“ไม่ได้พี่” เพลงจับมือครามออกจากแขนเรียวของเพื่อนสาวในทันที
เห็นดังนั้นคินท์ก็กลับมานั่งพิงโต๊ะตามเดิมเพิ่มเติมคือเขากอดอกจ้องมองหน้าตึง
การกระทำของคินท์ปรากฏต่อสายตาของไทม์ที่ยืนมองทุกคนผ่านกระใสจากด้านนอกมาสักพักแล้ว
“ใครอีกไหมเรียงตัวมาเลย” เมื่อฤทธิ์ขมบาดคอร้อนผ่าวเข้าสู่ร่างกาย เลือดนักสู้ที่มีอยู่ในตัวก็พุ่งขึ้นเป็นหลายเท่า
สิ้นเสียงท้า เพลงก็จัดแจงแข่งกับเพื่อนตัวเล็กต่อ
ต่อมาก็เป็นไทม์ที่เดินเข้ามา และเป็นฟินท์ที่ขอแข่งอีกเพราะอยากมอมเหล้าเพื่อนสาวที่ชอบอวดเก่ง
อยากให้เธอได้ดื่มเยอะ ๆ จนอ้วกจะได้เข็ดหลาบ
เวลาผ่านไป…
“เหี้ย กูแพ้ทุกคนเลย” เสียงหวานแหลมหูที่ท้าทายแข่งในตอนต้น ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงยานเอ่ยปากบ่นไม่หยุด
“กูเตือนมึงแล้ว” ฟินท์เอ่ยพูด แต่เขาเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายขอแข่งกับคนตัวเล็กหลายรอบมากกว่าใคร ๆ
“ใครจะแบกมันล่ะทีนี้” เพลงพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองเพื่อนสาวด้านข้างที่กำลังหัวพับคออ่อนส่ายไปมา
“กูยังไหว” แก้มใสได้ยินทุกคำที่เพื่อนทั้งสองพูดถึง แต่แค่ทรงตัวไม่อยู่เท่านั้นเอง
ร่างบางยืนขึ้น พยายามจะขึ้นไปด้านบนด้วยตัวเอง แต่แล้ว...
“อ๊ะ” บ้านก็หมุนแรงจนทรงตัวไม่อยู่
หมับ
แขนแกร่งของครามประคองร่างบางได้ทันพร้อม ๆ กับคินท์
สองพี่น้องต่างจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ปล่อยมันให้ไอ้คินท์เถอะพี่” ไทม์เอ่ยพูดขึ้น
ครามจึงปล่อยแขนแกร่งออกจากร่างบางและถอยห่างออกมา
จากนั้นคินท์ก็จัดการอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวหันก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้นสองในทันที
“เวียนหัว เบา ๆ หน่อยดิว่ะคินท์” เสียงเล็กเอ่ยพูดขึ้นเมื่อจังหวะก้าวเดินขึ้นบันไดของคินท์มันทำให้เธอเวียนหัวยิ่งกว่าเดิม
“ยังดีที่มีสติรู้ว่าเป็นกู” สายตาคมก้มมองคนตัวเล็กเพียงแวบเดียว ก่อนจะมองตรงขึ้นไปยังชั้นสอง ทำเหมือนจะไม่สนใจในคำพูดของเธอ แต่ก็ยอมค่อย ๆ ก้าวทีขึ้นละขั้นอย่างเบาเท้า
“ก็เป็นมึงทุกครั้ง” แขนเรียวยกคล้องคอแกร่ง ใบหน้าหวานซบลงอก ที่รู้ว่าเป็นคินท์เพราะกลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา
เธอจำกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของคินท์ได้ดี มันหอมเป็นพิเศษเมื่ออยู่บนตัวเขา
“แขนมึงแข็งทำกูเจ็บ” แก้มใสเอ่ยพูดไม่หยุดและกระชับแขนเรียวที่คล้องคอแกร่งแน่นยิ่งขึ้น จนใบหน้าหวานเริ่มเข้าใกล้ซอกคอของเขาเรื่อย ๆ
“ทำไมต้องเป็นคนมาส่งกูทุกครั้งด้วย” เสียงหวานพูดอยู่ที่ข้างหูเขาไม่หยุด
“เมาแล้วก็ชอบถามมาก” ลมอุ่น ๆ จากปากเพื่อนสาวทำเอาคินท์ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“เพราะมึงชอบกูไง ถึงมาส่งกูทุกครั้ง” เธอไม่ได้ยินคำพูดของคินท์เลยสักนิด เอาแต่ถามเองและตอบเองในภวังค์ของเธอ
“ฉลาดอยู่เหมือนกันนี่” ริมฝีปากหนายกยิ้ม พร้อมกับวางร่างบางลงบนเตียง
“แล้วไงกูต้องชอบมึงตอบไหม” เพราะแขนเรียวยังคล้องที่คอแกร่งอยู่ทำให้เขาต้องโน้มตัวลงไปตาม
“ไม่จำเป็น แต่มึงอย่าไปรู้สึกกับคนใกล้ตัวกู” ใบหน้าทั้งสองอยู่ใกล้กันเพียงคืบ
“หึง หวง กูเหรอ…” ตาหวานเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อจ้องดวงตาคมคู่หน้าให้ชัด ๆ
“…สบายใจได้ กูไม่คบคนใกล้ตัวกูเหมือนกัน” จากเสียงยาน ๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่เมื่อเป็นประโยคนี้ เธอกลับพูดได้ชัดเจนขึ้นเหมือนคนปกติ สายตาก็จริงจังอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งสองจ้องตากัน เขาเข้าใจในสิ่งที่เธอสื่อเป็นอย่างดี
ว่าคนใกล้ตัวที่เธอหมายถึง นั่นก็คือ เขาเอง
“นอนลงไป” คินท์พยายามแกะมือเล็กออกจากคอแกร่ง
หมับ! มือเล็กเปลี่ยนจากคอแกร่งมากอบกุมใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้
แขนทั้งสองข้างของคินท์ก็เปลี่ยนมาค้ำยันไว้กับเตียงคร่อมร่างบางไว้เช่นกัน
“ผิวมึงโคตรดีเลย กูนี่ประโคมครีมทาเป็นถังแล้ว ทำไมผิวยังไม่ดีเท่ามึงเลยนะเนี่ย” เสียงหวานกลับมายืดยานเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อีกครั้ง
“ไหน ขอดูหน้าชัด ๆ ดิ”
คินท์เบือนหน้าหนีเพราะจมูกของเขาเริ่มจะชิดกับปลายจมูกของเธอ
หมับ
“เดี๋ยว จะหันไปไหน มองแค่นี้ทำเป็นหวง” มือเล็กใช้แรงดึงใบหน้าหล่อเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิม
ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 28 ง้อแฟนครั้งแรก (NC)ฉันไล่วิคเตอร์ออกจากห้อง พร้อมกับเบือนหน้าหนี ฉันรับความจริงที่เขากำลังจะพูดไม่ได้หรอก นั่นเป็นเพราะว่าฉันหวั่นไหวกับเขามาโดยตลอด ฉันรู้ว่าตัวเองต้องการเขาและพยายามจะพิสูจน์เวลาผ่านไปฉันคิดว่าเขามีความรู้สึกดี ๆ กับฉัน ฉันถึงได้ยอมเกินเลยกับเขา แต่ทั้งหมดนั่นฉันคิดไปเองคนเดียว!ฉันไม่โทษวิคเตอร์หรอกนะ เขาไม่ผิดอะไรเลยแต่ตอนนี้ฉันแค่อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆฉันเปิดประตูออกมาเจอเขาอยู่หน้าห้องพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีแดงสด บ่งบอกถึงความรักที่แสนจะร้อนแรงอย่างนั้นเหรอที่เขาอยากจะสื่อ ฉันจึงถอยให้เขาเข้ามาในห้องด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก“ขอโทษนะถ้าเมื่อคืนนี้ฉันพูดอะไรผิดไปน่ะ ฉันไม่เคยง้อแฟนมาก่อนไม่รู้ว่าคำพูดแบบนี้พอจะทำให้เธอหายโกรธได้หรือเปล่า” วิคเตอร์ยิ้มอ่อนพลางยื่นช่อดอกไม้ให้กับฉัน“….” ฉันไม่ตอบแต่ก็ยอมรับช่อดอกไม้แสนสวยนั้นมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง“นี่เราดีกันแล้วใช่ไหม เมื่อคืนเธอทำฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลยนะนั่น หายโกรธได้แล้ว” วิคเตอร์คงจะง้อใครไม่เป็นจริง ๆ นั่นแหละ‘ฉันหายโกรธแล้ว แต่แค่อยากอยู่คนเดียว’เชอะ ฉันได้แต่คิดในใจอย่างอวดด
ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 23 เรื่องด่วน (NC)ฉันประคองศีรษะของคนหื่นกามเอาไว้ นิ้วมือของเขาถูไถอยู่ตามกลีบกุหลาบด้านล่างจนฉันจะยืนไม่อยู่ฉันต้องเกาะเขาไว้โดยการโอบรอบลำคอ มันอาจจะมีบางครั้งที่ฉันเผลอส่งเสียงครางออกมาเมื่อถูกนิ้วเย็น ๆ แตะจุดลับอย่างอ่อนโยน“หิวเธอว่ะ”“นายอดอยากมาจากไหนเนี่ยอื้อออ~”เขาบดขยี้จูบฉันและจงใจยกขาฉันขึ้นสูง นิ้วมือหยาบกร้านค่อย ๆ ถลำลึกเข้ามาทีละนิดต่อเนื่อง เขาชักมือออกและสอดแทรกเข้ามาอีกครั้งเป็นจังหวะด้วยความเชื่องช้าทำเอาฉันล่องลอยจนสติจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว“วันนี้เราต้องเคลียร์กันยาวเลยต้นข้าว”วิคเตอร์อุ้มฉันเข้าห้อง เขาไม่รอช้ารีบปล่อยให้แก่นกายตัวเองได้ออกมาดูโลกภายนอก ขนาดใหญ่โตกำลังจ้องเขม็งมาที่ฉันโดยมีวิคเตอร์เป็นตัวการสำคัญ“เลียไอติมไหมสักนิดหนึ่ง”ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร เจ้าจูดี้ที่แสนซุกซนก็จ่ออยู่ที่ริมฝีปากของฉันแล้วเขาเชื้อเชิญฉันด้วยการใช้ส่วนหัวถูไถเบา ๆ จนฉันใจอ่อนยอมเปิดรับแก่นกายอันใหญ่โตเข้ามาอยู่ในโพรงปากจนรู้สึกคับแน่นวิคเตอร์ครางเสียงหลงในลำคอพลางลูบศีรษะฉันอย่างมีความสุข ฉันใช้ลิ้นตวัดวนรอบก่อนจะรูดขึ้นลงตามอารมณ์ของตัวเองท
ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 26 ความรักที่ไม่ลงรอย (NC)“ไม่อยากจะพอนั่นแหละปัญหา”ผมล้วงเข้าไปสัมผัสผิวกายนุ่มนิ่มของต้นข้าวใต้กระโปรงทรงเอที่รัดแน่นจนน่าหงุดหงิด ผมเลยถกมันขึ้นสูงอยู่บนเอวคอดเสียเลย“ไม่ได้นะวิคเตอร์ นายต้องหยุดได้แล้ว”“อืม…” ผมส่งเสียงตอบรับเธอในลำคอ เพราะตอนนี้ปากของผมมันยังไม่ว่างผมปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกอย่างง่ายดาย แน่ล่ะนั่นมันงานถนัดผมเลย ลูกแตงโมทั้งสองตั้งล่อตาล่อใจผมอยู่ ผมจึงต้องละทิ้งลำคอระหงที่แสนหอมหวานลงมาดื่มด่ำกับทรวงอกด้านล่างต้นข้าวเองถึงแม้จะห้าม ทว่าร่างกายเธอกลับอ้อนแอ้นไปมาอย่างมีความสุข ผมไม่รอช้ารีบเปลื้องบราโครงเหล็กของเธอออกจนเห็นยอดปทุมถันสีชมพูอ่อน ผมรีบงับลงบนยอดที่มันล่อตาล่อใจผมอยู่นานก่อนจะตวัดวนรอบตุ่มเล็กด้วยความอ่อนโยนเธอลูบคลำท้ายทอยของผมอย่างทนไม่ไหว ผมก็ยิ่งชอบและสนใจยอดปทุมถันยิ่งกว่าเดิม เบาะรถยนต์ไม่ใช่ปัญหาของผมเลยสักนิดผมทำการปรับนอนราบทันที“พอแล้ว…ฉันไม่เคยทำบนรถนะเดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”ใบหน้าอรชรอ้อนแอ้นกำลังขอร้องผม ต้นข้าวมีพวงแก้มแดงก่ำน่าเอ็นดูไม่น้อย ผมจะปล่อยไปได้ยังไงกันเมื่อเช้าก็อดทนมาทั้งวันแล้ว“รถเธอมิดชิดที่
ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 25 แมวน้อยตอนนี้กี่โมงแล้วนะ… ทำไมนาฬิกาไก่จิกสองตัวของฉันถึงยังไม่ร้องปลุกอีกเฮือก!ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงที่มีสัมผัสไม่นุ่มนิ่มเท่าไหร่นักก่อนจะหันไปเห็นวิคเตอร์ยืนเช็ดผมเปียก ๆ ของตัวเองอยู่ฉันมองดูตามเรือนร่างอันแข็งแกร่งของเขาที่ตอนนี้มันเปลือยเปล่ามีเพียงแค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางเฉียบลายแมวเหมียวยิ้มแฉ่งที่ปกปิดเอาไว้อย่างไม่แนบเนียนเท่าไหร่นักฉันว่ามันค่อนข้างจะน่าสนใจอยู่ไม่น้อยทั้งกล้ามเนื้อที่เป็นมัด ๆ และเส้นเลือดตามท่อนแขนแกร่งของเขา ใบหน้าหวานของฉันมันกำลังร้อนระอุออกมาด้วยความเขินอายเชื่อเถอะ…เขาขาวมากเสียจนไม่น่าหักห้ามใจเลยล่ะ โดยเฉพาะน้องแมวเหมียวนั่นที่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเล็กน้อย“อยากจับเหรอ”วิคเตอร์แกล้งถามฉันพลางเดินเข้ามาใกล้ ๆ เขายิ้มมุมปากอย่างมีความสุขเล็กน้อยที่เห็นฉันเสียอาการ“มะ…มะไม่!”“อยากจับก็บอก”วิคเตอร์ไม่พูดเปล่าเขากุมมือฉันเอาไว้ก่อนที่จะจับแนบลงกับหน้าแผงอกกว้างของเขาฉันมือไม้สั่นเหมือนเจ้าเข้า พยายามที่จะทำตัวให้ปกติที่สุดเหมือนคนที่ไม่ได้คิดอะไรแม้ว่าข้างในใจของฉันมันจะควบคุมยากก็เถอะนะเขาดูชอบมากที่ได้แกล้งฉันเข
ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 24 เห็นแก่ความกระวนกระวาย@ตึกวิศวกรรม“ต้นข้าว~ มาหาใครจ๊ะคนสวย” วายุนั่งพ่นควันบุหรี่ออกมาถี่ขณะที่เห็นฉันเดินเข้ามาพอดี เขาเลยได้โอกาสแซวสาวสวยอย่างฉันใหญ่“มาหาพี่เสือน่ะ ฉันซื้อเค้กลอดช่องมาฝาก”“ฉันล่ะอยากเป็นพี่ชายเธอจริง ๆ เลยว่ะ ช่วงนี้แวะมาบ่อยจังเลยนะ”“ก็นิดหน่อยแหละ แล้ววิคเตอร์อยู่ไหนอะ”“อ๋อ ไอ้วิคเตอร์อยู่ยิม”“อือ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ”“ครับ” วายุยิ้มกรุ้มกริ่มเบา ๆ เพราะว่าช่วงนี้ฉันทำทีซื้อของมาฝากพี่เสือบ่อยจนผิดสังเกตแน่นอนว่าเป้าหมายของฉันไม่ใช่พี่เสือแต่คือการซื้อของมาฝากวิคเตอร์ ฉันได้เข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่าง ๆ ในนั้นแนะนำว่าแฟนกันมักจะเติมความหวานให้กันผ่านของฝาก ฉันจึงอยากจะรู้ว่ามันสามารถเติมความหวานได้จริงไหมก็เท่านั้นแหละ“เอาอะไรมาฝากอีกล่ะวันนี้” พี่เสือเดินออกมาทักทายฉันด้วยหน้าตาที่เบื่อหน่าย แน่ล่ะเพราะพี่ชายของฉันไม่ได้ชอบกินอะไรแบบนี้นี่นา“นี่ไง” ฉันยื่นเค้กให้ก่อนจะเดินตรงไปยังยิม ไม่ได้สนใจว่าพี่เสือจะชอบหรือไม่ชอบพอมาถึงยิมฉันก็เห็นเขาวุ่นอยู่กับเพื่อน ๆ มีคุณเหลือบมองเห็นฉันเข้าเลยสะกิดวิคเตอร์เบา ๆ“ต้นข้าวมาห
ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 23 ทดลองรักหนึ่งอาทิตย์ต่อมา…ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าถูกวิคเตอร์หลบหน้ายังไงไม่รู้ ทุกครั้งที่ฉันเปิดประตูออกไปมักจะต้องเจอใบหน้ากวนโอ๊ยของเขา แต่หลายวันมานี้ต่อให้ฉันจะเปิดประตูสักกี่สิบรอบ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนฉันก็ไม่เคยเห็นเขาเผลอเปิดประตูออกมาอยู่เบื้องหน้าพอวิคเตอร์หายไปชีวิตฉันก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทว่าตัวฉันดันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป ฉันไม่มีความสุขกับความสงบสุขของตัวเองเลย ฉันอยากกลับไปมีชีวิตที่แสนวุ่นวายอีกครั้งโดยมีคนกวนประสาทอย่างเขาอยู่ในองค์ประกอบหลัก ๆ ด้วยหรือว่านั่นมันจะคือความรักนะหัวใจของฉันมันกระวนกระวายมักจะคิดถึงเขาอยู่บ่อยครั้ง ฉันเผลอมโนถึงท่าทางของเขายามได้เห็นฉันโดยบังเอิญและพยายามแต่งตัวให้ดูดีทุกวัน ทว่าเวลาเจอเขา เขามักจะมองผ่านและหันหลังกลับเสมอ ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้คิดไปเองคนเดียวในข้อนี้“ลองดูสักตั้ง!”ฉันเปิดประตูออกไปอีกครั้ง สายตากวาดมองรอบด้านที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าทางไหนก็ไม่พบวี่แววของเขาเลยฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางรวบรวมความกล้าทั้งหมดกดกริ่งหน้าประตูห้องของเขา ซึ่งฉันได้แอบสืบจากพี่เสือมาแล้วว่าตอนนี้วิคเตอร์ไม่ได้