แชร์

บทที่ 11 ข้ามี…มีทั้งหมด!

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-05 10:18:20

บทที่ 11

ข้ามี…มีทั้งหมด!

               เซี่ยหยู่ก้าวเข้ามายังลานที่รวมผู้บาดเจ็บ กลิ่นคาวเลือดอบอวลกับกลิ่นสมุนไพรไปทั่วบริเวณ บรรยากาศอึมครึม และเต็มไปด้วยความวุ่นวาย 

               ‘หวังต้าเจิง’ หมอทหารเช็ดเหงื่อบนหน้าผากพลางเร่งมือรักษาทหารที่บาดเจ็บสาหัสก่อน ส่วนคนที่เจ็บปานกลางหรือเล็กน้อย ทหารคนอื่นๆ ช่วยกันดูแลอยู่แล้วจึงไม่น่าเป็นห่วง

               ปัญหาในตอนนี้คือสมุนไพรที่เบิกจากกรมแพทย์และหาได้จากข้างทางมีไม่พอรักษาคนเจ็บนี่สิ ทำอย่างไรดี!

               “สมุนไพรไม่พอ? หมายความว่าอย่างไร” ไป๋มู่อวิ๋นถามหวังต้าเจิงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

               เซี่ยหยู่ที่เพิ่งเดินมาถึงลานรักษาคนเจ็บได้ยินอย่างนั้นจึงหยุดยืนฟัง 

               หวังต้าเจิงขมวดคิ้ว ตอบด้วยสีหน้าหนักใจ “ศัตรูล้มตายมากกว่าฝ่ายเราก็จริง แต่ทหารฝ่ายเราก็บาดเจ็บไม่น้อย สมุนไพรห้ามเลือดที่กรมแพทย์หลวงจัดหามาให้มีแค่ไม่กี่ชั่ง คำนวณแล้วไม่เพียงพอขอรับ”

               “ส่งคนไปหาเพิ่มในป่าใกล้ๆ นี้ได้หรือไม่”

               การเดินทางครั้งนี้ ทหารติดตามไป๋มู่อวิ๋นมีจำนวนสามสิบคน เสียชีวิตแล้วสาม บาดเจ็บสิบสี่ ที่เดินทางไปต่อไหวเหลือแค่สิบสามคน นอกจากกำลังรบไม่พอแล้ว สมุนไพรรักษายังไม่พออีก คิดแล้วก็อดกลุ้มใจไม่ได้

               หวังต้าเจิงส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง

               “ก่อนที่โจรป่าจะบุกมา ข้าได้ลองค้นหาละแวกนี้แล้ว ที่หามาได้มีแค่สมุนไพรใช้รักษาอาการหวัดเล็กน้อย สมุนไพรห้ามเลือดไม่มีเลยขอรับ”

               ไม่รู้ไป๋เจี้ยฝูมีเรื่องทะเลาะอะไรกับอัครเสนบดีเผิง ถึงได้ถูกเบื้องบนกลั่นแกล้ง

               หัวหน้าแพทย์หลวงที่อยู่ฝั่งเดียวกับอัครเสนบดีผิงนิสัยประจบสอพลอ จัดหาสมุนไพรให้กับทหารของไป๋มู่อวิ๋นน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ทั้งยังอ้างว่า “งบไม่เพียงพอ”

               ดังนั้นก่อนออกเดินทางหวังต้าเจิงจึงคิดแผนสำรอง ทุกครั้งที่ขบวนรถม้าหยุดพัก เขาจะพาสหายออกหาสมุนไพรในป่าใกล้ๆ กระโจม สมุนไพรจะพอใช้หรือไม่เรื่องนี้เขารู้ดีที่สุด

               “สมุนไพรที่ต้องใช้มีอะไรมีบ้าง แล้วต้องการเท่าไร”

               คนเจ็บไม่อาจรอได้ เซี่ยหยู่จึงเข้ามาถามอย่างไม่คิดจะเวลา

               “องค์หญิง…?”

               “ตอบมาเร็ว”

               “ซานชี ตี้หยู ต้องการจำนวนมากพ่ะย่ะค่ะ” หวังต้าเจิงตอบเสร็จก็รีบเม้มปาก สีหน้าลำบากใจ

               ทหารที่บาดเจ็บหนักได้ยินอย่างนั้นต่างก็สิ้นหวัง สหายคนอื่นก็พลอยรู้สึกกังวลไปด้วย บรรยากาศในลานรักษาคนเจ็บจึงกดดันและหนักอึ้งจนไม่มีใครกล้าพูดอะไร 

               หากทว่า…

               “ข้ามี” เซี่ยหยู่บอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย

               หวังต้าเจิงชะงักวูบด้วยความประหลาดใจ ถึงกับเผลอจ้องหน้าองค์หญิงตรงๆ 

               “ก่อนเดินทางท่านลุงของข้าให้มาเยอะน่ะ”

               เพื่อไม่ทำให้หวังต้าเจิงถามมากกว่านี้ เซี่ยหยู่จึงให้เหตุผลไปอย่างนั้น

               ความเป็นจริง เซี่ยหยู่กวาดสมุนไพรทั้งหมดมาจากกรมแพทย์หลวงนั่นเอง

               เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าที่ตรึงเครียดของหวังต้าเจิงก็เปลี่ยนมามีความหวัง

               “พี่น้องทหารของเราก็รอดแล้ว!” เหล่าทหารต่างก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ  

               “องค์หญิง กระหม่อมขอถามอีกนิด” หวังต้าเจิงถามอย่างนอบน้อม

               “ว่ามา”

               “ท่านยังมีผู่กงอิงที่ช่วยลดอาการอักเสบหรือไม่”

               “ข้ามี”

               “แล้วยาลดไข้…”

               “นั่นก็มี”

               “ไป๋ฮวาเสอเฉ่า รักษาหนอง…”

               “มี”

               “แล้ว…”

               หนนี้ หวังต้าเจิงพูดไม่ทันจบ เซี่ยหยู่ก็แทรกว่า “ไม่ว่าเจ้าต้องการสมุนไพรอะไร ข้ามีทั้งหมด!”

               ขืนมัวแต่ถามกันไปมา พี่น้องทหารจะเสียเลือดจนตายซะก่อน!

               “ข้าจะไปเตรียมมาให้”

               เซี่ยหยู่ตัดบท หันหลังเดินกลับไปที่รถม้า แสร้งทำทีเป็นค้นหาสมุนไพรที่หลังรถ ซึ่งแท้จริงแล้ว นางหยิบสมุนไพรออกมาจากมิติ ใส่ตะกร้าอย่างแนบเนียน 

               ขณะที่หวังต้าเจิงเร่งมือเตรียมการรักษาผู้บาดเจ็บ ด้านไป๋มู่อวิ๋น…อดไม่ได้ที่จะหรี่ตามององค์หญิงอย่างสนใจปนฉงน  

               ..

               ..

               เพราะได้รับความรู้วิชาแพทย์มาจากหอคอยในมิติ เพียงมองคนเจ็บแวบเดียว เซี่ยหยู่ก็รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้าง

               เด็กสาวไม่เพียงหยิบสมุนไพรห้ามเลือดออกมา นางยังหยิบน้ำเกลือล้างแผล ยาฆ่าเชื้อ สำลี ผ้าก๊อซ อุปกรณ์เย็บแผล และของใช้ที่จำเป็นอย่างอื่นออกมาด้วย

               ลี่ถิงกับทหารอีกสามคนตามมาช่วยเซี่ยหยู่ขนของ

               เมื่อของถูกขนมาครบแล้ว หวังต้าเจิงก็สั่งให้ผู้ช่วยไปบดยา ส่วนคนที่มีหน้าที่ต้มยาก็ไปต้ม

               หวังต้าเจิงวินิจฉัยคนบาดเจ็บพร้อมกับรักษาอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคนที่ถูกแทงที่ท้อง มองจากบาดแผลที่ใหญ่และลึก อาการสาหัส  

               หากอยู่ในเมืองหลวงอาจจะยื้อชีวิตชายคนนี้ได้ แต่ตอนนี้พวกเขาต้องเดินทางลงใต้ ซ้ำยังถูกราชสำนักกดขี่ให้ยาและอุปกรณ์รักษามาไม่ครบ หวังต้าเจิงจึงได้แต่ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง

               “แผลถูกแทง ลึกถึงภายใน ไร้ทางเยียวยา”

               ได้ยินคำยืนยันจากหมอทหารโดยตรง ทหารที่ไร้ทางเยียวยาพลันทำหน้าเศร้าอย่างรู้ชะตากรรม เขาไม่ได้อ้อนวอนขอให้ช่วยชีวิต เพียงพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ว่า “ท่านหมอหวัง…ฝากคำพูดของข้าส่งถึงท่านแม่…”

               “ไม่รับฝาก อยากพูดอะไรก็กลับไปพูดด้วยตัวเอง”

               ทหารคนนั้นยังพูดไม่ทันจบ เซี่ยหยู่ก็แทรกขึ้นมา ทำเอาทุกคนตรงนั้นหน้าเหวอตามๆ กัน

               เซี่ยหยู่กล่าวต่ออย่างช้าๆ “บาดแผลของเจ้าสาหัสก็จริง แต่ไม่ได้กระทบถึงอวัยวะภายใน แค่เย็บปิดปากแผลก็น่าจะใช้ได้แล้ว”

               เซี่ยหยู่ไม่ได้พูดจาอวดดีหรือแสดงความมั่นใจเกินตัว แต่น้ำพุวิญญาณในมิติของนางสามารถยื้อชีวิตของเขาได้  

               “เช่นนั้น…กระหม่อมไม่ตายแล้วใช่หรือไม่” ทหารที่ถูกแทงท้องผุดสีหน้ามีความหวัง

               “อืม เจ้าไม่ตาย” เซี่ยหยู่สรุปพลางสวมถุงมือแพทย์ จากนั้นก็หยิบยาชากับอุปกรณ์เย็บแผลออกมาเตรียมพร้อม

               เซี่ยหยู่ยังบอกให้ลี่ถิงช่วยถอดเครื่องประดับบนหัว พับแขนเสื้อขึ้น เพื่อนางจะได้ช่วยรักษาคนเจ็บได้อย่างสะดวก

               ในใจของลี่ถิงแม้มึนงงสับสน แต่ก็เข้ามาช่วยองค์หญิงอย่างว่าง่าย

               พูดก็พูดเถอะนะ…องค์หญิงเคยเรียนวิชาแพทย์ด้วยหรือ นอกจากหนังสือนิยายกับหนังสือรวมเหล่าชายงาม ในตำหนักไม่มีตำราแพทย์สักเล่ม! แล้วองค์หญิงเรียนรู้วิธีรักษาคนเจ็บมาจากที่ใด?

               ลี่ถิงคิดพลางช่วยองค์หญิงจัดแจง เมื่อเตรียมพร้อมให้องค์หญิงเรียบร้อย นางก็หลบไปอยู่วงนอกจะได้ไม่เกะกะ

               เซี่ยหยู่ก้าวเข้ามาตรงหน้าคนเจ็บ ผ่านไปหลายนาที นางก็ยังไม่ได้ลงมือเย็บแผลคนเจ็บ  

               ว่าตามตรง ความรู้ในหัวถึงจะมีมาก แต่นางไม่เคยเย็บแผลคนจริงๆ มาก่อน ดังนั้นพอเผชิญกับบาดแผลสดๆ ความมั่นใจย่อมสั่นคลอนลง

               เมื่อเห็นว่าเซี่ยหยู่ยืนนิ่งอยู่นาน ทหารที่นอนรอรับการรักษา พลันหน้าถอดสี ความหวังก็เริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ

               นั่นสินะ...องค์หญิงก็แค่เด็กสาววัยสิบกว่าปี ถึงจะมีความรู้ทางการแพทย์จริง แต่ประสบการณ์รักษาคนเจ็บย่อมน้อย เรื่องเย็บแผลไม่ต้องกล่าวถึง การรักษาขั้นสูงแบบนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่องค์หญิงจะทำได้ แค่นางพยายามยื้อชีวิตอันต่ำต้อยของเขา ก็ซาบซึ้งมากแล้ว  

               “องค์หญิง ไม่เป็นอะไรหรอกพ่ะ…”

               คำว่า ‘พ่ะย่ะค่ะ’ ยังไม่ทันหลุดจากปาก เสียง ‘แปะ!’ ก็ดังขัดจังหวะ

               ทุกคนทั้งลานที่เห็นองค์หญิงตบแก้มตัวเองเสียงดัง อดเบิกตากว้างอย่างตะลึงไม่ได้

               หลังจากตบหน้าเรียกสติตัวเองไปหนึ่งที แววตาที่เคยฉายความกังวลก็สงบนิ่ง มือทั้งสองข้างที่สั่นเทา บัดนี้หายสั่นแล้ว

               เซี่ยหยู่รวบรวมความกล้า ลงมือรักษาเย็บแผลคนเจ็บช้าๆ แต่มั่นคง   

               ในขณะที่เซี่ยหยู่มีสมาธิกับการรักษา ในตอนนี้นี้ทั้งลานต่างเงียบกริบ ทุกสายตาจับจ้องเด็กสาวโดยไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไร กลัวว่าหากขัดจังหวะเล็กน้อย นางอาจจะเสียสมาธิ และเย็บแผลพลาด 

               หลายนาทีต่อมา เซี่ยหยู่ก็เย็บปิดปากแผลให้ทหารบาดเจ็บเรียบร้อย เด็กสาวหยิบผ้าก๊อซพันรอบเอวของเขาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะย้ำเสียงหนักแน่นว่า “อย่าให้แผลโดนน้ำ รักษาความสะอาดให้ดี แค่นี้เจ้าก็ไม่ตายแล้ว”

               เมื่อรู้ว่ารอดพ้นจากขอบเหวแห่งความตาย ทหารผู้นั้นถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ น้ำตาของเขาไหลพรากลงมาเป็นสาย ทั้งยังทำท่าจะลุกขึ้นมาโขกศีรษะคารวะองค์หญิงเพื่อแสดงความขอบคุณ   

               “ขอบพระทัยองค์หญิง ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”

               เซี่ยหยู่ทนดูท่าทางทุลักทุเลของเขาต่อไปไม่ไหว จึงกดให้เขานอนลงไป ทั้งยังเอ็ดเสียงเข้มว่า “บ้าแล้ว! เจ้าจะทำให้แผลที่ข้าอุตส่าห์เย็บฉีกอีกหรือไง แล้วนั่นจะร้องไห้ทำไม เจ้ายังไม่ตายสักหน่อย!”

               คำพูดดุร้ายและตรงไปตรงมาขององค์หญิงไม่ได้ทำให้คนฟังไม่พอใจ ตรงกันข้าม เหล่าทหารกลับมองนางด้วยแววตาเลื่อมใสดุจเห็นเทพธิดา

               เซี่ยหยู่ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า หันไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรายอื่นต่อ

               เมื่อเห็นองค์หญิงทุ่มเทรักษาคนบาดเจ็บอย่างเต็มที่ คนอื่นก็ไม่น้อยหน้า ช่วยเหลือกันอย่างกระตือรือร้น ไม่นานก็รักษาคนเจ็บครบทุกคน 

               ก่อนจะไปพัก เซี่ยหยู่เปิดหม้อยาต้ม แกล้งตรวจสอบว่ายาต้มได้ที่แล้วหรือยัง ก่อนจะใช้จังหวะที่ไม่มีใครสังเกต แอบผสมน้ำพุวิญญาณลงไปให้ทุกคนดื่ม คนบาดเจ็บจะได้สมานตัวเร็วขึ้น ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้บาดเจ็บก็จะได้กลับมามีเรี่ยวแรงเร็วๆ

               ทหารเหล่านี้อุตส่าห์ปกป้องนางกับน้องชายด้วยชีวิต นางจึงไม่เสียดาย ใช้ทองสิบก้อน ซื้อน้ำพุวิญญาณผสมน้ำให้พวกเขาดื่ม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!    บทที่ 28 เยว่หลิวเซิงเจอทางตัน!?

    บทที่ 28เยว่หลิวเซิงเจอทางตัน!? ย้อนกลับมาบนเส้นทางอพยพ ชาวบ้านกลุ่มใหญ่หลายร้อยชีวิตทยอยเดินลงจากเขา สภาพแต่ละคนล้วนอิดโรย เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินและเหงื่อไคล ทว่าพวกเขากลับเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ไม่สับสนวุ่นวาย ถึงเสื้อผ้าของพวกเขาจะมีการปะชุนซ้ำๆ แต่ก็ดูดีกว่ากลุ่มผู้ลี้ภัยกลุ่มอื่นๆ เด็กเล็ก สตรี และคนชราต่างได้รับการคุ้มครองจากชายฉกรรจ์ในกลุ่ม ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แม้ตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านจะเป็นชายสูงวัยแซ่ลู่ที่อายุเกือบห้าสิบปี ทว่าผู้นำการเดินทางกลับเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบ เห็นอายุน้อยเช่นนี้ แต่ประสบการณ์การเอาตัวรอดกลับสูงลิ่ว บนหลังของชายหนุ่มคนนี้ยังแบกทารกแฝดชายหญิงไว้ในตะกร้า ส่วนด้านหน้าอุ้มเป้เก่าๆ ใบหนึ่ง ในมือของเขาถืออุปกรณ์ทรงกระบอกยาว เรียกว่า “กล้องส่องทางไกล” ทันทีที่เดินลงจากเขา ชายหนุ่มยกกล้องส่องทางไกลขึ้นส่องดูทิศทาง และสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น หน้าประตูเมืองซีหนานเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญ

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 27 แผนการอันชั่วร้าย (สอง)

    บทที่ 27แผนการอันชั่วร้าย (สอง) ยิ่งครุ่นคิดถึงเรื่องซวยสารพัดที่ประสบพบเจอในช่วงนี้ ความโกรธแค้นของเสนาบดีเผิงก็ยิ่งทวีคูณ ถ้าไม่ใช่เพื่อทำลายเสบียงของขบวนองค์ชายสาม ก็คงไม่ส่งเผิงอู๋ไปร่วมมือกับพวกโจรป่า และลูกชายคนรองของเขาก็คงไม่ต้องตาย เคราะห์กรรมครั้งนี้ พูดไปแล้วเป็นความผิดของเผิงซวนทั้งนั้น แต่คนชั่วเห็นแก่ตัวไหนเลยจะยอมรับผิด เขาโยนความผิดทั้งหมดไปที่ไป๋มู่อวิ๋น พอสรุปออกมาแบบนั้น เผิงซวนก็รีบวิ่งโร่มาทูลฟ้องต่อฮ่องเต้ “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดทวงความเป็นธรรมให้ลูกชายของกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” ฮ่องเต้ทรงเลิกพระขนงเล็กน้อย “ทวงความเป็นธรรม? หมายความว่าอย่างไร” “ไป๋มู่อวิ๋น…เขาฆ่าลูกชายของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!” ถ้อยคำนั้นทำให้ฮ่องเต้ถึงกับขมวดพระขนงแน่น ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ทราบเพียงว่าบุตรชายคนรองของอัครเสนาบดีเผิงถูกพบเป็นศพกลางป่า ร่องรอยบ่งชี้ว่าถูกหมาป่ากัดแทะจนตาย แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับไป๋มู่อวิ๋น? เผิงซวนเห็นคว

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 26 แผนการอันชั่วร้าย (หนึ่ง)

    บทที่ 26แผนการอันชั่วร้าย (หนึ่ง) เวลานี้ ประตูเมืองซีหนานปิดเงียบ จากข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไป ทำให้ไม่มีขบวนผู้อพยพสักกลุ่มกล้าเข้าใกล้ประตูเมืองอีกเลย ณ จวนแม่ทัพซีหนาน นายทหารคนหนึ่งรีบเร่งเข้ามารายงาน “ท่านแม่ทัพ! หน่วยสอดแนมแจ้งมาว่ามีขบวนรถม้ากลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาในเขตเมืองซีหนานขอรับ!” ชายสวมเกราะเหล็ก อายุราวสามสิบปลายๆ ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ “ขบวนรถม้ากลุ่มใหญ่อย่างนั้นรึ...ก็คงเป็นขบวนรถม้าขององค์ชายสาม?” นายทหารผู้รายงานรีบพยักหน้ารับ “แม้ผู้ติดตามจะไม่ได้สวมเกราะทหาร แต่จากท่วงท่าและอาวุธที่พก มองแวบเดียวก็รู้เลยขอรับว่าพวกเขาเป็นทหารแน่นอน” ได้ยินเช่นนั้น แม่ทัพแซ่เสวี่ยหัวเราะในลำคอเบาๆ “น่าชื่นชม ทั้งที่ข่าวลือหน้าประตูซีหนานแพร่สะพัดไปทั่วกลุ่มผู้อพยพ แต่ขบวนม้าขององค์ชายยังกล้าเลือกผ่านเส้นทางนี้...” “คงเพราะแม่ทัพไป๋ ผู้คุ้มกันขบวนรถม้า มั่นใจในฝีมือตนเองนักกระมัง ว่าสามารถปกป้ององค์ชายสามแ

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 25 กวาดล้างผู้อพยพ

    บทที่ 25กวาดล้างผู้อพยพ “จะตามไปเก็บหรือไม่เจ้าคะ” ลี่ถิงถามอย่างไม่เข้าใจ จิ้งอี๋เพียงส่ายหน้า “เสียเวลา พวกเราไปกันเถอะ” เป้าหมายของการเดินทางคือมุ่งหน้าไปยังเมืองหลิงหนาน ระหว่างการเดินทางบนเส้นทางอพยพ ความแร้นแค้นได้เปลี่ยนชาวบ้านให้กลายเป็นโจรเร่ร่อน หลายครั้งพวกเขาเห็นคนที่เคยเป็นชาวนาต้องหันมาปล้นและแย่งชิงอาหารกันเอง องค์หญิงเซี่ยหยู่ทำได้เพียงแค่เข้าไปสั่งสอนเท่านั้น ครั้นจะให้ตามจับส่งทางการทุกคนย่อมเป็นไปไม่ได้ พวกเขาไม่มีเวลามากพอสำหรับเรื่องนั้น เมื่อมาถึงที่พัก ทั้งสองนำซากหมาป่ามอบแก่กลุ่มผู้อพยพให้แบ่งกันทำอาหาร พร้อมบอกว่าในป่ายังเหลืออีกสี่ตัว ทุกคนต่างแสดงความยินดี ได้ทั้งเนื้อได้ทั้งหนังไว้ใช้ ชายชราคนหนึ่งที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน กล่าวขอบคุณแทนชาวบ้านทุกคน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล “แม่นาง ข้าเห็นขบวนรถม้าของพวกเจ้ากำลังเดินทางสวนกับผู้อพยพ...พวกเจ้าจะเดินทางไปเมืองซีหนานกันหรือ?” “พวกเราไม่ได้จะไปเมืองซีหน

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 24 หนีหมาป่า ปะทะ โจรเร่ร่อน

    บทที่ 24หนีหมาป่า ปะทะ โจรเร่ร่อน กลางดึกสงัดคืนหนึ่ง ภายในกระโจมของเหล่าหญิงสาว ลี่ถิงสะลึมสะลือลุกขึ้นนั่ง หลังจากกะพริบตาถี่ๆ เพื่อเรียกสติอยู่ครู่หนึ่ง นางก็หันไปสะกิดจิ้งอี๋เบาๆ “อะไรหรือ” “ข้าอยากเข้าห้องน้ำ…” ยิ่งใกล้จะถึงเมืองหลิงหนานเท่าไร อากาศก็ยิ่งร้อน ลี่ถิงจึงดื่มน้ำเยอะ ตอนนี้ก็เหมือนจะกลั้นไม่อยู่แล้ว แน่นอน บนเส้นทางอพยพเช่นนี้ ‘ห้องน้ำ’ ที่ว่าก็คือป่าข้างทาง “พี่สาวจิ้งอี๋ พาข้าไปห้องน้ำทีนะ” ลี่ถิงบอกพลางยิ้มเขิน จิ้งอี๋เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ จึงขานรับสั้นๆ “ได้สิ” จากนั้นหญิงสาวทั้งสองก็ลุกออกจากกระโจม เมื่อเดินออกมาไกลพอสมควร ลี่ถิงก็เดินลับเข้าไปในป่าเพื่อทำธุระส่วนตัวอย่างไม่รอช้า พอจัดเสื้อผ้าเรียบร้อย ลี่ถิงก็ก้าวออกจากป่าด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ท่ามกลางความมืดของราตรี จู่ๆ ลี่ถิงพลันรู้สึกเย็นที่สันหลังวาบ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ครั้นหันไปมองต้นตอขอ

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 23 เซี่ยอวี้จัดการเอง!

    บทที่ 23 เซี่ยอวี้จัดการเอง! “เดี๋ยวก่อน!” เสียงเซี่ยอวี้ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะประคองกระบอกน้ำด้วยสองมือแล้วส่งให้กับพี่สาว เซี่ยหยู่เห็นความโอบอ้อมอารีของน้องชาย อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปขยี้หัวเล็กๆ ของเจ้าตัวจิ๋วแรงๆ ด้วยความเอ็นดู เมื่อรับกระบอกน้ำมา เซี่ยหยู่ก็แอบใส่น้ำพุวิญญาณลงไปเล็กน้อยระหว่างที่ก้าวตรงไปหาเด็กที่นอนหมดสติ หวังต้าเจิงที่เฝ้าดูอาการของเด็กชาย ครั้นเห็นองค์หญิงตรงมาทางนี้ก็รีบโค้งคำนับแล้วบอกว่า “กระหม่อมให้ยาลดไข้เด็กคนนี้แล้ว เหลือแค่รอดูอาการพ่ะย่ะค่ะ” “อืม” เซี่ยหยู่ตอบหวังต้าเจิงสั้นๆ จากนั้นก็ยื่นกระบอกน้ำให้หญิงหม้ายที่นั่งกอดลูกชายพร้อมกับร่ำไห้ “ให้ลูกของเจ้าดื่มน้ำนี้เถอะ จะช่วยให้สดชื่นขึ้น” “ขะ…ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณหนู” หญิงหม้ายรับกระบอกน้ำมา จากนั้นก็ก้มกราบจนหน้าผากติดพื้น ก่อนประคองลูกชายให้ขึ้นมาจิบน้ำอย่างช้าๆ แม้ยังหมดสติ แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดทำให้เด็กน้อยค่อยๆ ขยับริมฝีปาก ดื่มน้ำเข้าไปทีละน้อย ไม่นานจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status