Home / LGBTQ+ / เพรงพ่าย / กลิ่นถ่านไฟเก่า

Share

กลิ่นถ่านไฟเก่า

Author: ลลนล
last update Huling Na-update: 2025-11-04 23:11:44

แต่ขออภัยเถอะ เธอโกรธกันจนไม่อยากจะให้อีกฝ่ายมีความสุขแม้สักวินาทีเดียว

“ก็ไม่มีอะไรนะคะ คือที่ถามน่ะ ถามเผื่อพี่ชายที่เพิ่งอกหักค่ะ เผื่อจะได้เป็นแม่สื่อแม่ชักอะไรประมาณนั้น”

ปริญญ์หาทางลงด้วยเหตุผลที่ฟังเข้าท่าจนอีกคนเชื่อสนิท และเธอก็ผูกมิตรกับลุงอู๊ดได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ต้องสารภาพเลยว่า ตลอดเวลาที่ตรวจเช็คร่างกายพลายจุมพล เธอไม่มีสมาธิเท่าใดนัก ในหัวมันมีแต่เรื่องของกิดากานต์ มีทั้งเรื่องที่ทำให้สุขและเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตา

สรุปแล้วเคสนี้ เธอก็ตัดสินใจบอกกับครวญช้างเจ้าของพลายจุมพลว่าให้เอาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้ทำการเอกซเรย์หาจุดแตกหักของกระดูก

ทุกอย่างเสร็จสิ้นลงไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งกลับมานั่งบนรถ เพื่อเตรียมตัวกลับ คนที่เคยถามมาตลอดทาง ก็เอาแต่นั่งนิ่งคล้ายมีความคิดวิ่งวนอยู่ในสมองตลอดเวลา

“ผมจะไปส่งหมอปริญญ์ไว้ที่โรงพยาบาลเลยนะครับ”

“อ๋อ...ค่ะ”

“ส่งแล้วก็จะออกไปดูหมออูนที่โรงพยาบาลสักหน่อย วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว”

“................”

ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากใจสั่นๆ ขณะนี้หมอปริญญ์ไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองมายาวนานหลายชั่วโมงเหลือเกิน มีแต่แววตาสองจิตสองใจที่ลุงอู๊ดแปลไม่ออกว่า ที่มองมานิ่งๆ แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร

“ไปด้วยกันมั้ยครับ”

เป็นการยิงคำถามแบบไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ตัวก็เหมือนจะลุกเป็นไฟ เล่นเอาคนขี้ขลาดบอกกันทันทีว่า “ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวไม่มีคนรอรับเคส เอาไว้เลิกงานแล้วจะแวะเยี่ยมจะเหมาะกว่า”

“ได้ครับ”

“แล้วหมออูนฟื้นรึยังคะ”

“ยังไม่มีใครส่งข่าวเลยครับ เลยอยากจะเข้าไปดูด้วยตัวเองสักหน่อยครับ”

จากนั้น หมอปริญญ์ก็จมอยู่ในความเงียบต่อไป...ตัวก็เล็กเท่านั้น ทำไมไม่คิดระวัง ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ที่ไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี

ทว่าสิ่งเหล่านี้คือความห่วงใยหรือเปล่า แต่ทำยังไงปริญญ์ก็สลัดมันไม่ออก จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานตอนเย็น

โรงพยาบาลคนอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลช้าง และมันเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากอะไรเลย ที่จะหมุนพวงมาลัยไปในทิศทางตรงกันข้ามของทางกลับ

ใจลอยๆ ตัวลอยๆ คิดว่าคงจะทำอะไรต่อจากนี้ไม่ได้ หากไม่ได้พาตัวเองเข้ามาในโรงพยาบาลที่มีหมอกิดากานต์นอนรักษาอยู่

อย่างน้อยก็เคยรักกัน...รักมาก เลยเกลียดมาก เมื่ออะไรๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง

สองขาเดินลัดเลาะไปตามอาคารชั้นเดียว ที่เชื่อมต่อหลายตึกเอาไว้ด้วยกัน หญิงสาวเดินไปเหมือนมีจุดหมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากจะถอยกลับหลัง เพราะยังไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากทักทายคำใด ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายออกจะเกลียดกันมากกว่าที่เธอรู้สึกด้วยซ้ำ

แล้วมาที่นี่ทำไม หญิงสาวได้แต่ยืนหน้าเจื่อนกัดนิ้วทำท่าลับๆ ล่อๆ อยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยรวมหญิง กลิ่นโรงพยาบาลทำให้ความเป็นห่วงชนะทุกอย่าง และรู้ตัวอีกทีก็เดินเข้ามาอยู่ในห้องผู้ป่วย ที่มีหลายเตียงเรียงราย แถมร้อนอบอ้าวจนนึกอยากจะทำเรื่องย้ายออกจากที่นี่ให้ไวที่สุด

หากเป็นแต่ก่อน เธอคงทนเห็นคนรักอยู่ในที่แบบนี้ไม่ได้ แต่ครั้งนี้มันไม่เหลือสิทธิ์นั้น และต้องชะงักเท้าไม่ให้เกินไปกว่าล็อกที่เธอกำลังจะก้าวเข้าไป เพราะมีอยู่หนึ่งเตียงที่มีคนเยี่ยมล้อมรอบเตียงดังกล่าว

และแค่ปลายนิ้วก้อยเท้าที่โผล่ออกมาให้เห็น ท่ามกลางผู้คนที่กำลังรุมล้อม หัวใจของคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็พลันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ได้แต่แอบมองอยู่ที่เดิมอย่างระวังตัว

“อูนฟื้นแล้วครับคุณพ่อ กำลังทำเรื่องส่งตัวเข้าห้องพิเศษ ไม่น่าจะมีอะไรมาก ฟกช้ำนิดหน่อยครับ”

เสียงนั้นดังมาจากด้านหลัง และค่อยๆ เบาเสียงลงไปตามจังหวะที่แพทย์เจ้าของไข้กับชายสูงอายุ ที่ค่อยๆ เดินตามกันไปยังทิศทางเตียงที่มีคนยืนรอบ

เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงให้มึนงงจนยืนเซ...จำได้แม่น นายแพทย์ผู้มีบุคลิกกวนๆ ห่ามๆ อันเป็นสไตล์ที่ถ้าไม่สวมเสื้อกาวน์ ก็คงคิดไม่ถึงว่านี่คือนายแพทย์ประจำโรงพยาบาล ที่กำลังจะขึ้นตำแหน่ง ผอ. ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

และที่สำคัญ เขาคือแฟนเก่า และเธอก็คือแฟนเก่า...ต่างเป็นแฟนเก่าของผู้หญิงคนนั้นที่นอนให้เห็นแค่ปลายเท้าอยู่บนเตียง

กลิ่นถ่านไฟเก่ามันคละคลุ้งไปทั่วห้องผู้ป่วย และตั้งข้อสงสัยกับตัวเองอีกครั้งว่า

หรือจริงๆ แล้ว มันจะมีแค่เธอที่เป็นแฟนเก่า ส่วนพวกเขา...เธอไม่อยากคิด

เป็นอีกครั้ง ที่พอรู้ตัวอีกที ก็มานั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์ หญิงสาวซบใบหน้าลงไปหามัน สองมือเกาะพวงมาลัยเอาไว้หลวมๆ

เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ เธอกำลังจะกลับมาดูคนเขารักกัน คนที่เป็นต้นเหตุทำให้รักของพวกเธอพัง คราวนี้เธอโดนรับน้องหนักเกินไปจริงๆ

หนักชนิดที่ว่าน้ำตาไหลไม่รู้ตัว...โง่เอง ที่ยังรู้สึก

ยิ่งเกลียดก็ยิ่งสะท้อนออกมาว่าแยแส

เธอเคยรักผู้หญิงคนนั้นน้อยลงหรือเปล่านะ?

มันช่างเป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ

ตั้งแต่วันที่กิดากานต์เข้าโรงพยาบาล จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล ปริญญ์ก็สาบานกับตัวเองว่า จะไม่เสนอหน้าเข้าไปหาก่อนอีกแล้ว

เธอกลัวใจตัวเอง เพราะความทรมานแทบจะไม่ต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้เอาตัวไปจมจ่อมอยู่กับอารมณ์แบบนั้นนานๆ เหมือนแต่ก่อน เธอแข็งแรงขึ้นกว่าครั้งนั้น แต่ที่ทำให้ต้องยิ้มเยาะตัวเองอยู่ในทุกครั้งที่มองกระจก ก็ตอนที่เข้าใจแล้วว่า ความเจ็บปวดในรักแต่ละครั้งมันไม่เคยเท่ากันเลย

แผลใหม่ที่เพิ่งได้มา มันยังเจ็บไม่ได้เท่าเสี้ยวการกลับมาเจอแฟนคนแรก เจ็บทั้งๆ ที่กิดากานต์ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนของเธอด้วยซ้ำ

หรือที่มันเจ็บมากๆ ก็เพราะว่า เพิ่งมารู้เอาทีหลังว่า สุดท้ายพี่สาวก็กลับไปหาคนรักเก่าที่เป็นผู้ชาย ส่วนเธอเองก็คงจะเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวในความลับเท่านั้น

ไม่เคยมีตัวตนหรือสถานะใดให้คนอื่นรับรู้ มันเจ็บตรงนี้ เจ็บตรงที่ไม่เคยยอมรับกันสักวินาทีเดียว!

ผ่านมาก็หลายวัน ปริญญ์ซ้อมบทให้กับตัวเอง พยายามเตือนสติไม่ให้สั่นเวลาเจอหน้า เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรก็คงจะหนีกันไม่พ้น

และในที่สุด วันนี้ก็มาถึง วันที่เธอยังไม่รู้ว่า กิดากานต์ออกจากโรงพยาบาลมาตั้งแต่เมื่อคืน การที่เธอพยายามไม่ใส่ใจ ก็น่าจะเป็นการแสดงออกว่าไม่ได้รัก เธอกำลังเล่นละครหลอกตัวเองอยู่ในมุมแคบๆ ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

และเป็นเหมือนทุกๆ วันที่เวลาขับรถเข้ามาในโรงพยาบาลช้าง เธอจะขับช้าๆ เพื่อที่จะลุ้นว่า แฟนเก่าจะโผล่มาเมื่อไหร่ หายดีหรือยัง จะดีใจไหมที่ได้เห็นเธอ และการเหยียบคันเร่งแบบแค่แตะๆ ปล่อยให้รถไหลไปเอื่อยๆ มันก็ทำเอาตัวเธอชาร้อนวูบวาบ ใบหน้าเป็นสีแดงซ่านสลับซีดเผือด เมื่อเห็นในมุมลิบๆ นั้นเป็นร่างผอมบางของกิดากานต์ที่กำลังหันหน้ามาที่ทางรถของเธอด้วยความอยากรู้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เพรงพ่าย   คุณหมอรถแห่

    เสียดายที่กิดากานต์สะบัดหน้าหนีไม่ได้เหมือนทุกครั้ง คนคอแข็งทื่อที่หมดอารมณ์จะต่อกรกันเป็นเด็กๆ ก็หมุนตัวไปอีกทาง เพื่อที่จะเริ่มงานในเช้าวันใหม่ได้อย่างขมุกขมัวปล่อยทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความรู้สึกห่วงใยมากขึ้นไปอีก...จริงๆ แล้ว ตั้งแต่ที่เลิกกัน ปริญญ์ก็ค่อยๆ คายความเป็นตัวตน แล้วกลืนเอาความหลากหลายของกิดากานต์มาเป็นตัวเองเธอเริ่มฟังเพลงลูกทุ่งได้เพราะขึ้นมานานหลายปีแล้ว และเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าหลงคิดว่าพวกเพลงเหล่านั้นคือสิ่งที่เข้ามาทดแทนคนรักเก่าและที่สำคัญที่สุด คือมันไม่ใช่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เราเลิกกัน...นับจากนี้ ไม่ว่ากิดากานต์จะจิกกัดกันเรื่องเก่าๆ มากขนาดไหน เธอก็จะพยายามไม่ใส่ใจ เพราะสิ่งที่เธอห่วงใยจนต้องรีบรับปากบ๊อบบี้ในทันที ก็เพราะสิ่งที่กิดากานต์ชื่นชอบ มันล้อมรอบไปด้วยหนุ่มๆ ทั้งหนุ่มแตกสาว และหนุ่มฉกรรจ์ พวกเขาให้เหตุผลว่าเพื่อไปคุ้มครอง คุณหมอรถแห่ ฉายาที่ไม่ใกล้กับบุคลิกที่คนทั่วไปพบเห็นแต่นั่นคือตัวตนที่กิดากานต์ไม่กล้าเปิดเผยกับปริญญ์มาก่อน อยู่ที่นี่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ คุณหมอรถแห่คงมีความสุขมากสินะ แล้วใครจะกล้าทำลายความสดใสนั้นลงคอล่ะไม่คิดว่าการกล

  • เพรงพ่าย   เปลี่ยนแผน

    ทำเหมือนห่วง ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ากิดากานต์นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลมาตั้งสามวัน เขาเรียกว่าห่วงประสาอะไร ไม่เห็นโผล่หัวไปเยี่ยมสักวัน!ผิดหวังอยู่ลึกๆ แล้วถุงผ้าสีเทาก็ถูกจับโยนเข้าไปในตู้เอกสารข้างผนังไปอย่างไม่ใยดี...อารมณ์ของเธอขุ่นมัวตั้งแต่เช้า กาแฟดำยามเช้าน่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้...เกล็ดกาแฟสำเร็จรูปถูกตักออกจากขวดด้วยใจจดจ่อ ทีละช้อนอย่างเชื่องช้า แล้วตามด้วยน้ำร้อนจัด ไอขาวพวยพุ่งลอยขึ้นเหนือแก้วกาแฟอย่างอ้อยอิ่งเสียงโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อดังขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำลายอารมณ์ที่กำลังจะดีขึ้นให้หม่นลง เพราะปลายสายคือผู้ช่วยที่รู้ใจ“มีอะไรบ๊อบบี้โทรมาแต่เช้า”“อาทิตย์นี้ บ้านดอนย่านาง คุณแม่ว่างมั้ยคะ” สาวสองผมทองผิวเป็นสีขาวจัด กรอกเสียงผ่านมือถือมาอย่างรู้ใจและทุกครั้งคำตอบที่ผู้ช่วยคิดว่าจะได้ก็คือ...กี่โมง?กิดากานต์ไม่มีทางปฏิเสธกิจกรรมที่แสนชื่นชอบเหล่านี้ไปได้!“คิดดูก่อน”มีคนผิดหวังในคำตอบไปแล้วหนึ่ง แต่เขาก็ยังจะกรีดเสียงตามออกมาอีกว่า “ไม่ได้นะแม่ รอบนี้เค้าจัดเต็ม ลุงอู๊ดก็รับปากแล้วด้วย คุณแม่จะมาชิ่งอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”“ก็บอกว่าคิดดูก่อน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่นี่

  • เพรงพ่าย   เยื่อใย

    เดชะบุญฟิล์มดำของเธอทำให้อีกฝ่ายคงไม่มีทางเห็นหน้าเจื่อนๆ ของกันได้ เฝือกอ่อนที่ดามคออยู่ของกิดากานต์ทำให้ความเป็นห่วงที่พยายามกลบมันไว้ กลับเผยตัวตนออกมาจนรู้สึกหมั่นไส้ตัวเองเมื่อไรเธอจะควบคุมตัวเองได้เสียที เธอเกลียดเลือดลมฟุ้งซ่านนี้เต็มทน เกลียดที่ใบหน้าสวยๆ นั้นยังทำให้ใจเต้นแรงได้เสมอให้ตายเหอะ เธอลืมรักที่ผ่านมาทั้งเจ็ดคนไปได้อย่างไร พวกหล่อนๆ ทั้งหลาย เธอจำได้แค่ชื่อ ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ยังหมุนตัวมองกันมาจนรถเข้าจอดที่โรงจอดรถ“ป้ายทะเบียนกรุงเทพนี่”“อ๋อใช่ หมอปริญญ์เคยบอกว่าเคยทำงานกับหมออูนมาก่อนนี่นา”ได้ยินอย่างนั้น กิดากานต์ก็ถึงกับกัดฟันแน่น หลับตาปิดลงเพื่อควบคุมสติ เพียงชั่วขณะก็ลืมตาขึ้นมาถามกันชัดๆ ว่า“ปริญญ์ พุทธพัลลภ?”“ใช่ครับ”“....................”หญิงสาวทำเพียงแสยะยิ้ม อารมณ์ใดๆ ไม่หลงเหลือ ตัวมันชา ขามันสั่น ใจเต้นรัว เหมือนเกลียดกลัวอะไรสักสิ่ง แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะหมุนตัวกลับ หากแต่ยังอยากยืนตั้งรับรออยู่ตรงนี้หญิงวัยสามสิบแปด เธอผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร เลยไม่คิดจะหนี อยากอยู่ตรงนี้ รออยู่ตรงนี้ รักครั้งนั้นเธอไม่ได้ผิด คนที่ควรจะไปจากที่นี่ไม

  • เพรงพ่าย   กลิ่นถ่านไฟเก่า

    แต่ขออภัยเถอะ เธอโกรธกันจนไม่อยากจะให้อีกฝ่ายมีความสุขแม้สักวินาทีเดียว“ก็ไม่มีอะไรนะคะ คือที่ถามน่ะ ถามเผื่อพี่ชายที่เพิ่งอกหักค่ะ เผื่อจะได้เป็นแม่สื่อแม่ชักอะไรประมาณนั้น”ปริญญ์หาทางลงด้วยเหตุผลที่ฟังเข้าท่าจนอีกคนเชื่อสนิท และเธอก็ผูกมิตรกับลุงอู๊ดได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ต้องสารภาพเลยว่า ตลอดเวลาที่ตรวจเช็คร่างกายพลายจุมพล เธอไม่มีสมาธิเท่าใดนัก ในหัวมันมีแต่เรื่องของกิดากานต์ มีทั้งเรื่องที่ทำให้สุขและเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตาสรุปแล้วเคสนี้ เธอก็ตัดสินใจบอกกับครวญช้างเจ้าของพลายจุมพลว่าให้เอาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้ทำการเอกซเรย์หาจุดแตกหักของกระดูกทุกอย่างเสร็จสิ้นลงไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งกลับมานั่งบนรถ เพื่อเตรียมตัวกลับ คนที่เคยถามมาตลอดทาง ก็เอาแต่นั่งนิ่งคล้ายมีความคิดวิ่งวนอยู่ในสมองตลอดเวลา“ผมจะไปส่งหมอปริญญ์ไว้ที่โรงพยาบาลเลยนะครับ”“อ๋อ...ค่ะ”“ส่งแล้วก็จะออกไปดูหมออูนที่โรงพยาบาลสักหน่อย วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว”“................”ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากใจสั่นๆ ขณะนี้หมอปริญญ์ไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองมายาวนานหลายชั่วโมงเหลือเกิน มีแต่แววตาสองจิตสอง

  • เพรงพ่าย   เกลียด

    แต่พอเดินตามกันออกมานอกห้อง ผอ. ก็ไม่ลืมที่จะผายมือไปยังทิศทางหน้าอาคารอำนวยการ ว่าให้ยืนรอคนขับรถมารับที่ตรงนั้นเมื่อผู้อำนวยการขับรถจากไป หมอปริญญ์ก็กลับมาอยู่เพียงลำพัง ที่อาคารพยาบาลไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีแม้ช้างสักเชือก ซึ่งอันนี้พอเข้าใจได้ว่า อาจจะไม่มีช้างที่ดูแลต่อเนื่องค้างคืน แต่ถึงจะมีก็อาจจะอยู่ในคอกที่เตรียมไว้ให้ต่างหากมันเกิดขึ้นได้ แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็คือ ขนาดเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มีสักคน สิ่งมีชีวิตที่มีตัวๆ พอมองเห็นได้ ก็น่าจะมีแค่เธอ และนกเกาะกิ่งไม้อีกสองตัวเท่านั้นไม่มีปัญหาๆคำๆ นี้ของผู้อำนวยการทำให้เธอถึงกับส่ายหน้ายิ้มขันใครเชื่อก็บ้าแล้ว!หญิงสาวยืนรออยู่ที่เดิมได้เกือบสิบนาที ก็ค่อยๆ สืบเท้ากลับเข้าสู่ตัวอาคารบอร์ดแผนงาน และบอร์ดจิปาถะ ถูกตกแต่งด้วยกระดาษหลากสีแบบฝีมือเด็กประถม ซึ่งมันเคยเหวี่ยงตัวออกจากความน่าสนใจมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพราะเวลานี้ ไม่มีสิ่งไหนที่น่าสนใจแม้แต่นิด มันเลยดูมีคุณค่าขึ้นมาทีละนิด ขณะที่คนคิ้วยับย่นเซ็งจัด กำลังขยับเท้าเป็นปู ขนานไปกับบอร์ดติดผนัง เพื่อเดินดูรูปถ่ายการทำงานของคนที่นี่ แต่แล้วหนึ่งในภาพนั้น มันก็ถ่ายติดสัตวแพทย

  • เพรงพ่าย   หมอปริญญ์

    “มาไม่สาย แต่กลับเร็ว เข็มนาฬิกาตรงเป๊ะ ก็ชิ่งเลยครับ”“ถือว่าไม่ผิด แล้วพักที่ไหนอ่ะ ทำไมไม่พักด้วยกันที่นี่”“บ้านนั้นหลังคารั่วยังเข้าไม่ได้ครับ” เขาพูดถึงบ้านพักอีกหลังที่ไม่มีคนอยู่มานานมากแล้ว“อยู่ด้วยกันก็ได้ ดีซะอีก หมอจะได้มีเพื่อน”“หมอปริญญ์รอมาคุยกับหมออูนก่อนครับว่าจะอนุญาตให้อยู่ด้วยรึเปล่า”นอกจากคอจะแข็งเพราะเฝือกแล้ว ดวงตาของคุณหมอกิดากานต์ยังจะขยันกระตุกถี่ๆ คล้ายจะเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่างปริน มันคือปรินแบบไหน ปริญ ปริน ปริณ ปิน ปริญญ์ไม่หรอกน่า มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น...ถ้าอย่างนั้น ก็ขอถามอีกสักคำถามแล้วกัน“คนขอนแก่นเหรอ”“ไม่นะครับ เพราะตอนนี้พักกับเพื่อนในตัวเมือง ไปกลับหกสิบกิโล เลยอยากพักอยู่ที่นี่”“คนที่ไหน”เอาซี้...หากตอบมาว่าเป็นคนกรุงเทพฯ กิดากานต์สาบานกับตัวเองเลยว่า จะขอกรี๊ดให้มันดังๆ เอาให้สุดเสียงตอนนี้ ตรงนี้เลย พับผ่าสิ!“อันนี้ผมไม่ทราบ”หญิงสาวพ่นลมหายใจฟืดยาวออกมาไม่รู้ตัว หลังจากลุ้นจนตัวโก่ง แต่แล้วก็ต้องรีบหันไปทางเข้าโรงพยาบาล เมื่อลุงคนขับรถชี้บอกว่า“นั่นไง หมอมาแล้ว”เก๋งสีดำ ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ตัวอักษรในป้ายตามระยะสายตาของห

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status