พฤกษ์ตัดสินใจขออิงดาวออกเดทอย่างเป็นทางการ อิงดาวรู้สึกประหลาดใจและดีใจเล็กน้อย เธอตัดสินใจตอบตกลงที่จะลองเปิดใจเรียนรู้พฤกษ์มากขึ้น เมื่อธารารู้เรื่องนี้
เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หน้าอก ความหงุดหงิดไม่สบายใจถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เขาพยายามทำตัวปกติ แต่กลับแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนเมื่ออยู่ต่อหน้าอิงดาวและพฤกษ์ ธาราอาจจงใจขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่ หรือหาเรื่องให้อิงดาวต้องมาอยู่กับเขาแทน เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ อิงดาว
สายลมยามบ่ายพัดโชยอ่อนในสวนหย่อมเล็กๆ ใจกลางเมืองที่เงียบสงบ พฤกษ์กับอิงดาวนัดพบกันที่นี่หลังจากเลิกงาน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหม่ที่พวกเขากำลังพิจารณาจะร่วมมือกัน
บรรยากาศผ่อนคลายและเป็นกันเอง พฤกษ์ในชุดเสื้อเชิ้ตลำลองสีอ่อนดูสบายตา ต่างจากมาดนักธุรกิจที่เธอมักจะเห็นเขาในที่ประชุม อิงดาวเองก็รู้สึกผ่อนคลายกับการพูดคุยกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อบทสนทนาเริ่มออกนอกเรื่องธุรกิจ พฤกษ์หันมามองอิงดาวด้วยแววตาที่จริงจังขึ้น
“คุณอิงดาวครับ ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะถามคุณเป็นการส่วนตัว” พฤกษ์เริ่มพูด เสียงของเขาอ่อนโยนแต่หนักแน่น “ผมรู้สึกดีมากทุกครั้งที่เราได้คุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ผมชื่นชมในความสามารถของคุณ และผมก็รู้สึกว่าคุณเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมาก”
อิงดาวฟังอย่างตั้งใจ หัวใจของเธอเริ่มเต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อย เธอรู้ว่าพฤกษ์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างที่สำคัญ
“ผมอยากจะขออนุญาตคุณอิงดาว... ขอชวนคุณออกเดทอย่างเป็นทางการครับ” พฤกษ์กล่าว ดวงตาของเขาสื่อถึงความหวังอย่างชัดเจน “ผมอยากเรียนรู้คุณให้มากขึ้นในฐานะคนคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่คู่ค้าทางธุรกิจ”
คำขอของพฤกษ์ทำให้อิงดาวรู้สึกประหลาดใจระคนดีใจ เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะกล้าพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ ความรู้สึกที่เคยมีต่อเขาในฐานะคู่ค้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นขึ้นมาในใจ พฤกษ์เป็นคนดี ฉลาด และมีอนาคต เธอเองก็ยอมรับว่ารู้สึกดีกับเขามาสักพักแล้ว
อิงดาวเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อเรียบเรียงความคิด เธอพิจารณาถึงความรู้สึกของตัวเองที่ผ่านมา และมองเห็นถึงความจริงใจในแววตาของพฤกษ์
“คุณพฤกษ์คะ อิงดาวก็รู้สึกดีที่ได้คุยกับคุณค่ะ” อิงดาวตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “อิงดาวขอตอบตกลงค่ะ เรามาลองเรียนรู้กันดูนะคะ”
รอยยิ้มของพฤกษ์กว้างขึ้นทันที เขารู้สึกดีใจอย่างเห็นได้ชัด “ขอบคุณมากครับคุณอิงดาว ผมสัญญาว่าจะทำให้คุณไม่ผิดหวังครับ”
การตอบตกลงของอิงดาวเป็น จุดเริ่มต้นที่สำคัญ สำหรับความสัมพันธ์ใหม่ของเธอ เธอตัดสินใจที่จะ เปิดใจเรียนรู้ พฤกษ์มากขึ้น เพื่อดูว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเขาจะพัฒนาไปในทิศทางใด
หลังจากวันนั้น อิงดาวก็เริ่มออกเดทกับพฤกษ์ พวกเขามักจะไปทานข้าว ดูหนัง หรือทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ อิงดาวรู้สึกมีความสุขและสดใสมากเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่เธอคุยโทรศัพท์กับพฤกษ์ ใบหน้าของเธอก็จะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะก็จะดังออกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ
วันหนึ่ง อิงดาวกำลังนั่งทานอาหารกลางวันกับธาราในโรงอาหารของบริษัท บรรยากาศเป็นไปอย่างปกติ เหมือนทุกวันที่ผ่านมา
“อิงดาวคะ ช่วงนี้เห็นอิงดาวดูมีความสุขจังเลยนะครับ” ธาราเอ่ยขึ้น ใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับมีความรู้สึกบางอย่างก่อกวน
อิงดาวเงยหน้าขึ้นมองธาราด้วยรอยยิ้มสดใส “ใช่ค่ะ พี่ธารา อิงดาวมีความสุขค่ะ”
“มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเหรอครับ” ธาราถามต่อ พยายามให้น้ำเสียงดูเป็นปกติที่สุด แต่ในใจกลับรู้สึกประหม่าอย่างประหลาด
อิงดาวลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริงกับพี่ชาย “คุณพฤกษ์ขออิงดาวออกเดทค่ะ และอิงดาวก็ตกลงค่ะ”
คำพูดเพียงไม่กี่คำนั้นเหมือน ฟ้าผ่าลงกลางใจ ของธารา เขารู้สึกเหมือนมี อะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หน้าอก อย่างรุนแรง ความรู้สึกจุกเสียดแล่นขึ้นมาที่ลำคอจนพูดไม่ออก ช้อนในมือของเขาสั่นเล็กน้อย ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
ธาราพยายามรวบรวมสติ เขาฝืนยิ้มเล็กน้อย “อ้อ…ยินดีด้วยนะครับ พฤกษ์เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งนี่ครับ” น้ำเสียงของเขาฟังดูแหบพร่าเล็กน้อย
อิงดาวไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของธารา เธอเล่าถึงความสุขที่เธอได้รับจากการออกเดทกับพฤกษ์อย่างละเอียด “คุณพฤกษ์เป็นคนสุภาพบุรุษมากเลยนะคะ พี่ธารา เขาดูแลอิงดาวดีมากเลยค่ะ แล้วก็ฉลาดด้วย คุยด้วยแล้วไม่เบื่อเลยค่ะ”
ทุกคำพูดของอิงดาวเหมือนมีดที่กรีดแทงลงไปในใจของธาราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความรู้สึก หงุดหงิดไม่สบายใจ หวงและเจ็บปวด ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เขารู้สึกเหมือนกำลังจะหายใจไม่ออก
หลังจากที่ธารารู้เรื่องอิงดาวออกเดทกับพฤกษ์ เขาก็ไม่สามารถทำตัวปกติได้อีกต่อไป ความไม่พอใจของเขาเริ่มแสดงออกมาอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยที่บางครั้งตัวเขาก็ควบคุมไม่ได้
วันรุ่งขึ้น พฤกษ์มาหาอิงดาวที่บริษัท เพื่อจะชวนเธอไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน เขาเดินเข้ามาในแผนกของอิงดาวด้วยรอยยิ้มสดใส
“คุณอิงดาวครับ วันนี้เราไปทานอาหารกลางวันด้วยกันไหมครับ ผมเจอร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ น่าสนใจมากเลย” พฤกษ์เอ่ยชวนอย่างเป็นกันเอง
“ได้เลยค่ะคุณพฤกษ์” อิงดาวตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปเก็บของบนโต๊ะ
ขณะที่อิงดาวกำลังจะเดินออกไปพร้อมพฤกษ์ ธาราก็เดินผ่านมาพอดี เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน สีหน้าของเขาเรียบเฉย แต่แววตากลับฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน
“อิงดาวครับ มีเอกสารเร่งด่วนที่พี่อยากให้อิงดาวช่วยดูให้หน่อยครับ” ธาราพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากว่าปกติ “ต้องเป็นตอนนี้เลยครับ”
อิงดาวแปลกใจเล็กน้อย “แต่อิงดาวมีนัดกับคุณพฤกษ์แล้วนี่คะพี่ธารา”
“เรื่องงานสำคัญกว่าไม่ใช่เหรอครับอิงดาว” ธารากล่าวเน้นย้ำคำว่า ‘งาน’ สายตาของเขาเหลือบมองพฤกษ์อย่างไม่เป็นมิตร
พฤกษ์รู้สึกได้ถึงบรรยากาศมาคุที่แผ่ซ่านออกมาจากธารา เขายิ้มอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไรครับคุณอิงดาว ถ้าอย่างนั้นคุณไปจัดการเรื่องงานของคุณก่อนนะครับ เดี๋ยวผมรอทานอาหารคนเดียวก็ได้ครับ”
“แต่...” อิงดาวรู้สึกเกรงใจพฤกษ์
ธาราไม่รอให้อิงดาวพูดจบ เขาก้าวเข้ามาใกล้อิงดาวมากขึ้น “ไปกันเถอะครับอิงดาว เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆ ครับ” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือไปจับแขนอิงดาวเบาๆ เชิงบังคับให้อิงดาวเดินตามเขาไป
อิงดาวได้แต่หันไปมองพฤกษ์ด้วยความรู้สึกขอโทษ ก่อนจะเดินตามธาราไปอย่างไม่เต็มใจนัก
หลังจากเหตุการณ์นั้น ธาราก็เริ่ม จงใจขัดจังหวะ การพบกันของอิงดาวและพฤกษ์บ่อยขึ้น เขามักจะหาเรื่องงานเร่งด่วน หรืออ้างเหตุผลต่างๆ นานา เพื่อดึงอิงดาวให้อยู่กับเขาแทนที่จะปล่อยให้เธอไปอยู่กับพฤกษ์
บางครั้งเมื่อพฤกษ์โทรหาอิงดาวในเวลางาน ธาราก็จะเดินเข้ามาในห้องทำงานของอิงดาว และเริ่มพูดคุยเรื่องงานอย่างเสียงดัง เพื่อให้อีกฝ่ายได้ยินว่าอิงดาวกำลังยุ่งอยู่
“อิงดาวครับ เรื่องเอกสารเมื่อเช้าพี่อยากให้อิงดาวช่วยสรุปให้ละเอียดกว่านี้หน่อยนะครับ” ธาราพูดขึ้นขณะที่อิงดาวกำลังคุยโทรศัพท์กับพฤกษ์ “ต้องส่งภายในวันนี้เลยนะครับ”
อิงดาวทำหน้ายุ่ง “เดี๋ยวอิงดาวโทรกลับนะคะ” เธอพูดกับพฤกษ์ในโทรศัพท์ แล้ววางสายไป ก่อนจะหันมามองธาราด้วยความสงสัย “มีอะไรเหรอคะพี่ธารา”
“ไม่มีอะไรครับ แค่อยากจะมาทบทวนเรื่องงานน่ะครับ” ธาราตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นปกติ แต่ในใจกลับรู้สึกพึงพอใจที่ได้ขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่
การกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้อิงดาวเริ่มรู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของธารา เธอเริ่มสังเกตเห็นว่าธาราดูเหมือนจะไม่ชอบให้เธออยู่ใกล้กับพฤกษ์ แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดไปไกลกว่านั้น
สำหรับธาราแล้ว การได้เห็นอิงดาวอยู่ใกล้เขา ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ ทำให้เขารู้สึกสบายใจมากกว่าการเห็นเธออยู่กับพฤกษ์ ความรู้สึกหงุดหงิดที่เคยมีก็ลดลงไปบ้างชั่วคราว
ในแต่ละวันที่ผ่านไป ธาราต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ซับซ้อนภายในใจของตัวเอง เขาพยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่คือการห่วงใยน้องสาว แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่นั้น
เขามักจะนั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงานยามค่ำคืน นึกถึงภาพของอิงดาวกับพฤกษ์ ความรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดจะถาโถมเข้ามาอีกครั้ง
“ทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย” ธาราพึมพำกับตัวเอง “อิงดาวมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขกับใครก็ได้นี่นา”
แต่เมื่อเขาพยายามที่จะหยุดคิดถึงเรื่องนี้ ภาพรอยยิ้มของอิงดาวเมื่ออยู่กับพฤกษ์ก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ทำให้เขาต้องยอมแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเอง
เขาเริ่มตระหนักว่า ความหงุดหงิด ความไม่พอใจ และการพยายามขัดขวางการออกเดทของอิงดาว ไม่ใช่แค่ปฏิกิริยาของพี่ชายที่หวงน้องสาวอีกต่อไป แต่มันคือสัญญาณของความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น... ความรัก
บททดสอบความใกล้ชิดครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างอิงดาวกับพฤกษ์เท่านั้น แต่ยังเป็น บททดสอบที่สำคัญ ที่ทำให้ธาราต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงในใจของเขา ความรู้สึกที่เขาเคยปฏิเสธมาตลอดชีวิต ตอนนี้มันชัดเจนเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้อีกต่อไป และมันกำลังจะนำพาความสัมพันธ์ของเขากับอิงดาวไปสู่จุดที่คาดไม่ถึง
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่