LOGIN“ไอ้ออสตินส่งข้อความมาบอกว่า กำลังขึ้นลิฟต์”
“เฮ้ย เก็บๆ ไม่เล่นแล้ว” ผมสั่งเก็บเกมเพลย์และเอนตัวลงนอนบนเตียง ถ้าไอ้เกี๊ยวเห็นผมสภาพนี้มันคงรีบวางของเยี่ยมแล้วกลับเลย
“อะไรของมึงวะสัว เมื่อกี้ยังบอกจะต่ออยู่เลย”
“แม่มึงมาเดี๋ยวก็โดนด่าห่าใหญ่” ไอ้เจพูดถูก แค่เรื่องรถคว่ำไฟลุกท่วมเนี่ยก็หูดับหูไหม้กันยังไม่พอหรือไง
“แล้วคืนนี้ ตกลงใครเฝ้า กูไม่ว่างนะ” ไอ้เพทายรีบถอนตัวส่วนไอ้เจผมไม่คาดหวัง ส่วนไอ้ออสตินนั่นยิ่งไม่เคยหวัง
ผมทำให้เกี๊ยวโกรธไม่ได้โกรธธรรมดา โกรธมากจนผมไม่กล้ากวนตีนมันเพิ่มอีกแล้ว
แต่ว่า คืนนี้ผมต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อน
แกร๊ก
เสียงประตูเปิดทำให้ทุกคนหันไปมอง ผู้หญิงตัวเล็กในชุดนักศึกษาทำหน้ามุ่ยแล้วเดินผ่านเตียงคนไข้ที่ผมนอนไปนั่งที่โซฟาด้านข้าง
“ม๊าให้เอาอะไรมาให้”
เงียบ
“กูหิวข้าวว่ะ ไปกินข้าวกัน” ออสตินพูดขึ้นเสียงดังแล้วหันไปหาไอ้เพทายกับไอ้เจที่กำลังนั่งเขี่ยมือถืออยู่
“จะกลับแล้วเหมือนกัน ไปส่งด้วยนะ” ผมหันมองหน้าไอ้สามคนทันที ส่งสายตาให้พวกมันทำอะไรสักอย่าง
“เกี๊ยวอยู่เป็นเพื่อนไอ้สัวก่อนดิ เดี๋ยวมา” ไอ้เจเป็นคนพูดประโยคเมื่อกี้ออกมาพร้อมกับลุกยืนสอดมือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางปกติไม่เลิ่กลั่กให้สงสัย
“จะไปกินที่ไหนกัน”
“แถวนี้แหละ ไม่ไกลหรอก” ไอ้เพทายช่วยไอ้เจอีกแรง ส่วนไอ้ออสตินยืนพยักหน้าเห็นด้วยกับทุกคน
“รีบมา”
ทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้าแล้วเคลื่อนตัวออกจากห้องทันที ตอนนี้ในห้องก็เหลือแค่ผมกับเกี๊ยว
บรรยากาศในห้องมีกลุ่มเมฆฝนลอยเต็มไปหมด มันอึมครึมแล้วก็หดหู่ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก
“เกี๊ยว มึงโกรธกูจริงจังไปเปล่าวะ”
“กูเคยโกรธเล่นๆ หรือไง มึงเคยเห็นกูโกรธพร่ำเพรื่อมั้ยล่ะ” ครั้งนี้ผมทำให้เกี๊ยวโกรธจริงๆ นั่นแหละ แต่ผมไม่ลงแข่งไม่ได้เพราะไอ้คนที่มาท้าผมคือเพื่อนของไอ้บอม วิศวะปี4 ที่มันตามจีบเกี๊ยวแล้วก็หวังจะเคลมเพื่อนผมในคืนนั้นไง
“มึงสัญญาได้มั้ยว่าจะเลิกคุยกับไอ้บอม”
“เกี่ยวอะไรกับพี่บอม แล้วกูก็ไม่ได้ยุ่งกับพี่บอมแล้วด้วย” ผมพยักหน้า ในใจก็นึกโล่งที่บอกไว้ก็ยังยอมฟังและเชื่อกันอยู่บ้าง
“ก็ดีแล้ว”
“เรื่องนี้เกี่ยวกับพี่บอมเหรอ”
“อืม” ผมไม่ชอบให้ใครมาท้าทายแล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาพูดถึงเกี๊ยวในทางที่ไม่ดีด้วย ผมรู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดีกว่าใคร มันใช่เหรอวะพูดถึงผู้หญิงในทางที่ไม่ดีเพียงเพราะ ไม่ได้เอา ทุเรศโคตรเลย
“ยังไง ใครหาเรื่องก่อน”
“ถ้ากูบอกว่ามันล่ะ มึงจะเชื่อกูมั้ย” ผมไม่ได้เอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างให้มันหายโกรธ แค่ไม่อยากให้มันถูกหลอกจากผู้ชายกลุ่มนั้นอีก ไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนั้นเป็นพ่อพันธุ์ไม่ได้หรอก
“ห้าสิบห้าสิบ”
“กูไม่อยากให้มึงถูกหลอก แต่ละตัวเหี้ยทั้งนั้น”
“มากกว่ามึงปะ”
“กูไม่เคยเอาใครมานินทาลับหลังก็แล้วกัน”
“อะไรนะ มันเอากูไปนินทาเหรอ”
“ช่างแม่ง ไม่ต้องไปยุ่งกับมันต่อก็พอ”
“ไอ้สัว” ผมไม่น่าพูดออกไปเลย “พูดออกมา”
ผมอึกอักไม่รู้จะเอายังไงดี ตัวเองก็ยังไม่หายดีถ้าเกี๊ยวมันบ้าขึ้นมาใครจะเอามันอยู่
“กูเจ็บหน้าอก ตามหมอให้ก่อนได้มั้ย”
“เจ็บมากหรือเปล่า” มันได้ผล เกี๊ยวลืมเรื่องไอ้บอมแล้วรีบเดินมาหาผม
“อือ อยู่ๆ ก็เจ็บ” คนตัวเล็กรีบกดปุ่มเรียกพยาบาลให้ผมทันที
“เป็นอะไรมากปะเนี่ย ทนไหวมั้ย” เปลี่ยนอารมณ์ไปเลย ต้องให้ผมเจ็บบ่อยๆ หรือไงถึงจะสนใจกัน
“อือ”
ผมไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้นแต่เพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นก็เลยยกเรื่องเจ็บหน้าอกขึ้นมาอ้าง รอไม่นานพยาบาลก็เข้ามาดูอาการพร้อมกับเรียกคุณหมอเข้ามาตรวจเช็กอย่างละเอียดอีกรอบ
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
พอคุณหมอและพยาบาลออกไปเกี๊ยวก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงพร้อมส่งสายตากดดันมาให้ผมอีกครั้ง
“กูเจ็บอยู่ จะบังคับให้พูดให้ได้เลยใช่มั้ย”
“พวกนั้นไปไหน กูจะกลับห้องแล้ว”
“คิดว่าจะคาดคั้นเรื่องนั้น” เกี๊ยวเป็นผู้หญิงดุ นิยามของคำว่าดุสำหรับผมคือไอ้เกี๊ยว สำหรับคนอื่นเป็นยังไงผมไม่รู้
“ถ้าเป็นเรื่องดีมึงก็คงไม่ต้องเจ็บตัวหรอก ใช่มั้ย”
“อือ มึงจะกลับก่อนก็ได้นะ กูอยู่คนเดียวได้”
“สภาพแบบนี้ยังกล้าอีกนะ” เกี๊ยวเดินไปที่เตียงแล้วสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม “พวกนั้นมาแล้วปลุกด้วยนะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ” คงหมายถึงเมื่อคืนที่ถูกผมแกล้ง ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากตอบมันก็ชิงหลับไปแล้ว
“เกี๊ยว” มันขยับแล้วพลิกหันหลังให้ผม “มึงยังไม่ได้อาบน้ำ”
“อือ กูจะนอน” ผมคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้สนใจสิ่งที่ผมพูดออกไปเลย
ตกดึก
“เกี๊ยว”
“อื้อ พวกนั้นกลับมาแล้วเหรอ”
“เปล่า กูขอนอนด้วย” เกี๊ยวรีบลืมตาแล้วลุกขึ้นมองผมด้วยความตกใจ
“มึงเดินมาได้ไง เดี๋ยวก็เจ็บหน้าอกอีกหรอก” ขอร้องอย่าด่ากูครับ
“กูนอนไม่หลับ ถ้าไม่ได้นอนข้างมึง” ผมเสพติดการนอนกับไอ้เกี๊ยวไปแล้ว
“อะไรของมึงเนี่ย กี่ทุ่มแล้ว” มันปัดผมที่หน้าออกแล้วเอื้อมหยิบมือถือมาดูเวลา
“ตีหนึ่ง”
“คงไม่กลับมาแล้ว”
“พึ่งพาไม่ได้สักคน”
“มึงจะกลับห้องมั้ย กูจะโทรบอกคนขับรถให้”
“ป่านนี้แล้ว ไม่อยากรบกวนพี่ไม้”
“อือ งั้นก็นอน” ผมทำเป็นเรื่องปกติและคุ้นชินไปแล้ว นอนด้วยกันมาก็หลายครั้งและไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมสะดุ้งตื่นกลางดึก แต่ถ้าต้องนอนคนเดียวเป็นต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกทุกคืน คงเพราะเรื่องร้ายในวัยเด็กทำให้ผมฝังใจมาจนถึงปัจจุบัน
หลายวันต่อมา
“ไอ้สัว! เกี๊ยวแม่งมีเรื่อง” ผมทิ้งช้อนลงในจานข้าวตรงหน้าทันที ทั้งไอ้เจและไอ้ออสตินก็เหมือนกันเป็นเพราะไอ้เพทายวิ่งมาบอกผมหน้าตาตื่นว่าเกี๊ยวมีเรื่อง
“ที่ไหนวะ”
“หน้าคณะวิศวะ”
"ไอ้เหี้ยบอม"
________________
มาไกลแค่นี้ก็ดีแล้ว ฉันยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้งที่กล้าตัดสินใจทำแบบนั้นออกไป ตัดความสัมพันธ์ตอนนี้ดีกว่ารอให้มันเรื้อรังกัดกินหัวใจให้เจ็บปวดไปมากกว่านี้“หิวมั้ย”“ไม่อ่ะเจ้ ขอบใจนะที่ขับรถไปรับ”“ไม่เป็นไร ถ้าไม่หิวก็ไปอาบน้ำเข้านอนซะ ดึกแล้วพรุ่งนี้ไปเรียนหรือเปล่า”“ไปสิ เอ่อ เจ้ เกี๊ยวอยากไปฝึกงานเมืองนอกอ่ะ เจ้ช่วยแนะนำหน่อยสิ”“ก็ไหนบอกไม่ไปไง เป็นอะไรเกี๊ยว มีเรื่องอะไรเล่าให้เจ้ฟังได้มั้ย” ฉันนิ่งและเงียบไปอีกครั้ง หลังจากบอกเลิกสัวฉันก็รีบเก็บผ้าแล้วโทรให้เจ๊หมวยมารับที่คอนโด เพราะคิดว่าสัวมันต้องบุกมาแน่ๆ แล้วตอนนี้ฉันกำลังหาวิธีไปจากที่นี่โอกาสประจวบเหมาะปีสี่ฉันต้องฝึกงานพอดีถ้าทำเรื่องทันฉันก็จะไปเมืองนอก“เกี๊ยวเลิกกับสัวแล้ว”“ไปคบกันตอนไหนวะ” ไม่อธิบายตั้งแต่แรกเลยทำให้เจ๊ตกใจ“สักพักแล้วล่ะ ช่างมันเหอะ เลิกแล้ว”“เลิกยังไงทำไมต้องหนี เราเลิกแล้วเขายอมเลิกหรือเปล่าทำไมไม่ลองคุยกันก่อน”“เจ้ ถ้าเราไม่ได้รับการปกป้องจากแฟนตัวเองเลยแบบนี้เจ้จะยังยอมคบคนแบบนี้อยู่มั้ย”“พูดยากนะ แต่ถ้าเป็นเจ้ก็คง ขอบาย”“เกี๊ยวรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าเลยอ่ะ ไอ้รักมันก็รักนะ แต่เกี๊ยวไม่อย
นั่งมองมือถือแล้วถอนหายใจอยู่พักใหญ่ ความคิดในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด สถานะของเราตอนนี้คือเป็นแฟนกัน แล้วยังไงต่อ อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงโผล่มาโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าเธอคนนั้นเป็นใคร แต่คนอื่นรู้ แล้วฉันก็รู้จากคนอื่นอีกที ฉันรู้สึกแย่มากๆ กับเรื่องนี้ จะหนีต่อไปก็คงไม่รอดเพราะสัวคงไม่ปล่อยไว้แน่ตี๊ดครืด ครืดพอเปิดเครื่องเสียงแจ้งเตือนก็เด้งเข้ารัวๆ สายที่ไม่ได้รับ ร้อยกว่าสายเป็นตัวเลขสีแดงเห็นเด่นชัดอยู่ที่มุมด้านซ้าย นั่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยเชื่อมั้ย อาการฉันค่อนข้างหนักพอสมควรเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งทำให้รู้ใจตัวเอง ฉันก็รักสัวมากเหมือนกันครืด ครืดมือถือในมือสั่นเตือนว่ามีสายโทรเข้า รูปภาพแจ้งเตือนหน้าจอของปลายสายทำให้ฉันลังเลอีกครั้ง“อือ” สิ่งที่ฉันทำระหว่างยกโทรศัพท์แนบหูคือจิกเล็บลงบนเนื้อต้นขาของตัวเอง ให้รู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเตือนสติตัวเองว่านี่คือเรื่องจริง“ขึ้นไปหาได้มั้ย ตอนนี้อยู่ข้างล่าง” ฉันรีบลุกจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตูกระจกหลังห้องชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่างทันที รถเจ้าสัวจอดอยู่ข้างล่าง ข้างๆ นั้นมีเจ้าของรถยืนมองขึ้นมาด้านบนนั่นทำให้ฉันรีบเดินเข้าห้องแล้วปิดประ
“กลัวเขาไม่รู้หรือไงว่าเราเป็นแฟนกัน” ฉันเบะปากแล้วก้มมองชุดที่ตัวเองใส่เพราะมันบังเอิญโทนสีเดียวกับเสื้อเจ้าสัว“ก็มันมีแค่สีนั้น”“เกี๊ยว ดีกันได้แล้ว กูมีแค่มึงจริงๆ”“แล้วนี่ยังไม่ดีหรือไง ให้ตามมาด้วยเนี่ยเรียกว่าดีได้หรือยัง”“หงุดหงิดไรวะ เมนส์มาหรือไง พูดดีๆ ก็ได้ วันนี้อยากได้อะไรเต็มที่พี่เลี้ยงเองน้อง”“แน่ใจ”“นี่ใคร”ฉันเริ่มยิ้มออก ไม่ใช่เพราะผู้ชายเอาเงินมาล่อหลอกหรอกนะ ที่ยิ้มก็เพราะความหน้ามึนของมันต่างหาก ถ้าไม่ได้คบกับสัวฉันก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าแฟนในอนาคตหน้าตาจะเป็นยังไง เพราะแต่ละคนที่เข้ามาถูกเจ้าสัวกันท่าออกไปหมด ชีวิต น่าสงสารสิ้นดีร้านแรกที่ถูกดึงเข้าไปคือร้านชั้นใน ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนดึง“เลือก”“กูไม่อยากได้ ของกูยังมีอยู่”“กูอยากได้แบบนั้น” มันชี้นิ้วไปที่ชั้นลูกไม้สีแดงเพลิง “ไอ้บ้า!”“ทำไม”“มึงเริ่มรู้สึกอยากใส่ชั้นในผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ มีอะไรปรึกษากูได้นะสัว กูไม่โกรธถ้ามึงจะเปลี่ยนใจไปชอบเพศเดียวกัน LGBTQ มีเยอะไปน่ารักดี ไม่ต้องกลัวกูเสียใจนะ กูโอเค”“เป็นตุเป็นตะ ไม่ได้อยากใส่เอง กูจะให้มึงซื้อไปใส่” ฉันรีบส่ายหน้ารัวๆ ใส่แบบนั้นนอนกับมันทุกคืนก
“หยุดพูดมากแล้วถอยออกไปสักที”“โอเค ก็ได้ กูยอมทุกอย่างแล้ว” เจ้าสัวยกมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วถอยหลังก้มไปหยิบผ้าขนหนูยื่นให้ฉัน“กูจะไม่คุยกับมึงสองเดือน” ฉันยื่นมือไปดึงผ้าขนหนูจากมือของเจ้าสัวแล้วรีบเอาพันรอบตัวเดินออกจากห้องน้ำทันที“จะไปไหน กูขอโทษ” เจ้าสัวยังเดินตามไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ“ง่ายไปมั้ย ถ้าจะหวังฟันหาคนอื่นแก้ขัดก็ได้”“เกี๊ยวกูจริงจัง”“จริงจังกับหวังฟันมึงไปคิดมาว่าข้อไหนสำคัญกับมึง”“กูหวังทั้งสองอย่างนั่นแหละ ทั้งอยากฟันแล้วก็จริงจังกับมึงมากด้วย จะโกรธก็โกรธ หายโกรธแล้วค่อยคุยกับกูก็ได้เพราะยังไงกูก็ยืนยันว่าอยากฟันมึง”“ไอ้สัว”“เรียกทำไม อยากรู้อะไรอีก”“เด็กเปรต”“เออ ด่าอีกกูชอบ ด่าเลย” ลมหายใจฟึดฟัดของฉันไม่ทำให้มันกลัวได้เลยหรือไง หน้าด้านหน้ามึนเกินเบอร์มาก ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำก็เลยหันหลังเดินเข้าห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้ปิดประตูเสียงดังปัง!เพื่อบ่งบอกว่าไม่พอใจที่สุดฉันใช้เวลาอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง ที่จริงเสร็จนานแล้วแหละแต่ยังไม่อยากออกมาพอออกมาแล้วชะโงกหน้าไปมองก็ยังเห็นว่าไอ้ตัวดียังไม่นอน แสงไฟจากมือถือยังส่องหน้าอยู่“อาบน้ำนานจังวะ”“เรื่องของกู
หลายสัปดาห์ต่อมา“เฮือก!”“สัว สัว เป็นอะไร สัวตื่น ตื่น”“เกี๊ยว กูฝันร้ายอีกแล้ว” ฉันเชื่อแล้วฉันก็ตกใจมากที่เห็นมันเป็นแบบนี้“มึงจะนอนคนเดียวไม่ได้เลยหรือไง”“มึงคิดว่าไง ทุกครั้งที่กูนอนคนเดียวมันก็เป็นแบบนี้ตลอดเลย” ใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อน้ำเสียงตื่นกลัวก็พอบอกได้แล้วว่าเป็นไปตามอย่างที่มันพูด“ทีแรกกูจะไม่กลับมา”“ถ้ามึงไม่กลับมากูก็คงไม่ได้นอนทั้งคืน สะดุ้งตื่นอยู่แบบนี้”“เรื่องมันก็นานมากแล้ว มึงยังไม่ลืมอีกเหรอ”“มันอยู่ในใจกู ฝังไปแล้วมั้งแต่พออยู่กับมึงกลับไม่เป็นอะไรเลย” เพราะแบบนี้หรือเปล่ามันถึงขาดฉันไม่ได้ตามติดยิ่งกว่าเงา“ถ้าวันนึง เราต้องเลิกกัน มึงจะอยู่ยังไง”“แล้วทำไมต้องเลิกวะ” มันทำเสียงหงุดหงิดใส่“ก็ไม่รู้ ถามเอาไว้ก่อนไง เผื่อมึงเข้าใจปะ อย่าหลับหูหลับตาดิสัว”“ก็คง แดกยาให้มันตายๆ ไป” ฉันเข้าใจสิ่งที่สัวเป็นอยู่ในตอนนี้ เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเด็กสิบขวบมันยากที่จะลืมเลือน“บ้าหรือไง ป๊าม๊าเสียใจแย่เลย”“ป๊ากับม๊าคงดีใจมากกว่าที่ไม่เห็นกูทรมานอีก”เหตุการณ์คืนนั้นเจ้าสัวจำมันได้ดี คืนวันเกิดเหตุในห้องนอนชั้นบน เป็นวันพายุเข้า ฝนตก ลมแรง
กิจกรรมไม่ได้ติดขัดดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นภารกิจที่พวกเราตั้งใจเอาไว้ พี่เคสเป็นรุ่นพี่ที่มืออาชีพมาก บรีฟน้องๆ เก่งและทำให้เรื่องร้ายที่พวกเราพบเจอบรรเทาลงจนเราโฟกัสแค่เรื่องงาน“พี่เกี๊ยว คิดว่าพี่แคทจะเอาคืนเรามั้ยคะ”“เรื่องที่พี่แคททำ มันเรื่องใหญ่มากนะ”แล้วตอนนี้พวกเราก็อยู่ในห้องประชุมของมหาวิทยาลัย เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น ผู้ปกครองของน้องน้ำและน้องๆ ที่ในคืนนั้นร่วมชะตากรรมด้วยกันในป่าไม่ยอมความและจบเรื่องง่ายๆ ส่วนฉันป๊าของเจ้าสัวส่งเลขาส่วนตัวและทนายความมาจัดการเรื่องนี้ให้ สุดวีไอพีจนอธิการบดีต้องเข้าร่วมตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองฉันอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ในอนาคต ตัดเรื่องส่วนตัวออกไปแล้วกัน ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ก็ไม่ควรเอาเรื่องความปลอดภัยมาล้อเล่นกันแบบนี้ กฎมีไว้ให้รักษา ถ้าเกิดคืนนั้นฉันกับน้องๆ เป็นอะไรไปขึ้นมาอีพี่แคทจะรับผิดชอบยังไงไหว“น้ำได้ข่าวมาว่า ผู้ปกครองของพี่แคทไม่มีใครมาเลยค่ะ”“ติดธุระหรือเปล่า” ที่ต้องถามเพราะป๊าเจ้าสัวก็ติดธุระเหมือนกันแต่ส่งทีมงานมืออาชีพมาแทน“คง
![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






