Home / วาย / เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse) / บทที่ 5 เจ้านายกับน้ำตาของหม่าม๊า

Share

บทที่ 5 เจ้านายกับน้ำตาของหม่าม๊า

last update Last Updated: 2025-11-15 09:41:42

บทที่

5

เจ้านายกับน้ำตาของหม่าม๊า

หลังจากที่กลับเข้ามาในบ้านได้ ไอดินก็รีบปิดประตูลงทันใด ก่อนจะวางเจ้านายลงบนโซฟาตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกล แล้วพูดออกมาว่า “เจ้านายนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวหม่าม๊ามา”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงเหลียวหน้าหันไปมองบานประตูที่ถูกปิดเอาไว้ ก็ทำให้เขารู้เหตุผลของอีกฝ่ายว่ากำลังคิดจะทำอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดที่จะถามออกไปอยู่ดี

เขาจึงพยักหน้าลงอย่างเข้าใจ แล้วพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “ฮับ…นายนายจะยอดินดินตงนี้นะฮับ (ครับนายนายจะรอดินดินตรงนี้นะฮับ)” พร้อมกับใช้ฝ่ามือตบลงไปบนโซฟา เพื่อบอกว่าตัวเองจะนั่งรออยู่ตรงนี้ไม่เดินไปไหน

สิ้นเสียงดังกล่าวไอดินก็พยักหน้าลงเล็กน้อย แล้วลูบศีรษะของเด็กน้อยตรงหน้า ก่อนเจ้าตัวจะรีบสาวเท้าไปยังบานหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีทึบบดบังเอาไว้

พอไปถึงเขาก็ไม่รอช้ายกฝ่ามือขึ้นเลิกผ้าม่านผืนหนาออกเล็กน้อย แล้วได้แต่แอบมองดูเจ้าขุนที่กำลังยืนมองบานประตูที่ปิดแน่นด้วยใจหวั่น เพราะเขาเกรงว่าคนคนนี้จะไม่ยอมเลิกราไปง่ายๆ เพียงเท่านี้อย่างที่ใจหวัง

แต่ชั่วอึดใจเดียวไอดินก็เห็นว่าเจ้าขุนยอมหมุนกาย แล้วสาวเท้าไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะยอมขับรถออกไปแต่โดยดี

พอได้เห็นเช่นนั้นไอดินก็พ่นลมหายใจยาวๆ ออกมาหนึ่งที ก่อนเจ้าตัวจะหมุนกายแล้วเอาแผ่นหลังพิงกับผนังข้างๆ บานหน้าต่างอย่างอ่อนกำลังเต็มที่

ร่างทั้งร่างทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้นเบื้องล่างอย่างไร้กำลัง พร้อมกับพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและตีบตันว่า “อะไรกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้” เขาอดไม่ได้ที่จะยกหัวเข่าทั้งสองขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างไปรวบกอดหัวเข่าตัวเองเอาไว้

ไอดินซุกใบหน้าลงไปบนหัวเข่าอย่างหมดหนทางที่จะไป พร้อมกับพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “แล้วทีนี้เราจะทำยังไงดี” ว่าได้เพียงแค่นั้นกระบอกตาก็ร้อนผ่าว จนไม่อาจควบคุมหยาดน้ำใสที่เอ่อออกมาอย่างช้าๆ ได้อย่างใจ จนมันไหลอาบผิวแก้มใสลงมา

เพราะในตอนนี้เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะต้องทำเช่นไรต่อไป ที่จะสามารถหลบเลี่ยงคนเหล่านี้ที่พยายามคุกคามครอบครัวของเขาอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเห็นว่าผู้เป็นมารดากำลังร้องนั่งร้องไห้อยู่เพียงลำพัง เจ้านายก็ไม่รอช้ารีบหาทางลงจากโซฟาตัวใหญ่ พอลงมาได้เขาก็สาวเท้าเข้าไปหาไอดินที่นั่งร้องไห้อย่างหมดเรี่ยวแรง

ยามที่เดินไปถึงเจ้านายก็ยื่นฝ่ามือเล็กๆ ป้อมๆ ของตัวเอง ไปจับท่อนแขนของคนตรงหน้า แล้วพูดออกไปว่า “ดินดินเป็นอาไย จำไมดินดินย้องไห้ (ดินดินเป็นอะไร ทำไมดินดินร้องไห้)” ก่อนเจ้าตัวจะพยายามเอียงคอมองไปหน้าที่ซุกลงไปบนหัวเข่าด้วยท่าทางไม่เข้าใจ

จึงทำให้ไอดินที่เห็นท่าทางของเด็กน้อยตรงหน้า รีบใช้ฝ่ามือของตัวเองเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าให้หมดไป แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าเขาจะพยายามเช็ดมันอย่างไร ก็ไม่สามารถเช็ดออกไปให้หมดได้สักที

ส่งผลให้เจ้านายที่เห็นแบบนั้นอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “ดินดินย้องไห้ ดินดินเจ็บตงไหนหยอฮับ (ดินดินร้องไห้ ดินดินเจ็บตรงไหนเหรอครับ)” ก่อนเจ้าตัวจะยื่นปลายนิ้วโป้งป้อมๆ ของตัวเองไปปาดหยาดน้ำตาบนใบหน้าของไอดินเบาๆ อยู่หลายต่อหลายครั้ง

แล้วพูดออกไปอีกว่า “ใคยังแกดินดิน บอกนายนายได้นะ นายนายจะตีตีให้ นายนายจะปกป้องดินดินนะ ดินดินไม่ย้องนะ (ใครรังแกดินดินบอกนายนายได้นะ นายนายจะตีตีให้ นายนายจะปกป้องดินดินนะ ดินดินไม่ร้องนะ)”

ได้ยินเช่นนั้นไอดินจึงเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น แล้วได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ‘แกจะร้องไห้ให้มันได้อะไรขึ้นมาวะ อย่าลืมสิว่าแกยังมีคนอีกคนที่ต้องดูแล’

คิดมาถึงตรงนี้ไอดินจึงรีบเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าอย่างสุดกำลัง แล้วพยายามกลั้นความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนนี้เอาไว้

ก่อนเจ้าตัวจะเหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของเด็กน้อยที่กำลังยืนทำหน้านิ่ว เพราะเห็นตัวเองนั่งร้องไห้อยู่ข้างกาย

จากนั้นจึงส่ายศีรษะไปมา พร้อมกับพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “หม่าม๊าไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่ขี้ฝุ่นมันเข้าตาเฉยๆ ครับ” ก่อนจะพยายามใช้มือเช็ดใบหน้าอย่างสุดกำลัง

และทันทีที่ตัวเองใช้มือปาดน้ำตาจนรู้สึกว่าใบหน้าแห้งพอสมควรแล้ว เขาจึงพูดออกไปอีกทีด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ไงเห็นไหมหม่าม๊าน้ำตาไม่ไหลแล้ว”

พอได้เห็นเช่นนั้นเจ้านายที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาอยู่ในใจว่า ‘ทำไมต้องเก็บความรู้สึกขนาดนี้ด้วยล่ะครับ…แม่’ แต่ก็ไม่ได้พูดความในใจนี้ออกไปให้ไอดินได้ยินอยู่ดี

เขาจึงใช้ฝ่ามือของตัวเองไปจับผิวแก้มใสของอีกฝ่าย แล้วพูดออกไปด้วยท่าทางดีใจว่า “ดินดิน หายเจ็บแย้วหยอ (ดินดินหายเจ็บแล้วเหรอ)”

ไอดินจึงพยักหน้าลง แล้วตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ หม่าม๊าไม่เจ็บแล้วครับ” ว่าเพียงแค่นั้นเขาก็พยายามทำท่าลุกขึ้นมา แต่ก็ลุกไม่ขึ้นสักที ก่อนจะยื่นมือเขาไปให้เด็กน้อยข้างกาย แล้วพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้านายช่วยหม่าม๊าหน่อย หม่าม๊าลุกไม่ไหว”

พอได้เห็นท่าทางของผู้เป็นมารดาที่ทำเช่นนี้ เจ้านายก็พยักหน้าลงแล้วพูดออกไปว่า “ฮับ” ก่อนจะยื่นมืออ้วนๆ ป้อมๆ ของตัวเองไปจับฝ่ามือเรียวของอีกฝ่าย แล้วออกแรงดึงอย่างสุดกำลัง

ไอดินจึงทำท่าลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก แล้วพอลุกขึ้นมาได้ เขาก็หันไปเอ่ยกับเด็กน้อยตรงหน้า “ขอบใจนะครับ ถ้าไม่ได้เจ้านายหม่าม๊าลุกไม่ขึ้นแน่ๆ เลย”

ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ไอ้ดินทำลงไปนั้นคืออะไร แต่เจ้านายก็ฉีกยิ้มกว้าง แล้วพูดออกไปว่า “นายนายแข็งแยง นายนายช่วยดินดินไหว” แล้วทำท่าเบ่งกล้ามให้อีกฝ่ายได้เห็นอีกที

ไอดินที่ได้เห็นท่าทางของเด็กน้อยตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำออกมา แล้วถามออกไปว่า “เองั้นคนแข็งแรงอยากกินข้าวกับอะไรครับ เดี๋ยวหม่าม๊าทำให้กิน”

เจ้านายที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย จึงทำท่านึกอยู่พักใหญ่ แล้วพูดออกไปว่า “นายนายอยากจินข้าวปัด ดินดินทำให้นายนายจินนะ (นายนายอยากกินข้าวผัด ดินดินทำให้นายนายกินนะ)” 

ส่งผลให้ไอดินพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป ก่อนจะพาเด็กน้อยข้างกายไปนั่งตรงโซฟาที่อยู่ไม่ไกล แล้วพูดออกไปว่า “งั้นเจ้านายมานั่งรอตรงนี้ก่อน หม่าม๊าไปทำกับข้าวให้นะครับ”

เจ้านายจึงส่ายศีรษะไปมา แล้วพูดออกไปว่า “ไม่เอา...นายนายไม่อยากนั่งยอตงนี้” ก่อนเจ้าตัวจะพยายามปีนลงจากโซฟาอีกครั้ง โดยมีไอดินคอยประคองอยู่ไม่ห่าง

จากนั้นจึงสาวเท้าเดินไปที่โต๊ะไม้ที่ตั้งอยู่ข้างๆ ประตูบ้าน แล้วพยายามเขย่งเพื่อหมายจะหยิบถุงของสดที่เพิ่งซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าลงมาอีกที 

เมื่อเห็นเช่นนั้นไอดินจึงใช้มือช่วยดันถุงผักถุงเล็กๆ ถุงหนึ่งให้เข้าใกล้มือของเด็กน้อยตรงหน้า จึงทำให้เจ้านายสามารถคว้าถุงผักถุงนั้นมาได้อย่างที่ใจต้องการ 

ก่อนเจ้าตัวจะหันหน้าไปมองใบหน้าของผู้เป็นมารดาที่กำลังเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นหนึ่งข้าง แล้วกำลังจ้องมองมาว่าเขากำลังจะทำเช่นไร

เจ้านายจึงไม่รอช้ายื่นถุงผักที่ถืออยู่ไปให้อีกฝ่าย แล้วพูดออกไปว่า “นายนายไม่นั่นยอ นายนายจะช่วย ดินดินทำจับจ้าว”

ได้ยินเช่นนั้นเรียวคิ้วเข้มบนใบหน้าน่ารักของไอดินก็กระตุกถึงสองที แล้วถามย้ำกับไปอีกทีว่า “เจ้านายจะช่วยหม่าม๊าทำกับข้าวเหรอครับ” เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป

สิ้นเสียงดังกล่าวเจ้านายจึงพยักหน้าลง แล้วพูดออกไป “ใจ้แย้วฮับ” ก่อนจะเอาฝ่ามือตีลงไปบนแผงอกของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ “นายนายตำจับจ้าวเจ่ง...มาก ดินดินให้นายนายตำนะ (นายนายทำกับข้าวเก่งมากดินดินให้นายนายทำนะ)”

ส่งผลให้คนฟังอย่างไอดินถึงกับคิ้วกระตุกไปอีกสองที แล้วยอบกายลงเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายของเขาเสมอกับเด็กน้อยตรงหน้า พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะเล็กๆ พร้อมกับพูดออกมาว่า “เจ้านายทำกับข้าวเป็นจริงๆ เหรอลูก”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป เพราะเมื่อก่อนก่อนที่เขาจะได้มาเกิดใหม่ ก็เป็นคนที่หัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน จะกินแต่ละมื้อก็ไม่อยากควักเงินออกมามากมาย เขาเลยเลือกที่จะซื้ออาหารสดมาแช่เอาไว้ แล้วทำกับข้าวกินเองให้พ้นไปแต่ละวัน

แม้กับข้าวในแต่ละมื้อจะไม่ค่อยอร่อย ไหม้บ้างดำบ้างตามประสา แต่เขาก็กินมันอย่างภาคภูมิใจ

เจ้านายจึงพูดออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “นายนายตำเป็นจี้ หมัยก่อนนายนายอยู่จนเดียว นายนายก็ทำจับกับจ้าวจินเอง (นายนายทำเป็นสิ สมัยก่อนนายนายอยู่คนเดียว นายนายก็ทำกับข้าวกินเอง)” 

จึงทำให้คนได้ยินอย่างไอดินอดไม่ได้ที่จะเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นหนึ่งข้างอย่างไม่เข้าใจ แล้วพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “สมัยก่อนนี้ มันสมัยไหนกันเหรอครับ...”

ทว่าพูดออกมาได้เพียงเดี๋ยวเดียวเขาก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อคิดไปเองว่าสมัยก่อนที่เจ้านายพูดถึงคือสมัยที่เจ้านายเริ่มหัดเดินใหม่ๆ แล้วคิดว่าเจ้านายอาจจะหิวข้าวจนแอบมาหากับข้าวกินเองตอนที่เขาเผลอหลับไป

คิดมาถึงตรงนี้เขาจึงพูดละล่ำละลักออกไปว่า “นี่เจ้านายอย่าบอกนะ ว่าผมแอบหาของกินเองตอนที่หม่าม๊าเผลอหลับไปน่ะ” แล้วพยายามสำรวจดูร่างกายของลูกน้อยตรงหน้าอย่างจ้าละหวั่น เพราะเขาคิดไปแล้วว่าสมัยก่อนที่เด็กน้อยคนนี้พูดถึงนั้น

เป็นสมัยที่เจ้านายเพิ่งจะหัดเดินใหม่ๆ จริงๆ เพราะในตอนนั้นตอนที่เขาต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกทั้งยังต้องเลี้ยงลูกลูกน้อยวัยแบเบาะอีกเพียงลำพัง จนร่างกายอ่อนล้าเผลอวูบหลับไปอยู่บ่อยครั้ง

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงรีบส่ายศีรษะไปมาอยู่หลายที แล้วพูดออกไปอย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่ใจ้ฮับ นายนายไม่ด้านหมายถึง...แบบ...นั้น (ไม่ใช่ครับ นายนายไม่ได้หมายถึงแบบนั้น)” 

“ไม่ได้หมายถึงแบบที่หม่าม๊าพูด แล้วเจ้านายหมายถึงแบบไหนล่ะครับ ตัวแค่นี้สมัยก่อนของผมก็ยังนอนแบเบาะอยู่เลยผมไม่ใช่เหรอ จะไปทำกับข้าวตอนไหน”

หลังจากที่ไอดินพูดออกมา เจ้านายก็ถึงกับขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อยอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่ใหญ่ เพราะสิ่งที่ตัวเองเผลอพูดออกไปกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่หาทางลงไม่เจอ

เขาคิดอยู่หลายตลบท่ามกลางสายตาของผู้เป็นมารดาที่จ้องมองมาอย่างไม่เข้าใจ เจ้านายจึงเผยรอยยิ้มเผล่ พร้อมกับพูดออกไปว่า “ในความปันฮับ (ในความฝันครับ)”

ได้ยินเช่นนั้นไอดินก็ทอดถอนลมหายใจออกมาหนึ่งทีอย่างโล่งอกโล่งใจ ที่เขาไม่ได้พลั้งเผลอให้เด็กน้อยหิวมากเกินไป จนต้องแอบเข้ามาหาอะไรกินเองคนเดียว

คิดมาถึงตรงนี้เจ้านายก็อดไม่ได้ จะลอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ หนึ่งที ที่ผู้เป็นมารดาได้ยินคำตอบของเขาแล้วเชื่ออย่างสนิทใจ 

ไอดินจึงยกฝ่ามือลูกศีรษะเล็กๆ ของเด็กน้อยตรงหน้า แล้วพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “เอาเป็นว่าหม่าม๊าไม่กวนเจ้านายดีกว่า...”

แต่คำพูดของเขาก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยดวงตากลมใส ที่มีประกายความคาดหวังจ้องมองมา จึงทำให้ไอดินเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่นอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่ใหญ่

จากนั้นไม่นานเขาก็พ่นลมหายใจออกมาบางๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “เจ้านายอยากทำกับข้าวช่วยหม่าม๊าจริงๆ เหรอครับ”

สิ้นเสียงดังกล่าวเจ้านายจึงพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป แล้วพูดออกไปอย่างภาคภูมิใจว่า “นายนายยักจ้วย ให้นายนายจ้วย...ดินดินนะ (นายนายอยากช่วย ให้นายนายช่วยดินดินนะ)”

ได้ยินเช่นนั้นไอดินก็ทำท่านึกอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไปให้ แล้วพูดออกมาว่า “ได้ เดี๋ยวเจ้านายมาช่วยหม่าม๊าล้างผักก็แล้วกัน โอเคไหมครับ”

หลังจากที่ไอดินพูดจบประโยคลง คิ้วบางๆ บนใบหน้าของเจ้านายก็พลันกระตุกเล็กน้อย แล้วอดไม่ได้ที่จะพึมพำอยู่ในใจว่า ‘จะให้พ่อครัวหัวป่าอย่างเรามาแค่ล้างผักเองงั้นเหรอ’

ทว่าคิดออกมาได้เพียงแค่นั้น เจ้านายก็นึกขึ้นได้ว่าในตอนนี้ตัวของเขานั้นยังเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ศีรษะยังสูงไม่พ้นโต๊ะตัวหนึ่งด้วยซ้ำไป

แม้จะไม่ชอบใจที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรอย่างที่ต้องการ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อยากให้ผู้เป็นมารดาหนักอกหนักใจ

เขาจึงพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไปให้ พร้อมกับพูดออกไปว่า “กะได้ฮับ นายนายจะจ้วยดินดินย้างปัก (ก็ได้ครับนายนายจะช่วยดินดิล้างผัก)”

สิ้นเสียงดังกล่าวไอดินก็พยักหน้าลง แล้วจูบมือเด็กน้อยเดินไปทางครัวที่อยู่ทางด้านหลัง พอเดินมาถึงไอดินก็นำโต๊ะไม้เตี้ยๆ ที่มีขนาดกว้างพอสมควร ตัวหนึ่งที่ค่อนข้างหนัก เพื่อไม่ให้ยามที่เจ้านายขึ้นไปยืนแล้วพลิกคว่ำได้ง่ายๆ มาวางไว้ใกล้ๆ กับอ่างล้างจาน ก่อนจะเอากะละมังล้างผักมาวางซ้อนไว้อีกที

จากนั้นเขาก็อุ้มเจ้านายมายืนบนโต๊ะไม้ตัวนี้ เพื่อให้ความสูงของเจ้านาย สามารถยื่นมือไปล้างผักในอ่างล้างจานได้สะดวก โดยที่ไม่ต้องเขย่งปลายเท้าเพิ่มแต่อย่างใด

หลังจากที่จัดการทุกอย่างจนแล้วเสร็จ ไอดินก็ค่อยๆ เปิดน้ำเบาๆ ออกมา ก่อนจะนำแครอทที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าขึ้นมา แล้วนำส่วนที่เหลือไปใส่ไว้ในตู้เย็นอีกที

ไอดินจัดการหั่นแครอทตรงหน้าออกเป็นสามส่วน เขานำแครอทสองส่วนพร้อมกับหั่นผักเพิ่มอีกเล็กน้อยไปแช่ในน้ำที่ใส่ไว้ในกะละมังตรงอ่างล้างจานเพื่อเจ้านายล้างให้ อีกทั้งยังพูดขอร้องให้เด็กน้อยตรงหน้าว่า ”เจ้านายช่วยหม่าม๊าล้างแครอทนี้หน่อยนะครับ”

เจ้านายที่เห็นกองผักหลากสีทั้งแครอท และผักคะน้ากองอยู่ในกะละมังน้อยๆ ตรงหน้า เขาก็หันไปพยักหน้ากับผู้เป็นมารดา พร้อมกับพูดออกไปว่า “ได้ฮับ นายนายจะจ้วยย้างปัก (ได้ครับ นายนายจะช่วยล้างผัก)”

ไอดินที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ อย่างดีใจ ที่ถึงแม้ตัวเขาจะมีเรื่องราวมากมายสารพัดกระทบเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

แต่ตัวเขาก็ยังโชคดีที่ยังมีเด็กน้อยคนนี้คอยให้รอยยิ้มเสมอมา ไม่ว่าเมื่อไรเด็กน้อยคนนี้ก็ว่านอนสอนง่าย ไม่เคยงอแงให้เขาได้หนักใจเลยสักครั้ง ก่อนตัวเองจะพูดออกไปว่า “หม่าม๊ารักผมนะครับ เจ้านาย”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายก็หันไปกอดเอวผอมบางของคนข้างกายเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่าย พร้อมกับพูดออกไปด้วยรอยยิ้มกว้างว่า “นายนายก็ยักดินดินที่ฉุด (นายนายก็รักดินดินที่สุด)”

ส่งผลคนให้คนที่เห็นท่าทางดังกล่าวไอดินอดไม่ได้ที่จะน้ำตาปริ่มออกมาอย่างตื้นตันใจ แต่เขาก็พยายามใช้มือที่ว่างอยู่ซับหยดน้ำตาเอาไว้ แล้วพูดออกไปว่า “เอาล่ะเอาล่ะ เจ้านายอย่าลืมล้างผักนะครับเดี๋ยวหมาม๊าไปหั่นผักต่อ”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงพยักหน้าลง พร้อมกับพูดออกไปอย่างแข็งขันว่า “ฮับ” ก่อนจะหันหน้าไปทางอ่างล้างจาน แล้วใช้สองมือเล็กๆ ป้อมๆ ของตัวเองค่อยๆ บรรจงล้างผักที่หั่นแล้วทีละชิ้นทีละชิ้นอย่างใจตั้งใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 11 เจ้านายกับพี่ชายของหม่าม๊า

    บทที่11เจ้านายกับพี่ชายของหม่าม๊าท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเย็นฉ่ำ ที่พ่นออกมาจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องโถงใหญ่ แต่กลับไม่ช่วยให้อารมณ์ของหนึ่งเด็กสองผู้ใหญ่ที่อยู่ด้านใน เย็นตามอุณหภูมิภายในห้องนี้แต่อย่างใดนัยน์ตาสีเข้มบนใบหน้าน่ารักของไอดิน ยังคงจับจ้องมองใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตามือทั้งสองข้างยังคงกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายพยายามเข้ามาทำร้ายลูกของตน แม้เจ้านายจะพูดไม่ดีใส่ แต่หญิงสาวตรงหน้าที่เป็นคนเริ่มก่อนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันโดยที่ทางคู่กรณีนั้นก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไร เพราะหลังจากที่ได้ยินคำพูดของโอเมก้าแม่ลูกหนึ่งตวาดเสียงดังลั่นใส่อย่างไม่สนหน้าใครจึงทำให้หล่อนรู้สึกไม่พอใจจนอยากกระชากผมสีดำบนศีรษะของคู่กรณีออกมาสักหนึ่งกำให้สาแก่ใจอัลฟ่าหญิงที่ถูกอีกฝ่ายผลักอย่างเต็มแรง แต่ด้วยพละกำลังของโอเมก้าคนหนึ่ง จึงทำให้เธอไม่ได้เสียการทรงตัวมากมายสักเท่าไรพอตั้งหลักได้เจ้าหล่อนก็เงยหน้าขึ้นจับจ้องมองใบหน้าขาวซีดด้วยสายตาแข็งกร้าวทันใด ก่อนจะคำรามออกมาอย่างไม่พอใจว่า “แก...ไอโอ้เมก้าชั้นต่ำ”แล้วพุ่งเข้าไปหาโอเมก้าหนุ่มตรงหน้าโดยไม่สนใจผู้ใด เพราะ

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 10 เจ้านายกับพี่สาวที่นิสัยไม่ดี

    บทที่10เจ้านายกับพี่สาวที่นิสัยไม่ดีสองวันผ่านไป...หลังจากที่ศศินและดีแลนเดินทางมาเยี่ยมไอดินและเจ้านายผู้เป็นบุตรชายถึงที่บ้าน เวลาก็ล่วงเลยพ้นผ่านมาแล้วถึงสองวันแต่ถึงกระนั้นไอดินก็ยังเอาแต่นั่งคิดไม่ตกอยู่ดี แม้หลายวันมานี้จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตามที แต่ลางสังหรณ์บางอย่างก็ยังคงร้องเตือนเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ว่าในอีกไม่นานหลังจากนี้อาจมีเรื่องใหญ่ที่เขาไม่อาจรับมือได้เกิดขึ้นมาชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้มือทั้งสองข้างกำแน่นถูกวางเอาไว้บนโต๊ะไม้ตรงหน้า แล้วใช้ปลายเล็บของมือทั้งสองข้างสะกิดกันไปมาอย่างใช้ความคิดอย่างหนักแต่เพียงเดี๋ยวเดียวเขาก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ หนึ่งที ก่อนจะพูดพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “เราไม่ได้ไปหาคนพวกนั้นซะหน่อยนี่ แกจะกลัวอะไรขนาดนั้น”ก่อนเจ้าตัวจะหยัดกายยืนขึ้น แล้วสาวเท้าเดินไปหาเจ้านาย ที่ยังนอนหลับขวดนมคาปากอยู่บนที่นอน พอได้เห็นเช่นนั้นริมฝีปากบางก็เผยรอยยิ้มออกมา ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดขวดนมที่คาอยู่ในปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นบุตรชายออกมาอย่างเบามือ จากนั้นไอดินก็ดึงผ้าห่มที่ถูกถีบออกไปกองอยู่ปลายเท้า ขึ้นมาห่มร่างเล็กๆ ที่ยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียงกว

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 9 น้องเจ้านายกับพี่ใต้หล้า

    บทที่9น้องเจ้านายกับพี่ใต้หล้าหลังจากที่ดีแลนจ้องมองดูบุตรชายของตัวเองได้เพียงไม่นาน ก็มีเสียงของไอดินดังขึ้นมาว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ นี่ก็เลยเวลาเที่ยงมามากแล้ว พวกเรามากินข้าวกันเถอะ”ก่อนคนพูดจะเหลียวหน้าหันไปมองเจ้านายที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ผัดคะน้าจานนี้มันหวานเกินไป ให้ลุงแดนกินมากๆ เดี๋ยวจะเป็นเบาหวานเอานะครับเข้าใจไหม”ส่งผลให้เด็กน้อยตรงหน้าที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นมารดา อดไม่ได้ที่จะหลุบสายตามองผักคะน้าตรงหน้าที่ตัวเองอุตส่าห์ปรุงรสให้ใหม่อย่างแสนเสียดาย มองได้เพียงครู่เจ้านายที่ไม่อยากให้มารดาของตัวเองรู้สึกไม่ดีมากเกินไป จึงพยักหน้าลงอย่างว่าง่าย แล้วพูดออกไปอย่างใสซื่อว่า “ปัดจะน้าตานนี้ หวานหวานไป ยุงแดนตินไม่ได้หยอฮับ (ผัดคะน้าจานนี้ ลุงแดนกินไม่ได้เหรอครับ)”ไอดินจึงตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า “ลุงแดนกินไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” แล้วยื่นมือไปจับจานผัดคะน้า พร้อมกับพูดออกไปอีกทีว่า “หม่าม๊าขอผัดคะน้านี้มาได้ไหมครับ”ได้ยินเช่นนั้นแม้จะเสียดายที่ไม่ได้กลั่นแกล้งดีแลนให้สาแก่ใจ แต่พอได้เห็นใบหน้าของไอดินที่มีแววของความหนักใจอยู่เล็กน้อย เขาก็พยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป พร้อมกับพ

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 8 เจ้านายกับผัดคะน้าแสนอร่อย

    บทที่8เจ้านายกับผัดคะน้าแสนอร่อยหลังจากที่ได้ยินเสียงตกใจของผู้เป็นมารดา เจ้านายถูกไอดินอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนเขาก็รีบส่ายศีรษะไปมา แล้วพูดออกไปว่า “นายนายไม่เต็บ นายนายไม่เป็นอะไย (นายนายไม่เจ็บ นายนายไม่เป็นอะไร)”แต่ถึงกระนั้นไอดินก็ยังไม่วางใจ แล้วพยายามดูร่องรอยบาดแผลบนร่างกายของอีกฝ่าย ว่ามีส่วนใดช้ำหรือถูกกระแทกบ้างหรือไม่ พร้อมกับถามออกไปว่า “เจ้านายครับ เจ็บที่หัวไหมลูก หัวผมกระแทกกับพวกนี้ไหม”เจ้านายจึงส่ายศีรษะ แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่แทกฮับ” ก่อนตัวเองจะยกฝ่ามือขึ้นมาจับหัวของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอีกที “หัวนายนายไม่แทกไยฮับ ไม่เต็บเยย (หัวนายนายไม่กระแทกครับ ไม่เจ็บเลย)”ก่อนจะมีเสียงของมารดาของตัวเองดังขึ้นให้ได้ยินอีกครั้งว่า “แล้วตามตัวผมล่ะ มีอะไรกระแทกไหม ให้หม่าม๊าดูหน่อย” พร้อมกับพยายามแกะกระดุมชุดหมีของเด็กน้อยตรงหน้า เพื่อสำรวจดูร่างกายภายใต้ร่มผ้าแบบทันทีทันใดพอเปิดออกมาได้ก็เห็นมีแต่พุงน้อยๆ ที่ตอนนี้กำลังกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยเพราะแรงหายใจ ก่อนนายจะยกฝ่ามือตีลงไปบนพุงขาวๆ ของตัวเองสองที แล้วพูดออกไปว่า “นายนายไม่เต็บ ตัวไม่ได้แทก แทกกับคุงโต๊ะฮั

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 7 เจ้านายกับอริหัวใจ

    บทที่7เจ้านายกับอริหัวใจหลังจากที่เห็นไอดินเดินจากไป นัยน์ตาสีเข้มบนใบหน้าน่ารักของเจ้านายก็มีประกายวาบผ่าน เขารีบลงจากโต๊ะไม้ แล้วสาวเท้าไปที่เตาแก๊สซึ่งอยู่ไม่ไกลสักเท่าไรพอเดินไปถึงก็พบว่าความสูงของมันสูงกว่าหัวของเขามากพอดู เจ้านายจึงเหลียวซ้ายแลขวาไปมา ก็เห็นว่าในละแวกใกล้มีโต๊ะที่เขาใช้ยืนล้างผัก และเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจลากโต๊ะที่เขาใช้ล้างผักมาวางไว้ที่ข้างๆ บริเวณเตาแก๊สทันที แต่เอาเข้าจริงเป็นเพราะไอดินไม่อยากให้โต๊ะมันพลิกตอนที่เจ้านายยืนอยู่ด้านบนได้ง่ายๆ จึงใช้โต๊ะไม้ที่ค่อนข้างหนักมาวางเอาไว้ให้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาจึงทำให้เจ้านายที่พยายามเข็นโต๊ะไม้นี้อยู่นานด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่โต๊ะไม้เจ้ากรรมก็ไม่ยอมขยับไปสักทีอย่างที่ใจต้องการ พอเข็นได้ไม่เท่าไรก็เริ่มหายใจหอบฮักเขาจึงยืดตัวขึ้นแล้วเอามือทั้งสองข้างกอดอกไว้ นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องมองโต๊ะไม้ตรงหน้า แล้วยกนิ้วชี้ของตัวเองชี้ไปที่โต๊ะไม้ตรงหน้าอย่างไม่พอใจพร้อมกับสบถออกมาว่า “โจ๊ะบ้า ตัวจ้อแต่นี้ตำไมเจ็นยาก (โต๊ะบ้า ตัวก็แค่นี้ทำไมเข็นยาก)” แต่ถึงกระนั้นเจ้านายก็ยังไม่ยอม

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 6 เจ้านายกับเพื่อนสนิทของหม่าม๊า

    บทที่6เจ้านายกับเพื่อนสนิทของหม่าม๊าหลังจากที่จัดการเตรียมของทุกอย่างแล้วเสร็จ และกำลังจะลงมือทำข้าวผัดอยู่นั้น จู่ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นเจ้านายกำลังเขย่งปลายเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อจะคว้าเอาอะไรบางอยู่ที่อยู่ไกลๆไอดินที่ได้เห็นท่าทางของอีกฝ่าย จึงอดไม่ได้ที่จะเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นหนึ่งข้างอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่าย แล้วถามออกไปว่า “เจ้านายจะเอาอะไรครับ เดี๋ยวหม่าม๊าหยิบให้”ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงเหลียวหน้าหันไปมองคนพูดทันที ก่อนเจ้าตัวจะชักสายตาคืนกลับไป แล้วชี้ไปที่ขวดน้ำยาล้างจานที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับพูดออกมาว่า “ดินดินเอาจวดนั้นให้นายนายหน่อยฮับ (ดินดินเอาขวดนั้นให้นายนายหน่อยฮับ)”จึงทำให้ไอดินอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “เจ้านายจะเอาขวดน้ำยาล้างจานมาทำไมครับ”เจ้านายจึงชูแครอทที่ถูกหั่นไว้อันหนึ่งขึ้นมา แล้วตอบกลับไปว่า “ปักอันนี้มันเปื้อนนายนายย้างไม่ออก นายนายเยยจะเอาอันอันนั้นมาใต่ย้างปัก ปักจะไอ้อาดฮับ (ผักอันนี้มันเปื้อนล้างไม่ออก นายนายเลยจะเอาอันนี้มาใส่ล้างผัก ผักจะได้สะอาดครับ)”ส่งผลให้ไอ้ดินที่เห็นเช่นนั้น อดไม่ได้ที่จะคิ้วกระตุกอย่าหลายที แล้วหั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status