LOGIN“ไม่ถึงห้านาทีคุณก็ได้กินแล้ว ทนรออีกนิดละกัน แต่ถ้าทนรอไม่ไหวหิวจนลงแดงตายก่อนก็ถือว่าช่วยไม่ได้นะ” กันติชาข่มความโมโหที่มันพลุ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือดพูดตอบกลับไปแบบมะนาวไม่มีน้ำ พร้อมจิกกัดไปในตัวหน้าตาเฉย เพราะเธอไม่ใช่คนโง่สักเท่าไหร่เพียงแค่ไม่เฉลียวและทันคนเท่านั้นเอง แต่ก็ยังพอจะเข้าใจความหมายในการมองของชายหนุ่มได้แม้ไม่หมดทุกอย่าง เอ่ยถามแทรกขึ้นมาในความเงียบงัน
“ถ้าฉันทนไม่ไหวขึ้นมาแล้วเผลอกินเธอเข้าไปจะว่าไงล่ะ เธอจะยอมให้ฉันกินแทนอาหารพวกนั้นหรือเปล่า” นภดลตอบกลับไปอย่างยียวนและกวนประสาทอีกฝ่ายเหมือนกัน ด้วยอยากรู้ว่ายายแม่ครัวที่น่าจับปล้ำตรงหน้าจะรับมือกับพฤติกรรมห่ามๆ ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อได้มาเจอเธอของเขาอย่างไรกัน
กันติชาหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดสองแง่สองง่ามของคนตรงหน้า ที่กวนประสาทเธอเหลือหลาย แล้วยังจะมีรอยยิ้มหวานนุ่มมีเสน่ห์ส่งมอบมาให้อีก ไหล่กว้างเลิกขึ้นสูง ลืมไปได้ไงกัน พวกคนรวยๆ น่ะมีอารมณ์แปลกประหลาดปรวนแปรง่าย เดี๋ยวก็ยิ้มหวานไม่ทันถึงห้านาทีก็โมโหซะแล้ว
“ฉันไม่ใช่อาหารของใครและไม่เคยคิดจะเป็นด้วย ถ้าคุณอยากได้อาหารแบบที่ว่า ก็ไปขอจากผู้หญิงที่คุณพามาด้วยละกัน แต่ถ้าหิวมากหาที่ลงไม่ได้ก็ไปหาเอาตามข้างถนนละกัน คงจะมีให้คุณเลือกไม่อั้นเลยละ”
เอาซิบ้ามาเธอก็บ้าไป เรื่องอะไรจะยอมเป็นเบี้ยให้ถูกโขกสับอยู่ฝ่ายเดียวละ ไม่ใช่คนจ่ายเงินให้เธอเสียหน่อย ถ้าราชันย์ว่าก็ไปอีกอย่างหนึ่ง อันนั้นต้องหงอไว้ก่อน เดี๋ยวไม่ได้เงินละแย่เลย
‘หึ...ปากจัดใช่เล่นเลยนะยายแม่ครัวหัวป่า แล้วก็รู้ทันฉันด้วย อย่างนี้ก็สนุกซิ’
รอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปากด้านหนึ่งแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็วจนกันติชาไม่ทันจะได้เห็น และยิ่งร่างโปร่งบางหันหลังเดินไปหยิบเอาอาหารที่บรรจุใส่กล่องอย่างสวยงามน่ารับประทานออกมาอย่างช้าๆ เพื่อเลือกดูว่าอันไหนจะเหมาะและพอให้ชายหนุ่มจอมก่อกวนได้รับประทานแบบพอกิน ไม่เหลือทิ้งให้ต้องเกิดความเสียดาย ทำให้นภดลกวาดตามองหญิงตรงหน้าได้อย่างถนัดถนี่ ลมหายใจชายหนุ่มถึงกับหอบแรง ความกระหายในตัวมันพลุ่งพล่านอย่างไม่มีสาเหตุ
ร่างหนาเดินไปหาแม่ครัวสาวเหมือนคนที่โดนสะกดจิต ก็พอดีกับที่ร่างเล็กหันมาพอดี สองร่างจึงปะทะกันอย่างเต็มและด้วยความที่ไม่ทันระวังตัว บวกกับความหนาของคนชนทำให้ร่างโปร่งบางถึงกับกระเด็นหงายไปด้านหลัง ประจวบกับพื้นห้องครัวยังมีหยดน้ำจากการถูกพื้นเมื่อครู่หลงเหลืออยู่นิดๆ เลยทำให้กันติชาถึงกับหน้าเหวอลื่นล้มก้นกระแทกพื้นอย่างไม่เป็นท่า
“โอ๊ย!!!!”
“ทำอะไรกัน?”
กันติชาถึงกับสะดุ้งเฮือก เจ็บก้นกบยังไม่ทันจะจางหาย ใบหน้าที่นิ่วเหยเก ดวงตากลมโตยิบหยี พร้อมเสียงสูดปากและโอดโอยหยุดชะงัก เมื่อมีเสียงแข็งกร้าวและดุแข็งดังมาจากไหนก็ไม่รู้ ที่ได้ยินแล้วก็ให้นึกถึงคนบางคนที่ก่ออารมณ์ต่างๆ ให้อย่างไม่มีวันหยุดนิ่ง
“อู๊ย...มันเรื่องอะไรกันนักหนานะ ทำไมวันนี้ถึงได้มีแต่เรื่องบ้าๆ ห่วยๆ จังเลยวุ้ย” ริมฝีปากอวบอิ่มขยับบ่นพึมพำทั้งที่ดวงตากลมโตยังขยุกขยิกจะลืมก็ไม่ใช่จะปิดก็ไม่เชิง เลิกขึ้นช้าๆ จากที่ตวัดมองคนที่ทำให้เธอล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างไม่พอใจ ต้องไพล่ไปหาต้นเสียงที่ชวนให้หวาดหวั่น
แสงจากหลอดไฟนีออนที่ส่องสว่างทำให้เธอเห็นเงาที่ทาบลงมาบนพื้น ลมหายใจสาวน้อยถึงกับติดขัด เมื่อเห็นหน้าคนถามถนัดๆ ตา
‘โอ๊ย...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ใครก็ได้ช่วยลูกช้างที’
“พอดีฉันหิวน่ะ เลยคิดจะมาขออะไรแม่ครัวแกกินสักหน่อย” นภดลตัดบทพูดขึ้นก่อน ไม่แคร์แม้จะได้เห็นสายตาไม่พอใจจากเพื่อนกึ่งเจ้านายส่งมาก็ตาม อีกทั้งยื่นมือใหญ่ไปหวังจะช่วยคนร่างเล็กกว่าให้ลุกจากพื้น แต่ก็ไม่ทันราชันย์ที่เดินเข้ามาแทรกอย่างรวดเร็ว ดึงเอาร่างแม่ครัวหุ่นอวบอัดน่าปรารถนาขึ้นไปกกกอดหน้าตาเฉย
ใบหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มเหนือมุมปากเล็กน้อยอย่างรู้เท่าทันคนเป็นเพื่อน แขนแกร่งสอดรัดร่างโปร่งเข้ามาหาจนแนบชิด แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผย สายตาผู้ชายด้วยกันมองกันออก นภดลให้ความสนใจกันติชาอย่างออกนอกหน้า ถึงได้พยายามตะล่อมถามเรื่องราวของหญิงสาวจากเขาและคนในบ้าน รวมถึงคอยสอดส่ายสายตามองอยู่อย่างไม่คลาดคลา
“แล้วได้หรือยังล่ะของกิน” ราชันย์ถามเรียบๆ ทั้งที่ความจริงเขามาทันเห็นนภดลกำลังจะทำอะไรกับแม่ครัวแสนหวานที่เขาจับจ้องเป็นเจ้าของตั้งแต่แรกเห็น ที่มันทำให้ความรู้สึกหวงแหนพุ่งขึ้นสู่สมองและหัวใจทันควัน อย่างไม่ทันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าตอนที่เห็นลมร้อนแทบจะพวยพุ่งออกจากหูด้วยซ้ำ เกือบถลาไปฝากรอยหมัดไว้บนวงหน้าหล่อหวานละมุนของเพื่อนแล้วด้วย แต่เมื่อกันติชาถลาลื่นล้มก็ให้เป็นห่วงแทน จนต้องรีบนำตัวเองสอดเข้ามาขวางลำเสียก่อน
“คุณ...หนูเจ็บนะ” กันติชาร้องบอกราชันย์เสียงเบา วงหน้าสวยเบะออกด้วยความเจ็บ เมื่อแขนแข็งแกร่งกลายตัวเป็นคีมเหล็กรัดเสียจนเอวเธอแทบจะหักขาดเป็นสองท่อน อีกทั้งการได้อยู่กับราชันย์ก็ยังดีกว่าชายหนุ่มอีกคนที่เป็นคนอารมณ์ไม่คงที่ เหมือนกับผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน เลือดจะไปลมจะมา หาทิศทางไม่เจอ
ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อย ปลายมือจิกลงไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งแรงๆ เพื่อให้เขารู้ตัวว่าทำให้เธอเจ็บ แต่ดูเหมือนว่าแรงเท่ามดตะนอยจะสร้างความเจ็บปวดและรู้สึกตัวให้อีกฝ่ายไม่ได้เลย เพราะยิ่งปฏิเสธและขยับกายหนีห่างเท่าไหร่ แขนกำยำก็ยิ่งรัดแน่นขนัดมากขึ้น จนเรือนกายโปร่งบางแนบชิดไปกับเรือนกายอันทรงพลังและแข็งแกร่งของอีกฝ่ายทั่วทั้งสรรพางค์
“ยังเลย ว่าแต่แกเถอะมาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้ นึกว่าจะอยู่กับสาวๆ ที่คลอเคลียออดอ้อนเหมือนแมวพวกนั้นเสียอีก ของชอบไม่ใช่หรือไง”
นภดลถามพร้อมแขวะกัดไปเล็กน้อย ตามอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นด้วยความอิจฉา ที่จำต้องข่มกลั้นสะกดเอาไว้ในทรวง ทุกคนต่างให้การยกย่องเชิดชูราชันย์ แม้ชายหนุ่มจะแสดงท่าทางไม่แคร์ใคร พูดจาหมาไม่รับประทานก็ตามที แต่ทุกคนก็ยังต้องพึ่งพาเพื่อนคนนี้ ไม่เว้นแม่แต่เขาเองที่ต้องพึ่งพาทั้งเรื่องงานที่ทำอยู่และเรื่องเงินที่อีกฝ่ายยอมควักออกจากกระเป๋าอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะมากมายเพียงไหนก็ไม่มีบ่นเลยสักคำ ที่ไม่เคยพอสักครั้ง ที่ความอยากเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
ราชันย์วาดแขนควานหาร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นที่เขากอด รับและส่งมอบความสุขให้ตลอดทั้งคืนอย่างแทบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่พบ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมดวงตาคมกริบที่กะพริบถี่ๆ และหรี่ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรับให้เขากับแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา เพราะผ้าม่านที่กั้นไว้ปลิวไหวตามกระแสลมแรง บ้านพักที่นี่อยู่ใกล้ภูเขา ยามค่ำคืนอากาศเย็นสดชื่น เลยไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ สามารถนอนเปิดหน้าต่างนอนฟังเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องแข่งกันอย่างไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เมื่อมันเป็นเหมือนเสียงดนตรีขับขานกล่อมสองร่างให้นอนหลับฝันดี ดวงตาคมกริบลืมมองอย่างเต็มที่ ศอกใหญ่เท้ากับเตียงนอนหกฟุต กวาดมองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นคนที่ต้องการ เกือบจะยื่นมือไปคว้าเอาผ้าห่มที่คลุมเรือนกายบางส่วนอย่างหมิ่นเหม่ออกแล้ว เผอิญประตูห้องนอนก็เปิดออก ร่างโปร่งเดินเข้ามาพร้อมกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น“ตื่นแล้วหรือคะ” กันติชาเอ่ยทักเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานอบอุ่น เหมือนกับเปิดแย้มโลกที่มัวซัวให้สว่างและสดใสขึ้นทันตา ร่างโปร่งบางเดินไปวางกาแฟบนพนักเตียง ก่อนจะยื่นมือเล็กไปวางบนมือใหญ่ที่ยื่นมาหา กระตุกเพียงเล็
“อ๋อ...เหรอ ข้อหาอะไรครับคุณผู้หญิง ข่มขืนกระทำชำเราหรือ กล้าจะบอกตำรวจไหมละ ฉันทำอะไรกับเธอบ้าง กล้าไหมถ้าจะบอกตำรวจไปว่าฉันจับตรงนี้” มือใหญ่ลูบไล้ไปตามก้อนเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงที่ไหวกระเพื่อมตามแรงโกรธของคนตรงหน้า กายใหญ่ทาบทับขึ้นเหนือร่าง กับมือที่ลากไล้ไปตามสัดส่วนอันอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก “ทำอย่างนี้กับร่างกายของเธอนะชายิกา” ริมฝีปากหนาและร้อนผ่าวประทับกึ่งกลางทรวงสล้างอวบอิ่ม ขบเคลื่อนขึ้นไปทีละน้อย พร้อมกับคำถามเหมือนคมมีดที่กรีดเข้าไปในเนื้อกายสาวให้ต้องช้ำชอกและกลัดหนอง ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปถึงมุกมณีเม็ดงามที่หลบซ่อนอยู่ล่างพงไหมนุ่มและมีกลีบดอกไม้บางนุ่มปกปิดอยู่อีกชั้นกดคลึงเบาๆ “กล้าไหมที่จะบอกเขาไหม ฉันทำให้เธอร้องเสียงแหบเสียงแห้งตอนที่...” “อือ...” กายสาวสั่นสะท้าน วาบหวิวกับมือใหญ่ที่เริ่มร่ายมนตร์มายาใส่ ริมฝีปากอวบอิ่มเห่อแดงขบกัดจนกลายเป็นเส้นตรง ยิ่งเมื่อห้ามปราม กลับถูกสิทธิ์ศักดิ์บังคับด้วยแรงที่มากกว่าจนระบบภายในร่างกายเริ่มปั่นป่วน จุมพิตร้อนผ่าวที่นาบอยู่บนผิวเนื้อ ทำให้เสียววูบไปถึงรูขุมปากหนาอ้างับและดูดกลืนปลายนิ้วยาวเรียวจนเปียกชื้น “เอาน่าชายิกา จะคิ
กายแข็งแกร่งถาโถมเข้าหาบุปผาอบอุ่นอีกครั้งและอีกครั้ง พร้อมระเบิดลูกขนาดย่อมที่ระเบิดตูมๆ ติดกันหลายตลบ ก่อนจะตามด้วยระเบิดลูกยักษ์ที่แตกตัวกลายเป็นสะเก็ดดาวพร่างพราวจนเต็มท้องฟ้า กับสายธารอุ่นร้อนที่ไหลรินรดกุหลาบดอกน้อยจนอาบล้น ส่วนหนึ่งไหลปรี่ออกมาเบื้องนอกกับใบหน้าคมคร้ามที่ซบซุกบนสองเต้าสวย สองกายอาบชุ่มเหงื่อจากเพลิงพิศวาสแผดร้อนกอดประคองแนบชิด ลมหายใจหอบสะท้านด้วยเพลิงพายุพิศวาสที่อาบล้น แล้วก็เป็นชายิกาได้สติก่อน รีบผลักดันร่างหนาให้ถอยห่างด้วยความเจ็บปวดและอับอายขายขี้หน้า แต่ในความรู้สึกเหล่านั้นส่วนหนึ่งกลับแฝงไว้ด้วยความสุขที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนราบเรียบ ในหน่วยตามีน้ำใสๆ อาบล้นเมื่อแขนแกร่งเป็นดังเหล็กกล้าไม่คลายออกแม้แต่น้อย “ปล่อยฉันได้แล้ว” แม้จะพยายามข่มกลั้นน้ำเสียงให้ราบเรียบ แต่ความใกล้ชิดและสิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิงวัยเจริญพันธุ์ก็ยังทำให้ชายิกาทำใจไม่ได้ “ปล่อย แล้วทำไมต้องปล่อย” สิทธิศักดิ์เอ่ยถามน้ำเสียงยิ้มกริ่มเริงรื่นอย่างคนที่อารมณ์ดี ศอกใหญ่เท้ากับพื้นเตียงชะโงกศีรษะ ปลายนิ้วลากไล้ผ่านส่วนเว้าส่วนโค้
“ออกไปนะคนใจร้าย ออกไป” ชายิการ้องเสียงแหบแห้ง จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้างและลากอย่างแรงเท่าที่จะทำได้ ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะได้เลือด แต่ความเจ็บปวดที่ไหลล้นอยู่บนเรือนกายก็ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนไหวตัว “โทษทีนะชายิกา แต่เราคงจะหยุดไม่ได้ ฉันเตือนเธอแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าเล่นกับไฟ ระวังมันลวกมือตัวเอง” ชายหนุ่มทุ่มทั้งกายปลุกเร้าบีบนวดบั้นท้ายกลมกลึง ไพล่ไปถึงลำขากลมกลึง บีบนวดไล่ไปถึงข้อพับและลากไล้กลับขึ้นมาสอดแทรกจากต้นขาด้านใน ซอกซอนไปลากไล้ฉวัดเฉวียนกดขยี้มุกมณีอันอ่อนไหว สูดลมหายใจร้อนผ่าวเข้าจนเต็มปอด พร้อมขบเม้มจุมพิตไต่ไล่ขึ้นไปซุกไซ้ใบหน้าคมคร้ามกับซอกคอระหง ดูดกลืนผิวกายสีขาวอมชมพูเหมือนกับกลีบซากุระจนแดงช้ำ ก่อนไถลไปลูบไล้ลำขาเสลา บีบนวดสะโพกหนั่นแน่นเรื่อยไปตามสีข้างเนียนนุ่ม ไล้ไปด้านหน้านวดคลึงหน้าท้องแบนราบเรียบ ก่อนจะตรงเข้าครอบครองเต้าอวบอิ่มนุ่มหยุ่น ปลายนิ้วลากไล้วนเวียนรอบป้านบัวนุ่มที่แข็งตัวเป็นไต กดคลึงขยี้แผ่วเบา ครอบครองด้วยฝ่ามือใหญ่เคลื่อนไหวคลึงไปมา จุมพิตร้อนผ่าวขบเคลื่อนทั่ววงหน้านุ่ม กดซับหยดน้ำตาจาก
“สายไปเสียแล้วคุณน้อง...ฉันจะชำแรกแทรกลึก จะทำให้คุณทัวร์สวรรค์แต่ลงนรกในคราวเดียวกัน” ‘ไม่ใช่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการสักหน่อย’ ชายิกาบอกกับใจตัวเอง เมื่อถูกคลื่นความสยิวซ่านโอบรอบ ในสมองคล้ายๆ มีกระไอหมอกและควันสีขาวไหววูบวาบ ในทรวงหวิวไหวคล้ายคนจะเป็นลม แต่ที่หนักคงจะเป็นระบบต่างๆ ในร่างกายซึ่งทำงานผิดปกติ ไม่เชื่อฟังคำสั่งที่มาจากสมองและหัวใจเธอเลยสักนิด สองมือที่วางทาบบนบ่ากว้างหวังจะผลักกายใหญ่ให้ออก แต่ไม่รู้ว่าเรือนกายสิทธิศักดิ์ปราศจากเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ กระตุ้นให้มือเล็กเคลื่อนไหวไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ยิ่งเป็นการเพิ่มไฟปรารถนาให้ลุกโชนมือใหญ่รีบเกี่ยวเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่บนกายโยนทิ้งไป อย่างไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงตำแหน่งใดของห้อง ใบหน้าคร้ามเต็มไปด้วยไรหนวดและเครา ประพรมจุมพิตเคลื่อนขึ้นพร้อมปลายลิ้นไล้เลียผิวเนื้อนุ่มและหอมหวานเหมือนไอศกรีมที่เคลือบด้วยคาราเมล แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะยอมละมือจากความอุ่นนุ่มและร้อนผ่าว “อืม...” เสียงร้องแหบพร่าและกระเส่าดังจากสองกายเป็นระยะ กายใหญ่บดเบียดความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวกับกลีบกายอันอ่อนนุ่มเหมือนกับไหมชั้นดี
“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ปะ...ปล่อยฉันไปดีกว่า” “ปล่อยทำไมและทำไมต้องปล่อย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนกับจะหยอกเย้า แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยคำถากถางและเย้ยหยัน ฟันขาวสะอาดอ้างับปลายยอดถันกดขยี้แรงๆ “อยากให้ฉันบำรุงบำเรอความสุขให้จนตัวสั่นไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ถึงมาทำสะบิดสะบิ้งเหมือนสาวขี้อาย ไม่เคยนอนกับใครมาก่อนเสียได้ล่ะ อย่างเธอน่ะคงจะยั่วเขาไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้วละแม่คุณหนูจอมยั่ว” สิทธิศักดิ์พูดอย่างลืมไป แม้ราชันย์จะไม่สนใจแม่และน้อง แต่ชายหนุ่มยังควบคุมความประพฤติไม่ให้คนใดคนหนึ่งออกนอกลู่นอกทางเสมอและบ่อยครั้งที่ส่งเขาไปดูแล“ไม่...อือ...” คำพูดที่จะปฏิเสธกลายเป็นเสียงร้องด้วยเสียวซ่านแทน เมื่อสิทธิศักดิ์ไม่ยอมฟัง สองมือเล็กที่วางทาบบนบ่ากว้างและผลักออกไปก็เหมือนเอามือไปผลักหิน ที่ไม่มีอาการขยับเขยื้อนแม้แต่อย่างใด เรือนกายเล็กบางสั่นสะท้านไหวหวิวจากริมฝีปากหนาร้อนและใบหน้าคมซุกไซ้เคลื่อนไหวลงตามหน้าท้องแบนราบเรียบ จุมพิตวนเวียนรอบหน้าท้องไร้ไขมัน สลับปลายลิ้นสอดแทรกกระเซ้าเย้าแหย่ช่องสะดือบุ๋ม สองแขนสอดกระชับบีบนวดบั้นท้ายหนั่นแน่น ดันขึ้นพร้อมเกี่ยวรูดเอาชุดนอนที่ยั







