ตอนที่15 ของขวัญชิ้นแรก
เมื่อได้รับอนุญาตจากธาราพลอยใสก็เดินกลับไปบอกรุ่นพี่ว่าเธอจะสมัครเป็นตัวแทนคณะเพื่อเข้าร่วมประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย ทุกคนต่างยิ้มร่าอย่างมีความสุข
“พวกพี่ขอบคุณพลอยใสมากนะ แล้วเจอกันสัปดาห์หน้าหลังกิจกรรมรับน้องเสร็จ”
พลอยใสเดินออกมานั่งรอรถเมล์เพราะวันนี้กิจกรรมเลิกค่อนข้างเย็นจึงไม่โทรเรียกรถของที่บ้านฮาร์เปอร์มารับ ด้วยระยะทางจากมหาวิทยาลัยถึงบ้านฮาร์เปอร์นั้นไม่ได้ไกลกันมากนัก นั่งรถเมล์ต่อเดียวก็ถึงพลอยใสจึงเลือกที่จะเดินทางกลับเองในช่วงเย็น
“พลอยใสกลับกับพวกเราไหมนี่ก็มืดแล้วนั่งรถเมล์กลับมันอันตราย” รถเก๋งสีขาวจอดตรงป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย และคนในรถตะโกนเรียกพลอยใสซึ่งเจ้าของรถนั้นคืออาทเพื่อนร่วมคณะที่เข้ามาทักเธอตอนทำกิจกรรมเมื่อตอนบ่าย
“ไม่เป็นไรเราเกรงใจ บ้านเราอยู่คนละทางกับบ้านอาท เรานั่งรถเมล์กลับได้สบายมาก” พลอยใสปฏิเสธออกไปด้วยความเกรงใจ แต่เพื่อน ๆ บนรถก็เร้าหรือจนพลอยใสต้องยอมขึ้นรถกลับบ้านด้วย
“ขับเพิ่มแค่ยี่สิบกิโลมันไม่ได้เสียเวลาพวกเราขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ” มุกดาคือเพื่อนที่สนิทกับพลอยใสมากที่สุดเพราะเป็นคนเข้ามาทักพลอยใสเป็นคนแรกและทั้งสองก็เรียนสาขาเดียวกันรวมทั้งอาทและกี้ด้วย
“ขอบคุณนะ”
“นี่บ้านเธอเหรอพลอยใส ทำไมหลังใหญ่ขนาดนี้ล่ะ” เมื่อรถเก๋งสีขาววิ่งมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลฮาร์เปอร์เพื่อนทุกคนต่างตกใจไม่คิดว่าหญิงสาวที่ดูถ่อมตัวอย่างพลอยใสจะอาศัยอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้
“เปล่าหรอกนี่เป็นบ้านผู้ปกครองของเรา ขอโทษนะที่ไม่สามารถเชิญทุกคนเข้าบ้านได้” พลอยใสเอ่ยขอโทษเพื่อน ๆ ที่ต้องเสียมารยาทเพราะไม่สามารถเชิญเพื่อน ๆ เข้ามาด้านในได้
“ไม่เป็นไรพวกเราเข้าใจ”
“คุณพลอยใสเชิญครับ” ประตูรั้วบานใหญ่ถูกเลื่อนเปิดออกเผยให้เห็นบอดี้การ์ดนับสิบคนยืนดูแลความปลอดภัยอยู่บริเวณนั้น เอ่ยเรียกหญิงสาวให้เข้ามาด้านใน
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้ บาย” มือเรียวเล็กโบกลาเพื่อน ๆ ก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านที่บอดี้การ์ดเปิดประตูรออยู่
ชาร์วีและธาราที่พึ่งกลับจากบริษัทยังไม่ทันลงจากรถก็ต้องเพ่งสายตามองผ่านกระจกมองหลังเมื่อประตูหน้าบ้านถูกเปิดออกอีกครั้งหลังจากที่พึ่งปิดเมื่อสักครู่ ภาพที่เห็นคือเด็กในการปกครองกำลงจากรถคันไม่คุ้นตาและคนที่นั่งอยู่ด้านในนั้นคือชายหนุ่มวัยรุ่นที่ชาร์วีและธาราไม่รู้จักเช่นกัน
“อย่าลืมตักเตือนกันด้วยล่ะ ไม่ทันไรก็มีผู้ชายมาส่งถึงบ้านแถมยังมาส่งค่ำ ๆ มืด ๆ อีกมันดูไม่เหมาะสม” เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านชาร์วีก็พูดกับธาราทันทีในสิ่งที่พึ่งเห็นและสร้างความไม่พอใจให้กับตนเอง
“พลอยใสไม่ได้มากับเพื่อนชายสองต่อสองนะครับไม่เห็นเป็นอะไร ช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กกำลังพบและรู้จักเพื่อนใหม่ มันเป็นธรรมดาของสังคมมหาลัยครับ อีกอย่างในรถเมื่อกี้ก็มีเพื่อนผู้หญิงมาด้วย" ธาราพยายามอธิบายให้คนเป็นนายเข้าใจว่าคนที่มาส่งหญิงสาวนั้นน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่มหาลัย
“จะมีเพื่อนผู้หญิงมาด้วยหรือไม่มาด้วยก็ช่าง ยังไงการที่ให้เพื่อนผู้ชายมาส่งค่ำ ๆ มืด ๆ แบบนี้มันก็ไม่เหมาะ รถที่บ้านก็มีตั้งหลายคันคนขับรถก็มีตั้งหลายคนกูไม่ได้จ้างให้พวกมันมานั่งเช็ดรถเล่น ถ้ามันจะไม่ทำหน้าที่ก็ไล่ออกไปให้หมด และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปมึงกำชับเด็กทุกคนไม่ว่าจะค่ำมืดแค่ไหนก็ต้องให้รถที่บ้านไปรับเท่านั้น” เสียงทรงอำนาจสั่งน้ำเสียงเฉียบขาดด้วยสีหน้าและท่าทางไม่พอใจอย่างหนัก
“เด็กโตแล้วนะครับให้อิสระพวกเธอบ้างก็ดี สังคมมหาลัยเป็นสังคมที่เปิดกว้าง การที่เคร่งครัดกับพวกเธอเหมือนกับเด็กประถมหรือมัธยมบางทีอาจจะทำให้เด็กรู้สึกอยากออกไปอยู่ข้างนอกเองโดยเอาเรื่องที่มหาลัยมาอ้างได้นะครับ” ธาราถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เจ้านายอาจจะมองข้ามไป
“กูและมึงก็เคยผ่านชีวิตมหาลัยมาแล้วเหมือนกัน การทำกิจกรรมไร้สาระพวกนั้นจนมืดค่ำมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร การที่กูอนุญาตให้ทำไม่ได้หมายความว่าจะทำทุกอย่างตามใจทั้งหมด อยู่ในบ้านนี้ก็ต้องทำตามกฎของที่นี่ ถ้าทำตามไม่ได้ก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกจะได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างที่อยากใช้” ธาราเข้าใจสิ่งที่ชาร์วีพูดเพราะมันก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ในเมื่อชาร์วียอมอนุญาตให้ทำกิจกรรมแล้วก็ต้องทำตามกฎของที่บ้านคือต้องให้คนขับรถของที่บ้านไปรับไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
“ผมจะแจ้งให้พวกเธอทราบครับ”
พลอยใสเข้าเรียนที่คณะบริหารธุรกิจสาขาการตลาดระหว่างประเทศภาคอินเตอร์จึงมีเพื่อนที่ฐานะทางบ้านค่อนข้างดีด้วยค่าเทอมที่สูงกว่าภาคปกติอยู่หลายเท่า
“พลอยใสทำไมภาษาอังกฤษเธอคล่องจัง เราเห็นเธอตอบอาจารย์คล่องมาก”
“เราเรียนโรงเรียนอินเตอร์ตอนไฮสคูลน่ะเลยใช้ภาษาอังกฤษคล่องพอสมควร” พลอยใสให้คำตอบกับเพื่อน
“อย่างนี้นี่เอง ผู้ปกครองเธอคงดูแลเธอดีนะคอยส่งรถมารับมาส่งทุกวันเลย”
“วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วเราไปกินไอศกรีมที่ห้างใกล้ ๆ นี่กันไหม” มุกดาเอ่ยชวนเมื่อทั้งสี่คนเดินลงมาถึงด้านล่างของตึกเรียน
“ไปสิ วันนี้อากาศร้อนด้วยฉันกำลังอยากกินอะไรเย็น ๆ อยู่พอดีเลย” กี้เห็นด้วยกับมุกดา
“เราต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า” พลอยใสที่วันก่อนโดนสั่งห้ามเรื่องนั่งรถกลับบ้านเอง วันนี้ก็กลัวว่าจะโดนดุอีกรอบถ้าไปไหนมาไหนแล้วไม่ขออนุญาตก่อน
“ได้สิ ให้มุกช่วยคุยให้ก็ได้นะเราแค่ไปกินไอศกรีมห้างใกล้ ๆ นี่เอง” ทุกคนเข้าใจพลอยใสไม่ได้ตำหนิอะไรออกมาเพราะครอบครัวแต่ละครอบครัวก็มีกฎระเบียบต่างกัน ทุกคนยืนรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ตู๊ด ~ ตู๊ด ~ ตู๊ด ~
“พี่ธาราคะคุยได้ไหมคะ” ไม่นานปลายสายก็กดรับสาย
“ได้ครับพี่กำลังนั่งรถออกไปพบลูกค้าพอดี” ระหว่างที่ธาราคุยโทรศัพท์กับเด็กสาวอยู่นั้นก็มีอีกคนที่ให้ความสนใจฟังสิ่งที่ทั้งสองคุยกัน
“วันนี้อาจารย์ปล่อยคลาสเร็วพลอยขออนุญาตไปทานไอศกรีมกับเพื่อน ๆ ที่ห้างใกล้ ๆ มหาลัยนี้ได้ไหมคะ”
“ได้สิ ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างก็ดี จะกลับค่อยโทรบอกให้คนขับรถไปรับ”
“เด็กสองคนนั้นไม่เห็นจะเถลไถลเหมือนเด็กคนนี้เลย” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อรับรู้ว่าปลายสายนั้นโทรมาเรื่องอะไร
“ผ้าไหมกับแก้มใสก็มีไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างครับ แค่ไม่ได้รายงานผมทุกครั้งเหมือนพลอยใส” ธาราบอกออกไปตามความจริงตามที่คนขับรถรายงานมา
“แล้วเด็กนี่ไปกับใคร”
“เธอบอกไปกับเพื่อนครับ”
“กูรู้ว่าเพื่อน แล้วมีใครบ้าง”
“ผมไม่ได้ถาม คงจะเป็นเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกันนั่นแหละครับ”
“แต่กูได้ยินเสียงผู้ชาย” ชาร์วีพูดออกมาน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“คงจะเป็นคนที่มาส่งพลอยใสคืนนั้นมั้งครับ เพราะเขาก็เป็นเพื่อนกัน”
ทางด้านพลอยใส
“ตกลงเธอไปได้ใช่ไหมพลอยใส”
“ไปได้จ้ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากพลอยใสทุกคนต่างยิ้มร่า แม้จะเป็นการไปนั่งกินไอศกรีมเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม
รถเก๋งสีขาวขับเคลื่อนออกจากรั้วมหาวิทยาลัยในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน การจราจรที่เริ่มติดขัดบ้างเป็นบางจุดส่งผลให้ใช้เวลาในการเดินทางมายังห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
ร้านไอศกรีม
“ฉันเอานัตตี้ คริสปี้ ทาวเวอร์ พวกเธอเอาอะไร” พลอยใสเลือกเมนูโปรดที่เธอชอบทานก่อนหันไปถามเพื่อน
“ฉันเอาสตัคกี้ ชูวี่ ช็อค แฟนตาซี” มุกดาบอกเมนูกับพนักงาน
“ฉันเอาเหมือนพลอยใส/เราก็ด้วย”
ทุกคนต่างนั่งรอกันใจจดใจจ่อทำราวกับเด็กได้กินไอศกรีมครั้งแรกทั้งที่ทุกคนก็มาทานกันบ่อย
“ฉลองมิตรภาพของพวกเรา เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน พวกเราทั้งสี่คนจะต้องถ่ายรูปร่วมกันในวันรับปริญญา” ปาร์ตี้ไอศกรีมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ รอยยิ้มสดใสสมวัยกับเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ และช่วงเวลาแห่งความสุขกับเพื่อน ๆ ก็หมดลงเมื่อมีสายคุ้นเคยโทรเข้ามา
“ค่ะพี่ธารา”
“ทานไอศกรีมเสร็จหรือยังนายให้พี่มารับพลอยกลับบ้านด้วย” โทนเสียงคุ้นชินดังมาตามสาย หญิงสาวที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานหลังจากทานไอศกรีมเสร็จก็เงียบเสียงลง
“เสร็จแล้วค่ะ แล้วตอนนี้พี่ธาราอยู่ที่ไหนคะ”
“พี่ยืนอยู่หน้าร้าน” ดวงตากลมโตหันมองตามทิศทางที่ชายหนุ่มบอกทันทีก็เจอกับบอดี้การ์ดหนุ่มสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำยืนเด่นอยู่หน้าร้าน
“โอเคค่ะ เดี๋ยวพลอยเดินออกไป”
“เช็กบิลครับ” ไม่ทันที่พลอยใสจะลุกเดินออกไปบอดี้การ์ดหนุ่มก็เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่
“ทั้งหมด 608 บาทค่ะ” แบงก์สีเทาถูกส่งให้พนักงานท่ามกลางสีหน้างุนงงปนตกใจของทุกคน
“เอ่อ..ทุกคน นี่พี่ธาราพี่ที่คอยดูแลเรา” พลอยใสไม่รู้จะแนะนำชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไรดี จึงแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จักคร่าว ๆ เพียงเท่านั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับค่าไอศกรีมนะคะ” ทุกคนยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มอย่างมีมารยาท
“ขอตัวก่อนนะครับ” เมื่อจัดการเช็กบิลเรียบร้อยแล้วธาราก็กล่าวลาเพื่อน ๆ พลอยใสและเดินนำออกจากร้านทันที
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน” พลอยใสลาเพื่อนเสร็จก็รีบสาวเท้าเดินตามธาราออกไป
ลานจอดรถ
รถตู้คันหรูที่พลอยใสจำได้ดีว่าเป็นคันที่ชาร์วีใช้งานประจำสตาร์ตเครื่องจอดรออยู่ ฝ่ามือเรียวเล็กตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะเกิดอาการตื่นเต้นและประหม่าที่จะเจอผู้ปกครองใจดีของเธอที่เฝ้าอยากเห็นหน้ามาตลอดหลายปี
ครืด ~ ~ ~
ประตูรถเลื่อนเปิดออกอัตโนมัติเมื่อเธอและบอดี้การ์ดหนุ่มเดินมาถึง
~ ~ ~ ด้านในรถเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของคนที่เธออยากเจอ ใบหน้าเรียวเล็กแสดงออกถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็เพียงแป๊บเดียวก็กลับมาเป็นปกติ
“ออกรถ” เมื่อทั้งสองขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วธาราก็สั่งคนขับรถออกรถทันที
“แล้วคุณวีล่ะคะ เขาไม่ได้ออกมาพบลูกค้ากับพี่ธาราเหรอคะ” พลอยใสถามออกไปเสียงอ่อย
“มา..แต่นายกลับไปแล้วครับ” คำตอบสั้น ๆ แต่ความหมายชัดเจน
“จริงสินะ จะให้คุณวีมานั่งรอแค่เด็กในอุปการะมันก็ไม่เหมาะสม” ดวงตากลมโตฉายแววผิดหวังทอดสายตามองด้านนอก ในหัวกำลังคิดอะไรหลายอย่าง ภายในรถเงียบสงัดไม่มีการสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นจนรถเคลื่อนตัวมาถึงคฤหาสน์ฮาร์เปอร์
“ของขวัญสำหรับการสอบเข้ามหาลัย นายสั่งให้ซื้อมาให้ทุกคน ฝากให้แก้มใสและผ้าไหมด้วย” ถุงกระดาษที่มีโลโก้แบรนด์ดังติดอยู่ส่งให้เด็กสาวขณะที่รถจอดสนิท
“ขอบคุณค่ะ” สีหน้าเศร้าสร้อยแปรเปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาแทน ไม่ใช่เพราะได้ของขวัญราคาแพงแต่เพราะคนที่ให้ของขวัญชิ้นนี้คือชาร์วี
ตอนที่16 หลงป่าพลอยใสเดินกลับบ้านด้วยใบหน้ามีความสุขใบหน้าเรียวเล็กเผยรอยยิ้มบาง ๆ อยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ชาร์วีที่ยืนมองเด็กในการปกครองตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถจนเด็กสาวเดินผ่านหน้าไป รอยยิ้มที่เขาหลงใหลและแอบมองมาตลอดวันนี้ปรากฏให้เห็นตรงหน้าอีกครั้ง“ผมนำของขวัญของนายให้พลอยใสไปแล้วนะครับ” ธาราเดินขึ้นมารายงานเจ้านายหลังจากที่กลับจากภารกิจพิเศษ คือการพาเด็กในการปกครองกลับบ้านตามคำสั่งของคนเป็นนาย“แล้วเธอว่ายังไง เธอชอบหรือเปล่า”“นายก็เห็นแล้วนี่ครับนายน่าจะดูออกว่าเธอชอบหรือไม่ชอบ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ธาราขอตัวกลับห้องทันทีที่รายงานทุกอย่างเสร็จสิ้นมหาวิทยาลัย“วันเสาร์นี้เราก็จะต้องไปรับน้องกันแล้ว ทุกคนเตรียมเสื้อผ้าและของใช้กันหรือยัง รุ่นพี่แจ้งว่าพวกเราจะต้องกางเต็นท์นอนกันเองส่วนเต็นท์จะเช่าของอุทยานหรือสามารถนำเต็นท์ส่วนตัวไปเองก็ได้ ฉันว่าฉันจะเอาเต็นท์ไปเองดีกว่า” กิจกรรมรับน้องกำลังเป็นบทสนทนาหลักของเหล่านักศึกษาปีหนึ่งที่ตื่นเต้นที่จะได้เดินทางไปทำกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่“ฉันลืมไปเลยนะเนี่ย” พลอยใสพูดขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเธอเองก็ลืมสนิทเลยว่าต้องเดินทางไปรับน้องใน
ตอนที่17 ฟาดงวงฟาดงาเวลาผ่านไปจากชั่วโมงเป็นสองชั่วโมงจากสองชั่วโมงเป็นสามชั่วโมง ในขณะที่เพื่อนคนอื่นกลับออกไปรวมตัวที่จุดพักกางเต็นท์กันหมดแล้วขาดเพียงแค่พลอยใสที่ยังไม่ออกจากป่ามา“พี่เคน เอาไงดีพี่ผมว่าโทรหาพี่ธาราเถอะนี่มันก็หลายชั่วโมงแล้วนานกว่านี้เกรงว่าจะแย่ไปกันใหญ่” บอดี้การ์ดที่ถูกส่งมาดูแลพลอยใสพูดอย่างร้อนใจ“กูก็คิดแบบนั้น” เคนรีบโทรติดต่อไปยังธาราทันที“ว่าไง” ธารารับสายทันทีที่มีสายเรียกเข้าจากบอดี้การ์ดที่ส่งไปดูแลพลอยใส“พี่ธารา คุณพลอยใสหลงป่าครับ ตอนนี้เจ้าหน้าที่และคนของเราระดมค้นหาหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่เจอ” น้ำเสียงร้อนรนของบอดี้การ์ดที่ดังมาจากโทรศัพท์ทำให้ธาราตัวเกร็งขึ้นมาทั่วแผ่นหลัง หลังจากวางสายเสร็จก็รีบรายงานให้ชาร์วีทราบทันที“นายครับคนของเราโทรมาแจ้งว่าพลอยใสหลงป่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่และคนของเรากำลังระดมค้นหาแต่ยังไม่เจอครับ” ธารารายงานเสียงเครียด ชาร์วีโยนปากกาในมือที่กำลังเซ็นเอกสารทิ้งทันทีที่ธาราพูดจบพร้อมกับดีดร่างสูงของตัวเองออกจากเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ก่อนจะถามเสียงดังลั่นบ้าน“หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”“สามชั่วโมงที่แล้วครับ”“เตรียมเฮลิคอปเตอร์บินไ
ตอนที่18 อ้อมกอดคนแปลกหน้าที่อยากเจอชาร์วีพร้อมบอดี้การ์ดมือซ้ายและมือขวาใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็บินมาถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานสนามหญ้าของอุทยานโดยมีเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว“เจอคนของผมหรือยัง” คำแรกที่มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามหัวหน้าหน่วยทั้งของอุทยานและกองบินพิเศษที่ยืนรออยู่“ผมส่งทีมค้นหาออกไปค้นหาแล้ว อีกไม่นานน่าจะเจอตัวผู้สูญหาย” หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจที่มาควบคุมดูแลตามคำร้องขอของชาร์วีตอบกลับมาเฟียหนุ่ม“เราเหลือเวลาอีกกี่ชั่วโมงครับ” ชาร์วีหันไปถามเจ้าหน้าที่อุทยานว่าที่นี่พระอาทิตย์จะตกในเวลากี่โมง“45 นาทีครับ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ“ผมขอดูแผนที่ป่าหน่อย” เสียงเรียบพร้อมใบหน้าที่นิ่งจนยากจะคาดเดาเอ่ยขอแผนที่ป่ากับเจ้าหน้าที่อุทยาน ก่อนจะรีบกางออกเพื่อดูอาณาเขตป่าบริเวณฯ โดยรอบโดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้คอยอธิบาย สายตาคมกวาดมองแผนที่อย่างรวดเร็วแต่เก็บทุกรายละเอียด สมองอันเฉียบคมวิเคราะห์ความน่าจะเป็นในจุดที่พลอยใสจะเดินหลงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมอีก 5 นาทีเราจะเข้าไปข้างใน” เสียงทรงอำนาจหันมาสั่งลูกน้องดังลั่
ตอนที่19 เจอหน้ากันครั้งแรกชาร์วีรีบสาวเท้าไปยังทิศทางที่คาดว่าเด็กสาวจะอยู่โดยลืมไปว่าเส้นทางที่กำลังเดินอยู่นั้นเต็มไปด้วยหญ้ารกทึบและกิ่งไม้ที่หักลงมาขวางทางเดิน รองเท้าหนังราคาแพงเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน เปื้อนโคลนเปื้อนฝุ่นที่เดินลุยมาตลอดทาง“นายครับเดินระวังด้วยครับ” เสียงเตือนจากธาราเมื่อทั้งหมดเดินเข้ามาใกล้จุดที่เห็นแสงไฟ“ทุกคนดับไฟด้วยครับ” เสียงสัญญาณเตือนจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ผู้ที่ชำนาญในการเดินป่าและการเผชิญหน้ากับพวกลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาช่องทางธรรมชาติทุกคนใช้ความชำนาญเฉพาะตัวในการเดินเข้าหาจุดหมายไม่มีแม้เสียงฝีเท้าให้ได้ยินแม้จะเหยียบกิ่งไม้ การเคลื่อนตัวเข้าหาเป้าหมายที่เงียบที่สุดราวทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดี“ธารากล้อง” ชาร์วียื่นมือไปขอกล้องจากธาราเมื่อเข้ามาถึงเป้าหมายในระยะใกล้ ด้วยความมืดเพราะไม่สามารถใช้แสงไฟได้จำต้องอาศัยมองผ่านกล้องส่องทางไกลระบบอินฟราเรดเพื่อที่จะได้มองเห็นเป้าหมายชัดเจน“ใช่เธอไหมครับ” ธาราเอ่ยถามเอาตอบคำตอบทันที“มองไม่เห็นเพราะมีต้นไม้บัง แต่คาดว่าน่าจะใช่เพราะเธอใส่เสื้อสีขาว” มีเพียงหัวไหล่บางที่โผล่พ้นโคนต้นไม้ออกมาให้ได้เห็น แต่ชา
ตอนที่ 20 เก็บอาการไม่อยู่“นายครับอาหารเย็นพร้อมแล้วครับ” หลังจากอาบน้ำเสร็จชาร์วีก็นั่งเอนหลังพักสายตาตรงโซฟาห้องรับแขก“อือ..แล้วพลอยใสล่ะ” เมื่อมองอาหารบนโต๊ะมีเพียงสองที่จึงเอ่ยถามขึ้น“พลอยใสเธอบอกว่าจะนั่งทานในห้องครับ” ธาราแจ้งความประสงค์ของหญิงสาวให้คนเป็นนายทราบ“ไปเรียกเธอออกมาทานตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยบอกออกไปน้ำเสียงหงุดหงิดและลุกขึ้นไปนั่งรอตรงเก้าอี้ที่อยู่หัวโต๊ะพลอยใสในชุดคนไข้สีขาวเดินออกมาสีหน้าประหม่าเล็กน้อย สะโพกกลมมนค่อย ๆ หย่อนลงตรงเก้าอี้ที่ฝั่งขวาของมาเฟียหนุ่มโดยธารานั่งลงฝั่งซ้ายตรงข้ามหญิงสาว“ทานให้มันเยอะ ๆ กว่านี้ผอมจนจะไม่มีแรงเดินอยู่แล้ว” เสียงเรียบปนดุเอ่ยขึ้นเมื่อพลอยใสวางช้อนลงและกำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม“หนูอิ่มแล้วค่ะ”“ทานเข้าไปยังไม่ถึงสิบคำบอกอิ่ม ไม่กี่ชั่วโมงก็ย่อยหมดแล้วหรืออยากให้หมอให้น้ำเกลืออีกรอบ” เสียงทุ้มแกล้งขู่ออกไปเพราะรู้ดีว่าเด็กในการปกครองนั้นกลัวเข็มมากแค่ไหน“ไม่แล้วค่ะ พลอยเอ่อ..หนูทานหมดเลยก็ได้ค่ะ” คนตัวเล็กรีบหยิบช้อนตักข้าวต้มเข้าปากคำโตจากที่รู้สึกอิ่มมากแล้วก็ต้องจำใจฝืนทานต่อจนหมด“ส้มที่ปอกอยู่ในจานทานให้หมด ไม่งั้นฉัน
ตอนที่ 21 หวง“ใครมองกูจะควักลูกตาออกมาให้หมด!!!” เสียงกร้าวตะโกนดังลั่นแข่งกับเสียงฝนและเสียงฟ้าร้อง เหล่าบอดี้การ์ดต่างหันหน้าหนีกันเป็นแถวไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกระดิกตัว เมื่อรถเข้ามาจอดหน้าบ้านชาร์วีก็ลากพลอยใสขึ้นห้องโดยไม่สนใจสายตาของลูกน้องที่มองการกระทำของเขาอยู่ ใบหน้าคมตอนนี้แดงก่ำเหมือนคนกำลังโมโหอย่างหนัก พลอยใสทำได้เพียงเดินตามชาร์วีไปโดยไม่กล้าขัดขืนอะไร ส่วนมือขวาคนสนิทนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวและมองตามหลังเจ้านายและเด็กในความดูแลจนทั้งคู่ลับสายตาไป“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใครบอกให้ไปเดินตากฝนแบบนั้น รถที่บ้านมีเป็นสิบคันทำไมไม่โทรให้ไปรับ แล้วเดินตากฝนกลับมาทำไมคนเดียวมืด ๆ ทำไมไม่นั่งแท็กซี่ เงินที่ให้ทุกเดือนไม่พอหรือไงถึงชอบทำตัวลำบากไปขึ้นรถเมล์เบียดกับคนอื่น” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าโกรธจัดตวาดใส่พลอยใสทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง“พะ..พอค่ะแต่ว่าหนูมีกิจกรรมและวันนี้โทรศัพท์ก็แบตหมดเลยไม่ได้โทรเรียกให้รถที่บ้านไปรับ” พลอยใสสะดุ้งกับน้ำเสียงดุดันนั้นจนแอบกลัวเพราะไม่เคยเห็นชาร์วีในมุมที่กำลังโกรธแบบนี้มาก่อนจึงตอบกลับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ“จะเลิกกี่โมงก็ให้คนขับรถมันรอเธ
ตอนที่22 แสดงอาการก่อนหน้านั้นป้าณีที่รู้สึกเป็นห่วงพลอยใสเมื่อเห็นว่ายังไม่กลับทั้งที่ดึกแล้วจึงเดินมาถามบอดี้การ์ดหน้าบ้าน“มีใครเห็นพลอยใสบ้างไหม โทรมาบอกตั้งแต่หัววันว่าจะกลับค่ำตอนนี้ก็ดึกแล้วแถมฝนฟ้ายังกระหน่ำอย่างกับฟ้ารั่วนี่ก็ยังไม่เห็นกลับมาสักที จะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้”“คุณพลอยใสกลับมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มตอบคำถามแม่บ้านดูร้อนใจเพราะเป็นห่วงหญิงสาว“กลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมป้าไม่เห็นล่ะปกติถ้ากลับมาพลอยใสจะต้องไปบอกป้าทุกครั้ง แน่ใจนะว่าเห็นกลับมาแล้ว” ป้าณีถามย้ำกับบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าสงสัยหนัก“ครับแน่ใจครับ กลับมาตั้งแต่ตอนหนึ่งทุ่มที่ฝนตกหนัก ๆ นั่นแหละครับ เธอวิ่งตากฝนเข้าบ้านมาแล้วเจ้านายก็กลับมาพอดีจึงลากเธอขึ้นรถ ตอนนี้ถูกเจ้านายลากขึ้นไปข้างบนยังไม่กลับลงมาครับ ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเป็นยังไงบ้าง” ป้าณีที่ได้ยินในสิ่งที่บอดี้การ์ดบอกก็ตกใจไม่น้อยก่อนจะรีบเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องโถงก็เจอกับธาราที่กำลังนั่งดูเอกสารบางอย่างอยู่คนเดียว“คุณธารา จริงหรือเปล่าคะที่บอดี้การ์ดบอกว่าพลอยใสถูกคุณวีลากขึ้นไปบนห้อง” ธาร
ตอนที่23 เสียการเสียงานเช้าวันต่อมา“คุณธาราคะพลอยใสเหมือนจะเป็นไข้นะคะ เธอคงไปเรียนไม่ไหวป้าให้เด็กเอายาและข้าวต้มไปให้และให้นอนพักผ่อนแล้วค่ะ เดี๋ยวสาย ๆ ป้าจะแวะไปดูอีกที” ป้าณีที่กำลังเตรียมอาหารเช้าขึ้นโต๊ะรีบบอกธาราเมื่อเห็นว่ามือขวาของเจ้านายหนุ่มกำลังเดินเข้ามาในบ้านหลังจากไปออกกำลังกายตอนเช้า“เหรอครับแล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า”“น่าจะเป็นไข้หวัดเพราะตากฝนเมื่อคืนค่ะ ทานข้าวทานยาและพักผ่อนก็น่าจะดีขึ้น”“ยังไงฝากป้าณีดูพลอยใสหน่อยนะครับ ถ้ามีอะไรก็บอกได้ทันที” ธาราพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่แม่บ้านรายงานและคิดว่าหญิงสาวน่าจะเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา กินยาพักผ่อนเหมือนที่แม่บ้านบอกก็คงจะดีขึ้นทางด้านชาร์วีหลังจากที่พลอยใสออกจากห้องไปเมื่อคืนก็ทำเอาชายหนุ่มแทบนอนไม่หลับจนเกือบเช้าเพราะร่างบางซ่อนรูป ส่วนเว้าส่วนโค้งได้ปลุกความดิบเถื่อนในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้งจนต้องลุกไปปลดปล่อยในห้องน้ำถึงจะสามารถข่มตาหลับลงได้“พลอยใสออกไปเรียนหรือยัง” ทันทีที่เห็นธาราเดินเข้ามาในห้องทำงานของตนเองชาร์วีก็ถามถึงคนที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องนอนไม่หลับ“พลอยใสเป็นหวัดครับไม่ได้ไปเรียน น่าจะเพราะตากฝนเมื่อคืน
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้