ตอนที่15 ของขวัญชิ้นแรก
เมื่อได้รับอนุญาตจากธาราพลอยใสก็เดินกลับไปบอกรุ่นพี่ว่าเธอจะสมัครเป็นตัวแทนคณะเพื่อเข้าร่วมประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย ทุกคนต่างยิ้มร่าอย่างมีความสุข
“พวกพี่ขอบคุณพลอยใสมากนะ แล้วเจอกันสัปดาห์หน้าหลังกิจกรรมรับน้องเสร็จ”
พลอยใสเดินออกมานั่งรอรถเมล์เพราะวันนี้กิจกรรมเลิกค่อนข้างเย็นจึงไม่โทรเรียกรถของที่บ้านฮาร์เปอร์มารับ ด้วยระยะทางจากมหาวิทยาลัยถึงบ้านฮาร์เปอร์นั้นไม่ได้ไกลกันมากนัก นั่งรถเมล์ต่อเดียวก็ถึงพลอยใสจึงเลือกที่จะเดินทางกลับเองในช่วงเย็น
“พลอยใสกลับกับพวกเราไหมนี่ก็มืดแล้วนั่งรถเมล์กลับมันอันตราย” รถเก๋งสีขาวจอดตรงป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย และคนในรถตะโกนเรียกพลอยใสซึ่งเจ้าของรถนั้นคืออาทเพื่อนร่วมคณะที่เข้ามาทักเธอตอนทำกิจกรรมเมื่อตอนบ่าย
“ไม่เป็นไรเราเกรงใจ บ้านเราอยู่คนละทางกับบ้านอาท เรานั่งรถเมล์กลับได้สบายมาก” พลอยใสปฏิเสธออกไปด้วยความเกรงใจ แต่เพื่อน ๆ บนรถก็เร้าหรือจนพลอยใสต้องยอมขึ้นรถกลับบ้านด้วย
“ขับเพิ่มแค่ยี่สิบกิโลมันไม่ได้เสียเวลาพวกเราขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ” มุกดาคือเพื่อนที่สนิทกับพลอยใสมากที่สุดเพราะเป็นคนเข้ามาทักพลอยใสเป็นคนแรกและทั้งสองก็เรียนสาขาเดียวกันรวมทั้งอาทและกี้ด้วย
“ขอบคุณนะ”
“นี่บ้านเธอเหรอพลอยใส ทำไมหลังใหญ่ขนาดนี้ล่ะ” เมื่อรถเก๋งสีขาววิ่งมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลฮาร์เปอร์เพื่อนทุกคนต่างตกใจไม่คิดว่าหญิงสาวที่ดูถ่อมตัวอย่างพลอยใสจะอาศัยอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้
“เปล่าหรอกนี่เป็นบ้านผู้ปกครองของเรา ขอโทษนะที่ไม่สามารถเชิญทุกคนเข้าบ้านได้” พลอยใสเอ่ยขอโทษเพื่อน ๆ ที่ต้องเสียมารยาทเพราะไม่สามารถเชิญเพื่อน ๆ เข้ามาด้านในได้
“ไม่เป็นไรพวกเราเข้าใจ”
“คุณพลอยใสเชิญครับ” ประตูรั้วบานใหญ่ถูกเลื่อนเปิดออกเผยให้เห็นบอดี้การ์ดนับสิบคนยืนดูแลความปลอดภัยอยู่บริเวณนั้น เอ่ยเรียกหญิงสาวให้เข้ามาด้านใน
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้ บาย” มือเรียวเล็กโบกลาเพื่อน ๆ ก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านที่บอดี้การ์ดเปิดประตูรออยู่
ชาร์วีและธาราที่พึ่งกลับจากบริษัทยังไม่ทันลงจากรถก็ต้องเพ่งสายตามองผ่านกระจกมองหลังเมื่อประตูหน้าบ้านถูกเปิดออกอีกครั้งหลังจากที่พึ่งปิดเมื่อสักครู่ ภาพที่เห็นคือเด็กในการปกครองกำลงจากรถคันไม่คุ้นตาและคนที่นั่งอยู่ด้านในนั้นคือชายหนุ่มวัยรุ่นที่ชาร์วีและธาราไม่รู้จักเช่นกัน
“อย่าลืมตักเตือนกันด้วยล่ะ ไม่ทันไรก็มีผู้ชายมาส่งถึงบ้านแถมยังมาส่งค่ำ ๆ มืด ๆ อีกมันดูไม่เหมาะสม” เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านชาร์วีก็พูดกับธาราทันทีในสิ่งที่พึ่งเห็นและสร้างความไม่พอใจให้กับตนเอง
“พลอยใสไม่ได้มากับเพื่อนชายสองต่อสองนะครับไม่เห็นเป็นอะไร ช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กกำลังพบและรู้จักเพื่อนใหม่ มันเป็นธรรมดาของสังคมมหาลัยครับ อีกอย่างในรถเมื่อกี้ก็มีเพื่อนผู้หญิงมาด้วย" ธาราพยายามอธิบายให้คนเป็นนายเข้าใจว่าคนที่มาส่งหญิงสาวนั้นน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่มหาลัย
“จะมีเพื่อนผู้หญิงมาด้วยหรือไม่มาด้วยก็ช่าง ยังไงการที่ให้เพื่อนผู้ชายมาส่งค่ำ ๆ มืด ๆ แบบนี้มันก็ไม่เหมาะ รถที่บ้านก็มีตั้งหลายคันคนขับรถก็มีตั้งหลายคนกูไม่ได้จ้างให้พวกมันมานั่งเช็ดรถเล่น ถ้ามันจะไม่ทำหน้าที่ก็ไล่ออกไปให้หมด และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปมึงกำชับเด็กทุกคนไม่ว่าจะค่ำมืดแค่ไหนก็ต้องให้รถที่บ้านไปรับเท่านั้น” เสียงทรงอำนาจสั่งน้ำเสียงเฉียบขาดด้วยสีหน้าและท่าทางไม่พอใจอย่างหนัก
“เด็กโตแล้วนะครับให้อิสระพวกเธอบ้างก็ดี สังคมมหาลัยเป็นสังคมที่เปิดกว้าง การที่เคร่งครัดกับพวกเธอเหมือนกับเด็กประถมหรือมัธยมบางทีอาจจะทำให้เด็กรู้สึกอยากออกไปอยู่ข้างนอกเองโดยเอาเรื่องที่มหาลัยมาอ้างได้นะครับ” ธาราถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เจ้านายอาจจะมองข้ามไป
“กูและมึงก็เคยผ่านชีวิตมหาลัยมาแล้วเหมือนกัน การทำกิจกรรมไร้สาระพวกนั้นจนมืดค่ำมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร การที่กูอนุญาตให้ทำไม่ได้หมายความว่าจะทำทุกอย่างตามใจทั้งหมด อยู่ในบ้านนี้ก็ต้องทำตามกฎของที่นี่ ถ้าทำตามไม่ได้ก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกจะได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างที่อยากใช้” ธาราเข้าใจสิ่งที่ชาร์วีพูดเพราะมันก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ในเมื่อชาร์วียอมอนุญาตให้ทำกิจกรรมแล้วก็ต้องทำตามกฎของที่บ้านคือต้องให้คนขับรถของที่บ้านไปรับไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
“ผมจะแจ้งให้พวกเธอทราบครับ”
พลอยใสเข้าเรียนที่คณะบริหารธุรกิจสาขาการตลาดระหว่างประเทศภาคอินเตอร์จึงมีเพื่อนที่ฐานะทางบ้านค่อนข้างดีด้วยค่าเทอมที่สูงกว่าภาคปกติอยู่หลายเท่า
“พลอยใสทำไมภาษาอังกฤษเธอคล่องจัง เราเห็นเธอตอบอาจารย์คล่องมาก”
“เราเรียนโรงเรียนอินเตอร์ตอนไฮสคูลน่ะเลยใช้ภาษาอังกฤษคล่องพอสมควร” พลอยใสให้คำตอบกับเพื่อน
“อย่างนี้นี่เอง ผู้ปกครองเธอคงดูแลเธอดีนะคอยส่งรถมารับมาส่งทุกวันเลย”
“วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วเราไปกินไอศกรีมที่ห้างใกล้ ๆ นี่กันไหม” มุกดาเอ่ยชวนเมื่อทั้งสี่คนเดินลงมาถึงด้านล่างของตึกเรียน
“ไปสิ วันนี้อากาศร้อนด้วยฉันกำลังอยากกินอะไรเย็น ๆ อยู่พอดีเลย” กี้เห็นด้วยกับมุกดา
“เราต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า” พลอยใสที่วันก่อนโดนสั่งห้ามเรื่องนั่งรถกลับบ้านเอง วันนี้ก็กลัวว่าจะโดนดุอีกรอบถ้าไปไหนมาไหนแล้วไม่ขออนุญาตก่อน
“ได้สิ ให้มุกช่วยคุยให้ก็ได้นะเราแค่ไปกินไอศกรีมห้างใกล้ ๆ นี่เอง” ทุกคนเข้าใจพลอยใสไม่ได้ตำหนิอะไรออกมาเพราะครอบครัวแต่ละครอบครัวก็มีกฎระเบียบต่างกัน ทุกคนยืนรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ตู๊ด ~ ตู๊ด ~ ตู๊ด ~
“พี่ธาราคะคุยได้ไหมคะ” ไม่นานปลายสายก็กดรับสาย
“ได้ครับพี่กำลังนั่งรถออกไปพบลูกค้าพอดี” ระหว่างที่ธาราคุยโทรศัพท์กับเด็กสาวอยู่นั้นก็มีอีกคนที่ให้ความสนใจฟังสิ่งที่ทั้งสองคุยกัน
“วันนี้อาจารย์ปล่อยคลาสเร็วพลอยขออนุญาตไปทานไอศกรีมกับเพื่อน ๆ ที่ห้างใกล้ ๆ มหาลัยนี้ได้ไหมคะ”
“ได้สิ ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างก็ดี จะกลับค่อยโทรบอกให้คนขับรถไปรับ”
“เด็กสองคนนั้นไม่เห็นจะเถลไถลเหมือนเด็กคนนี้เลย” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อรับรู้ว่าปลายสายนั้นโทรมาเรื่องอะไร
“ผ้าไหมกับแก้มใสก็มีไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างครับ แค่ไม่ได้รายงานผมทุกครั้งเหมือนพลอยใส” ธาราบอกออกไปตามความจริงตามที่คนขับรถรายงานมา
“แล้วเด็กนี่ไปกับใคร”
“เธอบอกไปกับเพื่อนครับ”
“กูรู้ว่าเพื่อน แล้วมีใครบ้าง”
“ผมไม่ได้ถาม คงจะเป็นเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกันนั่นแหละครับ”
“แต่กูได้ยินเสียงผู้ชาย” ชาร์วีพูดออกมาน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“คงจะเป็นคนที่มาส่งพลอยใสคืนนั้นมั้งครับ เพราะเขาก็เป็นเพื่อนกัน”
ทางด้านพลอยใส
“ตกลงเธอไปได้ใช่ไหมพลอยใส”
“ไปได้จ้ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากพลอยใสทุกคนต่างยิ้มร่า แม้จะเป็นการไปนั่งกินไอศกรีมเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม
รถเก๋งสีขาวขับเคลื่อนออกจากรั้วมหาวิทยาลัยในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน การจราจรที่เริ่มติดขัดบ้างเป็นบางจุดส่งผลให้ใช้เวลาในการเดินทางมายังห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
ร้านไอศกรีม
“ฉันเอานัตตี้ คริสปี้ ทาวเวอร์ พวกเธอเอาอะไร” พลอยใสเลือกเมนูโปรดที่เธอชอบทานก่อนหันไปถามเพื่อน
“ฉันเอาสตัคกี้ ชูวี่ ช็อค แฟนตาซี” มุกดาบอกเมนูกับพนักงาน
“ฉันเอาเหมือนพลอยใส/เราก็ด้วย”
ทุกคนต่างนั่งรอกันใจจดใจจ่อทำราวกับเด็กได้กินไอศกรีมครั้งแรกทั้งที่ทุกคนก็มาทานกันบ่อย
“ฉลองมิตรภาพของพวกเรา เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน พวกเราทั้งสี่คนจะต้องถ่ายรูปร่วมกันในวันรับปริญญา” ปาร์ตี้ไอศกรีมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ รอยยิ้มสดใสสมวัยกับเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ และช่วงเวลาแห่งความสุขกับเพื่อน ๆ ก็หมดลงเมื่อมีสายคุ้นเคยโทรเข้ามา
“ค่ะพี่ธารา”
“ทานไอศกรีมเสร็จหรือยังนายให้พี่มารับพลอยกลับบ้านด้วย” โทนเสียงคุ้นชินดังมาตามสาย หญิงสาวที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานหลังจากทานไอศกรีมเสร็จก็เงียบเสียงลง
“เสร็จแล้วค่ะ แล้วตอนนี้พี่ธาราอยู่ที่ไหนคะ”
“พี่ยืนอยู่หน้าร้าน” ดวงตากลมโตหันมองตามทิศทางที่ชายหนุ่มบอกทันทีก็เจอกับบอดี้การ์ดหนุ่มสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำยืนเด่นอยู่หน้าร้าน
“โอเคค่ะ เดี๋ยวพลอยเดินออกไป”
“เช็กบิลครับ” ไม่ทันที่พลอยใสจะลุกเดินออกไปบอดี้การ์ดหนุ่มก็เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่
“ทั้งหมด 608 บาทค่ะ” แบงก์สีเทาถูกส่งให้พนักงานท่ามกลางสีหน้างุนงงปนตกใจของทุกคน
“เอ่อ..ทุกคน นี่พี่ธาราพี่ที่คอยดูแลเรา” พลอยใสไม่รู้จะแนะนำชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไรดี จึงแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จักคร่าว ๆ เพียงเท่านั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับค่าไอศกรีมนะคะ” ทุกคนยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มอย่างมีมารยาท
“ขอตัวก่อนนะครับ” เมื่อจัดการเช็กบิลเรียบร้อยแล้วธาราก็กล่าวลาเพื่อน ๆ พลอยใสและเดินนำออกจากร้านทันที
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน” พลอยใสลาเพื่อนเสร็จก็รีบสาวเท้าเดินตามธาราออกไป
ลานจอดรถ
รถตู้คันหรูที่พลอยใสจำได้ดีว่าเป็นคันที่ชาร์วีใช้งานประจำสตาร์ตเครื่องจอดรออยู่ ฝ่ามือเรียวเล็กตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะเกิดอาการตื่นเต้นและประหม่าที่จะเจอผู้ปกครองใจดีของเธอที่เฝ้าอยากเห็นหน้ามาตลอดหลายปี
ครืด ~ ~ ~
ประตูรถเลื่อนเปิดออกอัตโนมัติเมื่อเธอและบอดี้การ์ดหนุ่มเดินมาถึง
~ ~ ~ ด้านในรถเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของคนที่เธออยากเจอ ใบหน้าเรียวเล็กแสดงออกถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็เพียงแป๊บเดียวก็กลับมาเป็นปกติ
“ออกรถ” เมื่อทั้งสองขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วธาราก็สั่งคนขับรถออกรถทันที
“แล้วคุณวีล่ะคะ เขาไม่ได้ออกมาพบลูกค้ากับพี่ธาราเหรอคะ” พลอยใสถามออกไปเสียงอ่อย
“มา..แต่นายกลับไปแล้วครับ” คำตอบสั้น ๆ แต่ความหมายชัดเจน
“จริงสินะ จะให้คุณวีมานั่งรอแค่เด็กในอุปการะมันก็ไม่เหมาะสม” ดวงตากลมโตฉายแววผิดหวังทอดสายตามองด้านนอก ในหัวกำลังคิดอะไรหลายอย่าง ภายในรถเงียบสงัดไม่มีการสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นจนรถเคลื่อนตัวมาถึงคฤหาสน์ฮาร์เปอร์
“ของขวัญสำหรับการสอบเข้ามหาลัย นายสั่งให้ซื้อมาให้ทุกคน ฝากให้แก้มใสและผ้าไหมด้วย” ถุงกระดาษที่มีโลโก้แบรนด์ดังติดอยู่ส่งให้เด็กสาวขณะที่รถจอดสนิท
“ขอบคุณค่ะ” สีหน้าเศร้าสร้อยแปรเปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาแทน ไม่ใช่เพราะได้ของขวัญราคาแพงแต่เพราะคนที่ให้ของขวัญชิ้นนี้คือชาร์วี
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว