 LOGIN
LOGIN“คุณ...จะทำอะไร ถอยไปนะ ไม่งั้นหนูร้องเรียกให้คนช่วยจริงๆ ด้วย” กันติชาขู่เสียงเบาหวิว จนแทบจะกลายเป็นเพียงแค่ลมเบาๆ ที่ออกจากเรียวปากอวบอิ่ม ด้วยคิดว่าคนอยู่กันเต็มบ้านแบบนี้ ถึงจะมึนเมาและยุ่งอยู่กับผู้หญิง แต่ก็ต้องมีใครสักคนแหละน่าที่ได้ยินเสียงร้องของเธอ และออกมาให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
ราชันย์อยากจะหัวเราะให้ดังก้องลั่นห้อง นี่แม่สาวน้อยตรงหน้าไม่รู้เลยหรือไงกัน เขาไม่เคยกลัวเกรงใคร ขืนร้องแรกแหกกระเชอ ก็มีแต่จะทำให้ตัวเองนั่นแหละที่ขายหน้า
“เธอคิดว่าฉันจะกลัวหรือไงแม่สาวน้อย รู้ไหมว่ายิ่งเธอทำแบบนั้นฉันยิ่งอยากจะลอง แล้วเธอจะทำอะไรได้ถ้าฉันทำแบบนี้หือ...แม่ตัวดี...”
ราชันย์ถามและแกล้งโฉบใบหน้าลงไปคลุกเคล้ากับลำคอระหง แต่พอได้สัมผัสกับความนุ่มหอม ความอยากแกล้งเลยกลับกลายเป็นความต้องการ ริมฝีปากหนาร้อนขบเม้มจุดที่แอ่งชีพจรแม่ครัวหัวป่าด้วยความรื่นเริง ก่อนไล่ขึ้นไปตามปลายคางและสิ้นสุดบนเรียวปากนุ่ม ที่เผยอ้าไว้รอต้อนรับพอดี
อ๋อ...พูดผิด ไม่ได้เผยอ้าไว้รอรับจุมพิตเขาหรอก แต่อ้าเพื่อจะร้องเรียกให้คนอื่นมาดูโชว์สดๆ ต่างหากละ หึหึ...แม่หนูน้อยแสนหวานนี่ช่างไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำยิ่งกระตุ้นความปรารถนาในกายเขาให้ลุกโชติช่วง จนยากที่จะระงับเอาไว้ได้
เรือนกายโปร่งบางสั่นสะท้านเหมือนกิ่งไผ่ไหวไปตามสายลมแรง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อริมฝีปากที่กำลังเผยออ้าร้องขอความช่วยเหลือถูกปิดลงด้วยริมฝีปากหนาอุ่นร้อนเหมือนกับเปลวเพลิงไฟ จะเบือนหน้าหนีก็ไม่ได้เมื่อถูกตรึงปลายคางไว้ด้วยมือที่ยื่นมาจับรั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ราชันย์ใช้ความช่ำชองกว่ากดรัดบดคลึงสลับขบกัดกลีบปากบนล่างอย่างหยอกเย้า ในขณะปลายลิ้นสากระคายก็สอดแทรกเข้าไปเกี่ยวเกาะกับลิ้นเล็ก ปลุกเร้าอารมณ์สาวน้อยที่ลุกไวเหมือนกับน้ำมันเจอสะเก็ดไฟจนลุกพรึบทันควัน มือใหญ่ขยับเคลื่อนสอดเข้าไปใต้ร่มผ้า ลูบไล้ผิวกายเนียนนุ่มดุจใยไหม จากหน้าท้องแบนราบเรียบไร้ไขมันส่วนเกิน ไล่ไปตามสีข้าง แล้วค่อยๆ ย้อนกลับอย่างช้าๆ เพื่อเข้าครองสองก้อนเนื้อที่เขารู้ดีว่าเต่งตึงและนุ่มหยุ่นมือเพียงใด
“ร้องซิจ๊ะสาวน้อย ร้องเพราะๆ นะยาหยี ฉันอยากได้ยินเสียงเธอร้องครางครวญใต้ร่างฉัน ร้องดังๆ เลยยิ่งดีนะหนูน้อย” ฝ่ามือใหญ่และร้อนผ่าวฟอนเฟ้นกดคลึงปทุมถันอวบอิ่มหนักสลับเบา
“อืม...” กันติชาร้องครางครวญในลำคอ จากที่ต่อต้านก็กลายเป็นให้ความร่วมมือ มือที่พยายามผลักดักร่างหนาใหญ่ออกไปเมื่อครู่ กลับค่อยแปลเปลี่ยนเป็นการขยับเคลื่อนไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่งและสากระคายอย่างกึ่งกล้ากึ่งกลัว แต่ก็อยากรู้และอยากลอง แม้จะไม่ได้ไว้เล็บยาวแต่เมื่อความวาบหวิวและปั่นป่วนรุมเร้า เธอก็จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้าง และลากแรงๆ จนราชันย์ถึงกับแสบร้อนได้เหมือนกัน
“อืม...เบาๆ ซิยาหยี เรานี่อารมณ์ร้อนเร็วและรุนแรงใช่เล่นเลยนะสาวน้อย” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงแหบพร่านุ่มทุ้มและกระเส่า สองมือใหญ่สอดกระชับและยกร่างโปร่งบางขึ้น โดยให้สองขาเรียวยาวเกี่ยวกับสะโพกสอบ ก่อนสอดกลับไปลูบไล้ผิวเนื้อเนียนนุ่มอีกครั้ง พร้อมทำการปลดตะขอเสื้อชั้นในปลดปล่อยสองเต้าสวยให้เป็นอิสระ อย่างลืมตัวไปว่ากำลังอยู่ที่ใด เพราะใจมัวเมาในรสหวานล้ำที่ได้ลิ้มรส
มือใหญ่ซอกซอนกลับมาด้านหน้า แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวยาวใหญ่ที่กันติชาสวมติดกายออก พร้อมกดฝังใบหน้าระหว่างสองเต้าที่ชูช่อไสวเหมือนดอกไม้แรกผลิ ริมฝีปากหนาร้อนกำลังจะคีบตัวเสื้อชั้นในให้เคลื่อนขึ้นไปอยู่เหนือปทุมถันก็พอดีกับหูแว่วได้ยินเสียงคนเดินมาทางที่เขายืนอยู่
ราชันย์สบถเสียงขุ่นเขียว รีบวางร่างโปร่งบางลง พร้อมกับรีบกลัดกระดุมให้อย่างเร็วรี่ ด้วยไม่ต้องการให้ใครได้เห็นกายสาวที่เขาจับจองตั้งแต่แรก มือใหญ่สอดรัดดึงร่างกลมกลึงมาแนบอกและหันไปมองด้านหลัง พร้อมตวัดสายตาคมกริบเหมือนกับมีดโกนหันไปทางผู้บุกรุก
“ฉันเห็นแกหายมานานแล้ว เลยตามออกมาดู” นภดลบอกอย่างไม่หวั่นเกรงกระแสความโกรธเกรี้ยวที่แผ่กระจายมา
คิ้วหนาปลายหางตาด้านหนึ่งตวัดเฉียงขึ้นไปด้านบนเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมไหล่กว้างเลิกขึ้นอย่างไม่แคร์ ก็เขาตั้งใจมาขัดจังหวะการพลอดรักของทั้งสองคนจริงๆ นี่นา แล้วจะไปสนใจทำไม ทำให้ใครโกรธบ้าง ดวงตาคมหวานจับจ้องที่กันติชาอย่างดูถูกเหยียดหยาม จากสภาพที่เห็น รู้ได้โดยไม่ต้องเดาเลย สองคนนี้ไม่ได้คุย แต่กำลังทำอย่างอื่นกัน
แขนใหญ่สอดกระชับร่างโปร่งบางเข้ามาแนบอก เอียงใบหน้าแนบกับบ่ากว้างของคนร่างเล็กกว่าที่ยืนตัวสั่น ก้มหน้างุดเพราะความกระดากอายและโกรธเกรี้ยว จากมือเล็กๆ ที่ประทุษร้ายร่างกายเขาทุกส่วนเท่าที่จะทำได้ แถมยังมีเสียงขู่ฟ่อๆ เหมือนงูบอกให้ปล่อยตัวเธอเสียที แต่มันกลับยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากเอาชนะ ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้ผิวกายเนียนนุ่มบริเวณเอวเล็กคอด
“เผอิญเรื่องที่คุยกันมันยาวและนานไปหน่อยใช่ไหมว่าว” ราชันย์ตอบพร้อมเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ กายใหญ่สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกคนตัวเล็กกว่าหยิบหนังหนาๆ ขึ้นมาและบิดแรงๆ เขาเลยตอบแทนด้วยการเคลื่อนมือขึ้นไปหาบางส่วนของเรือนกายสาวอย่างเชื่องช้า อย่างต้องการให้หญิงสาวรู้ ควรทำร้ายเขาหรือเปล่า แต่สายตากลับจ้องไปยังนภดลที่ดูเหมือนจะจับตามองเขาอยู่ทุกอิริยาบถ
‘อ๋อ...ยายแม่ครัวนี่ชื่อว่าว สงสัยโดนมนต์สะกดของราชันย์จนลอยลมบนไปเรียบร้อยแล้ว ถึงได้ยืนก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาใครแบบนั้น เฮอะผู้หญิง...ร้อยทั้งร้อยต้องมาตายด้วยผู้ชายหล่อและรวยเสมอ นภดลค่อนแคะเหยียดหยามกันติชาอยู่ในใจ’
“ดูท่านายจะหิวมากจริงๆ นั่นแหละดล งั้นหาอะไรกินเอาเองละกันนะ เพราะฉันยังมีธุระกับว่าวอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้เคลียร์”
ไม่รอให้คนที่กำลังยืนงงอ้าปากค้างงวยงงตั้งแต่ถูกเขาจู่โจมด้วยเพลิงพิศวาสที่ช่ำชองได้ตั้งตัว แขนใหญ่สอดกระหวัดกระชับร่างโปร่งบางจนสัดส่วนเรือนกายนุ่มหยุ่นทาบไปกับลำตัวกว้าง และบังคับให้เดินตามไปด้วยท่วงท่าสบายๆ พร้อมรอยยิ้มนิดที่ผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของปาก
กว่าที่จะรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ก็พอดีกับที่ประตูห้องใหญ่ปิดลงดังปัง ใบหน้าสวยหันไปมองประตูห้อง ก่อนหันกลับมาหาคนที่พาเธอเข้ามาในห้องอันมืดมิด แต่ครู่เดียวไฟในห้องก็สว่างไสวด้วยมือราชันย์ซึ่งยืนอิงตัวเองกับโต๊ะทำงานสีดำสนิท ที่มองมาเหมือนกำลังสะกดจิต

ราชันย์วาดแขนควานหาร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นที่เขากอด รับและส่งมอบความสุขให้ตลอดทั้งคืนอย่างแทบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่พบ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมดวงตาคมกริบที่กะพริบถี่ๆ และหรี่ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรับให้เขากับแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา เพราะผ้าม่านที่กั้นไว้ปลิวไหวตามกระแสลมแรง บ้านพักที่นี่อยู่ใกล้ภูเขา ยามค่ำคืนอากาศเย็นสดชื่น เลยไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ สามารถนอนเปิดหน้าต่างนอนฟังเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องแข่งกันอย่างไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เมื่อมันเป็นเหมือนเสียงดนตรีขับขานกล่อมสองร่างให้นอนหลับฝันดี ดวงตาคมกริบลืมมองอย่างเต็มที่ ศอกใหญ่เท้ากับเตียงนอนหกฟุต กวาดมองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นคนที่ต้องการ เกือบจะยื่นมือไปคว้าเอาผ้าห่มที่คลุมเรือนกายบางส่วนอย่างหมิ่นเหม่ออกแล้ว เผอิญประตูห้องนอนก็เปิดออก ร่างโปร่งเดินเข้ามาพร้อมกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น“ตื่นแล้วหรือคะ” กันติชาเอ่ยทักเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานอบอุ่น เหมือนกับเปิดแย้มโลกที่มัวซัวให้สว่างและสดใสขึ้นทันตา ร่างโปร่งบางเดินไปวางกาแฟบนพนักเตียง ก่อนจะยื่นมือเล็กไปวางบนมือใหญ่ที่ยื่นมาหา กระตุกเพียงเล็
“อ๋อ...เหรอ ข้อหาอะไรครับคุณผู้หญิง ข่มขืนกระทำชำเราหรือ กล้าจะบอกตำรวจไหมละ ฉันทำอะไรกับเธอบ้าง กล้าไหมถ้าจะบอกตำรวจไปว่าฉันจับตรงนี้” มือใหญ่ลูบไล้ไปตามก้อนเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงที่ไหวกระเพื่อมตามแรงโกรธของคนตรงหน้า กายใหญ่ทาบทับขึ้นเหนือร่าง กับมือที่ลากไล้ไปตามสัดส่วนอันอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก “ทำอย่างนี้กับร่างกายของเธอนะชายิกา” ริมฝีปากหนาและร้อนผ่าวประทับกึ่งกลางทรวงสล้างอวบอิ่ม ขบเคลื่อนขึ้นไปทีละน้อย พร้อมกับคำถามเหมือนคมมีดที่กรีดเข้าไปในเนื้อกายสาวให้ต้องช้ำชอกและกลัดหนอง ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปถึงมุกมณีเม็ดงามที่หลบซ่อนอยู่ล่างพงไหมนุ่มและมีกลีบดอกไม้บางนุ่มปกปิดอยู่อีกชั้นกดคลึงเบาๆ “กล้าไหมที่จะบอกเขาไหม ฉันทำให้เธอร้องเสียงแหบเสียงแห้งตอนที่...” “อือ...” กายสาวสั่นสะท้าน วาบหวิวกับมือใหญ่ที่เริ่มร่ายมนตร์มายาใส่ ริมฝีปากอวบอิ่มเห่อแดงขบกัดจนกลายเป็นเส้นตรง ยิ่งเมื่อห้ามปราม กลับถูกสิทธิ์ศักดิ์บังคับด้วยแรงที่มากกว่าจนระบบภายในร่างกายเริ่มปั่นป่วน จุมพิตร้อนผ่าวที่นาบอยู่บนผิวเนื้อ ทำให้เสียววูบไปถึงรูขุมปากหนาอ้างับและดูดกลืนปลายนิ้วยาวเรียวจนเปียกชื้น “เอาน่าชายิกา จะคิ
กายแข็งแกร่งถาโถมเข้าหาบุปผาอบอุ่นอีกครั้งและอีกครั้ง พร้อมระเบิดลูกขนาดย่อมที่ระเบิดตูมๆ ติดกันหลายตลบ ก่อนจะตามด้วยระเบิดลูกยักษ์ที่แตกตัวกลายเป็นสะเก็ดดาวพร่างพราวจนเต็มท้องฟ้า กับสายธารอุ่นร้อนที่ไหลรินรดกุหลาบดอกน้อยจนอาบล้น ส่วนหนึ่งไหลปรี่ออกมาเบื้องนอกกับใบหน้าคมคร้ามที่ซบซุกบนสองเต้าสวย สองกายอาบชุ่มเหงื่อจากเพลิงพิศวาสแผดร้อนกอดประคองแนบชิด ลมหายใจหอบสะท้านด้วยเพลิงพายุพิศวาสที่อาบล้น แล้วก็เป็นชายิกาได้สติก่อน รีบผลักดันร่างหนาให้ถอยห่างด้วยความเจ็บปวดและอับอายขายขี้หน้า แต่ในความรู้สึกเหล่านั้นส่วนหนึ่งกลับแฝงไว้ด้วยความสุขที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนราบเรียบ ในหน่วยตามีน้ำใสๆ อาบล้นเมื่อแขนแกร่งเป็นดังเหล็กกล้าไม่คลายออกแม้แต่น้อย “ปล่อยฉันได้แล้ว” แม้จะพยายามข่มกลั้นน้ำเสียงให้ราบเรียบ แต่ความใกล้ชิดและสิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิงวัยเจริญพันธุ์ก็ยังทำให้ชายิกาทำใจไม่ได้ “ปล่อย แล้วทำไมต้องปล่อย” สิทธิศักดิ์เอ่ยถามน้ำเสียงยิ้มกริ่มเริงรื่นอย่างคนที่อารมณ์ดี ศอกใหญ่เท้ากับพื้นเตียงชะโงกศีรษะ ปลายนิ้วลากไล้ผ่านส่วนเว้าส่วนโค้
“ออกไปนะคนใจร้าย ออกไป” ชายิการ้องเสียงแหบแห้ง จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้างและลากอย่างแรงเท่าที่จะทำได้ ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะได้เลือด แต่ความเจ็บปวดที่ไหลล้นอยู่บนเรือนกายก็ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนไหวตัว “โทษทีนะชายิกา แต่เราคงจะหยุดไม่ได้ ฉันเตือนเธอแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าเล่นกับไฟ ระวังมันลวกมือตัวเอง” ชายหนุ่มทุ่มทั้งกายปลุกเร้าบีบนวดบั้นท้ายกลมกลึง ไพล่ไปถึงลำขากลมกลึง บีบนวดไล่ไปถึงข้อพับและลากไล้กลับขึ้นมาสอดแทรกจากต้นขาด้านใน ซอกซอนไปลากไล้ฉวัดเฉวียนกดขยี้มุกมณีอันอ่อนไหว สูดลมหายใจร้อนผ่าวเข้าจนเต็มปอด พร้อมขบเม้มจุมพิตไต่ไล่ขึ้นไปซุกไซ้ใบหน้าคมคร้ามกับซอกคอระหง ดูดกลืนผิวกายสีขาวอมชมพูเหมือนกับกลีบซากุระจนแดงช้ำ ก่อนไถลไปลูบไล้ลำขาเสลา บีบนวดสะโพกหนั่นแน่นเรื่อยไปตามสีข้างเนียนนุ่ม ไล้ไปด้านหน้านวดคลึงหน้าท้องแบนราบเรียบ ก่อนจะตรงเข้าครอบครองเต้าอวบอิ่มนุ่มหยุ่น ปลายนิ้วลากไล้วนเวียนรอบป้านบัวนุ่มที่แข็งตัวเป็นไต กดคลึงขยี้แผ่วเบา ครอบครองด้วยฝ่ามือใหญ่เคลื่อนไหวคลึงไปมา จุมพิตร้อนผ่าวขบเคลื่อนทั่ววงหน้านุ่ม กดซับหยดน้ำตาจาก
“สายไปเสียแล้วคุณน้อง...ฉันจะชำแรกแทรกลึก จะทำให้คุณทัวร์สวรรค์แต่ลงนรกในคราวเดียวกัน” ‘ไม่ใช่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการสักหน่อย’ ชายิกาบอกกับใจตัวเอง เมื่อถูกคลื่นความสยิวซ่านโอบรอบ ในสมองคล้ายๆ มีกระไอหมอกและควันสีขาวไหววูบวาบ ในทรวงหวิวไหวคล้ายคนจะเป็นลม แต่ที่หนักคงจะเป็นระบบต่างๆ ในร่างกายซึ่งทำงานผิดปกติ ไม่เชื่อฟังคำสั่งที่มาจากสมองและหัวใจเธอเลยสักนิด สองมือที่วางทาบบนบ่ากว้างหวังจะผลักกายใหญ่ให้ออก แต่ไม่รู้ว่าเรือนกายสิทธิศักดิ์ปราศจากเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ กระตุ้นให้มือเล็กเคลื่อนไหวไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ยิ่งเป็นการเพิ่มไฟปรารถนาให้ลุกโชนมือใหญ่รีบเกี่ยวเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่บนกายโยนทิ้งไป อย่างไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงตำแหน่งใดของห้อง ใบหน้าคร้ามเต็มไปด้วยไรหนวดและเครา ประพรมจุมพิตเคลื่อนขึ้นพร้อมปลายลิ้นไล้เลียผิวเนื้อนุ่มและหอมหวานเหมือนไอศกรีมที่เคลือบด้วยคาราเมล แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะยอมละมือจากความอุ่นนุ่มและร้อนผ่าว “อืม...” เสียงร้องแหบพร่าและกระเส่าดังจากสองกายเป็นระยะ กายใหญ่บดเบียดความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวกับกลีบกายอันอ่อนนุ่มเหมือนกับไหมชั้นดี
“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ปะ...ปล่อยฉันไปดีกว่า” “ปล่อยทำไมและทำไมต้องปล่อย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนกับจะหยอกเย้า แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยคำถากถางและเย้ยหยัน ฟันขาวสะอาดอ้างับปลายยอดถันกดขยี้แรงๆ “อยากให้ฉันบำรุงบำเรอความสุขให้จนตัวสั่นไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ถึงมาทำสะบิดสะบิ้งเหมือนสาวขี้อาย ไม่เคยนอนกับใครมาก่อนเสียได้ล่ะ อย่างเธอน่ะคงจะยั่วเขาไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้วละแม่คุณหนูจอมยั่ว” สิทธิศักดิ์พูดอย่างลืมไป แม้ราชันย์จะไม่สนใจแม่และน้อง แต่ชายหนุ่มยังควบคุมความประพฤติไม่ให้คนใดคนหนึ่งออกนอกลู่นอกทางเสมอและบ่อยครั้งที่ส่งเขาไปดูแล“ไม่...อือ...” คำพูดที่จะปฏิเสธกลายเป็นเสียงร้องด้วยเสียวซ่านแทน เมื่อสิทธิศักดิ์ไม่ยอมฟัง สองมือเล็กที่วางทาบบนบ่ากว้างและผลักออกไปก็เหมือนเอามือไปผลักหิน ที่ไม่มีอาการขยับเขยื้อนแม้แต่อย่างใด เรือนกายเล็กบางสั่นสะท้านไหวหวิวจากริมฝีปากหนาร้อนและใบหน้าคมซุกไซ้เคลื่อนไหวลงตามหน้าท้องแบนราบเรียบ จุมพิตวนเวียนรอบหน้าท้องไร้ไขมัน สลับปลายลิ้นสอดแทรกกระเซ้าเย้าแหย่ช่องสะดือบุ๋ม สองแขนสอดกระชับบีบนวดบั้นท้ายหนั่นแน่น ดันขึ้นพร้อมเกี่ยวรูดเอาชุดนอนที่ยั








