รุ่งเช้าปรัชญ์ขับรถของลินินมาหาหญิงสาวที่บ้านพัก แต่บ้านปิดเงียบไม่มีวี่แววของคนอาศัย เขาจึงต้องขับรถของเธอไปจอดไว้ที่มหาวิทยาลัย แล้วนั่งรถรับจ้างไปเอารถที่จอดทิ้งไว้เมื่อคืน
“ด็อกเตอร์ลินินลาป่วยตั้งหนึ่งอาทิตย์ เพิ่งมาทำงานแท้ๆ แต่ใช้วันลาล่วงหน้าได้” อาจารย์สาวคนหนึ่งกำลังซุบซิบนินทาด็อกเตอร์สาวกับเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน
“ก็ใช้เส้นท่านอธิการบดีนี่เนาะ ใครจะกล้าว่า ดีไม่ดีปีหน้าคงได้เลื่อนขั้นไวกว่าพวกเรา”
อาจารย์อีกคนร่วมวงนินทาอย่างสนุกปาก อาจารย์สาวหลายคนไม่ได้ชอบลินินนัก บางคนถึงกับหมั่นไส้กับมาดหยิ่งๆ ของเธอ ยิ่งอาจารย์หนุ่มพากันให้ความสนใจ ยิ่งทำให้ความน่าหมั่นไส้ทวีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
“อุ้ย! อาจารย์ปรัชญ์มาแล้ว นึกว่าจะลางานเหมือนด็อกเตอร์ลินิน เห็นว่าไปงานด้วยกันมา”
อาจารย์สาวจอมนินทา เปลี่ยนสีหน้าฉาบความน่ารัก มาพูดจาทักทายกับอาจารย์หนุ่มสุดหล่อของมหาวิทยาลัย
“เมื่อคืนงานเลิกค่อนข้างดึกครับ ผมเห็นด็อกเตอร์ลินินไม่ค่อยสบาย เลยแนะนำให้ลาป่วย”
ปรัชญ์อดแก้ตัวแทนไม่ได้ ถึงเขาจะไม่ชอบขี้หน้าลินิน แต่ก็ทนเห็นเธอถูกคนว่าร้ายไม่ได้
“จริงหรือคะ แต่ลาทีเดียวหนึ่งอาทิตย์ แบบนี้จะมีผลกระทบต่อตารางสอนหรือเปล่าคะเนี่ย” อาจารย์สาวยังไม่วายหาเรื่อง
“คงไม่หรอกครับ ด็อกเตอร์ลินินอยู่ฝ่ายบริหาร ไม่ได้ยุ่งกับการสอนแบบพวกเรา อ้อ... ผมมีสอนคาบเช้าต้องขอตัวก่อนนะครับ” ปรัชญ์ขี้เกียจเสวนาต่อ จึงเลี่ยงออกไป
“ยายด็อกเตอร์นี่เสน่ห์แรงไม่เบา อาจารย์ปรัชญ์ยังออกตัวปกป้อง หมั่นไส้จริง”
เสียงนินทาลอยตามหลังมา ไม่ทำให้ปรัชญ์สนใจ เขาครุ่นคิดเรื่องการลางานของลินินมากกว่า เมื่อคืนเขาคุยกับมารดา ท่านอยากให้เขาเดินเรื่องในการฟ้องร้องแพรพรรณในคดีมรดกของมัสลิน เขาอยากเจรจากับลินินก่อน แต่หญิงสาวดันหลบหน้าเสียได้
“ยายผ้าป่าน นึกเหรอว่าจะหนีฉันพ้น หึ ฉันจะตามไปจัดการเธอกับแม่ถึงหน้าบ้านเลยคอยดูสิ”
ปรัชญ์สอนจนครบคาบ แล้วก็ส่งใบลาในอีกสองวันข้างหน้า เขาลางานทีเดียวเจ็ดวันใช้วันลาของตัวเองแบบเต็มพิกัด งานนี้เขาต้องตามไปจัดการเรื่องคดีความให้มัสลิน อาจจะต้องใช้เวลาในการจัดการเรื่องนี้นานสักหน่อย
ลินินหลบหน้าปรัชญ์ด้วยการขอลาป่วยถึงหนึ่งอาทิตย์ แล้วพาตัวเองกลับมาหามารดาที่บ้าน แพรพรรณเห็นลูกสาวกลับมาก็ดีใจมาก ตอนนี้สถานะทางการเงินของนางต้องพึ่งพารายได้ของลูกสาว เงินที่ขายตลาดได้จมหายไปกับการลงทุนเปิดร้านอาหารในต่างแดน บวกกับค่ารักษาตัวของสมเกียรติทำให้แทบล่มจม แพรพรรณรักษาสมบัติที่แย่งชิงจากมัสลินไว้ไมได้ เหลือเพียงบ้านเก่าหลังนี้กับเรือนไทยของคุณยายฝ้ายคำทรัพย์สมบัติชิ้นสุดท้ายที่ยังไม่ได้ขายออกไป ตลาดถูกเจ้าสัวโภคินรื้อทิ้งแล้วสร้างคอนโดหรูโครงการใหญ่แทนที่
“หนูป่าน วันนี้ไปข้างนอกกับแม่นะ แม่มีนัดกับคุณโกมุท” แพรพรรณเอ่ยชวนลูกสาว
“ไม่ไปได้ไหมคะคุณแม่ ป่านอยากอยู่บ้าน” ลินินปฏิเสธ
“อยู่มาหลายวันแล้ว เดี๋ยวก็กลับไปเชียงใหม่ เอาเวลาที่ไหนไปคุยกับคุณโกมุทเขาล่ะ”
คนเป็นแม่อดบ่นไม่ได้ ลินินกลับมาอยู่บ้านสามวันแล้ว เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องพอถามก็บอกว่าปวดหัว ไม่ยอมออกไปไหนกับแม่สักหน แพรพรรณอุตส่าห์ไปคุยกับนายโกมุทไว้แล้ว ว่าจะพาลูกสาวไปหา เพื่อคุยเรื่องการทาบทามหมั้นหมายกับลูกชายของอีกฝ่าย โกมุทร่ำรวยไม่แพ้เจ้าสัวโภคินอดีตเจ้าหนี้ที่เธอเอาหลานสาวอย่างมัสลินไปแต่งงานขัดดอกให้ นังเด็กบ้านั่นดันสร้างเรื่องถูกคนร้ายลักพาตัวไป ทำให้เจ้าสัวริบสินสอดคืนแถมยังเร่งรัดหนี้สินคืน ยังดีที่วางแผนจนได้มรดกของมารดามาทดแทน แต่สมบัติพวกนั้นก็กลายเป็นผงฝุ่นไปแล้ว นางต้องหาทางทำให้ลูกสาวได้แต่งงานกับลูกชายของโกมุทเพื่อกอบกู้สถานะการเงินของครอบครัวให้ได้
“ไปเถอะนะ เห็นแก่แม่เถอะ แม่อยากให้หนูป่านได้แต่งงานกับคนที่คู่ควรกับหนู ลูกชายของคุณโกมุทเป็นตัวเลือกที่ดี คุณโกมุทเองก็พอใจหนูมากทาบทามแม่มาหลายหนแล้ว” แพรพรรณเกลี้ยกล่อมลูกสาว
“แต่ป่านกับเขาไม่ได้รักกันนะคะ แต่งงานกันไปก็คงไม่รอด” ลินินท้วงขึ้น
“แล้วหนูรักใครแล้วเหรอ ถึงอยากแต่งงานกับคนที่รัก เขาเหมาะสมกับหนูหรือเปล่า แล้วเขารักลูกของแม่จริงหรือเปล่า หนูเป็นถึงด็อกเตอร์ ผู้ชายที่เหมาะสมกับหนูหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกนะลูก ลูกชายของคุณโกมุทเขาเหมาะสมกับลูกมาก เชื่อแม่นะลูก”
แพรพรรณไม่อยากหักหาญน้ำใจลูก ด้วยไม่เคยบังคับลูกมาแต่ต้น เอาอกเอาใจตามใจ จนเหมือนเจ้าหญิงของบ้านมาตลอด โชคดีที่ลินินไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เรียนเก่งจนจบ
ด็อกเตอร์ สร้างความภาคภูมิใจให้พ่อแม่ หากต้องยกลูกสาวให้ผู้ชายสักคน เธอต้องเลือกแล้วว่าเขาเหมาะสมลูกสาวทุกอย่าง ลูกชายของโกมุทคือชายหนุ่มคนนั้น
“แม่คิดว่าดีจริงๆ หรือคะ”
ลินินถามเสียงเบา สับสนกับความรู้สึกบางอย่างในหัวใจตัวเอง หากเธอยอมทำตามความต้องการของมารดา เท่ากับเธอเลือกเดินหนีหัวใจตัวเอง
“ปอนด์ .. อ๊ะ ปอนด์ขา...”ลินินร้องครางเสียงพร่า ส่ายหน้าไปมาด้วยความรัญจวน ร่างกายของเธอถูกเขาบงการให้มีสภาพคล้ายดินน้ำมัน ที่จัดแต่งได้ตามใจเขาต้องการ ไม่ว่าจะพลิกพลิ้ว หมุนซ้าย หมุนขวา หันหน้าหรือหันหลัง เธอก็เคลื่อนตัวตามความต้องการของเขาทั้งสิ้น ความสุขสันต์รัญจวนใจ ประทุขึ้นโอบคลุมร่างกาย จนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองปรัชญ์เองก็มอบทุกความสุขให้ภรรยาอย่างเต็มความสามารถ เขางัดลีลาเด็ดๆ มาใช้กับเธอ ในน้ำอาจจะทำให้เขาใช้ความรุนแรงไม่เต็มที่ แต่ก็มีความหฤหรรษ์ในทางอื่นชดเชยกัน พอร่างงามเกร็งกระตุก ภายในกายสาวรัดรึงเขาแน่น ชายหนุ่มก็สูดปากร้องครางออกมาแนบอกอวบแสนหวาน เร่งกระหน่ำโจนจ้วงเข้าหาเธอสุดแรง จนไปแตะขอบฟ้าด้วยกัน“อ๊าคคคค / กรี๊ดดดด”เสียงกรีดร้องด้วยความสุขสมของสองสามีภรรยาดังขึ้น พร้อมกับดวงอาทิตย์กลมโต หล่นจมลงไปใต้ขอบน้ำทะเล ความมืดโรยตัวเข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณ“ขึ้นจากน้ำกันเถอะ มืดแล้ว”ลินินเอ่ยเสียงหอบ เอนหน้าซบบ่าหนาของสามีไว้ หลังจากเสร็จศึกในน้ำแล้ว“ไปต่อ ที่ห้องกันนะ”ฉลามหนุ่มยังกินนางเงือกไม่อิ่ม อยากจะกินร่างงามๆ นี่ให้สมอยากอีกสักสองสามรอบ“ฉันหนาว แล้วก็หิวข้าวด้ว
“น้ำเย็นสบายจัง”ลินินเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจจากสามีให้มองหน้าเธอ หญิงสาวยิ้มหวานยกมือมาเกาะบ่าหนาของเขา ขยับตัวไปแนบชิด จนทรวงอวบงามแตะแนบกับแผงอกของเขา ลอบยิ้มเมื่อเห็นเขาสูดลมหายใจแรงๆ ดูเหมือนความเย็นของน้ำไม่ได้ทำให้อารมณ์ร้อนแรงในตัวเขาเย็นลงแม้แต่น้อย ตัวเธอเองก็ร้อนผ่าวไปกับสายตาเสน่หาของเขาเช่นกัน“อืม... เย็น อ่า... เย็นดีนะ”ปากพูดแต่มือของปรัชญ์เริ่มเลื้อยไปลูบบั้นท้ายของหญิงสาว เขาขยำสะโพกตึงแน่นของเธออย่างมันเขี้ยว กดให้แนบกับน้องชายของเขาที่เริ่มแข็งขึงขึ้นมา ลินินเหมือนจงใจยั่วเขาซ้ำด้วยการส่ายสะโพกไปมา ให้เนินนุ่มเสียดสีกัน เพิ่มแรงประทุในอารมณ์หนุ่มให้ร้อนแรงขึ้นเหมือนภูเขาไฟจวนระเบิด“ปอนด์ขา...”ลินินครางเรียกชื่อเขาเสียงหวานหยด เลื่อนมือมาลูบแผงอกของเขาไปมา ขณะเงยหน้าขึ้นแตะริมฝีปากบนลูกคางของเขาแผ่วๆ ริมฝีปากไต่ขึ้นมาจุมพิตริมฝีปากของเขา พอเขาจะจูบตอบเธอกลับผละออกห่าง แล้วว่ายน้ำหนีปล่อยให้เขาค้างคา จนต้องว่ายน้ำไล่จับแม่เงือกสาวจอมยั่ว แต่ลินินก็ว่ายน้ำเก่งจนคนตามจับต้องออกแรงอยู่นาน“อย่าหนีนะป่าน”“แน่จริง ก็จับฉันให้ได้สิคะปอนด์”ลินินสนุกกับการว่ายน้ำหนีสามีจ
“เล่นน้ำกันไหม แดดไม่แรงเท่าไหร่” ปรัชญ์เอ่ยชวน“ต้องทากันแดดก่อน” ลินินชูขวดครีมกันแดดให้เขาดู“ผลัดกันทาดีไหม เธอทาให้ฉันก่อนสิ เดี๋ยวฉันทาให้เธอบ้าง”ปรัชญ์หันหลังให้เธอช่วยทาครีม ลินินเปิดฝาขวดเทครีมบนฝ่ามือ ชโลมบนหลังให้เขานวดเบาจนครีมเข้าใต้ผิว แล้วจับไหล่ให้เขาหมุนตัวมาด้านหน้าทาครีมในส่วนที่เหลือ มือเรียวสวยลูบเบาๆ บนแผงอกหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อลอนสวย แก้มแดงระเรื่อไม่กล้าสบตาแวววาวของสามี ผิวของปรัชญ์เนียนลื่นขาวสะอาด ไม่แพ้ผิวของผู้หญิง สายตาคนทามองไปตามฝ่ามือแล้วเผลออมยิ้มเมื่อเห็นจุกนมสีชมพูของเขา มือเลื่อนลูบไปมาบนรอบป้านนมสีสวยนั้นนานเป็นพิเศษ ก่อนจะเลื่อนลงมาตามหน้าท้อง บรรจงทาครีมบนลอนกล้ามเนื้อทั้งหกลอน“อา... ป่านจ๋า นี่เธอทาครีมหรือว่าปลุกอารมณ์ผัวกันแน่”เสียงครางแผ่วพร่าดังใกล้หู ลมหายใจอุ่นๆ รินรดแก้มนวล เมื่อเจ้าของซิกแพกโน้มหน้ามาแตะปลายจมูกบนแก้มหอมๆ ของคนทา“ก็ทาครีมไง” ลินินเงยหน้าขึ้นสบสายตาวาววามของสามี แก้มร้อนผ่าวขึ้นมากับปลายจมูกที่กำลังปัดป่ายบนแก้มเธอ“ทาแค่นี้พอแล้ว ขืนทาอีก ฉันว่าเราคงไม่ได้ลงเล่นน้ำกันแล้ว”ปรัชญ์จับมือเธอไว้ไม่ให้ขยับลูบโลมเขาต่อ
“เหลือเราสองคนแล้วนะ”ปรัชญ์หันมาบอกลินิน หญิงสาวยิ้มสบตาเขาอย่างไม่กลัวเกรง เอ่ยว่า“อยู่กันสองคนแล้ว ทำอะไรกันดีคะ”“ทำอะไรเหรอ”ปรัชญ์ทำตาวาวๆ มองไปทั่วร่างงามของภรรยาสาว ทำเอาคนถูกมองแก้มร้อนผ่าว“ก็เล่นน้ำทะเลกันสองคนน่ะสิ เธอไปจัดเสื้อผ้านะ เดี๋ยวฉันตามไป”“รีบตามมาเร็วๆ นะ”ลินินบอก ก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไปในห้อง หญิงสาวจัดการรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋ามาแขวนในตู้เสื้อผ้า จัดของเขาเสร็จก็จัดของตัวเองบ้าง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อหยิบชุดว่ายน้ำสีฟ้าออกมา ชุดนี้มัสลินให้มาเป็นของขวัญ และยังมีอีกสองชุดสีดำกับสีชมพู“พี่ป่าน ต้องหัดทำตัวเซ็กซี่เอาใจสามีบ้าง ยิ่งมีลูกแล้วเรายิ่งต้องสวยกว่าเดิม ให้สามีเราไปไหนไม่รอด” คำแนะนำของน้องสาวมาพร้อมชุดว่ายน้ำสามชุด และชุดนอนโปร่งบางอีกสองชุด แถมยังมีน้ำหอมและเครื่องสำอางอีกชุดใหญ่ เรียกว่าการมาฮันนีมูนครั้งนี้ เตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อกระชากใจสามีอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน“เมื่อคืนก็แทบแย่ ถ้าใส่ชุดนี้ จะรอดไหมเรา”ลินินมองชุดแล้วชั่งใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ สวมชุดนั้นไว้ข้างใน แล้วสวมชุดกระโปรงยาวกรุยกรายทับไว้ด้านนอก พอออกมาพบว่าปรัชญ์นั่งรออยู่บนเตี
หลังจากงานแต่งงาน ปรัชญ์ก็พาลินินไปฮันนีมูนกันสองคน เปรมใจรับอาสาเลี้ยงหลานให้คู่แต่งงานได้ใช้ช่วงเวลาแสนหวานร่วมกัน กริชกับมัสลินให้ของขวัญพี่ชายกับพี่สาว เป็นทริปฮันนีมูนบนเกาะส่วนตัว กริชลงทุนให้ยืมเรือยอร์ชของเขาและแถมใจดีให้ทั้งสองไปพักผ่อนที่บ้านพักบนเกาะส่วนตัวตอนแรกปรัชญ์กับลินินไม่อยากไปเพราะห่วงสองแฝด แต่กริชกับมัสลินช่วยกันเกลี้ยกล่อมบวกกับเปรมใจรับอาสาดูแลหลานให้ ทั้งสองผ่านช่วงเวลาแสนตึงเครียดและทุกข์ใจอย่างหนัก ในตอนที่ลินินตั้งท้องมาแล้ว ควรจะได้มีช่วงเวลาดีๆ ในความทรงจำบ้าง“ไม่รู้ตอนนี้ลูกจะเป็นยังไงบ้างนะ” ลินินบ่นถึงลูกทั้งสอง“โธ่... พูดแบบนี้ ฉันอยากแบกกระเป๋าพาเธอกลับบ้านเลยนะ ยิ่งคิดถึงตาหนูกับยายหนูอยู่”คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้น มีความคิดถึงลูกแฝดจนอยากล้มทริปฮันนีมูนเลยทีเดียว ติดตรงเขากับลินินอยู่บนเรือกลางทะเล และเรือใกล้ถึงเกาะส่วนตัวแล้ว กว่าจะทำใจจากลูกน้อยมาได้น้ำตาแทบหยด ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาไม่เคยห่างลูกทั้งสองสักหน เฝ้าเลี้ยงดูประคบประหงม จนเจ้าตัวน้อยเติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการทั้งร่างกายและสติปัญญาเท่าเด็กวันเดียวกัน เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็มีความสุขมาก ยา
“ป่านจ๋า เหนื่อยไหมคนดี”ปรัชญ์มายืนดูภรรยาปลดเครื่องประดับ และกิ๊บติดผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขาช่วยเธอดึงกิ๊บออก วันนี้ลินินสวยมาก สวยจนเขาใจสั่นไปหมด อยากเร่งให้ถึงเวลาเข้าหอไวๆ โชคดีที่เขาเลือกจัดงานแบบเรียบง่าย ไม่มีพิธีการยุ่งยากหรือแขกมากมายต้องรับรอง นอกจากมีเพื่อนฝูงและญาติมิตรมาร่วมงาน“นิดหน่อยค่ะ นายเมื่อยไหม ไหวหรือเปล่าเห็นดื่มไปหลายแก้ว” ลินินหันมาถาม“แค่จิบๆ เอง ฉันคอแข็งจะตาย แค่นี้ไม่ทำให้เมาหรอก ขืนเมาในวันเข้าหอก็เสียดายแย่สิ”เขาพูดไปทำตาวาวจ้องมองเนินไหล่และร่องอกของเธอไป มือลูบไล้ไปบนผิวนุ่มเนียน ขณะแตะปลายนิ้วบนซิปรูดลงช้าๆ ปากก็แตะบนหัวไหล่มนของเธอ จูบไล่ไปตามซอกคอขาวผ่อง อย่างหลงใหล“อื้อ... ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เหม็นเหงื่อจะแย่”ลินินบ่ายเบี่ยง ใจเต้นแรงกับการจู่โจมของเขา รู้ดีว่าเจ้าบ่าวของเธอหื่นหนักแค่ไหน ตาวาวของเขา ราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“เดี๋ยวค่อยอาบ”เจ้าบ่าวไม่สนใจเรื่องอาบน้ำ ตอนนี้เขาร้อนไปทั้งตัว อยากเชยชมเจ้าสาวแทบขาดใจแล้ว รีบช้อนอุ้มเจ้าสาวพาไปยังเตียง เขาวางเธอลงบนที่นอน แล้วลงมือช่วยถอดชุดเจ้าสาวให้ ด้วยวิธีแสนวาบหวาม ริมฝีปากแตะจุมพิตไปบน