Home / LGBTQ+ / เพรงพ่าย / เกลียด

Share

เกลียด

Author: ลลนล
last update Huling Na-update: 2025-11-04 23:11:11

แต่พอเดินตามกันออกมานอกห้อง ผอ. ก็ไม่ลืมที่จะผายมือไปยังทิศทางหน้าอาคารอำนวยการ ว่าให้ยืนรอคนขับรถมารับที่ตรงนั้น

เมื่อผู้อำนวยการขับรถจากไป หมอปริญญ์ก็กลับมาอยู่เพียงลำพัง ที่อาคารพยาบาลไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีแม้ช้างสักเชือก ซึ่งอันนี้พอเข้าใจได้ว่า อาจจะไม่มีช้างที่ดูแลต่อเนื่องค้างคืน แต่ถึงจะมีก็อาจจะอยู่ในคอกที่เตรียมไว้ให้ต่างหาก

มันเกิดขึ้นได้ แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็คือ ขนาดเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มีสักคน สิ่งมีชีวิตที่มีตัวๆ พอมองเห็นได้ ก็น่าจะมีแค่เธอ และนกเกาะกิ่งไม้อีกสองตัวเท่านั้น

ไม่มีปัญหาๆ

คำๆ นี้ของผู้อำนวยการทำให้เธอถึงกับส่ายหน้ายิ้มขัน

ใครเชื่อก็บ้าแล้ว!

หญิงสาวยืนรออยู่ที่เดิมได้เกือบสิบนาที ก็ค่อยๆ สืบเท้ากลับเข้าสู่ตัวอาคาร

บอร์ดแผนงาน และบอร์ดจิปาถะ ถูกตกแต่งด้วยกระดาษหลากสีแบบฝีมือเด็กประถม ซึ่งมันเคยเหวี่ยงตัวออกจากความน่าสนใจมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพราะเวลานี้ ไม่มีสิ่งไหนที่น่าสนใจแม้แต่นิด มันเลยดูมีคุณค่าขึ้นมาทีละนิด ขณะที่คนคิ้วยับย่นเซ็งจัด กำลังขยับเท้าเป็นปู ขนานไปกับบอร์ดติดผนัง เพื่อเดินดูรูปถ่ายการทำงานของคนที่นี่ แต่แล้วหนึ่งในภาพนั้น มันก็ถ่ายติดสัตวแพทย์หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังหันหลังให้กล้อง ขณะยืนเท้าสะเอวแหงนมองครวญช้าง ที่กำลังนั่งอยู่บนคอช้าง

ท่ายืนแบบนี้ ทำท่าเท้าสะเอวแบบนี้ แบบที่แค่ดูจากข้างหลังก็รู้ว่ากำลังหนักใจกับอะไรบางอย่าง มันกำลังเป็นภาพที่ทำให้เลือดในกายของหมอปริญญ์กำลังเดือดจัด

สายตาดวงเดิม รีบตวัดไปให้ถ้วนทั่วทุกรูปที่มีภาพของหมอสาวคนนี้ปรากฏ แต่ให้ตายเหอะ ไม่มีรูปสักรูปที่ให้เห็นหน้า ซึ่งแต่ละรูปก็พร้อมใจไขปริศนา โผล่มาแค่มือบ้าง โผล่มาแค่ขาบ้าง โผล่มาแค่ต้นคอบ้าง เล่นเอาท้องน้อยร้อนวูบวาบด้วยความรู้สึกบางอย่าง

เธออธิบายความชุลมุนของอารมณ์ตัวเองไม่ได้จริงๆ!

ทำไมเหมือนกันได้ขนาดนี้ แม้กระทั่งสีผิวยังเฉดเดียวกัน ตัวสูงเท่ากันไปอีก...หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสงสัย ยืนหันรีหันขวาง ยกมือขึ้นกัดเล็บกรอดๆ

แล้วในที่สุด สายตาก็ไปปะทะเข้ากับบอร์ดเจ้าหน้าที่ในองค์กร และนึกโกรธมันมาก ที่เห็นแว้บๆ ว่ามีบางรูปหลุดหายออกไป เท้าเริ่มขยับ หัวใจก็เร่งจังหวะกระหน่ำ มือที่ยังค้างอยู่ริมฝีปากเริ่มสั่น จนเจ้าตัวต้องดึงมันออกมาตีเพี๊ยะเพื่อสงบสติอารมณ์

“จะสั่นทำไมวะ”

โอเคได้ เธอชนะค่ะปริญญ์ ที่ทำให้มันหยุดสั่น แต่เปลี่ยนมาเป็นเข่าอ่อนแทบทรุดลงตรงหน้าบอร์ดเจ้าหน้าที่นั่นแหละ

สพ.ญ. กิดากานต์ ไอยตระกูล

ชื่อไม่คุ้น แต่ใบหน้านั้นโคลนนิ่งกันมาทุกองศา!

“พี่...อูน”

พลันม่านน้ำตาก็บดบังภาพเบื้องหน้าให้พร่าเลือน ปริญญ์รีบหมุนตัวหนีจากพลังที่กระแทกเข้าหัวใจจนต้องยอบตัวลงนั่งยอง

ชื่อที่เห็นไม่ได้ทำให้ติดใจ แต่ทว่านามสกุลที่ไม่ใช่ของแฟนเก่าคนนั้น มันทำให้เธอครวญครางออกมาในใจ

แต่งงานไปแล้วจริงๆ หรือ!?

รู้สึกจุกๆ อยู่ในอก มันมีทั้งดีใจและผิดหวัง มันปวดมันหน่วงไปทั้งกายใจ ไม่สามารถจัดการความรู้สึกให้เป็นปกติได้ในทันที

เพราะผู้หญิงคนนั้น เคยมีอิทธิพลต่อจิตใจของหมอปริญญ์อย่างมาก มากเท่าที่ทำให้เธอกลายเป็นคนที่อีกคนเคยตราหน้า หลายใจ หยำเป ไม่มีความรับผิดชอบ

เธอทำแบบนั้นมาหมดแล้วจริงๆ ใช้ชีวิตหัวหกก้นขวิด เพื่อเรียกร้องความสนใจคนที่ไม่คิดจะหันกลับมามองกันอีก แล้วการกลับมาเจอกันครั้งนี้ เธอควรจะต้องวางตัวอย่างไร

ว่าแต่...มันใช่พี่จริงๆ รึเปล่าเหอะ

ร่างบอบบางค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นไปมองที่รูปนั้นอีกครั้ง

แต่คีย์ยังเกลียดพี่อยู่นะ เกลียดมากๆ

โชคชะตากำลังเล่นตลกขั้นรุนแรง ปริญญ์เอาแต่ยืนเขย่าขา อยู่ไม่สุข หนังนิ้วโป้งถูกกัดแทะด้วยความรู้สึกว้าวุ่น อารมณ์นี้ไม่ต่างจากตอนดักรอหมอรุ่นพี่ที่ตัวเองเคยแอบชอบ

หมออาภา คือคนนั้นที่เธอเคยตกหลุมรัก ผู้หญิงคนที่มีรอยยิ้มให้กับทุกสรรพสัตว์ และยังใจดีคอยสอนและดูแลกันตลอดเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันที่ลำปาง

แต่สิ่งเหล่านั้นมันกลับเป็นเพียงความลวง รักต่างวัยมันมีอยู่ช่องว่างหนึ่งคือความเกรงใจมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าช่องว่างนั้นมันถูกทำลายลงด้วยความไม่เชื่อใจ มันก็มีแต่จะตอบแทนกันด้วยความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายจะต้องได้รับมากกว่า

ใบหน้าสวยสง่านั้นคงทำให้หัวใจใครเจ็บปวดมานักต่อนัก คนอะไรกัน แค่มองเห็นด้านหลังก็รู้ว่าสวย เห็นแค่ปลายนิ้วก็ทำให้ใจเต้นแรงได้ แต่ทุกความรู้สึกที่กล่าวมา ปริญญ์อยากจะจารึกมันเอาไว้เป็นเพียงความทรงจำ เธอจะต้องไม่หลงมัวเมาไปกับสิ่งที่ไม่จริงนั้นอีกเด็ดขาด

เธอเอาแต่ยืนกระวนกระวายตัวร้อนผะผ่าวอยู่หน้าบอร์ดนั้นอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ความคิดต่างๆ นานา โถมกระหน่ำ แต่ก็สงบตัวเองได้ทัน เมื่อลุงอู๊ดขับรถกะบะสี่ประตูสีบลอนด์เงินเข้ามาจอดหน้าอาคารอำนวยการ

ทั้งสองทำความรู้จักกันในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็นั่งเคียงข้างกันออกมาจากโรงพยาบาล โดยที่มีคำถามแรกมาจากคนที่คิดว่าจิตใจสงบเพียงพอแล้วว่า

“หมออูนแต่งงานแล้วเหรอคะ” ปริญญ์รัวปากถามกับคนที่ยังไม่คุ้นเคย แต่เพราะความอยากรู้มันล้นใจ เธอจึงควบคุมปากตัวเองไม่ได้จริงๆ

พร้อมกันนั้น ลุงอู๊ดก็ถึงกับทำตาโตตกใจ ก่อนจะยิ้มปากกว้างถามกลับมาด้วยความประหลาดใจว่า

“รู้จักกับหมอมาก่อนเหรอครับ”

“มะ...เอ่อ ทะ ทำ ทำไมเหรอคะ”

ไม่แนบเนียนเอาเสียเลย จะตอบว่าไม่ก็ไม่ไปสิ แต่พอคิดอีกที...มันจะหนีความจริงได้อย่างไร หากคนรู้ว่าเคยทำงานด้วยกันที่ลำปาง

ร้อนตัวเป็นเหตุสังเกตได้ ทว่าใบหน้าเก้อๆ กลับเอาแต่มองหน้ารอคำตอบ

“ก็ที่นี่ไม่มีใครเรียกหมอกิว่าหมออูน มีแค่ผมที่เรียก”

“แล้วทำไมลุงอู๊ดถึงเรียกละคะ”

“เมียผมเคยทำงานที่บ้านหมออูนครับ เรียกอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”

“อะ...อ๋อ หมอเองก็เคยทำงานที่เดียวกันค่ะ” เธอตอบเสียงแห้งออกมา

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี คำถามนี้จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง

“แต่งรึยังคะ”

“ยังเป็นนางสาวอยู่เลยนะครับ”

“นางสาวก็แต่งได้ป่ะคะ”

คำถามวนๆ กวนๆ ดูไม่สบอารมณ์มันดูค่อนข้างข้ามขั้นการเพิ่งทำความรู้สึกเกินไป แต่หมอปริญญ์ก็ห้ามความอยากรู้ของตัวเองไม่ได้จริงๆ

“ก็ใช่นะครับ”

“แล้วแต่งยังอ่ะ ไหนบอกว่าเมียลุงเคยทำงานบ้านหมออูนไงคะ”

“เคยจริงครับ แต่เรื่องส่วนตัวแบบนั้น คนที่นี่ก็ไม่เคยพูดกัน เพราะหมอเองก็ทำตัวเหมือนโสดนะครับ”

“สรุป ไม่มีใครรู้เหรอคะ”

“ไม่มีใครรู้เรื่องส่วนตัวหมอขนาดนั้นหรอกครับ” ลุงอู๊ดบอกหน้าจืด

“แต่ก็ไม่มีใครวนเวียนหรือเคยมาค้างใช่มั้ยคะ”

“ไม่ครับ แต่หมอก็กลับบ้านบ่อยนะครับ”

“..............................”

จุกขึ้นมากลางอกอย่างแปลกประหลาด อยู่ๆ ปริญญ์ก็นึกโกรธคนที่พยายามชี้นำไปให้เธอคิดในสิ่งที่ไม่อยากยอมรับ ก็ไม่ได้อยากได้เขาแล้ว แต่อาการหวงก้างนี่มันคืออะไร ควรจะยินดีสิที่อาจจะมีใครคนอื่นที่ดูแลหมออูนดีกว่าเธอ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เพรงพ่าย   คุณหมอรถแห่

    เสียดายที่กิดากานต์สะบัดหน้าหนีไม่ได้เหมือนทุกครั้ง คนคอแข็งทื่อที่หมดอารมณ์จะต่อกรกันเป็นเด็กๆ ก็หมุนตัวไปอีกทาง เพื่อที่จะเริ่มงานในเช้าวันใหม่ได้อย่างขมุกขมัวปล่อยทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความรู้สึกห่วงใยมากขึ้นไปอีก...จริงๆ แล้ว ตั้งแต่ที่เลิกกัน ปริญญ์ก็ค่อยๆ คายความเป็นตัวตน แล้วกลืนเอาความหลากหลายของกิดากานต์มาเป็นตัวเองเธอเริ่มฟังเพลงลูกทุ่งได้เพราะขึ้นมานานหลายปีแล้ว และเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าหลงคิดว่าพวกเพลงเหล่านั้นคือสิ่งที่เข้ามาทดแทนคนรักเก่าและที่สำคัญที่สุด คือมันไม่ใช่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เราเลิกกัน...นับจากนี้ ไม่ว่ากิดากานต์จะจิกกัดกันเรื่องเก่าๆ มากขนาดไหน เธอก็จะพยายามไม่ใส่ใจ เพราะสิ่งที่เธอห่วงใยจนต้องรีบรับปากบ๊อบบี้ในทันที ก็เพราะสิ่งที่กิดากานต์ชื่นชอบ มันล้อมรอบไปด้วยหนุ่มๆ ทั้งหนุ่มแตกสาว และหนุ่มฉกรรจ์ พวกเขาให้เหตุผลว่าเพื่อไปคุ้มครอง คุณหมอรถแห่ ฉายาที่ไม่ใกล้กับบุคลิกที่คนทั่วไปพบเห็นแต่นั่นคือตัวตนที่กิดากานต์ไม่กล้าเปิดเผยกับปริญญ์มาก่อน อยู่ที่นี่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ คุณหมอรถแห่คงมีความสุขมากสินะ แล้วใครจะกล้าทำลายความสดใสนั้นลงคอล่ะไม่คิดว่าการกล

  • เพรงพ่าย   เปลี่ยนแผน

    ทำเหมือนห่วง ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ากิดากานต์นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลมาตั้งสามวัน เขาเรียกว่าห่วงประสาอะไร ไม่เห็นโผล่หัวไปเยี่ยมสักวัน!ผิดหวังอยู่ลึกๆ แล้วถุงผ้าสีเทาก็ถูกจับโยนเข้าไปในตู้เอกสารข้างผนังไปอย่างไม่ใยดี...อารมณ์ของเธอขุ่นมัวตั้งแต่เช้า กาแฟดำยามเช้าน่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้...เกล็ดกาแฟสำเร็จรูปถูกตักออกจากขวดด้วยใจจดจ่อ ทีละช้อนอย่างเชื่องช้า แล้วตามด้วยน้ำร้อนจัด ไอขาวพวยพุ่งลอยขึ้นเหนือแก้วกาแฟอย่างอ้อยอิ่งเสียงโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อดังขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำลายอารมณ์ที่กำลังจะดีขึ้นให้หม่นลง เพราะปลายสายคือผู้ช่วยที่รู้ใจ“มีอะไรบ๊อบบี้โทรมาแต่เช้า”“อาทิตย์นี้ บ้านดอนย่านาง คุณแม่ว่างมั้ยคะ” สาวสองผมทองผิวเป็นสีขาวจัด กรอกเสียงผ่านมือถือมาอย่างรู้ใจและทุกครั้งคำตอบที่ผู้ช่วยคิดว่าจะได้ก็คือ...กี่โมง?กิดากานต์ไม่มีทางปฏิเสธกิจกรรมที่แสนชื่นชอบเหล่านี้ไปได้!“คิดดูก่อน”มีคนผิดหวังในคำตอบไปแล้วหนึ่ง แต่เขาก็ยังจะกรีดเสียงตามออกมาอีกว่า “ไม่ได้นะแม่ รอบนี้เค้าจัดเต็ม ลุงอู๊ดก็รับปากแล้วด้วย คุณแม่จะมาชิ่งอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”“ก็บอกว่าคิดดูก่อน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่นี่

  • เพรงพ่าย   เยื่อใย

    เดชะบุญฟิล์มดำของเธอทำให้อีกฝ่ายคงไม่มีทางเห็นหน้าเจื่อนๆ ของกันได้ เฝือกอ่อนที่ดามคออยู่ของกิดากานต์ทำให้ความเป็นห่วงที่พยายามกลบมันไว้ กลับเผยตัวตนออกมาจนรู้สึกหมั่นไส้ตัวเองเมื่อไรเธอจะควบคุมตัวเองได้เสียที เธอเกลียดเลือดลมฟุ้งซ่านนี้เต็มทน เกลียดที่ใบหน้าสวยๆ นั้นยังทำให้ใจเต้นแรงได้เสมอให้ตายเหอะ เธอลืมรักที่ผ่านมาทั้งเจ็ดคนไปได้อย่างไร พวกหล่อนๆ ทั้งหลาย เธอจำได้แค่ชื่อ ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ยังหมุนตัวมองกันมาจนรถเข้าจอดที่โรงจอดรถ“ป้ายทะเบียนกรุงเทพนี่”“อ๋อใช่ หมอปริญญ์เคยบอกว่าเคยทำงานกับหมออูนมาก่อนนี่นา”ได้ยินอย่างนั้น กิดากานต์ก็ถึงกับกัดฟันแน่น หลับตาปิดลงเพื่อควบคุมสติ เพียงชั่วขณะก็ลืมตาขึ้นมาถามกันชัดๆ ว่า“ปริญญ์ พุทธพัลลภ?”“ใช่ครับ”“....................”หญิงสาวทำเพียงแสยะยิ้ม อารมณ์ใดๆ ไม่หลงเหลือ ตัวมันชา ขามันสั่น ใจเต้นรัว เหมือนเกลียดกลัวอะไรสักสิ่ง แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะหมุนตัวกลับ หากแต่ยังอยากยืนตั้งรับรออยู่ตรงนี้หญิงวัยสามสิบแปด เธอผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร เลยไม่คิดจะหนี อยากอยู่ตรงนี้ รออยู่ตรงนี้ รักครั้งนั้นเธอไม่ได้ผิด คนที่ควรจะไปจากที่นี่ไม

  • เพรงพ่าย   กลิ่นถ่านไฟเก่า

    แต่ขออภัยเถอะ เธอโกรธกันจนไม่อยากจะให้อีกฝ่ายมีความสุขแม้สักวินาทีเดียว“ก็ไม่มีอะไรนะคะ คือที่ถามน่ะ ถามเผื่อพี่ชายที่เพิ่งอกหักค่ะ เผื่อจะได้เป็นแม่สื่อแม่ชักอะไรประมาณนั้น”ปริญญ์หาทางลงด้วยเหตุผลที่ฟังเข้าท่าจนอีกคนเชื่อสนิท และเธอก็ผูกมิตรกับลุงอู๊ดได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ต้องสารภาพเลยว่า ตลอดเวลาที่ตรวจเช็คร่างกายพลายจุมพล เธอไม่มีสมาธิเท่าใดนัก ในหัวมันมีแต่เรื่องของกิดากานต์ มีทั้งเรื่องที่ทำให้สุขและเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตาสรุปแล้วเคสนี้ เธอก็ตัดสินใจบอกกับครวญช้างเจ้าของพลายจุมพลว่าให้เอาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้ทำการเอกซเรย์หาจุดแตกหักของกระดูกทุกอย่างเสร็จสิ้นลงไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งกลับมานั่งบนรถ เพื่อเตรียมตัวกลับ คนที่เคยถามมาตลอดทาง ก็เอาแต่นั่งนิ่งคล้ายมีความคิดวิ่งวนอยู่ในสมองตลอดเวลา“ผมจะไปส่งหมอปริญญ์ไว้ที่โรงพยาบาลเลยนะครับ”“อ๋อ...ค่ะ”“ส่งแล้วก็จะออกไปดูหมออูนที่โรงพยาบาลสักหน่อย วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว”“................”ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากใจสั่นๆ ขณะนี้หมอปริญญ์ไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองมายาวนานหลายชั่วโมงเหลือเกิน มีแต่แววตาสองจิตสอง

  • เพรงพ่าย   เกลียด

    แต่พอเดินตามกันออกมานอกห้อง ผอ. ก็ไม่ลืมที่จะผายมือไปยังทิศทางหน้าอาคารอำนวยการ ว่าให้ยืนรอคนขับรถมารับที่ตรงนั้นเมื่อผู้อำนวยการขับรถจากไป หมอปริญญ์ก็กลับมาอยู่เพียงลำพัง ที่อาคารพยาบาลไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีแม้ช้างสักเชือก ซึ่งอันนี้พอเข้าใจได้ว่า อาจจะไม่มีช้างที่ดูแลต่อเนื่องค้างคืน แต่ถึงจะมีก็อาจจะอยู่ในคอกที่เตรียมไว้ให้ต่างหากมันเกิดขึ้นได้ แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็คือ ขนาดเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มีสักคน สิ่งมีชีวิตที่มีตัวๆ พอมองเห็นได้ ก็น่าจะมีแค่เธอ และนกเกาะกิ่งไม้อีกสองตัวเท่านั้นไม่มีปัญหาๆคำๆ นี้ของผู้อำนวยการทำให้เธอถึงกับส่ายหน้ายิ้มขันใครเชื่อก็บ้าแล้ว!หญิงสาวยืนรออยู่ที่เดิมได้เกือบสิบนาที ก็ค่อยๆ สืบเท้ากลับเข้าสู่ตัวอาคารบอร์ดแผนงาน และบอร์ดจิปาถะ ถูกตกแต่งด้วยกระดาษหลากสีแบบฝีมือเด็กประถม ซึ่งมันเคยเหวี่ยงตัวออกจากความน่าสนใจมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพราะเวลานี้ ไม่มีสิ่งไหนที่น่าสนใจแม้แต่นิด มันเลยดูมีคุณค่าขึ้นมาทีละนิด ขณะที่คนคิ้วยับย่นเซ็งจัด กำลังขยับเท้าเป็นปู ขนานไปกับบอร์ดติดผนัง เพื่อเดินดูรูปถ่ายการทำงานของคนที่นี่ แต่แล้วหนึ่งในภาพนั้น มันก็ถ่ายติดสัตวแพทย

  • เพรงพ่าย   หมอปริญญ์

    “มาไม่สาย แต่กลับเร็ว เข็มนาฬิกาตรงเป๊ะ ก็ชิ่งเลยครับ”“ถือว่าไม่ผิด แล้วพักที่ไหนอ่ะ ทำไมไม่พักด้วยกันที่นี่”“บ้านนั้นหลังคารั่วยังเข้าไม่ได้ครับ” เขาพูดถึงบ้านพักอีกหลังที่ไม่มีคนอยู่มานานมากแล้ว“อยู่ด้วยกันก็ได้ ดีซะอีก หมอจะได้มีเพื่อน”“หมอปริญญ์รอมาคุยกับหมออูนก่อนครับว่าจะอนุญาตให้อยู่ด้วยรึเปล่า”นอกจากคอจะแข็งเพราะเฝือกแล้ว ดวงตาของคุณหมอกิดากานต์ยังจะขยันกระตุกถี่ๆ คล้ายจะเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่างปริน มันคือปรินแบบไหน ปริญ ปริน ปริณ ปิน ปริญญ์ไม่หรอกน่า มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น...ถ้าอย่างนั้น ก็ขอถามอีกสักคำถามแล้วกัน“คนขอนแก่นเหรอ”“ไม่นะครับ เพราะตอนนี้พักกับเพื่อนในตัวเมือง ไปกลับหกสิบกิโล เลยอยากพักอยู่ที่นี่”“คนที่ไหน”เอาซี้...หากตอบมาว่าเป็นคนกรุงเทพฯ กิดากานต์สาบานกับตัวเองเลยว่า จะขอกรี๊ดให้มันดังๆ เอาให้สุดเสียงตอนนี้ ตรงนี้เลย พับผ่าสิ!“อันนี้ผมไม่ทราบ”หญิงสาวพ่นลมหายใจฟืดยาวออกมาไม่รู้ตัว หลังจากลุ้นจนตัวโก่ง แต่แล้วก็ต้องรีบหันไปทางเข้าโรงพยาบาล เมื่อลุงคนขับรถชี้บอกว่า“นั่นไง หมอมาแล้ว”เก๋งสีดำ ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ตัวอักษรในป้ายตามระยะสายตาของห

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status