Home / รักโบราณ / เพียงนางที่ข้าจะรัก / บทที่ 5/1 กรี๊ด…ใครก็ได้ช่วยด้วย

Share

บทที่ 5/1 กรี๊ด…ใครก็ได้ช่วยด้วย

last update Last Updated: 2025-10-05 21:58:38

ฟึ่บ! เฟิ่งเสวียนจีวางมู่ซูซินบนหลังม้าโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว ก่อนเดินไปกระโดดขึ้นม้าอีกตัวด้วยท่วงท่าสง่างาม เปล่งเสียงออกคำสั่งเด็ดขาดโดยไม่สนใจท่าทางตื่นตระหนกของร่างบางบนหลังม้าแต่อย่างใด

“หากเจ้าปีนลงมาเปิ่นหวางจะหักขาเจ้าซะ”

(*_*”)มู่ซูซินที่กำลังจะปีนลงมาจากหลังม้าชะงักกึก

“คนใจร้าย!เผด็จการที่สุดเลย!” ใบหน้างามง้ำงอ อมลมแก้มป่องจำต้องยอมไปขี่ม้ากับเขาอย่างมิอาจขัดขืน

ดวงเนตรคู่คมเหลือบมองดวงหน้างามที่กำลังบึ้งตึงปราดหนึ่ง มุมปากกดลึกแววตาฉายประกายขบขัน

องครักษ์สองหานสบตากันอย่างมีความนัย ‘ท่านอ๋องยิ้ม!’

ขบวนขี่ม้าออกทางประตูหลังจวนโดยใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำไปจนถึงประตูเมืองฝั่งตะวันตก ด้านนอกเป็นพื้นที่โล่งมีป่าไผ่ข้างทางอากาศไม่ร้อนอบอ้าวเพราะเป็นต้นฤดูสารทแล้ว

ในขณะที่มู่ซูซินถูกบังคับให้ออกไปขี่ม้าเป็นเพื่อนฉีอ๋องอย่างไม่เต็มใจอยู่นั้น หมัวมัวจากตำหนักซูเฟยที่มารอรับผ้ารองเลือดพรหมจรรย์ตามธรรมเนียม เพื่อนำไปแสดงแก่ญาติผู้ใหญ่ที่เป็นสตรีของฝ่ายชายได้นำผ้าไปมอบให้ซูเฟยตามคำสั่ง

ฟ่านซูเฟยเมื่อเห็นว่าผ้ายังขาวสะอาดปราศจากคราบเปรอะเปื้อนใดๆ รอยยิ้มแห่งความยินดีผุดพรายบนดวงพักตร์ “นับว่าฉีอ๋องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ส่งข่าวไปจวนตระกูลไป๋เรื่องที่ฉีอ๋องไม่ได้เข้าหอกับพระชายาบ้านนอกคนนั้น อย่าลืมทำอย่างเงียบๆ ด้วยล่ะ” รับสั่งบอกหมัวมัวข้างกายด้วยสีหน้ารื่นเริง ซูเฟยยังไม่ยอมแพ้เรื่องที่ต้องการดึงตระกูลไป๋มาเป็นพวก

จวนตระกูลฉู่

เพล้ง! เพล้ง!

“กรี๊ดดด ข้าไม่ยอม!ท่านอ๋องทำแบบนี้กับข้าได้ยังไง!”

เสียงข้าวของถูกปาลงพื้นเคล้าเสียงกรีดร้องของฉู่ฟางอิ๋งดังขึ้นในรือนเจียวเมิ่ง เมื่อช่วงเช้านางยังดีใจที่ฉีอ๋องไม่ได้เข้าหอกับมู่ซูซิน ตามที่นางกำนัลคนหนึ่งในตำหนักเว่ยจงรายงานมา

แต่ใครจะคิดว่าพอตกบ่ายฝ่ายชายกลับพาผู้หญิงคนนั้นออกไปขี่ม้าเล่น และยังยอมให้นางขี่อาชาเหงื่อโลหิตที่เขาแสนจะหวงแหน!

สาวใช้คนสนิทรีบไปตามฮูหยินรอง ต่งโหยว มารดาของฉู่ฟางอิ๋งให้มาช่วยปลอบบุตรสาวอย่างเร่งรีบ เพราะนอกจากต่งซื่อไม่มีใครสามารถทำให้คุณหนูสามผู้นี้สงบลงได้ สาวใช้หลายคนไม่อยากเข้าใกล้ยามนางอาละวาดเพราะกลัวโดนลูกหลง

ตงซื่อที่เพิ่งมาถึงมองสภาพสาวใช้ที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่หน้าเรือนเจียวเมิ่งก่อนถอนหายใจหนัก

“อิ๋งเอ๋อร์ หยุดอาละวาดได้แล้ว ใครทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจอย่างนั้นรึ”

เพียงได้เห็นหน้ามารดาฉู่ฟางอิ๋งโผเข้าสู่อ้อมอกผู้ให้กำเนิด น้ำตาเม็ดโตพรั่งพรูเป็นสายจากความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวฉีอ๋อง “ฮือ…อ ท่านแม่ ท่านต้องช่วยลูกนะเจ้าคะ ฮึก ท่านอ๋อง…”

เรื่องราวที่เฟิ่งเสวียนจีพาพระชายาออกไปขี่ม้าเล่นนอกเมืองถูกเล่าให้ต่งซื่อฟัง

“มิใช่ว่าเจ้าเพิ่งบอกแม่เมื่อช่วงสาย ว่าท่านอ๋องไม่ได้เข้าหอกับชายาหรอกรึ เหตุไฉนตอนนี้ถึงได้ยอมให้นางขี่ม้าที่ทรงหวงแหนนักหนาได้กันล่ะ ลูกไม่ได้ฟังมาผิดแน่นะ”

“ไม่ผิดแน่เจ้าค่ะ” ฉู่ฟางอิ๋งบอกกับมารดา เรื่องที่ตนแอบซื้อตัวสาวใช้คนหนึ่งในตำหนักเว่ยจงไว้ ข่าวที่ได้มาไม่ผิดพลาดแน่นอน ต่งซื่อนั่งนิ่งไปครู่หนึ่งคล้ายกำลังตรึกตรองบางสิ่ง เสี้ยวลมหายใจต่อมาดวงตาของนางพลันทอประกาย

”อีกสิบวันจะเป็นวันเกิดของท่านอัครมหาเสนาบดีซ่ง ฉีอ๋องต้องพาพระชายาไปร่วมงานแน่ แม่ไม่เชื่อหรอกว่าหากท่านอ๋องได้เห็นเจ้าแล้วจะไม่รู้สึกอะไร ระหว่างนี้แม่จะช่วยคิดแผนเล่นงานพระชายาบ้านนอกคนนั้นไปพลางๆ

มิสู้วันพรุ่งนี้ เจ้าเรียกคนมาสั่งตัดชุดและเลือกเครื่องประดับใหม่จะดีกว่า อย่าให้น้อยหน้าสตรีบ้านนอกคนนั้นเด็ดขาด และที่สำคัญ เจ้าต้องทำให้ท่านอ๋องและทุกคนในงานประทับใจ ว่าเจ้าต่างหากคือสตรีที่คู่ควรกับท่านอ๋อง”

สีหน้าของฉู่ฟางอิ๋งดีขึ้นมากเมื่อได้ยินถ้อยคำของมารดา ใช่แล้ว นางไม่มีทางยอมแพ้ผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด!

มู่ซูซินไม่รู้ตัวเลยว่าการออกไปขี่ม้าอย่างไม่เต็มใจกับเฟิ่งเสวียนจี ทำให้นางถูกฉู่ฟางอิ๋งเขม่นเป็นที่เรียบร้อย

เปลือกตาของนางกระตุกไม่หยุดในขณะที่กำลังขี่เถาฮวาสุดสวยด้วยความระมัดระวังอย่างสุดชีวิต เพื่อไม่ให้มันเกิดรอยขีดข่วนใดๆอยู่นั้น

บุรุษตัวโตนิสัยเสียแถมเป็นจอมเผด็จการกลับไม่ปล่อยให้นางขี่ม้ากินลมชมทิวทัศน์สบายใจอย่างที่คิด

แต่กลับควบอาชาเหงื่อโลหิตเพศผู้นาม เหลยถิง ด้วยความเร็วสูงวิ่งผ่านหน้านางไปจนฝุ่นตลบปล่อยให้นางกินฝุ่นแดงเป็นของว่างยามบ่าย

แค่กๆๆ มู่ซูซินไอจนหน้าดำหน้าแดงแอบก่นด่าเฟิ่งเสวียนจีไปยันบรรพบุรุษ

“เด็กแว้นยุคจีนโบราณเอ้ย! ลูกฮ่องเต้สุนัข นิสัยกวนประสาทบ้าอำนาจอยู่ว่างไม่เป็นต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อนมิต่างจากบิดา แถมยังหน้าหนาโรคจิตชอบบังคับจิตใจคนอื่น เด็กโข่งขาดความอบอุ่นบรรพบุรุษไม่สั่งสอน ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

เรื่องยังไม่จบแค่นั้น คนที่คิดว่าควบม้าไปไกลแล้วกลับมาโผล่ข้างๆนางราวกับผีสาง ได้ทันเห็นนางกำลังทำปากขมุบขมิบพร่ำบ่นอะไรบางอย่างเข้าพอดี

“เจ้ากำลังแอบด่าเปิ่นหวางลับหลัง?”

ร่างบางบนหลังม้าสะดุ้งโหยง “ท่านอ๋อง! ตกใจหมดเลยเพคะโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้ เกิดซินเอ๋อร์ตกใจทำเถาฮวาเป็นรอยจะมาโทษกันไม่ได้นะเพคะ”

“อย่ามานอกเรื่อง เปิ่นหวางถามว่าเจ้ากำลังแอบด่าเปิ่นหวางลับหลังอยู่รึเปล่า”

“ใครจะไปกล้าทำแบบนั้นเพคะ ซินเอ๋อร์แค่ท่องกลอนชมธรรมชาติไปเรื่อย” นางเถียงกลับมาอย่างไวใครจะไปยอมรับว่าแอบด่าเขาจริงนางไม่ได้โง่เสียหน่อย

“อย่าให้จับได้ก็แล้วกันว่าเจ้าแอบด่าเปิ่นหวางลับหลัง” เฟิ่งเสวียนจีหรี่ตามองคนตัวเล็กที่กำลังแถหน้าซื่อตาใส เขาแสยะยิ้มร้ายก่อนฟาดมือไปที่ก้นของเถาฮวาพร้อมออกคำสั่งให้มันออกวิ่ง “ไป!”

ทันทีที่ม้าสาวถูกตีก้นพร้อมคำสั่งเสียงเข้มของเจ้านาย มันก็ทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็ว มู่ซูซินที่ไม่ทันระวังส่งเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจเกือบพลัดตกจากหลังม้า “กรี๊ดดด”

คราแรกนางเกือบจะลืมตัวเตรียมตั้งท่าตีลังกาเล่นท่าสวย เหมือนตอนฝึกขี่ม้ายิงธนูแบบผาดโผนในค่ายฝึกองครักษ์ของหอเหว่ยตี้อยู่แล้วเชียว ทว่ายังมีสติจึงไม่เผลอหลุดจากบทสตรีบ้านนอกแสนบอบบางไร้พิษภัย

ท่อนแขนเรียวรีบเปลี่ยนมากอดคอเถาฮวาแน่น หลับตาปี๋กรีดร้องขอความช่วยเหลือเสียงหลงแทน

“กรี๊ด…ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยหยุดม้าที ข้ากลัว ฮือออ”

คนตัวโตขี้แกล้งมองสภาพของหญิงสาวด้วยความชอบใจ คิดว่าปล่อยให้นางแหกปากร้องไปอีกสักพักค่อยสั่งให้ลูกน้องไปหยุดเถาฮวา

หานจิ้งเห็นท่าไม่ดีรีบหันไปถามเจ้านาย “ท่านอ๋อง จะปล่อยพระชายาไว้แบบนั้นหรือพะย่ะค่ะ อีกไม่ไกลก็จะถึงทะเลสาบพระชายาว่ายน้ำไม่เป็นนะพะย่ะค่ะ“

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 12/2

    ในระหว่างที่มู่ซูซินเดินไปคอกม้า บ่าวรับใช้ก็กำลังยกฟูกที่นำมาจากเรือนอู่ถง เข้าไปเปลี่ยนในห้องนอนของฉีอ๋องอย่างระมัดระวัง ตามคำสั่งของเหวินกงกง เจ้าของตำหนักเองก็เพิ่งหารือกับกุนซือของตนเสร็จ ทั้งสองเดินไปยังเรือนของเฟิ่งเสวียนจี เพื่อรับมื้อกลางวันที่นั่น ได้ทันเห็นเหวินกงกงยืนคุมบ่าวชาย กำลังย้ายฟูกออกมาจากเรือนของตนพอดี วรกายสูงเดินแยกจากสหาย ตรงเข้าไปถามไถ่ด้วยความฉงน “เหวินกงกง ท่านกำลังทำอะไร ยกฟูกออกมาจากเรือนนอนของข้าทำไม” ครั้นได้ยินเสียงของนายเหนือหัว เหวินกงกงรีบหมุนตัวกลับมา จีบปากจีบคอรายงานด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรียนท่านอ๋อง พระชายาขอให้กระหม่อม นำฟูกที่เรือนอู่ถงมาเปลี่ยนให้ท่านอ๋องพะย่ะค่ะ จะได้ทรงนอนหลับสบายยามค่ำคืน ไม่ต้องลำบากเสด็จไปอาศัยนอนที่เรือนอู่ถง” เฟิ่งเสวียนจีนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก คาดไม่ถึงว่ามู่ซูซินจะกล้าสั่งให้เหวินกงกงยกฟูกมาเปลี่ยนให้เขา พรืดด ซ่งเฉินซีได้ยินคำบอกเล่าของเหวินกงกงก็หลุดขำ ชี้พัดจีบในมือชี้ไปที่เฟิ่งเสวียนจีพร้อมทำหน้าตาล้อเลียน “กระหม่อมเพิ่งรู้ว่าที่แท้ท่านอ๋องเป็นคนนอนยาก ฮ่าๆๆ กระหม่อมชักอยากพบหน้าพระชายามู่ขึ้นมาเสียแล้ว

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 12/1 ไม่เอาปลาแล้วเจ้าจะเอาอะไร

    มู่ซูซินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อรู้ว่าลี่มี่ยังปลอดภัยดีไม่ได้ถูกเฟิ่งเสวียนจีจัดการอย่างที่เคยขู่นางไว้ เพียงแต่ข้องใจว่าไฉนลี่มี่ถึงได้ยอมให้คนตัวโต แอบมานอนบนเตียงแทนที่มันได้อย่างง่ายดาย ดวงตาคู่สวยมองมายังร่างแกร่งที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นอนยิ้มกริ่มหน้าตาสดใสประหนึ่งได้นอนหลับสนิทแปดชั่วโมงขั้นต่ำ “ชายารักมองสามีจริงจังแบบนี้ กำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่รึเปล่า” พูดจบก็ขยับนอนตะแคงพิงแขน สาบเสื้อนอนเจ้ากรรมแหวกออกจนเห็นแผ่นอกแกร่งกับหน้าท้องเป็นลอนขาวจั๊วะยั่วยวนสายตาคนมองแต่เช้า “…” มู่ซูซิน เรียกแทนตัวเองว่าสามีด้วย กรี๊ดดด อารมณ์ไหนแต่เช้าเนี่ย ตามไม่ทันโว้ย!! พร้อมกับลอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ “ท่านอ๋อง เหตุใดถึงมานอนที่นี่ได้เพคะ ทรงเมาแล้วเดินละเมอมาหรือ” รีบเอาข้อเรื่องเมาขึ้นมาดักคอ นางอยากรู้นักว่าเขาจะแก้ตัวยังไง “ฟูกที่เรือนนี้นอนสบายกว่าฟูกที่เรือนของเปิ่นหวาง” ง่ายๆได้ใจความ แต่ทำคนฟังหน้าเหวอไปอีกรอบ รับสั่งจบก็ลุกออกจากเตียงเพื่อไปล้างหน้าล้างตา ปล่อยให้มู่ซูซินนั่งอ้าปากค้างมองตามแผ่นหลังกว้างตาแป๋ว พูดอะไรไม่ออกไปโดยปริยาย พฤติกรรมของมนุษย์ทั้งสองสร้างความขบ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 11/2

    
 แผนการมาดักรอพบฉีอ๋องในวันนี้นับว่าไม่สูญเปล่า นอกจากฝ่ายชายจะยอมให้นางอาศัยรถม้า เขายังทิ้งพระชายาที่เพิ่งอภิเษกได้เพียงไม่กี่วันให้กลับตำหนักเว่ยจงไปคนเดียว แล้วเลือกมากินมื้อเย็นกับนางที่นี่แทน ฉู่ฟางอิ๋งรู้สึกราวกับตนเป็นผู้ชนะ “คุณหนูฉู่อิ่มแล้วหรือ เปิ่นหวางเห็นเจ้ากินไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ไม่กินอีกสักหน่อยเล่า เจ้าดูเหมือนซูบผอมไปนะ” เขาพูดไปตามที่เห็นเมื่อเดือนก่อนนางยังดูมีเนื้อหนังมากกว่านี้ ภายในใจของฉู่ฟางอิ๋งลิงโลด แผนอดข้าวอดน้ำมาระยะหนึ่ง จนทำให้ร่างกายซูบผอมลงเหมือนคนตรอมใจถือว่าไม่เหนื่อยเปล่า ฉีอ๋องสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้จริงๆ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงห่วงใย อิงเอ๋อร์อิ่มแล้วเพคะ คงเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าใดนัก” “เจ้าซูบผอมแบบนี้ใต้เท้าฉู่ไม่เป็นห่วงแย่หรือ” ฉู่ฟางอิ๋งเม้มปาก สีหน้าเผยถึงความน้อยใจยามนึกถึงบิดา “ช่วงนี้ท่านพ่อถ้าไม่อยู่ที่ทำงาน ก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องหนังสือหลังกลับมาจากในวัง กระทั่งข้าวปลาก็ไม่ออกมากิน พ่อบ้านต้องยกไปให้ที่นั่น มีบางวันที่ออกไปกับพี่ใหญ่จนมืดค่ำถึงกลับจวน อิ๋งเอ๋อร์กับท่านแม่แทบจะไม่ได้เห็นหน้า

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 11/1 ลี่มี่เกลียดคนจำพวกนี้น่ะคุณหนูฉู่

    นอกจากรับสั่งถามมู่ซูซินเสียงลอดไรฟัน เฟิ่งเสวียนจียังเผลอปล่อยไอสังหารออกมาบางส่วน ทำหญิงสาวบอบบาง ผู้มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเป็นช่วงเวลาอย่างฉู่ฟางอิ๋งแทบหายใจไม่ออก ใบหน้างามเริ่มซีดเป็นไก่ต้มยกมือกุมหน้าอกคล้ายจะเป็นลม พระชายาฉีอ๋องผู้ใจกว้างดั่งมหาสมุทร รีบฉวยโอกาสเบี่ยงเบนความสนใจของสามีอารมณ์แปรปรวนอย่างแนบเนียน “ตายแล้ว คุณหนูฉู่ ทำไมหน้าซีดขนาดนี้ล่ะ ท่านหน้ามืดอีกแล้วหรือ หานเย่! บอกให้สาวใช้ของคุณหนูฉู่เข้ามาด้านในหน่อย คุณหนูฉู่ตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอท่านอ๋องจนลมจับแน่ะ” “…” เฟิ่งเสวียนจี 0_0! ฉู่ฟางอิ๋ง หลังจากจิกกัดคู่สร้างคู่สมไปคนละคำ มู่ซูซินรีบกุลีกุจอหยิบยาดมสมุนไพรขึ้นมาจ่อจมูกตนเอง สูดกลิ่นเสียงดัง ฟื้ดดดด ไม่ส่งให้ฉู่ฟางอิ๋งทันที “ข้าดมให้ดูก่อนว่าไม่มีพิษ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ” เกิดมีคนตั้งใจใส่ร้ายว่าถูกพิษจากยาดมของนาง จะได้มีคำแก้ต่างรวมทั้งพยานตัวโตข้างๆมายืนยัน เสี่ยวจู สาวใช้ของฉู่ฟางอิ๋งก้าวเข้ามาด้านในรถม้าพอดี มู่ซูซินจึงส่งยาดมให้ “เอาให้คุณหนูของเจ้าดม อาการหน้ามืดจะได้ดีขึ้น” สาวใช้กล่าวขอบคุณพระชายาฉีอ๋อง รีบนั่งลงจ่อยาดมให้เจ้านายด้วยความเป็นห่ว

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 10/2

    ทุกคนในห้องหันขวับมองเฟิ่งเสวียนจีเป็นตาเดียว แม้แต่ลี่มี่ที่กำลังปล่อยให้หยางซื่อเกาพุงยังรีบลุกขึ้นมาจ้องชายหนุ่มด้วยอีกตัว มู่ซูซินเอียงหน้ามองเขาตาค้าง เพียงแค่ระยะเวลาสองสามวันฉีอ๋องทำนางตกตะลึง ประหลาดใจ แปลกใจ สติหลุดและอีกหลากหลายอารมณ์ไปไม่รู้จักกี่ครั้งแล้ว “ทรงถามความคิดเห็นของหม่อมฉัน?” ตำหนักก็ของเขาจะมาถามความเห็นนางทำไม “อืม มู่เหยียนเป็นน้องชายของพระชายา เปิ่นหวางจึงให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ” คนฟังแทบไม่เชื่อหูตนเอง ฉีอ๋องเพิ่งบอกว่าให้นางเป็นคนตัดสินใจ จริงดิ! อารมณ์สามีให้เกียรติภรรยาว่างั้น แต่ไม่ดีกว่า บุรุษตรงหน้ายิ่งหาความแน่นอนทางอารมณ์ไม่ได้ ขอกลับไปทำข้อตกลงกับเขาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของน้องชาย ตรองได้ดังนั้นมู่ซูซินจึงหันไปพูดกับมู่เหยียนแทน “เสี่ยวเหยียน พี่ใหญ่ขอกลับไปหารือกับท่านอ๋องก่อนนะ ได้คำตอบอย่างไรพี่ใหญ่จะส่งคนมาบอก” มู่เหยียนเป็นเด็กฉลาดรู้ความ เขาไม่งอแงเอาแต่ใจ หากพี่สาวขอหารือกับพี่เขยก่อนเขาก็ไม่มีปัญหา ผ่านไปพักหนึ่งเฟิ่งเสวียนจีจึงชวนชายากลับ มู่ซูซินร่ำลาครอบครัว รับลี่มี่มาจากอ้อมแขนของมู่เหยียน ที่เพิ่งก

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 10/1 ทรงถามความคิดเห็นของหม่อมฉัน?

    ลี่มี่ได้ยินเสียงในความคิดของเฟิ่งเสวียนจี มันเงยหน้าจ้องตามู่ซูซินคล้ายสื่อสารบางอย่าง หญิงสาวหน้าตาเลิ่กลั่ก ก้มกระซิบกับแมวของตน “เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือลี่มี่” เมี้ยว ลี่มี่ส่งเสียงหวานตอบรับ พร้อมหรี่ตามองนางทาสของมันด้วยสายตาจับผิด และนี่คือความลับอีกหนึ่งเรื่องของมู่ซูซิน ลี่มี่หาใช่แมวปกติ แต่เป็นแมวพิเศษที่ยมทูตมอบให้นางตอนอายุครบสิบปี หลังมื้อกลางวันที่จวนตระกูลมู่ พ่อตากับลูกเขยสูงศักดิ์ก็พากันไปเดินหมาก ร่วมกับการเสวนาเรื่องอาชากันอย่างถูกคอ ปล่อยให้มู่ซูซินได้ใช้เวลากับคนที่เหลือในครอบครัว องครักษ์สองหานลอบพยักหน้าให้กันอย่างโล่งอก ในชีวิตของฉีอ๋องนอกจากอาชาและการทำศึก…หมากล้อม อาหารและสุรารสเลิศ คือสิ่งที่ทรงโปรดปราน นับว่าคนตระกูลมู่มาถูกทางเลยทีเดียว ภายในเรือนส่วนตัวของหยางซื่อ เมื่อประตูของเรือนปิดลง ลี่อิ่ง ลี่เจิน รวมถึงองครักษ์ตระกูลหยาง หรือพูดให้ถูกว่าองครักษ์ของหอเหว่ยตี้ได้เข้าประจำที่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าใกล้เรือน ขณะที่นายใหญ่และนายน้อยของหอเหว่ยตี้กำลังหารือเรื่องสำคัญ “ซินเอ๋อร์ เรื่องที่ลูกสงสัย คนของเราสืบมาได้ว่า พ่อลูกตระกูลฉู่แอบติด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status