Mag-log inเดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 4 ก่อการร้าย
“เอาล่ะคืนนี้จะไม่มีการจับคนร้ายเข้าคุก” พูดจบลีรอยก็ตัดสินใจแล้ว เขานั่งรออยู่ในบ้าน จนกระทั่งเจ้าของบ้านเข้ามา เขาก็ต้องตกใจกับสภาพบ้านที่โดนรื้อค้นเลยรีบไปดูที่ห้องนอน พบลีรอยนั่งรออยู่แล้ว เสียงปืนก็ดังขึ้นมาหลายนัด ร่างนั้นล้มลงไป สิ่งที่ลีรอยทำต่อไปคือ เผาบ้านทำลายหลักฐาน
แน่นอนคดีไฟไหม้ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีการเห็นตอนจุดไฟก็มักจะถูกสรุปว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจรเสมอ นี่คือ อีกโฉมหน้าของลีรอย อูโน่ นายตำรวจน้ำดี ที่จับคนร้ายมาหลายร้อยคนแล้ว
ที่สตูดิโอ เอ็มเพลงใหม่ของสามสาวได้เริ่มถ่ายทำแล้ว ชื่อของเพลงคือ เขาเป็นใคร โดยนำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มวัย 25 ปี ธนัส คอนเนอร์ เขาเป็นลูกครึ่งไทย กรีก ทำให้เขามีผิวสีน้ำผึ้ง ผสมกับหน้าตาที่ดูราวกับรูปสลักเทพเจ้ากรีกทำให้ เขาเป็นคนหน้าตาดีเบอร์ต้น ๆ ของประเทศนี้ และยังเป็นดาราที่มีความสามารถมาก ซึ่งแฟนคลับเขาก็เยอะด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนจะแอบยิ้มทั้งหมั่นไส้คือ เขาเป็นคนที่มั่นใจในหน้าตาของตัวเองมาก ขนาดเคยบอกว่า เขาคือร่างอวตารของความหล่อในโลก ! กันเลยทีเดี๋ยว เลยทำให้เขามีทั้งแฟนคลับและแอนตี้แฟนอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็โนสนโนแคร์ยังคงมั่นในความหล่อของตัวเองเช่นเดิม
แต่สิ่งหนึ่งทำให้เขาดังทะลุเพดานแบบนี้ คือ เขาเล่นได้ทุกบท ไม่ว่าจะเป็นพระเอก ตัวร้าย หรือตัวเอกซี่รีย์วาย เขาก็ติดบทแตกหมด และเขาจะมาก่อนเวลาเสมอ จนทีนงานมักจะถามเขาตลอดว่า
“รอนานมั้ย”
และตอนทำงาน กลายเป็นว่า วงแคนดี้เลโอพาสต้องสั่งคัทบ่อย ๆ เพราะฮารุเผลอไปสบตากับ ธนัสจนเขินซะเอง เลยลืมท่าเต้น
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ตั้งสติ ผมรู้ว่าผมหล่อ แต่ตอนนี้มีสมาธิกับงานเถอะครับ”
“ค่ะ” ฮารุรับคำพลางหน้าแดง ราโมน่าเห็นแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ จอยยาบอกว่า
“นี่เหรอปัญหาที่ว่า”
“ใช่ความหล่อเขานี่ จ้อง ๆ นานจะเสียสมาธิได้ ยิ่งกับฮารุด้วยแล้วนี่ ยิ่งแล้วใหญ่” ราโมน่าพูดขึ้นมา
“แล้วเธอไม่เสียสมาธิบ้างเหรอ” จอยยาแซว
“ก็เคยเหมือนกันล่ะ และที่สำคัญ ฉัน...โอยไม่อยากพูด” จอยยาทำหน้างง
หลังจากถ่ายทำเสร็จ ธนัสมีงานต่อเลยต้องรีบไปแต่เขาก็ไม่วายหว่านเสน่ช
“ขอบคุณกำลังใจ จากทุกคนนะครับ ผมสัญญาจะไม่หล่อน้อยไปกว่านี้นะครับ”
ฮารุมองหาใครบางคนในกลุ่มแฟน ๆ เมื่อเจอเธอรีบบอกกับเพื่อน ๆ ทันที
“คุณตาใส่หมวกมาแล้ว”
ราโมน่ากับจอยยารีบออกมาดู ชายชราใส่สูท สวมหมวกปีกกับยืนดูสาว ๆ อยู่ ซึ่งเขาเป็นแฟนคลับที่อายุมากที่สุดแล้วมั้งสำหรับวงนี้ พวกเธอจะดีใจทุกครั้งที่เห็นคุณตาใส่หมวก มาดู เพราะคุณตาเป็นแฟนคลับที่น่ารักมากสำหรับพวกเธอ พวกเธอเข้าไปทักทายและถ่ายรูปกับคุณตาเป็นกันเอง
ยังไม่ทันไรเสียงปืนก็ดังขึ้นมา กลุ่มคนใส่ชุดดำเข้ามาในกองถ่าย พร้อมอาวุธครอบมือ เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาด้วยความกลัว หน้าหน้ากลุ่มเป็นชายร่างสูงใหญ่ ใส่ไอ้โม่งตะโกนมาเป็นภาษาต่างชาติ และมีผู้ชายอีกคนตะโกนออกมาเป็นภาษาที่ทุกคนเข้าใจ
“หยุด หากส่งเสียงหรือคิดหนี” ยังไม่ทันไร คนที่เป็นล่ามก็ยิง คนไปคนหนึ่งโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำ
สามสาวกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ พวกเธออยากช่วยทุกคนแต่ว่าเธอเปิดเผยตัวไม่ได้ ต้องรอจังหวะ
“หวังว่า คุณตาคงปลอดภัยนะ” ฮารุพูดขึ้นมา ทุกคนก็เป็นห่วงคุณตา แต่พบว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
คุณตาที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงอยู่นั้น เป็นตัวปลอม ! เพราะจริง ๆ แล้วเขาคือไอแชก คานโล ! ไอแชกรีบหาที่หลบและโทรศัพท์ทันที
“โยว่เฮ้ย ! มีอะไรเหรอ ซีโอ”
“รหัสแดง !” ไอแชกพูดเสียงดัง
“ห๊ะ ! ได้ ๆ ไอจะรีบไป ซีโอเอาอยู่นะ”
“ถ้าเป็นคน คงไมยากนักหรอก แต่ตอนนี้ กันไม่มีปืนนะ” ไอแชกวางสายไป เขาเรียกมีดมาเซเต้ออกมา มีพวกผู้ก่อการร้ายเดินมาทางนี้พอดี ไอแชกขว้างอาวุธไปเต็มแรง โดนเข้าที่แสบหน้าของมันเต็ม ๆ แต่มันยังยืนอยู่ได้
“ไม่ใช่คนสินะ ดีล่ะ” ไอแชกกวักมือ มีดมาเชเต้ลอยกลับมา เข้ามือเขา เจ้าผู้ก่อการร้ายที่โดนมีดขว้างใส่หน้าไปนั้น ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็โดนฟันซ้ำอีกที มันล้มลงไป ไอแชกยึดปืนของมันมา เจ้านี่ใช้ปืนกลเบาเป็นอาวุธหลัก แต่ไม่ได้เก็บเสียงถ้าเขายิงรับรองว่าได้แห่กันมาแน่ แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว พวกมันกำลังมา เขาเลยตัดสินใจยิงออกไปทันที เสียงปืนดังลั่น เจ้าหัวโจกได้ยินก็ตะโกนสั่ง
“ไปจัดการไอ้ตัวป่วนนั่นเดี๋ยวนี้” ไอ้คนที่เป็นล่ามเดินมองสามสาว มันคิดอย่างยังไงซะ ก็ชนะอยู่แล้วเลยมองไปที่สามสาวมันตัดสิน กระชากแขนของฮารุขึ้นมาเธอร้องลั่น
“จะทำอะไรน่ะ” จอยยาพูด แต่ถูกปืนจ่อเอาไว้
“เดี๋ยวก็ถึงคิวพวกแก !” มันพยายามพูดเป็นภาษาอื่น
ฮารุถูกลากเข้ามาในห้องหนึ่งในสตู เธอพูดว่า
“ไม่ต้อง ทำเป็นพูดภาษาแปลก ๆ ฉันจำเสียงแกได้ ไดม่อนแจ้ค” เจ้าล่ามถอดไอ้โม่งออกแล้วหัวเราะ
“ดีแล้วจะได้ไม่ต้องใส่ไอ้โม่งอีก” มันเดินเข้ามา ฮารุ ซัดดาวกระจายออกมา แต่ว่าไดม่อนแจ๊คเรียกดาบคู่ออกมา ปัดดาวกระจายทิ้งไปทั้งหมด
“ชอบให้ออกแรงก่อนเหรอ ดีล่ะ ฉันจะยัดเยียดความเป็นผัวให้กับเธอ” มันเดินควงดาบเข้ามา แต่
ฮารุเรียกดาบซามูไรออกมาแล้วพูดว่า
“ใครจะยอมแกล่ะ”
ทางด้านจอยยากับราโมน่ามองหน้ากันแล้วพูด แกล้งทำเป็นเหมือนว่าป่วยท้อง
“เฮ้ย ! เป็นอะไร” มันถามเป็นภาษาต่างชาติ จอยยาเลยพยามสื่อสาร ว่าเพื่อนของเธอต้องการเข้าห้องน้ำ พวกมันมองหน้ากัน ตัวหัวหน้าส่งสัญญาณว่ารีบพาไป เนื่องจากพวกมันเห็นว่าเป็นผู้หญิงแค่สองคนเลยให้คนตามไปคุมกันแค่คนเดียว นั่นเป็นเรื่องที่พวกมันทำพลาดอย่างมหันต์ พอลับตาคนจอยยาของส่งสัญญาณให้ราโมน่า ทั้งสองหันเหวี่ยงขาเตะไปเต็มแรงโดนเข้าที่กกหูของทั้งสองข้างของไอ้โม่งนั่น ทำให้มันล้มลงไป พวกเธอรีบยึดอาวุธมันมา แม้จะไม่ค่อยได้ใช้ปืนเท่าไหร่ แต่จอยยาและราโมน่าฝึกยิงปืนมาเป็นอย่างดี แต่พวกดันมีลูกน้องของมันอีกสองตัวเดินออกจากห้องน้ำทันที แต่มันยังไม่ทันก็เสียงปืนขึ้นมา แต่มันเบาลง เพราะที่เก็บเสียง
“โย่วเฮ้ย ! เจอกันอีกแล้วนะเนี่ย” ดาริโอพูดขึ้นมาและยังไม่ทันไร และพวกมันอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้ามา ดาริโอรีบพูดว่า
“หลบ” เขากระหน่ำปืนด้วยความรวดเร็ว จนพวกมัน ยิงสวนไม่ทัน พวกมันตายหมดในพริบตา
“รีบไปตามหาฮารุกันเถอะ เธออาจกำลังแย่”
เดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 26 เขย(ปลอม ๆ) ของเท็งกุ ในตอนเช้าการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น แต่คราวนี้ ฟุยุไม่ได้ใช้ดาบคาตาตะ แต่เขากลับใช้พัดเป็นอาวุธ ไอแซก กลับรู้สึกถึงพลัง มีมากกว่าสองคนที่ผ่านมา “รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเราแล้วสินะ จะยอมแพ้ก็ได้” นัทสึพูด แต่ไอแซกกลับพูดสวนไปว่า “อยากโดนอีกทีหรือไง” ไอแซกพูด นัทสึได้แต่กัดฟันกรอด ๆ ด้วยความโกรธ ไอแซกเรียกมีดมาเซเต้ออกมา “คู่ต่อสู้วันนี้ของแกคือข้าโวย อย่ามาขู่น้องข้าให้กลัวนะโวย” ฟุยุพูดเสียงดังลั่น “ฟุยุเราอาจไม่จำเป็นต้องสู้กันนะ” ไอแซกลองกล่อมดู เพราะยังไงเสียเขาก็ไม่ต้องการเอาชีวิตของพี่น้องฮารุเลยแม้แต่คนเดียว “ทำไมล่ะ” ฟุยุเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ที่ผ่านมาไอแซกต่อสู้โดยไม่คิดจะเจรจาก่อน ทำไมคราวนี้เขาถึงคิดจะเจรจา “ฮารุรักนายมากนะ กันไม่อยากทำร้ายนายมันเป็นการทำร้ายจิตใจของฮารุ เกินไป เพราะเธอคงไม่อยากให้คนสำคัญเจ็บตัวหรอกนะ” ไอแซกพูด แต่หารู้ไม่การพูดแบบนี้ มันเป็นการราคน้ำมันลงกองไฟ “แกรู้มั้
“แต่พอดีกันไม่ได้คิดว่าจะมาแพ้” ไอแซกเข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง อะคิรับมือได้เป็นอย่างดี แต่แม้ว่าคมมีดจะไม่ได้โดนตัวเขา แต่แรงกระแทกมันสะท้อนมาทำให้เขาถึงกับแขนชา มีดมาเซเต้กลายเป็นสีแดงเพลิง ทำให้อะคิรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากมีดมาเซเต้ เขารู้เลยว่าถ้าเขาพลาดได้โดนย่างสดแน่ไอแซกออกแรงมากขึ้นเรื่อย ๆจนกระทั่งดาบของอะคิหักคามือ อะคิมองอาวุธในมือแล้วพูดว่า “ไม่คิดว่าชนะเหรอ”ดาบของอะคิกลับเป็นเหมือนเดิม เขาโจมตีไม่หยุด ไอแซกยังรับมือต่อไป แต่เขาก็พลิกเกมมาเป็นฝ่ายเปรียบได้ ทำให้คมมีดเฉียบหน้าของอีกฝ่ายไปได้อย่างอย่างหวุดหวิด “น่าสนุกนี่”อะคิเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนทำให้เห็นเหมือนกับว่าเขาแยกร่างได้ ไอแซกโดนฟันไปหลายแผล “ยอมแพ้ซะดีกว่านะจะได้เจ็บตัวน้อยลง”ร่างของไอแซกมีควันขึ้น อะคิรู้สึกถึงความร้อน ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ช้าลง ไอแซกเห็นช่องว่างแล้วเขาพึ่งไปและเอาสันมีดฟาดเข้าที่กลางหัวของอะคิ ทำให้อะคิหัวแตก “ข้าแพ้แล้ว ถ้าเจ้านี้เอาด้านคมลงมา หัวข้าเบาะไปแล้ว ! ” อะคิพูดขึ้นมา“ท่านพี่ ท่านออมมือหรือ” นัทสึพูดด้วยน้ำเสียงไม
เดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 25 ไม้กันโอนิ “ขำอะไร อยากปากแตกอีกรอบหรือไง” ไอแซกพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ก็ขำแกน่ะสิ ทำเป็นวางท่าใหญ่โต แต่จริง ๆ ก็เป็นพวกพันธุ์ทางที่ถูกเลี้ยงมนุษย์ชั้นต่ำ” นัทสึพูด ไอแซกมองแก้วชาแล้วถามฮารุว่า “แก้วนี่แพงมั้ย” “ไม่นะ” ฮารุพาซื่อตอบไป “ใครจะเอาแก้วชาแพง ๆ มาต้อนรับพวกพันธุ์ทางล่ะ” นัทสึยังคงเยาะเย้ย ไอแซกขว้างแก้วชาไปเต็มแรง นัทสึไม่ทันได้ตั้งตัวและหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หัว “แก !” “ถ้าของแพงกันจะไม่เอาปาหัวแกไง ไอ้ปากต่ำ ๆ แบบนี้ ถ้าใช้ของแพงปามันเสียของ” “เฮ้ย ๆ ทำอะไรเกรงใจท่านพ่อกันบ้าง” อะคิพูดเป็นเชิงห้าม “ท่านพ่อข้าว่า ฆ่ามันทิ้งหรือไล่มันไปเถอะ ไม่งั้นอาจเกิดสงครามได้” นัทสึยังคงเสนอวิธีการนี้ เหมือนฟุยุจะได้สติแล้ว “นั่นสิท่านพ่อไล่มันไปเถอะ แต่เราไม่ต้องยกน้องให้พวกโอนิก็ได้นี่ เราจะสู้กับพวกมันเอง” “ไม่ไป ถ้าฮารุไปด้วย” ไอแซกพูดอีกครั้ง ฮารุจับมือของไอแซกเอ
ระหว่างทางที่เดินทาง บรรยายกาศมันตึงเครียดมาก จนทำให้อึดอัด ไอแซกมองดูวิวรอบ ๆ เห็นว่าบรรยากาศมันร่มรื่น และเส้นทางมันเป็นทางที่ขึ้นไปบนภูเขาหลังจากนั้น มีหมอกลงจัด จนมองไม่เห็นทางแล้ว “จะบอกไว้อย่างนะ พี่น้องคนอื่นไม่ใจดีเหมือนฉันหรอกนะ” อะคิพูดขึ้นมา “พี่อะคิเป็นพี่คนรองน่ะ คือ เอาไงดีล่ะ อะคินี่ล่ะปกติที่สุดแล้วมั้ง” ฮารุกระซิบบอก ไอแซกพยักหน้ารับรู้เขารู้สึกถึงกดดันและจิตสังหารมากมาย ไอแซกนึกเสียดายที่เขาไม่ได้พกปืนมาด้วย แต่การเอาปืนเข้าญี่ปุ่นเป็นเรื่องยาก เพราะญี่ปุ่นมีกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนที่เข้มข้นมาก เขาเลยไม่ได้เอาปืนมาด้วยสักกระบอง ความรู้สึกของไอแซกตอนนี้เขาอยากจะปืนหลาย ๆ กระบอกจะทำให้อุ่นใจกว่านี้ ไอแซกเห็นฮารุเริ่มกดดันแล้ว เธอมาบ้านแท้ ๆ ทำถึงดูกังวลขนาดนี้ ไอแซกจับมือของฮารุ “ผมอยู่นี่” คำพูดของไอแซก ทำให้ฮารุรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง“เฮ้ย ๆ ข้าไม่หัวหลักหัวตอนะโวย !” อะคิสังเกตเห็น เขาเริ่มคิดว่าสองคนนี้คงจะเป็นแฟนกันจริง ๆ ไม่ใช่แฟนปลอม ๆ เมื่อเข้าเขตหมู่บ้าน เป็นหมู่ขนาดเล็กมีบ้านไม่กี่หลังคาเรือน บรรยากาศร่มรื่น
เดอะ เนฟีลิม The Nephilim ตอนที่ 24 ไม้กันหมา สามข้าวกลับมาบ้านหลังจากกินอาหารเช้าแล้ว เมื่อถึง มีอีกาตัวหนึ่งอยู่ในบ้านอยู่แล้ว ฮารุเลยเดินเข้าไปหามัน มันพูดบ้างอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น ฮารุถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยิน “ไม่นะ !”จอยยากับราโมน่ารีบมาดูเพื่อนรักทันที ปกติแล้วอีกามา เธอยิ้มอย่างมีความสุขและชวนกินของฝากทุกครั้ง “เกิดอะไรขึ้น” สองสาวถามพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ “ไม่นะ ไม่นะ ต้องไม่เป็นแบบนี้” ฮารุดูเครียดมาก เธอเดินไปเดินมาก่อนจะเปิดเพลงและเต้นไม่หยุด ซึ่งฮารุจะเป็นแบบนี้เสมอ เวลามีเรื่องให้เครียด แต่ว่า อย่างฮารุเนี่ยนะจะเครียดเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ จนกระทั่งเหนื่อย และก็นั่งลง “พ่อฉัน บอกว่า ฉันต้องต้องแต่งงาน” ฮารุพูด จอยยากับราโมน่าพูดพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ “อะไรนะ !” “เรื่องจริง เผ่าเท็งกุกับพวกโอนิ มีแผนการที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกันน่ะสิ แล้ววิธีที่ดีที่สุดคือ ก็คือแต่งงานไง” “เฮ้ย ! เดียวทำไม่ต้องเป็นเธอด้วยล่ะ ก็พ่อเธ
“เฉย ๆ เถอะน่า เดินยังลำบาก ยังไงไปให้พวกนนนี่รักษาก่อนเถอะ” ไอแซกพูด จอยยากับราโมน่า มองหน้ากันและทำหน้าไม่ถูก เป็นจังหวะเดี๋ยวกับดาริโอเดินออกมาพอดี เขาแอบยิ้มแล้วพูดเบา ๆ ว่า “โย่วเฮ้ย ! ติ่งคอมพลีส”เมื่อไปถึงปราสาทของดานโน่ นนน่าก็พาสามสาวไปรักษาตัว ซึ่งคราวนี้ฮารุเจ็บหนักสุด นนน่าเลยบังคับให้ฮารุต้องค้างที่นี่ “อาการหนักแบบนี้ต้องการพักผ่อนนะ ต้องค้างแล้วล่ะ” “แต่...” “เหล็กพิกซี่ทั่วไม่เป็นอันตรายหรอก แต่นี่โดนไปตั้งหลายทียังไง นนน่าต้องขออยู่อาการก่อนล่ะ รออยู่นี่ล่ะเดี๋ยวจะไปจัดห้องให้ จอยยากับราโมน่าก็ค้างด้วยกันเลยแล้วกัน” ฮารุ จอยยา ราโมน่า ปฎิเสธไม่ได้ ก็ต้องเลยตามเลย ฮารุตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอ นอนบ้านคนอื่น แบบ ทั้งสามลงมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งอาหารวันเป็น ชุดแฮมเบอร์เกอร์ มีเฟรนฟราย และไก่ทอดด้วย ดูเหมือนของร้านฟาสฟู้ค แต่ก็อร่อยมาก ซึ่งมีเติมได้เรื่อย ๆ สักพักโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา แน่นอนคนที่โทรมาเวลาแบบนี้มีแค่คนเดียวคือ คุณเจ้าขา “ครั้งนี้ทำดีนะคะ ไม่ได้ระเบิดอะไร แต่ความคิด







