Home / รักโบราณ / เพียงนางที่ข้าจะรัก / บทที่ 5 กรี๊ด…ใครก็ได้ช่วยด้วย ตอนปลาย

Share

บทที่ 5 กรี๊ด…ใครก็ได้ช่วยด้วย ตอนปลาย

last update Last Updated: 2025-10-05 21:58:44

“ช้วยข้าด้วย…ย” เสียงร้องโหยหวนของมู่ซูซินยังคงดังไม่แผ่ว เถาฮวาเองก็ยังวิ่งหน้าตั้งด้วยความเร็วคงที่ มุ่งตรงไปยังทะเลสาบอย่างคุ้นเคย

เฟิ่งเสวียนจีที่คราแรกดูอารมณ์ดีเพราะได้แกล้งคนตัวเล็ก แววตาเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก รีบควบเหลยถิงตามไปด้วยความเร็วสูง เขาลืมเรื่องทะเลสาบไปเสียสนิท!

เถาฮวาเป็นม้าที่ชอบเล่นน้ำมาก ส่วนมู่ซูซินว่ายน้ำไม่เป็น! หากปล่อยเถาฮวาให้วิ่งเล่นเองตามใจชอบมันต้องกระโจนลงทะเลสาบแน่! ยิ่งคิดเฟิ่งเสวียนจีไม่รอช้าเร่งควบม้าจนตามมาทัน

เมื่อไปถึงตัวเถาฮวาเขากระโจนออกจากหลังเหลยถิง ขึ้นไปขี่ซ้อนด้านหลังมู่ซูซินและหยุดม้าไว้ได้ในที่สุด

ม้าสาวพ่นลมออกทางจมูกอย่างขัดใจ เพราะอดไปเล่นน้ำอย่างที่มันต้องการ แต่กระนั้นก็ยอมหยุดอยู่นิ่งๆ ไม่แสดงท่าทีดื้อรั้นแต่อย่างใด

มู่ซูซินคลายท่อนแขนออกจากคอเถาฮวา ตัวสั่นเทาราวลูกนกแรกเกิด แพขนตาหนาเปียกชุ่ม บนแก้มใสอาบไปด้วยหยาดน้ำตา ส่งเสียงตัดพ้อเฟิ่งเสวียนจีขณะดิ้นรนเพื่อลงจากม้า

“ฮึก ท่านอ๋องใจร้ายใจดำที่สุด หม่อมฉันไปทำสิ่งใดให้ทรงโกรธเคืองนักหนา ถึงได้แกล้งกันแบบนี้ ฮือออ ปล่อยหม่อมฉันลงนะเพคะ”

แต่แทนที่เฟิ่งเสวียนจีจะปล่อยคนตัวเล็กลงจากหลังม้าตามที่นางร้องขอ เขากลับเปลี่ยนมากอดเอวบางของนางแน่นขึ้นแทน

“เจ้า…หยุดดิ้นก่อนได้ไหม เปิ่นหวางก็มาช่วยแล้วไง หยุดร้องไห้ได้แล้ว เปิ่นหวางไม่รู้นี่ว่าเจ้าจะกลัวขนาดนี้ หายกลัวได้แล้ว โตแล้วไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้ไม่อายเถาฮวาหรือคนอื่นๆรึ” พูดจบก็ยกมือลูบหัวทุยของคนตัวเล็กแผ่วเบา เหมือนอย่างที่เจียงไทเฮาเคยปลอบเขาเมื่อครั้งยังเยาวัย

‘นุ่มนิ่มเหมือนกระต่ายจริงๆด้วย’

บรรดาองครักษ์ต่างเหลือบมองกันด้วยสายตาแปลกประหลาด ฉีอ๋องผู้เหี้ยมโหดกำลังปลอบหญิง นี่พวกเขาไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่?!

มู่ซูซินที่กำลังสวมบทนางเอกเจ้าน้ำตาสะอื้นฮักจนตัวโยน พลันหยุดสะอื้นทันที ค่อยๆหันไปมองบุรุษตัวโตด้านหลังด้วยสายตาเหลือเชื่อ ‘อย่าบอกนะ ว่ามีมุมอ่อนโยนกับเขาเหมือนกัน‘

“ฮึก หยุดร้องก็ได้เพคะ แต่หม่อมฉันอยากกลับบ้านแล้ว ฮึก ไม่อยากขี่ม้าเล่นต่อแล้ว” พร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาปาดน้ำตาอย่างมีจริต

กลับไปเมืองตงเฉิงเมื่อไหร่ นางจะส่งจดหมายไปขอให้ท่านตาตบรางวัลงามๆ ให้แก่ป้าเหมย อดีตนางคณิกาชื่อดังของเมืองชิงหลิงทันที เรื่องที่ช่วยถ่ายทอดวิธีใช้มารยาหญิงและการบีบน้ำตาได้ตามสั่งให้นาง ถึงจะเหนื่อยไม่น้อยที่ต้องตีบทให้แตก แต่ก็ต้องยอมรับว่าได้ผลเกินคาด

เมื่อเห็นว่าไม่สนุกแล้ว เฟิ่งเสวียนจีจึงสั่งให้กลับตำหนัก โดยที่ตัวเขาขี่ม้าตัวเดียวกันกับมู่ซูซิน

ผ่านไปไม่นานร่างบางที่ร้องไห้จนเหนื่อย เลยเผลอหลับคาหลังม้าจนศีรษะโยกคลอนไปมา คนตัวโตด้านหลังหัวคิ้วเข้มขมวดมุ่น ขยับมือดึงนางให้เอนพิงอกของตน จากนั้นจึงเลื่อนมือมากอดเอวคอดกิ่วไว้กันไม่ให้ตก ขี่เถาฮวาเดินอย่างไม่เร่งรีบ เพราะเกรงว่านางจะตื่นแล้วงอแงใส่เขาอีก เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิด คิดว่าเขารังแกสตรีอ่อนแอไม่มีทางสู้ ที่กำลังทำอยู่เพราะห่วงชื่อเสียงของเขาต่างหาก

สัมผัสนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมละมุนจากกายสาว กอปรกับเรือนร่างอรชรในอ้อมแขน กระตุ้นให้ก้อนเนื้อในอกเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง

พระพักตร์หล่อเหลาก้มมองดวงหน้างามใกล้ๆ จนเห็นแพขนตายาวหนาชัดเจน คิ้วทรงใบหลิวเรียงเส้นสวย

ผิวพรรณของมู่ซูซินขาวเนียนละเอียดน่าสัมผัส พวงแก้มใสมีเลือดฝาดเป็นสีชมพูระเรื่อโดยไม่ต้องแต่งแต้มชาด จมูกโด่งรั้นได้รูป รับกับริมฝีปากกระจับอวบอิ่มมันวาวสีแดงเหมือนขนมหวานน่าลิ้มลอง

เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาพลันฉายขึ้นในความคิด และเมื่อรำลึกถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นบนนิ้วโป้งข้างซ้าย ในทรวงอกรู้สึกเหมือนมีขนนกมาปัดผ่าน

ครึ่งชั่วยามต่อมาเฟิ่งเสวียนจีและทุกคนก็กลับมาถึงตำหนัก ลี่อิ่งและลี่เจินที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปด้วย กำลังรอรับนายของตนอย่างกระวนกระวายอยู่หน้าคอกม้า ครั้นเห็นว่าเจ้านายนอนหลับพิงอกของฉีอ๋องบนหลังม้า โดยที่ฝ่ายชายกอดเอวของนางไว้แน่น สาวใช้ทั้งสองรีบก้มหน้างุด จ้องปลายเท้าของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย

‘ว้าย พระชายาช่างเสน่ห์แรงจริงๆ ออกไปขี่ม้าแป๊บเดียว ขากลับทำให้ท่านอ๋องตระกองกอดแน่นขนาดนี้ สุดยอดเลยเพคะ’

และเมื่อม้าหยุดเฟิ่งเสวียนจีจึงปลุกคนตัวเล็กในอ้อมแขน “ถึงแล้ว ตื่นเถอะ เดี๋ยวค่อยกลับไปนอนต่อที่ห้อง”

มู่ซูซินงัวเงียลืมตาตื่น พอรู้สึกตัวว่าตนนอนพิงแผ่นอกของคู่แค้นอยู่ก็สะดุ้ง ท่าทางเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วอึดใจ “ขะ ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ ที่พาหม่อมฉันมาส่ง”

“จะขอบใจข้าทำไม ที่นี่ตำหนักของข้า ไม่ให้ข้ากลับบ้านแล้วจะให้ข้าไปไหน” คนตัวโตตอบกลับมาเสียงห้วน ขยับตัวกระโดดลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว ลงมายืนรอรับคนตัวเล็กอยู่ด้านล่าง

“…” มู่ซูซิน ‘ก็ไปไกลๆไงเพ่! พูดจาดีๆไม่เป็นหรือไง กวนประสาทตลอด’

“หม่อมฉันลงเองได้เพคะ ไม่รบกวนท่านอ๋องดีกว่า” ท่าทางของนางห่างเหิน ไม่ประจบประแจงเรียกแทนตัวเองว่าซินเอ๋อร์เพราะยังหมั่นไส้อีกฝ่ายอยู่

เฟิ่งเสวียนจีทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่ยอมขยับตัวไปไหนยังคงรอรับนางอยู่ตรงนั้น พร้อมรับสั่งเร่งนางเสียงห้วน

“จะลงมาดีๆหรือต้องให้เปิ่นหวางกระชากเจ้าลงมา”

ร่างบางที่อยู่บนหลังม้าถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย วันนี้นางไม่เหลือเรี่ยวแรงมาต่อกรกับเขาอีกแล้ว จึงยอมโน้มตัวให้เขาช้อนอุ้มโดยละม่อม ครั้นลงมายืนบนพื้นได้ก็รีบยอบกายขอบคุณ

อีกฝ่ายทำเพียงพยักหน้ารับ ก่อนเปล่งเสียงขึ้นมาว่า “เปิ่นหวางชอบให้เจ้าแทนตนเองว่า ซินเอ๋อร์ มากกว่า มื้อเย็นวันนี้เปิ่นหวางจะไปรับที่เรือนอู่ถง” รับสั่งจบก็เดินจากไป ปล่อยให้มู่ซูซินยืนหน้าเหวออยู่ตรงนั้น

“ท่านอ๋องพูดว่าอะไรนะ เย็นนี้ทำไมนะลี่อิ่ง ลี่เจิน ข้ายังไม่ตื่นดี ยังเมาขี้ตาอยู่ฟังไม่ชัด”

“ท่านอ๋องรับสั่งว่า เย็นนี้จะมากินข้าวกับพระชายาเพคะ” ลี่อิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอบคำถามนายของตน

คนฟังหน้าเหวอหนักกว่าเก่าคราวนี้ ครั้นได้สติกลับมาก็รีบสั่งลี่เจินให้ไปหาเหวินกงกง เพื่อขอคำแนะนำเรื่องอาหารที่เฟิ่งเสวียนจีชอบและไม่ชอบกิน จากนั้นจึงเร่งกลับเรือน รีบสั่งงานบ่าวไพร่ให้จัดเตรียมโต๊ะอาหารที่ชานเรือนข้างสวน พร้อมจุดเทียนสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติก

เย็นวันนี้มู่ซูซินแต่งกายด้วยชุดผ้าแพรสีม่วงอมชมพูดูอ่อนหวาน พวงแก้มใสแต่งแต้มชาดผสมผงมุกสีชมพูอ่อนเป็นประกายยามต้องแสง ขอบตาบนกรีดหมึกดำเส้นเล็กที่หางตา กลีบปากอิ่มเป็นสีแดงสวยอยู่แล้วจึงทาขี้ผึ้งเล็กน้อยให้ดูชุ่มฉ่ำน่าจูบ เพียงเท่านี้มู่ซูซินก็งดงามสะกดสายตา

เมื่อได้เวลาจึงมายืนหน้าแฉล้มรอรับสามีหน้าเรือนอู่ถง เฟิ่งเสวียนจีที่เพิ่งมาถึงลมหายใจสะดุด นับเป็นอีกครั้งที่เขาถูกรูปโฉมของนางล่อลวง

“ซินเอ๋อร์ คารวะท่านอ๋องเพคะ” เจ้าของเสียงหวานยอบกายแช่มช้อยให้สามี

วรกายสูงก้าวมาหานาง ยื่นมือประคองช่วยให้ลุกขึ้น แม้ดวงพักตร์ยังคงเรียบเฉย หากแววตากลับทอประกายยิ้มๆ สุรเสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นตามมา

“ไม่ต้องมากพิธี เข้าไปข้างในกันเถิด ชายารัก”

*******************

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~4

    สองปีต่อมา มู่เหยียนเติบใหญ่ขึ้นมากร่างกายกำยำจากการฝึกวรยุทธ์กับท่านตาอย่างหนัก สุ้มเสียงแตกหนุ่มบัดนี้ทุ้มต่ำเสนาะหู รูปโฉมหล่อเหลาอันตรายต่อจิตใจของสตรีมากขึ้นทุกวัน บรรดาแม่สื่อต่างย่ำเท้ามาทาบทามคุณชายมู่เหยียน จนธรณีประตูทางเข้าจวนเจ้าเมืองแทบสึก! หลังปีใหม่ หอเหว่ยตี้ก็ได้รับเทียบเชิญอย่างเป็นทางการจากชินอ๋องแห่งแคว้นต้าเซี่ย เขาประสงค์ให้หอโอสถเหว่ยตี้ไปเปิดที่เมืองหลวงของแคว้น เนื่องจากในหน้าหนาวของทุกๆปี ประชาชนของต้าเซี่ยจำนวนไม่น้อยมักเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบ ชินอ๋องเซี่ยหย่งเหอ ทราบมาว่าหอเหว่ยตี้มีโอสถชั้นยอดหลายอย่าง จึงอยากให้หอเหว่ยตี้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยการไปเปิดหอโอสถที่เมืองหลวงเป็นสาขาแรก หยางหย่าถิงในฐานะนายใหญ่ตอบรับคำเชิญนี้ โดยที่นายน้อยเหว่ยอี้จะเป็นตัวแทนไปเจรจา ใช้เวลาในการเดินทางราวยี่สิบวันจากต้าเฟิ่งมายังเมืองหลวงของต้าเซี่ย ตำหนักชินอ๋อง งานเลี้ยงรับรองนายน้อยเหว่ยอี้ ถูกจัดขึ้นที่ลานตำหนักติดกับสระบัวและน้ำตกจำลองเพื่อคลายร้อน การตกแต่งประดับประดาสวยงามสมเกียรติชินอ๋องแห่งต้าเซี่ย เมื่อได้เวลาเซี่ยหย่งเหอและพระชายาทั้งสอง รวมถึ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~3

    แม่เล้าของหอราตรีจรัส ครั้นได้เห็นเด็กหนุ่มรูปงามสองคน แต่งกายด้วยอาภรณ์ราคาแพง ก็รีบปรี่เข้ามาต้อนรับพร้อมรอยยิ้มการค้าอย่างมืออาชีพ “คุณชายสองท่านนี้ไม่ทราบว่าคืนนี้มากินดื่มหรือต้องการมาหาความสำราญกันเจ้าคะ” มู่เหยียนผู้มีประสบการณ์รีบออกตัวรับหน้าอย่างทันท่วงที “พี่สาวคนสวย คืนนี้พวกข้าขอเริ่มด้วยการกินดื่มก่อนก็แล้วกัน หากนึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมาทีหลัง ค่อยหาความสำราญก็ยังไม่สาย ลูกน้องของข้าจองระเบียงส่วนตัวชั้นสองมองเห็นแม่น้ำไว้ ถ้าอย่างไรพี่สาวคนสวยช่วยพาน้องชายไปที” พูดจบก็วางถุงใส่เงินที่มีน้ำหนักไม่น้อยใส่มือแม่เล้าอย่างรู้งาน แม่เล้ายกพัดกลมขึ้นมาแตะแผ่นอกของเด็กหนุ่มเบาๆ อย่างมีจริต “แหม ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ “จากนั้นจึงเดินนำไปยังระเบียงชั้นสองที่ถูกจับจองไว้ ” เชิญคุณชายตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ” อาหรงดวงตาเบิกโพลงยิ่งกว่าเก่า คาดไม่ถึงว่าสหายของตนจะเชี่ยวชาญการใช้ชีวิตในหอโคมแดงขนาดนี้! องครักษ์ของมู่เหยียนที่เดินตามหลังมากลั้นขำกันจนไหล่สั่น คุณชายน้อยเลียนแบบจดจำท่าทางการพูดการจาของพี่สาวมาได้เหมือนเป๊ะ บนระเบียงส่วนตัวชั้นสอง ประตูเปิดกว้างสามารถมองเห็

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~2

    เฟิ่งเสวียนจียืนกอดอกอยู่ในเงามืด เอียงคอถามน้องภรรยาที่กำลังตั้งท่าจะกระโจนขึ้นหลังคาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ “…” มู่เหยียน หมดกันถูกจับได้เสียแล้ว! “แหะๆ พี่เขยดึกๆ ดื่นๆ ไม่หลับไม่นอน ออกมาทำอะไรแถวๆ นี้หรือพะย่ะค่ะ พระชายาหลับแล้วหรือ ท่านอ๋องถึงออกมาเดินชมดาวยามค่ำคืนคนเดียว” “ข้าต้องถามเจ้ามากกว่า ดึกดื่นค่อนคืนไม่หลับไม่นอน แต่งตัวซะหล่อแบบนี้มีนัดกับใครที่ไหนรึเปล่า” ดวงเนตรคู่คมมองสำรวจเสื้อผ้าที่มู่เหยียนใส่ ถึงจะเป็นสีเข้มทว่ากลับดูหรูหรามีระดับ แค่มองก็รู้ว่าเจ้าตัวต้องมีนัดแน่ๆ มู่เหยียนถอนหายใจแผ่ว คำว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนมันเป็นอย่างนี้เองสินะ แค่เห็นชุดที่เขาสวมใส่ก็ดูออกทันที “ปิดบังท่านอ๋องไม่ได้เลยจริงๆ กระหม่อมมีนัดจริงๆ นั่นแหละพะย่ะค่ะ” “แล้วทำไมไม่ออกทางหน้าตำหนักให้มันดีๆ จะโดดขึ้นหลังคาหนีออกไปให้องครักษ์สงสัยทำไม หืม?” “เดินออกไปง่ายๆ แบบนั้นมันไม่เร้าใจพะย่ะค่ะ แอบออกไปแบบนี้มันตื่นเต้นกว่า” (*_*’) เฟิ่งเสวียนจีถึงกับเงิบเมื่อได้ยินคำตอบจากปากน้องภรรยา พี่น้องคู่นี้สมกับที่มีสายเลือดเดียวกันจริงๆ! ชอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ ให้คนสงสัย…พี่เขยอย่างเขาหัวจะ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~1

    ช่วงปลายวสันตฤดู จวนเจ้าเมืองตงเฉิงมีงานใหญ่ คุณชายน้อยมู่เหยียนปีนี้อายุครบสิบห้าแล้ว จึงได้เวลาทำพิธีสวมหมวกครั้งแรก ซึ่งเป็นพิธีที่แสดงว่าเขาได้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว และเป็นการบ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อสังคมและครอบครัว นั่นหมายถึงหลังเสร็จสิ้นพิธี มู่เหยียนจะกลายเป็นนายน้อยคนใหม่ของหอเหว่ยตี้แทนพี่สาวทันที นามที่ใช้คือ เหว่ยอี้ ในวันสำคัญนี้ แม้แต่หยางเทียนอี้ผู้เป็นตาก็เดินทางมาจากเมืองชิงหลินเพื่อร่วมฉลอง มู่ซูซินพร้อมสามีและลูกๆ ของนางเดินทางจากเมืองหลวงเพื่อมาร่วมงานสำคัญนี้ ตลอดการเดินทางหลายวันเฟิ่งเสวียนจีแทบเก็บอาการไม่อยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาดีใจมากแค่ไหน ที่ต่อไปชายาตัวน้อยไม่ต้องรับผิดชอบหน้าที่นายน้อยแห่งหอเหว่ยตี้อีกแล้ว เขาใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทุกครั้ง ยามที่ชายาต้องเดินทางไปต่างเมืองเพื่อทำงาน หลังเสร็จสิ้นพิธีสมาชิกทุกคนในครอบครัวก็มารวมตัวกันอยู่ที่โถงพักผ่อนในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า มู่เหยียนในวัยสิบห้าปีรูปร่างสูงสง่ามีราศีมิต่างจากเชื้อพระวงศ์ ใบหน้าหล่อเหลาค่อนไปทางงดงามดูราวปีศาจจิ้งจอกจำแลงเหมือนพี่สาวไม่มีผิด อีกทั้งช่างเจรจาพา

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~4

    เย่เฟิงคล้ายเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง รีบพยักหน้ารับด้วยความมั่นใจ ผู้ช่วยแม่ครัวจึงคลายมือออก ปล่อยให้ชายหนุ่มเริ่มนวดแป้งด้วยตนเอง ในขณะที่มือก็กำลังนวดแป้ง ในหัวก็จินตนาการไปว่า ตนกำลังนวดต้นขานุ่มๆของลี่เจินไปด้วย และอาจเป็นเพราะตั้งใจมากไปนิดเลยเผลอคิดดังไปหน่อย ”ขาของเจ้าช่างนุ่มนวลเหลือเกินเจินเอ๋อร์“ ”…“ ทั้งแม่ครัวและผู้ช่วยคิ้วกระตุกยิกๆ พ่อหนุ่มองครักษ์กำลังสิ่งใดอยู่กันแน่!!! จากแป้งสีขาวนวลเวลานี้กลายเป็นก้อนแป้งสีชมพูเข้ม เพราะชายหนุ่มใส่ผงกุหลาบหนักมือไปนิด แต่ไม่เป็นไรแม่ครัวบอกกับเขาอย่างนั้น คราวหน้าค่อยลดปริมาณลง ถึงตอนนี้ แป้งพร้อม ไส้พร้อม ในที่สุดก็มาถึงขั้นตอนการห่อก่อนกดใส่พิมพ์ขนม ผู้ช่วยแสดงวิธีนวดแป้งทั้งสองสีให้กลายเป็นก้อนเดียว รวมไปถึงวิธีแผ่แป้งและห่อไส้ ก่อนนำไปกดใส่พิมพ์ขนมบัวหิมะ “น่ากินมากเลยขอรับ” เอ่ยชื่นชมจบก็ลงมือทำเองบ้าง เพียงแต่… “ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้เนี่ย! ทำไมข้าห่อแล้วแป้งถึงแตกไส้ทะลัก ไม่เห็นเรียบเนียนเหมือนของท่านป้าเลย” “…” ผู้ช่วยแม่ครัว ข้าควรเวทนาคนหรือสงสารขนมดีเนี่ย “แรกก็เป็นแบบนี้แหละ ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชำนาญขึ้

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~3

    ไม่ใช่เพียงแค่หานจิ้งที่เดินหน้าเกี้ยวพานลี่อิ่งอย่างเปิดเผย แม้แต่องครักษ์เงาขั้นหนึ่งอย่างเย่เฟิง ก็ขอฉีอ๋องย้ายตำแหน่งงานมาเป็นองครักษ์ขั้นหนึ่งของพระชายามู่ซูซินแทน เหตุผลหลักคือเขาทำงานให้พระชายาจนคุ้นเคยไปแล้ว ส่วนเหตุผลรองคือหัวใจของเขาเฝ้าติดตามลี่เจินไปแล้วนั่นเอง เรียกกลับมาเท่าไหร่หัวใจเจ้ากรรมก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เย่เฟิงเลยตั้งปณิธานว่า เขาจะไม่ยอมแพ้องครักษ์รุ่นน้องอย่างหานจิ้งเด็ดขาด ชีวิตนี้เขาต้องได้แต่งลี่เจินเป็นภรรยาผูกผม! หากทำไม่ได้ก่อนอายุสามสิบ เย่เฟิงจะไปออกบวชมันให้มันรู้แล้วรู้รอด! ครัวหลักของตำหนักเว่ยจง แม่ครัวฝ่ายขนมหวานมุมปากกระตุกยิกๆ ขณะยืนมององครักษ์ของพระชายากวนแป้งทำขนมบัวหิมะกุหลาบ “เอ่อ ท่านองครักษ์เจ้าคะ กวนแป้งไม่ต้องออกแรงขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ค่อยๆทำไป ท่านเล่นกวนแรงและเร็วแบบนี้ แป้งมันก็กระเด็นออกจากกระทะหมดสิเจ้าคะ แล้วจะเหลือให้กินไหมเนี่ย! โอย ข้าจะเป็นลม” พูดจบก็ยกยาดมขึ้นมาสูดเข้าปอดดัง ฟื้ด... บรรดาสาวใช้ในโรงครัวยกมือป้องปากหัวเราะคิกคักด้วยความเอ็นดูในตัวเย่เฟิง คาดไม่ถึงว่าองครักษ์หน้าเข้มผู้นี้ จะยอมลงทุนมาเรียน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status