“ไม่มีผู้หญิงที่ไหนรักลูกของฉันได้เท่ากับฉันและครอบครัวหรอกนะ พวกเธอก็หวังแค่เงินเท่านั้น” สิ่งที่นฤดาบอกไม่ใช่ว่าลูคัสไม่เคยทำ เขาเคยพาผู้หญิงที่คิดจะจริงจังด้วยมาทานข้าวมาลองทำความรู้จักกับจัสมินเธอทำดีกับจัสมินทุกอย่างแต่พอลับหลังลูคัสพวกเธอก็พูดจาทำร้ายจิตใจจัสมินและบอกว่าเขาจะมีลูกคนใหม่และจัสมินจะกลายเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการ
“แล้วทำไมคุณถึงจ้างหนูล่ะ ไม่กลัวว่าหนูจะทำให้หลานสาวของคุณเสียใจเหรอ”
“กลัวสิ ฉันเลยต้องพาเธอมาคุยกับพวกเราที่นี่ก่อน”
“คืออย่างนี้นะหนูหวาน พวกเราอยากขอร้องว่าเวลาอยู่กับจัสมินห้ามพูดเรื่องมีน้องหรือมีลูกคนใหม่ให้จัสมินได้ยิน ห้ามพูดว่าลูคัสจะไม่รักจัสมินห้ามบอกว่าจะไปจากเธอ ถ้าจัสมินถามว่าทำไมถึงไปไม่ไปที่สิงคโปร์ให้หนูบอกว่าจะอยู่ดูแลลูคัสที่นี่”
“แล้วถ้าหนูจัสมินถามว่าทำไมหนูถึงมาหาเธอล่ะคะ”
“พวกเราบอกว่าแม่ของเธอไปทำงานที่ไกลๆ และที่มาหาไม่ได้หลายปีเพราะงานมันสำคัญมากและถ้ากลับมาก่อนกำหนดจะมีความผิด
“ค่ะ” นฤดาพยายามเข้าใจทุกอย่างและคำขอร้องที่มารดาเขาบอกนั้นมันก็ไม่ยากเลยแต่เธอกลัวว่าตนเองจะเข้ากับจัสมินไม่ได้มากกว่า
“ถ้าคิดว่าตัวเองทำได้ก็เซ็นชื่อสิ”
นฤดาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านทั้งสองแผ่นแล้วมองหน้าครอบครัวของเขาอีกครั้ง
“ค่าปรับนี่คืออะไรคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ พวกเราแค่อยากมั่นใจว่าหนูจะไม่ทำให้ให้จัสมินเสียใจ”
“แต่เงินค่าปรับตั้ง 10 ล้านแบบนี้หนูไม่เอาดีกว่า”
“แต่เธอรับปากฉันแล้วนะ”
“ก็ค่าปรับเยอะขนาดนั้นมันน่ากลัว”
“ถ้าเธอคิดว่าตัวเองทำตามที่คุยกันไว้ได้ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวเลย ท่องไว้สิว่าทุกอย่างทำเพื่อเงิน”
“ถึงหนูจะอยากเงินมากขนาดนั้นแต่ถ้าสัญญาเอาเปรียบกันขนาดนี้หนูไม่เอาดีกว่าค่ะ ถึงแม้หนูจะทำงานกินเงินเดือนไม่มากแต่มันก็ไม่เสี่ยงขนาดนี้”
“เอาล่ะ พ่อว่าเราไม่ต้องทำสัญญากันหรอกนะพ่อเชื่อว่าหนูจะทำตามที่พูดได้ สัญญานี้มันก็แค่กระดาษ” เดวิดบิดาของลูคัสพูดขึ้นก่อนที่เขาจะหยิบสัญญาทั้งสองฉบับมาฉีกทิ้ง
“พ่อ”
“เอาน่าคีธเชื่อพ่อเถอะถ้าเธอไม่ยอมทำงานแล้วจัสมินจะเป็นยังไง” เดวิดห่วงความรู้สึกของหลานสาวที่เขาเลี้ยงมากับมือ
“ก็ได้ครับพ่อ”
เพราะเมื่อไหร่ที่บิดาเรียกเขาด้วยชื่อเล่นนั่นก็หมายความว่าท่านเริ่มจะหมดความอดทนกับสิ่งที่เขาทำอยู่
“ทีนี้ก็สบายใจได้แล้วนะหนูหวาน” มารดาของเขาหันมาพูดแล้วยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดี
“แม่คะ ถ้าเกิดน้องจัสมินไม่ชอบหนูแล้วเข้ากับหนูไม่ได้ล่ะคะ” เพราะเธอเจอกับหนูจัสมินไม่ถึงห้านาทีนฤดาเลยกังวลว่าจะเข้ากับลูกสาวของเขาไม่ได้
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลยเพราะหนูจัสมินบอกแม่ว่าเธอดีใจมากที่ได้เจอกับหม่ามี้และบอกพวกเราหม่ามี้ของเธอนั้นสวยและดูใจดีมาก”
เมื่อได้ยินแบบนั้นนฤดาก็โล่งใจขึ้นมาบ้างแต่เธอไม่เคยเลี้ยงเด็กและไม่เคยมีน้องมาก่อนก็เลยกลัวว่าจะทำตัวไม่ถูก
“แต่หนูไม่เคยมีลูก ไม่เคยมีน้องหนูเลี้ยงเด็กไม่เป็น”
“จัสมินมีพี่เลี้ยงอยู่แล้วหนูก็แค่เล่นกับเธอพูดคุยกับเธอก็พอ”
"หนูตกลงทำงานค่ะ"
ครอบครัวสุขสันต์ออกเดินทางจากกรุงเทพหลังจากทุกคนทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วรถตู้คันหรูสองคันและรถลูกน้องอีกสองคันวิ่งไปตามถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศที่อำเภอหัวหิน
ลูคัสนั่งเบาะแถวหน้าสุดคู่กับลูกสาวที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทซึ่งต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าเธอจะยอมขึ้นมานั่งเพราะอยากจะไปนั่งที่เบาะแถวหลังกับมารดาที่เพิ่งได้เจอกัน นฤดาเลยต้องให้เหตุผลว่าเธออยากให้จัสมินได้มองวิวสองข้างทางส่วนตัวเธอเองก็อยากจะนอนพักผ่อนอีกนิด จัสมินเลยต้องยอม แต่เด็กน้อยก็มักจะหันมามองนฤดาอยู่บ่อยๆ จนหญิงสาวต้องแกล้งทำเป็นหลับ
พอรถออกมาได้สักพักจัสมินที่เริ่มง่วงพอนฤดาเห็นว่าลูกสาวปลอมๆ ของเธอหลับไปแล้วหญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นข้อมูลการดูแลเด็กซึ่งอ่านเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็พยายามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด
รถคันนี้มีผู้โดยสารด้านหลังแค่สามคนเพราะบิดามารดาของลูคัสแยกไปนั่งรถอีกคันเนื่องจากอยากให้ลูกชายและครอบครัวได้อยู่กันตามลำพัง
“คุณลูคัสคะ” เธอเรียกเขาเบาๆ เพราะกลัวจัสมินจะตื่น
“ฉันบอกให้เรียกแค่ชื่อเรียกห่างเหินแบบนี้อยากให้ลูกสงสัยหรือไง” เขาหันมาทำหน้าดุและทำเสียงเข้มเพราะขัดใจที่เธอไม่ฟังคำสั่ง
“ฉันขอโทษ ก็มันชินนี่คะแต่คุณก็ไม่เห็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่ฉันเลย ถ้าจัสมินเห็นคงคิดว่าคุณกำลังดุฉัน” เพราะรู้ว่าเขารักลูกมากเลยเขาชื่อของจัสมินมาอ้าง
“ก็ตอนนี้ลูกหลับอยู่ เธอก็ควรจะพักอีกนานเลยกว่าจะถึง”
“ฉันมีเรื่องจะถามคุณเยอะ”
“จะถามอะไร ฉันจะพักสายตาอย่ากวนได้ไหม”
“ก็แค่อยากถามเรื่องจัสมิน”
เมื่อเธอจะถามเรื่องลูกสาวสุดที่รักชายหนุ่มเลยย้ายมานั่งเบาะหลังเพราะกลัวจะคุยกันเสียงดังจนจัสมินตื่น
“ว่ามาจะถามอะไร”
“ฉันจะถามว่า”
“หวาน เธอต้องแทนตัวเองว่าหวาน”
“ค่ะ คือหวานอยากรู้ข้อมูลของจัสมินว่าเธอชอบกินอะไรเป็นพิเศษ ชอบกินขนมแบบไหน ไอติมรสโปรดคือรสอะไร”
“จัสมินชอบกินทุกอย่างที่ไม่ใช่ข้าว พวกสปาเก็ตตี้ พาสต้า ราดหน้า ขนมปัง ชอบกินเค้กบลูเบอร์รี่ ไอติมรสช็อกโกแลต ไม่ชอบกินน้ำอัดลมชอบกินน้ำเปล่า ไม่กินลูกอม”
“ชอบสีอะไรคะ ชอบดูการ์ตูนเรื่องไหนมากที่สุด ชอบเจ้าหญิงดิสนีย์คนไหน”
“ชอบสีชมพูกับฟ้า ชอบดูการ์ตูนทุกเรื่องแต่ถ้าเรื่องไหนมีสัตว์เลี้ยงจะชอบเป็นพิเศษส่วนเจ้าหญิงที่ชอบก็น่าจะเป็นเอลซ่า”
“คุณจำได้หมดเลยเหรอคะเก่งจัง” นฤดามองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชมเพราะไม่คิดว่าเขาจะจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของลูกสาวได้
“ฉันมีลูกสาวคนเดียว จัสมินคือทุกอย่างของฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะลูกคือทุกอย่างของเขาอะไรที่ทำให้ลูกได้เขายินดีจะทำก็เหมือนกับที่ทำอยู่ในตอนนี้ เมื่อจัสมินคิดว่านฤดาคือมารดาของเธอเขาก็ไม่คิดจะขัดใจหรือบอกความจริงกับลูกเพราะกลัวจัสมินจะเสียใจและผิดหวัง เขาจะรอให้เธอโตกว่านี่ถึงจะบอกความจริง
ปกติแล้วจัสมินจะอยู่กับบิดามารดาของเขาที่สิงคโปร์และจะกลับมาเมืองไทยไม่ค่อยบ่อย การจ้างให้นฤดามาทำงานจึงเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
“หวานขอถามหน่อยนะคะ” นฤดาอยากทำงานให้คุ้มกับเงินที่เขาจ้างมากที่สุดเธอจึงต้องถามข้อมูลของนายจ้างมากขึ้น
“ถามมาสิ” เพราะลูคัสรู้ว่าสิ่งที่เธอจะถามคือเรื่องของลูกสาวเขาจึงไม่รำคาญหรือหงุดหงิด
“เวลานอนหวานต้องเล่านิทานให้จัสมินฟังไหมคะ”
“ปกติจัสมินจะนอนกับแม่ฉันนะ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าคืนนี้เธอจะมานอนกับเราไหม”
“เราเหรอคะ หมายความว่าเราต้องนอนห้องเดียวกันเหรอคะ”
ลูคัสมองใบหน้าสวยที่แดงซ่านอย่างหลงใหล ปลายนิ้วร้ายเริ่มขยับปลุกเร้าร่างกายของคนรักอย่างเต็มที่ ขาเรียวสั่นระริกมือเล็กโอบรอบลำคอเขาไว้แน่น ใบหน้าสวยซุกอยู่กับแผงอกแกร่ง เมื่อรู้สึกถึงแรงตอดบนปลายนิ้ว ชายหนุ่มก็ใช้มืออีกข้างจับปลายคางของนฤดาขึ้นเขาอยากเห็นหน้าคนรักในเวลาที่เธอไปถึงสวรรค์“หวานจ๋าอย่าหลับตาสิที่รัก พี่อยากให้หวานมองหน้าพี่ พี่ชอบเวลาที่เห็นหวานเสร็จ มันเซ็กซี่และน่าเอาที่สุด”คำพูดหื่นห่ามกระตุ้นไฟในกายของหญิงสาวให้ลึกโชนทุกครั้งที่อยู่กันตามลำพังเขามักจะคำพูดแบบนี้และเธอก็ชอบที่จะได้ฟัง“ดีไหม ชอบไหม”“พี่คีธขา หวาน อื้อ....ใกล้แล้ว อีกนิดพี่คีธ...อ้ายยย....”นฤดากรีดร้องเสียงยาวเมื่อสัมผัสร้อนของคนรักส่งเธอไปยังปลายทางสีรุ้ง ลูคัสมองใบหน้าสวยยามสุขสมแล้วตนเองก็ปวดหนึบไปทั้งแก่นกาย ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วดันให้นฤดานอนลงบนที่นอนด้วยความอ่อนโยน จมูกโด่งเริ่มซุกไซร้ฝากรอยรักลงบนซอกคอหอมกรุ่นอย่างหิวกระหาย นฤดาไม่เคยทำให้ความต้องการของเขาลดน้อยลงสักครั้งยิ่งได้อยู่ใกล้ได้กลิ่นกายหอมเขาก็พร้อมที่จะกระโจนเข้าหาเธออย่างห้ามไม่อยู่ที่ผ่านมาลูคัสไม่เคยรู้สึกต้องการผู้หญิงคนไหนมา
จัสมินกลับไปอยู่สิงคโปร์ได้หลายวันแล้ว ช่วงนี้นฤดาเลยเหงาอยู่ที่บ้านคนเดียว ช่วงกลางวันลูคัสจะออกไปทำงานพอตกเย็นก็กลับมาทานข้าวด้วยกันก่อนจะออกไปตรวจงานที่ผับอีกครั้งและกลับเข้ามาเกือบจะตีสองนฤดารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เขาทำงานหนักขึ้นและมีเวลาให้เธอน้อยลง ถ้าหากชายหนุ่มยังเป็นแบบนี้อีกต่อไปเรื่องที่เธอจะคบกับเขาต่อก็คงจะคิดหนักเสียงรถที่เข้ามาจอดในเวลาห้าทุ่มทำให้นฤดาที่กำลังจะสสมชุดนอนรีบหยิบเสื้อคลุมมาใส่เพราะคิดว่าลูคัสน่าจะลืมของเหมือนทุกครั้งที่เขาออกไปแล้วกลับมาก่อนเวลาเพราะลืมเอกสารหรือบางครั้งก็ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องทำงาน พอเธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งอยู่บนเตียง“ลืมของเหรอคะ เอาวางไว้ตรงไหนเดี๋ยวหวานช่วยหาให้ค่ะ” เธอกำลังจะเดินออกไปห้องทำงานแต่เขาก็คว้าเอวบางไว้แล้วก็จับให้หญิงสาวมานั่งอยู่บนหน้าตักของตนเอง“จับไว้แบบนี้แล้วหวานจะไปช่วยหาของได้ยังไงล่ะคะ”“วันนี้พี่ไม่ได้ลืมของ” สรรพนามที่มาเฟียหนุ่มเรียกแทนตัวเองเปลี่ยนนับตั้งแต่เธอบอกว่าจะให้โอกาสเขา“แล้วกลับมาทำไมคะ หรือว่างานเสร็จแล้ว”“งานเสร็จแล้วครับ แต่คนยังไม่เสร็จ” ลูคัสมองหญิงสาวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจัสมินก็ต้องเดินทางกลับสิงคโปร์แล้ววันนี้เด็กน้อยเลยขอมานอนค้างกับคุณยายประภาพรที่บ้าน ซึ่งลูคัสให้ลูกน้องมาต่อเติมห้องนอนและติดเครื่องปรับอากาศให้ถึงสองห้องสำหรับประภาพรห้องหนึ่งและเอาอีกห้องหนึ่งสำหรับนฤดาที่วันนี้พาจัสมินมาค้างที่นี่ด้วย“คุณยายขาคืนนี้จะจัสมินขอนอนกับคุณยายได้ไหมคะ แดดดี๊บอกว่าห้องคุณยายไม่ร้อนแล้ว”“ได้สิ เดี๋ยวยายจะเล่านิทานให้หนูฟังก่อนนอนดีไหมคะ”“แต่จัสมินลืมเอาหนังสือนิทานมาจากบ้านค่ะ” เพราะมัวแต่ตื่นเต้นว่าจะมาทานขนมชั้นเธอเลยลืมหยิบหนังสือนิทานมาด้วย ซึ่งปกติเวลาไปค้างที่ไหนจัสมินจะเลือกหนังสือนิทานเล่มที่อยากฟังใส่กระเป๋าเป้เล็กๆ ของเธอเอง“นิทานของยายเป็นนิทานพื้นบ้านค่ะจัสมิน ไม่ต้องใช้หนังสือ”“นิทานพื้นบ้านคืออะไรคะหม่ามี้”“ก็เป็นนิทานของคนที่เล่าสืบต่อกันมา ตอนเด็กๆ คุณยายจะเล่าให้หม่ามี้ฟังตลอดเลย”“แล้วนิทานพื้นบ้านสนุกไหมคะ”“สนุกสิหม่ามี้ว่าหนูจะต้องชอบมากๆ แน่เลย”“เราไปกันเลยไหมคะคุณยายจัสมินอยากฟังนิทานแล้ว”“จัสมินไปรอในห้องคุณยายก่อนนะคะ เดี๋ยวยายตามไปค่ะ”เมื่อจัสมินเข้าไปในห้องแล้วประภาพรก็ช่วยลูกสาวปิดหน้าต่างและประต
“ฉันอาจจะเก่งในเรื่องการทำงานแต่เรื่องความรู้สึกแบบนี้มันเข้าใจยาก”“งั้นหวานขอถามว่าทำไมเมื่อกี้คุณถึงไปแสดงตัวต่อหน้าพี่กายและเพื่อนหวานแบบนั้น”“เพราะฉันไม่อยากให้ใครมายุ่งกับคนฉัน ฉันกลัวเธอจะใจอ่อนแล้วกลับไปคบกับเขา ฉันยอมไม่ได้หรอกนะ ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีเธออยู่ข้างๆ ฉันกับจัสมินจะเป็นยังไง” ลูคัสบอกความรู้สึกของตนเองให้หญิงสาวฟังอย่างไม่มีปิดบัง เขากลัวว่าผู้หญิงจิตใจดีแบบนฤดาจะยอมให้อภัยผู้ชายคนนั้น“คุณอาจจะต้องการหวานตอนนี้เพราะจัสมินอยู่เมืองไทยก็ได้นะคะ หวานอยากรู้ว่าถ้าครบหนึ่งเดือนแล้วจัสมิและครอบครัวคุณไม่อยู่ที่นี่ความรู้สึกที่คุณมีให้หวานยังเหมือนเดิมหรือเปล่า”“ไม่ว่าจัสมินจะอยู่ที่นี่หรือเปล่าแต่ฉันก็ต้องการให้เธออยู่ใกล้ๆ เหมือนเดิม นะหวานนะขอโอกาสฉันหน่อย หรือที่เธอไม่อยากเป็นครอบครัวเพราะฉันอายุมากใช่ไหม” เขาพูดด้วยความน้อยใจ“ไม่ใช่เรื่องอายุหรอกค่ะ หวานแค่อยากมั่นใจกว่านี่อีกสักนิด”“ฉันต้องทำยังไงบ้างเธอถึงจะมั่นใจ ให้พ่อแม่ของฉันไปคุยกับแม่ของเธอดีไหม”“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ค่ะ หวานจะลองให้โอกาสคุณดูก็ได้”“จริงนะ”“ค่ะ”“ฉันดีใจที่เธอยอมเปิดใจ แต่ฉั
เมื่อถึงเวลาผับปิดลูคัสก็เดินมาบอกกับเพื่อนของนฤดาว่าเขาจะเป็นคนไปส่งเธอที่บ้านเอง หลังจากบอกลาเพื่อนๆ เสร็จแล้วนฤดาก็เดินตามลูคัสมาที่รถทันทีที่ประตูรถปิดลงหญิงสาวก็หันมามองหน้าลูคัสอย่างเอาเรื่อง“คุณไปพูดกับเพื่อนหวานแบบนั้นได้ยังไงคะ หวานบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้ ทีนี้เขาก็เข้าใจผิดกันหมดสิว่าเรากำลังคบกัน”“ถ้าฉันไม่พูดไอ้แฟนเก่าของคุณมันจะไปจากคุณไหมล่ะ”“นี่หวานต้องขอบคุณคุณใช่ไหมคะ”“มันก็ควรเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะ”“หวานจะขอบคุณก็ได้ที่คุณทำให้พี่กายไปจากหวานจริงๆ แล้วเรื่องที่เราคบกันล่ะ”“ก็ไม่ต้องทำอะไร”“คุณรู้ไหมว่าเพื่อนหวานต่างก็อยากรู้เรื่องของเรามาก”“แล้วเธอบอกเพื่อนยังไงล่ะ”“หวานบอกแค่ว่าเราเพิ่งเริ่มคุยกัน”“ทำไมไม่บอกความจริงเขาไปล่ะ”“ความจริงที่ว่าหวานเป็นเมียคุณเพื่อเงินน่ะเหรอคะ”“ฉันหมายถึงความจริงที่ว่าตอนนี้เรากำลังคบกันอยู่ไง”“เราไม่ได้คบกันนะคะลูคัส คุณจ้างหวานให้อยู่กับคุณต่างหาก”“เธอไม่คิดอะไรกับฉันเลยเหรอ ที่อยู่กับฉันเพราะเงินเหรอหวาน”“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะระหว่างเรามันคือการได้ผลประโยชน์ร่วมกัน”“ฉันไม่เชื่อหรอก”“ไม่เชื่ออะ
“คุณเฉินเขาน่ารักดีนะ” มีนาเอ่ยชมคนรักของเพื่อนที่ยกเค้กมาอวยพรวันเกิดให้กับปลาเมื่อครู่“นั่นสิน่าอิจฉาปลาจัง เมื่อไหร่ฟ้าจะมีแฟนกับเขาบ้างนะ”“ก็ฟ้าเลือกมากเอง มีคนมาจีบเยอะแยะแต่ไม่ยอมใจอ่อนกับใครสักคน” นุ่นแกล้งว่า“ก็ยังไม่มีใครที่ถูกใจ ฟ้าไม่อยากเสียเวลาคบคนที่ไม่ใช่”“หวานเห็นด้วยกับฟ้านะ จะคบใครต้องดูดีๆ จะได้ไม่โดนหลอกเหมือนหวาน”“พูดเรื่องนี้มาก็ดีเลย ปลาอยากจะถามว่าตอนนี้หวานกับพี่กายยังติดต่อกันอยู่ไหม”“ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วล่ะ”“นุ่นดีใจด้วยนะที่หวานตัดใจจากผู้ชายคนนั้นได้ แสดงว่าตอนนี้หวานก็โสดน่ะสิ”“อือ” นฤดาตอบไปแบบนั้นเพราะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของตนกับลูคัสเป็นแค่ลูกจ้างกับนายจ้าง“แต่มีนาว่าหวานโสดไม่นานหรอกดูผู้ชายคนนั้นสิจ้องหวานตลอดเลย” มีนาบอกเพื่อนให้มองไปยังโต๊ะด้านในสุด“เอ๊ะ นั่นเจ้านายคุณเฉินนี่ คนที่ไปส่งหวานที่บ้านไงละ” ปลาจำหน้าของเจ้านายคนรักได้ดีกว่าใครก็พูดขึ้นนฤดาหันไปมองตามเพื่อนบอกแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะก่อนออกมาจากบ้านเธอบอกเขาไปแล้วว่าห้ามเข้ามาทักทายหรือแสดงตัวเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เธอยอมเป็นของเขาเพื่อแลกกับเงิน“ดูเหมือนเขาสนใจหว