ตอนที่ 2 จดจำเหยื่อ
พลอยใสเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวใส่ในกระเป๋าที่ธาราเป็นคนเตรียมมาให้เพราะพรุ่งนี้รถที่บ้านฮาร์เปอร์จะมารับตอนเก้าโมงเช้า
“พรุ่งนี้เราจะต้องย้ายบ้านกันแล้วนะเจ้าหมี”
เด็กสาวพูดกับตุ๊กตาตัวโปรดที่นอนกอดทุกคืน โดยไม่ลืมที่จะเก็บใส่กระเป๋าไปด้วยพร้อมกับรูปแผ่นเล็กที่เธอขอแม่แก้วมาเมื่อสองปีก่อน เป็นรูปของชายหนุ่มเมื่อครั้งที่นำเงินและของเล่นมาบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้าเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเป็นรูปของชายหนุ่มที่เธอไม่รู้จักแต่รู้ว่าเขาคือผู้มีพระคุณ แม้จะเป็นรูปที่มองเห็นแค่ด้านข้างแต่ก็พอมองออกว่าคนในรูปนั้นรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเพียงใด และหวังว่าสักวันเธอจะมีโอกาสได้เจอตัวจริงและขอบคุณเขาด้วยตัวเอง
เช้าวันถัดมา
พลอยใสเข้าไปกราบลาแม่แก้วซึ่งเป็นคนที่ดูแลเธอและเพื่อน ๆ มาตั้งแต่เล็กด้วยน้ำตาที่นองหน้า
“พลอยมาลาค่ะแม่แก้ว” ร่างอรชรที่กำลังเจริญเติบโตเข้าสู่วัยสาวคลานเข่าเข้าไปหาผู้ที่เลี้ยงดูเธอมาแต่อ้อนแต่ออก
“แม่ขอให้พลอยโชคดีนะลูกเป็นบุญของหนูกับเพื่อนที่คุณชาร์วีให้ความเมตตา อนาคตด้านการเรียนของพวกหนูคงไม่ลำบากแล้วแม่ดีใจด้วยจริง ๆ ไปอยู่บ้านใหม่ก็ทำตัวดี ๆ ทำให้เขารัก เป็นเด็กดี เชื่อฟังที่ผู้ปกครองสอน ตั้งใจเรียน ขอให้หนูมีอนาคตที่ดีต่อจากนี้”
แม่แก้วให้พรเด็กสาวทั้งน้ำตาเมื่อเด็กที่เลี้ยงดูมากำลังจะจากอ้อมอกไปสู่โลกภายนอก เด็กสาวสวมกอดแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กร้องไห้ตัวโยน จนธาราเดินเข้ามาและเสียงร้องนั้นค่อย ๆ เงียบลง
“ฝากคุณธาราดูแลเด็ก ๆ ด้วยนะคะโดยเฉพาะพลอยใสแกเป็นเด็กดีมาก ช่วยสอนให้เธอเป็นคนที่ดีอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างปลอดภัยและเข้มแข็ง ถ้าหากว่าเธอทำอะไรผิดก็ช่วยอบรมสั่งสอนบอกพวกเขาดี ๆ นะคะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดี แม่แก้วไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเพราะว่าคุณชาร์วีได้เตรียมสังคมที่ดีไว้ให้กับทั้งสามคนแล้ว ส่วนพลอยใสผมจะช่วยดูแลอย่างดีไม่ต่างจากน้องสาวของผม แม่แก้ววางใจได้ครับ” ธารารับปากแม่แก้วอย่างหนักแน่นก่อนที่จะเดินไปสมทบกับเด็กสาวอีกสองคนที่กำลังหิ้วกระเป๋าเดินไปขึ้นรถ
“พลอยไปนะคะแม่แก้ว แล้วพลอยจะหาเวลามาเยี่ยมแม่แก้วบ่อย ๆ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ” พลอยใสยื่นกระเป๋าให้คนขับรถก่อนจะวิ่งมากอดแม่แก้วอีกครั้งและร้องไห้
“ไปเถอะลูกแล้วถ้าว่างก็ค่อยกลับมาเยี่ยมแม่กับน้อง ๆ แล้วก็อย่าลืมที่แม่สอนนะลูก” แม่แก้วน้ำตาซึมยืนส่งเด็กสาวทั้งสามคนขึ้นรถ โดยพลอยใสถูกสั่งให้นั่งรถตู้คันเดียวกันกับธารา ส่วนอีกสองคนนั่งคันเดียวกันกับบอดี้การ์ดที่ติดตามมาด้วย จนกระทั่งรถเคลื่อนออกจากประตูบ้านเด็กกำพร้าไปจนลับสายตา
พลอยใสถูกพามายังบ้านหลังใหญ่ ซึ่งภายในบริเวณรั้วบ้านนั้นมีบ้านเล็ก ๆ อีกหลายหลังแยกเป็นสัดส่วนและมีสวนขนาดใหญ่อีกทั้งต้นไม้ดอกไม้นานาชนิด พลอยใสรู้สึกชอบบ้านหลังใหม่แห่งนี้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง
“พี่ธาราคะ? อันนี้เขาเรียกว่าบ้านเหรอคะพลอยนึกว่าคฤหาสน์เสียอีก” พลอยใสตาโตหันมาถามธาราเมื่อรถตู้แล่นเข้ามาบริเวณอาณาจักรบ้านฮาร์เปอร์
“นี่คือบ้านฮาร์เปอร์ บ้านหลังใหม่ของพลอยและเพื่อน ๆ ต่อจากนี้พลอยคือสมาชิกของบ้านหลังนี้” ธาราบอกเด็กสาวและยิ้มอย่างเอ็นดู
“โห ใหญ่โตสมกับเป็นบ้านของคนรวยเลยค่ะ” พลอยใสยังคงชื่นชมภาพตรงหน้าไม่ขาดปาก เพราะตั้งแต่โตมาจนอายุสิบสามยังไม่เคยออกจากบ้านเด็กกำพร้าไปไหนไกล ๆ นอกจากไปโรงเรียนและไปซื้อกับข้าวที่ตลาดใกล้ ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นบรรยากาศภายนอกสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเติบโตมา
“ชอบหรือเปล่าล่ะ” ธาราถามเด็กสาวด้วยความเอ็นดู
“ชอบค่ะ แต่ก็ดูน่ากลัวมีผู้ชายชุดดำยืนเต็มกันไปหมดเลยค่ะ” แววตาสดใสฉายแววกังวลออกมาเล็กน้อยเมื่อกวาดสายตามองรอบ ๆ ก็เจอกับบอดี้การ์ดร่างกำยำสวมชุดสูทสีดำยืนประจำจุดต่าง ๆ ทั่วบริเวณบ้าน
“ไม่ต้องกลัวหรอกพวกนั้นมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับทุกคนภายในบ้าน” ธาราบอกให้เด็กสาวสบายใจ ก่อนจะลงจากรถและพาไปแนะนำให้ป้าณีแม่บ้านคนเก่าคนแก่ให้รู้จักเด็กสาวทั้งสามซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านฮาร์เปอร์
“มากันแล้วเหรอคะ” ป้าณีทักขึ้นมาเมื่อเห็นธาราเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่พร้อมกับเด็กสาววัยแรกแย้มอีกสามคน
“ครับป้า ผมขอแนะนำให้รู้จักนะครับนี่พลอยใส แก้วใสและผ้าไหมครับ ทั้งสามคนคือเด็กที่คุณชาร์วีรับอุปการะส่งเสียให้เรียนต่อและให้มาช่วยงานป้าณีด้วยครับ” ธาราแนะนำเด็กทั้งสามคนที่พามาจากบ้านเด็กกำพร้าให้ป้าณีได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม
“สวัสดีจ้ะป้าชื่อป้าณี ยินดีต้อนรับสู่บ้านฮาร์เปอร์ ขอให้หนู ๆ อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขและตั้งใจเรียนกัน ส่วนงานที่จะให้คอยช่วยเหลือระหว่างอยู่ที่นี่คุณธาราบอกกับเด็ก ๆ หรือยังคะ” ป้าณีทักทายเด็กสาวทั้งสามพร้อมแนะนำตัวเองก่อนจะหันมาถามธารา
“ยังครับ เดี๋ยวผมให้ป้าณีเป็นคนจัดการชี้แจงรายละเอียดงานดีกว่าครับ เพราะงานบ้านงานเรือนผมคงไม่ถนัดเท่าไหร่ แต่ถ้างาน..”
“อย่าพูดแบบนั้นให้เด็ก ๆ ได้ยินเชียวนะคะ” ยังไม่ทันที่ธาราจะพูดจบเสียงของแม่บ้านก็พูดดักขึ้น
“อะไรกันครับผมแค่จะบอกว่า งานบ้านผมไม่ถนัดแต่ถ้างานนอกบ้านผมเก่งที่สุดครับ”
“คุณวีบอกว่าถ้าคุณธารามาถึงแล้วให้ไปพบที่ห้องทำงานนะคะ” ป้าณีส่ายหัวกับคำพูดของมือขวาเจ้านายก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งประมุขของบ้านให้ชายหนุ่มทราบ
“โอเครับ ถ้าอย่างนั้นผมฝากป้าณีช่วยดูแลทั้งสามคนด้วยนะครับ แล้วก็รบกวนหาอะไรให้เด็ก ๆ ทานรองท้องไปก่อนเดี๋ยวเสร็จจากคุยกับนายผมจะมาคุยเรื่องกฎระเบียบในการอยู่ที่นี่และจะพาไปส่งที่พักเอง เด็ก ๆ ป้าณีจะคอยบอกว่าอยู่ที่นี่ต้องทำอะไรบ้างในส่วนของงานบ้านนอกเหนือจากเวลาที่ต้องไปเรียน เสร็จแล้วก็นั่งทานขนมรอก่อนนะเดี๋ยวจะพาไปดูห้องพัก ตั้งใจฟังสิ่งที่ป้าณีบอกและทานขนมให้อร่อย ส่วนเราอย่าเผลอกินขนมจนเพลินล่ะเดี๋ยวจะทำงานช่วยป้าณีไม่ไหว”
ธาราฝากฝังเด็กทั้งสามกับป้าณีพร้อมกับหันมาบอกสมาชิกใหม่ของบ้านฮาเปอร์ทั้งสามคน ก่อนจะหันไปพูดเล่นกับพลอยใสแล้วรีบเดินไปยังห้องทำงานของผู้เป็นนายทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” ธาราเปิดประตูห้องทำงานใหญ่เข้าไปทันทีที่ได้รับอนุญาต ชาร์วีเหลือบตาขึ้นมองบอดี้การ์ดมือขวาคนสนิทก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“ไปรับมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยครับ นี่ครับประวัติทั้งหมดของเด็กทั้งสามคนที่เรารับมาอุปการะ” ธารายื่นประวัติของเด็กสาวทั้งสามพร้อมเอกสารสำคัญที่นำมาจากบ้านเด็กกำพร้ารวมทั้งใบรายงานผลการศึกษาให้ผู้เป็นนาย ชาร์วีรับมาเปิดดูทีละคนพร้อมอ่านอย่างรวดเร็วแต่จำทุกรายละเอียด ก่อนจะสะดุดตากับประวัติแผ่นสุดท้ายที่กำลังถืออยู่ในมือ
“พลอยใส วัชรพงษ์ เด็กคนนี้คือคนที่วิ่งชนฉันเมื่อหลายปีก่อนใช่ไหม” เสียงเรียบเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทในขณะที่สายตาคมกำลังจ้องมองดูรูปเจ้าของชื่อพลางคิดในใจว่าใช่เด็กน้อยที่วิ่งชนเขาในวันนั้นหรือไม่ มาวันนี้กลับโตขึ้นผิดหูผิดตาจนเขาจำแทบไม่ได้ ถ้าไม่ไล่ดูรูปในแต่ละปีที่แนบมากับเอกสารในมือซึ่งเป็นข้อมูลอัปเดตการเปลี่ยนแปลงของเด็กแต่ละคนในแต่ละปีที่ทางบ้านเด็กกำพร้าแนบมาให้ชาร์วีคิดว่าเขาก็คงจำไม่ได้แน่
“ใช่ครับ พลอยใสคือเด็กน้อยคนที่วิ่งชนนายวันนั้น” สายตาคมยังไม่ละไปจากรูปถ่ายของเด็กสาวที่กำลังยิ้มร่าอย่างมีความสุขให้กล้อง ยิ่งเป็นรูปถ่ายแผ่นสุดท้ายที่พึ่งถ่ายไปเมื่อเดือนก่อนเป็นรูปเด็กสาวที่กำลังก้าวสู่ช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังน่ารักน่าหลงใหล
“แล้วตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ที่ไหน”
“อยู่กับป้าณีครับ ป้าณีกำลังบอกเด็ก ๆ ถึงหน้าที่งานในครัวและงานบ้าน แล้วเดี๋ยวผมจะไปชี้แจงเรื่องกฎระเบียบในการอยู่ที่นี่และจะพาไปยังบ้านพัก
“อืม มึงจัดการไปได้เลยถ้าต้องการอะไรก็บอก”
“นายอยากจะเจอเด็กทั้งสามคนหรือเปล่าครับ”
ธาราถามผู้เป็นนายเผื่อว่าเจ้านายของเขาจะอยากรู้จักเด็กในปกครองของตนเองไว้ เพราะตอนนี้นอกจากสั่งให้รับเด็กมาอุปการะชาร์วีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธาราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาที่เรียน ที่พัก ซึ่งชาร์วีเพียงแค่สั่งการและจ่ายเงินเท่านั้น เด็กทั้งสามคนที่ชายหนุ่มรับอุปการะก็รู้เพียงว่าเจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่พวกเธอย้ายเข้ามาอยู่และเป็นผู้ที่จะดูแลเรื่องการเรียนและความเป็นอยู่ของพวกเธอต่อจากนี้ชื่อว่าคุณวีเท่านั้น และยังไม่มีโอกาสที่จะได้เจอตัวจริง
“ไม่จำเป็น ฉันแค่รับมาอุปการะเพื่อส่งเสียให้ได้เรียนเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีในอนาคตตามเจตนารมณ์ของพ่อเท่านั้นที่ต้องการหยิบยื่นโอกาสให้เด็กที่ไม่มีโอกาสได้มีชีวิตที่ดี เมื่อเรียนจบก็แล้วแต่ชีวิตของพวกเขาจะเลือกทางเดินของตัวเอง ระหว่างนี้มึงก็คอยสอดส่องดูแลก็แล้วกัน”
“แล้วเรื่องโรงเรียนที่ผมเสนอไปให้ล่ะครับนายเลือกหรือยังว่าจะให้พวกเธอเรียนที่ไหน” ธาราถามถึงโรงเรียนที่ชาร์วีจะให้เด็กในอุปการะเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ชาร์วีสั่งให้เขาไปหาข้อมูลมาสามสี่ที่เพื่อให้เจ้านายหนุ่มตัดสินใจ
“ส่งเรียนที่โรงเรียนนานาชาติBNทุกคน ถ้าว่างมึงก็พาไปจัดการสมัครเรียนได้เลย” โรงเรียนแห่งใหม่สำหรับเด็กในอุปการะทั้งสามคน และเป็นโรงเรียนที่ค่าเทอมแพงที่สุดในบรรดาโรงเรียนที่ธาราส่งข้อมูลให้พิจารณา
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปจัดการพาเด็กเข้าที่พักและชี้แจงกฎระเบียบการอยู่ร่วมกันให้เด็ก ๆ ทราบก่อนนะครับ ขอเอกสารคืนครับ” เมื่อรายงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยธาราจึงขอเอกสารประวัติของแต่ละคนคืนเพื่อจะได้พาไปสมัครเรียน และอีกอย่างเอกสารพวกนี้ก็ไม่ใช่เอกสารสำคัญอะไรกับเจ้านาย และคนอย่างชาร์วีก็ไม่เคยคิดเก็บอะไรที่ไม่สำคัญให้รกห้องรกสมอง แฟ้มประวัติสองแฟ้มถูกส่งคืนให้ธารา
“ของพลอยใสล่ะครับ” ธาราถามขึ้นมาอย่างแปลกใจเมื่อยืนรออยู่แต่เจ้านายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะส่งประวัติของพลอยใสคืน
“ฉันยังอ่านประวัติเด็กคนนี้ไม่จบ” เสียงเรียบบอกกับมือขวาคนสนิทก่อนจะดึงแฟ้มเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้ามาเปิดเซ็นเหมือนต้องการตัดบทสนทนา
ตอนที่ 3 ส่งเสียเลี้ยงดู“ปะ เด็ก ๆ ทานขนมกันเสร็จหรือยังจะพาไปดูที่พัก” เสียงธาราดังขึ้นหลังจากที่เดินออกมาจากห้องทำงานของชาร์วีและเดินตรงมายังเด็กสาวทั้งสามคนที่กำลังนั่งคุยกันสนุกสนาน“ทำไมพี่ธารากลับมาเร็วจังคะ? พวกเรายังกินขนมฝีมือป้าณีไม่อิ่มเลย” พลอยใสที่กำลังจะหยิบขนมเข้าปากเป็นคำที่เท่าไหร่ไม่รู้ ทำตาละห้อยเหมือนกับว่าเวลาแห่งความสุขกำลังจะโดนพรากไป“ไม่ใช่พวกเราหรอกที่ยังไม่อิ่มเธอคนเดียวต่างหากพลอยใสฉันกับผ้าไหมอิ่มตั้งนานแล้ว” แก้วใสแย้งขึ้นทันควัน พลอยใสจึงส่งขนมในมือเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยสีหน้าละห้อยเมื่อมองดูขนมที่ยังเหลืออยู่ในจาน“ไม่กลัวอ้วนเหรอเราน่ะเห็นขนมเป็นไม่ได้เลยนะ” ธาราที่เดินมาถึงกลุ่มเด็กสาวขยี้หัวพลอยใสเบา ๆ อย่างเอ็นดู“ก็ขนมฝีมือป้าณีอร่อยนี่คะ อร่อยกว่าขนมที่พี่ธาราเคยซื้อไปฝากอีก” พลอยใสรีบกลืนขนมลงคอก่อนจะคว้าน้ำมาดื่มตามทันทีเพราะกลัวว่าธาราจะรอนาน“ไม่ต้องกลัวหรอกต่อไปนี้ได้กินฝีมือป้าณีจนเบื่อแน่” ธาราบอกกับพลอยใส เด็กสาวจึงยิ้มแป้นก่อนจะรีบเก็บจานขนมและแก้วน้ำไปคืนป้าณีที่ในครัวโดยมีผ้าไหมและแก้มใสเดินตามไปด้วย“ที่พักของพวกเราอยู่ที่นี่ด้วยหรือเป
ตอนที่ 4 เจ้านายในความลับเด็กสาวในชุดนักเรียนกระโปรงลายสกอตเสื้อนักเรียนสีขาวแขนสั้น เดินตามทางเดินไปขึ้นรถตู้ของบ้านฮาร์เปอร์ที่จอดรออยู่บริเวณลานหน้าบ้านและมีคนขับยืนประจำอยู่ที่รถ“ตั้งใจเรียนกันให้ดีเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองนะ วันนี้พี่ติดงานสำคัญไม่ได้ไปส่งเดี๋ยวคนขับรถจะพาไป” ธาราที่ติดงานสำคัญกับชาร์วีในตอนเช้าแต่ก็เดินมาส่งเด็กสาวทั้งสามคนขึ้นรถพร้อมให้กำลังใจในวันเปิดเรียนวันแรก หลังจากที่พลอยใสและเพื่อนอีกสองคนขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถตู้สีดำก็แล่นออกจากอาณาจักรบ้านหลังใหญ่มุ่งตรงไปยังโรงเรียนนานาชาติชื่อดังที่มีค่าเทอมแพงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย“ว้าว ทำไมวันนี้ที่โรงเรียนดูครึกครื้นมากเป็นพิเศษนะว่าไหม” แก้วใสพูดขึ้นมาหลังจากที่รถเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณโรงเรียน ซึ่งกว่ารถตู้ที่พวกเธอนั่งจะหลุดจากการจราจรที่หนาแน่นได้ก็กินเวลาพอสมควรเพราะรถติดตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงด้านในโรงเรียน เนื่องจากเป็นวันเปิดเรียนวันแรก ผู้ปกครองต่างมาส่งลูกหลานด้วยตนเอง“ก็วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกก็ต้องดูครึกครื้นเป็นธรรมดา ตอนนี้ฉันตื่นเต้นจนอยากจะลงจากรถเดี๋ยวนี้เลย” ผ้าไหมหันไปตอบแก้มใสก่อนจะหั
ตอนที่5 เพียงแค่เงาพลอยใสในวัย17 ปี เริ่มโตเป็นสาวเต็มตัว กำลังนั่งหัดเล่นกีตาร์อยู่ที่ม้าหินอ่อนในสวนหย่อมที่เดิมในวันหยุดเมื่อเสร็จจากการทำงานในครัวและทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ตามที่ได้รับมอบหมาย เด็กสาวใช้เวลาว่างระหว่างช่วงกลางวันมานั่งทบทวนบทเรียนและฝึกเล่นดนตรีซึ่งเป็นอีกอย่างที่พลอยใสชอบทำ กีตาร์ตัวโปรดเป็นของชิ้นแรกที่เธอเก็บเงินซื้อเองจากค่าขนมที่ชาร์วีให้ในแต่ละวัน พลอยใสชื่นชอบดนตรีเพราะรู้สึกว่าเสียงดนตรีทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย และเธอก็ชอบเสียงกีตาร์โดยเฉพาะแนวอะคูสติก“ทำไมโน๊ตตัวนี้แกะยากจังนะ” พลอยใสพึมพำกับตัวเองเมื่อนั่งแกะโน๊ตเพลงที่ต้องการไม่ได้สักที อีกไม่กี่วันเธอก็ต้องไปสอบกับอาจารย์ที่สอนวิชาดนตรีแล้ว พลอยใสถอนหายใจออกมาเป็นระยะเมื่อการเล่นกีตาร์ของเธอยังไม่เป็นที่พึงพอใจเสียงกีตาร์ดังไปรบกวนการทำงานของเจ้าของบ้านที่วันนี้หยุดทำงานอยู่ที่บ้าน และบังเอิญเปิดหน้าต่างห้องทำงานเพื่อรับลมเย็น ๆ และอากาศบริสุทธิ์ จนต้องหยุดชะงักงานในมือและตั้งใจฟังเสียงกีตาร์ที่ไม่เคยได้ยินในบ้านหลังนี้มาก่อน“ใครมาดีดกีตาร์แถวนี้” ชาร์วีอดไม่ได้ที่จะโผล่หน้าออกมาดูต้นตอของเสียงนั้นแต่
ตอนที่6 แม่ครัวคนใหม่“ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพลอยขอตัวก่อนนะคะ” พลอยใสพูดขึ้นเมื่อจัดเตรียมมื้อเย็นสำหรับเจ้าของบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว“จ้ะ กลับไปพักผ่อนเถอะลูกทางนี้ป้าจัดการต่อเอง” เด็กสาวที่รู้หน้าที่ของตัวเองดีจึงไม่อยู่รบกวนเวลาส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ทั้งที่เธออยากเจอหน้าผู้ปกครองของเธอมากก็ตาม“แขขึ้นไปเชิญคุณวีมาทานข้าว” เท้าเล็กที่กำลังเดินพ้นขอบประตูบ้านหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงป้าณีสั่งแม่บ้านอีกคนให้ไปตามชายหนุ่มลงมาทานข้าว และนั่นจะเป็นโอกาสที่เธอจะได้เจอมาเฟียหนุ่มถ้าเธอหาเรื่องประวิงเวลาเพื่ออยู่ที่นี่ต่อ“~” เด็กสาวยืนคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจก้าวเท้าเดินออกจากบ้านใหญ่ไปโดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลยหลังจากทานมื้อเย็นกับเพื่อน ๆ แล้วเสร็จพลอยใสก็หยิบกีตาร์ตัวโปรดมานั่งแกะโน๊ตต่อจากที่ค้างไว้เมื่อช่วงเย็น เสียงใสของคอร์ดอีไมเนอร์ที่อยู่ในท่อนสุดท้ายช่วยส่งอารมณ์เพลงให้จบลงอย่างสมบูรณ์“เฮ้อ! เสร็จสักที ปวดนิ้วไปหมดแล้ว” นิ้วเรียวเล็กที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยกดของสายกีตาร์ถูกยกขึ้นสำรวจอีกครั้งหลังจากที่ถูกใช้งานไปอย่างหนักตลอดทั้งวันชาร์วีที่กำลังนั่งดูภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงผ่าน
ตอนที่7 พบเจอเพียงแค่รูปถ่ายพลอยใสออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนหย่อมอย่างเช่นทุกวัน บรรยากาศที่มีลมพัดเอื่อย ๆ เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน กุหลาบที่เธอปลูกไว้หลายต้นตอนนี้ออกดอกส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตามลม ท้องฟ้าที่มืดสลัวมีเพียงพระจันทร์และกลุ่มดาวที่ทอแสงสว่างให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง เพราะความสว่างของไฟฟ้าในเมืองหลวงบดบังความสวยงามแท้จริงของกลุ่มดาวหลายล้านดวง“นั่นพี่ธารานี่ กำลังจะออกไปข้างนอกสินะ” ธาราเดินออกมาจากบ้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงยีนสีเดียวกันกับรองเท้าหนังสีดำมันวาว“คุณวี” ชายหนุ่มร่างกำยำเดินตามหลังออกมาในชุดคล้าย ๆ กัน ขายาวหุ่นนายแบบรีบเดินไปขึ้นรถสปอร์ตคู่ใจสีดำที่ธาราขึ้นนั่งประจำคนขับอยู่ก่อนแล้ว“ใช่คุณจริง ๆ สินะ” แม้จะเห็นใบหน้าของชายหนุ่มโดยไม่มีอะไรมาบดบังแต่ด้วยความที่เป็นช่วงเวลากลางคืนจึงไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดชัดเจนขนาดนั้นตั้งแต่พลอยใสอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าจนย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เธอรู้เพียงว่าคนที่อุปการะเธอชื่อคุณวีเพียงเท่านั้น เพราะแม่แก้วจะบอกกับเด็ก ๆ เสมอว่าคนใจดีที่ดูแลพวกเธอชื่อคุณวี ไม่มีชื่อจริง ชื่อเต็ม หรือชื่ออื่น ๆ ให้เรียก และตอนนี้เ
ตอนที่8 แรกพบเลิกเรียน“วันนี้จะแวะซื้อขนมที่ไหนหรือเปล่าครับ” ลุงคนขับรถเอ่ยถามทันทีที่พลอยใสก้าวเท้าขึ้นมาบนรถ“เอ่อ..เปล่าค่ะ กลับบ้านเลยค่ะ” พลอยใสตอบกลับแบบงง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เลยนึกคำพูดของธาราเมื่อเช้าที่บอกกับเธอว่าตอนเย็นในบ้านจะกลับมาปกติเหมือนเดิมบ้านฮาร์เปอร์“วันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับ” เสียงบอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้าที่อยู่หน้าบ้านเอ่ยทักทายเด็กสาวอย่างเช่นทุกวัน“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ พี่ ๆ ล่ะคะ ทำงานกันเหนื่อยไหมคะวันนี้” เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ บ้านฮาร์เปอร์กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังเจอมรสุมลูกใหญ่จากประมุขของบ้านถูกจัดการไปสี่ทุ่ม“เธอจะออกไปไหนเหรอพลอยใส ผ้าไหมที่ลุกไปเข้าห้องน้ำและกำลังเดินกลับเข้ามานอนถามขึ้นเมื่อเห็นพลอยใสถือผ้าคลุมกำลังจะเดินออกจากห้อง”“พลอยรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับน่ะว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ไหมนอนก่อนเลยนะ” พลอยใสบอกกับเพื่อนร่วมห้องนอนของเธอ“อืม ตามใจดึก ๆ ดื่น ๆ ยังจะออกไปเดินเล่นอีกนะเธอนี่ ฉันนอนก่อนล่ะไม่ไหวง่วง” ผ้าไหมพูดพร้อมกับเดินไปขึ้นเตียงปิดโคมไฟหัวเตียงและนอนหลับไปพลอยใสที่เกิดอาการนอนไม่หลับจึงออกมานั่งรับลมเย็น ๆ ช่วงกลางดึ
ตอนที่9 คลั่งหลังจากสั่งลูกน้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณสวนหย่อม พลอยใสก็อยู่ในสายตาของชาร์วีตลอดเวลาที่เด็กสาวออกมานั่งทบทวนบทเรียนหรือเล่นกีตาร์ยามว่างจากการช่วยงานที่บ้านใหญ่วันถัดมาวันนั้นพลอยใสเปลี่ยนจากม้าหินกลางสวนหย่อมมานั่งศาลากลางสระบัวแทนเพราะน้ำค้างค่อนข้างแรง ในขณะที่ชาร์วีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูกล้องวงจรปิดทันทีหลังจากกลับมาจากทำงานแต่มองกล้องมุมไหนก็ไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายที่อยากเจอ ชายหนุ่มจึงต้องละจากหน้าจอโทรศัพท์กดเปิดLaptopและไล่ดูกล้องตัวอื่น ๆ ที่ติดอยู่รอบ ๆ บริเวณนั้น“ยัยตัวแสบ แอบหนีมานั่งอยู่นี้เอง” ชาร์วีที่เจอเป้าหมายนั่งอยู่ศาลากลางสระบัวที่เปิดไฟสว่างจ้ารอบบริเวณ แต่ด้วยกล้องตัวที่ส่องไปนั้นติดอยู่ระยะค่อนข้างไกลจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเด็กสาวได้ชัดเจน“ธาราเข้ามาหาฉันหน่อย”“นายมีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ” ธารารีบเข้ามาพบเจ้านายทันทีที่ถูกเรียก“พรุ่งนี้สั่งคนมาติดกล้องตรงบริเวณสระบัวเพิ่มด้วย” ชาร์วีสั่งสิ่งที่ต้องการออกไปโดยไม่บอกเหตุผลว่าทำไม ทั้งที่ภายในบ้านตอนนี้ก็มีกล้องติดอยู่บริเวณรอบ ๆ เกือบร้อยตัวกระจายอยู่ทั่วบริเวณรอบ ๆ บ้าน ยกเ
ตอนที่10 หวงเด็กในการปกครองวันต่อมาชาร์วีสั่งลูกน้องให้ยืนเฝ้าพลอยใสและรุ่นพี่ ธาราเดินเข้าไปเจอเลยต้องทักท้วง“นายให้คนคอยประกบขนาดนั้นพลอยใสจะไม่มีสมาธิในการติวหนังสือนะครับ เด็กเขาติวหนังสือนะครับไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”“ในเมื่อกูให้มึงดูแลแต่มึงหละหลวมกูก็ต้องจัดการเอง แล้วการที่เจ้าของบ้านจัดคนดูแลความปลอดภัยให้เด็กในความปกครองมันก็ไม่ได้แปลกตรงไหนเพราะที่นี่บ้านกู” ชาร์วีใช้อำนาจในความเป็นเจ้าของบ้านตอกกลับมือขวาด้วยความหงุดหงิด เพราะเคืองธาราอยู่ก่อนแล้วเรื่องที่อนุญาตให้รุ่นพี่พลอยใสมาติวหนังสือโดยไม่รายงานเขาก่อน“ครับ แล้วแต่นายเลยครับถ้าเด็กมันอึดอัดแล้วขอออกไปติวข้างนอกผมก็คงห้ามไม่ได้แล้วล่ะครับ” ธารายังไม่วายที่จะจุดชนวนให้คนเป็นเจ้านายโมโหเพิ่มเพราะค่อนข้างไม่เห็นด้วยที่ชาร์วีรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเด็กแบบนั้น“ถ้าถึงเวลานั้นกูคือคนที่จะบอกว่าอนุญาตหรือไม่” ร่างสูงเดินไปนั่งบนโต๊ะเพื่อทำงานต่อโดยไม่สนใจมือขวาอีกต่อไป ธาราจึงได้แต่ส่ายหัวกับการใช้อำนาจของเจ้านายเช้าวันหยุดที่ความจริงแล้วชาร์วีมีนัดคุยงานแต่เนื่องจากวันนี้ชายหนุ่มมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการจึงส่งธาราให้
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้