 LOGIN
LOGIN“เปล่า แค่มาหาอะไรดื่มแก้กระหายเท่านั้นเอง พอดีเห็นแกเข้า มันก็อดสงสัยไม่ได้ เข้ามาทำอะไรในครัวดึกๆ ดื่นๆ ก็เท่านั้นเอง” ราชันย์ตอบพร้อมไหล่กว้างที่เลิกขึ้น ก่อนปล่อยร่างโปร่งบางที่ยืนขยุกขยิกดิ้นไปมา กับความพยายามพาตัวเองให้ห่างไกลจากเขา เมื่อทำไม่ได้ดังใจก็หาทางประทุษร้ายสร้างความรำคาญจากมดตัวเล็กๆ จิกกัดอยู่ตลอดเวลา
กันติชาเป่าพ่นลมหายใจแรงๆ ออกจากปอดเมื่อได้รับการปล่อยตัว และรีบกระเถิบร่างหนีแต่ก็ไม่พ้น มือแกร่งยังยื่นมาสอดรัดจับแขนเอาไว้ นิ้วใหญ่และอุ่นร้อนไล้วนบริเวณหลังมือ ทำเอาขนกายสาวลุกชัน ริมฝีปากแห้งผากอย่างกะทันหัน จนต้องรีบส่งปลายลิ้นออกมาไล้เลีย อีกทั้งกระไอร้อนไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด พุ่งสู่พวงแก้มอิ่มเต็มจนเธอคิดว่ามันคงจะแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกไปเรียบร้อยแล้ว
“เอ่อ...คุณ...หนู...” อยากจะเอ่ยบอกให้ชายหนุ่มหยุดทำแบบนั้นเสียที แต่กลับต้องชะงัก เมื่อถูกสายตาคมดุที่ตวัดมองมาอย่างห้ามปรามให้อยู่นิ่งเฉย ถ้าอยู่กันตามลำพังคงจะตอบโต้กลับไปบ้างแล้ว แต่นี่ยังมีสายตากึ่งดูถูกเหยียดหยามปนหวานเศร้าอีกคู่หนึ่งที่คอยจับตามองอยู่ เลยทำให้เกิดความรู้สึกอยากที่จะเอาชนะ และเลือกปล่อยเลยตามเลย แต่ก็ยังมีอาการสะบัดสะบิ้งเป็นครั้งคราว
คิ้วโก่งได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยครามครัน ทำไมผู้ชายคนตรงหน้าถึงได้ทำท่าทางเหมือนกับเกลียดเธอนัก แต่บางคราก็เหมือนกับว่าต้องการเสียเหลือเกิน แต่ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอารมณ์ใด เธอก็ไม่อยากเข้าใกล้อยู่ดีนั่นแหละ คนบ้าๆ แบบนี้อยู่ด้วยเดี๋ยวจะบ้าตาม
“แกออกไปคอยข้างนอกดีกว่าดล เดี๋ยวฉันคุยธุระกับแม่ครัวก่อน แล้วจะตามไปพร้อมอาหารของนาย” แม้พูดกับนภดล แต่ราชันย์กลับปรายสายตามามองกันติชาอย่างหงุดหงิดและไม่ชอบใจ บวกกับความรู้สึกอีกอย่างที่ครอบคลุมร่างกายตั้งแต่แรกเจอสาวน้อยตรงหน้า
ดวงตาคมกริบไล่มองไปตามเรือนกายโปร่งบางแต่อวบอิ่มและกลมกลึงไปทุกสัดส่วน รวมถึงหอมหวานเพียงไหน มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ดี ด้วยความไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ เพราะจำได้ว่าสั่งห้ามไม่ให้นุ่งกางเกงขาสั้นมาทำงานนี้ แล้วยายตัวดีนี่ดันขัดคำสั่งเขาเอาเสียได้ เลยทำให้ไอ้พวกเพื่อนหนุ่มๆ ที่แฟนเผลอตวัดสายตามองอย่างโลมเลียและหื่นกระหายเอาเสียบ่อยครั้ง เห็นแล้วมันทำให้เขาหงุดหงิดจนอยากจะตั๊นหน้าทุกๆ คนให้ล้มนอนหงายทั้งยืน
นภดลตวัดค้อนส่งให้คนเป็นทั้งเพื่อนและนายอย่างไม่พอใจสุดๆ ที่ถูกกีดกันออกไปอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็จำต้องยอมฟังคำสั่ง เพราะคำสั่งของเจ้านาย...เจ้านายเฮงซวย แต่ก่อนไปก็ไม่วายหันไปทิ้งสายตาไม่พอใจให้กับอีกหนึ่งสาว ที่ตอนนี้ยืนหน้าตาแดงก่ำเหมือนกุ้งถูกต้มสุกด้วย
“ได้ นายรีบๆ เอาไปให้หน่อยแล้วกัน ฉันหิวจนจะกินยายแม่ครัวนี่ได้หมดตัวแล้ว” แม้กระทั่งจะไปแล้วนภดลยังไม่วายหย่อนระเบิดลูกโตไว้ให้กันติชา
“ทำไมถึงไม่เชื่อฟังกัน”
หลังหนุ่มผู้มาขออาหารทานแก้หิวยังเห็นอยู่ไวๆ กันติชาก็ต้องสะดุ้งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้แล้วในคืนนี้ เพราะน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะราบเรียบจนเกินไปของเจ้าของบ้านร่างใหญ่ ที่เธอรู้ดีว่าภายในคงไม่เงียบดั่งเสียงที่เอ่ยออกมา ดูได้จากดวงตาคู่ที่คมวับวาวเหมือนจะเปล่งแสงสีแดงเรืองรองออกมา
“คะ?” กันติชาตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ
อะไรหว่า? อยู่ดีๆ ก็ถามขึ้น แล้วเราจะไปเข้าใจความหมายของคำถามนี่ไหมล่ะ?
หัวคิ้วโค้งมนได้รูปค่อยๆ ขมวดเข้าหากันจนเป็นปมขนาดเล็ก ในดวงตาก็เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“ฉันบอกให้เธอซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่และดีๆ มาใส่ในงานใช่ไหม แล้วทำไมยังใส่ชุดเสื้อผ้าเก่าๆ และขาดวิ่นราวกับผ้าขี้ริ้วนี่อยู่อีก”
ราชันย์เอ่ยถามเสียงเข้ม พร้อมจ้องสาวน้อยตรงหน้าแววตาคมดุราวกับมีดโกนขณะตอบคนที่กำลังอึ้ง ถึงแม้งานนี้จะมีคนเพียงแค่สิบคน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนมีชื่อเสียง อีกทั้งบางคนยังคิดจะร่วมทุนทำธุรกิจกับเขาด้วย ที่เหลือก็เพื่อนสนิทที่เขาไม่ชอบให้ทุกคนไขว้เขว
มือใหญ่ยื่นไปจับแขนเรียวยาวดึงเข้าหาตัว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะถอยกายหนี “ว่าไง ทำไมถึงไม่เชื่อฟัง”
ชายหนุ่มออกแรงบีบแขนเรียวเมื่อไม่ได้รับคำตอบ จนอีกฝ่ายหน้าเบ้ มีน้ำตาหยดออกมาจากเบ้าตาเล็กน้อย มือที่ว่างเลยพยายามแกะมือใหญ่ออกไปจากแขนสลับกับทุบตี เพื่อให้ราชันย์รู้สึกตัวว่าทำคนอื่นเจ็บแค่ไหน แต่ยิ่งพยายามก็เหมือนกับเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะแรงบีบที่หนักมือมากขึ้น แถมยังมีการขู่สำทับมาอีก
“อยู่เฉยๆ อย่าเรื่องมาก แค่ตอบคำถามมา เข้าใจไหม”
“แต่...หนูเจ็บ...นี่คะ” กันติชาบอกน้ำเสียงสั่นน้อยๆ ในหัวใจเต้นตึกตักๆ ด้วยความตกใจกลัวและไม่เข้าใจ เพียงแค่เธอไม่แต่งตัวตามคำสั่ง เพราะเสียดายเงินที่ต้องนำไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ทั้งที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด เพราะเสื้อผ้าชุดเก่าๆ ของมันยังดีอยู่ ไม่ได้สกปรกและโป๊เปลือยเหมือนกับพวกสาวๆ ที่มางานเสียหน่อย ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย
“ทำให้เจ็บ วันหลังจะได้ไม่กล้าขัดคำสั่งฉันอีก” ชายหนุ่มเหวี่ยงร่างเล็กโปร่งบางและดันไปจนติดกับผนังห้อง ตรงส่วนที่เป็นฝาโล่งๆ ไม่มีอะไรมาวางเกะกะให้รำคาญสายตา มือใหญ่สอดเข้าไประหว่างเอวเล็กคอด กางกั้นด้วยร่างที่ทั้งหนากว่าให้หญิงสาวตกอยู่ใต้อาณัติ
“เธอรู้ไหม ฉันไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง และมีเธอคนแรกที่กล้าขัดคำสั่ง ฉันควรจะลงโทษอย่างไรดีหือ...”
ราชันย์ลากเสียงยาวนุ่มทุ้มและแหบพร่า ด้วยความปรารถนาที่ลุกพรึบขึ้นมาตั้งแต่เห็นชุดของกันติชา ทั้งที่ไม่ได้เปิดเปลือยเนื้อหนังมังสาสักนิด บวกกับกลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นกายสาวที่ไม่ได้ปรุงโฉมด้วยเครื่องสำอางและน้ำหอมราคาแพงแม้แต่นิดเดียว แต่มันกลับเย้าอารมณ์เขาให้ลุกโชนเป็นไฟ เพียงเธอเดินผ่านไปมาเท่านั้นเอง ไฟปรารถนาเอ่อล้นอาบไล้ทั่วร่างกายจนแทบจะข่มกลั้นเอาไว้ไม่ไหว อยากจะดึงร่างโปร่งบางมากดกอดและมอบสัมผัสพิศวาสอันเร่าร้อนให้อย่างถึงใจโดยเร็วไว
ดวงตากลมโตไหววูบไปมาเหมือนจะหวาดกลัว แต่ซอกลึกในหัวใจกลับเต้นเป็นจังหวะรัวเร็วเหมือนกับดนตรีเพลงแร็บที่แอบซุกซ่อนอารมณ์บางอย่างไว้ สองมือที่วางทาบไปบนอกกว้าง เพราะต้องการผลักร่างหนาใหญ่ให้ออกห่างสั่นระริก เมื่อพบกับกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และไรขนสากระคายชวนเสียววูบจากศีรษะจรดปลายเท้า สร้างความปั่นป่วนทั้งร่างกายและจิตใจ

ราชันย์วาดแขนควานหาร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นที่เขากอด รับและส่งมอบความสุขให้ตลอดทั้งคืนอย่างแทบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่พบ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมดวงตาคมกริบที่กะพริบถี่ๆ และหรี่ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรับให้เขากับแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา เพราะผ้าม่านที่กั้นไว้ปลิวไหวตามกระแสลมแรง บ้านพักที่นี่อยู่ใกล้ภูเขา ยามค่ำคืนอากาศเย็นสดชื่น เลยไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ สามารถนอนเปิดหน้าต่างนอนฟังเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องแข่งกันอย่างไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เมื่อมันเป็นเหมือนเสียงดนตรีขับขานกล่อมสองร่างให้นอนหลับฝันดี ดวงตาคมกริบลืมมองอย่างเต็มที่ ศอกใหญ่เท้ากับเตียงนอนหกฟุต กวาดมองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นคนที่ต้องการ เกือบจะยื่นมือไปคว้าเอาผ้าห่มที่คลุมเรือนกายบางส่วนอย่างหมิ่นเหม่ออกแล้ว เผอิญประตูห้องนอนก็เปิดออก ร่างโปร่งเดินเข้ามาพร้อมกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น“ตื่นแล้วหรือคะ” กันติชาเอ่ยทักเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานอบอุ่น เหมือนกับเปิดแย้มโลกที่มัวซัวให้สว่างและสดใสขึ้นทันตา ร่างโปร่งบางเดินไปวางกาแฟบนพนักเตียง ก่อนจะยื่นมือเล็กไปวางบนมือใหญ่ที่ยื่นมาหา กระตุกเพียงเล็
“อ๋อ...เหรอ ข้อหาอะไรครับคุณผู้หญิง ข่มขืนกระทำชำเราหรือ กล้าจะบอกตำรวจไหมละ ฉันทำอะไรกับเธอบ้าง กล้าไหมถ้าจะบอกตำรวจไปว่าฉันจับตรงนี้” มือใหญ่ลูบไล้ไปตามก้อนเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงที่ไหวกระเพื่อมตามแรงโกรธของคนตรงหน้า กายใหญ่ทาบทับขึ้นเหนือร่าง กับมือที่ลากไล้ไปตามสัดส่วนอันอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก “ทำอย่างนี้กับร่างกายของเธอนะชายิกา” ริมฝีปากหนาและร้อนผ่าวประทับกึ่งกลางทรวงสล้างอวบอิ่ม ขบเคลื่อนขึ้นไปทีละน้อย พร้อมกับคำถามเหมือนคมมีดที่กรีดเข้าไปในเนื้อกายสาวให้ต้องช้ำชอกและกลัดหนอง ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปถึงมุกมณีเม็ดงามที่หลบซ่อนอยู่ล่างพงไหมนุ่มและมีกลีบดอกไม้บางนุ่มปกปิดอยู่อีกชั้นกดคลึงเบาๆ “กล้าไหมที่จะบอกเขาไหม ฉันทำให้เธอร้องเสียงแหบเสียงแห้งตอนที่...” “อือ...” กายสาวสั่นสะท้าน วาบหวิวกับมือใหญ่ที่เริ่มร่ายมนตร์มายาใส่ ริมฝีปากอวบอิ่มเห่อแดงขบกัดจนกลายเป็นเส้นตรง ยิ่งเมื่อห้ามปราม กลับถูกสิทธิ์ศักดิ์บังคับด้วยแรงที่มากกว่าจนระบบภายในร่างกายเริ่มปั่นป่วน จุมพิตร้อนผ่าวที่นาบอยู่บนผิวเนื้อ ทำให้เสียววูบไปถึงรูขุมปากหนาอ้างับและดูดกลืนปลายนิ้วยาวเรียวจนเปียกชื้น “เอาน่าชายิกา จะคิ
กายแข็งแกร่งถาโถมเข้าหาบุปผาอบอุ่นอีกครั้งและอีกครั้ง พร้อมระเบิดลูกขนาดย่อมที่ระเบิดตูมๆ ติดกันหลายตลบ ก่อนจะตามด้วยระเบิดลูกยักษ์ที่แตกตัวกลายเป็นสะเก็ดดาวพร่างพราวจนเต็มท้องฟ้า กับสายธารอุ่นร้อนที่ไหลรินรดกุหลาบดอกน้อยจนอาบล้น ส่วนหนึ่งไหลปรี่ออกมาเบื้องนอกกับใบหน้าคมคร้ามที่ซบซุกบนสองเต้าสวย สองกายอาบชุ่มเหงื่อจากเพลิงพิศวาสแผดร้อนกอดประคองแนบชิด ลมหายใจหอบสะท้านด้วยเพลิงพายุพิศวาสที่อาบล้น แล้วก็เป็นชายิกาได้สติก่อน รีบผลักดันร่างหนาให้ถอยห่างด้วยความเจ็บปวดและอับอายขายขี้หน้า แต่ในความรู้สึกเหล่านั้นส่วนหนึ่งกลับแฝงไว้ด้วยความสุขที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนราบเรียบ ในหน่วยตามีน้ำใสๆ อาบล้นเมื่อแขนแกร่งเป็นดังเหล็กกล้าไม่คลายออกแม้แต่น้อย “ปล่อยฉันได้แล้ว” แม้จะพยายามข่มกลั้นน้ำเสียงให้ราบเรียบ แต่ความใกล้ชิดและสิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิงวัยเจริญพันธุ์ก็ยังทำให้ชายิกาทำใจไม่ได้ “ปล่อย แล้วทำไมต้องปล่อย” สิทธิศักดิ์เอ่ยถามน้ำเสียงยิ้มกริ่มเริงรื่นอย่างคนที่อารมณ์ดี ศอกใหญ่เท้ากับพื้นเตียงชะโงกศีรษะ ปลายนิ้วลากไล้ผ่านส่วนเว้าส่วนโค้
“ออกไปนะคนใจร้าย ออกไป” ชายิการ้องเสียงแหบแห้ง จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้างและลากอย่างแรงเท่าที่จะทำได้ ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะได้เลือด แต่ความเจ็บปวดที่ไหลล้นอยู่บนเรือนกายก็ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนไหวตัว “โทษทีนะชายิกา แต่เราคงจะหยุดไม่ได้ ฉันเตือนเธอแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าเล่นกับไฟ ระวังมันลวกมือตัวเอง” ชายหนุ่มทุ่มทั้งกายปลุกเร้าบีบนวดบั้นท้ายกลมกลึง ไพล่ไปถึงลำขากลมกลึง บีบนวดไล่ไปถึงข้อพับและลากไล้กลับขึ้นมาสอดแทรกจากต้นขาด้านใน ซอกซอนไปลากไล้ฉวัดเฉวียนกดขยี้มุกมณีอันอ่อนไหว สูดลมหายใจร้อนผ่าวเข้าจนเต็มปอด พร้อมขบเม้มจุมพิตไต่ไล่ขึ้นไปซุกไซ้ใบหน้าคมคร้ามกับซอกคอระหง ดูดกลืนผิวกายสีขาวอมชมพูเหมือนกับกลีบซากุระจนแดงช้ำ ก่อนไถลไปลูบไล้ลำขาเสลา บีบนวดสะโพกหนั่นแน่นเรื่อยไปตามสีข้างเนียนนุ่ม ไล้ไปด้านหน้านวดคลึงหน้าท้องแบนราบเรียบ ก่อนจะตรงเข้าครอบครองเต้าอวบอิ่มนุ่มหยุ่น ปลายนิ้วลากไล้วนเวียนรอบป้านบัวนุ่มที่แข็งตัวเป็นไต กดคลึงขยี้แผ่วเบา ครอบครองด้วยฝ่ามือใหญ่เคลื่อนไหวคลึงไปมา จุมพิตร้อนผ่าวขบเคลื่อนทั่ววงหน้านุ่ม กดซับหยดน้ำตาจาก
“สายไปเสียแล้วคุณน้อง...ฉันจะชำแรกแทรกลึก จะทำให้คุณทัวร์สวรรค์แต่ลงนรกในคราวเดียวกัน” ‘ไม่ใช่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการสักหน่อย’ ชายิกาบอกกับใจตัวเอง เมื่อถูกคลื่นความสยิวซ่านโอบรอบ ในสมองคล้ายๆ มีกระไอหมอกและควันสีขาวไหววูบวาบ ในทรวงหวิวไหวคล้ายคนจะเป็นลม แต่ที่หนักคงจะเป็นระบบต่างๆ ในร่างกายซึ่งทำงานผิดปกติ ไม่เชื่อฟังคำสั่งที่มาจากสมองและหัวใจเธอเลยสักนิด สองมือที่วางทาบบนบ่ากว้างหวังจะผลักกายใหญ่ให้ออก แต่ไม่รู้ว่าเรือนกายสิทธิศักดิ์ปราศจากเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ กระตุ้นให้มือเล็กเคลื่อนไหวไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ยิ่งเป็นการเพิ่มไฟปรารถนาให้ลุกโชนมือใหญ่รีบเกี่ยวเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่บนกายโยนทิ้งไป อย่างไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงตำแหน่งใดของห้อง ใบหน้าคร้ามเต็มไปด้วยไรหนวดและเครา ประพรมจุมพิตเคลื่อนขึ้นพร้อมปลายลิ้นไล้เลียผิวเนื้อนุ่มและหอมหวานเหมือนไอศกรีมที่เคลือบด้วยคาราเมล แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะยอมละมือจากความอุ่นนุ่มและร้อนผ่าว “อืม...” เสียงร้องแหบพร่าและกระเส่าดังจากสองกายเป็นระยะ กายใหญ่บดเบียดความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวกับกลีบกายอันอ่อนนุ่มเหมือนกับไหมชั้นดี
“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ปะ...ปล่อยฉันไปดีกว่า” “ปล่อยทำไมและทำไมต้องปล่อย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนกับจะหยอกเย้า แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยคำถากถางและเย้ยหยัน ฟันขาวสะอาดอ้างับปลายยอดถันกดขยี้แรงๆ “อยากให้ฉันบำรุงบำเรอความสุขให้จนตัวสั่นไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ถึงมาทำสะบิดสะบิ้งเหมือนสาวขี้อาย ไม่เคยนอนกับใครมาก่อนเสียได้ล่ะ อย่างเธอน่ะคงจะยั่วเขาไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้วละแม่คุณหนูจอมยั่ว” สิทธิศักดิ์พูดอย่างลืมไป แม้ราชันย์จะไม่สนใจแม่และน้อง แต่ชายหนุ่มยังควบคุมความประพฤติไม่ให้คนใดคนหนึ่งออกนอกลู่นอกทางเสมอและบ่อยครั้งที่ส่งเขาไปดูแล“ไม่...อือ...” คำพูดที่จะปฏิเสธกลายเป็นเสียงร้องด้วยเสียวซ่านแทน เมื่อสิทธิศักดิ์ไม่ยอมฟัง สองมือเล็กที่วางทาบบนบ่ากว้างและผลักออกไปก็เหมือนเอามือไปผลักหิน ที่ไม่มีอาการขยับเขยื้อนแม้แต่อย่างใด เรือนกายเล็กบางสั่นสะท้านไหวหวิวจากริมฝีปากหนาร้อนและใบหน้าคมซุกไซ้เคลื่อนไหวลงตามหน้าท้องแบนราบเรียบ จุมพิตวนเวียนรอบหน้าท้องไร้ไขมัน สลับปลายลิ้นสอดแทรกกระเซ้าเย้าแหย่ช่องสะดือบุ๋ม สองแขนสอดกระชับบีบนวดบั้นท้ายหนั่นแน่น ดันขึ้นพร้อมเกี่ยวรูดเอาชุดนอนที่ยั








