เข้าสู่ระบบ“สาวรับใช้หรือ เจ้ามันบ้าไปแล้ว” ตู้ชิงชิงชูกำปั้นหมายจะทุบจางอวิ๋นอวี้ แต่ก็ไม่ทัน ร่างอวบอัดถูกจับพลิกคว่ำหน้าอกแนบติดพื้น แต่สะโพกยกแอ่นอวดร่องรักที่ยังมีน้ำสีขาวเปรอะเปื้อน
“งามนัก” มุมปากของจางอวิ๋นอวี้โค้งขึ้น น้อยครั้งนักที่เขาจะยิ้มได้เช่นนี้
เขาไม่พูดมากความ จับแก่นกายที่ยังตั้งผงาดเย่อหยิ่งอวดดีตีใส่บั้นท้ายกลมงอนของตู้ชิงชิงทีละข้างจนแดง จากนั้นก็ดันหัวเห็ดบานใหญ่มุดผ่านน้ำรักขาวขุ่นเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มอีกครั้ง
“อืม ท่านี้ลึกดีจริงๆ ดันเข้าไปได้มากกว่าเดิม” บุรุษเอ่ยกับตนเองเสียงไม่ดังนัก
แม้จะไม่ดัง แต่ตู้ชิงชิงก็ได้ยินชัดเจน นางรู้สึกมากกว่าจางอวิ๋นอวี้ด้วยซ้ำ มีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้ท่อนเอ็นร้ายกาจของเขาแนบชิดเต็มพื้นที่ร่องรักของตน
ท่อนเอ็นร้อนกระตุ้นให้โพรงนุ่มเริ่มขยับตอดรัด เมื่อท่อนเอ็นครูดถูไปมา การตอบสนองก็เพิ่มมากขึ้น
ร้อนดีเหลือเกิน
ตู้ชิงชิงคิดในใจ นางตายมาหลายปีนอกจากความเย็นก็แทบไม่สามารถสัมผัสความอบอุ่นของคนมีชีวิตได้ แต่ท่อนเอ็นใหญ่แท่งนี้ทำให้โพรงเนื้อนางร้อนผ่าว ทั้งขมิบและตอดอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งสัมผัสความเสียวก็ยิ่งอยากให้ลำเอ็นนี้อยู่ภายในโพรงรักนานๆ
จะได้กลืนกินและรีดคั้นน้ำรักอุ่นขาวออกมา
นอกจากนั้น ตู้ชิงชิงรู้สึกว่าการได้รับน้ำรักของจางอวิ๋นอวี้นั้น ทำให้ตนเองมีพลังตบะมากขึ้นกว่าการดูดพลังชีวิตของบุรุษพรหมจรรย์ทั่วไป ทั้งยังทำให้ร่างกายรวบรวมประกอบเป็นรูปร่างจนมีกายเนื้อคล้ายมนุษย์มากขึ้น
กว่าการร่วมรักนี้จะสิ้นสุด คาดว่าร่างกายของนางคงไม่ต่างจากมนุษย์
เพียงแต่ต้องหลบเลี่ยงการออกสู่บริเวณที่มีแสงแดดจ้า
จางอวิ๋นอวี้ก็รับรู้เรื่องนี้ได้เช่นกัน เขาสัมผัสได้ว่าสตรีใต้ร่างนี้มีกายเนื้อที่นุ่มนิ่มขึ้น แน่นเต็มไม้เต็มมือไม่เหมือนกับตอนแรกที่เริ่มร่วมรัก โดยเฉพาะโพรงเนื้อนุ่มที่ตอดท่อนเอ็นแรงกว่าเดิม ทำให้ท่อนเอ็นกระจายความร้อนคล้ายจะถูกหลอมละลายรวมเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกันกับนาง
“รู้สึกดีหรือไม่” จางอวิ๋นอวี้เอ่ยถาม เอวสอบจ้วงแทงร่องรักหนักและดุดัน
“อ๊า อ๊า รุ รู้สึกดี” ตู้ชิงชิงที่พยายามปิดปากไม่ตอบ แต่เมื่อถูกกระทุ้งจนตัวโยกคลอน นางจึงตอบคำถาม
“ดีตรงไหน” จางอวิ๋นอวี้ถามต่อ
“ตรงนั้น” สตรีกัดฟันตอบเสียงเขินอาย แต่ก็ยังถูกเร่งเร้าให้ตอบคำถามที่บุรุษต้องการฟัง
“ตรงนั้นคือตรงไหน” จางอวิ๋นอวี้อมยิ้ม ดวงตาหงส์จับจ้องเรือนร่างที่ขยับไปมาใต้ร่าง
น่ามองไปทุกส่วนจริงๆ โดยเฉพาะส่วนล่าง ส่วนที่กำลังขยายกว้างต้อนรับแก่นกายเขาอย่างดี
“ตรงนั้น ที่ถูกเจ้าตอกอยู่ไง”
“อ่อ ถูกตอก ก็คล้ายจริงๆ” จางอวิ๋นอวี้พูดพลางเร่งจังหวะ “ข้าก็รู้สึกดีเช่นกัน ข้างในเจ้าแน่นดีจริงๆ ทั้งยังหลั่งน้ำออกมาเยอะดีด้วย”
แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับปลุกอารมณ์ของตู้ชิงชิงมากขึ้น นางขยับบั้นท้ายงอนงามกระเด้งตอบโต้การกระแทกของบุรุษ
“อืม อ้า” จางอวิ๋นอวี้ครางออกมาจากลำคอ
คิดไม่ถึงว่าแค่พูดก็กระตุ้นนางได้
“ปลดปล่อยสิ่งที่เจ้าต้องการออกมา ถ้าเหนียมอายจะทำให้สุขได้ไม่เต็มที่” เขาบอกสตรีก่อนตอก บดเน้น และหมุนควงแก่นกายอย่างชำนาญ
ตู้ชิงชิงหลับตาพริ้ม ในหัวลืมเลือนทุกเรื่อง ปล่อยวางเรื่องบุรุษที่นางเฝ้ารอมาแสนนาน แล้วปล่อยใจทำตามต้องการ
เอวบางและสะโพกขยับสวนเข้าจังหวะกับชายหนุ่ม ขมิบตอดท่อนเอ็นแรงๆ เป็นระยะ สร้างความเสียวซ่านให้แก่พวกเขาทั้งสองอย่างเต็มที่
สุขสม เสร็จสม อิ่มอกอิ่มใจ
หนุ่มสาวเริงรักกันต่ออีกหลายชั่วยามก่อนจะหลับลงด้วยความเพลีย
แต่หลับตานอนได้เพียงครึ่งชั่วยาม ตู้ชิงชิงก็รู้สึกตัวตื่น
กลีบเนื้อนุ่มและปากช่องทางรักที่เลอะคราบน้ำกามของจางอวิ๋นอวี้ กำลังถูกเจ้าตัวใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือ
เห็นว่านางลืมตาขึ้นมา บุรุษก็เก็กเสียงขรึมพูด “ต้องรีบทำความสะอาด อีกสักพักเจ้าต้องตามข้ากลับไปด้วยกัน”
“ไปไหน ไปทำอะไร” ตู้ชิงชิงถามสีหน้าตื่นตระหนก
“ไปจวนของข้า เป็นสตรีของข้า” บุรุษตอบราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พาสตรีกลับบ้าน
หรือว่าเขาจะมีฮูหยินและอนุหลายคน สาวใช้อุ่นเตียงอีกนับไม่ถ้วน ตู้ชิงชิงคิดตามพลางแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน
“ที่จวนของข้ามีแต่บุรุษไร้ซึ่งสตรี เจ้าอย่าไปเที่ยวดูดพลังวิญญาณมั่วซั่วเป็นอันขาด”
ราวกับอ่านใจนางออก จางอวิ๋นอวี้พูดโดยไม่เงยหน้ามองหญิงสาว ดวงตาหงส์ยังคงจับจ้องที่จุดซ่อนเร้นอันบอบบางเพื่อทำความสะอาด
ทะนุถนอมบ้างหลังจากดุเดือดรุนแรงมาหลายชั่วยาม
“หากข้าไม่ยินยอมไปล่ะ” ตู้ชิงชิงแสดงสีหน้าลังเลใจ “ข้าอยากรอคอยคนผู้หนึ่งที่นี่”
“ใคร” บุรุษถามเสียงเข้ม
“ท่านเทพเซียนที่ประทานต้นไผ่สวรรค์” สตรีเอ่ยเสียงแผ่วเบา นางกลัวว่าจางอวิ๋นอวี้จะหัวเราะเยาะกับการกระทำที่ไร้สาระของนาง
“คาดว่าเจ้าคงรอท่านเทพผู้นั้นมานานแล้ว ผลเป็นอย่างไรล่ะ เขาเคยมาหรือไม่ เจ้าตัดใจไปกับข้าเสียเถอะ เทพเซียนองค์ใดกันที่จะมาสนใจผีสาวอย่างเจ้า” จางอวิ๋นอวี้พูดตามตรงไม่มีการรักษาน้ำใจเลยแม้แต่น้อย
“ที่สำคัญ เจ้าเป็นสตรีของข้าแล้ว ห้ามคิดถึงบุรุษอื่นเป็นอันขาด” ดวงตาหงส์เปล่งประกายดุดัน ความน่ากลัวฉายออกมาชัดเจน
สุดท้ายตู้ชิงชิงก็ต้องคอตกก้มหน้ารับการกระทำของตัวเอง นางต้องติดตามอยู่ข้างกายจางอวิ๋นอวี้
แม้จะบอกว่าเป็นสาวใช้ของเขา ที่จริงก็ไม่ต่างจากนักโทษดีๆ นี่เอง
เห็นสายตาของตู้ชิงชิง จางอวิ๋นอวี้ก็โยนผ้าผืนเล็กออกไปไกลหลังจากทำความสะอาดส่วนบอบบางเสร็จแล้ว เขาพูดน้ำเสียงไม่พอใจกับนาง
“ใส่เสื้อผ้าซะ อย่าชักช้า” เขาเอ่ยก่อนหันหลังให้ไม่มองนางอีก ทั้งหงุดหงิดกับคำตอบและท่าทีของนาง และกลัวใจตัวเองที่อาจจะลงมือซ้ำอีกรอบ
ป่าไผ่สวรรค์ เขาเทพประทานหย่วนเฉินพาเชวี่ยชิงเอ๋อร์มายังอีกมิติที่อยู่อีกฝั่งของสระน้ำในป่าไผ่ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เขาและเชวี่ยชิงเอ๋อร์ร่วมรักกันครั้งแรกเมื่อคนหนึ่งลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ส่วนอีกคนเป็นผีสาวที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเชวี่ยชิงเอ๋อร์ถึงจะมาเป็นครั้งแรก แต่นางก็เคยเห็นสถานที่นี้และเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นผ่านความทรงจำของจางอวิ๋นอวี้ช่างน่าอายยิ่งนัก“ท่านพาข้ามาที่นี่ทำไมหรือ” นางถามพลางหลบสายตาหวานเยิ้มของบุรุษ“ทบทวนความทรงจำ” หยวนเฉินอมยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาสะบัดแขนเสื้อครั้งแรกก็ปรากฎเตียงนอนหลังใหญ่ขึ้นด้านข้าง สะบัดแขนเสื้อครั้งที่สอง บนท้องฟ้าสว่างไสวด้วยแสงของดวงดารานับแสนนับล้านดวงสะบัดแขนเสื้อครั้งที่สาม เสื้อผ้าบนร่างกายของเขากับเชวี่ยชิงเอ๋อร์ก็หายไปทันที“เรามารื้อฟื้นความทรงจำกันเถอะ” หย่วนเฉินเอ่ยเสียงหวาน ฝ่ามือหนาประคองร่างอรชรขึ้นนอนบนเตียงอย่างทะนุถนอม“ตะ แต่ว่าข้ากลัว” “เจ้าชอบบอกว่าข้าเฒ่า เจ้ามองข้าสิ ทุกส่วนยังดูหนุ่มและแข็งแรง ที่เฒ่าคือมากประสบการณ์ต่างหาก” เขาพูดพร้อมกับยกฝ่ามือลูบไล้ไปทุกส่วนของร่างกายหญิงสาว เมื่อถึงภูเขาสองลูกและเนินเนื้อที่มีไรข
“ไม่นะ ข้าจะไปหาประมุขเผ่ากระทิง” หนิวอันนั่วพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากการจับกุม “เปิ่นหวางนี่แหละที่จะเป็นประมุขเผ่ากระทิงตนถัดไป” อ๋องเจี้ยนยกยิ้มมุมปาก หนิวอันนั่วได้ยินดังนั้นก็มีท่าทีอ่อนลง นางเคยได้ยินมาว่าปีศาจกระทิงตนนี้มีพละกำลังมหาศาลทั้งยังมีบริวารพอๆ กับประมุขเผ่ากระทิงตนปัจจุบัน คิดทบทวนไปมาก็ยอมขึ้นรถโดยไม่ขัดขืน …….จวนอ๋องเจี้ยน ปีศาจกระทิง หนิวอันนั่วเดินตามหลังขบวนของอ๋องเจี้ยนเข้าจวน สายตาของนางสอดส่องไปทั่ว เห็นปีศาจสตรีโฉมงามหลายเผ่าเดินอ้อนแอ้นออกมาต้อนรับจำนวนมาก ‘เจ้าชู้จริงด้วย ไม่เหมือนเทพหย่วนเฉินของข้าสักนิด’ หนิวอันนั่วคิดในใจพลางเบ้ปากกลอกตาไปมา “พาสตรีด้านหลังเปิ่นหวางไปอาบน้ำแต่งตัวดีๆ เห็นนางใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก” อ๋องเจี้ยนสั่งบรรดาสตรีที่กรูเข้ามาต้อนรับตน“เจ้าค่ะท่านอ๋อง” เจี่ยวซี สตรีที่ยืนอยู่หน้าสุดรับคำ นางยกมือเรียวขึ้นโบกเล็กน้อย เหล่าสาวใช้ก็ดึงแขนของหนิวอันนั่วไปยังเรือนด้านหลัง …….หลังจากอาบน้ำจนผิวพรรณสะอาดผุดผ่อง หนิวอันนั่วก็สวมอาภรณ์เนื้อผ้าชั้นดี จากนั้นนางจึงตัดสินใจไปหาอ๋องเจี้ยนเพื่อพูดคุยธุระของตนเมื่อถ
“ท่านปล่อยข้านะ ฮือๆ ข้ายังอายุน้อย ไม่อยากมีสามีแก่แบบท่าน ฮือ” เชวี่ยชิงเอ๋อร์ร้องไห้ฟูมฟายร้องขอความเห็นใจตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าของนางกำลังถูกหย่วนเฉินสำรวจอย่างเอาแต่ใจเมื่อบุรุษหยอกล้อเต้าอวบทั้งสองและกลีบเนื้อนุ่มด้านล่างจนอิ่มหนำแล้ว เขาก็ปล่อยให้นางนอนในอ้อมกอดของตน“รอเราแต่งงานกันก่อน ข้าถึงจะรังแกเจ้ามากกว่านี้” หย่วนเฉินพูดพร้อมกับก้มหน้าจุมพิตหน้าผากหญิงสาวอย่างอ่อนโยน“ท่านไม่ได้ฟังข้าพูดเลยหรือ ข้าบอกแล้วว่าจะไม่แต่งกับท่าน” เชวี่ยชิงเอ๋อร์นอนตะแคงหันตัวหนี“ข้าไม่ดีตรงไหนหรือ ข้าเป็นเทพ สามารถให้เจ้าได้ทุกอย่าง” หย่วนเฉินยกแขนพาดร่างบางกอดนางแน่นเชวี่ยชิงเอ๋อร์เงียบ คิ้วโก่งขมวดคิ้วสายตาครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนตอบ“แก่” สตรีตอบสั้นๆ จะบอกว่าขี้เหร่ก็ไม่ใช่ เพราะหย่วนเฉินนับว่ารูปงามยากที่จะหาคนเปรียบ จะบอกว่าไม่มีความสามารถก็ไม่ได้ แค่เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ เพียงครั้งเดียวก็ล้มหุ่นไม้ได้หลายสิบตัวมีเพียงเหตุผลนี้ที่เข้าท่าที่สุด“เจ้าเคยได้ยินหรือไม่ว่ายิ่งแก่ยิ่งมีประสบการณ์” หย่วนเฉินที่อยู่ในท่ากอดเชวี่ยชิงเอ๋อร์ทางด้านหลังยกบริเวณช่วงตัวขึ้นสูงเล็กน้อยเพื่อกระซิบข
วันถัดมาลานจัดงานเลือกคู่ดูตัว เชวี่ยหงหลันและเชวี่ยหงอี้เดินนำเชวี่ยชิงเอ๋อร์ขึ้นบนศาลาข้างลานคัดเลือก เมื่อพวกเขาทั้งสามคนเดินบนศาลา ทุกสายตาก็หันมองเป็นตาเดียว เกิดเสียงเงียบขึ้นทั่วบริเวณ จากนั้นไม่นานจึงเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบรอบลาน“นั่นเทพธิดาเผ่าวิหคอัคคีใช่หรือไม่ งดงามตามคำล่ำลือ มิน่าล่ะที่เทพบุตรเผ่าวิหคเร้นกับวิหคสายฟ้าต่างแข่งขันกันมัดใจนาง”“เทพบุตรเผ่าวิหคสายฟ้าของข้าสง่างามยิ่งนัก เป็นที่หลงใหลของสตรีทั่วทั้งแคว้น หากเทพธิดาเผ่าวิหคอัคคีเล่นตัว นางก็ไม่คู่ควร”“นางอาจจะชอบผู้ชายบ้านๆ แบบข้าก็เป็นได้ เทพบุตรเผ่าวิหคอัคคีล้วนรูปงาม นางคงมองคนหล่อจนเบื่อแล้ว”…“ชิงเอ๋อร์ เจ้ามาแล้ว” ท่ามกลางเสียงพูดคุยก็มีเสียงดังขึ้น เป็นเสียงของเหลยเว่ยซิง เทพบุตรเผ่าวิหคสายฟ้า“ชิงเอ๋อร์ ท่านพี่ทั้งสอง เชิญพวกท่านนั่งลงตรงนี้ได้เลย” อ้าวอวี๋เซิง เทพบุตรเผ่าวิหคเร้นลุกขึ้นพร้อมผายมือเชิญพวกเชวี่ยชิงเอ๋อร์ดั่งคนกันเองเชวี่ยชิงเอ๋อร์พยักหน้ายิ้มรับน้อยๆ ทว่ากลับเดินเลยไปนั่งตรงอื่น“ตามสบายกันนะ พวกข้ามาร่วมงานเพื่อชมความครื้นเครงเท่านั้น” เชวี่ยหงหลันโบกมือให้บุรุษทั้งสองก่อนเดินผ่าน
แดนวิหคอัคคีเมืองวิหคอัคคี“ชิงเอ๋อร์ ลูกควรไปงานหาคู่ที่แดนวิหคสายฟ้านะ งานนี้เป็นงานใหญ่ ลูกหลานของหัวหน้าเผ่าแต่ละดินแดนล้วนไปกันทั้งนั้น” หัวหน้าเผ่าวิหคอัคคีพูดกับบุตรสาวของตนอย่างอ่อนโยน“แต่ข้าไม่อยากไปนี่นา งานหาคู่ดูตัวช่างไร้สาระ เอาเวลาไปฝึกบำเพ็ญเพียรดีกว่า” เชวี่ยชิงเอ๋อร์ถอนหายใจ ร่างบางเดินไปนั่งเก้าอี้หน้าตาเหนื่อยหน่าย “ไปเถอะ แม้จะไม่ได้คู่บำเพ็ญเพียร แต่ก็อาจจะได้สหายรู้ใจกลับมา จะเป็นสหายหญิงหรือชายต่างก็ดีทั้งนั้น” ฮูหยินหัวหน้าเผ่าวิหคอัคคีกล่าวพร้อมกับให้ลี่ลี่ยกขนมส่งให้บุตรสาวตนเชวี่ยชิงเอ๋อร์หยิบขนมขึ้นมากัดเข้าปากเคี้ยวไม่กี่คำก่อนพูดต่อ “ข้าเพิ่งอายุสิบแปดปีก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้แล้ว นกพวกนั้นใช้เวลากันตั้งร้อยกว่าสองร้อยปีถึงจะแปลงร่างได้ ขนาดเกิดมาบนทรัพยากรอันมหาศาล แสดงว่าไร้ความสามารถ หรือไม่ก็มัวแต่สนใจเรื่องไร้สาระ”“ชิงเอ๋อร์น้องสาวข้านอกจากมีทรัพยากรแล้ว ยังมีวาสนามากกว่าผู้อื่น อายุห้าขวบก็แปลงร่างได้แล้ว พวกตัวเล็กจ้อยนั่นไม่คู่ควรกับนาง” เชวี่ยหงหลัว บุตรชายคนโตของหัวหน้าเผ่าเข้ามาภายในห้องโถงเอ่ยเสียงดัง “แต่ว่า งานหาคู่นี้เจ้าควรไปเสียหน่
“นำตัวนางไป”เทียนจวินออกคำสั่งน้ำเสียงทรงพลัง ทหารเซียนสองคนจึงไม่รีรอนำตัวตู้ชิงชิงออกนอกตำหนักไห่ถังอย่างไร้เมตตาหลังจากที่เทียนจวินพูดคุยกับฮองเฮาสักพักก็กลับตำหนักของตน ตงฟางอันนั่วที่ยืนหลบอยู่ด้านข้างก็เดินมาพูดคุยประจบเอาใจ“ฮองเฮาเพคะ จดหมายของผี เอ่อ แม่นางตู้ผู้นั้น หม่อมฉันจะเอาไปส่งให้ท่านเทพหย่วนเฉินเองเพคะ จะได้ไม่ต้องลำบากท่านเทพ”ฮองเฮาครุ่นคิดเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของตงฟางอันนั่วจึงพยักหน้าตกลง “ได้สิ รบกวนเจ้าแล้ว”“ไม่รบกวนเลยเพคะ ถึงอย่างไรหม่อมฉันก็ต้องกลับไปที่ตำหนักอยู่แล้ว” ตงฟางอันนั่วตอบ ริมฝีปากถูกกัดแน่นไม่ให้เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาแกล้งทำเป็นลืมมอบสักหนึ่งอาทิตย์ หรือไม่ก็แกล้งทำหาย แค่นี้หย่วนเฉินก็จะพลาดกับตู้ชิงชิงอีกครั้ง........ลานด้านหน้าบ่อจุติตู้ชิงชิงถูกพาตัวมายืนด้านหน้าบ่อ เทพที่เฝ้าบ่อจุติก็กระวีกระวาดหยิบถ้วยน้ำลืมเลือนมาส่งให้นาง“ดื่มลงไปเถอะ การลืมดีต่อการจุติใหม่ของเจ้า” เทพผู้เฝ้าบ่อบอกกับตู้ชิงชิง“ไม่ต้องกังวลไป แม้เทียนจวินจะให้เจ้าไปเกิดเป็นเดรัจฉาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาของเจ้า หากเจ้าวาสนาดีก็อาจจะ







