยให้ทุกอย่างกับเขาจนหมดจนลูกสาวของตัวเองไม่เหลืออะไรเลย
"คุณพ่อของฉันคิดผิดอึก..."
ผ้าแพรที่ถูกบีบคออยู่นั้นถูกบีบแรงกว่าเดิมเมื่อเอ่ยถึงพ่อของตนเองในสายตาที่ไม่พอใจเหวี่ยงมือจนผ้าแพรล้มลงไปกับพื้น
"แล้วไงกว่าจะรู้ตัวก็โง่ไปแล้ว ฉันเอาแค่ลูกไปส่วนเธอจะไปไหนก็ไป" ขุนเพลิงลุกขึ้นแล้วหันหลังให้กับผ้าแพรในครั้งนี้เขาไม่ได้หยุดเดินเองแต่ผ้าแพรกอดขาของเขาเอาไว้ทั้งสองข้าง
"ฮื่อๆ ขุนเพลิงอย่าทำแบบนี้กับฉัน ตลอดระยะเวลาสามปีที่อยู่ด้วยกันมา ฉันรักคุณมากนะฮื่อๆ ในตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไร ทำไมถึงเปลี่ยนไปฉันยอมแล้วให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในบ้านนี้ก็ได้ แต่อย่าไล่ฉันเลยนะ" เขากระชากขาออกจากอ้อมกอดของเธอโดยที่ไม่สนใจความเจ็บหรือคำพูดพวกนั้นสิ่งที่เขาสนใจคือรีบไปทายาให้กับนับดาว
"ฮื่อๆ คุณพ่อผ้าแพรเจ็บเหลือเกิน ฮึ๊ก เจ็บจนจะขาดใจแล้ว" ได้เพียงแต่คุกเข่าร้องไห้โดยที่ไม่มีใครสนใจถ้าพ่อของเธอยังอยู่ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ในวันที่ผิดพลาดทำให้พ่อของเธอต้องจากโลกนี้ไปไกลอย่างไม่หวนกลับเหมือนกับความรักที่สามีของเธอเคยมีให้ก็หายไปอย่างไม่หวนกลับเช่นกัน
📌ถูกอกถูกใจหม่ำมี๊กันไหมฝากหม่ำมี๊กดใจเรื่องนี้ให้ไรท์หน่อยนะค้าบ อ้อนๆ ช่วยไรท์ทีงับ
🔥 บอกเลยว่า อิพี่ชั่ว 100% เตรียมทิชชู่รอเลยค่าบ
บทที่ 4 ผ้าแพรพาลูกสาวลงมาด้านล่างเพื่อที่จะมาทานข้าวแต่เห็นสามีของตัวเองนั่งอยู่โต๊ะอาหารทานข้าวโดยที่ไม่รอเธอกับลูก เกินไปหรือเปล่าแล้วคนเป็นเมียจะต้องยอมกินของเหลือๆ จากผู้หญิงคนอื่นเหรอ เธอนั่งยองๆ เสมอกับลูกสาวทั้งยังลูบหัวของลูกเบาๆ ไม่ไกลจากโต๊ะอาหารนั้นมาก"พะพายหนูอยากทานกุ้งไหมลูก วันนี้มามี๊พาไปทานชาบูเอาไหมคะ" เด็กสาวตัวเล็กยิ้มหวานรีบพยักหน้าให้กับผู้เป็นแม่ เธอไม่เคยได้ออกไปเที่ยวข้างนอกไม่เคยได้กินชาบูถึงแม้ว่าจะอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ทุกคนนั้นทำงานคุณตาของเธอป่วยก่อนที่จะเสียไปก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย"ไปค่ะ"ผ้าแพรลุกขึ้นจับมือของลูกสาวอย่างไม่ทันได้เดินไปไหน เธอหยุดชะงักด้วยเสียงทุ้มที่พูดขึ้น"ข้าวที่บ้านกินไม่ได้เหรอต้องไปหาอย่างอื่นกินหรือว่าเธอถนัดซื้อกิน" ต่อหน้าลูกยังใช้คำดูถูกได้ขนาดนี้ขุนเพลิงไม่เคยไว้หน้าผ้าแพรเลยสักนิด"ฉันเป็นเมียไม่มีวันกินของเหลือจากชู้อยู่แล้ว คิดว่าทำถูกก็ทำไปถ้าผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านทั้งๆ ที่ฉันยังไม่ได้หย่า ถ้าฉันฟ้องคุณทั้งสองคนไม่ติดคุกแน่" ขุนเพลิงลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงเข้ามาหาผ้าแพรกับลูกสาว เขาอุ้มลูกสาวด้วยสองมือยื่นใ
บทที่ 3 สายตาคู่นั้นที่จ้องมองไปยังสามีของตัวเองนั่งอยู่ในห้องรับแขก มือที่เคยสัมผัสใบหน้าของเธอเคยอ่อนโยนในตอนนี้กลายเป็นของผู้หญิงคนอื่น ผ้าแพรได้เพียงแต่ยืนมองสามีของตัวเองอ่อนโยนต่อผู้หญิงหน้าด้านที่คิดจะแย่งสามีของเธอ มือทั้งสองข้างกำหมัดเข้าหากันแน่นไม่เคยคิดจะเป็นนางร้ายหรือตามรังควานใครแต่แน่นอนที่ของทุกอย่างรวมทั้งสามีที่เธอรักทั้งยังเป็นพ่อของลูก ผ้าแพรไม่มีวันยอมให้เป็นของคนอื่นอย่างแน่นอน"ฉันไม่มีวันยอม" สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นปาดน้ำตาของตัวเองมองจ้องไปยังแม่นมหญิงสาววัยกลางคนมองหน้าคุณหนูที่เขารักและทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็กด้วยความสงสาร เธอนั้นก้าวเดินตรงเข้ามาหาผ้าแพร"อดทนนะคะ คุณหนูความรักที่คุณหนูมีให้กับคุณผู้ชายมันมากเกินกว่าผู้หญิงคนอื่นจะเข้ามาทำลายมันได้" ผ้าแพรฝืนยิ้มและพยักหน้าให้กับแม่นมของตัวเองทั้งๆ ที่หัวใจนั้นแตกสลายแต่ยังทำท่าทีแข็งแกร่งเหมือนกับคนที่ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อผ้าแพรเดินกลับขึ้นมาบนห้องเพราะจะไปดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียง แต่เธอหยุดชะงักตรงที่ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นเดินมากขวางทางขึ้นบันได ใบหน้าที่สวยเฉิดฉายเจ้าเล่ห์ดั่งกับสุนั
บทที่ 2 มือของผู้เป็นแม่ลูบหัวของลูกสาวตัวเล็กในอ้อมกอดของตัวเองเบาๆ เด็กสาวคนนี้หลังจากลืมตาดูโลกแล้วคงรู้สึกเคว้งคว้างเมื่อก่อนนี้ผ้าแพรอาจจะละเลยความรู้สึกของลูกแต่ก็ไม่เคยละทิ้งหรือเที่ยวเตร่ดั่งกับวัยรุ่นทั่วไปเธอตั้งใจที่จะทำงานและฝึกงานในบริษัทของคุณพ่อมีบางครั้งที่สังสรรค์กับเพื่อนบ้างในบางครั้งแต่คนที่ใกล้ชิดกับลูกสาวของเธอมากที่สุดคือสุวรรณยศพ่อของเธอ "มามี๊ขอโทษนะต่อจากนี้ไปมามี๊จะดูแลหนูเองและมามี๊จะไม่มีวันให้ใครแย่งความรักของปะป๊าไปจากหนูเด็ดขาด" สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นในแววตาซ่อนความเจ็บปวด เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเขาบอกว่าได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าเราไม่ผิดก็คืออำนาจและเงินทองของพ่อเธอ ผ้าแพรยกทุกอย่างให้เขาได้แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้ พ่อของเธอตายไปได้แค่เดือนเดียวเขากลับพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในบ้านเหยียบย่ำหัวใจของพ่อเธอ "ไม่ร้องไห้นะหนูอยู่ตรงนี้" มือน้อยเช็ดน้ำบนแก้มให้กับผู้เป็นแม่ทั้งยังยิ้มให้กำลังใจ ผ้าแพรรู้สึกดีขึ้นเมื่อมีเจ้าตัวเล็กอยู่ตรงนี้ เวลาผ่านไปสักพักหลังจากที่พาลูกนอนเล่นบนเตียงพะพายลูกสาวของเธอนั้นเผลอหลับ เธอจึงให้พี่เลี้ยง
บทที่ 1 ขุนเพลิงลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อได้รับสายจากใครบางคน ใบหน้าของเขานั้นยิ้มขึ้นดั่งกับคนดีใจที่ใครจะมา เมื่อก้าวขาออกจากโซฟามาเพียงหนึ่งก้าวเขาหยุดชะงักเพราะซูโจลูกน้องคนสนิทเดินกลับเข้ามาในบ้านสายตาที่กวาดมองเปลี่ยนจากขุนเพลิงคนละคนในแววตาที่เย็นชานั้นบ่งบอกถึงความน่ากลัวและร้ายกาจ"นายจะให้ผมขังคุณผู้หญิงไว้นานแค่ไหน?"ซูโจที่ยังเอ่ยถามเจ้านายตัวเองไม่ทันสิ้นสุดประโยค ขุนเพลิงยกมือขึ้นในเชิงห้ามไม่ให้พูดต่อ"จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่าง ถ้าไม่ได้ฟังคำสั่งของฉันไม่ต้องเปิดประตู ดูแลลูกสาวกลับบ้านให้ดีอย่าให้ใครเข้ามาก้าวก่าย ฉันจะไปรับนับดาว" ซูโจก้มหน้าคำนับให้กับเจ้านายตามคำสั่ง นับดาวหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับผ้าแพรเพิ่งกลับจากเมืองนอกและในวันนี้นับดาวโทรหาขุนเพลิงให้ไปรับที่สนามบินจึงทำให้ขุนเพลิงนั้นยิ้มดั่งคนที่ดีใจมาก "ปะป๊าจะไปไหน ปะป๊าอย่าไปไหนนะ" คนตัวโตถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวตัวเล็กทันทีมือของเขาถูกจับด้วยมือนุ่มอันนิดเดียว ใบหน้าน้อยเงยขึ้นในขณะที่เขย่ามือพ่อของตนเองเอ่ยถามทั้งยังเอ่ยปากไม่ให้ไปขุนเพลิงคุกเข่าลงตรงหน้าเสมอกับเจ้าตัวเล็ก มือหนาลูบหัวของเด็
บทนำ เสียงครึกโครมของเหล็กกระทบเข้าหากันดังสนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน ดวงตาคู่น้อยหลับตาลงหลังจากที่รู้ว่าเธอนั้นขับรถชนจากนั้นภาพทุกอย่างก็ได้ตัดไป "คุณครับคุณเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างพากันเข้ามาช่วย เมื่อได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ คนตัวเล็กถูกวางบนเตียงขึ้นรถฉุกเฉินไปที่โรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมขึ้นสัมผัสถึงความเจ็บปวดและการขยับขาไม่ไหว มือน้อยยกจับศีรษะของตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอนั้นผวาจนสะดุ้งตัวลุกขึ้นจากเตียงพยาบาลพิเศษรีบจับแขนทั้งสองข้างและประคองให้เธอนอนลงตามเดิม"คนไข้คะอย่าลุกขึ้นเร็วขนาดนี้ คนไข้เพิ่งจะฟื้นอีกอย่างขาของคนไข้กระดูกร้าวยังไม่สามารถลงจากเตียงได้นะคะ" ความฝันที่เธอเจ็บที่ขาไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ขาของเธอถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งยังมีปูนโบกพอกเอาไว้ทั้งสองขา ใบหน้าน้อยที่มีน้ำตาเต็มๆ เอ่อล้นจนไหลอาบแก้มจ้องมองหน้าของพยาบาลคนที่เธอจับแขนของเขาเขย่า"คุณพ่อของฉันเป็นยังไงบ้าง ท่านเป็นยังไงบ้างท่านปลอดภัยดีใช่ไหม" ด้วยความกังวลและความห่วงในวันนั้นเธอตั้งใจท