Share

บทที่ 8

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-18 22:25:39

บทที่

7

เจ้านายกับอริหัวใจ

หลังจากที่เห็นไอดินเดินจากไป นัยน์ตาสีเข้มบนใบหน้าน่ารักของเจ้านายก็มีประกายวาบผ่าน เขารีบลงจากโต๊ะไม้ แล้วสาวเท้าไปที่เตาแก๊สซึ่งอยู่ไม่ไกลสักเท่าไร

พอเดินไปถึงก็พบว่าความสูงของมันสูงกว่าหัวของเขามากพอดู เจ้านายจึงเหลียวซ้ายแลขวาไปมา ก็เห็นว่าในละแวกใกล้มีโต๊ะที่เขาใช้ยืนล้างผัก และเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจลากโต๊ะที่เขาใช้ล้างผักมาวางไว้ที่ข้างๆ บริเวณเตาแก๊สทันที

แต่เอาเข้าจริงเป็นเพราะไอดินไม่อยากให้โต๊ะมันพลิกตอนที่เจ้านายยืนอยู่ด้านบนได้ง่ายๆ จึงใช้โต๊ะไม้ที่ค่อนข้างหนักมาวางเอาไว้ให้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา

จึงทำให้เจ้านายที่พยายามเข็นโต๊ะไม้นี้อยู่นานด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่โต๊ะไม้เจ้ากรรมก็ไม่ยอมขยับไปสักทีอย่างที่ใจต้องการ พอเข็นได้ไม่เท่าไรก็เริ่มหายใจหอบฮัก

เขาจึงยืดตัวขึ้นแล้วเอามือทั้งสองข้างกอดอกไว้ นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องมองโต๊ะไม้ตรงหน้า แล้วยกนิ้วชี้ของตัวเองชี้ไปที่โต๊ะไม้ตรงหน้าอย่างไม่พอใจ

พร้อมกับสบถออกมาว่า “โจ๊ะบ้า ตัวจ้อแต่นี้ตำไมเจ็นยาก (โต๊ะบ้า ตัวก็แค่นี้ทำไมเข็นยาก)” แต่ถึงกระนั้นเจ้านายก็ยังไม่ยอมล้มเลิกสิ่งที่ตัวเองจะทำง่ายๆ ด้วยเช่นกัน

เขาจึงหันไปเข็นเก้าอี้ที่สอดอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวอีกที แต่เอาเข้าจริงด้วยแรงที่มีอยู่ของเขาในตอนนี้ก็เป็นเพียงแรงของเด็กสองขวบเท่านั้น ต่อให้เขาออกแรงเข็นเก้าอี้ตัวเล็กๆ ก็ใช่ว่าจะเข็นได้อย่างใจหวัง

คงเป็นเพราะว่าไอดินไม่อยากให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับตัวของเขามากเกินไป จึงเก็บทุกอย่างที่ขยับได้และอาจทำให้เขาต้องปีนขึ้นไปจนตกลงมา

เข็นก็แล้วหาหนทางอื่นก็แล้ว ก็ยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้านายจึงปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะไม้อย่างอารมณ์ไม่ดี พร้อมกลับพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “บ้าจิง”

และในขณะนั้นเองไอดินกับศศินก็เดินเข้ามาพอดี จึงทำให้ได้เห็นหน้าตาบูดบู้บี้ของเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้ตัวใหญ่

จึงทำให้ศศินอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “อะไรกัน วันนี้เจ้านายของน้าศินทำไมถึงอารมณ์ไม่ดีซะแล้วล่ะ”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงเหลียวหน้าหันไปมองตามเสียงดังกล่าว ก็เห็นว่าคนพูดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากศศินโอเมก้าแสนน่ารักที่เขาเห็นหน้าทีไรก็รู้สึกประทับใจทุกที

จึงอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มกว้างออกมาแบบทันทีทันใด แล้วรีบปีนลงจากโต๊ะไม้ ส่งผลให้คนที่เห็นภาพนี้อย่างไอดินและศศินอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างอย่างตกใจ แล้วรีบวิ่งเข้ามาหาเจ้านายอย่างจ้าล่ะหวั่น

แต่ดูเหมือนว่าเรื่องลงโต๊ะไม้สำหรับเจ้านายนั้น เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย พออีกฝ่ายวิ่งเข้ามาหา เท้าของเขาก็สัมผัสพื้นแล้วเช่นกัน

เจ้านายจึงฉวยจังหวะนี้วิ่งเข้าไปกอดเอวของชายหนุ่มที่กำลังจะวิ่งมารับเขาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “กุงน้าศินมาแย้ว นายนายดีใจ (คุณน้าศินมาแล้ว นายนายดีใจ)”

ทว่าเจ้านายพูดออกไปได้เพียงแค่นั้นก็ไม่เสี่ยงกระแอมไอดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง จึงทำให้เจ้านายจำต้องเหลียวหน้าหันไปมองตามเสียงดังกล่าวอย่างไม่ชอบใจ

พอหันไปก็เห็นดีแลนสามีของศศินกำลังยืนมองเขาด้วยสายตานิ่ง ก่อนคนคนนี้จะยอบกายลงเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าของตัวเองเสมอกับเขาอีกที

จากนั้นไม่นานคนตรงหน้าก็ยกปลายนิ้วชี้ขึ้นมาดีดหน้าผากเขาหนึ่งที พร้อมกับพูดออกไปว่า “เดี๋ยวเถอะมากอดเมียชาวบ้านเขา ถามสามีเขาหรือยังเจ้าตัวเล็ก”

ส่งผลให้เจ้านายอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบศีรษะของตัวเองไปมา แล้วจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่ชอบใจ

ท่ามกลางเสียงร้องดังของศศินซึ่งดังอยู่ไม่ไกล “เดี๋ยวเถอะแดน ไปแกล้งหลานแบบนี้ทำไมล่ะเนี่ย” ก่อนเจ้าตัวจะยอบกายลงเล็กน้อย แล้วดึงเด็กน้อยที่ถูกสามีตัวเองกลั่นแกล้งมาไว้ในอ้อมแขน

จึงทำให้เจ้านายรู้สึกสาแก่ใจจนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองใบหน้าของดีแลนด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากจะแกล้งชายคนนี้ด้วยความหมั่นไส้

เขาจึงแสร้งทำแววตาสั่นขึ้นมาทันใด ก่อนเจ้าตัวจะเหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของศศิน แล้วร้องไห้ออกมาพร้อมกับบึนปาก ก่อนจะทำท่าทางสะอึกสะอื้นว่า “นายนายม่ายดื้อ...นายนายไม่ด้ายดื้อ กุงยุงใจย้ายแจ้งนายนาย กุงน้าศินตีตีตำโตดกุงยุงใจย้ายให้...ให้นายนายนะ (นายนายไม่ดื้อ นายนายไม่ได้ดื้อ คุณลุงใจร้ายแกล้งนายนาย คุณน้าศินตีตี ทำโทษคุณลุงใจร้าย ให้นายนายนะ)”

ส่งผลให้ศศินที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว หันไปพูดเสียงดุกับสามีตัวเองว่า “เห็นไหมหลานร้องไห้แล้วเดี๋ยวเถอะ”

จึงทำให้ชายวัยกลางคนที่ถูกภรรยาแสนน่ารักดุเอา ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปกอดเอวพร้อมกับตัดพ้อกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกาย “โฮ่...ใต้หล้าดูหม่าม๊าของผมสิลูก ดุปะป๋าด้วยแหละ ดูสิ” พร้อมกับทำท่าสะอึกสะอื้นออกมา

ส่งผลให้เด็กน้อยที่มีอายุราวๆ หกขวบปีเห็นจะได้ โดยที่เด็กชายคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเป็นลูกในไส้ของตัวเองที่พามาเที่ยวบ้านของเจ้านายด้วยเช่นกัน

หลังจากที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นบิดา ใต้หล้าจึงเหลียวหน้าหันไปมองเจ้านายที่กำลังยืนทำท่าทางออดอ้อนกับมารดาของตัวเองอย่างระริกระรี้ แล้วเงยหน้ามองผู้เป็นมารดาของตัวเองอีกที พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาหนึ่งทีด้วยท่าทางไม่ชอบใจ

จึงทำให้เจ้านายที่กำลังแกล้งหลั่งน้ำตา ถึงกับเหลียวหน้าหันไปมองทันใด เขาก็เห็นนัยน์ตาสีเข้มของอีกฝ่าย กำลังจ้องมองมาด้วยสายตาที่ค่อนข้างกดดัน

แต่แล้วในขณะที่ทำสงครามจ้องตากับคนตรงหน้า ฝ่ามือเรียวของคนที่เขาโอบเอวเอาไว้ ก็วางลงมาบนศีรษะเขาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะมีเสียงของศศินดังให้ได้ยินว่า “เจ้านายทนอีกนิดนะลูก อีกเดี๋ยวลุงแดนก็โตแล้ว”

จึงทำให้เจ้านายหันไปยิ้มกับอีกฝ่าย แล้วส่ายศีรษะไปมา พร้อมกับพูดออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “นายนายไม่เป็นอาไย...โครก”

ทว่ายังไม่ทันที่จะได้พูดจบประโยคดี ก็มีเสียงของกระเพาะน้อยๆ ดังขึ้นมาเสียอย่างนั้น เลยทำให้เจ้านายหลุบสายตาลงมองช่วงท้องตัวเองอย่างไม่ชอบใจ แล้วเงยหน้าหันไปมองใบหน้าของไอดินที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับพูดออกไปว่า “ดินดินนายนายต้องย้อง (ดินดินนายนายท้องร้อง)”

ส่งผลให้ไอดินและศศินที่ยืนอยู่เคียงกัน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำออกมายังทนไม่ไหว ก่อนไอดินจะยื่นฝ่ามือไปลูบศีรษะน้อยๆ ของคนที่เป็นบุตรชาย พร้อมก็พูดออกไปว่า “เอาล่ะงั้นเดี๋ยวเจ้านายไปเล่นกับพี่ใต้หล้าก่อนนะครับ เดี๋ยวหม่าม๊าจะทำกับข้าวที่เหลือนี้ให้เสร็จก่อนโอเคไหม”

สิ้นเสียงดังกล่าวเจ้านายก็เหลียวหน้าหันไปมองใต้หล้าที่ยืนอยู่ไม่ไกล ก็เห็นเพียงนัยน์ตาสีเข้มที่จ้องเขม็งมองมาอย่างไม่ชอบใจ

จึงทำให้เจ้านายที่ได้เห็นสายตาที่จ้องมองมา ก็ถึงกับสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ แล้วอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะสบถอยู่ในใจว่า ‘ไอ้เด็กคนนี้นี่’

จากนั้นจึงเหลียวหน้าหันไปมองใบหน้าของผู้เป็นมารดาที่ยืนอยู่ไม่ไกลอีกที แล้วส่ายศีรษะไปมาเป็นคำตอบกลับไป พร้อมกับพูดออกไปว่า “ไม่อาวฮับ นายนายอยากจ้วยดินดินทำจ้าว (ไม่เอาครับ นายนายอยากช่วยดินดินทำกับข้าว)”

ได้ยินเช่นนั้นศศินจึงอดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะไปมา แล้วพูดออกไปว่า “เจ้านายไม่อยากเล่นกับพี่ใต้หล้าจริงๆ เหรอครับ”

เจ้านายจึงตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่ใจ้ ไม่ใจ้ นายนายหยักเย่นกับปี้ใต้ แต่...ตอนนี้นายนายแต้หยักตำจับจัาวให้กุงน้า กุงลุง และปี้ใต้ฮับ (ไม่ใช่ ไม่ใช่ นายนายอยากเล่นกับพี่ใต้ แต่ตอนนี้นายนายอยากทำกับข้าวให้คุณน้า คุณลุงและพี่ใต้ครับ)”

ส่งผลให้คนฟังอย่างศศินอดไม่ได้ที่จะเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นหนึ่งข้าง อย่างใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ พร้อมกับพูดออกไปว่า “แล้วเจ้านายอยากให้น้าศินเป็นลูกมือไหมครับ”

เจ้านายจึงตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่หยักฮับ” พร้อมกับส่ายศีรษะไปมา แล้วพูดต่อทันทีว่า “นายนายหยักตำข้าวกับดินดินฮับ นายนายไม่หยักให้กุงน้าฉินมาจ้วยเดี๋ยว...ไม่...ไม่เจอร์ไป้ (นายนายอยากทำกับข้าวกับดินดิน นายนายไม่อยากให้คุณน้าศินมาช่วย เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์)”

ศศินที่ได้ยินเสียงของเด็กน้อยตรงหน้า เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา ก่อนเจ้าตัวจะยกมือขึ้นแล้วโยกศีรษะน้อยๆ ของเจ้านายเบาๆ อยู่หลายที “อะไรกันจะเซอร์ไพรส์น้าศินอย่างนั้นเหรอครับ”

“ฮับ” พร้อมกับออกแรงผลักเอวของอีกฝ่ายเล็กน้อย แล้ววิ่งไปที่โซฟาซึ่งตั้งอยู่ตรงห้องรับแขกอีกที ก่อนจะใช้ฝ่ามืออ้วนๆ ป้อมๆ ของตัวเองตบลงไปบนโซฟาตัวใหญ่ พร้อมกับพูดออกไปว่า “น้าฉินนั่งยอ...ยอตงนี้ก่อนนะ นายนาย นายนายตำจ้าวให้จิน (น้าศินนั่งรอ รอตรงนี้ก่อนนะ นายนายทำกับข้าวให้กิน)”

ศศินที่เห็นเช่นนั้นจึงยอมเดินตามคำขอร้องของอีกฝ่าย พร้อมกับดึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและสามีที่อยู่ข้างกายให้เดินมาด้วยกัน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับไอ้ดินว่า “เอาเถอะในเมื่อเจ้านายอยากทำกับข้าวกับแก ก็ให้เขาทำเถอะอย่าไปบังคับแกเลย”

ไอดินจึงพยักหน้าลงเล็กน้อยเป็นคำตอบกลับไป ก่อนเจ้าตัวจะพูดออกไปว่า “งั้นแกไปนั่งรอที่ห้องรับแขกนี้ก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวเราทำกับข้าวเสร็จเมื่อไรจะยกออกมากินกันตรงนี้แหละ” ว่าจบก็หลุบสายตาลงมองเด็กน้อยที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับยื่นมือไปจับศีรษะของอีกฝ่ายโยกไปมาเล็กน้อย แล้วหมุนกายหันกลับไปในครัวอีกที

หลังจากที่เข้ามาในครัวได้ เจ้านายก็กุลีกุจอไปล้างผักเหมือนเดิมทันที จากนั้นไม่นานไอดินก็ทำกับข้าวที่เหลือจนเสร็จไปแล้วถึงสองสามอย่าง

พอเห็นเช่นนั้นเจ้านายจึงรีบลงมาจากโต๊ะไม้ที่ยืนอยู่ แล้วสาวเท้าไปหาไอดินที่กำลังเตรียมอาหารใส่จานเพื่อที่จะยกออกไป

เขาจึงยื่นมือไปดึงชายผ้าคลุมกันเปื้อนสองสามครั้ง จนไอดินต้องเหลียวน่าหันมามองใบหน้าของเด็กน้อยที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

แล้วถามออกไปว่า “เจ้านายปวดอึเหรอครับ”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายจึงส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับพูดออกไปว่า “ไม่ไจ้ฮับ (ไม่ใช่ครับ)”

ส่งผลให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะมองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังซึ่งอยู่ไม่ไกล ก็เห็นว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เจ้านายควรจะได้กินข้าวแล้วเช่นกัน

แต่ในตอนนี้กับข้าวที่เขากำลังทำอยู่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี เขาจึงถามออกไปว่า “งั้นเจ้านายหิวข้าวเหรอครับ รออีกแป๊บได้ไหมหม่าม๊าทำกับข้าวอีกอย่าง ก็เสร็จแล้ว”

เจ้านายจึงตอบคำไปว่า “ไม่ใจ้ฮับ ตึงนายนายตะหิว แต่นายนายตนได้ (ไม่ใช่ครับ ถึงนายนายจะหิว แต่นายนายทนได้)”

“งั้นถ้าผมไม่อยากกินข้าว แล้วผมอยากได้อะไรครับ ถึงมาหาหม่าม๊า”

เจ้านายจึงตอบกลับไปว่า “นายนายหยักจินนม ดินดินจงนมให้นายนายหน่อย (นายนายอยากกินนมดินดินชงนมให้นายนายหน่อย)”

ส่งผลให้ไอดินอดไม่ได้ที่จะเลิกเรียวคิ้วเข้มขึ้นหนึ่งข้างทันใด แล้วพูดออกไปว่า “เดี๋ยวค่อยกินได้ไหมครับ ถ้าเจ้านายกินนมตอนนี้ เจ้านายก็จะกินข้าวไม่ไหว เจ้านายไม่อยากกินข้าวฝีมือของหม่าม๊าเหรอ”

ได้ยินเช่นนั้นเจ้านายก็อดไม่ได้ที่จะทำท่าทางครุ่นคิดหนัก สุดท้ายก็ยังยืนกรานคำเดิมอยู่ดี จึงทำให้ไอดินอดไม่ได้ที่จะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ หนึ่งทีอย่างอ่อนใจ แล้วพูดออกไปว่า “สงสัยคงหิวข้าวจริงๆ” ก่อนเจ้าตัวจะหันไปพูดกับเจ้านายอีกทีว่า “งั้นเดี๋ยวเจ้านายไปนั่งเล่นกับพี่ใต้หล้าเขาก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวหม่าม๊าต้องไปเอาขวดนมที่อยู่ข้างบนก่อน”

สิ้นเสียงดังกล่าวเจ้านายจึงพยักหน้าลงเป็นคำตอบกลับไป ก่อนจะทำทีเป็นเดินไปที่ห้องรับแขกซึ่งในตอนนี้มีอาคันตุกะทั้งสามกำลังคุยเล่นอยู่ตรงนั้น

พอเห็นว่าเจ้านายยอมเดินไปแต่โดยดี ไอดินจึงรีบวิ่งขึ้นไปเอาขวดนมที่ถูกวางเก็บไว้ตรงโต๊ะข้างๆ กับเตียงนอนเพื่อเตรียมไว้ชงนมให้อีกฝ่าย

เมื่อทางโล่งโปร่งสบายเจ้านายจึงรีบหมุนกาย แล้วสาวเท้าเดินกลับมาเข้ามาไปในครัวทันที พอมาถึงเขาก็สาวเท้าไปที่โต๊ะไม้ที่วางเครื่องปรุงใกล้ๆ กับเตาแก๊ส

พอเดินมาถึงเขาก็เขย่งปลายเท้าอย่างเต็มที่ เพื่อพยายามหยิบขวดน้ำปลาที่อยู่ไม่ไกล และทันทีที่เอามาได้ เขาก็เหลียวหน้าไปคว้าเอาช้อนพลาสติกที่อยู่ในตะกร้าตรงตู้วางถ้วยชาม

จากนั้นเขาก็หอบขวดน้ำปลาแล้วสาวเท้าเดินไปทางโต๊ะกับข้าวที่วางกับข้าวของไอดินที่เพิ่งทำเสร็จได้ไม่นาน พร้อมกับบ่นพึมพำอยู่ในใจว่า ‘ในเมื่อไม่ได้ทำให้ ปรุงรสให้ก็ยังดี’

พอเดินไปถึงเขาก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ แล้วใช้ช้อนที่หยิบติดมือมาค่อยๆ ตักชิมผัดคะน้าตรงหน้า ผลที่ได้ออกมาก็คือความเผ็ดร้อนที่อยู่ในอาหารจานนั้น แม้อีกฝ่ายจะใส่พริกเพียงเม็ดเดียวก็ตาม

แต่เป็นเพราะปากของเจ้านายยังเป็นเพียงแค่ปากของเด็กน้อยคนหนึ่ง การรับรสจึงไม่ได้ดีเท่ากับของผู้ใหญ่ อาการระคายเคืองเพราะกินพริกเข้าไปจึงทวีคูณมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่าตัว

เขาจึงร้องลั่นออกมาว่า “เป็ด...แบบนี้กุงน้าฉิน จินยังไง (เผ็ดแบบนี้คุณน้าศินจะกินยังไง)”

ส่งผลให้เจ้านายรีบยื่นมือไปคว้าขวดน้ำปลามาถือเอาไว้ แล้วกระหน่ำเทลงไปในผัดคะน้าแบบทันทีทันใด พอเทจนหมดไปครึ่งขวดเขาจึงวางขวดน้ำปลาที่เหลือไว้ข้างๆ กัน

จากนั้นจึงปีนลงจากเก้าอี้ แล้วเดินโต๋เต๋ไปหยิบกระปุกน้ำตาลที่ด้านในบรรจุน้ำตาลเป็นซองพร้อมใช้ และในแต่ละซองก็บรรจุน้ำตาลเอาไว้ประมาณหนึ่งช้อนชา

พอได้มันมาเจ้านายก็รีบล้วงเอาซองน้ำตาลออกมาราวๆ สิบสองซองเห็นจะได้ ก่อนจะเดินกลับไป แล้วแกะซองน้ำตาลอย่างตั้งอกตั้งใจ

แม้จะยากลำบากสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอยู่ดี เขาพยายามอยู่นานจนในที่สุดก็สามารถฉีกซองน้ำตาลโดยที่ไม่หกเลอะเทอะออกมาได้

ไม่รอช้าเขาก็เทน้ำตาลที่อยู่ในซองใส่ลงไปในผัดคะน้าตรงหน้า และหลังจากใส่ไปหนึ่งซองแล้ว เจ้านายก็แกะซองน้ำตาลใส่ไปอีกทีละซองทีละซอง จนของที่เขาเพิ่งหอบมาเมื่อครู่หมดลง

จากนั้นจึงจัดการใช้ช้อนที่วางอยู่ค่อยๆ คนอย่างละเมียดละไม แต่เป็นเพราะข้อมือของเขายังไม่แข็งแรงดี เลยทำให้กับข้าวที่อยู่ในจานหกกระจัดกระจาย

พอได้เห็นเช่นนั้นเรียวคิ้วเข้มก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกยิกอย่างรำคาญ ให้กับร่างกายที่ไม่พร้อมทำอะไรเลยสักอย่างเดียว

เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่ไม่ไกล แล้วค่อยๆ บรรจงเช็ดจุดที่เป็นรอยเลอะออกอย่างใจเย็น

หลังจากที่จัดการกับจานกับข้าวตรงหน้าจนเรียบร้อยดี เจ้านายก็ใช้ช้อนจะคันเล็กๆ ที่ถือมาตักผัดคะน้าตรงหน้าเพื่อหมายจะชิมรสดูอีกที

ทว่ายังไม่ทันที่อาหารตรงหน้าจะเข้าปาก ก็มีเสียงฝีเท้าของไอดินเดินเข้ามา ส่งผลให้เจ้านายต้องรีบเก็บช้อนคันเล็กที่ถือเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อชุดหมีที่ตัวเองใส่ แล้วรีบปีนลงจากเก้าอี้แบบทันทีทันใด

แต่เป็นเพราะรีบเกินไป จึงทำให้ก้าวพลาดและร่วงตกลงมา ซึ่งการกระทำนี้ของเขาก็ตกอยู่ในสายตาของไอดินด้วยเช่นกัน

จึงทำให้ไอดินร้องออกมาว่า “เจ้านายผมทำอะไรน่ะลูก” ก่อนเจ้าตัวจะรีบสาวเท้าเข้าไปหาเด็กน้อยที่ตกเก้าอี้ลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงพื้นเบื้องล่าง

แต่ดีหน่อยที่เจ้านายใส่แพมเพิสเอาไว้ จึงทำให้ตอนที่ตกลงมาก้นกระแทกกับพื้นเบื้องล่างไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 69

    กีตาร์ที่ได้ยินคำคำนี้จึงจ้องมองเจ้าขุนด้วยสายตาที่ไม่ยอมแพ้กลับไป แล้วพยักหน้าขึ้นลงไปมาราวกับเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดีเพียงไม่นานริมฝีปากบางบนใบหน้าน่ารักก็เหยียดยิ้มหยันออกมา แต่รอยยิ้มดังกล่าวกลับส่งไปไม่ถึงดวงตา พร้อมกับพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “ได้ ต้าไปก็ได้” เขาพูดออกมาได้เพียงแค่นั้นน้ำตาแห่งควา

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 68

    ส่งผลให้คุณหญิงเพ็ญแขที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย อดไม่ได้ที่จะตวาดเสียงดังลั่นออกไปว่า “นี่ ฉันบอกแกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าถ้ารักที่จะอยู่ที่นี่ก็อย่าแตะต้องเด็กคนนั้น...”แล้วปรี่เข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างอดรนทนไม่ไหวทว่าคุณหญิงเพ็ญแขพูดออกมาได้ดีเพียงแค่นั้น ก็มีเสียงของเจ้าขุนดังขึ้นมาว่า “แม่...ปล่อยผมจัดการ

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 67

    เจ้าขุนจึงคำรามออกมาอย่างทนไม่ไหว “กีตาร์” แล้วสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายแทบจะทันทีส่งผลให้กีตาร์ที่ได้เห็นสายตาของอีกฝ่าย ถึงกับรีบก้าวถอยหลังหนีอย่างหวาดหวั่น แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนยิ่งรีบหนีก็ยิ่งลนลานอย่างเต็มกำลัง จึงทำให้ขาทั้งสองข้างพันกัน แล้วล้มลงไปอีกครั้งหนึ่งจนได้ส่งผลให้เจ้าขุนสาวเท้าไปถ

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 66

    สิ้นคำพูดของอีกฝ่าย จึงทำให้กีตาร์รู้ได้ทันทีว่า ในตอนนี้เจ้าขุนรู้เรื่องที่ตัวเองส่งคนไปจัดการกับไอดินแล้วอย่างแน่นอนกีตาร์จึงทำใจดีสู้เสือ เขาทำหน้าตาใสซื่อ พร้อมกับพูดออกไป “พี่ขุนกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ ผมไม่เห็นเข้าใจเลย” แล้วพยายามก้าวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่าย เพื่อหมายจะใช้สายตาของตัวเองออดอ้อนให้คน

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 65

    เพราะเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าหากกระสุนเหล่านี้เจาะทะลุร่างกายของไอดินและเจ้านายสภาพของคนทั้งสองจะเป็นเช่นไร แล้วอดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจออกมายาวๆ หนึ่งทีจากนั้นจึงเหลียวหน้าหันไปมองสหายสนิทที่ขอยืมแรงมาช่วยในงานนี้ พร้อมกับพูดออกไปว่า “ขอบใจมาก ถ้าแกมาที่นี่ไม่ทันฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทั้งสองคนจะเป็นย

  • เพชฌฆาตฟันน้ำนม (Omegaverse)   บทที่ 64

    บทที่21จัดการท่ามกลางความโกลาหลที่แสนวุ่นวายภายในบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ เสียงของเจ้าขุนเรียกให้คนที่อยู่ด้านในเหลียวหน้าหันไปมองคนพูดแทบจะทันทีก่อนจะมีเสียงของนายตำรวจหนุ่มที่อุ้มเจ้านายเมื่อครู่นี้ สาวเท้าเดินไปหาอีกฝ่ายพร้อมก็พูดออกไปว่า “พวกเขาสบายดีไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”ได้ยินเช่นนั้นริมฝีปากบ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status