หนึ่งเดือนผ่านไป...
ชนัญชิดาใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดหรูแห่งนี้อย่างเงียบเชียบ เธอไปมหาวิทยาลัยตามปกติ เลิกเรียนก็กลับคอนโด ไม่ได้ออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหนและไม่ได้ติดต่อกับเมฆินทร์เลยนับตั้งแต่เจอกันวันแรก
เมฆินทร์เองก็ไม่เคยมาที่คอนโดแห่งนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงเลขาฯ ของเขาที่โทรมาสอบถามว่าเธอต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม
ในตอนแรกหญิงสาวรู้สึกสับสนกับท่าทีของเมฆินทร์ เธอคิดว่าเขาคงต้องการให้เธอมาปรนนิบัติในฐานะนางบำเรอหรืออย่างน้อยก็คงจะมาหาเธอที่คอนโดบ้าง แต่เขากลับนิ่งเฉยราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่จริง บางทีเขาอาจจะแค่ต้องการช่วยบิดาของเธอจริงๆ โดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทนจากเธอมากไปกว่าการให้เธออยู่ที่นี่ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ไปสร้างปัญหาหรือหนีหายไปไหน
เมื่อคิดได้แบบนี้ชนัญชิดาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวสามารถใช้ชีวิตนักศึกษาได้ตามปกติ แม้ในใจจะยังคงมีปมเรื่องนี้คอยทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา เธอไม่เคยบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทอย่างไอลดาและมารีน่า เธอพยายามทำตัวให้ร่าเริงเหมือนเดิม แต่ในบางครั้ง ดวงตาที่ซ่อนความเศร้าไว้ก็ไม่อาจหลบพ้นสายตาของเพื่อนๆ ไปได้
“มะปรางแกเป็นอะไรหรือเปล่าพักนี้ไม่ร่าเริงเลย” ไอลดาถามขึ้นในวันหนึ่ง ขณะที่พวกเธอกำลังนั่งกินข้าวกลางวันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
“ดูแกเหม่อๆ นะ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน” มารีน่าพูดเสริม
“เปล่าหรอกแก ช่วงนี้สอบเยอะก็เลยเครียดๆ น่ะ” ชนัญชิดาฝืนยิ้ม
“เครียดมากก็ไปหาอะไรคลายเครียดบ้างสิ วันศุกร์นี้ไปเที่ยวผับกันไหม สอบเสร็จพอดีด้วย” มารีน่าเสนอเพราะนานแล้วที่พวกเธอไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน
ชนัญชิดานิ่งไปเพราะกลัวว่าเมฆินทร์มาหาแล้วจะไม่เจอ แต่พอคิดว่าเขาไม่ได้สนใจเธอและคงไม่มาหา ส่วนตัวเธอเองก็รู้สึกอึดอัดกับชีวิตที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในคอนโด การออกไปคลายเครียดบ้างก็น่าจะดี
“ไปก็ได้แล้วลดาล่ะ ไปด้วยกันไหม" ชนัญชิดาหันมาถามไอลกา
“อือ จะพลาดได้ยังไงล่ะ”
พวกเธอเริ่มวางแผนว่าจะแต่งตัวแบบไหนดี จะไปกันอย่างไร ชวนใครไปบ้าง ครั้งนี้คณาธิปหรือไผ่เพื่อนร่วมคณะผู้ชายที่แอบชอบชนัญชิดาอยู่เงียบๆ และสิงขรหรือพี่กล้ารุ่นพี่ปีสี่ที่สนิทสนมกับกลุ่มของพวกเธอ
วันศุกร์มาถึงอย่างรวดเร็วชนัญชิดาเลิกเรียนแล้วกลับไปแต่งตัวที่คอนโด เธอเลือกชุดเดรสสีเข้มที่ไม่โป๊จนเกินไป แต่ก็ดูสวยงามและเข้ากับบรรยากาศของผับ
หญิงสาวมองตัวเองในกระจก เธอเห็นผู้หญิงที่ดูดีคนหนึ่ง แต่ภายในจิตใจกลับรู้สึกว่างเปล่า เธอพยายามจะทำใจให้สนุกและลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นและคิดว่าคืนนี้จะไปสนุกให้เต็มที่
"สวยมากเลยยัยมะปราง” ไอลดาและมารีน่าชมเมื่อเห็นเพื่อนเดินออกมาจากคอนโดขณะที่พวกเธอทั้งสองคนมารอที่ล็อบบี้
“ไปกันเลยไหม” มารีน่าถามอย่างตื่นเต้น
พวกเธอเรียกแท็กซี่ไปยังผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงก็พบว่าที่คณาธิปและสิงขรมารออยู่แล้ว บรรยากาศภายในผับเต็มไปด้วยเสียงเพลงสนุกสนานท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับหลากสี
“ไม่เคยมาผับเลยเหรอมะปราง” ไผ่ถามขณะส่งเครื่องดื่มสีสวยให้เธอ
“เคยนะ แต่ไม่ได้มานานแล้ว”
“ถ้าครั้งหน้าอยากมาสนุกกันอีกก็บอกพี่นะ พี่รู้จักที่เที่ยวเยอะเลย” สิงขรพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
ชนัญชิดาพยายามปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศ เธอจิบเครื่องดื่มที่รู้สึกถึงความขมปร่าที่ปลายลิ้นแต่ก็ให้ความรู้สึกสดชื่น หญิงสาวพยายามลืมเรื่องไม่สบายใจและปล่อยใจไปกับเสียงเพลง ผู้คนและแสงสีตรงหน้า
ในขณะที่ชนัญชิดากำลังสนุกอยู่กับเพื่อนๆ เธอไม่รู้ตัวว่าชะตากรรมกำลังเล่นตลกกับเธอ เมื่อในอีกมุมหนึ่งของผับเดียวกันเมฆินทร์กำลังนั่งคุยธุรกิจกับคู่ค้าชาวต่างชาติ เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาเที่ยวแต่เป็นการนัดหมาย เพื่อสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ
เมฆินทร์ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนขึ้นถึงข้อศอกดูสบายๆ แต่ยังคงความมีเสน่ห์ เขาจิบเครื่องดื่มในมือพลางฟังคู่ค้าพูดถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบๆ ผับอย่างไม่ตั้งใจและในวินาทีนั้นเอง สายตาของเขาก็หยุดลงที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นตาที่กำลังหัวเราะและเต้นรำอยู่กับกลุ่มผู้ชายซึ่งเป็นเพื่อนของสิงขรที่เข้ามาเพิ่ม
“มะปราง” เมฆินทร์ขมวดคิ้วแน่น เขารู้สึกหงุดหงิดที่เห็นผู้หญิงคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่มิหนำซ้ำเธอยังอยู่กับผู้ชายคนอื่น
ในเมื่อเขาจัดหาที่อยู่ให้เธออย่างดี ให้เงินเธอใช้และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย เธอกลับมาทำตัวเหลวไหลแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าชนัญชิดาเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและคงเรียบร้อย แต่สิ่งที่เขาเห็นมันไม่ใช่เลยสักนิด
ความรู้สึกหงุดหงิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความไม่พอใจและบางอย่างที่คล้ายกับความหึงหวงที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในใจของเมฆินทร์ผู้หญิงคนนี้คือ ผู้หญิงของเขา แม้เขาจะไม่ได้ไปหาเธอเลย แต่ในความคิดของเขาแล้วชนัญชิดาก็ไม่ควรมีท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นและออกมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้
เมฆินทร์ฝืนนั่งคุยกับลูกค้าอยู่นานกว่าคู่ค้าจะขอตัวกลับ
“ฉันฝากนายไปส่งคุณจางที่รถนะชัย” เขาบอกกับวีรชัยผู้ช่วยก่อนจะบอกลาคุณจางคู่ค้าจากประเทศจีนและบอกว่าตนเองมีธุระต้องไปจัดการต่อ
เมื่อคุณจางและผู้ช่วยออกไปจากที่นี่แล้วเมฆินทร์ก็เดินตรงไปยังกลุ่มของชนัญชิดาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่แฝงด้วยความไม่พอใจที่ยากจะปกปิด
“มะปราง” เสียงทุ้มต่ำของเมฆินทร์ดังขึ้นข้างหลังชนัญชิดา ทำให้เธอกับเพื่อนๆ ชะงัก
ชนัญชิดาหันกลับไปมองและเบิกตากว้างเมื่อเห็นเมฆินทร์ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“คุณเมฆินทร์” ชนัญชิดาพูดตะกุกตะกัก ความสนุกเมื่อครู่หายไปในพริบตา
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เมฆินทร์ถามเสียงเข้ม ดวงตาของเขากวาดมองเพื่อนๆ ของเธอ โดยเฉพาะคณาธิปและสิงขร
“หนูมาเที่ยวกับเพื่อนค่ะ”
“ออกไปคุยกันข้างนอกหรือจะให้ฉันคุยที่นี่”
“ข้างนอกก็ได้ค่ะ พวกแกฉันไปก่อนนะ” เธอพูดกับเมฆินทร์แล้วหันมาบอกเพื่อน
“คุณเมฆินทร์มาเที่ยวเหรอคะ”
“ฉันมาคุยงานแล้วเธอล่ะ”
“หนูก็มาเที่ยวกับเพื่อน”
“ผู้ชายพวกนั้นเพื่อนเธอเหรอ” เขาเน้นคำว่าผู้ชายพวกนี้อย่างจงใจ
“หนูมากับเพื่อนผู้หญิงแต่ผู้ชายหนูมาเจอพวกเขาที่นี่”
“แต่เหมือนจะสนิทกันนะ” เพราะเขานั่งมองอยู่นานจึงเห็นว่าเธอก็คุยกับผู้ชายพวกนั้น
“ก็เขาเป็นเพื่อนและเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยนี่ค่ะ”
“ฉันนึกว่าเธอจะเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ไม่คิดว่าจะมาเจอที่นี่”
“คุณเมฆินทร์คะ คุณไม่เคยมาหาหนูเลย แล้วจะให้หนูทำอะไรคะ นั่งอยู่แต่ในห้องเหรอคะ” ชนัญชิดารู้สึกน้อยใจและโกรธที่ถูกเขาตำหนิทั้งที่เขาก็ไม่เคยสนใจเธอเลย
“ดูเหมือนเธอจะขาดผู้ชายไม่ได้สินะ” เมฆินทร์หัวเราะ
คำพูดที่เย้ยหยันและเสียดแทงจิตใจของเขาทำให้ชนัญชิดาโกรธจัดจนตัวสั่นระริก เธออยากจะสวนกลับไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาคือผู้มีอำนาจเหนือเธอในทุกๆ ทาง เขาคือเจ้าหนี้และเธอคือลูกหนี้ที่ไร้ทางสู้
“ก็คงงั้น” เธอมองเมฆินทร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา
“เธอกำลังประชดฉัน”
“หนูจะทำอย่างนั้นไปทำ คุณมีอะไรจะคุยกับหนูอีกไปมั้ยคะ ถ้าไม่มีหนูขอตัวเข้าไปสนุกกับเพื่อนต่อ”
“แต่ฉันว่าเธอควรกลับได้แล้ว”
“กลับไปก็ต้องเหงาอยู่คนเดียว หนูไม่กลับดีกว่าค่ะ”
“ใครว่าจะให้เธออยู่คนเดียวล่ะ คืนนี้ฉันจะกลับคอนโดด้วยเธอจะได้ไม่บ่นว่าฉันไม่ไปหา”
เย็นวันเสาร์ชนัญชิดาเลือกชุดเดรสสีครีมอ่อนเพื่อใส่ไปทานข้าวกับเมฆินทร์เขาบอกเธอว่าจะขอไปจัดการธุระก่อนและให้เธอแต่งตัวรอเมื่อถึงเวลานัดชายหนุ่มก็ขึ้นมารับเธอบนห้อง เขามองแล้วยิ้มอย่างพอใจที่คนรักของเขาสวยเสมอไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหน“หนูสวยมาก”“ขอบคุณค่ะ พี่เมฆก็หล่อมากเหมือนกันค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะเดินไปควงแขนเขาออกมาจากห้องเมฆินทร์พาไปยังร้านอาหารฝรั่งเศสบนโรงแรมหรูใจกลางเมือง บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ เหมาะสำหรับการดินเนอร์ใต้แสงเทียนอย่างแท้จริง“อร่อยไหม”“อร่อยค่ะ” หญิงสาวทานอาหารอย่างมีความสุขค่ำนี้เมฆินทร์ดูแลเธออย่างดี เขาเล่าเรื่องการไปทำงานที่จีนให้เธอฟังและคิดว่าช่วงปิดเทอมจะพาเธอไปเที่ยวเพราะตอนนี้ชนัญิดาก็เริ่มเข้าใจภาษาจีนมากแล้วตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาไปไกลเกินกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้มาก จากที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเพียงนางบำเรอที่คอยปรนนิบัติเขาเธอกลับได้รับความรักจากเขาทั้งที่เขาเคยบอกว่าจะไม่รักใครอีก“พี่เมฆจะพาหนูไปไหนคะ” หญิงสาวถามเมื่อเส้นทางไม่ใช่ทางกลับคอนโดเหมือนทุกครั้ง“พี่จะพาหนูไปคอนโดพี่”“จริงเหรอคะ” ชนัญชิดาดีใจเพราะเขาไม่เคยพาเธอมาเลยสักครั้งและก่
ชนัญชิดาเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาฉ่ำปรือ เธอไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูดเท่าไหร่ แต่เมฆินทร์ไม่ต้องการให้เธอปรนเปรอเขาเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการให้พวกเขาทั้งคู่ได้แบ่งปันความสุขไปพร้อมๆ กันขณะที่หญิงสาวยังงงอยู่เขาก็ยกเธอขึ้นหมุนตัวกลับให้ใบหน้างามจ่ออยู่ตรงแก่นกาย หญิงสาวเข้าใจแล้วว่าเขาหมายถึงอะไร มือเล็กและปากอิ่มก็ทำหน้าที่อีกครั้งหญิงสาวครางอยู่ในลำคอเมื่อกลีบกุหลาบของตนเองถูกปากร้อนของชายหนุ่มก้มลงดูดกินอย่างกระหาย ทั้งปากและลิ้นทำงานได้ดีจนเธอสั่นสะท้าน เมฆินทร์ส่งนิ้วร้อนเข้าไปในโพรงถ้ำกดย้ำจุดอ่อนไหวเป็นจังหวะอย่างกระตุ้นอารมณ์พร้อมกับลิ้นร้อนที่ตวัดเลียเกสรสีสวยอย่างไม่มีพัก“อื้อ...”เสียงหวานครางเล็ดลอดออกมาขณะที่ปากเล็กก็ดูดกินแท่งร้อนเข้าไปจนลึก มือรูดรั้งลิ้นตวัดเลียวน หญิงสาวปรนเปรอเขาอย่างเต็มที่ ช่วงที่เมฆินทร์ไม่อยู่หญิงสาวเปิดคลิปวิดีโอดูอยู่หลายครั้ง เธอจดจำและนำมาใช้กับผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจความเสียวซ่านจากนิ้วยาวและปลายลิ้นร้อนที่เขามอบให้กระตุ้นให้ชนัญชิดาทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี“อื้อ......”ในที่สุดชนัญชิดาก็สุขสมไปอีกครั้ง ร่างเธอกระตุก ร่
เมฆินทร์อยู่ทำงานต่อที่จีนอีกสองวันจากนั้นเขาก็จะว่างวันเสาร์และอาทิตย์เพราะมีบริษัทคู่ค้าบริษัทหนึ่งเลื่อนไปเจอเขาวันจันทร์ชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรไปคุยกับบริษัทคู่ค้า และแจ้งว่าในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เขาจะให้วีรชัยผู้ช่วยของเขาเป็นคนไปเจรจาทุกอย่างแทน ส่วนตัวเขาจะอยู่ที่เมืองไทยและใช้การวิดีโอคอลเข้าร่วมประชุมแทน เนื่องจากเขามีธุระสำคัญที่ต้องมาจัดการที่เมืองไทย“นายจัดการเรื่องนี้ได้ใช่ไหมชัย”“ได้ครับ คุณเมฆินทร์ไม่ต้องเป็นห่วงผมจัดการได้สบายมาก ผมเลื่อนตั๋วเครื่องบินให้เรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนรายละเอียดส่งให้เข้าเมลแล้วนะครับ”“ขอบใจมากนะ ถ้านายทำงานเสร็จแล้วจะอยู่เที่ยวอีกสักหน่อยก็ได้ฉันไม่ว่าอะไรหรอก”“คงไม่ล่ะครับผมเองก็อยากกลับไปหาแฟนผมเหมือนกัน” เขาพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะเข้าใจว่าที่เมฆินทร์รีบกลับก็คงจะไปหาชนัญชิดาเมฆินทร์ไม่ตอบอะไร เพียงแต่ยิ้มมุมปาก เขารู้ว่าวีรชัยเข้าใจดีว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เขารีบร้อนกลับเมืองไทยคืออะไรชายหนุ่มเก็บข้าวของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋าเดินทางอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นและความคิดถึงหญิงสาวอย่างสุดหัวใจ การห่างกันแบบนี้มันไม
วางสายจากรัชนีกรแล้ววีรชัยก็เดินกลับมาหาเจ้านายที่บริเวณห้องรับแขกของห้องพักซึ่งตอนนี้เมฆินทร์กำลังนั่งดูเอกสารที่จะคุยกับลูกค้าในช่วงบ่ายอยู่“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมชัย” เขาเงยหน้ามาถาม“ครับ คุณนิดส่งให้แล้วทุกอย่างโอเค คุณเมฆินทร์ครับพอจะมีเวลาว่างคุยอะไรกับผมแป๊บหนึ่งได้ไหม” วีรชัยนั่งลงตรงข้ามและถามอย่างจริงจัง“ว่ามาสิ วันนี้สบายๆ นะไม่ได้ยุ่งอะไรมาก มีอะไรเหรอ”“คือเรื่องที่ผมจะถามคุณเมฆินทร์มันไม่ใช่เรื่องงานนะครับ ผมต้องขอโทษถ้ามันจะเป็นการยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณมากไปหน่อย”“ทำไมพูดจากำกวมแบบนั้นล่ะชัย มีอะไรก็พูดมาเราทำงานด้วยกันมานานฉันก็เห็นว่านายเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งนั่นแหละ”“คุณเมฆินทร์ครับ วันก่อนที่เราไปทานอาหารแล้วบังเอิญเจอคุณปลายฟ้า”เมื่อได้ยินชื่อปลายฟ้าเมฆินทร์ก็เงยหน้าขึ้นมองและไม่เข้าใจว่าวีรชัยกำลังจะพูดอะไรกันแน่“ใช่ นายมีอะไรหรือเปล่า”“แล้วคุณเมฆินทร์ได้ส่งรูปไปให้คุณมะปรางใช่ไหม”“ฉันส่งรูปบรรยากาศวันนั้นไปให้แล้วก็เผลอส่งรูปปลายฟ้าไปด้วยแต่ฉันก็ลบแล้วนะ”“แต่คุณเมฆินทร์ลบหลังจากที่เธออ่านแล้วใช่ไหม”“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ฉันว่าส่งไปแล้วก็รีบกดยกเลิกน
เมฆินทร์ยังโทรศัพท์มาหาชนัญชิดาอย่างเคยหญิงสาวไม่ได้ถามเขาถึงเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อปลายฟ้าเพราะเธอกลัวว่าการทะเลาะกันระหว่างที่อยู่ห่างแบบนี้จะทำให้ทั้งเธอและเขาเข้าใจผิดกันไปมากยิ่งขึ้น เธอจะรอให้เมฆินทร์กลับมาที่เมืองไทยแล้วถึงจะสอบถามเรื่องนี้กับเขาอีกครั้งหญิงสาวยังคงคุยกับเขาตามปกติบอกรักเขา บอกคิดถึงเขาเหมือนกับทุกครั้งที่เขาโทรมา“มะปรางมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าทำไมฉันรู้สึกว่าน้ำเสียงเธอดูไม่ดีเลย” เมฆินทร์ถามอย่างเป็นห่วง“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณเมฆ หนูก็คิดถึงคุณเมฆนั่นเลยค่ะ คุณเมฆไปตั้งสิบวันแล้วนะคะ”“ได้ยินแบบนี้ฉันอยากรีบบินกลับไปหาเธอตอนนี้เลยนะมะปราง”“คุณเมฆอย่าทำแบบนั้นนะคะ ถ้าคุณเมฆทำหนูต้องรู้สึกผิดมากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้คุณเมฆเสียงาน อีกแค่สี่วันเองนะคะแล้วเราก็จะเจอกัน” เธอปลอบใจตัวเองว่ามันเหลือเวลาอีกไม่นาน“ฉันไม่แน่ใจน่ะสิ ว่าจะได้กลับตามกำหนดหรือเปล่า” เขารู้สึกผิดที่อาจกลับไปหาเธอไม่ตรงตามเวลาที่บอกไว้“งานมีปัญหาเหรอคะคุณเมฆ”“งานไม่มีปัญหาหรอก แต่ลูกค้าเลื่อนนัดออกไปฉันอาจจะกลับช้ากว่าเดิมสักสองวันได้ไหม ฉันรู้ว่าเธอต้องคิดถึงฉันมาก ฉันก็ไม่ต่างจากเธอหรอกนะมะป
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ชนัญชิดายังคงใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยการไปฝึกงานอย่างตั้งใจ เมฆินทร์โทรหาเธอทุกวันตามที่สัญญาไว้ แต่บางครั้งเวลาที่คุยกันก็สั้นลง เนื่องจากเขาต้องจัดการเรื่องงานมากมายที่ประเทศจีนแม้เขาจะโทรหาเธอทุกวันแต่ชนัญชิดากลับรู้สึกคิดถึงเขามากขึ้นทุกทีความเหงาเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เธอต้องอยู่คนเดียวที่คอนโดวันนี้เป็นวันเสาร์ชนัญชิดาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เมื่อไม่มีเมฆินทร์อยู่ข้างๆ เหมือนที่เคยเป็นมาตลอดเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างเหม่อลอยไม่นานนัก ข้อความไลน์จากเมฆินทร์ก็เด้งขึ้นมาหญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีเมฆินทร์: วันนี้ฉันออกไปทานข้าวกับลูกค้าที่นี่นะหลังข้อความนั้นเมฆินทร์ก็ส่งรูปถ่ายมาให้เธอหลายรูป รูปถ่ายส่วนใหญ่เป็นรูปที่เขานั่งอยู่กับลูกค้าชาวจีนในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง รูปถัดมาเป็นรูปอาหารที่ดูน่าอร่อย และอีกรูปหนึ่งเป็นรูปที่เมฆินทร์กำลังยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากชนัญชิดาไล่ดูรูปทั้งหมดอย่างละเอียด เธอเซฟเก็บไว้ทุกรูป เพราะตั้งใจว่าจะเอาไว้ดูเวลาที่คิดถึงเขา เธอซูมดูรูปที่เมฆินทร์อยู่กับผู้หญิงคน