พฤกษ์เริ่มรุกจีบอิงดาวอย่างจริงจังมากขึ้น เขาโทรหาอิงดาวบ่อยขึ้น ชวนไปทานข้าว หรือนัดคุยเรื่องงานในเวลาส่วนตัว ธาราที่ปกติแล้วจะมองอิงดาวเป็นแค่น้องสาว
เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าอิงดาวยิ้มมากขึ้นเมื่ออยู่กับโทรศัพท์ หรือดูมีความสุขเป็นพิเศษเมื่อพูดถึงพฤกษ์ ความรู้สึกแปลกๆ เริ่มก่อตัวขึ้นในใจธารา เขาพยายามบอกตัวเองว่านี่เป็นแค่ความห่วงใยน้องสาวตามประสาพี่ชาย แต่ลึกๆ แล้ว เขากลับรู้สึกไม่สบายใจและหงุดหงิดเมื่อเห็นอิงดาวสนิทสนมกับพฤกษ์
นับตั้งแต่วันที่งานแสดงสินค้าอสังหาริมทรัพย์จบลง ความสัมพันธ์ระหว่างอิงดาวกับพฤกษ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่ชัดเจน พฤกษ์ไม่ได้เพียงแค่แลกนามบัตรแล้วจบกัน เขากลับเริ่มรุกจีบอิงดาวอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ เขาเป็นคนละเอียดอ่อน ช่างสังเกต และรู้จักวิธีที่จะทำให้ผู้หญิงรู้สึกพิเศษได้อย่างเป็นธรรมชาติ
โทรศัพท์ของอิงดาวดังขึ้นบ่อยครั้งในช่วงเวลาที่ไม่ใช่งาน ส่วนใหญ่เป็นสายเรียกเข้าจากเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย แต่เมื่อเธอเห็นชื่อพฤกษ์ปรากฏบนหน้าจอ รอยยิ้มเล็กๆ ก็จะผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอเสมอ อิงดาวจะหลบมุมไปคุยโทรศัพท์อย่างเป็นส่วนตัว เสียงหัวเราะสดใสของเธอลอยออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งต่างจากเวลาที่เธอคุยโทรศัพท์เรื่องงานลิบลับ
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่ธารามาส่งอิงดาวที่บริษัทตามปกติ เขาสังเกตเห็นว่าอิงดาวกำลังยุ่งอยู่กับการพิมพ์ข้อความบางอย่างบนโทรศัพท์มือถือ รอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้าของเธอ และเธอหัวเราะคิกคักกับหน้าจอ พลางซ่อนโทรศัพท์ไว้ด้านหลังเมื่อธาราเดินเข้ามาใกล้
“ทำอะไรอยู่ครับ อิงดาว ดูอารมณ์ดีจัง” ธาราถามพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่ธารา แค่คุยกับเพื่อนค่ะ” อิงดาวตอบเสียงสดใส แต่ก็ไม่ได้หันมาสบตาธาราตรงๆ
ธาราพยักหน้าช้าๆ แต่ในใจกลับมีความรู้สึกแปลกๆ วูบขึ้นมา เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้มาสักระยะแล้ว อิงดาวที่ปกติมักจะพูดคุยเรื่องราวทุกอย่างกับเขา ตอนนี้กลับมีเรื่องราวส่วนตัวบางอย่างที่เธอเก็บงำไว้ และนั่นทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
สัปดาห์ถัดมา พฤกษ์ชวนอิงดาวไปทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารอิตาเลียนหรูย่านใจกลางเมือง เขาไม่ได้บอกว่าเป็นเดท แต่ก็พยายามทำให้ทุกอย่างดูพิเศษ เขาจองโต๊ะในมุมส่วนตัว สั่งไวน์ชั้นดี และชวนอิงดาวคุยเรื่องราวต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน ทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต และเรื่องความฝันในอนาคต
“โครงการใหม่ของคุณอิงดาวที่ภูเก็ต ผมว่ามีศักยภาพสูงมากเลยนะครับ ถ้ามีโอกาส ผมอยากจะลองศึกษาแนวทางการตลาดของคุณดูบ้าง” พฤกษ์กล่าวด้วยแววตาจริงใจ
อิงดาวยิ้ม “ยินดีเลยค่ะ ถ้ามีอะไรที่อิงดาวพอจะแนะนำได้ ก็บอกนะคะ”
ตลอดมื้อค่ำ พฤกษ์แสดงความสนใจในตัวอิงดาวอย่างชัดเจน เขาตั้งใจฟังทุกคำพูดของเธอ จดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอเล่า และตอบกลับด้วยคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาใส่ใจจริงๆ อิงดาวรู้สึกประทับใจในความสุภาพบุรุษ ความฉลาด และอารมณ์ขันของพฤกษ์ เธอยอมรับว่าเธอมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับเขา
บังเอิญในวันนั้น ธารามีนัดทานอาหารค่ำกับลูกค้าที่ร้านอาหารแห่งเดียวกัน ขณะที่เขากำลังเดินผ่านโซนรับประทานอาหาร เขาก็เห็นอิงดาวนั่งอยู่กับพฤกษ์ที่โต๊ะมุมหนึ่ง แสงไฟสลัวในร้านช่วยขับเน้นบรรยากาศให้ดูโรแมนติก อิงดาวดูมีความสุขมากเป็นพิเศษ รอยยิ้มของเธอบ่งบอกถึงความพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่ออยู่กับเขา ธาราหยุดชะงัก สายตาจับจ้องไปที่ทั้งคู่ ภาพที่เห็นทำให้เขารู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอ ความรู้สึกหงุดหงิดและไม่สบายใจถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง
เขาพยายามสะกดอารมณ์ และเดินผ่านไปราวกับไม่ได้เห็นอะไร แต่ในใจกลับว้าวุ่นไม่หยุด เขาพยายามบอกตัวเองว่าอิงดาวเป็นน้องสาวของเขา และเธอมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขกับใครก็ได้ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกเจ็บปวดและไม่พอใจเมื่อเห็นภาพนั้น
หลังจากเหตุการณ์นั้น ธาราก็เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวอิงดาวชัดเจนยิ่งขึ้น พฤกษ์เริ่มโทรหาอิงดาวในเวลาที่ลึกซึ้งกว่าเดิม บางครั้งก็เลยเวลางานไปแล้ว หรือแม้แต่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ธารากับอิงดาวเคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
อยู่มาวันหนึ่ง ธาราชวนอิงดาวไปทานอาหารเย็นที่บ้านตามปกติ
“อิงดาวเย็นนี้ทานข้าวที่บ้านไหมครับ คุณแม่ทำอาหารอร่อยๆ ไว้เยอะเลย” ธาราถามขณะที่พวกเขากำลังเดินออกจากบริษัท
อิงดาวลังเลเล็กน้อย “วันนี้อิงดาวคงไม่ได้ไปค่ะ พี่ธารา อิงดาวมีนัดกับคุณพฤกษ์น่ะค่ะ”
คำพูดของอิงดาวเหมือนมีอะไรบางอย่างมาสะกิดใจธารา เขาพยายามเก็บสีหน้า แต่ก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้ “อ้อ…งั้นเหรอครับ มีธุระอะไรกันเหรอครับ”
“คุณพฤกษ์ชวนไปดูโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ของเขาค่ะ เขาบอกว่ามีแนวคิดที่น่าสนใจ อยากให้อิงดาวไปดูเป็นเพื่อนค่ะ” อิงดาวตอบด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ธารากลับรู้สึกถึงความกระตือรือร้นบางอย่างในน้ำเสียงของเธอ
ธาราพยักหน้าช้าๆ “อืม..ระวังตัวด้วยนะครับ”
แม้ปากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจธารากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหวงอย่างประหลาด เขากลับมาที่รถด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง การที่อิงดาวใช้เวลาส่วนตัวกับพฤกษ์บ่อยขึ้น ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกีดกันออกจากชีวิตของเธอ
ความรู้สึกหงุดหงิดของธาราเริ่มสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาพยายามหาเหตุผลให้กับความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็หาไม่ได้ บางครั้งเขาหงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล เพียงเพราะเห็นอิงดาวยิ้มให้กับโทรศัพท์ หรือเมื่อได้ยินชื่อพฤกษ์หลุดออกมาจากปากของเธอ
วันหนึ่ง ธาราโทรหาอิงดาวเพื่อปรึกษาเรื่องงานเร่งด่วน
“อิงดาวครับ ตอนนี้พี่อยู่ที่ออฟฟิศ มีเอกสารบางอย่างที่พี่อยากให้อิงดาวช่วยดูด่วนเลยครับ”
“ตอนนี้เลยเหรอคะพี่ธารา พอดีอิงดาวกำลังอยู่กับคุณพฤกษ์น่ะค่ะ เรากำลังคุยเรื่องโปรเจกต์ใหม่กันอยู่” อิงดาวตอบด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อนเล็กน้อย
ธารารู้สึกเหมือนถูกน้ำเย็นสาดเข้าใส่ ความหงุดหงิดพุ่งขึ้นมาทันที “เรื่องงานพี่สำคัญกว่าไหมครับอิงดาว”
“อิงดาวรู้ค่ะพี่ธารา แต่อันนี้ก็สำคัญมากเหมือนกันค่ะ” อิงดาวตอบอย่างหนักแน่น “เดี๋ยวอิงดาวจะรีบไปหานะคะ ขอเวลาอีกสักพัก”
ธาราวางสายโทรศัพท์ลงด้วยความโมโห เขาขว้างปากกาลงบนโต๊ะเสียงดัง ความรู้สึกผิดหวังและน้อยใจปะปนกันไป เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องโมโหขนาดนี้ เพียงเพราะอิงดาวมีนัดกับพฤกษ์ แต่ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ
ในคืนนั้น ธารานั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงานของเขา แสงไฟสลัวๆ ทำให้บรรยากาศดูอ้างว้าง เขามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นแสงไฟระยิบระยับของเมืองยามค่ำคืน เขาพยายามทบทวนความรู้สึกของตัวเอง เขาเคยคิดว่าอิงดาวเป็นน้องสาวที่เขาต้องดูแลปกป้องมาตลอด แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นเริ่มแปรเปลี่ยนไป มันไม่ใช่แค่ความห่วงใยแบบพี่น้องแล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น มันคือความหวง ความหงุดหงิด ความไม่สบายใจ เมื่อเห็นเธอใกล้ชิดกับชายอื่น
ธาราหลับตาลง ภาพของอิงดาวที่ยิ้มและหัวเราะอยู่กับพฤกษ์ผุดขึ้นมาในหัว เขากำมือแน่น เขายอมรับกับตัวเองว่าเขาไม่ได้อยากให้อิงดาวไปสนิทสนมกับพฤกษ์ เขาอยากให้เธออยู่กับเขา อยากให้รอยยิ้มนั้นเป็นของเขาคนเดียว
คำถามที่ก่อกวนจิตใจเขามาตลอดเริ่มชัดเจนขึ้นในความคิดของเขา: เขาไม่ได้คิดกับอิงดาวแค่น้องสาวแล้วใช่ไหม?
ความจริงที่ว่าพฤกษ์เข้ามาในชีวิตของอิงดาว ทำให้ธาราต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของตัวเองมานานแสนนาน นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง ที่กำลังจะนำไปสู่เรื่องราวที่ซับซ้อนและท้าทายยิ่งกว่าเดิม
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่