Share

4...ลิขิตพรหม (2)

Penulis: rasita_suin
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-24 16:32:25

คุณรุจีรัตน์หยิบมือถือขึ้นมาพูดคุยด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากเดินนำกัญญานันไปยืนรออยู่ที่จุดหนึ่งของสนามบิน โดยที่คนเป็นลูกสาวถือกระเป๋าเดินทางกะทัดรัดทั้งสองใบ แม้ในตอนแรกคุณชายพงศกรจะบอกให้พาเด็กในบ้านมาด้วย ทว่าคุณรุจีรัตน์เห็นว่ามาแค่นี้สะดวกดีแล้วก็ไม่อยากเสียค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่ม

ไม่ถึงสิบนาทีคุณรุจีรัตน์ก็ทักใครคนหนึ่ง ใบหน้ายิ้มแย้มสดใสทำให้กัญญานันที่ยืนมองนั่นนี่ไปเรื่อยๆ ต้องหันไปมองตาม

“เจ้า ไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหมคะ”

กัญญานันเห็นผู้หญิงวัยใกล้เคียงกับผู้เป็นแม่ในชุดสวยที่ดูก็รู้ว่าราคาแพง แม้จะเป็นเสื้อคลุมผ้าไทยกับกางเกงผ้าสบายๆ ก็ตาม มีผู้ชายเดินตามหลังมาสองคน แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจมองเนื่องจากคุณรุจีรัตน์หันมาจับมือเธอให้ก้าวเข้าไปใกล้ท่าน

“รุจี ไม่น่าเชื่อ กี่ปีกี่ปีก็ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะเธอ”

“แหม เจ้าก็เหมือนกันค่ะ”

ทั้งสองสาววัยห้าสิบกว่าจับมือยิ้มให้กันอย่างยินดี เพราะครั้งล่าสุดก็คือวันแต่งงานของเจ้าปัทมาดาราที่เชิญเพื่อนสมัยเรียนในคอนแวนต์ด้วยกันมาร่วมงาน แล้วคุณรุจีรัตน์ก็แนะนำกัญญานัน

“นี่กัญญานัน น้องก้อยลูกสาวคนเล็กของรุจีค่ะเจ้า น้องก้อยไหว้เจ้าปัทมาดาราซะลูก เจ้าเป็นเพื่อนเก่าของแม่”

หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักน่าใคร่ข้างกายคุณรุจีรัตน์ยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อย แม้ผมยาวสลวยที่ถูกถักรวบลวกๆ จะรุ่ยร่ายบ้างหากก็ไม่อาจบดบังความงดงามได้

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีจ้ะหนู ตายจริง ลูกสาวคนเล็กของเธอเหรอรุจี สวยน่ารักน่าชังจริง”

เจ้าปัทมาดาราเอ่ยชมด้วยความเอ็นดู ทั้งยังยื่นมือไปจับมือเรียวบางที่สวยราวลำเทียนกุมไว้เบาๆ รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกสบตาคู่สวย

ในขณะที่สามสาวต่างก็ยิ้มให้กันอยู่นั้น ชายหนุ่มร่างสูงกำยำที่มีแว่นดำสนิทบดบังดวงตาคู่คมสีน้ำตาลเข้มกลับนิ่งงัน เขาแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมผ้าพลิ้วเบาสบายกับกางเกงยีนส์สีดำพอดีตัว ไม่คิดว่าจะได้พบกันอีก

ชายหนุ่มรู้สึกถึงบรรยากาศอบอวลอ่อนหวานลอยอยู่รอบตัวเมื่ออีกฝ่ายยิ้มหวานกับเจ้าแม่ของเขา ใบหน้าเธอยามมีเครื่องหน้าแต้มบางเบาสวยกว่าตอนแต่งหน้าและอยู่ในชุดนางรำ เปรมินทร์จำหญิงสาวได้ทันที ราวกับใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางของเธออยู่ในความทรงจำส่วนลึกของเขาอยู่แล้วตลอดเวลา ไม่ต้องอยู่ในชุดฟ้อนโบราณเขาก็รู้ว่าเธอคือนางรำที่เขาฝันถึงเสมอ

“ตามินทร์”

“ครับ”

เป็นครั้งแรกที่เปรมินทร์รู้สึกใจเต้นแรงกับคำเรียกของผู้เป็นแม่ ขอบใจสติของตัวเองที่ไม่ได้หลุดลอยไปจนเจ้าแม่เขาต้องเรียกหลายครั้งให้ได้อับอาย

“นี่คุณรุจีรัตน์ ภรรยาของคุณชายพงศกร อรรถพันธ์พงศ์ เพื่อนเก่าแม่ กับลูกสาวคนเล็ก หนูก้อย ใช่ไหมจ๊ะลูก”

ท้ายประโยคเจ้าปัทมาดาราหันไปถามกับคนอายุน้อยกว่าเสียงหวาน ซึ่งหญิงสาวก็รับคำ

“ค่ะ”

เปรมินทร์ถอดแว่นออกอย่างมีมารยาท ก่อนจะยกมือไหว้หญิงผู้เป็นเพื่อนแม่

“สวัสดีครับ”

“ตามินทร์ลูกชายฉันจ้ะรุจี”

เจ้าปัทมาดาราสำทับอีกครั้ง

“สวัสดีค่ะ”

คุณรุจีรัตน์ตอบรับยิ้มตาพราวเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มชัดเจน

ในขณะนั้นกัญญานันเองก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มเช่นกันเพราะมั่นใจว่าเขาคงอายุมากกว่า

เปรมินทร์รับไหว้ใบหน้านิ่งขรึมไม่แสดงอารมณ์ใดๆ จงใจจ้องตากลมโตคู่หวานตรงๆ ราวกับต้องการอ่านความคิดของอีกฝ่าย หากก็ไม่เห็นแววใดนอกจากประกายสวยงามจนเขาแทบตาพร่า ทำเอาต้องก่นด่าตัวเองในใจที่มัวหลงวนอยู่ในดวงตาคู่ดำกลมโตแทน เขาละสายตาจากหญิงสาวได้เพราะคำพูดของคุณรุจีรัตน์

“เอ...คุณมินทร์ เปรมินทร์ ที่เป็นเพื่อนกับตากลางตอนเรียนที่อเมริกาหรือเปล่าคะ ตากลาง กิตติกรน่ะค่ะ ดิฉันคุ้นๆ ว่าตากลางเคยพูดถึงเพื่อนทางเหนืออยู่เหมือนกัน”

“อ๋อ ครับ ผมพอจะทราบอยู่บ้างว่านายกลางนามสกุลอรรถพันธ์พงศ์ ตอนแรกที่ได้ยินเจ้าแม่บอกผมก็สะกิดใจอยู่เหมือนกัน ได้พบคุณน้า...เอ่อ คุณรุจีรัตน์แม่ของนายกลางโดยบังเอิญแบบนี้ผมยินดีมากครับ แล้วผมก็ต้องขอโทษคุณรุจีรัตน์ด้วยนะครับที่ไม่มีโอกาสได้ไปกราบเลยสักครั้ง”

เปรมินทร์ตอบคำถามอย่างสุภาพ รู้มารยาทในวงสังคมเป็นอย่างดี

“อุ๊ย...เรียกแม่หรือน้าก็ได้ค่ะ แล้วก็เรื่องกราบไหว้อะไรก็ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ คุณมินทร์จำเพื่อนสมัยเรียนเมืองนอกอย่างตากลางได้น้าก็ดีใจมากแล้ว”

คุณรุจีรัตน์เอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน ส่วนกัญญานันมองชายหนุ่มอย่างสนใจกว่าตอนแรกเพราะเขาเป็นเพื่อนของพี่ชาย เขาเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบสุดๆ เท่าที่เคยพบเจอ เธอคิดแค่นั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก ขณะที่เจ้าปัทมาดาราตาโต

“จริงเหรอตามินทร์”

“ครับเจ้าแม่”

“ดีจัง คนกันเองทั้งนั้นเลย...ยืนคุยกันเมื่อยแล้ว ไปที่รถดีกว่า แล้วเราจะได้คุยกันเรื่องที่รุจีบอกว่าอยากปรึกษาด้วย”

“ค่ะเจ้า”

คุณรุจีรัตน์เดินตามแรงจูงของเจ้าปัทมาดารา ในขณะที่กัญญานันหันกลับไปที่กระเป๋าทั้งสองใบ ทว่าพอมือเรียวสวยจับที่กระเป๋าของตนเอง มือหนาใหญ่ของใครคนหนึ่งก็ตามลงมาทาบทับ ความอบอุ่นที่สัมผัสไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างสวยสะดุ้งรีบปล่อยมือ เมื่อหันมองก็เห็นลูกชายของเจ้าปัทมาดารายืนอยู่ใกล้กับตนเองจึงผละออกเล็กน้อยด้วยใบหน้ามึนงง

“ให้เขาถือเถอะ”

ปากบางสวยสีเรื่อของชายหนุ่มขยับพร้อมเสียงทุ้มดังขึ้น แล้วมือหนาก็จับกระเป๋าสองใบส่งไปให้คนขับรถทางด้านหลัง ก่อนผายมือให้หญิงสาวเดินตามผู้ใหญ่ไป

กัญญานันยิ้มบางให้ชายหนุ่มพร้อมกับพึมพำขอบคุณ แล้วเดินผ่านเขาไปตามคำเชิญ ทิ้งเอาไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อนเย้ายวนใจให้คนตัวสูงชะงัก เพราะบังเอิญสูดกลิ่นกายสาวเข้าจนเต็มปอดแล้วรู้สึกร้อนวูบในเบื้องลึกอย่างไม่รู้ตัว แถมความนุ่มนิ่มจากมือสวยก็ติดตรึงอยู่กับมือเขาจนต้องกำแน่น เมื่อทำใจสลัดอารมณ์วูบวาบกะทันหันของตัวเองได้ชายหนุ่มก็เห็นคนขับรถหนุ่มของไร่ยิ้มตาเป็นประกายราวกับรู้ทัน เปรมินทร์จึงทำตาดุใส่ อีกฝ่ายก็เลยรีบหิ้วกระเป๋าเดินไปโดยเร็ว ส่วนเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับอาการแปลกๆ ของตัวเองก่อนจะก้าวตามคนอื่นๆ

=====

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพลิงภูหมอก   27...ณ จุดแรกรัก (2)

    “ไม่รู้สิคะ รู้แต่ว่าเธอไม่เคยโกรธหรือเกลียดคุณ ไม่เคยมองคุณในแง่ร้าย แต่เธอเจ็บปวดที่รู้ว่าคุณทำให้เธอเสียใจ”นิ่งไปชั่วอึดใจก่อนที่เปรมินทร์จะค่อยๆ คลี่ยิ้มที่มุมปากแล้วบอก“นางฟ้าคนนั้นรักผมเข้าให้แล้วล่ะ”กัญญานันก้มหน้างุดลงอย่างขัดเขิน เมื่อเห็นแววตาคู่คมวาววับราวกับล้อเลียน ทั้งที่ยังอยู่ในอารมณ์โศกเศร้าแท้ๆ แต่ก็เข้าใจว่าเปรมินทร์คงอยากให้เธอสบายใจขึ้น“เฮ้อ...ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวผมก็ห้ามใจไม่ไหวอีกนะ”อีกฝ่ายถอนหายใจออกมา แล้วก็จูบประทับหนักหน่วงเนิ่นนานบนกลีบปากสวยจนเธออ่อนระทวยอีกครั้ง ทว่าหญิงสาวยังไม่ลืมว่าชายหนุ่มพามาดูอะไร เมื่อปรือตาขึ้นมาพร้อมกับที่ใบหน้าคมคายผละออกไป เธอก็เงยหน้าขึ้นไปด้านบน แสงบางอย่างที่ร่วงลงอยู่ท่วมกลางท้องฟ้ามืดมิดดึงความสนใจของเธอให้หันมอง ร่างบอบบางถลันออกไปชะเง้อคอมองนอกเต็นท์“ฝนดาวตก”ดาวหลายดวงทยอยตกจากท้องฟ้าที่มุมหนึ่ง ทำให้กัญญานันตาวาว พูดโดยไม่หันกลับไปมองคนที่ขยับมานั่งกอดซ้อนหลังเธอ“นี่ใช่ไหมคะที่คุณพาก้อยมาดู”“อืม”เปรมินทร์ตอบรับด้วยอารมณ์เซ็งๆ“แต่ผมชักอยากรักคุณมากกว่าดูฝนดาวตกนี่แล้ว”ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะวางคางของตนบ

  • เพลิงภูหมอก   27...ณ จุดแรกรัก (1)

    ทั้งสองเซ่นไหว้ตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุของเจ้าปัทมาดากับคุณเฮนรี่ ก่อนจะย้อนกลับขึ้นมา เดินลึกเข้าไปด้านในยังจุดที่เกิดเรื่อง และกัญญานันก็วางฟ้ามุ่ยสีขาวไว้ตรงพื้นที่ที่เปรมินทร์บอกว่าฝังมอมแมมเอาไว้ จากนั้นชายหนุ่มก็ขอไปตรวจเอกสารที่ออฟฟิศกับดูงานที่ไร่โดยพากัญญานันออกไปในไร่กับตนเองด้วย แม้ว่าตอนแรกเขาจะห้ามเพราะกลัวเธอจะเจ็บขามากขึ้น แต่หญิงสาวบอกว่าเธอยังไม่เคยเห็นไร่ภูศรีจันอย่างแท้จริงเลยสักครั้ง ชายหนุ่มจึงต้องพาหัวหน้าฝ่ายบัญชีกับเลขาไปด้วยเพื่อให้ดูแลและเป็นเพื่อนเธอ รวมทั้งคอยอธิบายเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ตอนที่เขาตรวจงานในไร่ ทั้งคู่อยู่ที่ไร่กระทั่งเย็นจึงกลับขึ้นภู“ทำไมคุณถึงให้ลุงมั่นกางเต็นท์ให้เราล่ะคะ”กัญญานันพูดเสียงสั่นด้วยความหนาวหลังจากถูกคะยั้นคะยอให้ออกมายังจุดชมวิวด้านนอก เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวจะเข้านอน“ผมอยากให้คุณดูอะไรบางอย่างด้วยกันหน่อยน่ะ”ชายหนุ่มบอกแล้วรูดซิปเต็นท์ให้หญิงสาวเข้าไปด้านในก่อน แม้ด้านนอกจะมีกองไฟที่ให้คนขับรถคนใหม่จุดไว้แต่ก็ไม่ช่วยไล่ความหนาวเหน็บได้ ดีหน่อยที่พอไล่ยุ่งได้บ้าง“ดูข้างในไม่ได้เหรอคะ”“เราต้องดูบนท้องฟ้า”เมื่อท

  • เพลิงภูหมอก   26...ผูกพันทั้งกายใจ (2)

    “ผมรักก้อย”เสียงทุ้มพึมพำซ้ำแนบขมับชื้นเหงื่อของเธอ ตามมาด้วยรอยจูบหนักๆ“ที่สำคัญ...ผมรักหัวใจของคุณ หัวใจที่ดีงามเหมาะสมอย่างที่เจ้าแม่ผมเคยพูดเอาไว้ ท่านเคยบอกว่าผมจะรักคุณ แล้วผมก็รักจริงๆ แถมยังหลงด้วย หลงมากกก”พร้อมคำพูดเปรมินทร์ก็อุ้มร่างอรชรมานอนทับบนร่างแกร่ง ผิวเนื้อนุ่ม อกอวบอิ่ม ร่างสาวบดเบียดลงมาหาชายหนุ่มอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ กัญญานันเหมือนถูกดูดพลังงานไปจนหมด ไม่หลงเหลือแรงขัดขืนเขาด้วยซ้ำ“หลง แต่ชอบทำร้าย ชอบแกล้งเนี่ยนะคะ”มือบางตีอกกว้างเบาๆ เนื้อตัวเธอรู้สึกถึงมัดกล้ามเต็มแน่นช่วงหน้าท้องแกร่งและทั่วทั้งตัวของคนใต้ร่างเลยทีเดียว ใบหน้าหวานจึงออกอาการเขินอายเมื่อเห็นตาคมจ้องมาด้วยแววชอบอกชอบใจ“นี่เขาเรียกทำรักต่างหาก”เปรมินทร์ไม่บอกเปล่า แถมมือหนายังกดสะโพกเธอเข้าหาตัวเองซ้ำอีกจนกัญญานันต้องห้ามเสียงสั่น“อื้อ...ไม่เอาแล้วนะคะ”“เถอะน่า อีกครั้งหนึ่ง”“พอเถอะค่ะ ก้อยเหนื่อย”กัญญานันส่งสายตาขอร้องเต็มที่ เธอเพลียอยากนอนจะแย่อยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับมันเขี้ยวอยากฟัดคนตัวเล็กมากกว่าจะอยากหยุด เพราะไม่ว่าหญิงสาวจะมองแบบไหนเปรมินทร์ก็รู้สึกเหมือนเธอกำลังเชิญชวนเขาทุกท

  • เพลิงภูหมอก   26...ผูกพันทั้งกายใจ (1)

    คนถูกฉุดรั้งชะงักด้วยความงุนงงกับอารมณ์ร้อนแรงของตน และคำพูดกำกวมของอีกฝ่าย ร่างอรชรหอบหายใจระรัว เพิ่งรู้ว่าเธอเหนื่อยหนักขนาดนี้ ทว่าก่อนจะถามอะไรชายหนุ่มก็พลิกกายให้เธอลงไปนอนใต้ร่างขณะมือก็ปลดเสื้อนอนเธอออกไปพร้อมกัน ไม่ลืมที่จะดึงปิ่นออกจากผมสลวยจนสยายแผ่บนที่นอนอย่างน่าหลงใหล“ผมอยากบอกรักคุณก่อน”“คะ?”ดวงหน้าหวานเหลอหลาด้วยความแปลกใจกับคำรักที่ออกมาจากปากเขาแสนง่าย หากแรงพิศวาสที่โหมอยู่ยังไม่ถูกปลดปล่อย สมองเธอจึงทำงานช้า ความสนใจอยู่ที่มัดกล้ามแน่นตึงบนเรือนกายกำยำที่ค่อยๆ อวดต่อสายตา เพิ่งเป็นครั้งแรกที่เธอกล้ามองเขาตรงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไรผู้หญิงต่างก็หลงใหลได้ปลื้มสามีตนเองขณะเดียวกันร่างสูงที่ผละไปถอดเสื้อผ้าของตนก็จับจ้องผิวขาวนวลผ่องที่เผยพร้อมเรือนกายงามสล้างไม่วาง ตาคมคู่ดุกวาดมองขึ้นลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างครึ้มใจที่ตนเองได้เป็นเจ้าของความงามลออตาตรงหน้า ความภาคภูมิใจปะปนความรักหลงอัดแน่นอยู่ในอก เพราะได้ครอบครองทั้งเรือนร่างสวยกับหัวใจที่ดีงามของกัญญานัน“ผมรักทุกอย่างที่เป็นคุณ ทั้งดวงตา แก้ม ริมฝีปาก...”หลังจากทั้งร่างเปล่าเปลือยใบหน้าคมก็เลื่อนลงกระซิบพร้อม

  • เพลิงภูหมอก   25...คำสารภาพ (2)

    กัญญานันไปส่งครอบครัวพร้อมกับเปรมินทร์และพี่ชายที่เชียงใหม่ แม้เธอจะบอกให้อีกฝ่ายพักผ่อนหลังจากทำแผลแล้ว แต่สุดท้ายเปรมินทร์ก็ยังเกาะติดภรรยาของตนไม่ยอมห่าง ส่วนทางด้านเพ็ญลงไปพักกับพ่อแม่ของตนในไร่ชั่วคราว กำลังอยู่ในช่วงคิดและพักใจ บนภูจึงมีสองสาวน้อยและคนขับรถซึ่งค่อนข้างมีอายุหน่อยของไร่กับภรรยาขึ้นมาอยู่แทน หากเพ็ญกลับมาก็ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากมีแม่บ้านดูแลเพิ่มขึ้น เปรมินทร์ยินดีรับคนขับรถที่แต่งงานแล้วและมีอายุหน่อยมากกว่าคนโสด“ทานยาหรือยัง ข้อเท้าคุณเจ็บมากขึ้นอีกหรือเปล่า”เปรมินทร์ถามเมื่ออาบน้ำออกมาเห็นคนตัวเล็กกำลังนวดข้อเท้าอยู่“ทานแล้วค่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย ไม่เท่าตอนที่เกิดเรื่องหรอกค่ะ”หมอในไร่ตรวจข้อเท้าให้หญิงสาวเพิ่มเติมหลังทำแผลให้ชายหนุ่ม แม้จะบอกว่าไม่ได้กระทบกระเทือนมากนัก“ผมนวดให้นะ”ร่างสูงใหญ่ขยับไปนั่งที่เตียงอย่างรวดเร็วพร้อมกับเข้าไปใกล้คนตัวหอม แต่กัญญานันกลับส่ายหน้า“ได้ยังไงคะ มือคุณมีแผลอยู่”“ผมใช้มือซ้ายนวดให้”อีกฝ่ายยังพยายามจนเธอระอา แต่ก็ยังไม่ยอมอยู่ดี“ฉันนวดเองได้ค่ะ ว่าแต่คุณน่ะ ให้แผลโดนน้ำหรือเปล่าคะ มาให้ก้อยดูหน่อย”“คุณพูดว่าก้อยกับผมก็

  • เพลิงภูหมอก   25…คำสารภาพ (1)

    “คุณพ่อกับคุณแม่จะกลับกรุงเทพฯ แล้วน่ะ แต่อยากขึ้นมาบนภู แล้วก็มาหาเราก่อนกลับด้วย”กิตติกรเป็นฝ่ายบอกเมื่อพบหน้าน้องสาว หญิงสาวเชิญทุกคนไปยังโต๊ะอาหาร ขณะที่เปรมินทร์เองก็มาถึงพอดี เขากำลังจะก้าวเข้าห้องอาหารขณะได้ยินประโยคคำพูดของคุณรุจีรัตน์“แม่กับคุณชายอยากมาไหว้เจ้ากับคุณเฮนรี่ ตรงที่ที่เกิดอุบัติเหตุด้วยน่ะ เห็นว่าเราเกิดเรื่องใกล้ๆ แถวนั้น คงเพราะเจ้าช่วยคุ้มครองเราถึงรอดมาได้ แม่อยากขอบคุณเจ้า”เปรมินทร์หน้าตึงขึ้น แต่ก็พยายามทำใจให้เย็นเข้าไว้ พยายามทำตัวให้เป็นคนมีเหตุผล ยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอง และไม่วายปรายตามองลัลนาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปโอบไหล่บางของภรรยา หอมแก้มนวลแล้วยิ้มให้เมื่อเธอหันมาทำตาดุใส่ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ“งั้นเดี๋ยวก้อยจัดเครื่องเซ่นไหว้ให้นะคะ”“ไม่เป็นไรลูก แม่เตรียมทุกอย่างแล้วก็แวะไหว้เรียบร้อยแล้วจ้ะ”“อย่างนั้นเหรอคะ”กัญญานันหน้าจ๋อยไป เปรมินทร์จึงหันไปโอบไหล่พร้อมบอกเบาๆ“ถ้าคุณอยากขอบคุณเจ้าแม่ เดี๋ยวผมพาไปใหม่ก็ได้”“ใช่จ้ะลูก เดี๋ยวหนูไปอีกครั้งกับคุณมินทร์ก็ได้ แม่กับคุณชายแล้วก็น้องนางจะกลับกันวันนี้ ไฟลต์เที่ยงน่ะจ้ะ แม่เลยรีบจัดการทุกอย่างให

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status