LOGIN“ว่าไงล่ะ ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว มีอะไรให้กินบ้าง” นภดลส่งเสียงเกรี้ยวกราดหาเรื่องหญิงสาวตรงหน้า ที่ผมเผ้าหลุดลุ่ยออกจากมวยที่มัดไว้ระต้นคอระหงอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งอึ้งเหมือนคนเป็นใบ้ หัวใจเริ่มเต้นผิดปกติ ยามคิดถึงใบหน้าแม่สาวน้อยที่นำอาหารไปเสิร์ฟ
มาตอนนี้ แค่ได้เห็นแผ่นหลังของเรือนร่างโปร่งบางอย่างชัดเจนกระจ่างตา ก่อเกิดความปรารถนาอย่างยากที่จะหักห้ามได้
นภดลสบถในลำคอกับอาการทางกายของตัวเอง ที่เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนเลย แม้กระทั่งคนที่พามาด้วยในค่ำคืนนี้ ขนาดเขาเป็นถึงเพียงนี้แล้วราชันย์จะเหลือรึ ก็เพื่อนหนุ่มของเขาคนนี้เป็นพวกเสือมือไว ไฟลุกเร็วซะด้วย เห็นเงียบๆ ขรึมๆ แต่ยามต้องการสาวคนไหนไม่เคยที่จะพลาดหลุดมือได้เลย ขนาดเขากับเพื่อนหนุ่มอีกคนที่ได้ชื่อว่าหล่อเทียบรุ่นพระเอกหนังไทยได้สบายๆ ยังต้องแพ้พ่ายหลุดลุ่ยจนมองไม่เห็นฝุ่น
เสียงเกรี้ยวกราดที่ดังมาจากด้านหลังเรียกความโมโหกรุ่นในหัวใจกันติชาได้ไม่น้อยเหมือนกัน ผู้ชายไม่มีมารยาทก็เห็นแล้วว่าเขาเก็บล้างข้าวของหมดแล้ว ยังจะมาเรียกร้องหาของกินอีก ไอ้ตอนที่มีให้กินนะไม่กิน เพราะมัวกินเหล้าเคล้านารีกันล่ะซิ พอมาตอนนี้เหล้าหมดนารีหายถึงได้คิดย้อนกลับมาหาของกิน มันน่าจะปล่อยให้อดเสียจริงๆ แต่...
กันติชาขนลุกเกรียวเมื่อมีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว มาหาอะไรกินแน่หรือ
‘ชิ...ไอ้ผู้ชายเฮงซวย นิสัยเหมือนกันอย่างนี้เอง ถึงได้คบกันนาน’ วงหน้าสวยแสยะด้วยความรังเกียจ ยิ่งหันหน้ามาแล้วเห็นคนที่บุกรุกสถานที่ส่วนตัวแล้วก็อดที่จะตกตะลึง พร้อมความกลัวแล่นลิ่วมา
สัดส่วนร่างกายหนาแกร่ง ความสูงถึงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ลาดไหล่กว้างเอนตัวอิงผนัง สองแขนกำยำสอดไขว้เข้าหากัน พร้อมเท้าที่ยื่นไขว้ทับกันอีกรอบอย่างสบายๆ ทำให้ห้องครัวเล็กๆ ดูคับแคบไปถนัดตา และหายใจหายคอไม่สะดวกเอาเสียเลย
กลีบปากอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ ความโกรธพุ่งไหลปรี่ขึ้นมาตามกระแสเลือด วงหน้าสวยแดงปลั่ง ดวงตาเป็นประกายวาววับ เมื่อเห็นดวงตาเข้มจับจ้องทั่วร่างเหมือนกับกำลังประเมินค่าราคาของ
“คุณต้องการอาหารใช่ไหมคะ” เอ่ยถามพลางขับไล่ความกลัวออกไปจากใจ แต่ถึงกระนั้นในดวงตากลมโตก็ยังหวาดหวั่นและอึดอัด เมื่อพอจะเดาความหมายในดวงตาเข้มเปล่งประกายวับวาวระยิบระยับที่ไล่ไปตามสัดส่วนเรือนกายได้ เพราะมันทั้งจาบจ้วงและแทะโลมอย่างที่เห็นแล้วอยากจะอาเจียน
กันติชายื่นไปด้านหลังอย่างช้าๆ ควานหามีดเล่มเล็กๆ ที่เธอจำได้ว่าล้างมันจนสะอาดและนำไปเก็บเอาไว้ไม่ไกลจากที่ยืนอยู่สักเท่าไหร่ อย่างน้อยแม้จะช่วยอะไรได้ไม่เยอะ แต่ก็ช่วยให้อุ่นใจได้แล้วกัน
เพียงแค่ได้เห็นหน้าเห็นตายแม่ครัวอายุน้อยใกล้ๆ ก็ทำให้นภดลถึงบางอ้อ ก็แหมหน้าหวานสวยเหลือเกิน เรียกได้ว่าเดินผ่านไปแล้วยังต้องหันกลับมามองซ้ำ
‘คุณพระ ใหญ่ไปเจอยายแม่ครัวนี่มาจากที่ไหน’
หุ่นก็อื้อฮือ...ขนาดอยู่ในเสื้อยืดตัวใหญ่และหลวมโพรกกับกางเกงยีนตัดขาสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยเท่านั้นนะ แต่เสื้อผ้าเหล่านี้ก็ยังปกปิดความอวบอั๋นของวัยสาวขบเผาะเอาไว้ไม่ได้สักนิด กลับยิ่งทำให้โดดเด่นด้วยทรวงอกนูนเด่นที่ชูชันดุนดันตัวเสื้อที่รับกับสะเอวเล็กๆ เหลือเกิน
ที่เขาจำได้ติดตาก็คือสะโพกงามกลมมนน่าสัมผัส ยามจับลูบมันคงจะ...เพียงแค่คิดกายใหญ่ก็เริ่มจะปวดร้าวเสียแล้ว ไหนจะยังมีลำขาเรียวยาวนวลเนียน ถ้ารัดรอบกายเขานะ นภดลแทบจะเปล่งเสียงร้องครวญครางออกมาในฉับพลัน ด้วยความกระหายในร่างสาวน้อยตรงหน้า
‘หน้าตาสวยน่าหม่ำอย่างนี้เอง ราชันย์ถึงได้เหลียวมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังออกอาการหวงนักหวงหนา จนออกคำสั่งกับทุกคนที่มางานว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับคนในบ้าน แล้วยายเด็กนี่ก็เหมือนกัน แสดงบทบาทใสซื่ออินโนเซ็นไร้เดียงสาได้เหมือนกับดาราตุ๊กตาทองเลย ทั้งจริตจะก้านในการหลอกล่อและยั่วยวน ทำเป็นไม่สนใจหยิ่งๆ และเชิดนิดๆ แต่แอบชม้ายชายตาส่งให้ราชันย์อยู่บ่อยครั้ง แค่นี้ร้อยทั้งร้อยผู้ชายก็ตกมาตายหลอมละลายกองแทบเท้าแล้ว เหอะ...’
เรียกได้ว่า...ความอิจฉาแล่นลิ่วขึ้นมาอย่างเร็วไว ‘คิดหรือว่าจะได้แอ้มราชันย์ได้แม่สาวน้อย ถ้ายังมีเขาอยู่ด้วยนะไม่มีทาง’
รอยยิ้มหยามหยันและดูถูกเหยียดหยามผุดขึ้นบนวงหน้าไม่ถึงกับหล่อ แต่เรียกได้ว่าดูดีด้วย เพราะเป็นคนขาว ไรเคราไรหนวดก็แทบจะไม่มีให้เห็น อีกทั้งริมฝีปากก็ยังเป็นสีแดงสด ยังจะมีอีกอย่างที่ทำให้นภดลกลายเป็นหนึ่งในหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ร่วมกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้วสามารถเรียกความสนใจจากสาวๆ ได้ไม่น้อยกว่าราชันย์
ดวงตาคมแต่หวานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผิดกับราชันย์ที่คมดุและแข็งกร้าวด้วยประกายสีนิล แต่ถึงกระนั้นเมื่อเทียบระหว่างเขา ราชันย์และสิทธิศักดิ์แล้ว เรียกได้ว่าเขาแพ้สองหนุ่มนั่นหลุดลุ่ยเลยทีเดียว
“รอเดี๋ยวละกันค่ะ ฉันจะเอาอาหารไปอุ่นให้ก่อน” กันติชากัดฟันบอกด้วยความโกรธและหงุดหงิด ตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยทั้งล้าและเพลียจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว ไหนจะต้องเจอกับสายตาดูถูกเหยียดหยามจากผู้ชายตรงหน้าอีกด้วย ทำเอาอารมณ์ภายในมันพลุ่งพล่านพร้อมจะระเบิดออกมาอยู่ในไม่กี่วินาทีข้างหน้า
ถึงเธอกับน้าชายจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง ชอบพูดว่าจะยกเธอให้กับเสี่ยเงินกู้นั่นบ้าง แต่เธอก็รู้ดี ฤทธิ์รงค์พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่คิดทำจริงจังอะไรหรอก เป็นเพียงแค่ลมปากพล่อยๆ ยามที่เหล้าเข้าปากและควบคุมสติตัวเองไว้ไม่อยู่ อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจแบบนั้นน่ะหรือ ก็ความรักที่ได้รับน่ะซิ รักอย่างไม่มีเหตุผลและไม่มีข้อแม้ ที่ถ้ามาเห็นแบบนี้ มีหวังระงับสติอารมณ์ไม่อยู่ต้องมีเรื่องทะเลาะชกต่อยกันเป็นแน่
‘ผู้ชายคนนี้ไม่เพี้ยนก็บ้าแล้ว ทำอย่างกับเราไปทำอะไรให้ไม่พอใจอย่างนั้นแหละ’ กันติชางุนงงและไม่เข้าใจ เหตุไฉนชายหนุ่มตรงหน้าถึงได้แสดงออกถึงความโกรธแค้นและชิงชัง แล้วยังจะมองมาอย่างดูถูกเหยียดหยามด้วย
ทั้งที่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอหน้ากันจังๆ อยากจะถามอยู่หรอกนะ แต่เห็นสายตาที่วาบวูบไปมาไม่คงที่ เหมือนสายลมที่พัดมาแล้วก็พัดเลยผ่านไป ก่อนจะพัดกลับมาใหม่ บ้างก็เต็มไปด้วยเพลิงไฟอันร้อนเร่าอ่อนหวาน เว้าวอนและเรียกร้อง บ้างก็อาบล้นไปด้วยความรังเกียจและเกลียดชัง เหมือนกับจะฆ่าให้ตายดาวดิ้นก็เลยหยุดคิดต่อความยาวสาวความยืด
ราชันย์วาดแขนควานหาร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นที่เขากอด รับและส่งมอบความสุขให้ตลอดทั้งคืนอย่างแทบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่พบ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมดวงตาคมกริบที่กะพริบถี่ๆ และหรี่ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรับให้เขากับแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา เพราะผ้าม่านที่กั้นไว้ปลิวไหวตามกระแสลมแรง บ้านพักที่นี่อยู่ใกล้ภูเขา ยามค่ำคืนอากาศเย็นสดชื่น เลยไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ สามารถนอนเปิดหน้าต่างนอนฟังเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องแข่งกันอย่างไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เมื่อมันเป็นเหมือนเสียงดนตรีขับขานกล่อมสองร่างให้นอนหลับฝันดี ดวงตาคมกริบลืมมองอย่างเต็มที่ ศอกใหญ่เท้ากับเตียงนอนหกฟุต กวาดมองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นคนที่ต้องการ เกือบจะยื่นมือไปคว้าเอาผ้าห่มที่คลุมเรือนกายบางส่วนอย่างหมิ่นเหม่ออกแล้ว เผอิญประตูห้องนอนก็เปิดออก ร่างโปร่งเดินเข้ามาพร้อมกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น“ตื่นแล้วหรือคะ” กันติชาเอ่ยทักเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานอบอุ่น เหมือนกับเปิดแย้มโลกที่มัวซัวให้สว่างและสดใสขึ้นทันตา ร่างโปร่งบางเดินไปวางกาแฟบนพนักเตียง ก่อนจะยื่นมือเล็กไปวางบนมือใหญ่ที่ยื่นมาหา กระตุกเพียงเล็
“อ๋อ...เหรอ ข้อหาอะไรครับคุณผู้หญิง ข่มขืนกระทำชำเราหรือ กล้าจะบอกตำรวจไหมละ ฉันทำอะไรกับเธอบ้าง กล้าไหมถ้าจะบอกตำรวจไปว่าฉันจับตรงนี้” มือใหญ่ลูบไล้ไปตามก้อนเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงที่ไหวกระเพื่อมตามแรงโกรธของคนตรงหน้า กายใหญ่ทาบทับขึ้นเหนือร่าง กับมือที่ลากไล้ไปตามสัดส่วนอันอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก “ทำอย่างนี้กับร่างกายของเธอนะชายิกา” ริมฝีปากหนาและร้อนผ่าวประทับกึ่งกลางทรวงสล้างอวบอิ่ม ขบเคลื่อนขึ้นไปทีละน้อย พร้อมกับคำถามเหมือนคมมีดที่กรีดเข้าไปในเนื้อกายสาวให้ต้องช้ำชอกและกลัดหนอง ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปถึงมุกมณีเม็ดงามที่หลบซ่อนอยู่ล่างพงไหมนุ่มและมีกลีบดอกไม้บางนุ่มปกปิดอยู่อีกชั้นกดคลึงเบาๆ “กล้าไหมที่จะบอกเขาไหม ฉันทำให้เธอร้องเสียงแหบเสียงแห้งตอนที่...” “อือ...” กายสาวสั่นสะท้าน วาบหวิวกับมือใหญ่ที่เริ่มร่ายมนตร์มายาใส่ ริมฝีปากอวบอิ่มเห่อแดงขบกัดจนกลายเป็นเส้นตรง ยิ่งเมื่อห้ามปราม กลับถูกสิทธิ์ศักดิ์บังคับด้วยแรงที่มากกว่าจนระบบภายในร่างกายเริ่มปั่นป่วน จุมพิตร้อนผ่าวที่นาบอยู่บนผิวเนื้อ ทำให้เสียววูบไปถึงรูขุมปากหนาอ้างับและดูดกลืนปลายนิ้วยาวเรียวจนเปียกชื้น “เอาน่าชายิกา จะคิ
กายแข็งแกร่งถาโถมเข้าหาบุปผาอบอุ่นอีกครั้งและอีกครั้ง พร้อมระเบิดลูกขนาดย่อมที่ระเบิดตูมๆ ติดกันหลายตลบ ก่อนจะตามด้วยระเบิดลูกยักษ์ที่แตกตัวกลายเป็นสะเก็ดดาวพร่างพราวจนเต็มท้องฟ้า กับสายธารอุ่นร้อนที่ไหลรินรดกุหลาบดอกน้อยจนอาบล้น ส่วนหนึ่งไหลปรี่ออกมาเบื้องนอกกับใบหน้าคมคร้ามที่ซบซุกบนสองเต้าสวย สองกายอาบชุ่มเหงื่อจากเพลิงพิศวาสแผดร้อนกอดประคองแนบชิด ลมหายใจหอบสะท้านด้วยเพลิงพายุพิศวาสที่อาบล้น แล้วก็เป็นชายิกาได้สติก่อน รีบผลักดันร่างหนาให้ถอยห่างด้วยความเจ็บปวดและอับอายขายขี้หน้า แต่ในความรู้สึกเหล่านั้นส่วนหนึ่งกลับแฝงไว้ด้วยความสุขที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนราบเรียบ ในหน่วยตามีน้ำใสๆ อาบล้นเมื่อแขนแกร่งเป็นดังเหล็กกล้าไม่คลายออกแม้แต่น้อย “ปล่อยฉันได้แล้ว” แม้จะพยายามข่มกลั้นน้ำเสียงให้ราบเรียบ แต่ความใกล้ชิดและสิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิงวัยเจริญพันธุ์ก็ยังทำให้ชายิกาทำใจไม่ได้ “ปล่อย แล้วทำไมต้องปล่อย” สิทธิศักดิ์เอ่ยถามน้ำเสียงยิ้มกริ่มเริงรื่นอย่างคนที่อารมณ์ดี ศอกใหญ่เท้ากับพื้นเตียงชะโงกศีรษะ ปลายนิ้วลากไล้ผ่านส่วนเว้าส่วนโค้
“ออกไปนะคนใจร้าย ออกไป” ชายิการ้องเสียงแหบแห้ง จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้างและลากอย่างแรงเท่าที่จะทำได้ ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะได้เลือด แต่ความเจ็บปวดที่ไหลล้นอยู่บนเรือนกายก็ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนไหวตัว “โทษทีนะชายิกา แต่เราคงจะหยุดไม่ได้ ฉันเตือนเธอแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าเล่นกับไฟ ระวังมันลวกมือตัวเอง” ชายหนุ่มทุ่มทั้งกายปลุกเร้าบีบนวดบั้นท้ายกลมกลึง ไพล่ไปถึงลำขากลมกลึง บีบนวดไล่ไปถึงข้อพับและลากไล้กลับขึ้นมาสอดแทรกจากต้นขาด้านใน ซอกซอนไปลากไล้ฉวัดเฉวียนกดขยี้มุกมณีอันอ่อนไหว สูดลมหายใจร้อนผ่าวเข้าจนเต็มปอด พร้อมขบเม้มจุมพิตไต่ไล่ขึ้นไปซุกไซ้ใบหน้าคมคร้ามกับซอกคอระหง ดูดกลืนผิวกายสีขาวอมชมพูเหมือนกับกลีบซากุระจนแดงช้ำ ก่อนไถลไปลูบไล้ลำขาเสลา บีบนวดสะโพกหนั่นแน่นเรื่อยไปตามสีข้างเนียนนุ่ม ไล้ไปด้านหน้านวดคลึงหน้าท้องแบนราบเรียบ ก่อนจะตรงเข้าครอบครองเต้าอวบอิ่มนุ่มหยุ่น ปลายนิ้วลากไล้วนเวียนรอบป้านบัวนุ่มที่แข็งตัวเป็นไต กดคลึงขยี้แผ่วเบา ครอบครองด้วยฝ่ามือใหญ่เคลื่อนไหวคลึงไปมา จุมพิตร้อนผ่าวขบเคลื่อนทั่ววงหน้านุ่ม กดซับหยดน้ำตาจาก
“สายไปเสียแล้วคุณน้อง...ฉันจะชำแรกแทรกลึก จะทำให้คุณทัวร์สวรรค์แต่ลงนรกในคราวเดียวกัน” ‘ไม่ใช่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการสักหน่อย’ ชายิกาบอกกับใจตัวเอง เมื่อถูกคลื่นความสยิวซ่านโอบรอบ ในสมองคล้ายๆ มีกระไอหมอกและควันสีขาวไหววูบวาบ ในทรวงหวิวไหวคล้ายคนจะเป็นลม แต่ที่หนักคงจะเป็นระบบต่างๆ ในร่างกายซึ่งทำงานผิดปกติ ไม่เชื่อฟังคำสั่งที่มาจากสมองและหัวใจเธอเลยสักนิด สองมือที่วางทาบบนบ่ากว้างหวังจะผลักกายใหญ่ให้ออก แต่ไม่รู้ว่าเรือนกายสิทธิศักดิ์ปราศจากเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ กระตุ้นให้มือเล็กเคลื่อนไหวไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ยิ่งเป็นการเพิ่มไฟปรารถนาให้ลุกโชนมือใหญ่รีบเกี่ยวเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่บนกายโยนทิ้งไป อย่างไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงตำแหน่งใดของห้อง ใบหน้าคร้ามเต็มไปด้วยไรหนวดและเครา ประพรมจุมพิตเคลื่อนขึ้นพร้อมปลายลิ้นไล้เลียผิวเนื้อนุ่มและหอมหวานเหมือนไอศกรีมที่เคลือบด้วยคาราเมล แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะยอมละมือจากความอุ่นนุ่มและร้อนผ่าว “อืม...” เสียงร้องแหบพร่าและกระเส่าดังจากสองกายเป็นระยะ กายใหญ่บดเบียดความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวกับกลีบกายอันอ่อนนุ่มเหมือนกับไหมชั้นดี
“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ปะ...ปล่อยฉันไปดีกว่า” “ปล่อยทำไมและทำไมต้องปล่อย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนกับจะหยอกเย้า แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยคำถากถางและเย้ยหยัน ฟันขาวสะอาดอ้างับปลายยอดถันกดขยี้แรงๆ “อยากให้ฉันบำรุงบำเรอความสุขให้จนตัวสั่นไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ถึงมาทำสะบิดสะบิ้งเหมือนสาวขี้อาย ไม่เคยนอนกับใครมาก่อนเสียได้ล่ะ อย่างเธอน่ะคงจะยั่วเขาไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้วละแม่คุณหนูจอมยั่ว” สิทธิศักดิ์พูดอย่างลืมไป แม้ราชันย์จะไม่สนใจแม่และน้อง แต่ชายหนุ่มยังควบคุมความประพฤติไม่ให้คนใดคนหนึ่งออกนอกลู่นอกทางเสมอและบ่อยครั้งที่ส่งเขาไปดูแล“ไม่...อือ...” คำพูดที่จะปฏิเสธกลายเป็นเสียงร้องด้วยเสียวซ่านแทน เมื่อสิทธิศักดิ์ไม่ยอมฟัง สองมือเล็กที่วางทาบบนบ่ากว้างและผลักออกไปก็เหมือนเอามือไปผลักหิน ที่ไม่มีอาการขยับเขยื้อนแม้แต่อย่างใด เรือนกายเล็กบางสั่นสะท้านไหวหวิวจากริมฝีปากหนาร้อนและใบหน้าคมซุกไซ้เคลื่อนไหวลงตามหน้าท้องแบนราบเรียบ จุมพิตวนเวียนรอบหน้าท้องไร้ไขมัน สลับปลายลิ้นสอดแทรกกระเซ้าเย้าแหย่ช่องสะดือบุ๋ม สองแขนสอดกระชับบีบนวดบั้นท้ายหนั่นแน่น ดันขึ้นพร้อมเกี่ยวรูดเอาชุดนอนที่ยั







