“ทำไมนายอาบน้ำนานจัง”
เสียงไคล์นเอ่ยถามกับชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก “ก็อาบปกตินะ เอ….” เขาพูดลากเสียงช้าๆ ก่อนว่า “หรือว่านายใจร้อน” “บ้า … ฉันหิวแล้วต่างหาก และก็กลัวว่าไอรีนจะหิวแล้วเหมือนกัน” ไอ้คำว่าหิวที่ว่ายิ่งทำให้ข้างในมันตอดตุบๆ ก่อนที่คนร่างบางจะหันมามองยังคนร่างสูงที่สุด ที่พึ่งจะออกจากห้องน้ำมา แววตาเธอมองเขามันเว้าวอนแปลกๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมายิ้มให้ “เดี๋ยวฉันเข้าห้องน้ำแป๊บนะ พวกนายตามสบายได้เลย” ไคลน์เอ่ยบอกกับคนทั้งคู่ “นายจะไปนานรึไง พวกเรารอทานด้วยอยู่” ไม่นานคนตัวสูง 185 ก็เข้าห้องน้ำเพื่อไปทำความสะอาดร่างกายอีกรอบ วันนี้ทั้งวันเขาเพลียชะมัด ไม่นานนักเขาก็ออกมา ตอนนี้เทียนตรงกลางโต๊ะต่างถูกจุดมันสว่างและหอมมากช่างโรแมนติคจริงๆ นี่หากเขาได้ร่วมรักกับคนทั้งสอง มันจะเป็นยังไงนะ “ไคล์น? ” “ห่ะ!! ห๊ะ?? เมื่อกี๊นายว่ายังไงนะเอริค” “นายนี่ชักจะเอาใหญ่นะ ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมถามว่าวันนี้นายอยากดื่มไวน์ขาวรึไวน์แดง?” ก่อนที่ไคล์นจะหันมามองอาหารตรงหน้า มันมีเมนูสเต๊กเนื้อกับสเต๊กปลาแซลม่อนรมควัน “ถ้าให้ฉันเดานะ สเต๊กเนื้อสองจานนี่คงเป็นของเรา ก็ต้องทานคู่กับไวน์แดง ส่วนสเต๊กปลาแซลม่อนของหนูก็ต้องทานคู่กับไวน์ขาว” เรื่องกินล่ะขอให้บอก พี่ไคล์นแกถนัดนักล่ะ จากนั้นหญิงสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มก็รับเอาไวน์จากมือของเอริคมาช่วยริน เพราะเขาพึ่งจะเปิดฝาไวน์ให้ ไม่นานนักคนทั้งสามก็เริ่มนึกสนุก และอยากเล่นเกมกันขึ้นมา “เกมบ้าเกมบออะไรของนายเนี่ยไคล์น? ” เอริคถาม โดยที่คนตัวเล็กตรงข้ามก็มีสีหน้าสนใจอยู่ไม่น้อย เธอนั่งเอามือเท้าคางทำตาปริบๆ อย่างสนอกสนใจ “เกมทายใจ และพูดความจริง นี่นะช้อน” ไคล์นชูช้อนชาเล็กๆ ขึ้นมา “ถ้ามันไปชี้ที่ใคร ให้คนนั้นเป็นคนถาม จะถามใครก่อนก็ได้หนึ่งในสอง และคนตอบก็ต้องตอบด้วยความสัตย์จริง โอเคมั้ย? ” “อืม ก็ได้” “โอเคค่ะ” “แต่เดี๋ยว” ไคล์นห้ามทุกคน “ก่อนอื่นเราต้องดื่มหมดแก้ว แล้วค่อยเป่ายิ้งฉุบว่าใครจะเป็นคนหมุนคนแรก แต่ไม่เอาดีกว่า เราในฐานะเจ้าของห้อง และก็เป็นผู้ชาย งั้นให้ไอรีนหมุนก่อนเพื่อนละกัน โอเคมั้ย? ” “ได้” ส่วนไอรีนก็ดีใจปรบมือแปะๆ “เชียส ..” เกร๊ง!! สามคนก็ดื่มจนหมดแก้ว ก่อนที่ไอรีนจะเริ่มหันมองคนหัวโต๊ะที และคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามที “เอาแล้วนะค๊า” สักพักช้อนชาก็ชี้มาทางตัวเองซะงั้น “ถามเลยๆ ” ทั้งสองหนุ่มต่างลุ้นตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าเธอจะเลือกถามใครกันแน่ “งั้นหนูขอถามพี่เอริค ว่า…? ” ถามอะไรดีล่ะ ถ้าจะถามว่าคบพี่ไคล์นกี่ปีเธอก็รู้แล้วนี่นะ คนทั้งสองต่างมองหญิงสาวที่ดูอึกๆ อักๆ ก่อนที่ไคลน์จะพูดเสริมขึ้น “ถามเลย ถามได้ทุกเรื่อง” “งั้น… หนูขอถามพี่เอริคว่า ….” เธอยังคงแอบหันไปชำเลืองยังไคล์น “ว่าพี่เคยชอบผู้หญิงมั้ยคะ? ” บ้าเอ้ย!! นี่แกถามอะไรบ้าๆ ออกไปวะเนี่ย จริงๆ แล้วเธอก็อยากจะรู้นี่นาว่าที่ผ่านมาเขาได้ชอบผู้หญิงบ้างมั้ย และที่ทำกับเธอมันคืออะไร ความต้องการทางกายเฉยๆ งั้นหรอ หรือความใกล้ชิดที่เป็นไปตามอารมณ์ จะอะไรก็แล้วแต่ แต่เธอก็ถามมันออกมาแล้วนี่ คนถูกถามถึงกับไปไม่เป็น อีกทั้งเขายังเกรงใจคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตั้ง 11 ปี เอาวะ เอาเป็นว่าจะตอบอย่างละม่อมที่สุดก็แล้วกัน แต่คำตอบของเขานั้นกลับลืมนึกถึงใครอีกคน “พี่ก็ไม่แน่ใจว่าพี่ชอบผู้หญิงรึเปล่า!!” ทำเอาบรรยากาศหงอยไปเลยทีเดียว แต่แล้วไคล์นก็ทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ซะก่อน “ต่อๆ นายหมุนต่อเลยเอริค” แล้วปลายช้อนก็มาหยุดอยู่ที่ไคล์น “แน่นอนว่าคนที่ฉันจะถามคือไอรีน เพราะนายฉันรู้จักนายทุกอย่างหมดแล้ว” เขาว่า “งั้นพี่ขอถามไอรีนว่า ทำไมถึงเลิกกับแฟนฮะ? ” เธออึกอักอยู่ชั่วครู่ แต่แล้วเสียงของเอริคก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน “มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ยไคล์นถามอะไรบ้าๆ เปลี่ยนคำถามๆ” “ไม่ต้องค่ะ …” เธอเอ่ยกับพวกเขาก่อนจะเล่าว่า “จริงๆ แฟนเก่าของหนูเขาพึ่งค้นพบตัวเองหน่ะค่ะว่า ..” คนทั้งคู่ต่างตั้งใจฟังคำตอบ “ว่าจริงๆ แล้วเขาชอบผู้ชาย” คำตอบของเธอทำเอาบรรยากาศหงอยไปอีกถนัดตา นี่เขาคงไม่ทำให้เธอผิดหวังซ้ำรอยเดิมหรอกนะ แม่เจ้า ยิ่งเขาเป็นคนเปิดซิงเธอซะด้วย ไอ้ไคล์นนะไอ้ไคล์น คนร่างสูงกว่า 185 เอาแต่ครุ่นคิด สีหน้าไม่สู้ดีนัก กับความรู้สึกผิดที่เริ่มเกาะกินใจ ไม่ต่างจากเอริค เขาก็พรากเอาจูบแรกและเอาความสาวไปจากเธอด้วยเช่นกัน ไคล์นเครียดจนเผลอยกแก้วไวน์กระดกรวดเดียว จากนั้นก็เติมอีกแก้วและก็ยกพลวดขึ้นรวดเดียว “เฮ้ยๆ ไอ้คุณไคล์นครับ เดี๋ยวเดี้ยง!!” ไม่ทันซะละ คนคออ่อนถึงกับคอพับไปละ ทำเอาร่างสูงกว่า 190 และหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องต้องพยุงปีกซ้ายขวาช่วยกันหามขี้เมาเข้ามาในห้อง อึ๊บ!! ทันทีที่ล้มลง คนทั้งสามก็ล้มลงไปกองด้วยกัน ใบหน้าของเอริคและหญิงสาวก็เกือบจะชนริมฝีปากกันเข้าซะแล้ว อารมณ์เธอยิ่งค้างๆ อยู่ ตั้งแต่ที่คนขี้เมานอนแอ๋ตรงหน้าสาดเทอารมณ์ใส่ มันยังคงร้อนรุ่มแผดเผาอยู่ไม่หาย คนทั้งสองมองหน้ากันทั้งๆ ที่มีไคล์นหลับปุ๋ยอยู่ตรงกลาง แต่แล้วเอริคก็ยื่นมือหนาไปคว้าท้ายทอยดึงทึ้งเธอเข้ามาจูบ เธอผละออกและทำท่าทางดุๆ ใส่เขา จากนั้นคนทั้งคู่ก็จัดแจงท่านอนให้ไคล์นเสียใหม่ ให้เขานอนสบายได้ยิ่งขึ้น เมื่อทั้งสองออกมาริมระเบียงตามเดิม เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามในสิ่งที่ค้างคา “พี่ไม่รู้หรอคะว่าชอบผู้หญิงมั้ย? ” เธอเงียบไปสักพัก “ก็นั่นน่ะสินะคะ พี่ไคล์นก็อยู่ พี่คงกลัวว่า” อะ อื้มมม … เขาไม่ปล่อยให้ริมฝีปากบางได้เอื้อนเอ่ยใดๆ ต่อ คนร่างหนาก็เข้ามาจู่โจมประกบเรียวปากลงยังปากนุ่มนิ่มของเธออย่างไว ก่อนจะผละริมฝีปากออกและเอ่ยถาม “หึงพี่หรอ หืมม …” แล้วเขาก็เข้าประกบจูบกับเธออีกครั้ง ครั้งนี้เขาจูบอย่างแผ่วเบา ทะนุถนอม ก่อนจะเร่งจังหวะเป็นเร่าร้อนวาบหวามกินใจ คนที่อารมณ์ค้างมีหรอจะไม่สนองจูบตอบกลับ เธอให้ลิ้นน้อยๆ เกี่ยวตวัดดูดดึงเอาลิ้นใหญ่เข้ามาในโพรงปากของตัวเอง คนทั้งคู่ที่อยู่ในห้วงของอารมณ์ต่างไม่เกรงกลัวว่าใครอีกคนจะตื่น จากนั้นคนทั้งคู่ก็ยิ่งขยับกายแนบชิดกันเพื่อถ่ายเทความรู้สึกให้กันและกันได้รับรู้ถึงห้วงแห่งปรารถนา มือหนาก็ขยับบั้นท้ายของเธอให้มาเสียดสีกับเป้าตุงตรงจุดกลางกายอย่างรู้งาน ริมฝีปากยังคงจาบจ้วงตวัดเกี่ยวเอาความหวานหอมของกันและกัน ส่วนมือนั้นก็ซุกไซร้ไล้เลียขึ้นลงไปมา ก่อนที่เขาจะถลกกระโปรงชุดนอนของเธอขึ้น ร่างหนาอุ้มเธอไปวางยังโซฟาตัวเดิม ตัวที่คืนนั้นพวกเขาทำรักกันตรงข้างระเบียง เขาจับคนสวยให้นอนแผ่ราบ ก่อนจะยกเรียวขาทั้งสองของเธอขึ้นพาดบ่าของเขา คนนั่งคุกเข่ากับพื้นปูนถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาหิวกระหาย เขาหื่น เขาอยากจะจัดกับหญิงสาวตรงหน้าทุกคืนวัน พลางคิดไปด้วยว่าหากมีอีกร่างที่หลับใหลอยู่ตอนนี้มาร่วมด้วย มันจะถึงใจแค่ไหนกันนะ จากนั้นริมฝีปากหนาก็กดกรดกปลายลิ้นลงตรงจุดกระสัน น้ำของเธอมันฉ่ำเยิ้ม บ่งบอกได้ว่า ร่างกายต้องการขั้นสุด “หนูหิวหรอครับคนดี ช่วยกดหัวพี่ลงหน่อยสิ” เขาสั่ง จากนั้นหญิงสาวก็ทำตามอย่างว่า เธอกดศีรษะของชายหนุ่มให้บดขยี้ร่องรักเธอแรงๆ ซี้ดส์ …. อื้มมม …. “พี่เอริคขา พี่ไคล์นจะไม่ตื่นหรอคะ?” “คงเมาหลับไปแล้ว” เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนว่า “ถ้ามาเห็นก็ดีสิ พี่จะจับให้มาจัดการกับหนูอีกคน” หืมมมม ยิ่งเอริคพูดแบบนั้นอารมณ์ของเธอก็ยิ่งคุกรุ่นอย่างได้ที่ ยิ่งเขาลากไล้ลิ้นร้อนไปตามซอกเอว มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกพลุ่งพล่านหวามไหวไปทั่วตัว จากนั้นเขาก็จัดการยกร่างบางขึ้น ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายนอนราบเสียเอง เขาดึงคนร่างบอบบางให้มานั่งทางทับบนแผ่นหน้าท้องของตนเอง “พี่ให้หนูจัดการพี่ได้ตามใจ” เขาเอ่ยปากสั่งหลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
เขาซุกไซร้เรือนกายที่หอมกรุ่น มือหนาจับขาหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่ตอนนี้อ้ากางออกขึ้นพาดสะโพกของเขา ก่อนจะงัดเอานิ้วสากหนาชอนไชหาปุ่มเสียวกระสันของหญิงสาว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบเต้า ส่วนอีกข้างก็กดจุดปุ่มเสียวของหญิงสาวไปมาเขาให้นิ้วเรียวหนาทั้งสองนิ้วเข้าแหย่สำรวจในกลีบดอกไม้ ก่อนจะจับเธอนอนคว่ำหน้า จากนั้นเขาก็ยกก้นของหญิงสาวให้แอ่นเด้งขึ้น เขาไล้เลียตั้งแต่ติ่งหูลามลงมาจนถึงแผ่นหลังนุ่มเนียนของเธอ ชายหนุ่มยังคงละเลงลิ้นอยู่อย่างนั้นตวัดหมุนวนไปมาจนเธอเสียวซ่าน ก่อนไล้ลิ้นร้อนเข้ามาตรงช่องทางสวาทด้านหลัง เขาให้นิ้วอุ่นค่อยๆ จิ้มเข้าไปในรูก้นของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์สั่นๆ บางอย่างขึ้นมา แล้วกดไปที่โหมดเบาสุด ก่อนจะค่อยๆ แหย่มันเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังของเธอหญิงสาวก็เปลี่ยนสลับหันมาหยิบเอาทอยส์กระบองใหญ่ ขนาดมันอาจจะเล็กกว่าของเอริคและคนที่เธอกำลังกระทำกับคนตรงหน้า หญิงสาวเปลี่ยนสลับให้ตนเองเป็นคนคุมเกมรัก และตอนนี้ชายหนุ่มต่างนอนคว่ำหน้าในท่าโค้งตูด เธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นน้อยๆ แหย่เข้าช่องทางรักของเขาจากทางด้านหลัง นวัดลิ้นไปมารัวๆ มืออีกข้างก็จับเจ้างูยักษ์ชักขึ้นชักลงอย่างช้
คนทั้งสามที่มายืนรอส่งใครอีกคนที่สนามบิน ตอนนี้มันเป็นอะไรที่เศร้ามาก เศร้าใจแบบสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องอย่างว่า พวกเขาต่างมีความรักให้กันและกันจริงๆชายหนุ่มผมสีเข้มถึงกับหันมาลูบหัวของเธอกับไคล์น แน่นอนว่าระหว่างเอริคกับไคล์น เอริคจะออกแมนๆ มากกว่า ไคล์นจะนิสัยน่ารักคล้ายผู้หญิง ทว่ากับเธอ พวกเขาก็ต่างเร้าใจไม่แพ้กัน“อย่าเศร้ากันสิ ทำให้คนกำลังจะไปมันใจโหวงหวิว”คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยขึ้นทั้งพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่“พี่ห้ามไปมีใครนะคะ ไม่งั้นหนูกับพี่ไคล์นจะหนีไปจากพี่แบบไม่ให้พี่ตามตัวเจอ”เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ฝืนมันเอาไว้ ตอนนี้มีแคไคล์นกับหญิงสาวเท่านั้นที่ปล่อยโฮครอบครัวของเอริคและไคล์นต่างทำธุรกิจในเครือไดม่อนและในเครือของท่าอากาศยาน มีน้อยคนมากที่จะรู้จักพวกเขา ก็เล่นรวยเงียบ ไม่ชอบออกสื่อ จริงๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรเธอ เพียงแค่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป ส่วนที่บ้านของหญิงสาวก็หาใช่ธรรมดาที่ไหน ส่งออกนำเข้าหยกแท้ทั้งในและต่างประเทศ รวมๆ มูลค่าของทรัพย์สินก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันล้าน เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สืบทอดรุ่นต่อร
หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาในอิตาลีอย่างเต็มที่ บรรยากาศของเยอรมันในวันสุดท้ายของทริปก็มาพร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสุข เศร้า และโหยหาความต่อเนื่อง พรุ่งนี้พวกเขาจะขึ้นไฟลท์เย็นเพื่อกลับไปสู่ชีวิตจริงที่รออยู่ แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ในห้วงเวลาแห่งความทรงจำไกด์สาวอย่างลูกน้ำสังเกตเห็นสายสัมพันธ์พิเศษที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างลูกค้าทั้งสาม แม้จะไม่ได้เอ่ยปากอะไร แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกชัดว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“ไว้เรามาเที่ยวกันเองดีมั้ย ช่วงกุมภาวาเลนไทน์ พี่ว่าเราไปกรีซกันดีมั้ย?”เอริคเสนอขึ้นมาขณะที่พวกเขากำลังนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เมืองมิวนิก“แต่ฉันอยากไปโมนาโก”ไคล์นแย้งขึ้นทันที สีหน้าจริงจัง หญิงสาวที่นั่งฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องแผนการเที่ยวครั้งหน้ากลับลอบยิ้มอย่างขำขัน สองหนุ่มนี่ช่างต่างกันเสียจริง“นี่พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันจนตัวติดกันแทบทุกนาที แต่ไม่มีช่องทางการติดต่อกันเลย รู้ตัวมั้ย? จนวันสุดท้ายแล้วพวกพี่ยังไม่มีไลน์หนูเลย!”เธอยื่นโทรศัพท์ให้ทั้งคู่ พลางหัวเราะน้อย ๆ“นี่ค่ะ พวกพี่แอดมาได้เลย”เมื่อทุกคนเชื่อมต่อกันเรียบร้อย ค