Share

2 - เป็นคนแบบนี้เองสินะ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-17 18:00:29

ห้องอาหารโรงแรมดังในเครือของบริษัทพีวาย แต่คนไม่ค่อยรู้เท่าไหร่นักเพราะมันอยู่ในเครือบริษัทขนส่งต่างประเทศนอกเสียจากพนักงานที่เข้ามาอบรมถึงจะได้รู้ว่าเป็นสายเครือเดียวกันกับบริษัทพีวายที่พายุเป็นประธานบริษัทอยู่ การขนส่งนำเข้าข้าวของเครื่องใช้วัตถุดิบล้วนมาจากบริษัทพีวายทั้งหมด

               โรงแรม คลับ บาร์ ในย่านนี้ ย่านที่โรงแรมตั้งอยู่ล้วนแต่เป็นของพายุประธานบริษัทพีวายทั้งสิ้น เขาสร้างมันขึ้นมาหลังจากรับตำแหน่งประธานบริษัทใหม่ๆ เพื่อให้ธุรกิจมันก้าวหน้าไปได้ทุกทาง เพราะมัวแต่ยุ่งๆเรื่องงานถึงยังไม่ได้แต่งงานสักที ที่ผ่านมาก็มีแต่ดารา นางแบบที่เข้าหาเขาเพื่อหวังจะสุขสบายไปทั้งชีวิต แต่กลับไม่มีหญิงสาวที่ทำให้เขาถูกใจได้เลยสักคนส่วนมากเข้าหาเขาเพราะเงินทั้งนั้น จึงทำได้แค่สนองในสิ่งที่หญิงสาวเหล่านั้นเสนอให้ก็เท่านั้นและจบลงที่จำนวนเงินอย่างที่หญิงสาวเหล่านั้นต้องการก็เท่านั้น

               “พร้อมหรือยังหลานย่า” คุณย่าของพายุที่นั่งรออยู่ตรงหน้าล็อบบี้โรงแรมหรูเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นหลานชายผู้หล่อเหลาก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าอย่างภูมิใจ หญิงชราแอบกังวลอยู่เหมือนกันว่าเขาจะดื้อดึงเบี้ยวนัดเพราะมันเป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดูเหมือนการใช้เรื่องโรคของตัวเองมาเป็นข้อบังคับมันจะใช้ได้ผลเสียอย่างนั้น

               “ครับ...” พายุยังคงทำหน้านิ่งเรียบ แน่นอนว่าเขาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ที่ต้องมาถูกจับดูตัวแบบนี้ แต่เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าคงจะบอกผู้หญิงคนนั้นไปตรงๆว่าเขามีคนในใจอยู่แล้ว เรื่องมันจะได้จบๆไปแล้วค่อยกลับไปง้อผู้เป็นย่าทีหลัง

               “เราขึ้นไปกันเถอะฝั่งนั้นน่าจะมากันแล้วล่ะ” หญิงชราพูดพร้อมกับหันไปบอกหลานชายของตน พายุที่เป็นหลานชายพยักหน้ารับก่อนจะพาผู้เป็นย่าเดินไปขึ้นลิฟท์ภายใต้การทำความเคารพของพนักงานในโรงแรมตลอดทางที่เขาและคุณย่าเดินผ่าน

               ไม่นานนักก็เดินมาถึงหน้าห้องอาหารชั้นบนสุดของตึกโรงแรม บรรยากาศที่มองเห็นวิวเมืองด้านนอกสวยงามนั้นถือว่าเป็นจุดขายของห้องอาหารชั้นดาดฟ้านี้ มีที่นั่งให้เลือกทั้งในห้องที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกและชานด้านนอกแบบเอาท์ดอร์เปิดโล่งให้ได้รับลม

               หญิงชราผู้เป็นย่าเดินตรงไปยังโต๊ะภายในหลังจากที่เข้ามาถึงห้องอาหาร เห็นครอบครัวหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับหญิงสาวรูปร่างดีในชุดเดรสสีชมพูดอ่อนระบายตรงไหล่สวยน่า ตรงเอวผูกโบรัดเน้นรูปร่างพอดีตัวกระโปรงยาวเลยเข่าแต่ก็แหวกข้างขึ้นมาไม่โป๊มากนักยังคงดูเรียบร้อยสวยงาม แต่เขามองเห็นเธอแค่เสี้ยวใบหน้า...แต่รูปร่างกลับดูคุ้นตา...

               “สวัสดีค่ะคุณหญิงกันยา” มุกดาในชุดคุณหญิงเรียบร้อยลุกขึ้นพร้อมยกมือขึ้นไหว้สวยงามกับหญิงชราที่พึ่งเดินเข้าไปถึงโต๊ะ พร้อมกับผู้เป็นสามีอย่างคุณผู้ชายทรงชัยที่นั่งอยู่ข้างๆ กันยาหรือย่าของพายุรับไหว้ทั้งสองท่านก่อนจะหันไปรับไหว้หญิงสาวที่ลุกขึ้นกล่าวสวัสดีกันยา

               “สวัสดีค่ะคุณหญิงกันยา” ยี่หวาเอ่ย..

               “หนูวาหวาใช่ไหมลูก...สวยกว่าในรูปเยอะเลย” กันยาทำตาเป็นประกายจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าไม่วางสายตา เข้าใจว่าเป็นวาวาแม้จะแตกต่างจากในรูปที่เพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างปรียาอวดให้ดูไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ต่างกันมากมายนักเพียงแค่ดูสวยสดงดงามกว่าในรูปก็เท่านั้น

               ในขณะที่ทุกคนต่างทักทายกัน ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าไปอย่างช้าๆจับจ้องสายตาไปทางหญิงสาวที่ดูท่าน่าจะเป็นคนที่คุณย่าดูตัวไว้ให้ ก่อนจะละสายตามองไปยังผู้ใหญ่ทั้งสอง

               “สวัสดีครับ...”

               “นี่พายุหลานชายของฉัน” กันยาพูดพร้อมกับเดินไปจับแขนของพายุอย่างภาคภูมิใจ มุกดาและทรงชัยมองพายุก่อนจะมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา พยักหน้ารับไหว้ชายหนุ่มที่ยังดูเด็กและรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่หยอก เพียงแค่เสียงของเขาทำให้ยี่หวาอึ้งค้าง...เสียงของเขาคุ้นหูจนเธอต้องกหันหน้าไปมอง...

               ทั้งสองสบตากันอย่างอึ้งๆ พายุแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง...จำได้ว่าเธอบอกเขาว่าแม่เป็นเพียงคนใช้ของบ้านนี้ แต่ไหนกลับมายืนเด่นอยู่ในการดูตัวแบบนี้ได้ สายตาคมปรับเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าจ้องมองเธอตาเขม็ง ภายในหัวคิดได้เพียงอย่างเดียวว่ามีเรื่องไหนของเธอที่เคยบอกเขานั้นเป็นเรื่องจริงบ้าง...

               “ทักทายพี่เขาสิ...วาวา” ทรงชัยเอ่ยย้ำเพื่อเรียกสติของยี่หวาลูกสาวคนใช้ที่เขาขอให้มาเป็นลูกสาว ยี่หวาหันไปมองทรงชัยและมุกดาเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นพนมไหว้คนตรงหน้า

               “สะ...สวัสดีค่ะ” ยี่หวาพูดตะกุกตะกักไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองเขา เธอเองก็คิดว่าเรื่องของเขานี้เธอรู้อะไรจริงๆบ้าง เขาเป็นใครมาจากไหนไม่เคยได้รู้เลย...เพราะเขาบอกแค่ว่าทำงานอยู่ที่ตึกตรงข้าม พ่อแม่เสียไปแล้วเลยต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง...ไม่คิดว่าเขาจะมีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัทใหญ่อย่างพีวายแบบนี้

               “น้องอาจจะเขิน...พ่อพายุก็เล่นจ้องน้องขนาดนั้น” มุกดาเอ่ยแซวพายุ เขายิ้มบางๆให้คุณหญิงมุกดาก่อนจะจดจ้องไปยังยี่หวาไม่วางตา

               “ผมแค่คิดไม่ถึง...ว่าน้องจะสวยขนาดนี้น่ะครับ” คำเว้นวรรคที่พายุพูดทำเขายี่หวารู้สึกเสียวสันหลังวาบ น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มยิ่งเน้นย้ำคำพูดว่ามีนัยยะบางอย่างที่มีเพียงเธอและเขาเท่านั้นที่รู้ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกลับมองหน้ากันไปมาด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่าพายุดูถูกใจหญิงสาวคนนี้

               “นั่งก่อนเถอะ ทานข้าวกันก่อนจะได้คุยกัน” กันยาพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น ดึงแขนหลานชายตนไปนั่งลงข้างๆยี่หวา เขายอมนั่งลงแต่โดยดีพร้อมกับหันไปมองยี่หวาไม่วางตา

               บรรยากาศในโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความครื้นเครง ผู้ใหญ่เริ่มพูดคุยเรื่องหมั้นหมายและแต่งงานของทั้งสองอย่างออกรส พายุเอาแต่จ้องมองยี่หวาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เธอเองก็เอาแต่ก้มหน้าและลอบมองสายตาที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์ของเขา

               “ฉันล่ะชอบหนูวาวาจริงๆ นะมุกดา” กันยาพูดขึ้นพร้อมกับปรายตามองยี่หวาที่นั่งข้างพายุ

               “งั้นก็แต่งงานเลยสิครับคุณย่า...ไม่ต้องเสียเวลามาหมั้นหรอก” พายุพูดทั้งที่ยังมองยี่หวา เธอหันมองไปเขาก่อนจะหันกลับก้มหน้าลงมองจานข้าวของตัวเอง...สายตาของเขาบ่งบอกทุกอย่างว่าเขากกำลังโกรธและคิดว่าเธอเป็นคนโกหกอยู่แน่ๆ ถ้ารู้ว่าเธอไม่วาวาเขาคงจะเกลียดเธอไปเลยก็ได้ แค่เธอคิดก็รู้สึกเศร้าแล้ว...

               “พูดอะไรอย่างนั้นล่ะพายุ ให้เกียรติน้องเขาด้วยสิ...รู้ว่าใจร้อนแต่ไม่เห็นต้องร้อนขนาดนั้นเลย” กันยาเอ่ยปรามหลานชายตัวเอง แต่ใบหน้าก็ยังเปื้อนรอยยิ้มราวกับว่าเห็นด้วยก่อนที่กันยาจะหันไปยิ้มให้สองสามีภรรยา

               “ผมให้เกียรติน้องที่สุดแล้วครับ ถึงได้บอกว่าแต่งเลย...ไม่อยากพลาดเรื่องสำคัญแบบนี้” พูดพร้อมปราดปรายสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนนี้เธอช่างแตกต่างจากเด็กกะโปโลที่เขาเคยเจออยู่ทุกวันมากเสียจริง

               “เอ่อ...แต่ป้าว่า...” มุกดามองสายตาของพายุที่จ้องมองยี่หวา พร้อมกับมองยี่หวาที่ดูกังวลก็รีบท้วงขึ้นอย่างนึกห่วง ยังไงมุกดาก็ยังมองว่ายี่หวาเป็นเหมือนหลานสาวคนหนึ่งถึงได้ส่งเสียเรียนจนจบเพราะเธอเก่งและหัวดี การเรียนก็ดีไม่เคยทำตัวเหลวแหลกให้ผิดหวัง

               “ถ้าคุณพายุต้องการอย่างนั้นผมก็ไม่ขัด...ดูท่าลูกสาวผมก็คงจะถูกใจคุณพายุอยู่เหมือนกันครับ แค่เธอเป็นผู้หญิงคงจะพูดออกไปตรงๆไม่ได้” ทรงชัยเอ่ยขึ้นขัดภรรยาของตนในทันที สำหรับทรงชัยยังไงเรื่องบริษัทก็ต้องมาก่อน เขาคิดว่าพายุก็ไม่ใช่คนหน้าตาไม่ดียี่หวาที่ปลอมเป็นลูกสาวของเขาก็ถือว่าโชคดี อีกอย่างการแต่งงานไปก็จะได้ปกปิดเรื่องที่ยี่หวาไม่ใช่ลูกจริงๆให้มันจบไป

               “จริงของคุณทรงชัยค่ะ” กันยารีบเห็นดีเห็นงามกับทรงชัยทันที ยี่หวามองผู้ใหญ่ทั้งสามก่อนจะก้มหน้าลงอย่างหนักใจ ตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วจนแทบรับไม่ทันไปหมดแล้ว

               “เอ่อ...หนูขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ” ยี่หวาเลือกที่จะออกจากตรงนี้ไปก่อน เผื่อให้ตัวเองสงบใจได้บ้าง พายุเห็นอย่างนั้นจากที่นั่งไขว่ห้างจ้องมองเธอก็ยกยิ้มก่อนจะหันไปพูดกับผู้ใหญ่คนอื่นๆ

               “เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนน้องเองครับ” ทุกคนต่างหันหน้ามองกันก่อนจะยิ้ม แต่ที่ดูกังวลและยิ้มเจื่อนที่สุดเห็นทีจะเป็นมุกดา

               “ไม่เป็นไรค่ะ คุณพายุอยู่คุยกับท่าน...”

               “แต่พี่คิดว่าหนูคงไม่รู้ทางไปห้องน้ำแน่ๆ”

               “เดี๋ยวยี่หวา...เอ่อ วาวาจะถามพนักงานเอาก็ได้ค่ะ”

               “หึ...พี่เป็นเจ้าของโรงแรมครับ ให้พี่ไปส่งน่าจะดีกว่า” พายุพูดก่อนจะเดินนำเธอไปโดยไม่รอให้เธออนุญาต ยี่หวามองตามแผ่นหลังของเขาก่อนจะหันไปโผงกหัวให้กับผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ แล้วค่อยเดินตามพายุไปเอย่างเงียบๆ

               แผ่นหลังใหญ่ไหล่กว้างที่เธอคุ้นเคย รูปร่างที่เธอมองเห็นทุกวันที่ร้านกาแฟมันยังคงอยู่ในความทรงจำ แต่ตอนนี้แผ่นหลังนั้นไม่ได้หันกลับมาโบกมือให้เธอเหมือนเมื่อเช้า เขาเดินไปอย่างนิ่งเงียบไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ยออกมาสักคำ ก่อนที่ฝีเท้าจะหยุดลงหน้าห้องน้ำ

               พายุกยืนกอดอกพิงกำแพงอย่างเงียบๆ ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธอเลยสักนิด ยี่หวาลอบมองใบหน้าที่นิ่งเฉยของเขา รอยยิ้มที่เคยมีมันหายไปหมดแล้ว...แม้แต่สายตาที่อ่อนโยนก็ไม่มีเหมือนดั่งเคย

               “เอ่อ...ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ภายในใจรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ยี่หวาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกจัดการกับอารมณ์ที่อ่อนไหวของตัวเองในตอนนี้ให้ได้มากที่สุด

               ไม่เกินสิบห้านาทียี่หวาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ยังเห็นพายุยืนรอเธออยู่ที่เดิมนิ่ง...เธอจึงก้าวเท้าเข้าไปหยุดยืนข้างๆเขา พายุปรายสายตาคมมองเธอครู่หนึ่งโดยไม่ปริปากพูดอะไร

               “เข้าไปด้านในกันเถอะค่ะ...พวกท่านคงรอนานแล้ว” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพายุไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวไปไหนเลย เธอจึงเลือกดที่จะเดินนำเขาไปแต่ก็ถูกมือหนาของเขาคว้าจับข้อมือไว้แน่นก่อนจะกระชากเธอให้เข้าไปชิดตัวเขา ร่างของเธอถูกดันเข้าติดกับกำแพงโดยมีแขนแกร่งอีกข้างหนึ่งคร่อมกั้นเธอไว้

               “ยี่หวา...หรือวาวา...ตัวจริงของคุณคือใครกันแน่?” สายตาคมดูดุดันจ้องมองใบหน้าของเธอที่ดูตกใจตาเขม็ง ยี่หวามองเขาด้วยอย่างนิ่งอึ้งไม่เคยเห็นพายุที่เป็นแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

               “คุณ..พายุ...ฉัน...” ยี่หวาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ใจอยากจะบอกเขาแทบแย่ว่าเธอคือยี่หวาคนเดิม...แต่ตอนนี้สถานะของเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาคือประธานบริษัทที่จะร่วมลงทุนกับบริษัทของผู้มีพระคุณเลี้ยงดูส่งเสียเธอเรียนมาตั้งแต่เล็กจนโต เธอก็แค่หมากเบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้นจะพูดออกไปทั้งหมดก็คงทำให้เจ้านายตัวเองลำบากแน่ๆ เธอเม้มปากแน่นไม่ยอมพูดอะไรต่อ

               “ผมรอฟังคุณอยู่ยี่หวา”

               “ฉัน...ชื่อวาวาค่ะ...ไม่ใช่ยี่หวา”

               “หึ...เธอเป็นคนแบบนี้เองสินะยี่หวา...ไม่สิ คุณหนูวาวา...โกหกหลอกลวงและปั่นหัวฉันเล่น!”

               “......”

               “ความรู้สึกของฉันมันคงดูน่าตลกสำหรับเธอสินะ”

               คำพูดคำจาของพายุเปลี่ยนไปแทบจะทันทีที่ได้ยินเธอยืนยันตัวตนแบบนั้น ราวกับยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันคือเรื่องโกหก สาวร้านกาแฟนั้นไม่ใช่ยี่หวาอย่างที่เขาเข้าใจ แม้ภายในใจของเขาจะคาดหวังให้เธออธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้คิดว่าเขาเข้าใจผิด แต่เธอกลับตอบเพียงสั้นๆว่าเธอคือวาวา

               “มันไม่ตลก...ฉันรู้สึก...”

               “พอ...ฉันไม่อยากฟังคำโกหกของเธออีกแล้ววาวา...เธอคงตั้งใจจะมาอ่อยฉันเพื่อครอบครัวของเธอสินะ...เพื่อธุรกิจ...อย่างนั้นสินะ”

               พายุพูดสวนขัดเธอขึ้นทันที เขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวัง...แค่เสี้ยววินาทีที่ยี่หวาเห็นแววตาของเขาดูเจ็บปวดแต่นั่นเธออาจจะตาฝาดไปก็ได้ พายุเข้าใจเธอผิดไปมากกว่าเดิมเสียอีกแถมยังไม่ยอมฟังอะไรจากเธอเลย ยี่หวาเงียบลงพร้อมกับมือหนาของเขาที่ยอมปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ

               ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องอาหารอย่างเงียบๆ นั่งลงตรงที่เดิมภายใต้สายตาของพวกผู้ใหญ่ที่มองทั้งคู่แล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ

               “ผมจะจัดงานแต่งให้เร็วที่สุดครับ...ผมไม่อยากพลาดผู้หญิงแบบน้องวาวาไป” อยู่ๆคนที่นั่งเอนหลังพองพนักเก้าอี้ไขว่ห้างพูดขึ้นทันที ยี่หวาหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ...ไม่ใช่ว่าเขาเกลียดเธอไปแล้วหรอกเหรอ แต่ทำไมถึงยังยืนยันที่จะแต่งงาน...

               “ถ้าคุณพายุบอกแบบนั้นผมเองก็ไม่ขัดครับ..” ทรงชัยรีบเอ่ยตกลงทันที

               “พรุ่งนี้ผมจะเตรียมไปพูดคุยสู่ขอ แล้วค่อยหาฤกษ์วันแต่งภายในเดือนนี้” พายุเอ่ย

               “ใจร้อนอะไรขนาดนั้นละลูก ย่าว่าหนูวาวาคงตกใจน่าดู” แม้จะพูดปรามหลานเป็นมารยาทแต่ก็ยิ้มแป้นจนปิดไม่มิดว่าดีใจแค่ไหน ยี่หวามองกันยาก่อนจะยิ้มตอบแห้งๆ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้แทนที่จะยกเลิกงานแต่งไป...

               “เสร็จการสู่ขอช่วงเช้าแล้ว ผมจะเข้าไปบริษัทของคุณทรงชัยช่วงบ่ายเพื่อเซ็นสัญญาร่วมหุ้นนะครับ”

               “เอ่อ...ได้ครับ”

               เพราะพายุพูดขึ้นมาอย่างโจ่งแจ้งว่าที่ต้องแต่งงานเพราะธุรกิจ จนทรงชัยกระอักกระอ่วนแต่ก็ตอบออกรับออกไปพร้อมรอยยิ้มที่แสนจะแหดแห้ง ยี่หวานั่งถอนหายใจเบาๆ...ถึงเขาจะเป็นคนที่เธออยากดูใจแต่ตอนนี้สถานการณ์มันกลับเปลี่ยนไปแล้วจนน่าหนักใจ

ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไรมากกว่าการแต่งงานหรือเปล่าถึงได้ตกลงง่ายดายอย่างนี้ ไม่ว่าจะคิดยังไงอนาคตชีวิตคู่ของเธอกับเขาคงไม่ได้หวานชื่นเหมือนที่เธอเคยวาดฝันไว้เป็นแน่

            “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้ผมขออนุญาตไปส่งน้องนะครับ”

            “มันจะดีหรือคะคุณพายุ...น้องน่าจะ...” มุกดาเอ่ยขัดขึ้น

            “ผมอยากจะพาน้องไปขับรถเล่น ทำความรู้จักกันน่ะครับ...อยากคุยกันให้มากกว่านี้หน่อย...ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีหรอกครับคุณมุกดา” พายุเอ่ยขัดมุกดาทันที คุณหญิงถึงกับหน้าเจื่อนก่อนจะพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี ยี่หวาหันไปมองมุกดาอย่างอ้อนวอนขอให้ช่วย สายตาของเธอบ่งบอกว่าเธอไม่ได้อยากไปกับเขาเลยสักนิด แต่มุกดาก็ทำได้แค่ยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าตอบเธอก็เท่านั้น

            “ถ้าอย่างนั้นผมขอพาน้องไปก่อนนะครับ” พายุไม่รอช้ารีบลุกขึ้นอย่างใจร้อน กันยามองหลานตัวเองด้วยรอยยิ้มกริ่ม ไม่คิดว่าหลานชายของตัวเองจะร้อนอยากทำความรู้สึกหญิงสาวที่เธอเลือกให้แบบนี้ สำหรับกันยาแล้วถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะถึงอย่างไรคุณหญิงย่าก็ไม่ปล่อยให้หญิงสาวคนนี้รอดไปได้แน่ๆ

            “เอ่อ...แต่ฉันยังทานข้าว...”

            “แล้วหนูอยากทานอะไรล่ะคะ? พี่จะรีบพาไปไม่ว่าแพงแค่ไหนก็ไม่หวั่น” พายุพูดพร้อมยกยิ้มสีหน้าของเขาดูเหมือนเอ็นดูเธอเสียเต็มประดาจนผู้ใหญ่ที่จ้องมองพวกเขาอยู่ถึงกับยิ้มออกมาแล้วมองหน้ากันอย่างปลื้มใจ หารู้ไม่ว่านัยน์ตาคมนั้นกลับมีแต่ความน่ากลัวคงจะมีเพียงยี่หวาเท่านั้นที่เห็นมัน

           “ไปเถอะลูก...ดีเหมือนกันผู้ใหญ่เขาจะได้คุยกัน” กันยาพูดขึ้นพร้อมกับจับไปที่มือเล็กของเธอเบาๆ ยี่หวามองหน้าหญิงชราก่อนจะยอมพยักหน้าแล้วลุกขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

พายุพาเธอเดินออกไปยังลานจอดรถที่ที่ลูกน้องของตนรออยู่ เมื่อเมษและแฟนต้าเห็นว่าพายุพาสาวร้านกาแฟกลับมาก็ถึงกับมองหน้ากันไปมาด้วยความ งง ก่อนจะเดินเข้าไปเอ่ยแซวผู้เป็นเจ้านาย

          “แหม...ไม่คิดว่านายจะใช้ไม้นี้ ถึงขนาดพาหวานใจไปกันคนที่คุณหญิงย่าจัดหาให้” เมษเอ่ยพร้อมรอยยิ้มปรายสายตามองยี่หวาอย่างเอ็นดู

         "สงสารน้องเขานะครับ โดนวีนมาแน่ๆถึงได้ลงมาเร็วแบบนี้” แฟนต้าเอ่ยเสริม

         “หุบปากของพวกมึงไป...หึ...สาวร้านกาแฟงั้นเหรอ?...พวกมึงคงโดนต้มจนเปื่อยเหมือนกูสินะ”

         “หมายความว่าไงครับนาย” เมษขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจก่อนจะมองยี่หวาและพายุสลับกันไม่ต่างจากแฟนต้าเลย

         “นี่คุณหนูวาวา...ลูกสาวของประธานบริษัทวีโวล์...คู่หมั้นของกูที่คุณย่าจัดหาให้ไง” พายุเอ่ยพร้อมกับหันไปปราดสายตามองยี่หวาที่เอาแต่ก้มหน้าหงุด หากเธอไม่ได้รับบทเป็นวาวาคงจะเถียงเขาไปแล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เปลี่ยนห่านอย่างเธอให้เป็นหงส์   24 - ยังรู้สึกอยู่หรือเปล่า

    “ไม่ได้ยัดเยียดแค่คิดว่าคุณพายุ...อาจจะชอบวาวามากกว่า” “หืม?” “วาวาก็ลูกสาวคุณพ่อเหมือนกัน ถ้าแต่งงานกับคุณพายุคงไม่มีปัญหาอะไร...” ยี่หวาพูดพลางกเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงใบหน้าหล่อของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พายุชะงักกับคำพูดของเธอพลางขมวดคิ้ว เหลือบมองหญิงสาวตรงหน้าที่หลบเลี่ยงเขา “พูดแบบนี้หมายความว่าไง? ฉันแต่งงานกับเธอไปแล้ว จดทะเบียนสมรสแล้วด้วย...เธอจะให้ฉันหย่ากับคนพี่แล้วไปแต่งกับคนน้องอย่างนั้นเหรอ? ตลก...” เขาแสยะยิ้มอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ยันตัวออกห่างจากเธออย่างหัวเสียแล้วเดินนำไปยังล็อบบี้ ยี่หวามองท่าทีของเขาก่อนจะถอนหายใจ แต่ลึกๆก็เป็นห่วงควา

  • เปลี่ยนห่านอย่างเธอให้เป็นหงส์   23 - ที่ส่วนตัว

    พายุได้แค่ปราดสายตามองยี่หวาครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้แย้งอะไรออกไป ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อต้นเหตุมาจากเขาที่ไม่ยอมอยู่บ้านเป็นเดือนๆปล่อยให้เธออยู่คนเดียว ไม่แปลกที่ครอบครัวจะเป็นห่วงถึงแม้ว่าน้องเมียจะไม่ค่อยน่าไว้วางใจก็เถอะ “แล้วแต่เธอเลย...บ้านหลังนี้ก็เป็นของเธอเหมือนกัน” พายุเอ่ยเมื่อเห็นสายตาของยี่หวามองไปทางเขาอย่างเกรงใจ เพราะเขาตอบแบบนั้นเธอจึงทักท้วงไม่ได้ ด้านพายุเองก็คิดว่าเธอคงอยากให้น้องสาวมาอยู่ด้วย คงอยากพามากันเขาออกจากตัวเธอเองถึงได้เรียกให้น้องสาวมาอยู่ที่นี่ คนที่ดูจะดีใจจนออกนอกหน้าไม่พ้นวาวาที่กระโดดเข้าไปเกาะแขนของพายุอย่างดีใจ ยี่หวามองที่แขนของพายุแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ความคิดที่ว่าเขาคงอยากได้เมียตัวจริงของเขาคืน เมียที่เขาควรจะต้องแต่งงานด้วยที่ไม่ใช่เธอ “เอ่อ...งั้น ฉันขอต

  • เปลี่ยนห่านอย่างเธอให้เป็นหงส์   22 - ย้ายเข้า

    “ไอ้เมษ มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้ว่าช่วงที่กูไม่อยู่ยี่หวาไปเห็นอะไรมา?” หลังจากที่กินข้าวกินปลากันเรียบร้อย ยี่หวาก็เอาจานไปเก็บและล้างจานอยู่หลังครัว ได้ทีพายุก็รีบหันไปเอ่ยถามเมษทันที เพราะจากเหตุการณ์ที่เธอร้องขอหย่า เขาคิดว่าเธอต้องได้เห็นอะไรมาแน่ๆ และที่เขาเลือกถามเมษก็เพราะเมษคอยดูแลยี่หวาช่วงที่เขาออกไปนอนข้างนอก “ครับ? ก็...ไม่นะครับ” “มึงลองคิดดีๆก่อนตอบกู” พายุยังคงเค้นถามเมษอีกครั้ง เมษก็ทำท่าครุ่นคิดอยู่นานแต่ก็เหมือนคิดไม่ออกว่าเรื่องอะไร “เอาดีๆนะไอ้เมษ ถ้าไม่คอขาดบาดตายนายคงไม่ถาม” แฟนต้าพูดพลางหัวเราะในลำคอลอบมองพายุที่ยังคงทำหน้าเครียด เรื่องที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับเจ้านายของเขาคงไม่พ้นเรื่องเมียแน่ๆ “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ? เรื่องคอขาดบาดตายของนายเรื่องอะไรเหรอครับ?” เมษเอ่ยถามเชิงหยอกพายุ “นั่นสิ คุณยี่หวาทำไมเหรอครับนาย?” แฟนต้าพูดเปิดประเด็นทันที “ยี่หวา...ขอกูหย่า” พายุเอ่ยเสียงเรียบสีหน้าดูหงุดหงิดที่ต้องมาพูดเรื่องนี้ให้ลูกน้องทั้งสองคนได้รู้ แต่ถ้าไม่ยอมบอกลูก

  • เปลี่ยนห่านอย่างเธอให้เป็นหงส์   21 - สับสนกับคนใจร้าย

    ราวกับเจอศึกหนักก็ไม่ปาน เธออยู่กับเขาในห้องนอนยันเย็นกว่าจะได้ออกมาจากห้องเพราะสลบเมือดคาอกเขาอย่างน่าอาย คนใจร้ายไม่ยอมปล่อยให้เธอได้พักเลยซ้ำยังเอาแต่พูดว่าเพราะเธอบอกกับเขาว่าจะหย่า ยี่หวาคิดอยู่หลายตลบก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงดึงดันที่จะปฏิเสธการขอหย่าของเธอทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้รักเธอ แถมยังทำทีเกลียดขี้หน้าเธอด้วยซ้ำ มือถือทัพพีมองเหม่อด้วยความที่คิดไม่ตก คิดถึงเรื่องเขาเพราะเธอคิดว่านั่นคือทางที่ดีที่สุดสำหรับเข้าแล้วแท้ๆ “ไหม้แล้วมังแกงน่ะ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังเรียกให้หญิงสาวที่ยืนถือทัพพีอย่างเหม่อลอยถึงกับสะดุ้ง ยี่หวาดเหลียวกลับไปมองด้านหลังยังต้นเสียงก็เห็นพายุยืนกอดอกพิงขอบประตูจ้องมองเธอด้วยสีหน้า

  • เปลี่ยนห่านอย่างเธอให้เป็นหงส์   20 - เธอไม่เคยรู้จักฉันเลย [NC+]

    คำพูดของเขาทำให้ยี่หวาหวั่นใจไม่น้อย แววตาที่จ้องมองสั่นไหวราวกับเข้าใจความหมายในสิ่งที่เขาต้องการ สายตาคมฉายแววโกรธจนรู้สึกขนลุก แค่เมื่อคืนที่เขาโกรธก็ทำให้ร่างกายเธออ่อนล้าไปหมด เธอยังเจ็บไม่ทันหายดีเลยด้วยซ้ำ “ฉันไม่รู้จักคุณหรอกค่ะ และฉันไม่รู้ด้วยว่าคุณต้องการอะไร” ยี่หว่าพยายามตอบเลี่ยงคำถามของเขาเพราะคิดว่าเธอจะหนีเขาพ้น พายุที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับยกยิ้มแล้วพยักหน้าราวกับประชดประชัน “เธอไม่เคยรู้จักฉันเลยสินะ ขนาดไม่รู้จักเมื่อคืนยังตอบรับฉันดีขนาดนั้น” “เลิกพูดเรื่องบ้าๆนี่สักทีเถอะค่ะ! ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันจะหย่า!” ยี่หวาเน้นย้ำคำพูดนั้นด้วยความรู้สึกโกรธและอับอาย เรื่องเมื่อคืนเธอไม่ได้สมยอมเขาเสียหน่อยแล้วทำไมเขาถึงได้มาพูดราวกับว่าเธอเต็มใจแบบนี้...นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าของเล่น...ยี่หวาคิด “ฉันไม่หย่า!! ต่อให้เธออยากจะหย่าแค่ไหนก็อย่าหวังว่าจะได้ลายเซ็นของฉัน!!” “แล้วคุณเป็นบ้าอะไรถึงไม่ปล่อยฉันไป! ทั้งที่คุณเกลียดฉัน!” “ฉันเป็นผัวเธอไงยี่หวา!!” พาย

  • เปลี่ยนห่านอย่างเธอให้เป็นหงส์   19 - ตามถึงที่

    “คุณวาวามีธุระอะไรหรือเปล่าคะถึงได้มาหาฉันถึงที่นี่”ยี่หวาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายของครอบครัวเดิมที่เธอเคยรับใช้อยู่ได้มาเยี่ยมเยือนเธอถึงที่บ้านเรือนหอ วาวายังคงมองรอบๆบ้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะหันไปมองยี่หวาแล้วเอามือกอดอกเอนตัวพิงพนักโซฟาห้องรับแขกด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสยี่หว่าเท่าไหร่นัก“ดูเธอคงจะโชคดีน่าดู ราวกับหนูตกถังข้าวสาร...ฉันแค่มาเยี่ยมน่ะ ไม่ได้เหรอ?”พูดพลางปั้นหน้าสร้างรอยยิ้มที่เสแสร้งอย่างจงใจให้ยี่หวารับรู้ ยี่หวาได้แต่นั่งเงียบไม่ได้ตอบโต้คำใดออกไป“ยี่หวา เห็นว่าเธออยู่บ้านนี้คนเดียวคงเหงาแย่ใช่ไหม? เพราะคุณพายุไม่กลับบ้านที่เรียกว่าเรือนหอเลยไม่ใช่เหรอ?”วาวายังคงจงใจพูดจี้ใจดำของยี่หวาอย่างไม่ลดละแม้ยี่หวาจะรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะไล่ผู้หญิงตรงหน้าให้กลับไปได้ ด้วยความที่เธอคิดเสมอว่าวาวาคือน้องสาว เธอถึงได้ยอมแต่งงานแทนแบบนี้...ถึงแม้ว่าวาวาจะไม่เคยมองเธอเป็นพี่สาวเลยก็ตาม เพราะวาวาไม่อยากนับญาติกับคนใช้อย่างเธอ แต่ถึงอย่างนั้นวา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status