หลังจากที่เมฆหมอกแห่งความมืดมิดจางหายไป พายุร้ายได้พัดผ่าน และความจริงปรากฏต่อสาธารณชน โปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ที่เคยเป็นเป้าหมายของแผนการร้ายของแพรไหมและภูริช ก็กลับมาเดินหน้าอย่างเต็มกำลังอีกครั้ง ทีมงานทุกคนกลับมารวมตัวกันด้วยขวัญกำลังใจที่เต็มเปี่ยม ต่างมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ความสามารถและกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทที่ถูกทำลายลงไป
อลิสาในฐานะหัวหน้าสถาปนิกและผู้ดูแลโปรเจกต์ ลงมือทำงานอย่างเต็มที่ เธอใช้ความเชี่ยวชาญและความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตรวจสอบงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียดถี่ถ้วน
เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนและมีคุณภาพสูงสุด คีรินทร์เองก็เข้ามาดูแลการบริหารจัดการและกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด ให้การสนับสนุนทีมงานอย่างเต็มที่ และคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับอลิสาในทุกเรื่อง
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทีมงานทุกคน โปรเจกต์ที่เคยหยุดชะงักก็กลับมามีความคืบหน้าอย่างน่าทึ่ง การก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวางได้อีก ความเสียหายที่เคยเกิดขึ้นได้รับการแก้ไข และทุกอย่างกลับมาอยู่ในแผนที่วางไว้
ในที่สุด วันแห่งความภาคภูมิใจก็มาถึง โปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่สร้างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอย่างงดงาม ตัวอาคารสูงตระหง่านสะท้อนแสงอาทิตย์อย่างเจิดจรัส การออกแบบที่ทันสมัย ผสานกับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน
ทำให้เป็นที่กล่าวขวัญและชื่นชมในวงการสถาปัตยกรรมและธุรกิจ ทุกองค์ประกอบของอาคารเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถ ความมุ่งมั่น และความซื่อสัตย์ของอลิสาและทีมงาน
งานส่งมอบโปรเจกต์จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ลูกค้า ผู้บริหารระดับสูง และสื่อมวลชนจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในความสำเร็จครั้งนี้ อลิสาและคีรินทร์ยืนอยู่บนเวที
รับคำชื่นชมและเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความสุขที่ได้เห็นผลลัพธ์จากความทุ่มเททั้งหมด
“ผมขอขอบคุณคุณอลิสา และทีมงานทุกคนที่ร่วมกันพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” คีรินทร์กล่าวในพิธีเปิดงานด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ความสำเร็จของโปรเจกต์นี้ไม่ได้มาจากแค่ความสามารถ แต่มาจากความมุ่งมั่น ความซื่อสัตย์ และหัวใจที่แข็งแกร่งของพวกเราทุกคน”
อลิสาได้รับช่อดอกไม้และเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม เธอได้รับคำยกย่องว่าเป็นสถาปนิกผู้มีความสามารถและมีคุณธรรม ผู้บริหารหลายคนเข้ามาแสดงความยินดีและขอบคุณเธอเป็นการส่วนตัว ลูกค้าต่างชื่นชมในความรับผิดชอบและความเป็นมืออาชีพของเธอ ชื่อเสียงของอลิสากลับมาโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า เช่นเดียวกับคีรินทร์ที่ได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำที่เข้มแข็งและยุติธรรม
ค่ำคืนนั้น บริษัทจัดงานเฉลิมฉลองความสำเร็จของโปรเจกต์อย่างยิ่งใหญ่ในห้องบอลรูมของโรงแรมหรู บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ผู้คนในชุดราตรีและสูทหรูหราเดินไปมาอย่างมีความสุข เพลงบรรเลงคลอเบาๆ สร้างความอบอุ่นไปทั่วทั้งงาน
มิ้นท์และพี่ปกรณ์ก็มาร่วมงานด้วย พวกเขายิ้มให้กันด้วยความยินดีที่เห็นเพื่อนรักทั้งสองประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
“ลิซสวยที่สุดเลยวันนี้!” มิ้นท์โอบกอดเพื่อนรักแน่น “ดีใจด้วยนะลิซ ที่ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี”
“ขอบคุณนะมิ้นท์” อลิสาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่มีมิ้นท์กับพี่ปกรณ์ช่วย ก็คงไม่สำเร็จแบบนี้หรอก”
เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานดังขึ้นบนฟลอร์เต้นรำ คีรินทร์ยื่นมือไปเชิญอลิสาเต้นรำ “มาเต้นกันครับคนเก่ง”
อลิสายิ้มรับ เธอวางมือบนมือของเขา แล้วก้าวเข้าสู่ฟลอร์เต้นรำด้วยกัน คีรินทร์จับมือเธอไว้แน่น และโอบเอวเธออย่างทะนุถนอม พวกเขาเริ่มเต้นรำไปตามจังหวะเพลงอย่างมีความสุข คีรินทร์หมุนตัวอลิสาอย่างสนุกสนาน ทำให้กระโปรงราตรีของเธอพลิ้วไหวไปตามจังหวะ เธอกลั้วหัวเราะอย่างสดใส เป็นเสียงหัวเราะที่แท้จริงที่เธอไม่ได้ยินมานานแสนนาน
ดวงตาของคีรินทร์จับจ้องอยู่ที่เธอไม่ห่าง สายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความชื่นชม และความสุขที่เอ่อล้นออกมาจากหัวใจ เขาดึงเธอเข้ามากอดอย่างแผ่วเบา แต่แน่นหนาพอที่จะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเธอเบาๆ ท่ามกลางสายตาชื่นชมของผู้คนในงาน พวกเขาสองคนดูราวกับคู่รักในเทพนิยาย ที่ผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างมาด้วยกัน และกำลังยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งความสุข
อลิสาเงยหน้าขึ้นมองคีรินทร์ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข “เราทำได้แล้วนะคะพี่คี” เธอกระซิบแผ่วเบา เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อยด้วยความตื้นตันใจ
คีรินทร์ยิ้มตอบกลับมา เขาก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม เป็นจูบที่ยาวนาน นุ่มนวล แต่เปี่ยมไปด้วยความหมาย มันเป็นการยืนยันว่าความสำเร็จนี้เป็นของพวกเขา เป็นความสำเร็จที่ไม่ได้มาจากการแย่งชิงหรือการทำร้ายผู้อื่น แต่มาจากการทำงานหนัก ความซื่อสัตย์ และความรักที่แท้จริงที่พวกเขามีให้กัน
ความรักของอลิสาและคีรินทร์คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ขับเคลื่อนให้พวกเขาผ่านพ้นทุกอุปสรรคมาได้ ไม่ว่าจะเป็นแผนการร้ายของศัตรู หรือความท้าทายในหน้าที่การงาน ความรักของพวกเขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน กลายเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตที่สดใสที่รออยู่ข้างหน้า พวกเขาจับมือกันแน่นบนฟลอร์เต้นรำ พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในทุกย่างก้าวของชีวิต ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความสุขและความเชื่อมั่นในกันและกัน
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่