ปากก็พูดว่าเธอเป็นแค่นางบำเรอ แต่พอเธอส่งรูปใส่ขุดว่ายน้ำไปให้ก็รีบทิ้งงานบินกลับมาทันที เสียงหวานที่อ้อนทำให้คนเย็นชาทั้งรักทั้งหลง คนมากประสบการณ์อย่างเมฆินทร์ก็ยอมสยบให้กับนางบำเรอที่เร่าร้อนจนเขาหลงไหล
View Moreเช้าที่สดใสสำหรับใครบางคนแต่คงไม่ใช่กับชีวิตของชนัญชิดาหรือมะปราง นักศึกษาสาววัย 21 ปี แห่งคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียงดังขึ้นเป็นครั้งที่สามหลังจากเจ้าตัวกดปิดไปแล้วถึงสองครั้ง ชนัญชิดายกหมอนขึ้นมาปิดหน้าด้วยความขี้เกียจ เมื่อคืนเธออ่านหนังสือเตรียมสอบดึกไปหน่อย ทำให้ร่างกายยังต้องการการพักผ่อน แต่นอกจากเสียงนาฬิกาปลุกแล้วเสียงไลน์ก็ดังไม่หยุดเช่นกัน หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดอ่านข้อความเสียงที่เด้งมานับสิบข้อความ ชนัญชิดาเลือกกดเปิดแค่ข้อความสุดท้ายเพราะเดาว่าข้อความก่อนหน้านั้นก็คงไม่ต่างกัน
“ตื่นได้แล้วยัยมะปราง สายแล้วนะแก” เสียงข้อความจากไอลดาหรือลดาเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่ในหอพักฝั่งตรงข้ามดังขึ้น
“เฮ้อ....ทำไมวันหนึ่งมันถึงไม่มีสักสามสิบชั่วโมงนะ” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะยันตัวลุกขึ้นมานั่งหาวต่อด้วยความง่วง
ชนัญชิดาจิ้มปลายนิ้วลงบนรูปไมโครโฟนบนแอปพลิเคชันก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ฟังเหมือนคนอดนอนมานานหลายวัน
“เออๆ ฉันตื่นแล้วเดี๋ยวจะรีบตามไปแกไปก่อนเลยสั่งข้าวมันไก่พิเศษตับให้ฉันด้วยนะ” หญิงสาวบอกเพื่อนสนิทก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวเสร็จในเวลารวดเร็ว
โชคดีว่าเป็นคนหน้าสวยอยู่แล้วในแต่ละวันชนัญชิดาเลยไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากในแต่ละวันเอทาครีมกันแดดที่ซื้อเป็นซองจากร้านสะดวกซื้อและลิปกลอสและหวีผมแค่นั้นก็พร้อมไปเรียน
หญิงสาวอาศัยอยู่หอพักใกล้ๆ หาวิทยาลัย รอบข้างเต็มไปด้วยหอพักและคอนโดมิเนียมหรูของคนมีเงิน แต่สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย บิดาก็เป็นแค่พนักงานขายธรรมดาๆ ในบริษัทนำเข้าอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตรแห่งหนึ่งที่บ้านเกิดของเธอทางภาคอีสาน ส่วนมารดาจากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก
ชนัญชิดาต้องพึ่งพาตัวเองมาตลอด เธอดิ้นรนจนได้เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพและคิดว่าถ้าหาเรียนจบก็คงจะทำให้ชีวิตของตนเองและบิดาดีขึ้น
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยในชุดนักศึกษาชนัญชิดา ก็คว้ารองเท้าผ้าใบและกระเป๋าผ้าวิ่งลงมาจากห้องพักที่อยู่ชั้นสี่
หอพักที่เธอเช่าอยู่นั้น เป็นหอพักเก่าๆ ไม่ได้หรูหราอะไรนัก แต่ก็สะอาดและปลอดภัยพอสมควร เมื่อเดินมาถึงชั้นล่าง เธอก็เห็นไอลดาและมารีน่าหรือบีบียืนรออยู่ที่หน้าหอพักแล้ว
“ช้าตลอดเลยนะแก อะนี่ซื้อมาเผื่อคิดว่าคงจะไม่มีอะไรกิน” มารีน่าบ่นพลางยื่นแซนด์วิชให้
“เราไม่ไปกินข้าวมันไก่กันเหรอ”
“สายขนาดนี้แล้วยังจะห่วงกินอีกนะ มะปรางฉันว่าเรารีบไปเข้าห้องเรียนกันเถอะ”
“โทษทีนะ พอดีเมื่อคืนอ่านหนังสือดึกไปหน่อย"
“อ่านอีกแล้วเหรอ แกนี่ขยันจริง” มารีน่าพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมเพราะชนัญชิดาเป็นคนที่ขยันมากที่สุดในกลุ่มเพื่อน
“ฉันไม่ได้ขยันอะไรหรอก แค่กลัวเกรดไม่สวยแล้วจะหางานทำยาก”
“อย่าทำมาเป็นพูดดีเลย เกรดแกน่ะสวยกว่าใครเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงไม่หนีไปไหน คนที่ต้องห่วงคือฉันลดาต่างห่างล่ะ” มารีน่าส่ายศีรษะเมื่อนึกถึงเกรดของตัวเองที่ได้ไม่ถึงสาม
“แต่ที่บ้านแกมีธุรกิจนะ ส่วนฉันน่ะต้องหางานทำเอง”
“ไม่ยากเลยถ้าแกเรียนจบฉันจะให้พ่อรับแกเข้าทำงานด้วยดีไหมล่ะ” ไอลดาเสนอเพราะที่บ้านของเธอทำธุรกิจส่งออกสินค้าและมักมีพนักงานลาออกและรับเข้ามาใหม่อยู่ตลอด
“ไม่ล่ะ” ชนัญชิดารีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ทำล่ะมะปรางหรือแกไม่อยากทำงานกับฉัน” หญิงสาวทำหน้าผิดหวัง
“แกก็น่าจะรู้ดีกว่าใครนะลดาว่าทำไมมะปรางถึงไม่อยากไปทำงานกับแก” มารีน่าพูดแล้วหัวเราะ
“แกก็มองพี่ชายฉันเหมือนอากาศสิไม่ต้องสนใจเขาหรอก”
“ก็พยายามอยู่ แต่พี่ชายแกก็ตื๊อเก่งมาก”
“แล้วแกไม่ใจอ่อนบ้างเหรอมะปราง พี่ชายฉันทั้งหล่อทั้งรวยนะ”
“แกลืมคุณสมบัติอีกข้อของพี่ภัทรนะ” ชนัญชิดาหมายถึงธีรภัทรพี่ชายของไอลดาที่เข้ามาจีบเธอทุกครั้งที่เจอและเป็นแบบนี้ตั้งแต่เธอเข้าเรียนปีหนึ่ง
“อะไรเหรอมะปราง”
“ก็พี่ชายแกเจ้าชู้ไงล่ะ”
“ฉันว่าข้อนี้น่าจะมาข้อแรกนะ” มารีน่าพูดเสริมเพราะเธอเองก็รู้จักพี่ชายของเพื่อนดี ธีรภัทรนั้นจีบผู้หญิงเกือบทุกคณะและชนัญชิดายังเกือบจะโดนผู้หญิงของเขาตบเพราะความเข้าใจผิด
“เขาไม่เรียกเจ้าชู้นะ เขาเรียกว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ก็เลยหาไปเรื่อยๆ” ไอลดาเข้าข้างพี่ชาย
“พี่น้องคู่นี้เขารักกันดีนะแกว่าไหมบีบี”
“ฉันก็ว่างั้นแหละมะปราง” มารีน่าเห็นด้วยกับความคิดของชนัญชิดา
“มะปรางฉันถามแกหน่อยสิ ว่าแกชอบผู้ชายแบบไหน อย่าตอบนะว่าไม่ใช่แบบพี่ชายฉันเพราะนั่นฉันรู้อยู่แล้ว” ไอลดาอยากจะรู้สเปกผู้ชายที่เพื่อนชอบเพราะที่ผ่านมามีผู้ชายเข้ามาจีบชนัญชิดาหลายคนแต่เธอก็ไม่เคยคบใครเลย
“ฉันชอบคนที่โตกว่าหลายๆ ปีน่ะ”
“นี่แกชอบคนแก่เหรอ ทำไมล่ะ”
“ก็คนอายุเยอะเขาจะอบอุ่นไงล่ะ ฉันชอบผู้ชายอบอุ่น ดูขรึมนิดๆ ไม่พูดมากเน้นที่การกระทำ”
“ที่ว่าอายุมากน่ะแค่ไหนเหรอ”
“ถ้าถามตอนนี้ก็ขอสักสามสิบอัพ”
“นั้นมันรุ่นอาเลยนะ”
“อือ ก็แบบนั้นแหละที่ฉันชอบ”
“แล้วจะไปเจอคนแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะมะปราง ที่นี่ก็มีแต่นักศึกษา”
“ก็ไปเจอข้างนอกไงล่ะ พอเรียนจบแล้วทำงาน ถึงตอนนั้นก็คงเจอเองแหละบีบี”
ทั้งสามสาวเดินคุยกันไปตามทางเท้าที่เต็มไปด้วยนักศึกษาคนอื่นๆ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย วันนี้พวกเธอมีเรียนวิชาการบัญชีขั้นสูง ซึ่งเป็นวิชาที่ค่อนข้างยากและต้องใช้สมาธิอย่างมาก พวกเธอเดินมาถึงห้องเรียนที่อยู่บริเวณชั้นสอง ยังนั่งพักไม่ทันหายเหนื่อยอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามาสอน
รถเอสยูวีสีดำแล่นไปตามถนนมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ความเงียบเข้าปกคลุมภายในรถอีกครั้งชนัญชิดาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ทอดสายตาไปยังความมืดมิดของสองข้างทาง ภาพสายตาของคนในร้านขายของชำยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเธอพยายามจะลืมแต่มันก็ยากมากเมฆินทร์เหลือบมองหญิงสาวข้างกายเป็นพักๆ เขาสังเกตเห็นแววตาที่หม่นหมองและไหล่ที่ลู่ลงเหมือนคนสิ้นหวัง ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจที่เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะบิดาของเธอ“แวะกินข้าวกันก่อน เธอคงยังไม่ได้กินอะไร”“แต่หนูไม่หิวค่ะ”“แต่ฉันหิวนี่ ถ้าไม่กินคงขับรถไม่ถึงกรุงเทพแน่ๆ”“ก็ได้ค่ะ”ชนัญชิดาไม่ได้รู้สึกหิวเลยแม้แต่น้อย แต่พอเขาบอกว่าหิวเธอก็ยอมทำตาม หญิงสาวเดินลงจากรถตามเมฆินทร์เข้าไปในร้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายเมฆินทร์สั่งอาหารให้เธอหลายอย่าง สปาเก็ตตี้ สเต๊กปลา สเต๊กเนื้อและสลัดผักเมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เมฆินทร์ก็คะยั้นคะยอให้เธอกิน“กินเยอะๆ จะได้มีแรง”ชนัญชิดาหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารเข้าปากช้าๆ รสชาติอาหารไม่ได้ถูกปากเธอเท่าไหร่ หรืออาจจะเป็นเพราะเรื่องที่เพิ่งเจอมาทำให้ทุกอย่างดูจืดชืดไปหมด“ทำไมกินน้อยจังไม่อร่อยเหรอ”“เปล่าค่ะ หนูไม่ค่อยหิว”“กินอีกนิดนะ ก
ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของวันชนัญชิดาใช้เวลาอยู่กับบิดา เธอเล่าเรื่องการเรียนให้ท่านฟัง โดยพยายามเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องของเมฆินทร์และชีวิตที่คอนโด ชนินทร์เองก็ดูเหมือนจะพยายามทำตัวเป็นพ่อ เขาชวนเธอคุยเรื่องต่างๆ พยายามสร้างบรรยากาศให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ชนัญชิดาก็ยังคงอดเป็นห่วงบิดาไม่ได้ เธอสังเกตเห็นแววตาที่ยังคงมีความกังวลแฝงอยู่ และมือของท่านที่บางครั้งก็เผลอไปลูบไล้กระเป๋าเงินโดยไม่รู้ตัว มันทำให้เธอรู้ว่าบางทีบิดาของเธออาจจะยังไม่ได้เลิกเล่นพนันอย่างเด็ดขาดในช่วงค่ำหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ชนัญชิดาก็ตัดสินใจที่จะคุยเรื่องนี้กับบิดาอย่างจริงจัง“พ่อคะ พ่อเลิกเล่นพนันแล้วใช่ไหมคะ”“พ่อ...พ่อก็พยายามอยู่นะลูก” ชนินทร์ตอบด้วยสีหน้าเครียด“พยายามหมายความว่ายังไงคะ พ่อยังไปเล่นอยู่ใช่ไหม” ชนัญชิดาตกใจกับคำตอบที่ได้รับจากบิดา“นิดๆ หน่อยๆ เองลูก ไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”ชนินทร์หลบสายตาของลูกสาว“พ่อคะ หนูไม่อยากให้พ่อต้องไปพัวพันกับเรื่องแบบนี้อีกแล้วนะคะ ครั้งนี้พ่อเอาหนูไปขายให้เจ้านายของพ่อแล้วครั้งต่อไปพ่อจะเอาอะไรไปขายอีกล่ะคะ” เธอพยายามพูดด้วยน้ำเสี
“ตกลงค่ะ หนูจะรีบไปรีบกลับนะคะ” หญิงสาวดีใจที่เขาอนุญาตแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่เธอก็ดีใจมาก“แล้วนั่นจะรีบไปไหน” เขาถามเมื่อหญิงสาวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่าทางเศร้าเมื่อครู่มันหายไปแล้ว ชนัญชิดายิ้มอย่างสดใสจนเขาเผลอยิ้มตาม“ก็จะรีบกลับบ้านสิคะ”“รีบขนาดนั้นเลยเหรอ”“ค่ะ”“แล้วจะกลับยังไง”“รถตู้ค่ะ ออกทุกชั่วโมง หนูขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวรับเข้าไปในห้องก่อนจะถือเป้ขนาดย่อมกับกระเป๋าสะพายใบเล็กออกมาจากห้องนอน“เก็บของไวจังหรือว่าเก็บรอไว้แล้ว”“ค่ะ หนูเก็บไว้แล้ว”“ถ้าฉันไม่ให้เธอไปล่ะ”ชนัญชิดาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจหรือโกรธเคือง เธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างน่ารัก“หนูรู้ว่าถึงคุณเมฆจะหน้าดุเหมือนยักษ์แต่คุณก็มีความใจดีซ่อนอยู่จริงไหมคะ” เธอพูดพลางเอียงคอเล็กน้อยอย่างออดอ้อน“เธอกำลังว่าฉันเป็นยักษ์” เมฆินทร์ถามด้วยน้ำเสียงกึ่งขำกึ่งดุ“หนูขอโทษค่ะ หนูก็แค่เปรียบเทียบ คุณเมฆตัวโตแล้วก็ชอบทำหน้าดุ”“ฉันว่าเธอชักจะลามปามแล้วนะมะปราง แล้วนี่จะไปขึ้นรถตู้ยังไง” เมฆินทร์แกล้งทำเสียงเข้ม แต่ในใจกลับรู้สึกเอ็นดูความกล้าของเธอ“นั่งรถเมล์ไปค่
ในขณะที่ชนัญชิดากำลังนั่งคิดถึงแผนการที่จะเดินทางกลับบ้าน เสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบลุกไปดูแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเมฆินทร์กำลังเดินเข้ามาในห้อง“คุณเมฆินทร์....” หัวใจของเธอเต้นแรงกับการเผชิญหน้าเขาหลังจากเขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า“ฉันบอกให้เรียกว่าอะไร” เขาพูดเสียงเรียบแล้วเดินไปนั่งบนโซฟากลางห้องรับแขก“คุณเมฆคะ คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”“ฉันไม่มาก็บ่นน้อยใจพอฉันมาก็ยังจะถามตกลงเธอจะเอายังไงกันแน่มะปราง” เขาทำเป็นหงุดหงิดแต่ที่มาเพราะรู้สึกว่าอยากจะคุยกับเธอหลังจากที่เมื่อคืนคุยกับเธอไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่“หนูก็แค่แปลกใจ” เธอก้มหน้าซ่อนความดีใจเอาไว้“คุยกับฉันก็มองหน้าฉันสิมะปราง เงยหน้าขึ้น”เขาออกคำสั่งเสียงเข้มแต่พอชนัญชิดาเงยหน้าขึ้นมาเขาก็ตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นสังเกตเห็นความบวมช้ำใต้ดวงตาของเธอ เดาได้ไม่ยากว่าเธอคงเสียงใจกับเรื่องเมื่อคืน แต่คนอย่างเขาไม่เคยปลอบใจใคร ในเมื่อเขามีสิทธิ์ในตัวเธออย่างเต็มที่แต่ในใจก็แอบสงสารเธออยู่“แค่นอนกับฉันก็ร้องไห้หนักเลยนะ เด็กชะมัด” เขาสงสารอยากจะปลอบและขอโทษ แต่คำพูดกลับตรงกันความกับความรู้สึก“แล้วจะให
ชนัญชิดาครางหวานร่างกายกระตุกสุขสมอย่างรุนแรงอีกครั้งร่องรักรัดลึงอย่างแรง เมฆินทร์เร่งจังหวะหนักหน่วงติดกันไม่ยั้งก่อนจะทุกอย่างจะระเบิดออก“มะปราง...อ้า......”เขาครางลั่นห้องท่อนเอ็นพ่นน้ำรักออกมาจนหญิงสาวรู้สึกอุ่นในร่องรักที่ยังคงตอดรัดสิ่งแปลกปลอมอย่างรุนแรง ชายหนุ่มกดย้ำขยับเข้าออกจนในที่สุดก็ปลดปล่อยออกมาจนหมด“อ่าห์...เธอเด็ดมากฉันชักติดใจแล้วสิ” เขากระซิบขณะที่ท่อนเอ็นยังแช่อยู่ในร่องรัก“คุณเมฆ....หนูว่า.....”“ว่าอะไร....” น้ำเสียงฟังดูอ่อนขึ้นเมื่อรู้ว่าตนเองได้เป็นคนแรกของเธอ“คือ.....”“ฉันรู้ว่าเธอมีความสุขและอยากจะให้ฉันเอาต่อ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันนะ เธอต้องชดเชยให้ฉัน หนึ่งเดือนที่ฉันอดทนไม่มาหาเธอ”“แต่หนูก็ไม่ได้ห้าม คุณไม่มาหาหนูเอง” หญิงสาวรู้สึกน้อยใจที่เขาไม่เคยสนใจเธอเลยสักนิด แม่ได้เป็นอะไรกันแต่เขาพูดเองว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขาแต่กลับไม่เคยติดต่อมาเลย“เพราะฉันอยากให้เธอสอบเสร็จก่อนยังไงล่ะ นี่อย่าบอกว่ากำลังน้อยใจ”“เปล่าค่ะ”“ก็ดีแล้วเพราะเธอก็แค่นางบำเรอ เธอไม่มีสิทธิ์คิดอะไรแบบนั้น”“หนูรู้ค่ะ”“งั้นก็ดีแล้วจากนี้ ฉันจะให้เธอทำหน้าที่ของเธอเริ่มจากคื
มือใหญ่บีบเคล้นอย่างหลงใหลในความอวบอิ่มและนุ่มแน่น เมื่อได้ยินเสียงหวานดังขึ้นมือที่ฟอนเฟ้นอกอวบก็เลื่อนลงต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบและดึงชั้นในตัวบางออกให้พ้นทาง“อ๊ะ!....”ชนัญชิดาครางสะดุ้งเมื่อนิ้วร้ายกำลังลากไล้ไปมาบนกลีบกุหลาบก่อนจะคลี่ให้แยกออกจากกันปลายนิ้วสะกิดบนยอดเกสรที่ไวต่อความรู้สึก จนร่างหญิงสาวสั่นสะท้าน ชนัญชิดาบิดตัวเกร็งเสียงร้องครางยังคงดังขึ้นเรื่อยๆเมฆินทร์ส่งปลายนิ้วที่ลูบไล้บนกลีบเกสรกุหลาบ ก่อนจะกดเข้าไปโพรงอุ่นร้อนอย่างช้าๆ“อ๊ะ!....”“อื้ม...แค่นิ้วก็ตอดแรงแล้วนะ”เสียงครางแหบพร่าเพราะความคับแน่นที่รัดนิ้วอยู่บนปลายนิ้ว ตอนนี้เมฆินทร์อยากจะเปลี่ยนจากนิ้วเป็นท่อนเอ็นของเขาแต่เมื่อคิดว่าเขามีเวลาสนุกกับเธออีกนานก็เลยอยากจะไปอย่างช้าๆเขาอยากให้ครั้งแรกของเธอกับเขาไปได้ด้วยดีเพราะนั่นหมายถึงครั้งต่อไปมันก็จะดีตามมาด้วยปากร้อนของเมฆินทร์ยังคงวนเวียนดูดดุนเม็ดเชอร์รี่เข้าปากอย่างไม่ยอมหยุด ปลายนิ้วร้ายควานลึกอยู่ในร่องรัก ชนัญชิดารู้สึกเหมือนใจจะขาด มือกดศีรษะเขาให้แนบชิดอกอิ่ม ส่วนปากก็ครวญครางอย่างน่าอาย“อ่ะ...อื้อ...คุณเมฆ....”ความเสียวซ่านพุ่งขึ้นสูงเกินกว
Comments