 LOGIN
LOGINขณะที่ตู้ชิงชิงสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น จางอวิ๋นอวี้ก็เดินไปสำรวจแผ่นกระดาษที่นางอธิษฐานขอพร ในเศษกระดาษที่ขาดกระจายมีร่องรอยเผาไหม้นั้น มีร่องรอยของน้ำหมึกใจความว่า
‘ข้าอยากพบเจอท่านเทพเซียนผู้นั้นที่ป่าไผ่สวรรค์บนเขาเทพประทานแห่งนี้อีกครั้ง’
มุมปากของจางอวิ๋นอวี้ยกขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว “ช่างเพ้อฝันเสียจริง”
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกวาดสายตาสำรวจด้วยความสนใจ เหตุใดกระดาษเหล่านี้ถึงระเบิดคล้ายกับถูกฉีกทึ้งแทบทุกแผ่น
เขาจำได้ว่า ช่วงที่เขาเสร็จกิจเมื่อคืน กระดาษแผ่นสุดท้ายก็ระเบิดส่งแสงระยิบระยับเป็นฉากหลังที่งดงามพอดี
ราวกับว่า ตั้งแต่เริ่มมีสัมพันธ์กับตู้ชิงชิง กระดาษอธิษฐานแผ่นแรกก็ระเบิด และเมื่อเสร็จสมทั้งคู่ ก็ถึงกระดาษแผ่นสุดท้ายพอดิบพอดี
ช่างบังเอิญเสียจริง
“เพราะว่าเจ้าเพ้อฝันถึงเทพเซียน เป็นผีแต่ไม่เจียมตัว กระดาษเหล่านี้เลยระเบิดจนหมด อ่อ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเจ้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับข้า คำอธิษฐานของเจ้าจึงเป็นโมฆะไปแล้ว”
จางอวิ๋นอวี้พูดพลางเหลือบตามองสตรีที่ดวงหน้าเศร้าหมอง นางไม่ต่อปากต่อคำของเขาแต่อย่างใด เท้าเรียวเดินมาอยู่ด้านหลังของเขาอย่างเงียบเชียบ
เขาจึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก พาสตรีกลับมาอีกฝั่งของบึงใหญ่ท่ามกลางป่าไผ่อีกครั้ง
คนทั้งสองเดินตามกันไปจนถึงเชิงเขา พบกับเจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่ ลูกน้องที่ติดตามจางอวิ๋นอวี้มานั่งรออยู่
ส่วนเกาถงฟื้นคืนสติแล้ว แต่ยังนั่งสีหน้าเลื่อนลอย
“เขาไม่เป็นอะไร ถือว่าเจ้าโชคดีแล้ว” จางอวิ๋นอวี้พูดกับสตรีเสียงเบา
ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา บุรุษทั้งกลุ่มต่างมองไปยังหัวหน้าตนเอง ทุกสายตาแสดงออกถึงความโล่งใจที่เห็นจางอวิ๋นอวี้กลับมาโดยปลอดภัย แต่เมื่อมองไปด้านหลังของเขานั้น แต่ละคนล้วนจับจ้องไปที่สตรีรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ใบหน้างดงามล่มเมือง
ช่างงามยิ่งนัก
นางเป็นใคร ทำไมนางถึงตามใต้เท้ากลับมา
หรือว่านางเป็นผีสาวตนนั้นหรือ
จางอวิ๋นอวี้ราวกับรู้ใจของลูกน้อง เขาแนะนำตู้ชิงชิงให้ทุกคนฟังอย่างสั้นๆ “ผีสาวถูกข้าปราบแล้ว นางผู้นี้เป็นมนุษย์ที่ถูกผีตนนั้นจับตัวเป็นทาส”
บุรุษโกหกคำโต ก่อนเขาจะกล่าวเช่นนี้ เขารับรู้ได้ว่าตอนนี้ตู้ชิงชิงมีกายเนื้อที่คล้ายกับมนุษย์จนแทบแยกไม่ออก
แถมร่างกายก็เริ่มมีความอบอุ่น คงเพราะได้รับน้ำรักจากเขามากกระมัง
แค่ต้องป้องกันมิให้นางได้รับบาดเจ็บ เพราะหากนางเกิดบาดแผลแต่ไม่มีโลหิตไหลออกมา เช่นนั้นก็ไม่สามารถปิดบังความจริงได้
“อ่อ” เกาถงพยักหน้ารับคำ แม้ว่าเขาจะคุ้นหน้าของตู้ชิงชิง สตรีที่ตนเห็นเมื่อวานอยู่บ้าง แต่ตอนนั้นก็ค่อนข้างมืดมิด เขาจึงไม่แน่ใจว่าเป็นสตรีนางเดียวกันหรือไม่
บางทีผีสาวอาจแปลงร่างให้รูปร่างหน้าตาเหมือนสตรีที่อยู่ตรงหน้านี้ก็เป็นได้
“หากเจ้าดีขึ้นแล้ว เราจะได้กลับเมืองหลวง” จางอวิ๋นอวี้พูดกับเกาหงก่อนพาตู้ชิงชิงไปยังรถม้า
...............
ระหว่างการเดินทาง ตู้ชิงชิงแอบเปิดผ้าม่านที่หน้าต่างรถม้าเพื่อมองทิวทัศน์ด้านนอกอยู่บ่อยครั้ง นางไม่ได้ออกนอกบริเวณเขาเทพประทานตลอดสองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา
แม้บรรยากาศจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแต่ละบริเวณล้วนใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน ดูคึกคักและมีชีวิตชีวา
เมื่อใกล้ถึงเมืองหลวง รถม้าของจางอวิ๋นอวี้ก็จอดข้างศาลต้าหลี่ เขาปล่อยให้ตู้ชิงชิงรออยู่บนรถโดยมีเมิ่งหลู่เฝ้าอยู่ด้านหน้า ทว่าเขาก็ยังไม่ไว้วางใจ ใช้เชือกหงสือผูกที่ข้อเท้านางกับโครงรถม้า
เพราะเชือกหงสือคือเชือกพิเศษที่เมื่อผูกปมแล้ว หากไม่ใช่เจ้าของเชือกก็ไม่สามารถแก้ปมได้
ตู้ชิงชิงจึงนำผ้ามาคาดปิดครึ่งใบหน้าเพื่อไม่ให้ถูกแสงแดดมากนัก จากนั้นแง้มม่านหน้าต่างเพื่อดูผู้คนและรถม้าที่สัญจรไปมา
“ไม่ได้เข้าเมืองมาเกือบสามร้อยปี เจริญขึ้นผิดหูผิดตา” สตรีพูดพลางเหลือบมองด้วยความเพลิดเพลิน
“หยุด”
เสียงของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นจากรถม้าคันที่กำลังจะเคลื่อนผ่าน ผู้ที่ส่งเสียงเปิดม่านออก เขามองตู้ชิงชิงด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“แม่นางผู้นี้ ไม่ทราบว่าท่านคือ...”
ตู้ชิงชิงไม่ตอบ นางรีบปิดม่านทันที
“แม่นาง อย่าไร้มารยาทกับข้าอย่างนี้สิ” บุรุษผู้นั้นยิ้มกว้างสายตาหยอกเย้า นิ้วเรียวส่งสัญญาณให้คนขับรถม้าไปจอดเทียบข้างรถม้าของจางอวิ๋นอวี้ ให้หน้าต่างเสมอกัน
หลังจากนั้น เขาก็ใช้ฝักกระบี่ยื่นออกจากหน้าต่างรถม้าตนเองเพื่อเปิดม่านหน้าต่างดูตู้ชิงชิงที่นั่งหลบอยู่ด้านใน
“เห็นแค่ดวงตาก็รู้ว่างามยิ่งนัก เจ้าสนใจมานั่งรถเล่นกับข้าหรือไม่”
“กระหม่อมพานางนั่งรถเล่นได้ ไม่รบกวนองค์ชายสี่หรอกพะย่ะค่ะ” เสียงของจางอวิ๋นอวี้ดังขึ้น เขามายืนด้านข้างรถม้า ก่อนกระโดดขึ้นไปนั่งเก้าอี้ตำแหน่งตรงหน้าต่างรถม้าบานนั้น
ใช้ร่างกายตนเองบังร่างของตู้ชิงชิง ไม่ใช่ชายคนดังกล่าวเห็น
“อ่อ นางเป็นญาติหรือเป็นคู่หมั้นคู่หมายของใต้เท้าจางอย่างนั้นหรอกหรือ” บุรุษลดความเจ้าชู้ลงสองส่วน แต่ยังถามด้วยท่าทางที่ไม่เกรงกลัว
บุรุษผู้นี้ก็คือองค์ชายสี่เหอควาน โอรสของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เขาช่วยงานที่กรมอาญา จึงมีงานหลายส่วนขัดแย้งกับจางอวิ๋นอวี้
เรียกได้ว่าไม่ค่อยถูกชะตากันเท่าใดนัก
“องค์ชายสี่อย่ายุ่งกับนางเลยพะย่ะค่ะ นางเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของกระหม่อม” จางอวิ๋นอวี้พูดน้ำเสียงราบเรียบปราศจากคลื่นอารมณ์ใดๆ
“โอ้ สาวใช้อุ่นเตียงอย่างนั้นหรือ ข้าไม่รังเกียจใช้ของร่วมกับเจ้าหรอก ให้ข้าเล่นสนุกกับนางสักสองสามคืนได้หรือไม่” องค์ชายเหอควานตาเป็นประกาย พูดออกมาอย่างไม่อายปาก
“แต่กระหม่อมไม่ชอบใช้ของร่วมกับผู้อื่น ขออภัย” จางอวิ๋นอวี้ปิดผ้าม่าน เขาสั่งให้สารถีขับรถม้าออกโดยไม่สนใจอีกฝ่าย
เมื่อรถม้าเริ่มออกตัวนั้น นัยน์ตาหงส์ลึกลับน่าหวาดกลัวก็จ้องจับผิดตู้ชิงชิง
“เจ้าคิดจะใช้องค์ชายสี่เข้ามาช่วยเหลือหรือ”
“เปล่า ข้าไม่ได้รู้จักเขาเสียหน่อย จะขอความช่วยเหลือไปทำไม” ตู้ชิงชิงพูดพลางกระเถิบกายซุกอีกฝั่งของรถม้า
“นั่นเพราะว่าเจ้าอยากเป็นอิสระ และคิดว่าผู้ที่กล้ามาตอแยคนบนรถม้าของข้าได้ย่อมมีอำนาจน่ะสิ”
จางอวิ๋นอวี้พูดเสียงขรึม เขาเอื้อมมือจับตัวตู้ชิงชิงแล้วกระชากร่างบางมาตรงกลางรถม้า
ตู้ชิงชิงที่ถูกดึงเสียหลัก นางล้มอยู่ในท่าทางที่หน้าอกเกือบจะแนบติดพื้น ส่วนสะโพกลอยโด่งงอนเด่น
“อยากมากนักหรือไงที่ล้มท่านี้ คิดยั่วข้าอย่างนั้นหรือ” จางอวิ๋นอวี้เอ่ย มือหนาที่แต่เดิมจะดึงตู้ชิงชิงให้ขึ้นมานั่งข้างกายเปลี่ยนเป็นแหวกเสื้อผ้าตรงสะโพกของนาง แล้วดึงกางเกงด้านในออกจนหมด
ทำให้กลีบเนื้อนุ่มที่แนบสนิทปรากฏต่อสายตาจางอวิ๋นอวี้อีกครั้ง
บุรุษกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขายังไม่ลืมว่าสอดใส่ในท่านี้ทำให้เข้าไปได้ลึกมาก
“อยู่นิ่งๆ อย่าร้องเสียงดัง” เขาสั่งตู้ชิงชิงก่อนลงมือทำตามที่ร่างกายต้องการ

“ขับรถม้าไปเรื่อยๆ รอบชานเมือง จะกลับจวนเมื่อไหร่ข้าจะบอกเอง” จางอวิ๋นอวี้ส่งเสียงบอกสารถี ขณะที่พูดก็ปลดสายคาดเอวของตนแล้วดึงกางเกงลงแก่นกายที่คล้ายงูยักษ์ผงาดทันใด มือหนาจับแก่นกายตนเองฟาดใส่แก้มก้นของตู้ชิงๆ จนหนำใจ จากนั้นก็นำส่วนหัวหยักถูขึ้นลงตรงกลีบเนื้อนุ่มเพื่อให้น้ำรักหลั่งออกมาเมื่อน้ำใสไหลออกมาชโลมงูตัวเขื่อง ไม่รอช้า เขาก็จับมันมุดเข้าปากถ้ำที่คับแคบ“อืม” บุรุษส่งเสียงเบาออกจากลำคอแสดงถึงความพึงพอใจ ท่านี้สอดเข้าไปกี่ครั้งก็ทั้งลึกทั้งคับแน่นช่างรู้สึกดีเสียจริง“อื้อ” ตู้ชิงชิงส่งเสียงกระเส่า เสียงร้องของนางทำให้สติของจางอวิ๋นอวี้เตลิดไปไกลเขาขยับเอวสอบกระทุ้งร่องรักที่ตอดลำใหญ่ของตนถี่ๆ ฝ่ามือทั้งสองก็บีบแก้มก้นตามจังหวะกระแทกกระทั้นปัก ปัก ปัก ปักตู้ชิงชิงที่ถูกตอกจนลึก นางได้แต่หลับตาเม้มริมฝีปากแน่น ความใหญ่โตของจางอวิ๋นอวี้ทำให้นางทั้งจุกทั้งเสียวอยากจะครางเพื่อระบายความร้อนรุ่มที่ได้รับจากบุรุษก็ทำไม่ได้เพราะถูกสั่งไว้ตั้งแต่แรกเสียงเนื้อกระแทกเนื้อนี้แม้จะดัง แต่ก็ดังสู้เสียงพูดคุยของชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายใช้สอยไม่ได้ ทำให้ไม่มีใครสนใจรถม้าของพวกเขายกเว
ขณะที่ตู้ชิงชิงสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น จางอวิ๋นอวี้ก็เดินไปสำรวจแผ่นกระดาษที่นางอธิษฐานขอพร ในเศษกระดาษที่ขาดกระจายมีร่องรอยเผาไหม้นั้น มีร่องรอยของน้ำหมึกใจความว่า‘ข้าอยากพบเจอท่านเทพเซียนผู้นั้นที่ป่าไผ่สวรรค์บนเขาเทพประทานแห่งนี้อีกครั้ง’มุมปากของจางอวิ๋นอวี้ยกขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว “ช่างเพ้อฝันเสียจริง”แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกวาดสายตาสำรวจด้วยความสนใจ เหตุใดกระดาษเหล่านี้ถึงระเบิดคล้ายกับถูกฉีกทึ้งแทบทุกแผ่นเขาจำได้ว่า ช่วงที่เขาเสร็จกิจเมื่อคืน กระดาษแผ่นสุดท้ายก็ระเบิดส่งแสงระยิบระยับเป็นฉากหลังที่งดงามพอดีราวกับว่า ตั้งแต่เริ่มมีสัมพันธ์กับตู้ชิงชิง กระดาษอธิษฐานแผ่นแรกก็ระเบิด และเมื่อเสร็จสมทั้งคู่ ก็ถึงกระดาษแผ่นสุดท้ายพอดิบพอดีช่างบังเอิญเสียจริง“เพราะว่าเจ้าเพ้อฝันถึงเทพเซียน เป็นผีแต่ไม่เจียมตัว กระดาษเหล่านี้เลยระเบิดจนหมด อ่อ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเจ้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับข้า คำอธิษฐานของเจ้าจึงเป็นโมฆะไปแล้ว”จางอวิ๋นอวี้พูดพลางเหลือบตามองสตรีที่ดวงหน้าเศร้าหมอง นางไม่ต่อปากต่อคำของเขาแต่อย่างใด เท้าเรียวเดินมาอยู่ด้านหลังของเขาอย่างเงียบเชียบเขาจึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก
“สาวรับใช้หรือ เจ้ามันบ้าไปแล้ว” ตู้ชิงชิงชูกำปั้นหมายจะทุบจางอวิ๋นอวี้ แต่ก็ไม่ทัน ร่างอวบอัดถูกจับพลิกคว่ำหน้าอกแนบติดพื้น แต่สะโพกยกแอ่นอวดร่องรักที่ยังมีน้ำสีขาวเปรอะเปื้อน“งามนัก” มุมปากของจางอวิ๋นอวี้โค้งขึ้น น้อยครั้งนักที่เขาจะยิ้มได้เช่นนี้เขาไม่พูดมากความ จับแก่นกายที่ยังตั้งผงาดเย่อหยิ่งอวดดีตีใส่บั้นท้ายกลมงอนของตู้ชิงชิงทีละข้างจนแดง จากนั้นก็ดันหัวเห็ดบานใหญ่มุดผ่านน้ำรักขาวขุ่นเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มอีกครั้ง“อืม ท่านี้ลึกดีจริงๆ ดันเข้าไปได้มากกว่าเดิม” บุรุษเอ่ยกับตนเองเสียงไม่ดังนักแม้จะไม่ดัง แต่ตู้ชิงชิงก็ได้ยินชัดเจน นางรู้สึกมากกว่าจางอวิ๋นอวี้ด้วยซ้ำ มีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้ท่อนเอ็นร้ายกาจของเขาแนบชิดเต็มพื้นที่ร่องรักของตนท่อนเอ็นร้อนกระตุ้นให้โพรงนุ่มเริ่มขยับตอดรัด เมื่อท่อนเอ็นครูดถูไปมา การตอบสนองก็เพิ่มมากขึ้นร้อนดีเหลือเกินตู้ชิงชิงคิดในใจ นางตายมาหลายปีนอกจากความเย็นก็แทบไม่สามารถสัมผัสความอบอุ่นของคนมีชีวิตได้ แต่ท่อนเอ็นใหญ่แท่งนี้ทำให้โพรงเนื้อนางร้อนผ่าว ทั้งขมิบและตอดอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งสัมผัสความเสียวก็ยิ่งอยากให้ลำเอ็นนี้อยู่ภายในโพรงรักนานๆจะได
ทว่าจางอวิ๋นอวี้เหมือนจะไม่ได้ยินเสียงร้องน่าสงสารของตู้ชิงชิง เขาจับขาที่เรียวยาวอ้าออก ดวงตาหงส์มองสำรวจกลีบดอกไม้ที่ดูอ่อนนุ่มด้วยความสนใจอืม ของสตรีเป็นอย่างนี้นี่เองดูนุ่มนิ่มบอบบาง ต่างจากของบุรุษโดยสิ้นเชิงคิดดังนี้ก็รู้สึกว่าส่วนล่างของตนต้องการผงาดออกมาสู่โลกภายนอก หากถูกกักขังไว้จะประท้วงทำให้ร่างกายของเขารุ่มร้อนและไม่สบายตัว จางอวิ๋นอวี้จึงปลดสายคาดเอว ถอดกางเกงออกอย่างรวดเร็วตู้ชิงชิงเห็นแก่นกายของจางอวิ๋นอวี้ก็ยิ่งหวาดผวา ลำใหญ่ที่ตั้งผงาดเหมือนคทาหยกหรูอี้ที่พวกคนใหญ่คนโตมักพกติดตัว ตรงปลายคล้ายกับหัวเห็ดสีน้ำตาลชมพูดูสะอาดตาขณะที่กำลังจดจ้องกับท่อนใหญ่ตรงหน้า ตู้ชิงชิงไม่ทันรู้ตัวเลยว่าต้นขาเรียวของตัวเองนั้นถูกดันขึ้นจนแทบแนบชิดเต้าอวบทั้งสองข้างท่านี้ทำให้สะโพกและโหนกเนื้อสาวลอยขึ้นโดดเด่นเป็นจุดสนใจ แต่ก็ไม่กลบดับความงามของเต้าอวบที่ใหญ่โตล้นทะลักตู้ชิงชิงหลับตาไม่กล้ามองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเองนางพยายามคิดเรื่องอื่นที่ตนเองสนใจ ทว่าก็ไม่อาจหลบเลี่ยงภาพจำของแท่งหยกใหญ่ได้ขณะที่วุ่นวายใจอยู่นั้น ตู้ชิงชิงก็รู้สึกว่าจุกหวานข้างซ้ายถูกลิ้นร้อนและอ่อนนุ่ม
ตู้ชิงชิงเห็นท่าทางหื่นกามของเกาถงก็เริ่มหงุดหงิดไม่พอใจ สายตาเขาที่จ้องมองมาราวกับอยากจะกลืนกินนางจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก“ข้าก็คิดว่าพี่ชายจะไม่สนใจสตรี ที่ไหนได้ ก็ไม่ต่างจากบุรุษหื่นกามทั่วไป” ว่าแล้วนางก็จ้องเข้าไปในดวงตาของเกาถง ชายหนุ่มจ้องตอบด้วยแววตาหลงใหลเคลิบเคลิ้มตู้ชิงชิงที่เดิมอยากจะลองใจเกาถง เห็นว่าเขาดูซื่อๆ ไม่มีพิษภัยไร้เดียงสา อยากเก็บเขาไว้ข้างกาย เมื่อเห็นว่าเขาจ้องมองเต้าอวบของตนไม่วางตาก็เปลี่ยนใจใบหน้างามเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาแต่ใสซื่อช้าๆ เมื่อริมฝีปากอยู่ในระยะใกล้กัน นางก็เริ่มดูดพลังชีวิตของเกาถง“บังอาจ”เสียงดุดันคล้ายคำรามดังขึ้น ไม่ทันที่ตู้ชิงชิงจะได้หลบหนี แขนเรียวขาวของนางก็ถูกบุรุษร่างสูงใหญ่จับไว้แน่น“ผีสาวที่ล่อลวงชายหนุ่มมาดูดพลังวิญญาณสมควรตายแล้วเกิดใหม่นับร้อยครั้ง” บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตามีเสน่ห์ล่อลวงใจสตรีไม่แพ้กับที่ตู้ชิงชิงล่อลวงเกาถงดวงตาหงส์ที่ลึกล้ำจ้องมองสตรีอย่างโกรธเกรี้ยว“ปล่อยข้านะ ข้าก็แค่ฆ่าพวกผู้ชายที่ก่อให้เกิดภัยแก่สตรีนางอื่นได้ คนพวกนี้สายตาแทะโลมข้าทั้งนั้น” ตู้ชิงชิงรีบพูดแก้ตัวด้วยความร้อนรนปกติแล้
ศาลต้าหลี่ภายในห้องทำงานของผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ บุรุษวัยกลางคนใบหน้าดุดันนั่งพูดคุยกับบุรุษใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่น บุรุษผู้นี้โครงหน้าสมส่วน ดวงตาหงส์ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอวบอิ่ม ผิวขาวเนียนดุจหยกตัดกับอาภรณ์สีดำราวกับน้ำหมึกพวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบนเขาเทพประทาน“อวิ๋นอวี้ กลางวันนี้ฝ่าบาทมีรับสั่งให้พวกเราจัดการเรื่องของเขาเทพประทานให้เรียบร้อยภายในหนึ่งเดือน ตอนนี้ไห่เฉียงก็ไปสืบคดีที่ซีโจว หน้าที่นี้คงต้องมอบให้เจ้าจัดการแล้วล่ะ”เฉินเล่อจิ้นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่พูดกับจางอวิ๋นอวี้ที่มีศักดิ์เป็นหลานชายและเป็นลูกน้องภายใต้บังคับบัญชา“ท่านลุงโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าจะรีบจัดการให้เรียบร้อย รับรองว่าไม่ถึงหนึ่งเดือนต้องปิดคดีนี้ได้แน่นอน”จางอวิ๋นอวี้ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เขาเป็นรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นโจรศัตรูต่างแคว้น กระทั่งภูตผีปีศาจ“เจ้าต้องรักษาตัวให้ดีล่ะ เรื่องนี้ค่อนข้างเหนือธรรมชาติ จัดการยากกว่าคดีทั่วไป” บุรุษวัยกลางคนเตือนด้วยความเป็นห่วง“ท่านลุง ก็แค่ผีสตรีเท่านั้น สำหรับข้าศัตรูต่างแคว้นอันตรายกว่าเยอะ” จางอวิ๋นอวี้พูดพ








