LOGIN“สวัสดีค่ะพี่แจ็ค”
ระหว่างที่ฉันอาบน้ำอยู่คนข้างนอกก็เริ่มก่อกวนด้วยการเปิดรายการเดอะโกสย้อนหลังเสียงดัง เรื่องกวนตีนไม่มีใครเกิน ฉันรีบอาบน้ำด้วยความเร็ว แต่ปกติก็เร็วอยู่แล้วเรียกว่าวิ่งผ่านน้ำน่าจะถูก
พอก้าวออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าคนบนเตียงนอนหลับตาไปแล้ว โล่งอก มันควรหมดฤทธิ์ได้ตั้งนานแล้ว
เรื่องที่มันเปิดฟังคือท็อปของเดอะโกสเลย ฟังแล้วขนลุก ใครไม่กลัวผีแต่ฉันกลัวแล้วที่นี่ก็โรงพยาบาลด้วย ผีเยอะ
“สัว”
ลองเชิงเรียกชื่อก่อน ไม่มีเสียงตอบรับ สงสัยจะหลับจริง ฉันควรไปปิดเสียงนั่นให้เงียบสักที ถ้าถึงจุดไคล์แม็กคิดว่าน่าจะประสาทหลอน นึกภาพตาม คราวนี้ล่ะ ข่มตาไม่ลงอีก
หมับ!
“ทำอะไร” พอยื่นมือไปหยิบมือถือที่อยู่บนตัวมันก็ลืมตาขึ้นมาแล้วคว้าข้อมือฉันไว้แน่นทันที
“นอนได้แล้วมั้ง”
“ยังฟังอยู่ จะนอนก็นอนไปสิ”
“งั้นก็ปล่อย จะได้ไปนอน” ปากไล่แต่มือไม่ปล่อย
“ถ้ากลัวก็มานอนบนเตียงด้วยกันได้นะ”
“ไม่เอา กลัวเผลอกระชากสายน้ำเกลือหลุดเลือดสาด” ฉันพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นและสะบัดแขนตัวเองให้ออกจากการเกาะกุมทันที
“ปากแซ่บจังวะ”
ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังข่มตาไม่ลงอยู่ดี ไม่มีอะไรอุดหูได้เลย จะลงไปซื้อหูฟังใหม่ก็ไม่กล้า ตอนนี้ไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลย
“เกี๊ยว”
“กูรู้นะมึงยังไม่หลับ”
“เกี๊ยว”
ฉันโคตรรำคาญเลย ทั้งเสียงเรียกน่ารำคาญของมันและเสียงรายการเดอะโกสที่มันเปิด
เอาวะ เงียบเท่านั้น ยิ่งเถียงมันก็ยิ่งไม่จบรอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะให้ไอ้ออสตินหรือใครก็ได้มาเฝ้ามัน พอกันที
ฉันเหนื่อย
“อื้อ กรี๊ดดดด”
“กูเอง”
“ไอ้สัว ลงมาทำไม ไอ้บ้าเอ๊ย” ฉันสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างมาโดนหลัง
“นอนด้วย”
“โอ๊ย อะไรของมึงเนี่ย”
“กูกลัวผี” อยากจะกรี๊ดให้ลั่นโรงพยาบาล คราวนี้ไม่ได้กลัวผี แต่เหลืออดกับไอ้เพื่อนมากเรื่องนี่“แล้วมึงฟังรายการผีทำฮวยอะไรวะ”
“กูก็แค่ อยากแกล้งมึง คิดว่ามึงจะกลัว” ฉันถอนหายใจให้กับน้ำเสียงรู้สึกผิดนั่น
“กลับไปที่เตียง”
“ไม่เอา นอนด้วย” มันยังยืนกรานไม่ยอมกลับไปที่เตียง แล้วดูสภาพสิ มาได้ยังไงลากเสาน้ำเกลือมาด้วย เดี๋ยวหมอก็ตีตายหรอก
“สัว”
“สัญญาจะไม่กวนแล้ว เจ็บหน้าอกอย่าดิ้นสิ” ฉันถอนหายใจอีกครั้ง ถ้ายังมัวตีกับมันคืนนี้คงไม่ได้นอนแน่
“แล้วจะกอดทำไม เอามือออก” ข้อสำคัญที่ทำให้ฉันหงุดหงิดคือ มันกอดฉันทำเหมือนฉันเป็นเมียมัน แทบจะไม่เหมือนเพื่อนแล้ว
“มันยกออกยาก”
“โว้ยยย นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้”
“เมื่อกี้กูเห็นใครไม่รู้”
“หุบปาก! หลอนแล้วอย่าพูดมั่ว”
“จริงๆ”
“ถ้ามึงไม่หยุด กูจะไม่อยู่เฉยแล้วนะ” เราทั้งคู่ต่างเป็นความประสาทให้กัน ไอ้สัวกลัวผีขึ้นสมองไม่ต่างจากฉัน คงคิดว่ามีเพื่อนอยู่ก็เลยกล้าเปิดรายการผีฟังแต่ตัวเองเสือกกลัวขึ้นมาเสียเอง
“เออ กูหยุดก็ได้ แต่มึงห้ามไล่กูกลับไปที่เตียงนะ กว่ากูจะเดินมาถึง โคตรเจ็บเลย”
ภายในห้องพักวีไอพีมีเตียงขนาดใหญ่สำหรับคนนอนเฝ้า แยกโซนเป็นสัดส่วนสะดวกสบาย แต่สำหรับฉันมันโคตรอึดอัด ฉันยอมนอนเฉยแล้วปล่อยให้มันกอดอยู่แบบนั้นไม่นานเสียงลมหายใจของคนเจ็บก็สม่ำเสมอ ทิ้งให้ฉันนอนกะพริบตาปริบๆ คิดถึงเรื่องที่มันพูดทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะหลับลึก
“มันเห็นใครเดินมาวะ” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วรีบหลับตาลงทันที
เช้าวันต่อมา
“โทรบอกไอ้ออสตินมาเฝ้านะคืนนี้” คนป่วยนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้ไม่ลำบากใจ
“เกี๊ยว”
“อะไร จะอะไรกับกูอีก”
“เปล่า แค่จะบอกว่าไม่ต้องนั่งแท็กซี่กลับ กูให้คนขับรถมารออยู่ข้างล่างแล้ว” ฉันไม่ตอบ เก็บเสื้อผ้าใส่ถุงกระดาษแล้วรีบหันหลังเดินออกจากห้องทันที
ดีวันนี้มีเรียนสิบโมง
“สัวเป็นไงบ้างลูก” กลับมาถึงบ้านม๊าก็ตะโกนถามอาการของเจ้าสัว เท้าที่กำลังก้าวขึ้นบันไดต้องหยุดชะงัก เพราะต้องแวะมาเอาของฉันก็เลยต้องกลับบ้านก่อน
“ยังไม่ตายหรอกม๊า”
“ปากน่ะ ม๊าซื้อของเยี่ยมไว้ ฝากไปให้สัวด้วยนะ” ของเยี่ยมคนป่วยวางอยู่บนโต๊ะ ทั้งนมและผลไม้
“ของเกี๊ยวล่ะ”
“ป๊าโอนเงินค่ากินให้แล้วไม่ใช่เหรอ ได้พิเศษด้วยนี่” ก็ใช่ แต่ฉันอยากให้ม๊าเตรียมของกินไว้ให้บ้าง
“คืนนี้เกี๊ยวไม่ได้ไปเฝ้า ไอ้ออสตินนู่น”
“แวะเอาไปให้หน่อยไม่ได้หรือไง หรือจะให้ม๊าไปเองทิ้งร้านปล่อยให้ป๊าแกขายของคนเดียว”“ก็ได้ค่ะ”
ที่ร้านคนเยอะทุกวันขนาดจ้างลูกน้องแล้วก็ยังไม่ค่อยจะทันลูกค้า ฉันรีบขึ้นไปเอาของบนห้องแล้วกลับคอนโดทันที พอออกมาจากบ้านรถของที่บ้านสัวก็ยังจอดรออยู่
“เกี๊ยวไปเองได้ค่ะพี่ไม้” พี่ไม้คือคนขับรถของเจ้าสัวถ้าไม่ได้ขับรถให้ก็ขับรถตามรักษาความปลอดภัย
“คุณหนูกำชับไว้ว่าให้ดูแลคุณเกี๊ยวแทนคุณหนูครับ” เหอะ กล้าพูด ดูแลหรือกวนประสาทตานั่นเคยดูแลฉันจริงจังที่ไหนแค่สองนาทีเท่านั้นแหละ
“เกี๊ยวไม่ได้เป็นอะไรค่ะ คุณหนูของพี่ไม้ต่างหากที่สมควรต้องดูแล”
“ผมว่า อย่าขัดใจเลย เรื่องจะใหญ่เอา”
พี่ไม้ไปส่งฉันอาบน้ำที่คอนโดพอฉันแต่งตัวเสร็จก็ไปส่งที่มหา’ ลัยพร้อมรอรับกลับ
ระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถออสตินก็ขับรถมาจอดพร้อมกับเลื่อนกระจกลง
“เกี๊ยว ไปพร้อมกันมั้ย”
“รู้ได้ไงว่าจะไป”
“ของเยี่ยม” ให้ตายสิ ม๊ากลัวฉันเอาของเยี่ยมไปแอบกินคนเดียวหรือไง
“เออๆ แล้วมาส่งด้วยนะ คืนนี้เฝ้ากันเองเลย พี่ไม้กลับเลยก็ได้ค่ะเกี๊ยวไปกับออสติน” ฉันหันไปบอกพี่ไม้ที่ลำบากตั้งแต่เช้าเพราะคำสั่งไอ้คนบ้านั่น
"กูล่ะเบื่อผัวเมียทะเลาะกัน"
"อีออสติน เดี๋ยวตบปาก"คนยิ่งหงุดหงิดอยู่
______________
มาไกลแค่นี้ก็ดีแล้ว ฉันยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้งที่กล้าตัดสินใจทำแบบนั้นออกไป ตัดความสัมพันธ์ตอนนี้ดีกว่ารอให้มันเรื้อรังกัดกินหัวใจให้เจ็บปวดไปมากกว่านี้“หิวมั้ย”“ไม่อ่ะเจ้ ขอบใจนะที่ขับรถไปรับ”“ไม่เป็นไร ถ้าไม่หิวก็ไปอาบน้ำเข้านอนซะ ดึกแล้วพรุ่งนี้ไปเรียนหรือเปล่า”“ไปสิ เอ่อ เจ้ เกี๊ยวอยากไปฝึกงานเมืองนอกอ่ะ เจ้ช่วยแนะนำหน่อยสิ”“ก็ไหนบอกไม่ไปไง เป็นอะไรเกี๊ยว มีเรื่องอะไรเล่าให้เจ้ฟังได้มั้ย” ฉันนิ่งและเงียบไปอีกครั้ง หลังจากบอกเลิกสัวฉันก็รีบเก็บผ้าแล้วโทรให้เจ๊หมวยมารับที่คอนโด เพราะคิดว่าสัวมันต้องบุกมาแน่ๆ แล้วตอนนี้ฉันกำลังหาวิธีไปจากที่นี่โอกาสประจวบเหมาะปีสี่ฉันต้องฝึกงานพอดีถ้าทำเรื่องทันฉันก็จะไปเมืองนอก“เกี๊ยวเลิกกับสัวแล้ว”“ไปคบกันตอนไหนวะ” ไม่อธิบายตั้งแต่แรกเลยทำให้เจ๊ตกใจ“สักพักแล้วล่ะ ช่างมันเหอะ เลิกแล้ว”“เลิกยังไงทำไมต้องหนี เราเลิกแล้วเขายอมเลิกหรือเปล่าทำไมไม่ลองคุยกันก่อน”“เจ้ ถ้าเราไม่ได้รับการปกป้องจากแฟนตัวเองเลยแบบนี้เจ้จะยังยอมคบคนแบบนี้อยู่มั้ย”“พูดยากนะ แต่ถ้าเป็นเจ้ก็คง ขอบาย”“เกี๊ยวรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าเลยอ่ะ ไอ้รักมันก็รักนะ แต่เกี๊ยวไม่อย
นั่งมองมือถือแล้วถอนหายใจอยู่พักใหญ่ ความคิดในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด สถานะของเราตอนนี้คือเป็นแฟนกัน แล้วยังไงต่อ อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงโผล่มาโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าเธอคนนั้นเป็นใคร แต่คนอื่นรู้ แล้วฉันก็รู้จากคนอื่นอีกที ฉันรู้สึกแย่มากๆ กับเรื่องนี้ จะหนีต่อไปก็คงไม่รอดเพราะสัวคงไม่ปล่อยไว้แน่ตี๊ดครืด ครืดพอเปิดเครื่องเสียงแจ้งเตือนก็เด้งเข้ารัวๆ สายที่ไม่ได้รับ ร้อยกว่าสายเป็นตัวเลขสีแดงเห็นเด่นชัดอยู่ที่มุมด้านซ้าย นั่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยเชื่อมั้ย อาการฉันค่อนข้างหนักพอสมควรเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งทำให้รู้ใจตัวเอง ฉันก็รักสัวมากเหมือนกันครืด ครืดมือถือในมือสั่นเตือนว่ามีสายโทรเข้า รูปภาพแจ้งเตือนหน้าจอของปลายสายทำให้ฉันลังเลอีกครั้ง“อือ” สิ่งที่ฉันทำระหว่างยกโทรศัพท์แนบหูคือจิกเล็บลงบนเนื้อต้นขาของตัวเอง ให้รู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเตือนสติตัวเองว่านี่คือเรื่องจริง“ขึ้นไปหาได้มั้ย ตอนนี้อยู่ข้างล่าง” ฉันรีบลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตูกระจกหลังห้องชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่างทันที รถเจ้าสัวจอดอยู่ข้างล่าง ข้างๆ นั้นมีเจ้าของรถยืนมองขึ้นมาด้านบนนั่นทำให้ฉันรีบเดินเข้าห้องแล้วปิดประ
“กลัวเขาไม่รู้หรือไงว่าเราเป็นแฟนกัน” ฉันเบะปากแล้วก้มมองชุดที่ตัวเองใส่เพราะมันบังเอิญโทนสีเดียวกับเสื้อเจ้าสัว“ก็มันมีแค่สีนั้น”“เกี๊ยว ดีกันได้แล้ว กูมีแค่มึงจริงๆ”“แล้วนี่ยังไม่ดีหรือไง ให้ตามมาด้วยเนี่ยเรียกว่าดีได้หรือยัง”“หงุดหงิดไรวะ เมนส์มาหรือไง พูดดีๆ ก็ได้ วันนี้อยากได้อะไรเต็มที่พี่เลี้ยงเองน้อง”“แน่ใจ”“นี่ใคร”ฉันเริ่มยิ้มออก ไม่ใช่เพราะผู้ชายเอาเงินมาล่อหลอกหรอกนะ ที่ยิ้มก็เพราะความหน้ามึนของมันต่างหาก ถ้าไม่ได้คบกับสัวฉันก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าแฟนในอนาคตหน้าตาจะเป็นยังไง เพราะแต่ละคนที่เข้ามาถูกเจ้าสัวกันท่าออกไปหมด ชีวิต น่าสงสารสิ้นดีร้านแรกที่ถูกดึงเข้าไปคือร้านชั้นใน ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนดึง“เลือก”“กูไม่อยากได้ ของกูยังมีอยู่”“กูอยากได้แบบนั้น” มันชี้นิ้วไปที่ชั้นลูกไม้สีแดงเพลิง “ไอ้บ้า!”“ทำไม”“มึงเริ่มรู้สึกอยากใส่ชั้นในผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ มีอะไรปรึกษากูได้นะสัว กูไม่โกรธถ้ามึงจะเปลี่ยนใจไปชอบเพศเดียวกัน LGBTQ มีเยอะไปน่ารักดี ไม่ต้องกลัวกูเสียใจนะ กูโอเค”“เป็นตุเป็นตะ ไม่ได้อยากใส่เอง กูจะให้มึงซื้อไปใส่” ฉันรีบส่ายหน้ารัวๆ ใส่แบบนั้นนอนกับมันทุกคืนก
“หยุดพูดมากแล้วถอยออกไปสักที”“โอเค ก็ได้ กูยอมทุกอย่างแล้ว” เจ้าสัวยกมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วถอยหลังก้มไปหยิบผ้าขนหนูยื่นให้ฉัน“กูจะไม่คุยกับมึงสองเดือน” ฉันยื่นมือไปดึงผ้าขนหนูจากมือของเจ้าสัวแล้วรีบเอาพันรอบตัวเดินออกจากห้องน้ำทันที“จะไปไหน กูขอโทษ” เจ้าสัวยังเดินตามไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ“ง่ายไปมั้ย ถ้าจะหวังฟันหาคนอื่นแก้ขัดก็ได้”“เกี๊ยวกูจริงจัง”“จริงจังกับหวังฟันมึงไปคิดมาว่าข้อไหนสำคัญกับมึง”“กูหวังทั้งสองอย่างนั่นแหละ ทั้งอยากฟันแล้วก็จริงจังกับมึงมากด้วย จะโกรธก็โกรธ หายโกรธแล้วค่อยคุยกับกูก็ได้เพราะยังไงกูก็ยืนยันว่าอยากฟันมึง”“ไอ้สัว”“เรียกทำไม อยากรู้อะไรอีก”“เด็กเปรต”“เออ ด่าอีกกูชอบ ด่าเลย” ลมหายใจฟึดฟัดของฉันไม่ทำให้มันกลัวได้เลยหรือไง หน้าด้านหน้ามึนเกินเบอร์มาก ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำก็เลยหันหลังเดินเข้าห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้ปิดประตูเสียงดังปัง!เพื่อบ่งบอกว่าไม่พอใจที่สุดฉันใช้เวลาอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง ที่จริงเสร็จนานแล้วแหละแต่ยังไม่อยากออกมาพอออกมาแล้วชะโงกหน้าไปมองก็ยังเห็นว่าไอ้ตัวดียังไม่นอน แสงไฟจากมือถือยังส่องหน้าอยู่“อาบน้ำนานจังวะ”“เรื่องของกู
หลายสัปดาห์ต่อมา“เฮือก!”“สัว สัว เป็นอะไร สัวตื่น ตื่น”“เกี๊ยว กูฝันร้ายอีกแล้ว” ฉันเชื่อแล้วฉันก็ตกใจมากที่เห็นมันเป็นแบบนี้“มึงจะนอนคนเดียวไม่ได้เลยหรือไง”“มึงคิดว่าไง ทุกครั้งที่กูนอนคนเดียวมันก็เป็นแบบนี้ตลอดเลย” ใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อน้ำเสียงตื่นกลัวก็พอบอกได้แล้วว่าเป็นไปตามอย่างที่มันพูด“ทีแรกกูจะไม่กลับมา”“ถ้ามึงไม่กลับมากูก็คงไม่ได้นอนทั้งคืน สะดุ้งตื่นอยู่แบบนี้”“เรื่องมันก็นานมากแล้ว มึงยังไม่ลืมอีกเหรอ”“มันอยู่ในใจกู ฝังไปแล้วมั้งแต่พออยู่กับมึงกลับไม่เป็นอะไรเลย” เพราะแบบนี้หรือเปล่ามันถึงขาดฉันไม่ได้ตามติดยิ่งกว่าเงา“ถ้าวันนึง เราต้องเลิกกัน มึงจะอยู่ยังไง”“แล้วทำไมต้องเลิกวะ” มันทำเสียงหงุดหงิดใส่“ก็ไม่รู้ ถามเอาไว้ก่อนไง เผื่อมึงเข้าใจปะ อย่าหลับหูหลับตาดิสัว”“ก็คง แดกยาให้มันตายๆ ไป” ฉันเข้าใจสิ่งที่สัวเป็นอยู่ในตอนนี้ เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเด็กสิบขวบมันยากที่จะลืมเลือน“บ้าหรือไง ป๊าม๊าเสียใจแย่เลย”“ป๊ากับม๊าคงดีใจมากกว่าที่ไม่เห็นกูทรมานอีก”เหตุการณ์คืนนั้นเจ้าสัวจำมันได้ดี คืนวันเกิดเหตุในห้องนอนชั้นบน เป็นวันพายุเข้า ฝนตก ลมแรง
กิจกรรมไม่ได้ติดขัดดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นภารกิจที่พวกเราตั้งใจเอาไว้ พี่เคสเป็นรุ่นพี่ที่มืออาชีพมาก บรีฟน้องๆ เก่งและทำให้เรื่องร้ายที่พวกเราพบเจอบรรเทาลงจนเราโฟกัสแค่เรื่องงาน“พี่เกี๊ยว คิดว่าพี่แคทจะเอาคืนเรามั้ยคะ”“เรื่องที่พี่แคททำ มันเรื่องใหญ่มากนะ”แล้วตอนนี้พวกเราก็อยู่ในห้องประชุมของมหาวิทยาลัย เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น ผู้ปกครองของน้องน้ำและน้องๆ ที่ในคืนนั้นร่วมชะตากรรมด้วยกันในป่าไม่ยอมความและจบเรื่องง่ายๆ ส่วนฉันป๊าของเจ้าสัวส่งเลขาส่วนตัวและทนายความมาจัดการเรื่องนี้ให้ สุดวีไอพีจนอธิการบดีต้องเข้าร่วมตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองฉันอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ในอนาคต ตัดเรื่องส่วนตัวออกไปแล้วกัน ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ก็ไม่ควรเอาเรื่องความปลอดภัยมาล้อเล่นกันแบบนี้ กฎมีไว้ให้รักษา ถ้าเกิดคืนนั้นฉันกับน้องๆ เป็นอะไรไปขึ้นมาอีพี่แคทจะรับผิดชอบยังไงไหว“น้ำได้ข่าวมาว่า ผู้ปกครองของพี่แคทไม่มีใครมาเลยค่ะ”“ติดธุระหรือเปล่า” ที่ต้องถามเพราะป๊าเจ้าสัวก็ติดธุระเหมือนกันแต่ส่งทีมงานมืออาชีพมาแทน“คง







