3 - เจ้ายิ่ง
“เจ้ายิ่งครับ เจ้าเหนือหัวมาครับ”
ชายชราวัยเกือบเจ็ดสิบแต่ยังแข็งแรงแทบกระเด้งตัวลุกออกจากเก้าอี้ไม้เพื่อลงไปต้อนรับหลานชายเพียงคนเดียว ที่ได้เจอหน้านับครั้งได้ตั้งแต่กลับมารู้จักกัน แต่ต้องชะงักตัวหยุดไว้ก่อนเพราะไม่งั้นจะดูเสียหน้าจนเกินงาม คิดได้ดังนั้นจึงนั่งลงตามเดิมรอจนหลานชายเดินมาหาแทน
คนชรานั่งอมยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อนึกถึงหลานชายเพียงคนเดียว ทายาทสืบสายสกุล เหนือหัวเป็นคนร่างสูงใหญ่สมเป็นลูกหลานของตระกูลเมืองวงศ์สิงห์นับสืบเชื้อสายได้จากแม่ทัพหัวเมือง ผิวเข้มผิดไปจากคนเมืองเหนือ หากแต่ใบหน้ากลับมีเค้าของฝ่ายแม่ซึ่งเป็นขาวไทใหญ่รัฐฉาน
เหนือหัวเดินขึ้นบันไดเรือนคุ้มเจ้ายิ่งเมือง ซึ่งแทบจะเหลือเป็นคุ้มสุดท้ายที่ยังเหลือมีคนอาศัยอยู่ เพราะปัจจุบันถ้าไม่เป็นศูนย์อนุรักษ์ก็ขายให้กับพวกนายทุนเพื่อทำโรงแรม อย่างที่เขากำลังกว้านซื้ออยู่หลายคุ้ม
ดวงตาคมกล้าสีนิลเพ่งมองชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มะค่าลงรัก[1]ทองตัวใหญ่กลางเรือน มือหนึ่งจับหัวไม้เท้าทำจากไม้สักฉลุลายปลายหัวเป็นเงินแท้ตั้งตรงลงบนพื้นเรือนไม้สักทั้งหลัง
เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวถัดมาดวงตาคมกล้ายังจ้องชายแก่ซึ่งโดยศักดิ์แล้วคือคุณปู่ของเขา แต่เขาไม่เคยทำความเคารพเพราะในใจยังไม่นับถือชายผู้นี้มากพอ
“หลานมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
เจ้ายิ่งเอ่ยถามแม้ว่าสะดุ้งในใจทุกครั้งที่เห็นหลานชายไม่เคยยกมือไหว้ แต่ด้วยความรู้สึกผิดที่เคยกระทำต่อลูกและหลานชาย จึงจำต้องกล้ำกลืนเงียบเสียงไว้ทำไม่รู้ไม่เห็น
“ผมอยากรู้เรื่องพ่อเลี้ยงนฤนารทและภรรยาหม้าย”
“เหนือ ถามเรื่องพ่อเลี้ยงขึ้นมาเพราะอะไร เขาตายไปเกือบปีแล้ว หรือว่าหลานชอบภรรยาของพ่อเลี้ยง แม้ว่าแม่เลี้ยงเป็นหญิงงาม เป็นแม่หญิงที่เพียบพร้อม แต่เมืองนี้มีผู้หญิงสวยอีกมากให้หลานได้เลือก”
เหนือหัวเอียงศีรษะไปทางขวาพร้อมยกขานั่งไขว้ห้าง ข้อศอกเท้าพนักเท้าแขน หางตาเหลือบมองเด็กในเรือนกำลังวางแก้วน้ำใบเตย รอจนกระทั่งเด็กถอยห่างออกไปจึงค่อยหันกลับไปมองปู่ตรง ๆ
“ผมจะเลือกใคร นั่นมันสิทธิ์ของผม ปู่ได้เกือบทำลายสิทธิ์ของพ่อไปแล้วครั้งหนึ่ง จนพ่อต้องหนีไปเป็นแพทย์อาสาในหุบเขา และปู่เองก็ไม่ทันได้ดูใจก่อนพ่อเสียชีวิตลงด้วยซ้ำ หรือว่าปู่ยังต้องการให้เป็นอย่างนั้นอีกครั้ง”
เจ้ายิ่งเงียบกริบแสร้งหยิบน้ำมือสั่นเล็กน้อยขึ้นจิบ เจ้าหลานชายคนนี้เป็นคนโผงผางเหมือนตัวเขาเองในสมัยหนุ่ม ทั้งยังหยิ่งยโสยิ่งกว่าเสียอีก คงเพราะสายเลือดของสองชาติ ทั้งฝั่งพ่อสืบเชื้อสายยาวนานจากสมัยล้านนา และยังฝั่งแม่ชาวไทใหญ่ไม่ธรรมดานับเชื้อสายลงจากตั้งแต่ช่วงกลางรัฐฉาน เหลือบตาไม่กล้ามองตรงไปยังหลานชายในชุดสูททันสมัยสีเข้มดูมีอารยชน หากแต่บุคลิกกลับตรงข้าม
“พ่อเลี้ยงนฤนารทเป็นพวกคนจีนต้นตระกูลเข้ามาค้าขายยังเมืองนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า กระทั่งขยายกิจการใหญ่โตร่ำรวย แต่ที่คนเขาเรียกแกว่าพ่อเลี้ยงไม่ใช่เถ้าแก่ก็คงเพราะแกมีปางไม้และหม่อนไหม แต่ปัจจุบันไม่มีปางไม้แล้ว”
“แล้วหม่อนไหม?”
“กลายเป็นของแม่เลี้ยงคนใหม่ ชื่อดวงฤทัย อินราชา เป็นลูกนอกสมรสจากภรรยาคนที่สองของชุมแสง อินราชา นี่แกอยากรู้ละเอียดขนาดนี้เลยเหรอหลานชาย”
“ผมว่าปู่ไม่มีสิทธิ์ถาม ยังไงผมก็เป็นต่อในทุกเรื่อง”
“ปู่ไม่แน่ใจว่าหม่อนไหมตอนนี้สภาพเป็นยังไงบ้างถ้าแกต้องการหม่อนไหมนั่น แต่ที่แน่ ๆ เมื่อพ่อเลี้ยงนฤนารทเสียชีวิตลงเขาทิ้งมรดกทั้งหมดไว้ให้ลูกชายคนเดียวคือ นฤเบศร์ ยกเว้นหม่อนไหมและเงินก้อนหนึ่งไม่มากนักให้กับดวงฤทัย”
เจ้ายิ่งหยุดพักดื่มน้ำชำเลืองมองหลานชายที่แม้ว่ามองไปทางอื่นแต่เขามองออกว่าเจ้าเหนือหัวนั่นตั้งใจฟังเรื่องราวของพ่อเลี้ยงคนนี้อย่างยิ่ง
“แล้วทำไมพ่อเลี้ยงนฤนารทถึงเสียชีวิต”
“พ่อเลี้ยงนฤนารทแก่มากแล้ว ตอนที่แกแต่งงานใหม่คนในจังหวัดต่างพูดกันหนาหูว่าแกคงแต่งเพราะดวงฤทัยเป็นคนสวย แกคงต้องการทำให้ตัวเองกระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้าง หรืออาจโดนแม่เลี้ยงหลอกให้แต่งงานด้วยเพราะเงิน ใคร ๆ เขาลือกันว่าบ้านอินราชาตกต่ำจนเงินทองขัดสน ชุมแสงเรียกร้องสินสอดก้อนใหญ่มากโขทีเดียวและพ่อเลี้ยงยอมจ่าย ปู่คาดว่าแม่เลี้ยงดวงฤทัยเองคงไม่ได้จับสินสอดของตัวเองเป็นแน่”
เหนือหัวขบกรามแน่นเมื่อนึกภาพเด็กสาวคนนั้นนอนระทวยให้คนแก่คราวพ่อชื่นชม มือเหี่ยวคงได้เชยชมร่างงดงามไปทั่วตัวจนหนำใจ
“แต่พอแต่งไปไม่นาน คนเขาลือกันว่าทั้งคู่แยกห้องนอนกันตั้งแต่คืนแรก แม่เลี้ยงทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีใครเคยเห็นว่าแม่เลี้ยงแสดงกิริยามารยาทอย่างเด็กสาวอีกเลย ทั้งที่เธอแต่งงานตั้งแต่อายุน้อย สิบแปดปีเท่านั้น ดูแลบ้านอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าออกงานกับพ่อเลี้ยง จัดงานเลี้ยงที่บ้าน ปู่เองเคยไปครั้งหนึ่ง อาหารขันโตกรสชาติดีดั่งชาววัง และวิจิตรงดงาม น่าเสียดายที่เธอต้องกลายเป็นหม้ายแต่ยังสาว”
“แล้วคุ้มเจ้าจอมอิน?”
“คุ้มเจ้าจอมอินเดิมเป็นคุ้มของเจ้าจอมสมัยตั้งแต่รุ่นท่านปู่ของเจ้าหญิงแสงฉาย ซึ่งเป็นเจ้าย่าของดวงฤทัย อันที่จริงบ้านนี้แม่ของดวงฤทัยเขาเติบโตมากับเจ้าหญิงแสงฉายนะ คงได้รับการถ่ายทอดฝีมือดั่งเดิมของล้านนามาบ้าง ชุมแสงลูกของเจ้าหญิงแสงฉายได้แต่งกับพิศดุจดาว เรื่องมันยาวมากนะหลานจะฟังต่อจริง ๆ หรือ?”
เหนือหัวไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้ารับใบหน้าจริงจังจนเจ้ายิ่งจำต้องเล่าต่อ
“พิศดุจดาวน่ะชอบพ่อเรามาก เกือบได้เกี่ยวดองกันแล้ว แต่ชุมแสงชิงตัดหน้าไปสู่ขอเสียก่อน แล้วทางนั้นก็ตกลง พิศดุจดาวเลยจำใจต้องแต่งกับชุมแสง มีลูกด้วยกันสองคนชื่อพฤกษ์และพราวพิลาศ ส่วนแม่ของดวงฤทัยปู่เองก็จำชื่อไม่ได้ มันนานมากแล้ว เป็นเด็กในบ้านชื่นชอบชุมแสงเป็นทุนเดิมจึงจำยอมเป็นภรรยาน้อย แต่ก็ถือว่าชุมแสงเองให้เกียรติไม่น้อย ยอมยกคุ้มเจ้าจอมอินให้แม่ลูกเขาได้อยู่แยกจากบ้านใหญ่ กระทั่งเสียชีวิตลงคุ้มจึงตกเป็นของฝั่งภรรยาน้อยเขา เรื่องมันก็มีเพียงเท่านี้ หลานอยากจะถามอะไรอีกไหม”
เหนือหัวลุกขึ้นยืนใบหน้าเรียบเฉียบ มือขยับสาบเสื้อก้มศีรษะลงมองผู้เป็นปู่
“ผมน่าจะมาถามปู่ตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
เจ้ายิ่งมองหลานชายที่หันควับก้าวเท้ายาวเตรียมลงจากบันไดบ้าน จึงรีบผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ตัวยาว ใช้ไม้เท้าพยุงร่างโดยมีคนรับใช้ชายคนสนิทเดินตามไม่ห่าง
“เหนือหัว!”
ร่างสูงชะงักเอี้ยวหน้ากลับมามองนิ่ง ก่อนหันกลับเดินลงบันไดไปไม่เอ่ยตอบสิ่งใดหลังจากได้ยินสิ่งที่ปู่เอ่ยเตือน
“ดวงฤทัยเขาเป็นแม่หม้ายของบ้านสินธุเจริญพาณิช หลานต้องคิดให้รอบคอบ ยังไงเธอก็เป็นหญิงสาวที่มีมลทินไปแล้ว”
เหนือหัวเบือนหน้ากลับก้าวลงเรือนไปอย่างเย็นชา ทิ้งให้ผู้เป็นปู่มองตามอย่างห่วงใยและร้อนรนด้วยความกลัวว่าเหนือหัวจะคิดจริงจังกับแม่หม้ายสาว
[1] งานลงรักปิดทอง ศิลปหัตถกรรมของไทยประเภทช่างรัก
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่