ฮึ ทำให้หนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่นั้นเดือดจัด ด้วยดวงตาที่วาวเข้มที่น้องชายคนเดียวนั้นก็ไม่เชื่อฟัง หลงมืดมัวถลำบอดไปกับความรักของมัน
ฮึ ความรักที่กัดก้อนเกลือกินของทั้งคู่นะสิ หากแต่จอมภูกลั้นใจทนฟังต่อ และกายไม่เคลื่อนไหวใดอันจะทำให้น้องชายจับผิดได้เพราะเขาก็ซุ่มตัวอยู่เงียบๆในเวลานี้
“พลแทบจะคิดถึงณีมากนี่ คิดถึงจนลมหายใจเข้าออกเลยนะเอ้อนี่ถามณีหน่อยเรื่องสมัครงาน เขาโทร.มาตามอีกบ้างหรือเปล่า”
เมื่อภูวพลเอ่ยถามเรื่องนี้ มณีรัชดาเงียบไปครู่และหม่นลงด้วยสีหน้าที่ผิดหวังขึ้นมา
“ยังจ้ะ ไม่เห็นเรียกตัวเลยสักที่”
คำตอบของแฟนสาวทำให้เขาเงียบไปครู่ก่อนจะให้กำลังใจ “ก็พลบอกณีแล้วว่า จะช่วยหาให้ บริษัทเพื่อนของพ่อ ณีก็ไม่เอา เห็นไหม อวดเก่งกับความสามารถของตัวเองนัก สุดท้ายก็ไม่ได้งาน” เขาบ่นที่มณีรัชดายึดมั่นถือมั่นในตัวเองมากเกินไปจนชวดงาน
EP 6
เพราะหล่อนอยากหาด้วยตัวเอง หญิงสาวคิดเช่นนั้น
“พลเคยบอกแล้วให้เชื่อพลแล้วก็ใจอ่อนเสีย บริษัทเพื่อนของพ่อพลมี แต่ณีก็ใจแข็ง”
ใช่หล่อนยอมรับว่าหล่อนดื้อในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากพึ่งเขา
“ใช่ค่ะ ณียอมรับว่าเชื่อตัวเองมากเกินไป มั่นใจตัวเองมากเกินด้วยซ้ำ ตอนนี้รู้รสชาติแล้วค่ะ”
หล่อนเอ่ยตอบเขาเสียงอ่อนในตอนท้าย
ทำให้อีกฝ่ายยิ้มวาบ
“งั้น ณียอมเชื่อพลแล้วสิ คงจะยอมใจอ่อนกับงานที่พลจะหาให้”
“ถ้าเป็นงานที่น่าสนใจ ณีก็จะรับพิจารณา อยากทำค่ะว่าแต่งานอะไรละคะพล”
ฟังแล้วมันทำให้เขาแสนจะนึกหมั่นไส้ในสุ้มเสียงหวานต่อหวานออดอ้อนใส่กันแบบนี้
และเขานั้น ชายหนุ่มมือที่สามทำตาขวางแสยะยิ้ม
ส่วนในขณะที่ผู้เป็นน้องชายยิ้มปรอยด้วยฝันหวาน กับรักที่เขาทุ่มเทและได้รับปฏิกิริยาตอบจากมณีรัชดา
“เอ้อ บริษัทไงจ้ะ งานที่ทำน่าจะเกี่ยวกับบัญชี หรือพนักงานคีย์ข้อมูล”
ถ้าเป็นยังงั้นหล่อนก็ยอมรับละ ยังไงขอให้ได้งานไว้ก่อน
“ขอบคุณค่ะ”
อดถามภูวพลไม่ได้ เขาก็สมัครงานไว้ด้วยไม่ใช่หรือ แล้วนี่เขาหาทางช่วยหล่อน
ตัวเขาเองมีงานทำแล้วหรือยัง
“แล้วพลล่ะ เรื่องที่สมัครงานเอาไว้”
“เอ้อ สำหรับพลนั้นสบายจ้ะ ณี เพราะพลไม่พึ่งหรือหวังเอาจากพวกบริษัทโบรกเกอร์หรือตลาดหุ้นพวกนั้นหรอก แล้วไม่ไหวเส้นเรามันแค่เส้นก๊วยจั๊บ สู้พวกเส้นใหญ่หนาไม่ได้หรอกเลยเบนมาทำงานที่บริษัทของคุณอาดีกว่า”
ภูวพลตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเบนออกจากงานที่เขาอยากจะทำคือบริษัทเกี่ยวกับเงินทุนหลักทรัพย์ มาทำงานกับคุณอาพิจิตรอาแท้ๆของเขา
ที่เป็นเช่นนี้เพิ่งนึกคิดขึ้นได้ เพราะแต่ทีแรกแล้ว เขาคิดว่าจะไม่คิดพึ่งพาเงินในกงสีหรือเครือญาติ เพราะอยากจะแสดงความสามารถของตัวเองว่าโตแล้ว มีวุฒิภาวะเพียงพอ
หากแต่ความสามารถของเขานั้น ทางบริษัทภายนอกไม่มองเห็นถึงคุณสมบัติและคุณค่ามากพอที่จะรับเขาไว้เป็นพนักงาน และสังเกตได้จาก มีการปัดผัดอยู่ตลอดเวลาว่าสักพักจะโทร.ไป แต่กลับเงียบหายไปเหมือนไม่มีปี่มีขลุ่ยอีกเลย
เขาไม่อยากจะนั่งรอความหวังอีก ดังนั้นเลยเปลี่ยนใจเอาดื้อๆ มณีรัชดาก็ดีใจแทนคนรักที่เขาจะได้งานทำแล้ว
หากสำหรับหล่อนนั้นคิดว่าภูวพลอยากจะได้ทำงานไม่ยากหรอก และเขาไม่ต้องมาเดินสมัครงานไปทิ้งไว้ที่บริษัทต่างๆ
ส่วนภูวพล เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีฐานะทางเครือญาติของเขา ก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยได้ เพียงแต่ภูวพลไม่เคยตัดสินใจเข้าไปง้องอนหรืออ้อนวอน แต่คราวนี้ยินยอม เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วภูวพลฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
“ไม่แน่ละ พลจะเข้าไปขอร้องกับคุณอาอีกครั้ง..ฉวยเกิดว่างานว่างอีกตำแหน่ง จะได้ให้ณี เข้าไปทำเลยไงจ้ะ”
ภูวพลวาดหวังเสมอว่า อยู่ที่ไหนก็ตาม เขาอยากจะอยู่ใกล้หล่อน
ในขณะที่อีกฝ่าย ผู้เป็นพี่ชายนั้นทำท่าเข่นเขี้ยวจัดใส่ เมื่อน้องชายตัวดีนั้นเที่ยวเสนอหน้าที่การงานให้สาวสวยต่างฐานะอย่างใจป้ำ
หากฟังคำของชายคนรักนั้น ก็พลอยทำให้มณีรัชดาปลาบปลื้มใจไปด้วย ถ้างั้นก็ดีละ ถ้าหล่อนมีช่องทางได้งานทำพ่อแม่จะได้หมดห่วง
และหล่อนจะได้หยุดความกระวนกระวายใจอ่อนล้าทั้งกายและใจที่ตกงานมานานพอสมควร
“งั้นเอาตามนี้นะจ้ะณี พลสัญญาว่าจะรับปากหางานให้ณีให้ได้”
“ขอบคุณค่ะ พล”
ซึ่งมณีรัชดาตอบเขาอีกครั้งก่อนจะปิดเครื่องด้วยใจที่ยิ้มชื่น
และฝ่ายหนุ่มคนน้องนั้นเขาก็ยิ้มชื่นปลื้มกับตัวเองใส่มือถือตรงหน้า ที่นอกจากได้คุยกับคนรัก
ได้ยินเสียงหวานของหล่อน คนมีความรักอย่างเขาก็สุขใจมากล้น
จนประกายปีติยินดีของเขานั้นกลับไปสร้างความขุ่นข้องเดือดดาลในใจของจอมภู ผู้เป็นพี่ชายเหมือนไฟไหม้ป่า
เพราะเขายืนจังก้าอย่างไม่พอใจ
จนขยับฝีเท้าหนีไปอย่างเงียบๆ หากแววตาครุ่นด้วยเคืองแค้นกับผู้หญิงคนนั้น ที่เขาต้องจัดการให้เด็ดขาด
หล่อนมาอ่อยเหยื่อหว่านเสน่ห์ให้กับน้องชายของเขามากเกินไปแล้ว ฮึ ก็แบบนี้เหยื่ออย่างน้องชายของเขานั้นมันจะไม่ติดใจจนกลายเป็นเบ็ดกับดักที่หล่อนทำสำเร็จเชียวหรือ
จะตามไล่ทันคนอื่นเสียที่ไหนเล่าน้องชายเขา มัวแต่เซ่อ
แต่ผู้หญิงคนนี้เขามาครุ่นคิดอีกครั้ง เพราะนี่ไม่คิดจะหลับนอน แต่เที่ยวมาบริหารเสน่ห์ให้ผู้ชายคิดถึงก่อนนอนอย่างนี้นี่เอง ซึ่งมองดูลึกๆหล่อนก็ร้ายพอสมควรนี่ เขาคิดว่าคนเราถ้าอยากจะได้อะไร ที่มันเป็นความทะเยอทะยาน ใฝ่สูงเกินตัว เขาเปรียบหล่อนนั้นก็ไม่ต่างจากคนประเภทนี้เท่าใดหรอก
เขาประคองมณีรัชดาเป็นความผูกพันลึกซึ้งยามอยู่ห่างไกลบ้าน มณีรัชดาคิดถึงพ่อแม่คิดถึงกรุงเทพ แต่แน่นอนละภาวะของหล่อนคือคนมีครรภ์อดฟุ้งซ่านไม่ได้และจอมภูพยายามทำดีกับหล่อนสารพัดทุกอย่าง ที่เขาแสนจะเอาใจ จนมณีรัชดายากที่จะปฏิเสธได้ หล่อนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หากจอมภูถึงกับเสียสละทุกอย่าง บางทีทิฐิมันเหมือนกับน้ำกรดราดรดดวงใจตัวเองเหมือนกัน หล่อนครุ่นคิด แต่ถึงกระนั้น หล่อนก็ควรที่จะให้บทเรียนอันแสนจะเจ็บปวดให้เขาด้วยเหมือนกันจนกระทั่งมณีรัชดาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเป็นลูกสาวในอีกสามวันต่อมา ประเทศที่หล่อนอาศัยอยู่ณบัดนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว หนาวเหน็บจัดพร้อมด้วยหิมะโปรยปราย จอมภูพยายามใช้การกระทำของเขามากกว่าคำพูด ให้มันราดรดในดวงใจของหล่อนถึงความซื่อสัตย์และภักดีตลอดกาล เพื่อทดแทนสิ่งที่ผิดพลาด ณเสี้ยวหนึ่งของหัวใจหล่อนรับทราบแล้วว่า เขาเป็นคนที่ดีมากพอ แต่ในด้านเลวร้ายนั่นล่ะ ซาตานดีๆนี่เอง หล่อนจะไม่พยายามคิดในเมื่อความดีของเขาก็ราดรดลงไปในหัวใจของหล่อน ให้ความอบอุ่นดูแลลูกสาว ในฐานะของพ่อเกินที่มณีรัชดาจะท้วงหรือปราม เขาทำไปด้วยความสุจริตใจหล่อนรับรู้ตลอดเวลาที่มีเข
จนกระทั่งมณีรัชดาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเป็นลูกสาวในอีกสามวันต่อมา ประเทศที่หล่อนอาศัยอยู่ณบัดนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว หนาวเหน็บจัดพร้อมด้วยหิมะโปรยปราย จอมภูพยายามใช้การกระทำของเขามากกว่าคำพูด ให้มันราดรดในดวงใจของหล่อนถึงความซื่อสัตย์และภักดีตลอดกาล เพื่อทดแทนสิ่งที่ผิดพลาด ณเสี้ยวหนึ่งของหัวใจหล่อนรับทราบแล้วว่า เขาเป็นคนที่ดีมากพอ แต่ในด้านเลวร้ายนั่นล่ะ ซาตานดีๆนี่เอง หล่อนจะไม่พยายามคิด เมื่อเขาชี้แจงว่า “ผมมาจากเมืองไทยที่อยู่ทราบจากคุณรังสินัย” เมื่อเอ่ยอ้างถึงหลานชายของหล่อน ทำให้คุณนันทนิจรับทราบ “ผมมีปัญหาบางอย่างที่ต้องปรับใจกับณี” เขาเอ่ย ทำให้คุณนันทนิจเข้าใจทันที “มณีรัชดา” หล่อนอุทาน “ใช่ครับ ผมเป็นสามี เธอหนีจากผมมา” “หนีหรือคะ” “ผมขออนุญาตได้ไหม”เขาเอ่ยหลังจากที่ชี้แจง ไม่มีการบอกกล่าวมาล่วงหน้าเพื่อตรวจดูความผิดพลาด คุณนันทนิจขอตัวโทร.ทางไกลไปเมืองไทยเพื่อถามหลานชาย ได้รับคำตอบแบบเดียวกันคือ ยืนยันถึงความเป็นสามีของลูกจ้างสาว “ดิฉันไม่ทราบหรอกนะคะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลานชายต้องการพึ่งพา ให้พา
“เขาให้แม่มาไกล่เกลี่ยหรือไงคะ”มณีรัชดาเอ่ยโดยไม่ยอมเอ่ยชื่อเขา นางรัชนีถอนใจ กับลูกสาวที่เริ่มจะทิฐิขึ้นมา“นี่แม่นะนี่แม่ของแก จะดีจะชั่วยังไงก็ยอมรับว่าแกเป็นลูก” มณีรัชดากำลังทำใจอย่างหนัก การที่มารดามาที่นี่เหมือนท่านบุกเข้ามาหาหล่อนที่คอนโดไม่เคยมีใครทราบมาก่อน และเขาคนเดียวเท่านั้นที่พามา มันเป็นเรื่อง ที่ตัดสินใจลำบากทั้งเรื่องส่วนตัวเหตุผลอีกทั้งความรัก รวมทั้งความเจ็บแค้นที่ผสมผสานกันและความผิดของเขาเกิดขึ้นมานาน และสะสมสั่งเอาไว้พอกพูนจนมันเต็มไปด้วยอัตราของความแค้นที่เหมือนไฟเผาผลาญจู่ๆหล่อน จะมาอภัยให้เขาง่ายๆในสิ่งที่เขาทำกับหล่อนอย่างเจ็บปวด “แม่ไปถามผู้ชายคนที่เขาบอกที่อยู่ของหนูสิคะว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง” มณีรัชดากลับตอบไปอย่างนั้นทำให้รัชนีเงียบ และเริ่มเข้าใจถึงสภาพจิตใจของบุตรสาว “ถึงอย่างไรแม่ก็ไม่อยากให้แก หนีแม่ไปอีก อย่าไปเลยนะลูก เมืองนงเมืองนอก แม่ห่วง ไปดูหมอเขาทักไว้ว่า ลูกไม่ควรเดินทางออกไปต่างประเทศ อย่าขึ้นเครื่องบิน” มณีรัชดาตกใจอย่างมากที่สุดกับคำกล่าวของมารดาไม่เคยทราบด้วยว่า ท่านจะเอาดวงของหล่อนไปให้ห
ความจริงที่ว่าคือเขารักมณีรัชดาอย่างมาก ต้องการครองคู่ อยู่กับหล่อนตลอดไปในเส้นทางอนาคต ทำให้จอมภูต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของมารดาคลายลงจากคำพูดที่น้องชายเอ่ยออกมาพร้อมแฟนสาวช่วยสนับสนุนในรักครั้งนี้ของเขา อีกทั้งช่วยแก้ต่าง ให้กับมณีรัชดา ภรรยาของเขาให้พ้นผิดด้วย เพราะภรรยาของเขานั้น หล่อนไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนกำลังกล่าวหาสักนิด หล่อนสะอาดและบริสุทธิ์เสมอ อย่างที่เขาเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน ในอดีตเขาเคยร่ำร้อง ที่จะเดียดฉันท์ โกรธอาฆาตแค้นหล่อนที่กลายเป็นนางแม่มดเจ้าเสน่ห์เพื่อหลอกล่อให้น้องชายของเขามาตกหลุมรักเพราะหวังในความสุขสบาย เพราะภูวพลมีฐานะร่ำรวยเป็นทายาท ของนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย นี่คือความโง่เขลาอย่างมากที่สุดที่เขาได้ทำมา จนจอมภูอยากเขกหัวของตัวเอง ย้อนหลังกลับไปสองร้อยกว่าครั้งถึงจะสาสม กับความผิด และความโง่ของเขาด้วยซ้ำ เวลาเนิ่นนานที่เขามีอคติต่อหล่อน กลายเป็นคนที่โง่บรมโง่ เหลือเกิน ยอมรับว่าเขาหูตามืดมัวเพราะรักและห่วงน้องชาย คนเดียวที่กลัวจะตกเป็นเหยื่อและเป็นคำสั่งของมารดา ที่ท่านต้องการจะกีดกันทั้
“ทำไม?ผมถามคุณไม่ตอบล่ะว่าไปอยู่ที่ไหนและผมไม่ยอมให้คุณไปอยู่ที่ไหนอีกแล้วนะต้องอยู่กับผมตลอดไปจะต้องช่วยเลี้ยงลูกของเรา ให้เจริญเติบโตเป็นคนดี” “ฉันไปพักอยู่กับเพื่อนรุ่นที่ ที่เขาใจดีมากค่ะ เขาเป็นพี่ชายที่ฉันเคารพรักและมีบุญคุณเสมอมา” “แล้วเขาเป็นใครล่ะ” “เขาชื่อ คุณรังสินัยค่ะ” “คราวหลัง ถ้าผมได้เจอเขาแล้วนั้นผมจะขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยดูแล เมียผมกับลูกผมให้ปลอดภัย” คราวนี้มณีรัชดาหันมามองเขาสายตาของหล่อนเงยขึ้น “คุณไม่ตะขิดตะขวงหรือยังไงคะที่ฉันไปอยู่อย่างนั้น” “คงไม่หรอก ผมรู้ว่า ผมนั้นทำผิดอะไร” จอมภูตอบเสียงนุ่มอย่างรู้ดีว่า เขาทำผิดอะไร “แล้ว ขอให้ผมได้ไถ่โทษความผิดครั้งนี้ด้วยการขอคุณแต่งงานได้ไหม ผมจะไม่รีรอเลยนะณีและต้องการให้เรื่องนี้เร็วที่สุด” มณีรัชดาถึงกับอึ้งที่เขาพูดเช่นนี้ยิ้มอย่างอายและเขิน “เอ้อ ค่ะ” “ผมดีใจที่คุณเข้าใจผมและเข้าใจความรู้สึกของเรา คงไม่โกรธใช่ไหม กับเรื่องที่ผ่านมา เอ้อที่ผมล่วงเกินคุณ ใครล่ะจะอดใจได้ ก็คุณสวยขนาดนั้น” จอมภูกระซิบพร่ำที่ริมกกหูของ
จอมภูจึงขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านเช่าของเธอที่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับบิดามารดา และเขาเคยมาแล้วหนหนึ่งแต่ว่าไม่พบกับมณีรัชดาซึ่งบิดาและมารดาของเธอก็ไม่สามารถให้คำตอบเขาได้เช่นกัน เขามั่นใจว่ามณีรัชดาต้องอยู่ เพราะว่าเขารู้สึกไม่สบายใจเลยที่ทำแบบนี้กับหล่อน แม้แต่คาดคิดก็ตามและมณีรัชดาก็เช่นกัน เขาคิดว่าหล่อนคงจะเป็นเหมือนเขา ที่เป็นอย่างนี้เพราะเขาแน่ใจอย่างนั้นว่าเขารักหล่อนมาก มันไม่ใช่เรื่องที่หลอกลวง หรืออยากจะแก้แค้นหล่อน ความรักที่บริสุทธิ์นั้น ยากที่จะบอกได้ ซึ่งขับรถมุ่งตรงมาที่บางแค ก็ด้วยความหวัง ขณะเดียวกันนั้นมณีรัชดาลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ทำให้นางรัชนีกับนายมิ่งผู้เป็นบิดาต่างมองด้วยความตกใจและดีใจเช่นกันเมื่อได้มองเห็นชัดเจนว่า ลูกสาวตั้งท้อง จึงเป็นคำตอบที่ทราบดีว่าที่ลูกสาวหายไปจากบ้านเป็นเพราะสาเหตุนี้ นางรัชนีปรามผู้เป็นสามีและทั้งคู่ปรึกษากันว่าจะไม่ซักถามมณีรัชดาที่เพิ่งมาถึง เพราะกลัวว่าลูกสาวจะเตลิดไปไกลอีกนางรัชนีกับไพจิตรจึงพยายามพูดดีๆ “กลับมาแล้วเหรอเข้าไปพักผ่อนข้างในก่อนเถอะลูก มีอ